|
หัวข้อ: พระราชวีรมุนี (ชำนิ ฉันโน) วัดศรีบุญเรือง ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 22 พฤษภาคม 2562 16:21:56 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/92337290032042_view_resizing_images_3_320x200.jpg) พระราชวีรมุนี (ชำนิ ฉันโน) วัดศรีบุญเรือง ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย พระราชวีรมุนี (ชำนิ ฉันโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย อดีตเจ้าคณะจังหวัดฝ่ายมหานิกาย เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ชาวเมืองเลยให้ความเลื่อมใสศรัทธา มีนามเดิมว่า ชำนิ อักษรสม เกิดเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2454 ที่หมู่บ้านหูรัง ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นบุตรของ นายเยี่ยม และนางทา อักษรสม ในช่วงวัยเยาว์ จบการศึกษาระดับประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดศรีสุวรรณ อ.ท่าชนะ ก่อนเข้าบรรพชาเมื่อ พ.ศ.2472 ที่วัดศรีสุวรรณ ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีพระครูประสงค์สารการ เป็นพระอุปัชฌาย์ มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2474 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักเรียนวัดโพธาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และได้ศึกษาบาลีไวยากรณ์ ที่วัดภูเวียง จ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2474 ที่วัดศรีสุวรรณ ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีพระครูประสงค์สารการ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์สุด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูออด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ต่อมา เข้ามาศึกษาต่อที่กรุงเทพฯ โดยจำพรรษาอยู่ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ สามารถสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค และยังเข้ารับการศึกษาจากโรงเรียนพระสังฆาธิการ ส่วนกลางแผนกศึกษาอบรม รุ่นที่ 4 พ.ศ.2532 ได้รับปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขามนุษยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ท่านมีความชำนาญการด้านวิปัสสนาภาคปฏิบัติ วาทศิลป์ การประยุกต์ธรรมเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา งานด้านการปกครองคณะสงฆ์ ท่านเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี เป็นเจ้าคณะจังหวัดเลย เป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง อ.เมือง จ.เลย งานด้านการศึกษา เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม เป็นกรรมการสอบธรรมสนามหลวง เป็นเจ้าสำนักศึกษาวัดศรีบุญเรือง จ.เลย และเป็นกรรมการบาลีสนามหลวง มีความมุ่งมั่นส่งเสริมทางการศึกษา ด้วยการจัดตั้งมูลนิธิการศึกษาประจำวัด ตั้งกองทุนสวัสดิการครู นักเรียน จัดหาวัสดุอุปกรณ์การศึกษาให้กับโรงเรียน จัดตั้งรางวัลสำหรับพระเณรที่สอบได้เปรียญธรรมแผนกธรรมและบาลี รวมทั้งจัดตั้งโรงเรียนอนุบาลแบบฤๅษีสอนเด็กหรือฤๅษีสอนลิง พัฒนาวัดศรีบุญเรือง ด้วยการสร้างศาลาการเปรียญ สร้างพระอุโบสถใหม่ เนื่องจากของเก่าทรุดโทรมมาก ปฏิสังขรณ์โบราณสถานภายในวัดที่ชำรุดทรุดโทรม และอื่นๆ ทำให้วัดศรีบุญเรืองได้รับการยกย่องเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง เป็นพระนักพัฒนาและยังเป็นพระนักเทศน์ที่สำคัญรูปหนึ่งของภาคอีสาน โดยเฉพาะอีสานตอนบน รณรงค์ในเรื่องของการงดสูบบุหรี่และดื่มเหล้า เดินทางไปเทศนาบรรยายธรรมที่ใด เป็นจะต้องพูดในเรื่องพิษภัยของการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ในชีวิตของหลวงปู่ได้ผลิตหนังสือในเรื่องของธรรมะต่างๆ มากมาย เพื่อการเผยแผ่ธรรมให้กับประชาชนได้ทราบและเรียนรู้จำนวน 30 เรื่อง ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2498 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระวีรญาณมุนี พ.ศ.2516 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระราชวีรมุนี ช่วงบั้นปลายชีวิต อาพาธเป็นอัมพาตด้วยกระดูกทับเส้นประสาท เดินทางไปมาไม่สะดวก ก่อนไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลประสาท รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพฯ เมื่ออาการดีขึ้น จึงขออนุญาตคณะแพทย์เดินทางกลับมาจังหวัดเลย แต่ท่านก็เข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2542 ก็มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี พรรษา 68 อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์ |