หัวข้อ: ปริศนาธรรมในงานศพ เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 30 กรกฎาคม 2555 13:59:47 (http://www.watsriwanaram.com/images/webboards/518791b8ed871e5b3d139af4164fff6d.jpg) ศาสนพิธี ประเพณี พิธีกรรมต่าง ๆ การกระทำแต่ละขั้นตอนนั้น โบราณ ท่านได้สอนธรรมะ ไว้ใน พิธีกรรม เหล่านั้นไว้ด้วยอุบายอันแยบคายเช่น ประเพณี พิธีกรรมใน งานศพ การ รดกัน ที่มือของผู้ตาย ซึ่งบางท่านเข้าใจว่าเป็นการขอ อโหสิกรรม ความจริงแล้ว มุ่งเตือนสติผู้ที่มาร่วมงานว่าผู้ที่ตายทุกคนไปแต่มือเปล่า ไม่ได้อะไรติดตัวไปเลย แม้แต่น้ำที่เทลงฝ่ามือก็ไหลร่วง เอาเงินเหรียญ ใส่ปาก ก็เพื่อจะเตือนให้รู้ว่า แม้แต่บาทเดียวก็เอาไปไม่ได้ เพราะ สัปเหร่อ บางคนเขายังควักออกมา http://www.watsriwanaram.com/topic/154/ปริศนาธรรมจากพิธีกรรมในงานศพ-/ (https://encrypted-tbn3.google.com/images?q=tbn:ANd9GcSx8iYOEoB0D61FjKXjBfVWk5AAGlT7SuKtLIDRlESukNUofNow_w) ปริศนาธรรมในงานศพ 1. มัดตราสังข์สามเปลาะ มัดที่คอ หมายถึง บ่วงรักลูก มัดที่มือ หมายถึง บ่วงรักสามี - ภรรยา มัดตรงข้อเท้า หมายถึง บ่วงรักทรัพย์สมบัติ ติดอยู่สามบ่วงนี้ ไปนิพพานไม่ได้ ต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏไม่มีจบสิ้น 2. เคาะโลงรับศีล ไม่ใช่ให้คนตายมารับศีล แต่เพื่อเป็นการบอกคนที่มาร่วมงานว่า อย่าเอาแต่มัวประมาทขาดสติ ไม่สนใจในหลักธรรมคำสอน เมื่อตายไปหมดโอกาสทำความดี จะเคาะจนโลงแตกก็ลุกขึ้นมาไม่ได้ 3. สวดอภิธรรม มักสวดเป็นภาษาบาลี คนเป็นฟังไม่รู้เรื่อง จึงนึกว่าสวดให้คนตาย แต่จริงๆ แล้วเป็นการสวด เพื่อสอนคนที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะได้นำหลักธรรม ไปปฏิบัติให้เกิดผลดีในชีวิตประจำวัน ดังนั้นแม้จะฟังไม่เข้าใจแต่เพื่อให้การฟังสวดอภิธรรมเกิดผล ควรสำรวมส่งจิตไปอยู่กับเสียงพระสวด ให้จิตสงบนิ่งอยู่กับเสียงพระสวดก็จะเกิดสมาธิจิตได้ 4. บวชหน้าไฟ มักเข้าใจกันว่า เป็นการบวชจูงผู้ตายขึ้นสวรรค์ ความจริงนั้น ไม่ใช่ เพราะการบวชหน้าไฟ เป็นการปลงธรรมสังเวชต่อการเกิด แก่ เจ็บ และตายในที่สุด มนุษย์ก็มีเท่านี้ ทำให้เกิดการเบื่อหน่ายต่อชีวิตในโลกียวิสัย ไม่ประสงค์จะอยู่ในเพศฆราวาส แล้วพอใจในสมณเพศ มุ่งปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น เข้าสู่มรรคผลนิพพาน 5. การนิมนต์พระจูงออกหน้าศพ เพื่อจะสอนคนที่ยังอยู่ให้ได้สำนึกว่าตอนที่ยังอยู่ ต้องเดินตามหลังพระ หมายความว่าให้ดำเนินชีวิตตามพระธรรมคำสั่งสอนพระพุทธเจ้านั่นเอง จึงจะอยู่ดีมีสุข มีความเจริญก้าวหน้า 6. การเวียนซ้าย 3 รอบ หมายถึง การเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพทั้งสามอันมี กามภพ รูปภพ อรูปภพ ด้วยอำนาจกิเลส ตัณหาอุปทาน ก็จะเป็นทุกข์ไม่จบสิ้น ฉะนั้นต้องทวนกระแสกิเลส เป็นการสอนธรรมชั้นสูง จึงได้พาศพเวียนซ้าย 7. การใช้น้ำมะพร้าวล้างหน้าศพ เพื่อชี้ให้เห็นว่า น้ำมะพร้าวเป็นน้ำสะอาด บริสุทธิ์ ผู้เข้าสู่มรรคผลนิพพาน ต้องชำระจิตให้สะอาดด้วยน้ำทิพย์จากพระธรรม 8. การแปรรูป หลังจากเผาแล้ว มีการเก็บอัฐิและมีการเขี่ยขี้เถ้าผู้ตายให้เป็นรูปร่างกลับไปกลับมา เพื่อจะบอกว่าได้กลับชาติใหม่แล้วตามวิบากของกรรมต่อไป (http://letsgothai.net/wp-content/uploads/2012/04/ampawa-1051-300x229.jpg) พระพุทธพจน์ เอโกว มจฺโจ อจฺเจติ เอโกว ชายเต กุเล สํโยคปรมาเตวว สมฺโภคา สพฺพปาณินํ จะตายก็ไปคนเดียว จะเกิดก็มาเกิดคนเดียว ความสัมพันธ์ของสัตว์ทั้งหลายก็เพียงแค่ ได้มาพบปะเกี่ยวข้องกัน เท่านั้นเอง ปริยัติ......เรียนรู้คัมภีร์ ปฏิบัติดี......ละทิ้งกิเลส ปฏิเวธ......รู้แล้วละวาง (https://encrypted-tbn1.google.com/images?q=tbn:ANd9GcSBDRPMB5WmLqRaGPmlX8huvT_OsSZiqb5xXh25v5MlF0TkWEmSTA) จากวารสารธรรมลีลาเพื่อดุลยภาพของสังคม ของธรรมสภา ที่มา http://www.dhammajak http://board.palungjit.com http://www.tairomdham.net/index.php/topic,1128.0.html |