[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 11 ตุลาคม 2562 16:26:26



หัวข้อ: หลวงปู่พัน ฐานกโร วัดโพธิ์ชัยมงคล อ.นาทม จ.นครพนม
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 11 ตุลาคม 2562 16:26:26

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/39970055843392_view_resizing_images_1_320x200.jpg)

หลวงปู่พัน ฐานกโร
วัดโพธิ์ชัยมงคล อ.นาทม จ.นครพนม

หลวงปู่พัน ฐานกโร เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัยมงคล อ.นาทม จ.นครพนม พระเถระที่จำพรรษาอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ที่ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงรวมทั้งผู้ใกล้ชิดที่เลื่อมใสศรัทธาต่อท่าน แวะเวียนไปกราบไหว้และไปทำบุญไม่ขาดสาย

ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดและเปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและสาธุชนโดยทั่วไป มีจิตที่เปี่ยมด้วยความเมตตา อุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย

อีกทั้งท่านยังเป็นศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่บุญมา สุชีโว พระป่าสายกัมมัฏฐานใน ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

ดำรงชีวิตอยู่ในวัย 115 ปี พรรษา 46

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า นายพันธ์ศรี กันภัย ชาติภูมิเดิม เกิดในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ตรงกับวันที่ 6 มิ.ย.2448 ตรงกับปีมะเส็ง เป็นบุตรของนายสีคุณ และนางหวัด กันภัย เป็นบุตรคนโต ในจำนวนพี่น้องร่วมอุทร 5 คน

ในช่วงวัยเยาว์ หลังจบชั้น ป.4 ที่โรงเรียนในบ้านเกิด อ.คำเขื่อนแก้ว อายุ 13 ปี ได้เข้าพิธีบรรพชา 1 ปี ก่อนลาสิกขา

ครั้นย่างเข้าวัยหนุ่ม ถูกเกณฑ์ไปติดทหารรับใช้ชาติ สังกัดทหารบก ทำหน้าที่ยิงปืนใหญ่ ได้รับเงินเดือน 2 บาท

กระทั่งปลดประจำการ ใช้ชีวิตฆราวาสสักระยะ ก่อนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ อุปสมบทครั้งแรก เมื่ออายุ 25 ปี ก่อนจะลาสิกขาในเวลาต่อมา

กระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างปี 2482-2488 ยาวนาน 6 ปี ช่วงนั้นท่านได้ถูกเกณฑ์ในฐานะทหารกองเกินไปรบที่ฝั่งลาว ในเมืองยอน-เมืองเงา

เมื่อสงครามสงบ จึงใช้ชีวิตเฉกเช่นปุถุชนทั่วไป ทำนาและรับจ้างตีเหล็กและตีมีดพร้า ผ่านการครองเรือนมีภรรยา จนเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก ก่อนกลับเข้าสู่ร่วมกาสาวพัสตร์อีกครั้ง เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2516 โดยมีพระครูรัตนคุณาวสัย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอินทร์ตา สุจิตโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมัคร วิสุทโธ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ภายหลังอุปสมบท ท่านอยู่จำพรรษาที่วัดยอดแก้ว อ.นาทม จ.นครพนม ก่อนย้ายมาจำพรรษาที่วัดโพธิ์ชัยมงคล พ.ศ.2545 สามารถสอบนักธรรมชั้นตรีได้

พ.ศ.2553 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัยมงคล

ด้านวิทยาคม ท่านเคยร่ำเรียนวิชาจากหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน วัดท่าอุเทน จ.นครพนม พระเกจิชื่อดังผู้สร้างพระธาตุท่าอุเทน แต่ท่านไม่ค่อยคุยโอ้อวด ท่านยังได้เดินทางไปเรียนวิชากับหลายพระอาจารย์ ด้วยความเป็นพระที่ใฝ่หาความรู้วิชาอย่างจริงจัง

ต่อมา ฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐานควบคู่กับการศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมกับพระอาจารย์ที่เก่งในทางนี้

การศึกษาไม่มีที่สิ้นสุด ท่านยังได้ไปศึกษาเล่าเรียนวิชากับหลวงปู่บุญมา สุชีโว อีกด้วย

ตลอดระยะเวลาที่หลวงปู่พันอยู่ที่วัดโพธิ์ชัยมงคล ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ด้วยความเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีพรรษาสูง ได้รับความเคารพจากพระลูกวัดทั่วไป ท่านจึงบริหารงานด้านจัดระเบียบการปกครองวัด งานศึกษาสงเคราะห์ และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา

หลวงปู่พันมีปฏิปทาที่มั่นคง สงเคราะห์ญาติโยมที่เดือดร้อนมาโดยตลอด เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีสัจบารมีแน่วแน่มั่นคง ปฏิบัติเกื้อกูลต่อพุทธศาสนิกชนที่มากราบนมัสการอย่างสม่ำเสมอกัน กอปรกับเป็นพระเกจิอาจารย์เข้มขลัง ทำให้เกิดศรัทธา อย่างแรงกล้าจากสาธุชนทั้งใกล้-ไกล หลั่งไหลมากราบนมัสการ เพื่อความเป็นสิริมงคลมิขาดสาย

อย่างไรก็ตาม ระยะหลัง เพราะท่านมีโรคประจำตัวหอบหืด รับนิมนต์บางครั้ง แต่ไปไม่ไกล ไม่เคยเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล มีแต่ไปรับยาพ่นหอบหืดเดือนละครั้ง

สาเหตุที่หลวงปู่อายุยืนยาว ท่านชอบฉันเนื้อปลา อาหารพื้นบ้าน เช่น ลาบวัว แต่ฟันหมดปากแล้ว สูบยาเส้นเป็นบางครั้ง ผลไม้ชอบฉันทุเรียน พูดคุยสนุกสนานกับญาติโยม แต่หูซ้ายดับ มีเครื่องช่วยฟัง

หลวงปู่พันเป็นพระดีมีวินัยเคร่งครัด มีหลายคนเดินทางไปที่วัดของท่าน ปรากฏว่าท่านจะออกมาต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี และเมื่อเอ่ยปากขอท่านถ่ายรูป ท่านก็จะรีบเดินไปห่มผ้า และมาให้ถ่ายในทันทีเช่นกัน

นี่คือภาพของพระสงฆ์ที่เปี่ยมไปด้วยเมตตา มีหัวใจแห่งการสงเคราะห์ญาติโยมที่มากราบขอความเมตตาอย่างจริงใจ

อาจกล่าวได้ว่า เมืองนครพนม นับแต่สิ้นหลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพประดิษฐาราม, หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญญวิเวก, หลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน วัดท่าอุเทน ฯลฯ

ปัจจุบันพระเกจิอาจารย์ที่น่าเลื่อมใสศรัทธาและน่ากราบไหว้ได้อย่างสนิทใจอีกรูป คือ หลวงปู่พัน ฐานกโร 
ข่าวสดออนไลน์