[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 22 พฤษภาคม 2555 14:39:34



หัวข้อ: ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ "กุมารทอง-เจ้าพ่อหนูแดง"
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 22 พฤษภาคม 2555 14:39:34
ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่  - กุมารทอง-  เจ้าพ่อหนูแดง


คนรุ่นพ่อแม่ปู่ย่า เมื่อ ๗๐-๘๐ ปีที่แล้ว  เชื่อเรื่องผีสางนางไม้มากกว่าคนรุ่นลูกหลาน  คนรุ่นใหม่มักตั้งคำถามว่า ชีวิตหลังความตายเป็นเช่นใด  ผีมีจริงหรือ?
ข่าวขโมยซากเด็กทารกเอาไปทำกุมารทอง  ตำรวจที่จับได้ได้ยินเสียเด็กร้องไห้  ทำให้นึกถึงเรื่องขุนแผนผ่าท้องนางบัวคลี่เอาเด็กในท้องมาย่างทำกุมารทอง ใช้เป็นศาสตราวุธสำคัญในการหาข่าว กุมารทองของขุนแผนมีฤทธิ์เดชมาก เพราะคนเป็นพ่อตั้งใจเอาลูกของตัวเองมาใช้   ต่างจากกุมารทองต่อ ๆ มา ไม่ว่าจะในตำราไสยศาสตร์หรือของ “เณรแอ”  ล้วนแต่ต้องไปจ้องหาศพทารกลูกคนอื่น

กระบวนการเสกปั้นเป็นกุมารทอง มองได้ว่าเพราะใช้วิชา ใช้คาถา แต่กุมารทองสไตล์จิตอาสามาเอง ชั่วชีวิตผม*ก็เพิ่งได้รู้จากหนังสืออัตชีวประวัติของ พล.อ.อ. ประหยัด ดิษยะศริน  ที่บ้าน พล.อ.อ. ประหยัด  ดิษยะศริน และที่บ้านพี่ ๆ ของท่านมีศาลเจ้าพ่อหนูแดง  พล.อ.อ. ประหยัด เขียนว่า ในกาลครั้งหนึ่งสมัยคุณพ่อคุณแม่  คืนหนึ่งคุณแม่ฝันว่าเด็กชายตัวน้อยนุ่งผ้าโจงกระเบนสีแดง  เกล้าผมจุก  ปักปิ่น  ไม่สวมเสื้อ  แต่สวมสร้อยสังวาล  มือขวาถือพระขรรค์  มือซ้ายถือนกหวีด  นั่งบนหลังจระเข้ใหญ่  ว่ายน้ำเข้ามาหาคุณแม่ที่ท่าน้ำหน้าบ้าน

คืนนั้นพระจันทร์เต็มดวง น้ำเต็มสองฝั่งคลอง  เด็กคนนั้นพูดว่า “บ้านหลังนี้น่าอยู่ คงสุขสบายดี ขออยู่ด้วยคนได้ไหม ?”  ในฝันคุณแม่ไม่ได้ตอบอะไร  ตื่นขึ้นมาก็คิดว่าเป็นความฝันธรรมดา  สามคืนต่อมาแม่ก็ฝันอีก  ทุกเรื่องเหมือนความฝันคราวก่อน  ฝันจบคุณแม่ตื่น  เล่าความฝันสองครั้งให้คุณพ่อฟัง

ไม่กี่วันต่อมา คุณพ่อก็สร้างศาลขึ้นในบ้าน วันทำพิธียกศาลเชิญหนูแดงมาประทับ มีการเชิญแขกเหรื่อ แขกคนหนึ่งนำหัวจระเข้สตัฟฟ์ตัวใหญ่มาให้เป็นขวัญ คุณพ่อเห็นแล้วก็รู้ว่าหัวจระเข้เป็นของคู่บุญกับ“หนูแดง”  นับแต่มีหนูแดงร่วมบ้าน พล.อ.อ. ประหยัดเล่าว่าเมื่อคนในบ้านประสบภัยพิบัติทุกข์ร้อน บางเรื่องไม่ได้จุดธูปบอกเล่า เจ้าพ่อหนูแดงก็ช่วย

ครั้งหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่นำเรือยนต์ลากเรือบรรทุกข้าวจากอำเภอธัญบุรีมาในคลองรังสิต  ถึงสี่แยกมีคลองซอยตัดผ่าน ก็ถูกเรือยนต์ลำใหญ่วิ่งตัดท้ายเรือยนต์ดึงเชือกเรือพ่วง  ทำเอาเรือยนต์และเรือพ่วงคว่ำจมน้ำทันที..ไม่มีใครเป็นอันตราย ช่วยกันงมหาทรัพย์สินเงินทองของมีค่าที่ตกจมใต้น้ำก็เกิดเรื่องแปลกอีก ปักไม้ดำลงไปตรงไหน หีบกำปั่น  เงินเหรียญเป็นพวงทุกพวง**เชื่ยนหมากเงิน- นาก ฯลฯ  ก็งมได้จนครบทุกชิ้น

เระหว่างกู้เรือ จรจาค่าเสียหาย  พล.อ.อ.ประหยัดเล่าว่าตอนนั้นยังเล็กมากอยู่กันในบ้าน จึงจำเรื่องราวได้ไม่ลืม..จู่ ๆ พี่สังข์ แม่บ้านที่คุณแม่เลี้ยงไว้เหมือนลูกบุญธรรม ก็เกิดอาการ “ผีเข้า” คนในบ้านแตกตื่นตั้งสติถาม ได้ความว่า “หนูแดงประทับทรงเล่าว่า เหนื่อยมาก เพิ่งไปช่วยคุณพ่อคุณแม่ที่เรือคว่ำ”    ตอนหนูแดงบอก คนในบ้านยังไม่เข้าใจเกิดอะไรกันแน่   จนกระทั่งเรือคุณพ่อคุณแม่มาถึงบ้านจึงเข้าใจ และยิ่งเลื่อมใส “หนูแดง” มากขึ้น

พล.อ.อ.ประหยัด ว่า “คนรุ่นใหม่เขาไม่เชื่อ”   “บางคนเผลอไปลบหลู่ท่านก็มักเจอปาฏิหาริย์ลงโทษแบบสั่งสอน”    แต่สำหรับ พล.อ.อ.ประหยัด นั้น...“เชื่อท่านมาก  บูชาทุกคืนก่อนนอน”



ย่อความจาก  “หนูแดง  กุมารทองจิตอาสา”   คอลัมภ์ ชักธงรบ     โดย กิเลน  ประลองเชิง   นสพ.ไทยรัฐ  ฉบับประจำวันพุธที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕




* หมายถึง กิเลน  ประลองเชิง...กิมเล้ง
** สมัยก่อนเงินเหรียญจะมีรูตรงกลาง เข้าใจว่าคงร้อยเก็บเป็นพวง ๆ ....กิมเล้ง


(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSoht1s44ex4gVPGeWU5N3x0Mfw4s2WKRDifgoKIsISkcCNvCF_bEc1WqU)
     ภาพจาก : chaiediter.blogspot.com

 


หัวข้อ: Re: ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ "กุมารทอง-เจ้าพ่อหนูแดง"
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 พฤษภาคม 2555 11:41:59

(http://news.tlcthai.com/wp-content/uploads/2012/05/กุมารทอง-610x328.jpg)
ภาพจาก : news.tlcthai.com


กุมารทองส่งออก


ข่าวคราวการจับกุมตัวนายโจว  ฮองฮุน  อายุ ๒๘ ปี ชาวไต้หวัน  ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านเยาวราช  เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕  พร้อมของกลางที่เล่นเอาตื่นตะลึง  เนื่องจากเป็นซากศพเด็กทารก ๖ ศพ  บางซากอยู่ในสภาพแห้งกรัง  อวัยวะค่อนข้างสมบูรณ์  บางซากศพอยู่ในสภาพผ่านการทำพิธีลงรักปิดทอง เหมือนผ่านการปลุกเสกลงอักขระภาษาขอมโบราณ   มัดสายสิญจน์   ทำเป็น “กุมารทอง”  มาแล้วเรียบร้อย  บรรจุอย่างดีภายในกล่องกระดาษ นั้น

นายโจว  ฮอง ฮุน  ให้การอ้างว่า ได้ซื้อซากศพทารกมาจากชายชาวไต้หวันที่อยู่ในประเทศไทยราคา ๒ แสนบาท เพื่อนำกลับไปขายยังประเทศไต้หวัน  เนื่องจากมีบางกลุ่มนิยมด้านไสยศาสตร์  เชื่อกันว่าหากนำ “กุมารทอง”   ไปบูชาแล้วจะช่วยให้ทำการค้าเจริญรุ่งเรือมีเงินทองมั่งคั่ง

อย่างไรก็ดี เหตุการณ์คดีจับซากทารกยังมีสิ่งลี้ลับเหลือเชื่อติดตามมาให้เห็น  เรียกว่าใครไม่เชื่อก็ไม่กล้าลบหลู่  แรงเฮี้ยนของซากทารกไม่ธรรมดา  เพราะก่อนจะมีการจับกุม มีคนร่ำลือว่าได้ยินเหมือนเสียงเด็กร้องขอความช่วยเหลือออกมาจากในห้องเกิดเหตุที่โรงแรม   แต่ที่เล่นเอาฮือฮาขนหัวลุกยิ่งขึ้น  เมื่อมีการนำของกลางไปเก็บไว้ใน สน.พลับพลาไชย ๒  ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ   ก่อนจะถูกส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช  ช่วงกลางคืน มีตำรวจหญิงได้ยินเสียงเด็กร้อง  ทำให้ตอนเช้าต้องมีการจุดธูป  ซื้อขนม  น้ำหวาน  ของเล่นมาเซ่นไหว้กันเลยทีเดียว

ต้องยอมรับว่าในสถานการณ์โลกยุคปัจจุบัน  แม้วิทยาศาสตร์จะก้าวล้ำทันสมัยไปมากเพียงใด  แต่เรื่องราวความเร้นลับของไสยศาสตร์ก็ยังมีมนต์เสน่ห์ที่ผู้คนในหลายประเทศทั่วโลกยังคงหลงใหล




(http://news.tlcthai.com/wp-content/uploads/2012/05/กุมารทอง1-610x413.jpg)
ภาพจาก : news.tlcthai.com





ย่อความจาก “ตร.-สธ. จับตาขบวนการทำแท้งเถื่อน  หวั่นโยงใยแก๊งขาย ‘กุมารทอง’  ส่งออก”  หน้า ๒  นสพ.เดลินิวส์  ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ ๒๔ พ.ค. ๕๕ 

.