คำพระสอน

(1/18) > >>

Kimleng:
Tweet



พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก

“กรรมทั้งหลายไม่ได้มาจากอื่นไกล
มาจากกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมของเราเท่านี้”
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร - จังหวัดสกลนคร

*゚¨゚✎-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·¯`·.¸> <((((º> ♫♫♫~*



วิหารพระพุทธชินราช
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก

“ผู้ทรงศีลด้วยความบริสุทธิ์ ก็เท่ากับว่านานั้นมีคันนา
ฝนตกลงมาน้ำก็ขัง เอาปุ๋ยใส่มันก็ขัง
ถ้าใครไม่มีศีลบริสุทธิ์ ก็เท่ากับนาไม่มีหัวคันนา
ฝนตกลงมาน้ำในนาไหลหนีหมด ใครจะไปหว่านปุ๋ยก็ไม่อยู่ เมล็ดข้าวก็ไม่อยู่”
พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมฺมธโร)
วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ

*゚¨゚✎-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·¯`·.¸> <((((º> ♫♫♫~*




พระพุทธชินราช
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก

“เราเกิดมาเป็นมนุษย์ มีความสูงศักดิ์มาก
อย่านำเรื่องของสัตว์มาประพฤติ มนุษย์เราจะต่ำลงกว่าสัตว์
และจะเลวกว่าสัตว์อีกมากมาย อย่าพากันทำ
ให้พากันละบาป บำเพ็ญบุญ ทำแต่คุณความดี
อย่าให้เสียชีวิตเปล่าที่มีวาสนาเกิดมาเป็นมนุษย์”
หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
วัดป่าสุทธาวาส  จังหวัดสกลนคร

*゚¨゚✎-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·¯`·.¸> <((((º> ♫♫♫~*



พระพุทธชินราช
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก

“คนทำบุญเหมือนน้ำเย็น
คนรักษาศีล ภาวนา เย็นเหมือนน้ำ
คนไม่ทำบุญให้ทาน ไม่รักษาศีล ไม่ภาวนา มันเป็นไฟ
เหมือนไฟ มันร้อน มันไหม้เรื่อยไป”
พระญาณสิทธาจารย์  (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร)
วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่



พระอริยสาวก พระพุทธชินราช
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก

รู้แล้วอย่าหลงรู้ รับว่ารู้ แล้ววางรู้ รู้จึงไม่มีพันธะ
จิตก็บริสุทธิ์ได้ ละบุญละบาปใดๆ ก็ได้
หลวงปู่จาม มหาปุญโญ
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร



ภาพ: วัดแม่นางปลื้ม  
อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

“ในทางโลก  การได้มามากๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา
แต่ในทางธรรม  การสละสิ่งที่มีมากๆ ให้หมดไป
แม้แต่สิ่งละเอียดอ่อนภายในใจได้
ท่านว่า ประเสริฐสุด”
พระอุดมญาณโมลี (จันทร์ศรี จนฺททีโป)
วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี

*゚¨゚✎-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·¯`·.¸> <((((º> ♫♫♫~*




การปฏิบัตินั้น ให้พยายามทำ มันจะสงบหรือไม่สงบก็ช่าง ปล่อยไว้ก่อน
เอาเรื่องเราปฏิบัติเป็นเรื่องแรก เอาเรื่องเราได้สร้างเหตุนี้แหละ ถ้าทำแล้วผลจะเป็นอย่างไรก็ได้
เราทำได้แล้วอย่ากลัวว่าจะไม่ได้ผล มันไม่สงบเราก็ได้ทำ ทีนี้ถ้าเราไม่ทำใครเล่าจะได้ ใครเล่าจะเห็น
"คนหานั่นแหละจะเห็น คนกินนี่แหละจะอิ่ม"
หลวงปู่ชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

*゚¨゚✎-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·¯`·.¸> <((((º> ♫♫♫~*




กายเดียว จิตเดียว หนังแผ่นเดียว
เรียนเท่านี้ไปนิพพานได้
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข ต.พักทัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี

*゚¨゚✎-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·¯`·.¸> <((((º> ♫♫♫~*



มันจะมีนรก มีสวรรค์อย่างไร
นั่นมันกิเลสต่างหากเล่า
กิเลสหมด มันก็หมดนรก หมดสวรรค์ซิ
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข ต.พักทัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี










ภาพ : หัตถ์พระอัครสาวก พระพุทธชินราช
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
(พระอัครสาวกประดิษฐานอยู่ด้านข้างพระพุทธชินราช)


พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
(กรกฎาคม ๒๕๕๙)

"กรรมดีกรรมชั่ว ผู้นี้เป็นกำเอา เป็นผู้ทำเอา
ไม่เห็นมีกรรมมาจากต้นไม้ภูเขาเลากา ไม่เห็นมีกรรมมาจากฟ้าอากาศ
มาจากกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมเท่านี้แหละ"
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

*゚¨゚✎-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·¯`·.¸> <((((º> ♫♫♫~*


รูปหล่อเหมือน หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
ประดิษฐานภายในพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร


 *゚¨゚✎-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·¯`·.¸> <((((º> ♫♫♫~*





พระเนตรขวา พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต)
วัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

มหาเหตุ
...เหตุทั้งหลายของคนเรา ก็ล้วนมาจากใจ
ใจจึงเป็นมหาเหตุ ถ้าใจดี ใจสูง ใจประเสริฐ การทำ การพูด
ก็พลอยดีและประเสริฐไปด้วย...

ธรรมวจนะ  พระครูปราโมทย์ธรรมธาดา
(หลวงปู่หลอด ปโมทิโต)



ภาพจาก : วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก

พระพุทธองค์ตรัสว่า
"ผู้ไม่มีสติก็คือคนประมาท คนประมาทนั้นก็คือคนตาย"
แม้มีชีวิตอยู่ก็เรียกว่าตายแล้่ว เพราะจิตใจมันตาย ไม่มีอะไรแล้ว เป็นผู้ประมาท
"ปมาโท มจฺจุโนปทํ คนประมาทแล้วเหมือนคนตาย"
นี่ตายในภาษาธรรมะ ตายในภาษาด้านปรมัตถ์ ไม่ใช่ตายในร่างกายของเรา

พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)



"พระพักตร์" สมเด็จนางพญาเรือนแก้ว วัดนางพญา อ.เมือง จ.พิษณุโลก
(๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐)

"พระบรมศาสดาจะทรงบัญญัติพระธรรมวินัยก็ดี รู้อะไรๆ ได้ด้วยทศพลญาณก็ดี
รอบรู้สรรพเญยฺยธรรมทั้งปวงก็ดี ก็เพราะมีมหาเหตุนั้นเป็นดั้งเดิมทีเดียว จึงทรงรอบรู้ได้เป็นอนันตนัย
แม้สาวกทั้งหลายก็มีมหาเหตุนี้แลเป็นเดิม จึงสามารถรู้ตามคำสอนของพระองค์ได้ด้วยเหตุนี้แล"
พระธรรมเทศนาของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถระ
ณ วัดป่าบ้านนามน กิ่งอำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร พ.ศ.๒๔๘๖
*บันทึกโดยพระอาจารย์วิริยังค์ สิรนฺธโร (พระราชธรรมเจติยาจารย์)
วัดธรรมมงคล กรุงเทพมหานคร




ภาพจาก : วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร  ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ภิกษุผู้ถอนภวตัณหาได้แล้ว มีจิตสงบแล้ว
สิ้นความเวียนเกิดแล้ว ย่อมไม่มีภพอีก
อุจฺฉินฺนภวตณฺหสฺส  สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขโน
วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร   นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโว
ขุ.อุ.๒๕/๑๔๓



"พระหัตถ์ขวา" สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงสุวรรณภิงคารหลั่งน้ำทักษิโณทก ประกาศอิสรภาพจากหงสาวดี
ภาพจาก : พระวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก
(๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐)

หมู่ปราชญ์บัณฑิต เปรียบได้กับ "รวงข้าวที่สมบูรณ์"
รวงข้าวที่สมบูรณ์นั้น จะโน้มรวงอ่อนลงสู่เบื้องล่าง
อันหมู่ปราชญ์บัณฑิต ย่อมอ่อนน้อมถ่อมตน
ที่ชูก้านขึ้นสูง ชี้โด่เด่ นั้นคือ "ข้าวลีบ"
พระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์




"อะไรเล่าจะทรมานจิตใจมนุษย์
ยิ่งไปกว่าการสำนึกผิดโดยไม่มีทางแก้"
 
จาก : ธรรมะใต้เงาไม้ - หลวงปู่แบน ธนากโร (พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร) 
วัดดอยธรรมเจดีย์  บ้านนาสีนวล ตำบลตองโขบ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร
ภาพถ่ายปี พ.ศ.๒๕๕๙



สมเด็จนางพญาเรือนแก้ว วัดนางพญา อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก



"รตฺตสฺส  หิ อุกฺกฏิกํ ปทํ ภเว
ทุฏฺฐสฺส โหติ สหาสนุปิฬิตํ
มูฬฺหสฺส โหติ อวกฑฺฒิตํ ปทํ
วิวฏฉทสฺส อยมีทิสํ ปทํ"

คนราคจริต รอยเท้าจะเว้าตรงกลาง
คนโทสจริต รอยเท้าจะจิกปลาย
ส่วนรอยเท้า (ราบเสมอกัน) เป็นของคนหมดกิเลสแล้ว

ที่มา : สิ่งแรกในพระพุทธศาสนา โดย ศาสตราจารย์ (พิเศษ) เสฐียรพงษ์ วรรณปก หน้า ๖๗ มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับที่ ๑๙๐๕ ประจำวันที่ ๑๗-๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐



รูปปั้นหล่อหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
ภาพจาก : วัดป่าบ้านหนองผือ ต.นาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร (พ.ศ.๒๕๕๙)

ให้ท่องอยู่ในใจเสมอว่า เรามีความแก่ เจ็บ ตาย อยู่ประจำตัวทั่วหน้ากัน ป่าช้าอันเป็นที่เผาศพภายนอก
และป่าช้าที่ฝังศพภายใน คือตัวเราเอง เป็นป่าช้าร้อยแปดพันเก้าแห่งศพที่นำมาฝังหรือบรรจุ จะอยู่ในตัวเรา
ตลอดเวลาทั้งศพเก่าศพใหม่ทุกวัน พิจารณาธรรมสังเวช พิจารณาความตายเป็นอารมณ์ ย่อมมีทางถอดถอน
ความเผลอเย่อหยิ่งในวัย ในชีวิต และวิทยฐานะต่างๆ ออกได้  จะเห็นโทษแห่งความบกพร่องของตัว และพยายาม
แก้ไขได้เป็นลำดับมากกว่าจะไปเห็นโทษของคนอื่น แล้วมานินทาเขา ซึ่งเป็นความไม่ดีใส่ตน
นี่คือการภาวนา คือวิธีเตือนตน สั่งสอนตน ตรวจตราดูความบกพร่องของตน
หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต

Kimleng:



ท่านที่มีความสนใจในการบำเพ็ญภาวนา ก็พากันภาวนาไป ไม่ต้องไปสนใจกับวัตถุมงคลอันเป็นของภายนอก
แต่ผู้ที่ยังไม่สามารถหันมาสู่การปฏิบัติธรรมได้ ก็ให้อาศัยวัตถุภายนอก เช่น วัตถุมงคลนี้เป็นที่พึ่งไปก่อนเถิด
อย่าไปตำหนิติเตียนอะไรเลย   ครั้นเขาเหล่านั้นประสบเหตุเภทภัยมีภยันตรายแก่ตน และเกิดแคล้วคลาด
ด้วยคุณแห่งพระรัตนตรัยก็ดี โดยบังเอิญก็ดี เขาก็จะบังเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้ในภายหลัง
ซึ่งก็จะเป็นเหตุให้เจริญงอกงามในทางที่ถูกต้องได้เองคำสอน หลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระสุปฏิปันโน แห่ง จ.สุรินทร์




ภาพจาก : วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่


ภาพจาก : วัดมเหยงคณ์ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ผู้กระทำกรรมดี ย่อมได้เสวยผลของกรรมดี

ผู้ที่มีใจผูกพันอยู่กับ การรักษากาย วาจา ใจ อยู่ในศีลบริสุทธิ์ มามากในอดีตชาติ
จะมีจิตใจผ่องใส จะไม่เศร้าหมอง ก็จะรู้ได้จากปัจจุบันชาติ
คือ ปัจจุบันชาติจะเป็นผู้มีผิวพรรณอันงดงาม หน้าตาผ่องใส เป็นที่เจริญใจผู้พบเห็นทั้งหลาย
ผู้ที่มีใจผูกพันอยู่กับการปฏิบัติธรรมมามากในอดีตชาติ ก็จะรู้ได้จากปัจจุบันชาติ
คือ ปัจจุบันชาติจะเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด ศึกษาปฏิบัติธรรมเข้าใจง่าย เจริญดีในธรรม

จากหนังสือ "ชีวิตนี้สำคัญนัก"
พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์



จิตรกรรมฝาผนังพระอุโบสถวัดพนมยงค์
ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา (มีนาคม ๒๕๖๐)

กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว อยู่บนหัวกลิ่นบัวบ่ต้อง แมงภู่ง่องบินผ่ายแอ่วมา เอาเกษรดอกบัวไปจ๊อย
อุปมา...เหมือนกบอยู่กอบัว แต่ไม่รู้จักบัว ดอกบัวจะบานจะตูม จะร่วงจะโรย
ก็ไม่รู้เรื่อง วันดีคืนดีอาจโดนด้ามเสียมเขาหรอก นี้ฉันใด บางคนอยู่ใกล้วัด ใกล้พระ
ก็น่าจะรู้จักธรรมะและนำธรรมะมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับชีวิตและสังคม แต่ไม่รู้เรื่องเลย
'ธรรมปริศนา' พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี



หุ่นหุ่นขี้ผึ้ง หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
ประดิษฐานในเขมปัตตเจดีย์ วัดภูจ้อก้อ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร


อัฐธาตุและเส้นผมที่แปรสภาพเป็นพระธาตุ ของ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
ประดิษฐานในเขมปัตตเจดีย์ วัดภูจ้อก้อ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร

สิ่งใดที่ถูกสมมติว่าเป็นอัตตาแบบตื้นๆ สิ่งนั้นต้องถูกปรมัตถ์กวาดล้างลึกลงไปอีก
เป็นเมืองขึ้นของอัตตา แต่ไม่ให้หลงติดอยู่ในอัตตาและอนัตตา เพราะจะพาให้เดือดร้อนด้วยการ
ยืนยันในทิฏฐิและความเห็น การรู้จักกาลเทศะสิ่งที่ควรปล่อยวางและไม่ควรปล่อยวาง เป็นทาง
ของปัญญาของสติที่ควรเลือกเฟ้น และก็เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
หลวงปู่หล้่า เขมปัตโต



ภาพจาก : พระอุโบสถ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
(พุธที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๐)

ลุกขึ้นตื่นขึ้นมาหัดพิจารณากายานุปัสสนา คือการพิจารณากาย
หนังก็ไม่ใช่ของเรา เนื้อก็ไม่ใช่ของเรา ตับไตไส้พุงก็ไม่ใช่ของเรา อาหารใหม่
อาหารเก่าก็ไม่ใช่ของเรา เพื่อนฝูงพี่น้องก็ไม่เห็นเรา เราเจ็บ เราร้อน
เราตกนรกหมกไม้ เพื่อนฝูงก็ช่วยไม่ได้ นอกจากเราช่วยตัวเราเองเท่านั้น
คติธรรม : หลวงปู่คำพอง ติสโส (พระครูสุวัณโณปมคุณ)
วัดถ้ำกกดู่ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี



รูปหล่อ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ภาพจาก : วัดป่าบ้านหนองผือ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร  

การตำหนิติเตียนผู้อื่น  ถึงเขาจะผิดจริงก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย
ความเดือดร้อนวุ่นวายใจที่คิดตำหนิผู้อื่นจนอยู่ไม่เป็นสุขนั้น   นักปราชญ์ท่านถือเป็น
ความผิดและบาปกรรม ไม่มีดีเลย  จะเป็นโทษให้ท่านได้สิ่งไม่พึงปรารถนามาทรมาน
อย่างไม่คาดฝัน   การกล่าวโทษผู้อื่นโดยขาดการไตร่ตรองเป็นการสั่งสมโทษและบาป
ใส่ตนให้ได้รับความทุกข์  จึงควรสลดสังเวชต่อความผิดของตน งดความเห็นที่เป็นบาป
เป็นภัยแก่ตนเสีย  ความทุกข์เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทำไม
พอใจสร้างขึ้นเองคติธรรม : หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
วัดป่าบ้านหนองผือ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร



พระภาวนาเขมคุณ วิ. (สุรศักดิ์ เขมรํสี)
เจ้าอาวาส วัดมเหยงคณ์ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา




มัจจุราชจ้องคอยท่า เวลาไม่คอยใครชีวิตร่อยหลอไป เรากำลังทำอะไรอยู่
บัดนี้เวลาแห่งการปฏิบัติธรรมในภาคบ่ายมาถึงแล้ว
จึงขอให้ทุกท่านผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลายได้โปรดเตรียมตัวแสวงหาโมกขธรรม
นั่นราวป่า นั่นโคนไม้ นั่นเรือนว่าง เธอจงเดินจงกรม นั่งสมาธิเจริญภาวนา ความเพียร
เพื่อที่จะชำแรกกิเลสให้หมดสิ้นไปจากจิตใจ ด้วยความไม่ประมาทเถิดฯ
พระธรรมบท (บทที่ ๒) อัปปมาทวรรค
---------------------------------
เสียงตามสาย พระภาวนาเขมคุณ วิ. (สุรศักดิ์ เขมรํสี) กล่าวให้ผู้ใฝ่ในธรรม
เตรียมตัวแสวงหาโมกขธรรม เดินจงกรม นั่งสมาธิเจริญภาวนา ณ สำนักกรรมฐาน
วัดมเหยงคณ์ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา



หุ่นขี้ผึ้ง พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทศก์ เทสรังสี)

ธรรมทั้งหลายมีอยู่ในตัวเราทุกคน
ผู้รู้ธรรมคือใจ ที่จะรู้มาก รู้น้อย รู้หยาบ ละเอียด
ก็แล้วแต่ความสามารถ บุญบารมี หรือการอบรมของแต่ละบุคคล

จากโอษฐ์ พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทศก์ เทสรังสี)
วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย






ต้องทรมานใจ
"ไม่เคยมีใครบรรลุธรรม ด้วยการอยู่ไปกินไป
นอนไปตามใจชอบ โดยไม่มีการฝึกจิตทรมานใจ"

จากโอษฐ์ พระครูปราโมทย์ธรรมธาดา (หลวงปู่หลอด ปโมทิโต)
วัดสิริกมลาวาส(วัดใหม่เสนานิคม) ลาดพร้าว บางกะปิ กรุงเทพมหานคร.



ภาพจาก วัดป่าบ้านหนองผือ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร  

"อสุภนิมิต"
ในบางครั้งเราทำสมาธิได้แล้ว ขณะที่จิตรวมวูบลงไป ร่างกายของเราก็จะเกิดเห็นเป็นซากศพ
ที่มีสภาพเหมือนกับว่าเพิ่งจะขุดขึ้นมาจากหลุมศพ แต่จริงๆ แล้วร่างกายของเราไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อเรา
ถอนจิตออกมาก็จะเห็นเป็นตัวตนธรรมดา อาการที่เราเห็นเป็นซากศพนี้ท่านเรียกว่า "อสุภนิมิต"
ถ้าเราเคยได้ยินครูบาอาจารย์แนะนำสั่งสอนในเรื่องของอสุภนิมิตนี้แล้วเราก็ทำความรู้เท่ากัน  

อสุภนิมิตนี้ถ้าเกิดบ่อยๆ จะเป็นการดีมาก ท่านอาจารย์ใหญ่ (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต) ท่านนิยมมาก ถ้าพระเณร
องค์ใดได้อสุภนิมิตร่างกายเน่าเปื่อยเป็นซากศพแล้ว ท่านว่าท่านผู้นั้นจะสามารถที่จะบรรลุธรรมได้ง่าย อสุภนิมิตนี้
ไม่ใช่เป็นของร้าย เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว ถ้าเราอดกลัวไม่ได้ ก็ให้เราลืมตาเสีย ตั้งสติให้มั่น ขออย่างเดียว อย่าลุกวิ่งหนี
ถ้าเราลุกวิ่งหนีก็จะทำให้เราเสียสติได้ การลุกขึ้นวิ่งหนีนี้ขอห้ามโดยเด็ดขาด
ธรรมะบางตอน โดย หลวงปู่คำดี ปภาโส

Kimleng:

ภาพจาก : วัดมหาธาตุ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

"เราทั้งหลายเกิดมานี่ย่อมมีความมุ่งมาตรปรารถนาอยู่เป็น ๓ นัย
นัยหนึ่งต้องการวัตถุข้าวของเงินทองมากๆ นัยสองต้องการรูปสวยๆ งามๆ
อายุยืนนาน นัยที่สามต้องการมีปัญญาเฉลียวฉลาด เหตุใดจึงไม่ได้
สมความปรารถนา ก็เพราะไม่ได้ประพฤติปฏิบัติ ท่านได้วางข้อปฏิบัติไว้
คือให้มีทาน มีศีล มีภาวนา สามนัยนี้ให้พากันรู้จัก"
วาทะธรรม หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร



พระพุทธรูป ประดิษฐาน ณ พระธาตุพนมบรมเจดีย์
วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม

น้ำจะใสสะอาดสักเท่าไรก็ตามที หากไม่มีคนใช้คนบริโภคแล้ว จะมีประโยชน์อะไร
เพชร นิล จินดา หรือแร่ที่มีราคาต่างๆ ซึ่งมีอยู่ใต้พื้นพสุธา มีคนมาบอกว่ามีอยู่ตรงนั้นๆ
จะมีประโยชน์อะไรแก่ผู้ไม่มีปัญญาที่จะแสวงหาเอาของเหล่านั้นขึ้นมาใช้  
พระพุทธเจ้าก็ฉันนั้นเหมือนกัน พระองค์ชมคนที่มีปัญญาสามารถคิดค้นกลั่นกรอง
เอาจิตที่ผุดผ่องอยู่แล้ว ในกองแห่งกิเลสนั้นออกมาใช้ได้ ว่าเป็นผู้ประเสริฐ.

วาทะธรรม พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์  
(หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย






"บุญและบาปสิ่งใดๆ ใจถึงก่อน ใจเป็นรากฐาน
ใจเป็นประธาน มันสำเร็จที่ดวงใจ"
วาทะธรรม หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
ภาพจาก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก



ภาพจาก :  หอพระแก้ว นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ถ่ายภาพ : Mckaforce - แอ็ดมิน สุขใจดอทคอม

พระพุทธองค์ตรัสว่า "ฆ่าความโกรธได้ ย่อมเป็นสุข"
ความโกรธนั้น มีพื้นฐานมาจากทิฐิมานะ การถือตัวถือตน พอมีสิ่งขัดข้องเข้ามากระทบ
ความถือตัวตนก็บังเกิดกำเริบขึ้น ได้ยินแล้วร้อนหู ได้เห็นแล้วร้อนตา  ส่วนใหญ่มักเอา
ตัวเองเข้าไปเปรียบเทียบ เอาตัวเองเข้าไปวัด แล้วกำหนดมาตรฐานขึ้นมาเอง ถ้าสามารถ
ทนรับวิบัติผลของความโกรธที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสแสดงชี้แจงโทษไว้ได้ ก็ไม่ต้องปรับปรุง
แก้ไขอะไร เพียงแค่อยู่ให้ห่างจากผู้คนเอาไว้ จะได้ไม่ไปสร้างโทษภัยให้แก่ผู้อื่น แต่ถ้า
อ่านแล้วได้พิจารณาเห็นโทษของความโกรธอย่างชัดเจน ต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไข
ถอนพิษภัยของความโกรธให้หมดสิ้น ก็ควรทำการฝึกฝนพระเฉลิมชาติ ชาติวโร
พระธรรมทูตเชิงลึกแดนพุทธภูมิ
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ๙๘๐



"อุณาโลม" พระพุทธไตรรัตนนายก วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา
ของเดิมเป็นอัญมณีสวยงามมาก ถูกถอดเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย
ถ่ายภาพ : Mckaforce - แอ็ดมิน สุขใจดอทคอม

กัมมัฏฐาน ฐานที่ตั้งของกายนี้แหละ กายเขาไม่รู้แจ้ง จะรู้แจ้งก็รู้แจ้งที่ใจนี่แหละ
เอาใจละสิ่งทั้งหลายที่มาทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ  มาทางตา
ที่พอใจก็ดี ไม่พอใจก็ดี  มาทางหู ที่พอใจก็ดี ไม่พอใจก็ดี  มาทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย
ที่พอใจก็ดี ที่ไม่พอใจก็ดี เอาศีลนี่แหละนำออกเสียด้วยปัญญาของตนออกไปจากใจนี้หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่


พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป ที่วัดอรัญญวิเวก (บ้านปง) ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

“คนเรา มีภูมิจิตภูมิธรรมต่างกัน ฝึกปฏิบัติมาไม่เท่ากัน
จะให้ทุกคนรู้เหมือนเรา เข้าใจเราทุกอย่างไม่ได้
เมื่อเขาทำพลาดไป เราควรให้อภัย วันหนึ่งเขาจะรู้เอง ทำได้ถูกต้องเอง”
วาทะธรรม พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป  



รูปหล่อหลวงปู่เทศก์ เทสรังสี  วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย

“..ถ้าความตายมาปรากฏให้เห็นเฉพาะหน้า น้อมนำเอามาพิจารณาถึงตัวของเรา ว่าเราก็จะต้องเป็นเช่นเดียวกันนั้น
ตายแล้วเปื่อยเน่าเป็นอสุภ แม้มีชีวิตอยู่ ก็ปฏิกูลโสโครก เป็นของน่าเบื่อหน่าย แล้วจะหายจากความเกลียดความกลัว
และจะมุ่งหน้าบำเพ็ญแต่ความดี อันมีสาระให้เกิดประโยชน์แก่ตนทั้งโลกนี้และโลกหน้า สมกับธรรมที่ว่า
ธมฺมกาโม ภวํ โหติ ผู้ใคร่ต่อธรรม เป็นผู้เจริญ...”ธรรมคำสอน หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี



กุฏิที่พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล เคยอยู่จำพรรษา
วัดดอนธาตุ ตำบลทรายมูล อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี
เป็นกุฏิไม้เล็กๆ ขนาดห้อง ๒.๕๐x๔.๐๐ ตารางเมตร ยกใต้ถุนสูง ๑.๒๐ เมตร

การนอนเป็นเวลา ฉันเป็นเวลา อาบน้ำเข้าห้องน้ำเป็นเวลา
มันเป็นอุบายสร้างพลังจิต แล้วทำให้เรามีความจริงใจ ทีนี้นักปฏิบัติทั้งหลาย
ไม่ได้ทำอย่างนี้ แม้แต่นักสะกดจิต เขาก็ยังยึดหลักอันนี้
เรื่องราวของหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล
บอกเล่าโดย พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)



ภาพจาก : งานเทศกาลตักบาตรเทียน เมืองโบราณโคกไม้เดน อำเภอพยุหะครี จังหวัดนครสวรรค์ (๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐)
ถ่ายภาพ : Mckaforce แอ็ดมินเว็บไซท์ สุขใจดอทคอม

มาตาปุตุคุณกถา
สุนทรภู่กวีไทยกล่าวไว้ว่า
“แม้ลูกชั่วหัวดื้อทำสือรู้ จนพี่ป้าย่าปู่ไม่รู้จักผลาญพงศ์เผ่าเหล่ากอทรลักษณ์ ชื่อว่าอกตัญญูชาติงูพิษ”
ธรรมดาคนที่ไม่ดีนั้นเป็นคนไม่รู้จักใครๆ ทั้งนั้น
มารดาบิดาของตนแท้ๆ ก็ไม่รู้จัก ญาติพี่น้องก็ไม่รู้จัก
ไม่รู้จนกระทั่งตนของตน ไม่ทราบว่าเราเป็นอะไรกับท่านผู้อื่น
มีแต่คอยผลาญพงศ์เผ่าเหล่ากอของตนเท่านั้น  
คนผู้ดีมีกตัญญูจึงเป็นผู้รู้จักหน้าที่ของตน

พระธรรมเทศนา เรื่อง มาตาปุตุคุณกถา
อบรมสั่งสอนพระภิกษุสามเณรและญาติโยม
ของ พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (พระอาจารย์วัน อุตฺตโม)
วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร



ถ่ายภาพ : Mckaforce แอ็ดมินเว็บไซท์ สุขใจดอทคอม

อริยะชน ท่านผู้รู้ ปราชญ์ บัณฑิต มองเห็นการเกิดน่าเบื่อหน่าย
พร้อมๆ กับดิ้นรนปลีกตัวหนีแร้วบ่วงห่วงผูกมัดรัดพันธนาการโดยเห็นด้วยปัญญา
.....จึงพ้นทุกข์.....
คมวาทะ - หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์



ภาพจาก : วัดมเหยงคณ์ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

เรื่องสวดมนต์นั้น เราจะสวดได้เพียงไร แค่ไหนไม่สำคัญ
แม้จะได้แต่เพียง นะโม ตัสสะ ภะคะวะโร อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ จบอยู่แค่นั้น
ก็สวดอยู่แค่นั้นแหละ แล้วก็สวดด้วยความมั่นใจ เป็นอุบายสำหรับอบรมจิตใจ
อุบายกระตุ้นความรู้สึกให้มีความตั้งมั่นลงในคุณความดี
ทีนี้ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ก็คือ คุณธรรม อย่าไปน้อยอกน้อยใจ
ผู้ที่ท่องสวดมนต์ไม่ได้มาก อย่าไปน้อยใจ จำอะไรไม่ได้ก็จำ พุทโธๆๆ
หรือ ยุบหนอ พองหนอ เพียงคำเดียวเท่านั้นให้ได้

คำสอน พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)
อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
p450 al.24



ภาพจาก : วัดมเหยงคณ์ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

เรื่องที่จิตของเราไม่หยุดนิ่ง ทำให้จิตของเรานี้ไม่มีความแน่วแน่
เหมือนกันกับน้ำที่มันไหลบ่าไปทุกแห่งทุกหน น้ำนั้นจะไม่มีกำลัง จะเซาะดินก็ไม่ได้
จะพัดเอาสิ่งต่างๆ ไปก็ไม่ได้ ต่างจากน้ำที่มันไหลรวมกันไป ถ้าน้ำที่มันไหลรวมกันไป
สามารถที่จะเซาะดินให้เป็นห้วย เป็นคลองลงไปได้ คือมันไหลในห้วยในคลอง ก็สามารถ
พัดเอาขอนเอาไม้ ตลอดถึงหินหนักๆ มันก็ยังพัดเอาไปได้ เพราะมันมีกำลัง  
ฉันใด จิตของเราก็ฉันนั้น เมื่อจิตของเรามันแตกซ่านไปตามอารมณ์ จิตนี้ก็จะไม่มีกำลัง
ถ้าจิตของเรามันรวมแน่วแน่ จดจ่อในสิ่งเดียว จิตก็จะมีกำลังขึ้น เมื่อจิตของเรามีกำลัง
จิตนี้ก็จะต่อต้านกับกิเลสที่มันเกิดขึ้นกับจิตใจของเรา หรือเวลาเรากระทบอารมณ์
จิตของเราก็จะต่อต้านกับความกระทบในอารมณ์นั้้นๆ ไม่ให้เกิดความชอบใจ ความเสียใจ
คำสอน พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (พระอาจารย์วัน  อุตฺตโม)
วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลุนคร



การแสดงลอดบ่วงไฟ งานประเพณีตรุษจีนปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์
photo by Mckaforce : admin site sookjai.com

"โลกไม่ได้วุ่นวาย ใจเราต่างหากที่วุ่นวาย"
วาทะธรรม พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี




"เราเกิดมาเป็นมนุษย์ในชาตินี้ ควรรีบเร่งทุกเวลา อย่าชักช้าจะเสียการ
จงตั้งใจพยายามฝึกจิต ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบให้ทัน"
วาทะธรรม : หลวงปู่เสาร์ - พระครูวิเวกพุทธกิจ (เสาร์ กนฺตสีโล)
วัดเลียบ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี







ปญฺจกฺขนฺธาทุกฺขา
เบญจขันธ์ เป็นทุกข์อย่างยิ่งทีเดียว พวกเราแบกหามอยู่เรื่อยๆ
ไม่รู้จักปลงวิธีไหน ไม่เหมือนพระอริยเจ้า รู้จักปลง เจริญสมถะ เจริญวิปัสสนา
ให้แคล่วคล่อง ให้เก่งกล้า ปลงด้วยวิธีนี้ พวกเราปลงไม่ได้ หาบอยู่อย่างนั้น
หนักอยู่อย่างนั้นเอง หนัก รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หนักขนาดไหน
ต้องหาเรื่องอาหาร เรื่องกาย ต้องหาเครื่องประดับ ต้องหาผ้าหากางเกง หาซิ่นนุ่ง
หมดไปหลายร้อยตั้งแต่เด็กๆ มา ข้าวก็หมดไปหลายยุ้งหลายฉาง มันหนักถึงขนาดนั้น
ทีเดียวนะ แต่ก็ไม่ปลง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เหมือน สมถวิธี วิปัสสนาวิธี
ธรรมคำสอน หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร
วัดถ้ำผาบิ้ง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย



เมตตา
อย่ากลัว จงรักษาตัวให้บริสุทธิ์ ไม่มีอะไรทำอันตรายได้
เจ้าจงจำไว้ ถ้าปรารถนาความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจจากผู้อื่น
ก็ควรส่งกระแสใจที่ประกอบด้วยเมตตาและความเห็นอกเห็นใจ ไปยังท่านเหล่านั้น
แล้วก็จะได้รับความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจจากท่านเหล่านั้นเช่นเดียวกัน
นี่เป็นกฎของจิตตานุภาพ แล้วความสำเร็จทั้งหลายที่ปรารถนาก็จะบังเกิดแก่ตน
สมประสงค์ทุกประเด็นแน่นอนไม่ต้องสงสัยเลย
วาทะธรรม ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ (พระภิกษุ พระยานรรัตนราชมานิต)
วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร





ภาพจาก : เมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ถ่ายภาพ : kimleng

“ปุพฺเพว สนฺนิวาเสน ปจฺจุปนฺนหิเตน วา
เอวนฺตํ ชายเต เปมํ อุปฺปลํ ว ยโถทเก”

พระพุทธองค์ตรัสว่า ปฐมเหตุแห่งความรักนั้นมี ๒ ประการคือ
เคยอยู่ร่วมกันมาแต่ปางก่อน ๑ และทำประโยชน์เกื้อกูลกันในปัจจุบันชาติ ๑ จึงจะเกิดขึ้นได้

 

วาสนาพาให้ไป

วาสนาพาให้ไป คือใครสั่งสมมาอย่างไรก็ไปตามนั้น และวาสนานี้แหละจะเป็นตัวการที่ทำให้ชีวิตของเราผันแปร
ไปตามมัน  เพราะฉะนั้นวาสนาจึงเป็นเหตุเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้โดยไม่รู้ตัว ท่านก็เลย
บอกว่าให้เรามาตั้งใจสร้างวาสนาให้ดี เพราะวาสนานั้นสร้างได้      คนไทยเราชอบพูดว่าวาสนานี้แข่งกันไม่ได้
แต่พระบอกว่าให้แก้ไขวาสนา ให้เราปรับปรุงวาสนาเพราะมันอยู่ที่ตัวเรา ที่สร้างมันขึ้นมา แต่การแก้ไขอาจจะ
ยากสักหน่อย เพราะความเคยชินนี้แก้ยากมาก แต่แก้ได้ปรับปรุงได้ ถ้าเราทำก็จะมีผลดีต่อชีวิตอย่างมากมาย
ขอให้จำไว้เป็นคติประจำใจเลยว่า "วาสนามีไว้แก้ไข ไม่ใช่มีไว้แข่งขัน"
คติธรรม : สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต ป.ธ.๙)




เป็นเด็กนี่สุขได้ง่าย เจออะไรนิดหน่อยก็หัวเราะแล้ว
แต่พอโตขึ้นชักสุขได้ยากขึ้น เพราะฉะนั้น ต้องระวัง ท่านจึงให้ไม่ประมาท
คติธรรม : สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต ป.ธ.๙)

Kimleng:


หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ
ขอขอบคุณที่มาภาพ : เว็บไซต์ ธรรมจักรดอทเน็ต

จิตวิญญาณที่ชอบเที่ยวเร่ร่อนไปตามวัฎฎะ จะต้องอยู่ในเขตเขตของกฏแห่งกรรม
ด้วยกันทั้งนั้น ผู้ที่นับถือศาสนาอะไร หรือผู้ที่ไม่นับถือศาสนาอะไร จะต้องอยู่ใน
อำนาจกฏแห่งกรรมด้วยกัน ไม่มีจิตวิญญาณใดอยู่เหนือกรรมนี้ไปได้เลย
วาทะธรรม...หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ
วัดป่าบ้านค้อ ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี    



หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
ขอขอบคุณที่มาภาพ : ธรรมจักรดอทเน็ต

เทวดาใจอยู่กับบุญ ฤๅษี โยคี เข้าฌาน ใจอยู่กับองค์ฌาน
พระอริยะอรหํ เข้านิโรธ ใจอยู่กับสมาบัติ สัญญาเวทนานิยตนิโรธ
พระอรหํ พระพุทธ พระปัจเจกก์ ใจอยู่กับองค์พระธรรม
มนุษย์ สัตว์ เปรต ผี อสุรกาย สัตว์นรก ใจก็อยู่ในรูปนั้นในภพนั้นๆ
หมดกำหนดอายุ ใจก็เปลี่ยนภพไป
คติธรรม : หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ




“.. .บุคคลใดมั่นใจในคุณค่าแห่งชีวิตตนจนเป็นผู้ที่พร้อมจะตายได้ทุกเวลา
บุคคลนั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้ปฏิบัติต่อชีวิตตนอย่างถูกต้อง ตรงต่อคุณค่า
และสาระของชีวิตนั้น   แม้จะต้องสูญเสียชีวิตคือตายลงเวลาใดก็ไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดทุกข์เพราะความโศกเศร้าเสียดายในชีวิตตน...”
วาทะธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)



พระโพธิญาณเถระ (ชา  สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

การปฏิบัติคืออำนาจ
พระพุทธศาสนาไม่มีอำนาจอะไรเลย แม้นก้อนทองคำก็ไม่มีราคา ถ้าเราไม่มารวมกันว่ามันเป็นโลหะที่ดีมีราคา
ทองคำมันก็ถูกทิ้งเหมือนก้อนตะกั่วเท่านั้นแหละ  พระพุทธศาสนาตั้งไว้มีอยู่ แต่ถ้าเราไม่ประพฤติปฏิบัติ จะไป
มีอำนาจอะไรเล่า อย่างธรรมะเรื่องขันติมีอยู่ แต่เราไม่อดทนกัน มันจะมีอำนาจอะไรไหม?คติธรรม หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี



หลวงปู่บุดดา ถาวโร

พรหมจรรย์
ภิกษุทั้งหลาย......
พรหมจรรย์นี้ เราประพฤติเพื่อมิใช่หลอกลวงคน  พรหมจรรย์นี้ เราประพฤติเพื่อมิใช่ให้คนเคารพ กราบไหว้บูชา
พรหมจรรย์นี้ เราประพฤติเพื่อมิใช่หวังลาภยศ เกียรติ สรรเสริญ เพื่อมิใช่เป็นศาสดาเจ้าลัทธิ เพื่อล้มล้างลัทธิอื่น
แต่พรหมจรรย์นี้ เราประพฤติเพื่อ..สำรวม..ระวัง และในที่สุดเพื่อ นิโรธะ  เพื่อความดับสิ้นไปแห่งทุกข์เท่านั้นแล.คติธรรม หลวงปู่บุดดา ถาวโร  วัดกลางชูศรีเจริญสุข อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี



พระภาวนาเขมคุณ วิ. (พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรํสี)
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธา

มิจฉาทิฏฐิ ได้แก่ ความเห็นผิด เห็นไปว่าการให้ทานไม่มีผล การบูชาไม่มีผล
การเซ่นสรวงไม่มีผล  การทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วไม่ได้ชั่ว คุณบิดามารดาไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี
เรียกว่าปฏิเสธชาตินี้ชาติหน้า สัตว์ที่เป็นโอปปาติกะไม่มี นรกสวรรค์ไม่มี สมณพราหมณ์ผู้ปฏิบัติดี
ปฏิบัติชอบ รู้แจ้ง และสั่งสอนผู้อื่นได้ไม่มี หรือปฏิเสธพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหล่านี้ล้วนเป็นมิจฉาทิฐิ

ทีมา (บางส่วน) พระธรรมเทศนา เรื่อง"พระรัตนตรัย" โดย พระภาวนาเขมคุณ วิ. (พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรํสี)



ภาพจาก วัดมเหยงคณ์ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธา

ธรรมดาจิต
"จิต ธรรมดาเป็นของผ่องใส อาคันตุกะกิเลส มันพาให้เศร้าหมอง
ท่านจึงทำให้สะอาดได้ ที่มาหัดทำสมาธิภาวนานี่ก็ทำให้เพื่อกิเลสหมดสิ้นไป"
พระครูปราโมทย์ธรรมธาดา (หลวงปู่หลอด ปโมทิโต)



เมื่อความต้องการจะประกอบธุรกิจใดๆ เกิดขึ้น  ย่อมจำปรารถนาสหายมาเป็นมิตรในงาน
ธุรการนั้นๆ จึงจะสำเร็จไปได้ตามประสงค์ ฉันใด บุญที่ทำไว้ก็ฉันนั้น คือบุญย่อมเป็นมิตร
คอยสนับสนุนสนองสุขสมบัติอันเป็นที่ปรารถนาต้องการ ดุจมีผู้ศักดิ์สิทธิ์คอยดลบันดาล
ให้เป็นไปในสัมปรายภพ  ข้อนี้เป็นบุญญานุภาพอันน่าเห็นเป็นอัศจรรย์   ต้องตามคาถา
ประพันธ์พุทธภาษิตว่า  สหาโย อตฺถชาตสฺส         โหติ มิตฺตํ ปุนปฺปุนํ  สยํ กตานิ ปุญฺญานิ   ตํ มิตฺตํ สมฺปรายิกํ แปลความว่า  ทุกครั้งไปสหายเป็นมิตรในงานของผู้เกิดความต้องการประกอบธุรกิจ บุญที่
ทำไว้เองก็เช่นเดียวกัน คือบุญนั้นเป็นมิตรติดตามไปอำนวยสุขสมบัติให้ในสัมปรายภพดังนี้



"มีวินัยเป็นวัตร  วินัยจะทำให้เกิดศีลบริสุทธิ์  ทำศีลให้บริสุทธิ์
ศีลจะนำไปสู่การเป็นสมาธิ เกิดสมาธิจะนำไปสู่การเกิดปัญญา
ปัญญาจะเกิดขึ้นเอง รักษาวินัยให้แน่วแน่   ตั้งจิตให้เป็นหนึ่ง"
คติธรรม หลวงปู่ทองรัตน์ กันตสีโล 
พระวิปัสสนาจารย์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
วัดป่าบ้านคุ้ม ต.โคกสว่าง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี
เทศนาพิเศษ : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก





บุญ คือ ความเป็นผู้ให้ ความทำตัวไม่ให้เป็นเวรเป็นภัย ความมุ่งดีและรู้จักดี. ข้อแรกดีคือทาน
ข้อสองก็คือศีล ข้อสามก็คือภาวนา  คือความอบรมจิตใจและปัญญาให้เกิดความมุ่งดี และรู้จักดี
เหล่านี้เป็นตัวความดีเครื่องเกื้อกูลความสุข ทุกๆ อย่างได้ชื่อว่าเป็นบุญ เป็นเครื่องฟอกชำระล้าง
ความชั่วและความทุกข์ให้หมดไปโดยลำดับ บุญนี้แหละเป็นเครื่องทำโลกนี้ให้เป็นโลกของความดี
ให้เป็นโลกสวรรค์ คือเป็นโลกที่มีสุข  ทำบุญ ก็คือทำความดีดังพรรณนามา แต่จะได้ก็ต้องอาศัย
ความพากเพียรพยายาม ยิ่งเพียรมาก บุญก็ยิ่งมาก ยิ่งบุญมาก ก็ยิ่งล่วงทุกข์ได้มาก  สมดังพระ
พุทธภาษิตที่ว่า วิริเยน ทุกขมจฺเจติ  คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียรเทศนาพิเศษ : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

Kimleng:



บูชาท่านผู้ควรบูชา ย่อมประสบความดีและความสุขโดยตลอด เพราะท่านผู้ควรบูชา
ย่อมเป็นบุญเขตอันประเสริฐ  เมื่อบ่ายหน้าเข้าไปใกล้ได้พบเห็น ก็ชื่อว่าได้บ่ายหน้า
เข้าไปใกล้บุญเขต ได้พบเห็นบุญเขต เมื่อใกล้บุญก็ไกลบาป อันตรงกันข้าม อาศัย
เหตุนี้ จึงมีพระพุทธภาษิตตรัสยกการเห็นสมณะผู้สงบบาปทั้งหลายเป็นมงคลว่าสมณานญฺจ ทสฺสนํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ
"การเห็นสมณะทั้งหลาย เป็นมงคลอันอุดม"
เทศนาพิเศษ : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  




ความรู้กาย เป็นความรู้ทางโลก  ความรู้จิต เป็นความรู้ทางธรรม
เมื่อมีศีลก็พ้นจากกิเลสอย่างหยาบด้วยศีล  เมื่อมีสมาธิ ก็พ้นจากกิเลสอย่างกลางด้วยสมาธิ
เมื่อมีปัญญา ก็พ้นจากกิเลสอย่างละเอียดด้วยปัญญา  ความพ้นจากกิเลสอย่างหยาบ กลาง
ละเอียด เป็นวิมุตติโดยลำดับบันทึกเทศนา : สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์




เทฺวเม ธมฺมา พหุปการา กตเม เทฺว สติ จ สมฺปชญฺญญฺจ
พระพุทธเจ้า ได้ทรงอาศัยสติ คือ ความระลึกได้ สัมปชัญญะ คือความรู้ตัว
อันเป็นตัวปัญญา อุดหนุนการปฏิบัติ จึงได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า แล้วทรง
แสดงธรรมเพื่อให้ผู้ฟังรู้ถูกรู้จริง อันเรียกว่า "สัจจธรรม" บันทึกเทศนา : สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
600-26

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป