[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
07 พฤษภาคม 2567 00:41:34 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อะไรคือธรรมมะและธรรมมะมีประโยชน์อย่างไร ?  (อ่าน 2203 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 06 มิถุนายน 2553 13:39:34 »

http://img41.imageshack.us/img41/1019/buddhadasa.jpg
อะไรคือธรรมมะและธรรมมะมีประโยชน์อย่างไร ?

<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/17.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/17.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/allhits/17.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>




มีคนบางพวกซึ่งไม่ค่อยจะสนใจไม่ค่อยจะชอบธรรมะอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงมีคำถามที่ไม่น่า

ฟังเช่นพูดว่าธรรมะธรรมเมอะทำไมกัน ? นี่สำหรับคนที่ไม่สนใจและไม่อยากจะสนใจเพราะ

เขาไม่รู้ประโยชน์ของสิ่งที่เรียกว่า ธรรมะ จึงมีความรู้สึกอย่างนั้น อาตมาจึงมีความเห็นว่า

เราควรจะทำความเข้าใจกันในเรื่องนี้มีผู้ที่เข้าใจผิดต่อสิ่งที่เรียกว่า ธรรมะ อยู่ในที่ทั่ว ๆ ไป คือ มีคนที่เกลียดธรรมะโดย

รู้สึกไปว่าเป็นสิ่งที่ขัดขวางความสนุกสนานของตนหรือไม่เกี่ยวข้องกันกับตนความรู้สึกเช่นนี้

เป็นผลร้ายแก่สังคม คนที่เป็นชั้นครูบาอาจารย์ สอนอยู่ในมหาวิทยาลัยด้วย ยังมาขอถามด้วยการตั้งคำถาม

ว่าธรรมะกับโลกนี่มันเข้ากันได้หรือไม่ ? อาตมาถึงกับรู้สึกสะดุ้งว่า ทำไมคนชั้นครูบาอาจารย์ สอนอยู่ในมหาวิทยาลัย มาตั้งคำถาม

ว่าอย่างนี้นี่แสดงว่าไม่มีการเข้าใจในสิ่งที่เรียกว่า ธรรมะ กันเสียเลย แม้ในบุคคลชั้นครูบาอาจารย์ แล้วชนชั้นลูกศิษย์จะเข้าใจได้อย่างไร ?

รู้สึกว่า ธรรมะ ยังได้รับความเป็นธรรมน้อยไป คือได้รับความสนใจน้อยไปกว่าที่ความเป็นจริงนั้น ธรรมะ มีประโยชน์และมีความจำเป็น

อย่างยิ่งอาตมามองเห็นเหตุผลอย่างนี้ จึงได้ให้หัวข้อการบรรยายครั้งนี้ว่า  ธรรมะ ทำไมกัน ?  ทีนี้ก็จะได้กล่าวต่อไปการที่เราจะรู้ว่า

ธรรมะ ทำไมกัน ? นั้นจะต้องรู้เสียก่อนว่าธรรมะนั้นเป็นอย่างไร ? หรือ คืออะไร ? ดังนั้นเราจะต้องพูดกันในหัวข้อว่า ธรรมะนั้นคือ

อะไร ? กันเสียก่อนแล้วก็จะเป็นการง่ายที่จะเข้าใจได้ว่า ธรรมะ นั้นทำไมกัน ? หรืออาจจะเข้าใจได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องอธิบายกัน

อีกก็ได้ ถ้าเขารู้ว่าธรรมะคืออะไร ? เมื่อถามว่า ธรรมะ คืออะไร ? คำตอบที่จะเป็นบทนิยามที่กะทัดรัดที่สุดจะมีดังต่อไปนี้

ขอให้ตั้งใจฟังและกำหนดส่วนแห่งบทนิยามนั้น ๆ ธรรมะ คือระบบแห่งการปฏิบัติที่ถูกต้องและจำเป็นสำหรับมนุษย์ทุกขั้นตอนแห่ง

วิวัฒนาการของเขาทั้งในส่วนปัจเจกชนและทั้งในส่วนสังคม และทั้งฝ่ายวัตถุ ฝ่ายจิตใจถ้าพูดให้สั้นที่สุดก็จะพูดแต่เพียงว่า

ธรรมะคือระบบการปฏิบัติที่ถูกต้องและจำเป็นสำหรับมนุษย์ ทุกขั้นทุกตอนแห่งวิวัฒนาการของเขา ขอได้โปรดกำหนดให้ดี ๆ จะช่วยให้

เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าถ้าเราจะมีบทนิยามสั้น ๆ ก็จะมีแต่เพียงว่า ธรรมะ คือ ระบบการปฏิบัติที่ถูกต้องและจำเป็นสำหรับมนุษย์ทุกขั้นทุก

ตอนแห่งวิวัฒนาการของเขา คำแรก ธรรมะ คือ ระบบการปฏิบัติจะพูดกันถึงคำว่า ระบบ เสียก่อนคำว่า ระบบ ท่านทั้งหลายก็ทราบดี

อยู่แล้ว

ว่ามันหมายถึงหลายอย่างรวมกันเป็นระบบ หรือเป็น system การกระทำอย่างเดียวหรือข้อเดียวยังไม่พอ ต้องหลายข้อหรือหลายอย่างมารวม

กันเป็นระบบเป็นระบบแห่งการปฏิบัติ ก็หมายความว่าการปฏิบัติหลาย ๆ อย่าง หลาย ๆ ข้อรวมกันเป็นระบบหนึ่ง ๆ สำหรับมนุษย์จะต้อง

ปฏิบัติถ้าถามว่าทำไมจะต้องเป็นระบบ ? ก็ตอบได้ว่า ลองเหลือบตาดู หรือใคร่ครวญดูคำนวณดู จะเห็นได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็น

ระบบ เช่น ร่างกายนี้ ก็เป็นระบบ ระบบการหายใจ ระบบการไหลเวียนแห่งโลหิต ระบบการสร้างเนื้อหนัง ระบบการรับประทาน ระบบ

การขับถ่ายมันเป็นระบบ ประกอบกันเข้าเป็นระบบใหญ่ คือร่างกายของคน ๆ หนึ่งโลกทั้งโลกนี้ก็ประกอบอยู่ด้วยระบบ

มากมายชีวิตของคนคนหนึ่งก็ประกอบอยู่ด้วยระบบหลาย ๆ ระบบ การงานของคนก็ประกอบอยู่ในระบบหลาย ๆ ระบบ ล้วนแต่เป็นระบบ

ดังนั้นการที่จะประพฤติกระทำให้ถูกต้องเพื่อผลอันสมบูรณ์ มันก็ต้องมีการกระทำที่เป็นระบบ

ดังนั้นเราจึงกล่าวว่า ระบบของการปฏิบัติ ไม่พูดว่า การปฏิบัติเพียงข้อใดข้อเดียว คำแรก

ก็คือคำว่าระบบของการปฏิบัติทีนี้ก็จะได้พูดถึงคำว่า การปฏิบัติ การปฏิบัติ หมายถึงการกระทำธรรมะ นั้น

เป็นการกระทำ ไม่ใช่เป็นเพียงความรู้ หรือการล่าเรียนเฉย ๆ ต้องเป็นการกระทำจึงจะเป็นตัวธรรมะ นี้ตามหลักแห่งพระพุทธศาสนา

ท่านถือกันอย่างนี้ไม่ใช่ว่าธรรมะเป็นเพียงคำสอน

แล้วเก็บไว้ในตู้ในสมุด ธรรมะ คือตัวการปฏิบัติอยู่ที่กาย ที่วาจา ที่ใจ ความรู้นั้นก็จำเป็นสำหรับการปฏิบัติ

เมื่อพูดถึงการปฏิบัติย่อมรวมเอาความรู้ไว้ด้วยคือ ต้องมีความรู้ที่ถุกต้องสำหรับที่จะปฏิบัติ ในที่นี้ก็มาระบุถึงระบบแห่งการปฏิบัติเสียเลย หมาย

ความว่ารวมเอาความรู้ไว้ด้วย แต่ขอให้เข้าใจไว้เสมอไปว่า ลำพังความรู้นั้นไม่พอ ต้องมีการปฏิบัติ ครั้นปฏิบัติแล้ว ผลของการปฏิบัติย่อม

เป็นมาเองโดยอัตโนมัติจึงไม่ได้พูดถึงผลของการปฏิบัติ พูดถึงตัวการปฏิบัติก็พอ




จากหนังสือ ชุมนุมปาฐกถาธรรม ทางวิทยุ เล่ม 1  ของท่าน พระพุทธทาส ภิกขุ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 มิถุนายน 2553 13:50:27 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น: อะไร คักลอก ธรรมมะ บางครั้ง dhamma พึง ควร เหมาะ ประโยชน์ 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.321 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 07 กรกฎาคม 2566 00:03:14