หวั่นความก้าวหน้าของ AI ทำให้ผู้หญิงเสี่ยงตกงานมากกว่าผู้ชาย
<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2023-08-04 10:09</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>การศึกษาใหม่ของ McKinsey ที่เผยแพร่เมื่อเดือน ก.ค. 2566 ระบุว่าความก้าวหน้าของ AI ทำให้ผู้หญิงมีความเสี่ยงสูงที่จะตกงาน เมื่อเทียบกับผู้ชาย</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/52719210326_4e692ed454_o_d.png" /></p>
<p>6 ส.ค. 2566 การศึกษาใหม่ของ McKinsey Global Institute ที่เผยแพร่เมื่อเดือน ก.ค. 2566 ชี้ว่าผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะตกงานมากกว่าเมื่อเทียบกับผู้ชาย เพราะการพัฒนาเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน งานที่ผู้หญิงทำส่วนใหญ่จะหายไปภายในปี 2573 โดยผู้หญิง 8 ใน 10 คน จะถูกบังคับให้ย้ายไปทำงานอื่นหรือตกงานเพราะปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติในที่ทำงาน</p>
<p>จูเลีย พอลลัค (Julia Pollak) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ZipRecruiter เรียกผลลัพธ์ว่า “น่าตกใจ” ในการให้สัมภาษณ์กับ CNN แต่เสริมว่า “ฉันคิดว่าโดยสัญชาตญาณพวกเราหลายคนเชื่อว่าการใช้ระบบอัตโนมัติในสำนักงาน จะง่ายกว่าการใช้ในงานช่างไม้ งานช่างไฟฟ้า งานกำจัดแมลง — งานบริการและการผลิตอื่นๆ ซึ่งมนุษย์ต้องทำด้วยตนเอง ส่วนใหญ่เป็นงานของผู้ชาย”</p>
<p>การศึกษาชี้ให้เห็นว่างานที่มีค่าแรงต่ำจะได้รับผลกระทบจาก AI มากที่สุด ซึ่งตำแหน่งงานเหล่านั้นเป็นของผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในรายงานระบุว่า “ผู้หญิงมีบทบาทอย่างมากในงานสำนักงานและงานบริการลูกค้า ซึ่งการเข้ามาของ AI อาจลดจำนวนงานเหล่านี้ลง 5.7 ล้านตำแหน่ง (งานสำนักงาน 3.7 ล้านตำแหน่ง งานบริการลูกค้า 2 ล้านตำแหน่ง) ภายในปี 2573”</p>
<p>งานค่าแรงต่ำอื่นๆ ที่ผู้หญิงทำเป็นหลัก ซึ่งรวมถึงพนักงานร้านค้าปลีกและแคชเชียร์ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน เช่นเดียวกับงานของวิศวกรโยธา การศึกษาระบุว่า AI จะช่วยวิศวกร "เร่งกระบวนการออกแบบ อาคารทั้งหมดเพื่อลดข้อผิดพลาดและการทำงานซ้ำที่น้อยลง" การศึกษายังระบุด้วยว่าคนงานผิวดำและคนเชื้อสายฮิสแปนิก มีแนวโน้มที่จะต้องหางานใหม่ภายในสิ้นทศวรรษนี้ ควบคู่ไปกับคนทำงานที่ไม่มีวุฒิการศึกษาระดับวิทยาลัย รวมถึงคนทำงานที่มีอายุมากที่สุดและอายุน้อยที่สุดในที่ทำงาน</p>
<p>จากการศึกษาแนะนำว่าผู้หญิงที่จะได้รับผลกระทบจากการพัฒนา AI จะต้องเพิ่มพูนทักษะของตนเพื่อให้มีความเกี่ยวข้องในที่ทำงานและก้าวไปสู่ตำแหน่งอื่น คนทำงานงานจะต้องปรับตัวให้เข้ากับความท้าทายจากการใช้งาน AI และยังแนะนำให้บริษัทต่างๆ รับสมัคร จ้าง และฝึกอบรมคนทำงานที่มีศักยภาพในการเรียนรู้วิธีการทำงานควบคู่ไปกับระบบอัตโนมัติ และการถ่ายโอนคนทำงานไปยังบทบาทอื่นๆ ที่พวกเขาสามารถเติบโตได้</p>
<p>สำหรับอุตสาหกรรมที่มีค่าแรงต่ำ าน 1.1 ล้านตำแหน่งอาจจะหายไป แต่จำนวนคนทำงานที่ได้รับค่าตอบแทนสูงอาจเพิ่มขึ้นมากกว่า 3.8 ล้านตำแหน่ง โดยรวมแล้ว “ไม่น่าจะเป็นหายนะ” ไมเคิล ชุย (Michael Chui) หุ้นส่วนของ McKinsey Global Institute กล่าวกับ Bloomberg เขาเสริม แต่มันก็ยัง "จะเปลี่ยนงานเกือบทุกงาน"</p>
<p>“บางครั้งในการสนทนาเกี่ยวกับ AI เรามักใช้มุมมองผิดๆ คือเรามักมององค์ประกอบของงานต่างๆ เป็นแบบคงที่ — งานก็คืองานและมีความรับผิดชอบที่ตายตัว” เบน ซไวก์ (Ben Zweig) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Revelio กล่าวกับ CNN “แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ เพราะงานมันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา”</p>
<p><strong>ที่มา:</strong>
AI Advancements Put Women at Greater Risk of Losing Their Jobs, New Study Says (Nikki Main, Yahoo News, 27 July 2023)</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/08/105313