ดิถีเรียงหมอน

ดิถีเรียงหมอน

คตินิยมโบราณ ห้ามทำกิจกรรมเฉพาะวัน เช่น ห้ามขึ้นบ้านวันเสาร์ ห้ามเผาผีวันศุกร์ ห้ามโกนจุกวันอังคาร ห้ามแต่งงานวันพุธ ฯลฯ

และคติความเชื่อเรื่องวัน ยังผกผันกับคติความเชื่อ เรื่องดิถี

ดิถี คือ วันข้างขึ้น ข้างแรม ที่เริ่มตั้งแต่ ๑ ค่ำ ไปถึง ๑๕ ค่ำ

อาจารย์พลูหลวงเขียนจดหมายแลกเปลี่ยนความรู้กับ ส. ตุลยานนท์ ฉบับวันที่ ๗ ม.ค.๒๕๑๖ (สารจากกรุงเทพ ถึงธนบุรี สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์) ว่า เรื่องดิถี โบราณท่านจะนับถือจริงจังนัก

เดือนอะไรตรงกับดิถีอะไร มีข้อห้ามต่างๆ ควรจดจำเป็นกฎเกณฑ์ตายตัว

วันกับดิถี ถ้าไม่ต้องโฉลกกันแล้ว มีแต่เกิดโทษ ท่านห้ามงานมงคลหรือกิจกรรมใดๆ โดยสิ้นเชิง เช่นจะแต่งงาน ก็ต้องเลือกดิถีเรียงหมอน ถ้าไม่ตรงจะเกิดโทษ ในเรื่องขุนช้างขุนแผน พลายแก้วจะแต่งงานกับนางพิม มีปัญหาเพราะแต่งงานแล้วยังต้องรอฤกษ์ส่งตัวเจ้าสาวอีกหลายวัน รอดิถีเรียงหมอน

ดิถีนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ดิถีแมลงปอ

ดิถีที่ยกย่องกันว่าดีเป็นสิทธิโชค หรือเป็นมหาสิทธิโชค ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป จะต้องตรวจสอบกาลโยคประจำปีอีกว่า ปีนั้นๆ ดิถีใดเป็นอุบาทว์ หรือโลกาวินาศ ถ้าตรงกันไม่ดี

แม้ตำราจะอ้างว่าดีสักปานใด ก็ใช้ไม่ได้ ต้องยกเว้น

อาจารย์พลูหลวงปรารภว่า เวลาให้ฤกษ์ยามใคร ท่านถือฤกษ์เป็นเรื่องใหญ่กว่าดิถี

สมัยก่อนเคร่งดิถี จึงหาฤกษ์แต่ละฤกษ์ยากเย็นมาก เพราะหาจุดลงตัวยาก บางวันดิถีดี ฤกษ์ไม่ดี ครั้นฤกษ์ดี ดิถีกลับไม่ดี จึงจำเป็นต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง

“ผมเอง ฤกษ์เอาฤกษ์ สำคัญกว่าดิถี” พลูหลวงว่า

ข้อห้ามของดิถีเรียงหมอน ที่ยกย่องกันว่าดี คือ

ข้างขึ้น ตรงกับ ๙, ๑๐, ๑๓ ค่ำ ข้างแรม ตรงกับ ๔, ๘, ๑๐, ๑๔ ค่ำ

ดิถีที่เกิดโทษ คือ ขึ้น ๑, ๑๑, ๑๕ ค่ำ กับแรม ๗, ๙ ค่ำ ถ้าส่งตัวในวันดังกล่าว หญิงจะตายก่อนชาย อยู่ไม่ทันถึงแก่เฒ่า

ขึ้น ๒ ค่ำ ชายจะตายก่อนหญิง แรม ๑, ๖ ค่ำ หญิงจะคลอดบุตรยาก คลอดแล้วบุตรจะตาย มิฉะนั้นตัวเองจะตาย

ขึ้น ๓, ๔, ๘, ๙, ๑๑ กับแรม ๑๑, ๑๒, ๑๓, ๑๕ ค่ำ จะอยู่กันไม่ยืด ต้องจากกัน

ขึ้น ๕, ๖, ๑๒ กับแรม ๒ ค่ำ เมื่อหญิงตั้งครรภ์ จะต้องตายจากกันข้างหนึ่ง ท่านว่าร้ายแรงยิ่งนัก

อาจารย์พลูหลวงบอกว่า ตามดิถีเรียงหมอนนี้ ถ้าจะหาฤกษ์ให้ตรงกับดิถีเรียงหมอน โดยหลีกเลี่ยงดิถีไม่ดี จะทำได้ยากมาก เพราะจุดสัมพันธ์พอดีไม่ค่อยได้ บางที ๒-๓ เดือน หาฤกษ์ไม่ได้เลย

ทั้งยังมีข้อจุกจิกอีก เช่น จะต้องแต่งงานเดือนคู่ คือ เดือน ๒, ๔, ๖ เป็นต้น

จึงเป็นเรื่องที่ลำบากมาก หากโหรถือตำราเคร่งครัด บางปีจะหาฤกษ์ไม่ได้เลย ด้วยจะมีจุดเสียเกิดขึ้นเสมอ

ดังนี้ ฤกษ์ต่างๆที่ออกมาได้ ก็เป็นแต่เพียงให้มีจุดเสียเบาบางมากที่สุด เท่าที่จะมากได้ ไม่มีฤกษ์ใดเลยจะบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ได้แค่ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ก็พอแล้ว เพราะยังมีกฎเกณฑ์ฤกษ์ยามอื่นอีกมาก เช่น วันจม วันลอย

ท่านห้ามทำการในวันจม ดังนี้ เดือน ๕ วันพฤหัสบดี เป็นวันจม วันอังคารเป็นวันฟู วันอาทิตย์เป็นวันลอย

เดือน ๖ วันอาทิตย์เป็นวันจม วันศุกร์เป็นวันฟู วันพุธเป็นวันลอย

ถ้าจะถือเคร่งครัดแล้ว จะเลือกฤกษ์ยามดีๆแทบไม่ได้ อาจารย์พลูหลวงแนะนำว่า การถือโบราณ ควรถืออย่างฉลาด หากทำเถรตรง ก็จะไม่ได้ทำอะไรกันเลย.

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ