'วารุณี' ผู้ต้องหา ม.112 เดินหน้าอดอาหารวันที่ 4 ยกระดับ 'อดน้ำ' หลังยังไร้วี่แววได้ประกัน
<span class="submitted-by">Submitted on Thu, 2023-08-24 17:31</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: ไข่แมวชีส </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'วารุณี' ผู้ถูกกล่าวหา ม.112 ปมโพสต์ภาพตัดต่อ ร.10 เปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต เดินหน้าอดอาหารต่อเนื่องวันที่ 4 และประกาศยกระดับอดน้ำแล้ว เพื่อประท้วงศาล และเรียกร้องสิทธิประกันตัว</p>
<p> </p>
<p>24 ส.ค. 2566 เว็บไซต์
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (24 ส.ค.) สืบเนื่องจากที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยม ‘น้ำ’ วารุณี ชาวจังหวัดพิษณุโลก อายุ 32 ปี หลังศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 ปี และ 6 เดือน ตั้งแต่เมื่อ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพรัชกาลที่ 10 ขณะเปลี่ยนเครื่องทรง “พระแก้วมรกต” เป็นชุดกระโปรงยาวสีม่วงจากแบรนด์ "Sirivannavari" และใส่ภาพสุนัข โดยศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดีเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน </p>
<p>ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา วารุณี ออกแถลงการณ์ประท้วงอดอาหาร โดยทานเพียงนมถั่วเหลือง ขนาด 300 มิลลิลิตร วันละ 3 กล่อง เพื่อประท้วงศาล และเรียกร้องสิทธิการประกันตัว และเธอยังขีดเส้นตายด้วยว่า หากภายใน 3 วัน ยังไม่ได้รับการประกันตัว เธอจะประท้วงด้วยการอดน้ำด้วย </p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>
ศาลสั่งไม่ให้ประกันตัว ‘วารุณี’ คดี ม.112 โพสต์รูปตัดต่อพระแก้วฯ ใส่ชุด Sirivannavari</li>
</ul>
</div>
<p>หลังจากผ่านมา 3 วัน วันนี้ (24 ส.ค.) วารุณี ประท้วงอดอาหาร และน้ำแล้ว อย่างไรก็ตาม เธอจะดื่มน้ำเฉพาะช่วงทานยานอนหลับ หรือยารักษาโรคอารมณ์ 2 ขั้ว (Bipolar Disorder) กระนั้น เธอก็จะพยายามรับประทานยาโดยไม่ดื่มน้ำ หรือจะดื่มให้น้อยที่สุด</p>
<p>ทั้งนี้ ทนายความ เปิดเผยอาการของวารุณี หลังอดอาหารมา 3 วันแล้ว พบว่าริมฝีปากแห้ง น้ำหนักตัวลดลง เหลือเพียง 33 กิโลกรัม นอกจากนี้ เธอมีอาการปวดท้อง และปวดมากเป็นปกติ รวมถึงมีความดันโลหิตต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ</p>
<p>เบื้องต้น วารุณีได้รับการตรวจร่างกายจากพยาบาลของเรือนจำแล้ว และจะได้รับการตรวจร่างกายแบบทั่วไปอีกครั้งในทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี</p>
<p>วารุณี เผยว่า ได้เซ็นเอกสารแสดงเจตจำนงจะไม่รับการรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตามและได้มอบต่อเจ้าหน้าที่ของเรือนจำแล้ว เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าต่อจากนี้แม้จะเกิดขึ้นอะไรกับร่างกายและชีวิตของเธอ เธอก็พร้อมที่จะยอมรับความเสี่ยงนั้น </p>
<p>ปัจจุบัน (24 ส.ค.) วารุณีถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์คำพิพากษาเป็นเวลา 58 วัน หรือเกือบ 2 เดือนแล้ว โดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัวเรื่อยมา แม้ว่าคดีจะยังไม่ถึงที่สุดก็ตาม โดยได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นไปแล้ว</p>
<p>ตั้งแต่วารุณีถูกคุมขัง ทนายความยื่นประกันตัวและอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัว เป็นจำนวนรวม 4 ครั้ง (มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลฎีกาอีก 1 ครั้ง) ทุกครั้งศาลชั้นต้นส่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา และศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง โดยให้เหตุผลในทำนองคล้ายกันว่า ข้อหามีอัตราโทษสูง มีเหตุควรเชื่อว่าจะหลบหนี และส่วนเรื่องอาการเจ็บป่วยนั้น กรมราชทัณฑ์สามารถดูแลจัดการได้ ไม่มีเหตุผลให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่สั่งไม่ให้ประกันตัว</p>
<p>นอกจากวารุณีแล้ว ยังมี “เวหา แสนชนชนะศึก” ผู้ต้องขังระหว่างสู้คดี ม.112 แสดงออกด้วยการอดอาหารประท้วง โดยเริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เวหา อดอาหารประท้วงในลักษณะไม่ทั้งหมด (Non-Total Hunger Strike/Fasting) กล่าวคือ ปฏิเสธการรับประทานอาหารที่เป็นของแข็งที่ต้องขบเคี้ยวทุกประเภท แต่ยังคงดื่มน้ำและของเหลวอื่นๆ อย่างน้ำผลไม้และนม </p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>
‘เวหา’ ผู้ต้องขังคดี ม.112 อดอาหารเรียกร้อง สิทธิประกันตัว - ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม - นิรโทษกรรม</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">บันทึกเยี่ยม “วารุณี” จากทนายความ</span></h2>
<p>นอกจากนี้ เว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยแพร่บันทึกเยี่ยมวารุณี เมื่อ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า วันนี้วารุณี ออกมาพบทนายความ โดยที่ไม่ได้แต่งหน้า แววตาดูเศร้า และริมฝีปากดูแห้งกว่าปกติ </p>
<p>ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลาเที่ยงของวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา วารุณี เผยว่า เธอทานนมถั่วเหลืองขนาด 300 มล. มื้อละ 1 กล่อง รวมเป็นวันละ 3 กล่อง ในมื้อเช้า กลางวัน และเย็น ปัจจุบัน วารุณีได้อดอาหารประท้วง 3 วันแล้ว โดยเธอบอกว่า เวลาได้กลิ่นอาหารก็ยังรู้สึกหิวอยู่ นอกจากนั้นก็มีอาการน้ำลายเหนียว และรู้สึกท้องปวดตลอดเวลา บางเวลาก็จะปวดรุนแรงมาก ตอนที่คุยกันอยู่นี้เธอก็รู้สึกปวดท้องในลักษณะระคายเคืองเหมือนกับเป็นโรคกระเพาะ</p>
<p>“วันที่ 21 ส.ค. หลังจากเจอทนายแล้ว หนูก็ไปบอกแม่ห้อง (หัวหน้าห้องขัง) แม่ห้องก็ไปพูดกับแม่บ้าน (เทียบเคียงได้กับหัวหน้าของกลุ่มผู้ต้องขัง) เขาก็มาคุยทำนองว่าไม่อยากให้อดอาหาร จะทำทำไม ทำแล้วเดือดร้อนทั้งตัวเองทั้งคนอื่น</p>
<p>"แต่หนูก็ยืนยันว่าจะทำ" วารุณี กล่าวกับทนาย</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">อาการของวารุณี ปวดท้อง ความดันต่ำกว่าปกติ ปฏิเสธรับสิทธิการรักษาแล้ว</span></h2>
<p>เมื่อวาน (22 ส.ค.) วารุณีได้รับการตรวจร่างกายเบื้องต้นจากพยาบาลด้วย ผลปรากฏว่า อัตราการเต้นของชีพจรและค่าทั่วไปเกี่ยวกับร่างกายอีกประมาณ 4-5 อย่างเป็นปกติดี ยกเว้นความดันโลหิตที่มีค่าต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ โดยพยาบาลได้นัดตรวจอีกครั้งในทุกวันอังคาร และพฤหัสบดี</p>
<p>นอกจากนี้ วารุณี ระบุว่า ล่าสุดได้เซ็นเอกสารแสดงเจตจำนงปฏิเสธรับการรักษาทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางหลอดเลือดหรือทางปากก็ตาม</p>
<p>ยกระดับการแสดงออก เริ่มจำกัดการดื่มน้ำทันที หลังอดอาหารประท้วงครบ 3 วันแล้ว “หนูจะเริ่ม ‘อดน้ำ’ พรุ่งนี้ (24 ส.ค.) เลี่ยนนมเวอร์ ไม่กินแล้ว” วารุณี บอก </p>
<p>ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ส.ค.) วารุณีจะยกระดับด้วยการอดอาหารและน้ำร่วมด้วย โดยจะปฏิเสธอาหารทุกอย่างและจะจำกัดการดื่มน้ำของตัวเองไว้เฉพาะตอนรับประทานยานอนหลับและยารักษาโรคอารมณ์สองขั้วเท่านั้น การกระทำดังกล่าวเป็นไปตามเจตจำนงของเธอที่เคยบอกไว้ตั้งแต่อดอาหารวันแรกว่า หากอดอาหารประท้วงครบ 3 วันแล้ว เธอก็จะยกระดับเป็นการอดน้ำด้วย</p>
<p>วารุณีพูดถึงการยกระดับอดน้ำครั้งนี้พร้อมเสียงหัวเราะว่า ‘วันนี้เผาหลอก พรุ่งนี้เผาจริง’ และได้พูดถึงความคิดเห็นของคนรอบตัวในเรือนจำต่อการที่เธอเลือกแสดงออกครั้งนี้ของเธอด้วย</p>
<p>“บางคนก็เข้าใจ บางคนก็ไม่เข้าใจค่ะ หนูวานน้องคนหนึ่งไว้ในห้องขังไว้ด้วย เผื่อว่าอดอาหารไปนานๆ แล้วหนูอาจจะมีอาการเวียนหัว เดินเซ มองไม่เห็นตามปกติ ทรงตัวไม่ค่อยอยู่ หรืออาจจะลื่นล้มตอนอาบน้ำ หนูเลยฝากน้องคนนี้ช่วยดูหนูหน่อย น้องก็น่ารักบอกหนูว่า เขาพร้อมดูแลหนูตลอด </p>
<p>“กังวลเรื่องวูบด้วย บทจะวูบก็วูบไปเลย ไม่ทันรู้สึกตัว เหมือนตอนเป็นลมในเรือนจำครั้งก่อนหน้านี้ (เมื่อวันที่ 26 ก.ค.)</p>
<p>“แต่หลายๆ คนก็พูดว่า ทำไมไม่รักษาตัวให้แข็งแรงแล้วค่อยไปสู้ </p>
<p>“หนูก็รู้สึกว่าจะสู้ยังไงได้อีก หนูทำทุกอย่างแล้ว แต่ศาลก็ยังไม่ให้ออก หนูเลยต้องหาวิธีออกไปด้วยตัวเอง</p>
<p>“มีบางคนพูดด้วยว่า ‘อดอาหารทำไม ไร้สาระ’ หนูโกรธมากนะ หนูบอกเขาไปว่า ‘พี่, อดน้ำอดอาหารนี่ตายได้เลยนะ หนูทำเพราะหนูไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว จะรออุทธรณ์หรือเซ็นใบเด็ดขาด ไม่ว่าขั้นตอนไหนมันก็ใช้เวลาทั้งนั้น </p>
<p>“หนูเอาชีวิตเข้าแลกขนาดนี้ มันจะเป็นเรื่องไร้สาระได้ยังไง…</p>
<p>นอกจากนี้ วารุณี เล่าให้ทนายความฟังว่า น้องสาวของเธอได้มาขอให้เธอหยุดอดอาหารประท้วง แต่เธอปฏิเสธ พร้อมกับบอกเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกวิธีนี้ </p>
<p>“แรกๆ หนูยังคิดในแง่บวกค่ะ มองว่าการถูกขังครั้งนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ถือซะว่าได้ทดสอบความอดทนของตัวเองด้วย อย่างน้อยตอนอยู่ข้างในนี้ก็มีเหตุการณ์น่ารักๆ เกิดขึ้นหลายอย่าง อย่างตอนที่หนูล้างสบู่ออกไม่หมดแล้วพอเดินผ่านผู้ต้องขังด้วยกัน เขาก็เรียกหนูว่า ‘ลูกสาว มีสบู่ติดหู’ แล้วก็เช็ดออกให้ทันทีเลย แล้วหนูก็มีกัลยาณมิตรร่วมห้องขังที่ดีด้วย</p>
<p>“แต่พอยื่นประกันไปกี่ครั้งๆ ก็ไม่ผ่าน แล้วศาลก็ให้แต่เหตุผลเดิมๆ หนูก็เริ่มอดทนรอไม่ได้แล้ว</p>
<p>วารุณี ระบุต่อว่า เวลาอยู่ข้างใน รู้สึกทานอาหารไม่อร่อย แม้ว่าแฟนของเธอจะซื้ออาหารมาเยี่ยมก็ตาม แต่มีเวลาทานอาหารน้อย ยังไม่ทันได้รับรู้รสชาติ ก็ถูกกดดันด้วยเวลา เร่งทานแล้ว </p>
<p>นอกจากนี้ วารุณี รู้สึกว่า สถานที่ที่เธออยู่ไม่ใช่ที่ของเธอจริงๆ เหมือนอยู่ห้องประชุมเชียร์ หรือที่คนเรียกชื่อเล่นว่า "ห้องว้าก" มีแต่เสียงด่าทอหยาบคายใส่กัน อย่างที่เธอเห็นนักโทษหญิงอายุ 23 ปี ด่าทอแรงๆ ใส่คนอายุ 60 ปี ที่เดินสะเปะสะปะไปทั่ว สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เธอไม่อยากทำไม่ดีใส่คนอื่นๆ เลย</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ความลำบากของการเข้าถึงพยาบาลของผู้ถูกคุมขัง</span></h2>
<p>วารุณี สะท้อนปัญหาการเข้าถึงพยาบาลของผู้ถูกคุมขังด้วย ซึ่งทำให้วารุณี ทุกข์ใจ เพราะการเข้าถึงยายากมาก ถ้าปวดหัวหรือประจำเดือนจะขอยาได้ แต่ถ้าแพ้อากาศ หรือร้อนใน จะขอยาไม่ได้เลย ทั้งที่อาการก็ทรมานเหมือนกัน </p>
<p>“มิหนำซ้ำ เรือนจำยังจำกัดโควตารับยาด้วยนะ ให้แต่ละห้องขังขอยาได้แค่วันละ 5 คนเท่านั้น, หนูทำใจเรื่องร้อนในไว้แล้ว คิดว่าสักพักน่าจะเป็น เพราะต่อจากนี้แทบจะไม่ได้ดื่มน้ำแล้ว</p>
<p>“เพื่อนร่วมห้องนอนที่อายุพอๆ กับแม่หนู (50+) หนูเลยเรียกเขาว่าแม่ เขาไปฉีดวัคซีนแล้วไม่ได้กินยาพารา เพราะไม่มีใครบอก พอตกเย็นแกเป็นไข้เลยขอยาพาราเม็ดหนึ่ง แต่กลับโดนพี่เลี้ยงที่เป็นผู้ต้องขังเหมือนกันด่าทำนองว่า ‘ทำไมไม่รับผิดชอบตัวเอง ลำบากคนอื่นต้องมาหายาให้’ ถูกด่าจนคุณแม่ร้องไห้ ด่าจนข้างห้องสงสาร หนูก็ไปปลอบใจเขา” วารุณี ระบุ</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เสียใจรัฐบาลใหม่ยังไม่มีนโยบายนิรโทษกรรมนักโทษคดีการเมือง-แก้ ม.112</span></h2>
<p>วารุณี ระบุต่อว่า ยินดีกับรัฐบาลเศรษฐา แต่เสียใจที่เพื่อไทยไม่มี พ.ร.บ.นิรโทษกรรม-แก้ไข ม.112 </p>
<p>ทนายความ เล่าสถานการณ์การเมืองให้วารุณี ฟังด้วยว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว และในวันเดียวกัน สภาก็โหวตเลือก เศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ คนที่ 30 แล้วด้วย </p>
<p>วารุณี แสดงความเห็นว่า “ต้องรอดูว่าเขาจะบริหารประเทศยังไง อีก 4 ปี เพื่อไทยน่าจะมีสภาพเหมือนประชาธิปัตย์ (หัวเราะ) </p>
<p>“ขอแสดงความยินดี ขอให้รัฐบาลบริหารประเทศอย่างมืออาชีพ ฝากอนาคตประเทศไทยไว้กับเพื่อไทยด้วย แต่ด้วยความที่เป็นรัฐบาลผสม ก็กลัวจะทำอะไรได้ไม่เต็มที่เนอะ</p>
<p>“เราก็พยายามทำความเข้าใจเขา เพราะความจริงก็คือเขาได้เป็นรัฐบาล มันอาจจะไม่มีตัวเลือกมาก พอได้อำนาจแล้ว อาจจะบริหารประเทศดีก็ได้ ไม่รู้เหมือนกัน</p>
<p>“แต่เสียใจมากที่นโยบายของรัฐบาลชุดนี้ที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ‘ไม่มี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้ต้องขังทางการเมือง และแก้ไขมาตรา 112’ รู้สึกแย่ที่เขาทำกับพรรคก้าวไกลแบบนี้ด้วย เพราะหลังเลือกตั้งเสร็จก็ดูรักกันดี</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ฝากคำขอบคุณถึงทุกคนที่เรียกร้องสิทธิประกันตัวให้เธอ</span></h2>
<p>ท้ายที่สุด ทนายความได้ปรินต์รูปภาพข่าวของวารุณี ที่สำนักข่าว และกลุ่มนักกิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ช่วยกันเผยแพร่ และร่วมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัววารุณี มาให้วารุณี ดู รวมถึงเล่าด้วยว่าข้างนอกเรือนจำให้กำลังใจเธออย่างไร </p>
<p>ทนายความ บรรยายว่า วารุณี ดูรูปภาพและยิ้ม ก่อนส่งต่อให้คนอื่นๆ ในเรือนจำได้ดู เธอกล่าวด้วยว่าขอบคุณทุกคนที่เลือกสวยๆ ให้</p>
<p>“เข้าใจว่าทุกคนเป็นห่วง และอาจจะไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมด แต่หนูทนการกลั่นแกล้งไม่ไหวแล้ว การที่ศาลไม่ให้ประกันโดยใช้เหตุผลเดิมๆ มันคิดเป็นอื่นไม่ได้เลยค่ะ และหนูจะต่อสู้อย่างเต็มที่"</p>
<p>"หนูเข้าใจคนที่ไม่เห็นด้วยนะคะ แต่ข้างในมันทำอะไรไม่ได้จริงๆ อยากออกไปมาก ทั้งรักทั้งห่วงคนข้างนอก แต่ต้องมาผิดหวังซ้ำๆ ผู้ต้องขังด้วยกันยังงงว่าทำไมหนูไม่ได้ออกสักที” แววตาของวารุณีดูมีความมุ่งมั่นขึ้นมา</p>
<p>เราถามวารุณี ว่า ได้ยินเสียงพลุต่อเนื่องที่มีผู้จุดแถวเรือนจำในค่ำวันที่ 21 ส.ค. บ้างไหม วารุณีตอบกลับว่า “มาจุดตอนกี่โมงคะ? หนูไม่ได้ยินเลยเพราะกินยานอนหลับตั้งแต่ก่อน 3 ทุ่ม แล้วช่วงนั้นเสียงทีวีจะดังมาก ห้องหนูอยู่ติดรั้วเลย มันก็จะได้ยินลำบาก ถ้าจุดตอนเที่ยงคืนน่าจะได้ยิน แต่ชาวบ้านน่าจะตื่นกันหมด (หัวเราะ)</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="314" scrolling="no" src="
https://www.facebook.com/plugins/video.php?height=314&href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Feggcatcheese%2Fvideos%2F3503963429870832%2F&show_text=false&width=560&t=0" style="border:none;overflow:hidden" width="560"></iframe></p>
<p>“หนูอยากได้ยิน แต่เขาจะโดนอะไรไหม ยังไงก็ต้องขอบคุณมากๆ นะคะที่ทำเพื่อหนู”</p>
<p>อย่างไรก็ตาม เราสังเกตว่า วารุณี ดูผ่อนคลายขึ้น เราจึงถามว่าตอนนี้รู้สึกดีกว่าเมื่อวานซืนใช่ไหม วารุณี ตอบว่า “มันรู้สึกว่าได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง แม้สิ่งที่ทำจะเป็นการทำร้ายตัวเองก็ตาม</p>
<p>“จริงๆ หนูไม่ได้อยากตาย อยากออกไปสู้ข้างนอก แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว ก็ต้องเป็นไป…”</p>
<p>“ฝากบอกศาลว่า หนูพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว 3 ครั้ง นี่จะเป็นครั้งที่ 4” วารุณี ทิ้งท้าย
</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/08/105606