หัวข้อ: ในอดีตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 09:27:29 ภาพเก่ากระทู้นี้ขอนำเสนอสิ่งก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 บริเวณลานหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทซึ่งในปัจจุบันไม่มีสิ่งก่อสร้างนี้ให้เห็นอีกแล้วจากแปลนแผ่นที่ พระบรมมหาราชวัง ส่วนของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พบว่าบริเวณรักแร้พระมหาปราสาท มีอาคารขนาดเล็ก 2 หลังกระหนาบซ้ายและขวา สีน้ำเงิน และสิ่งก่อสร้างหน้าพระที่นั่ง ฯ ระหว่างอาคารทิมดาบ พื้นที่สีแดง ชี้ชัดว่าเคยมีอาคารและสิ่งก่อสร้างอยู่ มาดูรายละเอียดกันเลย
(http://image.ohozaa.com/it/av51p.jpg) http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/05.%20Track%205.wmaหัวข้อ: Re: ในอดีตพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 09:29:16 เริ่มจากบริเวณพื้นที่สีน้ำเงินเริ่มจาก Le Journal Illustre ตีพิมพ์ภาพพระบรมมหาราชวัง ส่วนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และเบื้องขวามือเป็นบริเวณส่วนของหมู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งพบว่ามีการวาดอาคารขนาดเล็ก ตั้งอยู่หน้าพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาทอยู่ด้วย ส่วนสิ่งก่อสร้างหน้ากลางทิมดาบไม่เห็น............................. (http://image.ohozaa.com/ie/52u2p.jpg) หัวข้อ: Re: ในอดีตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 09:31:35 ......................ซึ่งภาพที่ฝรั่งนำไปตีพิมพ์ คงนำภาพถ่ายจากต้นฉบับนี้ไปตีพิมพ์....................... (http://image.ohozaa.com/i0/mah3p.jpg) หัวข้อ: Re: ในอดีตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 09:34:03 ภาพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จลงพร้อมพระราชโอรส และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงฉายภาพในคราวงาน กงเต็ก ที่ลานพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งเห็นอาคารขนาดเล็กด้านซ้ายพระที่นั่งดุสิต ฯ (http://image.ohozaa.com/ip/6p24p.jpg) หัวข้อ: Re: ในอดีตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 09:35:38 ..................................มุมด้านขวา.............................. (http://image.ohozaa.com/in/17w5p.jpg) หัวข้อ: Re: ในอดีตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 09:45:17 คำถามต่อมาคือ อาคารนี้สร้างขึ้นเมื่อใด ? และถูกรื้อลงเมื่อไร ? และมีวัตถุประสงค์การใช้อาคารอย่างไรบ้าง ? สำหรับการก่อสร้างอาคารนี้จากพระราชพงศาวดารสิ่งก่อสร้างซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ไม่พบการก่อสร้าง แต่ภาพที่นำมาแสดงนี้เห็นว่า ในรัชกาลที่ 4 มีอาคารแห่งนี้แล้ว ซึ่งเป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ในงานพระราชพิธีโสกัณฑ์พระเจ้าลูกยาเธอ ต่อมาคือรัชกาลที่ 5 ให้สังเกตุดูฉากเบื้องหลังจะเห็นการมุงกระเบื้องหลังคาแห่งนี้................................... สำหรับการรื้อสิ่งก่อสร้างนี้มีประวัติชัดเจน ระบุว่าถูกรื้อลงในสมัยรัชกาลที่ 6 เนื่องจากทรงบูรณะหมู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มีการสร้างอาคารบนกำแพงแก้ว พร้อมทั้งก่อสร้างอัฒจรรย์ บันได เชื่อมระหว่างพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท กับพระทวารพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เนื่องจากทรงมีพระราชดำริว่าเพื่อความสะดวกในการเสด็จออก เนื่องจากจะได้ไม่ลงจากพระที่นั่งและเสด็จขึ้นไปพระที่นั่งอาภรณ์ ฯ อีกทอดหนึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่พระราชพิธีด้วยซึ่งเมื่อก่อ สร้างทางเดินและอัฒจรรย์แล้วพบว่าอาคารหลังน้อยนี้ เป็นที่เก็บสิ่งของจุกจิกเกี่ยวกับพระราชพิธีต่าง ๆ กีดขวางพร้อมทั้งทำให้ลานมีความคับแคบจึงให้รื้ออาคารดังกล่าวลงซึ่งเป็นที่มาของคำถามดังกล่าว.......................................... (http://image.ohozaa.com/iq/0ljm1.jpg) หัวข้อ: Re: ในอดีตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 09:47:31 ต่อมาแล้วเจ้าพื้นที่สีแดงคืออะไร ? เคยมีสิ่งก่อสร้างตรงนี้ด้วยหรือ ? และได้ค้นพบในหนังสือเก่าเกี่ยวกับสยาม เห็นภาพลายเส้นมองจากประตูทางเข้า พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พร้อมปืนใหญ่ประจันหน้าตามภาพ.................................................. (http://image.ohozaa.com/im/j9q2p.jpg) หัวข้อ: Re: ในอดีตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 09:50:23 จากภาพคงเป้นคำตอบแล้วคือ ปืนใหญ่ ตั้งอยู่ปากประตูทางเข้านั่นเองคำถามต่อมา คือ ปืนใหญ่อะไร ? มาเมื่อไร ?และรื้อออกเมื่อไร? (http://image.ohozaa.com/it/1e043.jpg) หัวข้อ: Re: ในอดีตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 09:52:41 พื้นที่สีแดงดังกล่าวคือ.....ฐานปูนสี่เหลี่ยมไว้รองรับปืนใหญ่ จากภาพนี้คงเห็นชัดเจนขึ้นว่าเป็น ปืนใหญ่นางพญาตานี นั่นเอง ซึ่งตามพงศาวดารได้นำมากรงเทพ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 แล้ว แต่ตั้งที่นี้หรือไม่ แต่ว่าปืนใหญ่นี้ ในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้ถูกนำออกไปจากบริเวณดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว (http://image.ohozaa.com/if/7h44p.jpg) หัวข้อ: Re: ในอดีตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 09:54:23 ................................ปืนนางพญาตานี...นำมาเทียบประกอบ.................................. (http://image.ohozaa.com/im/u63t5.jpg) หัวข้อ: Re: ในอดีตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 10:04:04 ประวัติ ปืนพญาตานี ตอนที่ถูกนำมากรุงเทพฯ ตำนานการสร้างขอยกเสียไม่ขอกล่าวถึง เพราะมีหลากหลายเหลือเกิน เสียแต่ว่าเป็นแค่ ตำนานปราศจากหลักฐานยืนยันใด ๆ
พ.ศ. 2329 พม่ายกทัพมาตีหัวเมืองปักษ์ใต้ ได้นครศรีธรรมราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท เสด็จยกทัพหลวงลงมาปราบ เมื่อตีทัพพม่าแตกลงแล้ว หัวเมืองที่เคยแข็งขืนมาแต่ก่อนก็ให้มาอ่อนน้อมดังเดิม มีพระยาไทรบุรี พระยาตรังกานู แต่ปรากฏว่าพระยาปัตตานียังแข็งขืนดื้อดึง ไม่อ่อนน้อมต่อสยาม จึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดทัพไปตีเมืองปัตตานีและยึดเมืองได้สำเร็จ ผมขอตั้งข้อสังเกตเองว่า ชะรอยพระยาปัตตานีคงจะต้องการทดลองปืนใหญ่ของตัวเองด้วยกระมัง จึงกล้าแข็งเมือง หลังจากยึดเมืองปัตตานีได้แล้ว กรมพระราชวังบวรฯ ทรงรับแจ้งว่าพบปืนใหญ่ 2 กระบอก จึงโปรด ฯ ให้นำปืนทั้ง 2 กระบอกกลับกรุงเทพ ฯ เพื่อตัดรอนไม่ให้ปัตตานีแข็งเมืองได้อีกต่อไปแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พวกกองทัพเข็นปืนทองเหลืองใหญ่ในเมืองปัตตานี 2 กระบอกลงเรือรบ แต่ปืนกระบอกหนึ่งตกน้ำเสียที่ท่า หน้าเมืองปัตตานี ได้ไปแต่กระบอกเดียว คือปืนนางพระยาปัตตานีเดี๋ยวนี้ พงศาวดารเมืองสงขลา ประชุมพงศาวดารภาคที่ 3 ก้าวหน้า 2507 ปืนกระบอกที่ 2 คือ ศรีนัครี นั้น พงศาวดารเมืองปัตตานีกล่าวไว้ต่างกัน คือไม่ได้ตกน้ำหายไป แต่จมหายไปทั้งเรือ ปืนกระบอกที่ 1 ชื่อนางปัตตานีนั้น ออกไปถึงเรือหลวงก่อน ได้ยกปืนขึ้นบนเรือหลวงเสร็จแล้ว เรือที่บรรทุกปืนกระบอกที่ 2 ซึ่งชื่อศรีนัครีตกอยู่ข้างหลัง เกิดพายุ เรือที่บรรทุกปืนกระบอกที่ 2 ชื่อศรีนัครีล่มลงปืนก็จมสูญหายไปด้วย ส่วนปืนกระบอกที่ 3 ชื่อ มหาเลลา นั้น ไม่มีหลักฐานใด ๆ กล่าวถึงหายสาบสูญไปเฉย ๆ เอกสารบางฉบับอ้างว่าแตกขณะรบกับกองทัพของปลัดจะนะ ทัพหน้าของกรมพระราชวังบวร ฯ เมื่อปืนพญาตานี้เดินทางมาถึงกรุงเทพ ฯ ในปี พ.ศ. 2329 กรมพระราชวังบวร ฯ กราบบังคมทูลถวายปืนใหญ่แด่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พร้อมทั้งน้อมเกล้า ฯ ถวายครัวแขก พม่าเชลย และเครื่องศาสตราวุธต่าง ๆ ที่ตีได้เป็นอันมาก .........................ปืนพญาตานีอยู่ตรงนี้.............................. ปืนกระบอกใหญ่ที่ได้มาแต่เมืองตานีนั้น ก็โปรดให้แก้ไขตกแต่งลวดลายท้ายสังข์ขัดสีเสียใหม่ ให้จารึกนามลงไว้กับบอกปืนว่า พญาตาณี แล้วให้ทำโรงไว้ที่ข้างหน้าศาลาลูกขุนในฝ่ายขวา พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑ โดย เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ กรมศิลปากร 2531 จากนั้นก็โปรดให้หล่อปืนขึ้นคู่กับปืนพญาตานี อีกกระบอกหนึ่ง ที่โรงหล่อริมถนน ประตูวิเศษไชยศรี พระราชทานชื่อว่า นารายณ์สังหาร และโปรดให้หล่อปืนขึ้นอีก 6 กระบอก ทำโรงขึ้นไว้เป็นคู่ ๆ กันข้างประตูวิเศษไชยศรี ภายหลังจึงได้ย้ายมาไว้ที่หน้ากระทรวงกลาโหมอย่างในปัจจุบัน ทุกวันนี้จังหวัดปัตตานียังคงใช้สัญลักษณ์ปืนพญาตานีเป็นตราประจำจังหวัดอยู่ จากหนังสือ ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 25 ฉบับที่ มกราคม ปี 2547 (http://image.ohozaa.com/im/u63t5.jpg) หัวข้อ: Re: ในอดีตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 21:39:43 สาธุครับ
ข้อมูลดี ๆ ที่หาอ่านยาก (หลาย ๆ คนไม่เคยคิดจะสนใจเลยด้วยซ้ำ) หัวข้อ: Re: ในอดีตพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอย่างไรลองชมดู เริ่มหัวข้อโดย: ริต้าร์ ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 14:39:39 เป็นพระที่นั่งที่งดงามยิ่งนัก
|