[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
10 พฤษภาคม 2567 11:31:09 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: wan - vi - sa - ka - bu - cha  (อ่าน 1814 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 4.0.1 Firefox 4.0.1


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2554 18:05:22 »


<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/sec2/2buddhapower/08.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/sec2/2buddhapower/08.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/sec2/2buddhapower/08.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>



(:LOVE:)วันวิสาขบูชาวันที่ประกอบด้วยคุณพิเศษ คือ.................. รัก





1.เป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ

2.เป็นวันที่ต้นศรีมหาโพธิ์เกิดขึ้น

3.เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้

4.เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับชันธปรินิพพาน

{วันวิสาขะ}เป็นวันพิเศษวันอันประเสริฐที่สุด เพราะเป็นวันที่

พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ได้ตรัสรู้ และย้อนกลับไปเมื่อสี่อสงไขย

แสนกัปป์ในวันวิสาขะท่านสุเมธดาบสได้รับคำพยากรณ์จาก

พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าทีปังกรว่าอนาคตจะได้เป็นพระพุทธเจ้า




ในวันเพ็ญ 15 ค่ำเดือน 8(อาสาฬหบูชา)พระโพธิสัตว์จุติจากสวรรค์ชั้นดุสิต ปฏิสนธิ

ในพระครรภ์พระนางมหามายาเทวีพร้อม ๆ กับแผ่นดินไหว{ขณะที่ปฏิสนธิในพระครรภ์

มารดา ไม่ใช่ขณะประสูติ}เทวดาต่างอารักขาพระโพธิสัตว์และพระมารดา - พระมารดา

ไม่มีความลำบากในการทรงพระครรภ์ พระมารดาย่อมได้ยศ ได้ลาภอันเลิศ ไม่มีความ

พอใจในบุรุษ




.......................พระโพธิสัตว์ทรงประสูติ.....................



ตามธรรมเนียมของสมัยนั้น สตรีเมื่อจะคลอดย่อมคลอดที่สกุลเดิมหรือบ้านของบิดา

มารดาของตน พระนางมหามายาเทวีจึงมีพระประสงค์จะไปที่กรุงเทวทหะอันเป็นเมือง

ของพระราชบิดาและพระราชมารดาของพระองค์

เมื่อเสด็จถึงป่าสาลวันชื่อ{ลุมพินีวัน}ขณะนั้นต้นสาละออกดอกบานสะพรั่ง พระเทวีมี

ประสงค์จะเล่นในสวนสาลวัน พระนางมีประสงค์จะจับกิ่งใด กิ่งนั้นก็น้อมมาที่พระหัตถ์

และลมกัมมัชวาตก็เกิดขึ้น มหาชนจึงล้อมม่านแล้วถอยออกไปพระนางได้ยืนจับกิ่ง

สาละนั่นแล..........................ได้ประสูติแล้ว

ในขณะนั้นนั่นเองท้าวมหาพรหมผู้มีจิตบริสุทธิ์ ๔ องค์ ก็มาถึงพร้อมกับถือข่ายทอง

มาด้วยเอาข่ายทองนั้นรับพระโพธิสัตว์ วางไว้ตรงพระพักตร์ของพระราชมารดา  

พลางทูลว่า ข้าแต่พระเทวีขอพระองค์จงดีพระทัยเถิดพระราชบุตรของพระองค์

มีศักดาใหญ่อุบัติขึ้นแล้วพระโพธิสัตว์ก็ประทับยืนบนแผ่นดินทอดพระเนตรดู

ทิศตะวันออกจักรวาลนับได้หลายพันได้เป็นที่โล่งเป็นอันเดียวกันพวกเทวดาและ

มนุษย์ในที่นั้นต่างพากัน บูชาด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้นกราบทูลว่าข้าแต่ท่าน  

บุรุษคนอื่นในที่นี้เช่นกับท่านไม่มีคนที่ยิ่งกว่าท่านจักมีแต่ที่ไหน

พระโพธิสัตว์มองตรวจดูตลอดทิศให้ทิศเล็กแม้ทั้ง ๑๐ คือทิศใหญ่ ๔ ทิศเล็ก ๔

เบื้องล่างเบื้องบนก็มิได้ทรงมองเห็นใครที่เช่นกับตนต่อจากนั้นประทับยืนที่

พระบาทที่ ๗ ทรงเปล่งอาสภิวาจา{วาจาแสดงความยิ่งใหญ่}ว่า.......................

เราเป็นผู้เลิศในโลกเราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลกเราเป็นผู้ประเสริฐที่สุด

ในโลกการเกิดครั้งนี้เป็นการเกิดครั้งสุดท้ายบัดนี้ ภพใหม่ไม่มีต่อไป




......................ตรัสรู้....................



ในเวลาเช้าของวันเพ็ญ เดือน 6 วันวิสาขบูชา ขณะนั้นมีพระชนมายุ 35 พระชันษา

ขณะนั้นทรงประทับที่ต้นไทร นางสุชาดานำข้าวมธุปายาสที่ใส่ถาดทองมาถวายพระ-

โพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ทรงรับและเสวยข้าวมธุปายาสแล้วได้เสด็จไปที่ท่าน้ำเนรัญชรา

พระองค์ทรงอธิษฐานว่าหากเราได้เป็นพระพุทธเจ้าก็ขอให้ถาดลอยทวนน้ำไปเมื่อ

พระองค์ทรงปล่อยถาดลงในกระแสน้ำ - ถาดนั้นก็ลอยทวนกระแสน้ำและได้จมลงไปใน

ที่อยู่ของนาคราชเมื่อถึงเวลาเย็น นายโสตถิยะก็ถวายหญ้า 8 กำ กับพระโพธิสัตว์

พระโพธิสัตว์ทรงวางหญ้าที่โพธิบัลลังก์ที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ทรงประทับนั่งแล้ว

อธิษฐานว่าหากเรายังไม่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว แม้เนื้อและเลือดจะเหือดแห้ง

ไปก็จะไม่ลุกไปเด็ดขาด พระองค์ทรงกำจัดมารในเวลาเย็นในเวลาปฐมยามทรง

ระลึกชาติได้แต่ยังไม่เป็นพระพุทธเจ้าเวลา{มัจฌิมยาม}พระองค์ทรงเห็นสัตว์เกิดสัตว์

ตาย ด้วยพระญาณแต่ไม่เป็นพระพุทธเจ้า เวลาปัจฉิมยามทรงพิจารณาปฏิจจสมุปบาท

ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในเวลาใกล้รุ่งของวันวิสาขบูชา




เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้ได้เปล่งพระอุทานที่พระพุทธเจ้าทั้งปวงมิได้ทรงละว่า
                      
เราเมื่อแสวงหานายช่างคือ{ตัณหา}ผู้กระทำ
        
เรือนเมื่อไม่ประสบได้ท่องเที่ยวไปยังสงสารมิใช่
    
น้อยความเกิดบ่อย ๆ เป็นทุกข์ ดูก่อนนายช่างผู้
      
กระทำเรือนเราเห็นท่านแล้วท่านจักทำเรือนไม่ได้
        
อีกต่อไปซี่โครงทั้งปวงของท่านเราหักแล้วยอด
    
เรือนเรากำจัดแล้ว จิต {ของเรา}ถึงวิสังขาร{นิพพาน}
      
แล้วเราได้ถึงความสิ้นตัณหาแล้ว




.........................สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้คืออะไร..................



ในปัจฉิมยามพระองค์ทรงพิจารณาปฏิจจสมุปบาทนั่นก็คือพระองค์ทรงตรัสรู้สัจจะ

ความจริงที่เป้นสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ทรงตรัสรู้ ความจริงที่เป็นเพียง จิต เจตสิก

รูป นิพพาน ไม่ใชสัตว์ บุคคล อาศัยเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้น เพราะมีความไม่รู้ จึงมีสภาพ

ธรรมอื่น ๆ เกิดวนเวียนเป็นสังสารวัฏฏ์ไม่มีที่สิ้นสุดแต่เมื่อ{วิชชา} คือ ปัญญาเกิดก็

สามารถดับสังสารวัฏฏ์ได้พระองค์ตรัสรู้ความจริงที่เป็นเพียงสภาพธรรมด้วยปัญญา

ของพระองค์ ตามความเป็นจริงการจะรู้ความจริงจึงรู้ขณะนี้ด้วยการฟังการศึกษาให้

เข้าใจสภาพธรรมทำหน้าที่เองให้ปัญญาเจริญขึ้นจนประจักษ์แจ้งสภาพธรรมที่มี

ในขณะนี้

ในวันมาฆบูชา พระพุทธองค์ทรงปลงมายุสังขาร ณ ปาวาลเจดีย์ จากนี้ไปอีก 3 เดือน

เราจะปรินิพพาน พระองค์ทรงตรัสเตือนภิกษุทั้งหลายว่า...................

ชนเหล่าใดทั้งเด็กผู้ใหญ่ ทั้งพาล ทั้งบัณฑิต ทั้งมั่งมีทั้งขัดสน ล้วนมีความตาย

เป็นเบื้องหน้า  ภาชนะดิน ที่ช่างหม้อทำ ทั้งเล็กทั้งใหญ่ ทั้งสุกทั้งดิบทุกชนิดมีความ

แตกเป็นที่สุดฉันใด ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายก็ฉันนั้นดูก่อนภิกษุทั้งหลายพวก

เธอจงไม่ประมาทมี{สติ} มีศีลด้วยดีเถิดจงเป็นผู้มีความดำริตั้งมั่นด้วยดีจงตามรักษา

จิตของตนเถิดผู้ใดจักเป็นผู้ไม่ประมาทอยู่ในธรรมวินัยนี้ ผู้นั้นจักละชาติสงสารแล้ว

จะกระทำที่สุดทุกข์ได้




ในวันวิสาขบูชา พระพุทธองค์เสด็จไปที่เมืองกุสินารา แม้จะลงพระโลหิตอย่างมาก

ใกล้จะปรินิพพานแล้ว แต่พระองค์ก็เสด็จไปเพื่อที่จะโปรดสุภัททะปริพาชกให้บรรลุ

ธรรมและเพื่อที่จะแสดงมหาสุทัสสนสูตรเพื่อให้มหาชนได้ฟังพระธรรมและอีกเหตุผล

หนึงคือหากพระองค์ปรินิพพานที่กุสินาราจะไม่มีการทะเลาะกันในเรื่องของการแบ่งพระ

ธาตุจะเห็นได้ถึงพระมหากรุณาคุณของพระองค์แม้พระองค์จะปรินิพานแล้วก็ยังช่วย

สัตว์โลกแม้จะทรงประชวรอย่างหนักก็ตาม

พระพุทธเจ้าเสด็จถึงป่าสาลวัน รับสั่งให้พระอานนท์จัดเตียงหันพระเศียรไปทาง

ทิศเหนืออันอยู่ระหว่างต้นสาละคู่ ครั้งนั้นเทวดาและมนุษย์ต่างบูชาด้วยดอกไม้ของ

หอมมากมาย พระพุทธองค์ตรัสกับพระอานนท์ว่า อานนท์การบูชาด้วยสักการะเหล่านี้

(อามิสบูชา)ยังไม่ชื่อว่าสักการะ เคารพพระองค์จริง แต่ผู้ใดปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม

ชื่อว่าบูชาพระองค์ นั่นคือการให้ทาน รักษาศีล ฟังธรรมเจริญกุศลทุกประการจนถึง

การดับกิเลสได้เป็นการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม




พระพุทธองค์ทรงแสดงเรื่องสังเวชนียสถานว่าเป็นที่ที่ควรระลึกถึง ควรเห็นของผู้มี

ศรัทธาเมื่อพระศาสดาล่วงไปแล้ว

พระอานนท์ร้องไห้ที่ประตูวิหาร พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรียกพระอานนท์และเตือนว่า

ทุกสิ่งมีความแตกสลายไปธรรมดา เธออย่าประมาทจงทำที่สุดทุกข์และตรัสสรรเสริญ

พระอานนท์มากมาย

พระพุทธเจ้าทรงโปรดสุภัททะปริพพาชกจนสุดท้ายได้บรรลุเป็นพระอรหันต์

พระพุทธเจ้าตรัสว่า เธออย่าสำคัญว่าศาสดาล่วงไปแล้วจะหาพระศาสดาไม่ได้

พระธรรมของเราจะเป็นศาสดาของพวกเธอ


เมื่อพระภิกษุสงฆ์ประชุมพร้อมกันแล้ว พระองค์ได้ตรัสพระปัจฉิมโอวาทว่า...................

ดูก่อนภิกษุทั้งหลายบัดนี้ เราขอเตือนพวกเธอว่า............................

สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดาพวกเธอจงยังความ

ไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิดนี้เป็นพระปัจฉิมวาจาของพระตถาคต

พระพุทธเจ้าทรงเข้าฌานและออกจากฌานและทรงออกจากจตุตถฌานแล้ว

พระพุทธเจ้าก็{ปรินิพพาน}ดับรอบซึ่งสังขารธรรมและขันธ์ทั้งหลายในคืนวันวิสาขบูชา




......................พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วไปไหน ?.......................



นิพพานไม่ใช่สถานที่ ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง เมื่อจุติจิตของพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์

เกิดขึ้นก็ไม่มีเหตุปัจจัยให้ปฏิสนธิจิตเกิดจึงไม่เป็นเหตุให้มีขันธ์ 5 เกิดขึ้นอีกจึงไม่

สามารถกล่าวได้ว่าไปที่ไหนเหมือนเปลวเทียนเมื่อดับไป เปลวเทียนไปไหนช่างตี

เหล็กใช้ฆ้อนเหล็ก เมื่อตีเหล็กติดไฟ แล้วไฟก็ดับไป ไฟไปไหนพระอรัหันต์ผู้ดับ

กิเลสแล้วเมื่อปรินิพพานจึงหาคติที่ไปไมได้อีก ขออนุโมทนา

ขออนุโมทนา คุณ วรรณี ที่ทำให้ให้ได้รับความรู้ ใหม่ว่าวันวิสาขบูชายังเป็นวันที่

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงตรัสรู้และเป็นวันที่สุเมธดาบสได้รับคำพยากรณ์จากพระ

พุทธเจ้าว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตคขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่าน




.........................THE END.........................



นั่นคือธัมมะพระธรรมที่ทรงตรัสรู้นั้นเป็นธรรมที่ลึกซึ้งรู้ตาม

เห็นตามได้ยาก สงบ ประณีต ไม่อาจรู้ได้ด้วยการตรึก

ละเอียด เป็นธรรมอันบัณฑิตจะรู้ได้.............................


ข้อความจากการสนทนาธรรมที่มูลนิธิบ้านธรรมะ บุคโล ฝั่งธนบุรี



ขอเชิญร่วมการสนทนาธรรม

เนื่องในวันวิสาขบูชา วันอังคารที่ ๑๗ พฤษภาคม พุทธศรักราชล่วงไปแล้ว ๒๕๕๔

โดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร

ณ.มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

โดยมีรายการดังนี้.........................

๐๙:๐๐ - ๑๒:๐๐ น. สนทนาพระธรรมวินัย

๑๒:๐๐ - ๑๔:๐๐ น. เชิญร่วมรับประทานอาหารกลางวัน

๑๔:๐๐ - ๑๖:๐๐ น. สนทนาเรื่องปฏิบัติธรรม


.....................สอบถามรายละเอียดโทรศัพท์ 02 - 4680239...................



http://www.facebook.com/itsariyathanakorn

http://twitter.com/kiss_99

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พฤษภาคม 2554 18:21:46 โดย 時々sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 11.0.696.60 Chrome 11.0.696.60


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2554 18:10:29 »

สาธุ อนุโมทนาครับ

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 4.0.1 Firefox 4.0.1


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2554 18:15:18 »

สาธุ อนุโมทนาครับ

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น


(:SHOCK:)มุดไป - มุดมา ฮ่า ฮ่า ฮ่า  ช๊อค
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พฤษภาคม 2554 18:23:05 โดย 時々sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.548 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 19 เมษายน 2567 03:52:51