หัวข้อ: วัดพุทไธศวรรย์ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 11 ธันวาคม 2566 15:05:00 (http://www.sookjaipic.com/images_upload/33830850364433_7_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/40608167110217_5_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/85765872109267_1_Copy_.JPG) วัดพุทไธศวรรย์ ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดพุทไธศวรรย์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ตรงข้ามกับพระนครด้านใต้ ในตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา มีเนื้อที่ ๔๖ ไร่ ๒ งาน ๔๖ ตารางวา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดพุทไธศวรรย์ ปรากฏตามตำนานว่าสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) ปฐมบรมกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา โปรดให้สร้างขึ้นในบริเวณที่ซึ่งเป็นที่ตั้งพระตำหนักที่ประทับเมื่อทรงอพยพมาตั้งอยู่ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ที่ตรงนี้มีชื่อปรากฏในพระราชพงศาวดารว่า "เวียงเหล็ก” หรือ “เวียงเล็ก" ก่อนที่จะยกข้ามแม่น้ำไปสร้างพระราชวังที่ตำบลหนองโสน หรือที่เรียกว่า “บึงพระราม” ในปัจจุบัน และสถาปนากรุงศรีอยุธยาขึ้นเป็นราชธานีใน พ.ศ.๑๘๙๓ ครั้นเมื่อสถาปนากรุงศรีอยุธยาแล้ว ถึง พ.ศ.๑๘๙๖ สมเด็จพระเจ้าอู่ทองจึงโปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเป็นพระราชอนุสรณ์ ณ ตำบลซึ่งพระองค์เสด็จมาตั้งมั่นอยู่แต่เดิม และพระมหากษัตริย์องค์ต่อๆ มาก็คงจะได้โปรดให้สร้างถาวรวัตถุเพิ่มเติมขึ้นอีกหลายอย่าง ในปัจจุบันยังเหลือซากโบราณสถาน เช่น ปรางค์องค์ใหญ่ พระอุโบสถ พระวิหาร และพระวิหารพระนอน และตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ซึ่งสร้างมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา อนึ่ง เมื่อเสียกรุงฯ ในปี พ.ศ.๒๓๑๐ วัดพุทไธศวรรย์ก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่มิได้ถูกพม่าทำลายเหมือนวัดอื่นๆ ทุกวันนี้จึงยังมีโบราณสถานไว้ชมอีกมากมาย ที่ตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษจารย์ ซึ่งสร้างมีแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา มีภาพเขียนเรื่องทศชาติชาดกกับเรื่องสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ไปนมัสการพระพุทธรูปที่ลังกาทวีป ภาพเหล่านี้ฝีมืองามมาก แต่น่าเสียดายที่ภาพลบเลือนไปเกือบหมดแล้ว ที่มุขเด็จพระปรางค์องค์ใหญ่มีรูปพระเจ้าอู่ทอง รูปพระเจ้าอู่ทองนี้เดิมทำเป็นเทวรูป ในรัชกาลที่ ๑ เมื่อ พ.ศ.๒๓๒๗ พระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเทพพลภักดิ์ ซึ่งบัญชาการกรมพระคชบาล เสด็จออกไปซ่อมเพนียดที่พระนครศรีอยุธยาทรงพบเข้า จึงกราบทูลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงโปรดให้เชิญเทวรูปนั้นลงมากรุงเทพฯ แล้วโปรดให้หล่อแปลงใหม่เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องหุ้มเงินทั้งองค์ และโปรดให้ประดิษฐานไว้ ณ หอพระเทพบิดร ส่วนรูปที่เรียกกันว่า “พระเจ้าอู่ทอง” ในปัจจุบันเป็นของหล่อขึ้นใหม่แทนของเดิมที่เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องยืนตรงมุขข้างปรางค์ ไม่ได้ตั้งอยู่ ณ ที่เดิม วัดนี้ได้ปฏิสังขรณ์ยอดปรางค์อีกครั้งหนึ่งในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๑ (http://www.sookjaipic.com/images_upload/64202799648046_2_Copy_.JPG) พระพุทธรูป ๓ องค์ในพระอุโบสถวัดพุทไธศวรรย์ พระนครศรีอยุธยา
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/49948567276199_3_Copy_.JPG)
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/45951748680737_4_Copy_.JPG) คนส่วนใหญ่นิยมมากราบไหว้พระนอนในวิหารพระพุทไธศวรรย์ ขอพรเรื่องการงาน (http://www.sookjaipic.com/images_upload/93667638426025_12_Copy_.JPG) ตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/21445837244391_13_Copy_.JPG) ในอาคารชั้น ๒ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังในสมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระเพทราชา ราวปี พ.ศ.๒๒๓๑ - ๒๒๔๕ (http://www.sookjaipic.com/images_upload/15335443657305_14_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/81315309885475_15_Copy_.JPG)
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/95531098792950_8_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/46539521507090_9_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/76237867317265_10_Copy_.JPG) 850-32 |