[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
11 พฤศจิกายน 2567 02:21:28 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม  (อ่าน 19983 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 24 ธันวาคม 2552 18:26:06 »


ถาม- ตอบปัญหาธรรมะนี้คัดมาจาก หนังสือมนุษย์….เกิดมาทำไม (เล่ม๔)
ซึ่งรวบรวมและเรียบเรียงโดย คุณสุวัฒน์ พิทักษ์วงษ์ ได้คัดเลือกเพียงบางคำถาม- ตอบ
ซึ่งเป็นคำถาม- ตอบที่ไม่ได้จัดเรียงกันไว้ แต่จะคละกันอยู่ตามเรื่องของทาน ศีล สมาธิ เป็นต้น


ถาม : ที่กล่าวว่าไม่ให้ยึดติดทั้งดีและเลวนั้นหมายความว่าอย่างไร

ตอบ : อุปมาเปรียบเหมือนแพ อันบุคคลอาศัยแพ (ความดี ,บุญกุศล)
ข้ามน้ำ (วัฏสงสาร)ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องแบกแพขึ้นฝั่ง (พระนิพพาน)



ถาม : อะไรเป็นเหตุให้เกิดภพเกิดชาติไม่มีจบหรือสิ้นสุดของวัฏสงสาร


ตอบ : อุปธิ คือกิเลส กิเลสทำให้เกิดโมหะ ความโง่ คืออวิชชา
ทำให้เกิดชาติ อันไม่มีเงื่อนต้นเงื่อนปลาย วนเวียนเป็นวัฏฏะ
ทางแก้คือดับอวิชชา คือทำวิชชาให้เกิด วิชชาคือปัญญารู้แจ้ง
แก้ข้อสงสัยในโลกทั้งปวง โลกคือสังขาร เกิดแล้วแปรปรวน
เปลี่ยนแปลงสลายไป เมื่อรู้ก็ไม่ยึดถืออดีตไม่ยึดอนาคต
ไม่ยึดว่าเป็นเราเป็นเขา สัตว์ บุคคล ฯลฯ ก็จะไม่ต้องถามหาภพชาติต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ธันวาคม 2552 18:32:41 โดย CANDY » บันทึกการเข้า
 
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2552 09:35:42 »


ทีนี้เรื่องของการสร้างวัตถุกันแบบไม่รู้จักความพอดี   ไม่รู้จักบันยะบันยัง -
ไม่เห็นโทษในสิ่งเหล่านี้ก็ย่อมตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือแห่งมารอยู่แล้ว   
เพราะพระพุทธเจ้าตรัสว่า   วัตถุทั้งหมดคือเหยื่อล่อของมารผู้มีบาป   
วัตถุทั้งหมดเป็นสิ่งที่มารสรรเสริญเป็นอย่างยิ่งแล้ว     สรรเสริญยังไง?

สรรเสริญให้สัตว์ทั้งหลาย    ชมดินเพลินดิน - ชมน้ำเพลินน้ำ -
ชมลมเพลินลม - ชมไฟเพลินไฟ - ชมรูปเพลินรูป  - ชมเทวดาเพลินเทวดา -
ชมพรหมเพลินพรหม   อย่างนี้

เมื่อมารทราบว่า   ใครก็ตามที่จะหลุดพ้นไปจากอำนาจเหล่านี้ของมาร   
มารก็ย่อมจะพยายามทุกวิถีทางที่จะดึงผู้นั้นให้อยู่ภายใต้อำนาจตน

สำหรับนักบำเพ็ญคือชาวพุทธทั้งหลายที่ยึดถือวัตถุทั้งหลายนั้น   จึงต้องเผชิญ
กับศึกหนักทั้ง  2  ด้าน  คือทั้งมารภายในคือกิเลสของตน  และ 
มารภายนอกคือเทวปุตตมารนั้น

ที่นี้เมื่อนักบำเพ็ญทั้งหลายเชื่อธรรมของพระพุทธเจ้า   ก็ต้องสละวัตถุ
อันเป็นไปในภายนอกทั้งหมดเสียจะเหลืออยู่ก็คือวัตถุภายในคือร่างกายของตนนี้   
ก็จะเป็นการลดภาระที่หนักหน่วงในการเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทาง   
คือพระนิพพานได้เร็วขึ้ืน - ง่ายขึ้น - สะดวกขึ้น

เพราะฉะนั้น   ถ้าใครสรรเสริญวัตถุอย่างนั้นอย่างนี้   แล้วก็บอกให้ปราบมารอย่างนั้นอย่างนี้   
ก็เป็นอย่างที่โยมว่ามานั่้นแหละ  คือ   เป็นมารเสียเอง    ไม่มีวันที่จะรอดพ้นไปจากมารทั้ง
ภายในและภายนอกได้หรอก
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2552 09:47:04 »


วันนี้เป็นวันมหาปวารณา   คือวันที่ประกาศให้ผู้อื่นตักเตือนตนเองในส่วนที่
ตนเองกระทำผิดที่ผู้อื่นเห็นก็ดี   ได้ยินก็ดี   นึกสงสัยรังเกียจก็ดี   
ให้เปิดโอกาสต่อกันเพื่อทำการว่ากล่าวตักเตือนซักถามกันได้

เพราะฉะนั้นสมาชิกเวบสามแยกทุกท่านขอจงเปิดโอกาสต่อผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกัน
ให้ว่ากล่าวตักเตือนกันเมื่อเห็นกันทำผิดเช่น   สามี  กับ  ภรรยา   
ลูก  กับ  พ่อแม่   เพื่อนกับเพื่ีอน

เพื่อเป็นการระมัดระวังมายาของมารให้แก่กันและกันอีกวิธีหนึ่งด้วย


วัตถุทั้งหมดไม่ว่ารูปอะไรก็เป็นอย่างนี้แหละ...ไม่มีข้อยกเว้น เล่ม 66 หน้า 153

พระสมณะครั้นรู้รูปอย่างนี้แล้วจึงพิจารณารูป คือพิจารณาโดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นโรคเป็นดังหัวฝี เป็นดังลูกศร เป็นของลำบาก เป็นอาพาธ เป็นอย่างอื่น เป็นของชำรุด   
เป็นเสนียด   เป็นอุบาทว์์   เป็นภัย   เป็นอุปสรรค    เป็นของหวั่นไหว   
เป็นของแตกพัง    เป็นของไม่ยั่งยืน    เป็นของไม่มีที่ซ่อนเร้น   เป็นของไม่มีที่พึ่ง   
เป็นของว่าง    เป็นของเปล่า    เป็นของสูญ    เป็นอนัตตา   เป็นโทษ   เป็นของมี
ความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา    เป็นของไม่มีแก่นสาร    เป็นมูลแห่งความลำบาก     
เป็นดังเพชฌฆาต    เป็นของปราศจากความเจริญ   เป็นของมีอาสวะ (เป็นของหมักดอง)   
เป็นของอันเหตุปัจจัยปรุงแต่ง     เป็นเหยื่อแห่งมาร   เป็นของมีชาติเป็นธรรมดา   
เป็นของมีชราเป็นธรรมดา    เป็นของมีพยาธิ (ความเจ็บป่วย) เป็นธรรมดา 
เป็นของมีมรณะเป็นธรรมดา  เป็นของมีความโศก ความรำพัน  ความเจ็บกาย  ความเจ็บใจ
และความแค้นใจเป็นธรรมดา  เป็นของมีความเศร้าหมองเป็นธรรมดา  เป็นเหตุเกิดแห่งทุกข์   
เป็นของดับไป   เป็นของชวนให้หลงแช่มชื่น  เป็นอาทีนพ (เป็นของมีโทษ) 
เป็นนิสสรณะ(เป็นของต้องพรากจากไป)

***  แต่ก็ไม่ได้บังคับใครทุกคนให้ต้องเชื่อ - ต้องถือตามหรอกนะ   
ให้พิจารณาเอาตามสติปัญญาของแต่ละคนที่จะเอื้ออำนวยให้   


ใครอยากจะถือรูปยึดติดอยู่ในรูปว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก    ก็เอาตามที่ใจต้องการก็แล้วกัน
หรือใครจะเลิกถือรูปเลิกยึดติดรูปว่าเป็นที่พึ่งว่าเป็นที่ระลึก   ก็เอาตามที่ใจต้องการก็แล้วกันนะ   
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2552 09:52:38 »


สรุปสุดท้ายตามหัวข้อเรื่อง   "วิชาปราบมาร"
วิชาปราบมารนี้ไม่ว่าใครหน้าใหนๆ  ก็ตามที่บอกว่าตัวเองคิดขึ้นมาได้
แล้วเอามาโพนทะนาว่าต้องทำอย่างนั้นต้องทำอย่างนี้   

อันนี้ ไม่ต้องสันนิษฐานให้ยากเลย  ให้ทุกท่านรู้ไว้แต่เพียงฝ่ายเดียวว่า    ขี้โม้ทั้งเพ
มันไม่ใช่วิชาปราบมารหรอก   แต่มันคือ   วิชาส่งเสริมมารเท่านั้นเอง

วิชาปราบมารนี้ผู้ที่จะคิดได้ก็มีอยู่  2  ประเภทเท่านั้นในวัฏฏะจักรนี้  คือ

1.  พระปัจเจกพุทธเจ้้า    แต่ท่านก็ปราบมารได้เฉพาะตัวของท่านเท่านั้น   
ไม่สามารถที่จะปราบมารให้ผู้อื่นได้
2.  พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า   อันนี้ปราบได้ทั้งมารเฉพาะตัวของท่าน   
และบอกวิธีให้ผู้ิือื่นปราบมารของแต่ละคนได้อีกด้วย


วิชาปราบมารนี้มีอยู่แล้วคู่วัฏฏะจักร    แต่จะมีผู้เปิดเผยออกมาให้สาธารณชนรับรู้ได้
ในแต่ละยุคนั้นช่างยากเย็นแสนเข็ญมากๆ    ต้องรอบุคคลผู้พิเศษสุดยอดของความพิเศษ
เท่านั้นมาเปิดเผยซึ่งก็คือพระพุทธเจ้านั่นเอง   

วิชาปราบมารที่แท้จริง  คือ   
ความไม่งาม - ความไม่เที่ยง - ความไม่สุข - ความไม่มีตัวตน     
ในสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวง


ผู้ใดทำจิตของตนให้รู้แจ้งแทงตลอดได้ในธรรมเหล่านี้   
ผู้นั้นชื่อว่า   พ้นแล้วจากบ่วงแห่งมารทั้งหลายทั้งมารภายในและ
มารภายนอกทั้งสรรพมารทั้งปวง

จบ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 ธันวาคม , 2007 เวลา 09:05:43 pm โดย พระวัดสามแยก » 
 
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #24 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2552 15:17:02 »


หลวงพ่อชา สุภัทโท – ตอบปัญหาธรรม


ได้พากเพียรอย่างหนักในการปฏิบัติกรรมฐาน แต่ไม่ได้ผลคืบหน้า


           เรื่องนี้สำคัญมาก อย่าพยายามที่จะเอาอะไรๆ ในการปฏิบัติ
ความอยากอย่างแรงกล้าที่จะหลุดพ้น หรือรู้แจ้งนั้น จะเป็นความอยาก
ที่ขวางกั้นท่านจากการหลุดพ้น ท่านจะเพียรพยายามอย่างหนักตามใจท่านก็ได้
จะเร่งความเพียรทั้งกลางคืนกลางวันก็ได้ แต่ถ้าการฝึกปฏิบัตินั้นยัง
ประกอบด้วยความอยาก ที่จะบรรลุเห็นแจ้งแล้ว ท่านจะไม่มีทางที่
จะพบความสงบได้เลย แรงอยากจะเป็นเหตุให้เกิดความ สงสัยและ
ความกระวนกระวายใจ ไม่ว่าท่านจะฝึกปฏิบัติมานานเท่าใดหรือ
หนักเพียงใด ปัญญา  (ที่แท้)จะไม่เกิดขึ้นจากความอยากนั้น

ดังนั้น จงเพียงแต่ละความอยากเสีย จงเฝ้าดูจิตและกายอย่างมีสติ
แต่อย่ามุ่งหวังที่จะบรรลุถึงอะไร อย่ายึดมั่นถือมั่นแม้ในเรื่อง
การฝึกปฏิบัติ หรือในการรู้แจ้ง
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #25 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2553 07:27:15 »




สรุปสุดท้ายตามหัวข้อเรื่อง   "วิชาปราบมาร"
วิชาปราบมารนี้ไม่ว่าใครหน้าใหนๆ  ก็ตามที่บอกว่าตัวเองคิดขึ้นมาได้
แล้วเอามาโพนทะนาว่าต้องทำอย่างนั้นต้องทำอย่างนี้   

อันนี้ ไม่ต้องสันนิษฐานให้ยากเลย  ให้ทุกท่านรู้ไว้แต่เพียงฝ่ายเดียวว่า    ขี้โม้ทั้งเพ
มันไม่ใช่วิชาปราบมารหรอก   แต่มันคือ   วิชาส่งเสริมมารเท่านั้นเอง

วิชาปราบมารนี้ผู้ที่จะคิดได้ก็มีอยู่  2  ประเภทเท่านั้นในวัฏฏะจักรนี้  คือ

1.  พระปัจเจกพุทธเจ้้า    แต่ท่านก็ปราบมารได้เฉพาะตัวของท่านเท่านั้น   
ไม่สามารถที่จะปราบมารให้ผู้อื่นได้
2.  พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า   อันนี้ปราบได้ทั้งมารเฉพาะตัวของท่าน   
และบอกวิธีให้ผู้ิือื่นปราบมารของแต่ละคนได้อีกด้วย


วิชาปราบมารนี้มีอยู่แล้วคู่วัฏฏะจักร    แต่จะมีผู้เปิดเผยออกมาให้สาธารณชนรับรู้ได้
ในแต่ละยุคนั้นช่างยากเย็นแสนเข็ญมากๆ    ต้องรอบุคคลผู้พิเศษสุดยอดของความพิเศษ
เท่านั้นมาเปิดเผยซึ่งก็คือพระพุทธเจ้านั่นเอง   

วิชาปราบมารที่แท้จริง  คือ   
ความไม่งาม - ความไม่เที่ยง - ความไม่สุข - ความไม่มีตัวตน     
ในสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวง


ผู้ใดทำจิตของตนให้รู้แจ้งแทงตลอดได้ในธรรมเหล่านี้   
ผู้นั้นชื่อว่า   พ้นแล้วจากบ่วงแห่งมารทั้งหลายทั้งมารภายในและ
มารภายนอกทั้งสรรพมารทั้งปวง

จบ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 ธันวาคม , 2007 เวลา 09:05:43 pm โดย พระวัดสามแยก » 


http://img35.imageshack.us/img35/3540/0390863.jpg
ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม


 เหงื่อตก ยิ้ม รัก


บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า:  1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
happy = ความสุข{ถาม - ตอบ ปัญหาธรรม}
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
時々๛कभी कभी๛ 3 3187 กระทู้ล่าสุด 13 กุมภาพันธ์ 2555 11:40:24
โดย 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.28 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 23 ตุลาคม 2567 18:15:07