[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 25 กันยายน 2553 08:40:55



หัวข้อ: ตระหนี่
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 25 กันยายน 2553 08:40:55
(http://www.taklong.com/pictpost/t/115307P5280003.jpg)

http://www.fungdham.com/download/song/allhits/17.wma


ถ่ายภาพประกอบเนื้อหาโดย{Sometime}ภาพจากงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา ณ.มลฑลพิธี ท้องสนามหลง


ที่พระผู้ฯตรัสว่า โลกไม่ปรากฏ เพราะความตระหนี่

มีความว่าความตระหนี่ ๕ ประการ คือ...................................

อาวาสมัจฉริยะ ตระหนี่ที่อยู่ ๑

กุลมัจฉริยะค ตระหนี่ สกุล อุปัฏฐากสำหรับ พระภิกษุ  ๑

ลาภมัจฉริยะ ตระหนี่ ลาภ  ๑

วรรณมัจฉริยะ ตระหนี่ วรรณะ คือคำสรรเสริญ ๑

ธรรมมัจฉริยะ ตระหนี่ ธรรม ๑

ไม่เคยคิดมาก่อนใช่ไหมค่ะว่าโลกไม่ปรากฏเพราะความตระหนี่แต่ถ้าพิจารณา

จริง ๆ ลึกลงไปของความตระหนี่  คืออะไร ? ความเห็นแก่ตัว

ขณะใดที่ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ลึกลงไปในขณะนั้น

{สติ}จะต้องหยั่งลงไปว่าเพราะอะไร ก็คือ ความเห็นแก่ตัว

เพราะฉะนั้นตัวนี้ ยังเป็นที่ยึดถือผูกพัน ติดข้องอย่างมากเพียงใด

ลักษณะขอาการของความตระหนี่ย่อมปรากฏ

เพระฉะนั้นขณะใดที่มีความตระหนี่อย่างหนึ่งอย่างใดเกิดขึ้น ควรที่จะเป็นเครื่่องระลึก

ได้ว่าในขณะนั้นยังมีควมติดข้องยังมีความเห็นแก่ตัวยังมีความยึดถือสภาพธรรมว่า

เป็นตัวตนมากทีเดียว

และสำหรับ{ธรรมมัจฉริยะ} คือความตระหนี่ ธรรมะ ถ้าเกิดความตระหนี่ ธรรมะ แล้ว

 ทุกอย่างย่อมไม่ปรากฏตามความเป็นจริงเพราะว่าไม่แสดงธรรมนั้นให้

บุคคลอื่นได้รู้หรือว่าได้เข้าใจด้วย

เพราะฉะนั้นผู้ที่เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมจริง ๆ จะไม่ตระหนี่ธรรมะ  

เพราะรู้ว่าเป็นสี่งที่มีประโยชน์และขณะใดที่ตระหนี่ขณะนั้นก็แสดงถึง

ความเห็นแก่ตัวหรือความยึดมั่นในตัวตนซึ่งยังไม่ได้ละคลาย

ข้อความต่อไปมีว่า............................................

ท่านเรียกว่า{เววิจฉะ} ความตระหนี่กริยาที่ตระหนี่ความเป็นผู้ตระหนี่  

ความปราถนาต่าง ๆ ความเหนียวแน่นความเป็นมีใจหดหู่โดยความเป็นจิตเผ็ดร้อน

นี่ก็แสดงลักษณะของมัจฉริยะ เจตสิก ว่าเกิดกับ โทสะมูลจิตซี่งเป็น  อกุศลจิต

จะไม่เกิดกับโลภะมูลจิตและโมหะมูลจิตเลย

ความที่แห่งจิตอันใครเชื่่อไม่ได้เห็นปานนี้เรียกว่าความตระหนี่

เวลาเกิดความตระหนี่ขึ้นจริงใจไหมค่ะจะต้องมีอาการที่ปิดบังหรือซ่อนเร้น

ที่่่ไม่จริงใจเพราะฉะนั้นความที่แห่งจิตอันใครเชื่อไม่ได้เห็นปานนี้เรียกว่า............................

ความตระหนี่

อีกอย่างหนึ่งแม้ความตระหนี่{ขันธ์}ท่านก็เรียก มัจฉริยะ

แมัความตระหนี่{ธาตุ}ท่านก็เรียก มัจฉริยะ

ไม่มีตัวตนไม่มีสัตว์ไม่มีบุคคลเพราะฉะนั้นที่ตระหนี่ - นี่ตระหนี่ อะไรลองคิดดูน่ะค่ะ

ถ้าไม่ตระหนี่{ขันธ์}คือ รูปขันธ์บ้างเวทนาขันธ์บ้างสัญญาขันธ์บ้างสังขารขันธ์บ้าง

วิญญาณขันธ์บ้าง

ท่านมีความสุขแล้วเห็นคนอื่นทุกข์เดือดร้อนอยากจะให้คนอื่นเขามีคามสุขอย่างเรา

ขณะนั้นไม่ตระหนี่ในสุขเวทนาใช่ไหมค่ะแต่ถ้าเป็นผู้ที่มีความสุขและคนอื่นมี

ความทุกข์เดิอดร้อนก็ไม่มีความคิดที่จะเกื้อกูลบุคคลนั้นให้มีควมสุขบ้างขณะนั้น

ก็เป็นการตระหนี่(ขันธ์) คือ ตระหนี่ สุขเวทนา

ไม่ว่าจะเป็นธาตุก็ตาม ในเมื่อไม่มีตัวตน ไม่มี สัตว์ บุคคล เป็นแต่เพียงปรมัตถธรรม

เพราะฉะนั้นถ้าพิจารณาจริ งๆ ในขณะใดที่เกิดความตระหนี่ก็ คือ ตระหนี่(ขันธ์)ตระหนี่

ธาตู ตระหนี่(อายตนะ) นั่นเอง


ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์


มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

สำนักงานเลขที่ 174/1 ซอย เจริญนคร 78

ดาวคะนอง ธนบุรี





หัวข้อ: Re: ตระหนี่
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 25 กันยายน 2553 08:42:29
 (:3:) (:3:) (:3:) (:3:) (:3:)