พระครูวิชัยกิตติคุณ(สัมฤทธิ์ กิตติโก) วัดสุวรรณมงคล อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม

พระครูวิชัยกิตติคุณ(สัมฤทธิ์ กิตติโก)
วัดสุวรรณมงคล ต.คันธารราษฎร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม

พระครูวิชัยกิตติคุณ(สัมฤทธิ์ กิตติโก) พระภิกษุที่มีเมตตาธรรมสูง เป็นที่นับถือศรัทธาของชาวอำเภอกันทรวิชัย จ.มหาสารคาม มายาวนาน

ปัจจุบัน สิริอายุ 84 ปี พรรษา 63 ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าอาวาสวัดสุวรรณมงคล ต.คันธารราษฎร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม

มีนามเดิม สัมฤทธิ์ วรรณมง เกิดเมื่อปี พ.ศ.2478 ที่บ้านคันธา ต.คันธารราษฎร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม บิดา-มารดา ชื่อนายทองดีและนางเสน วรรณมง ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

หลังจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนในหมู่บ้านแล้ว ได้ออกมาช่วยงานครอบครัวหาเลี้ยงชีพทำไร่ทำนาด้วยความขยันขันแข็ง

เมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่อุโบสถวัดสุวรรณมงคล มีพระครูสิริมงคล วัดพุทธมงคล เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดหวัน กัจจายโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกาแพง อมโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา กิตติโก มีความหมายว่า ผู้มีเกียรติ

จำพรรษาศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมที่สำนักเรียนวัดสุวรรณมงคล เนื่องจากเป็นสำนักเรียนใหญ่ชื่อดังของตำบลคันธารราษฎร์ พ.ศ.2502 สอบได้นักธรรมชั้นตรี โท และเอก ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาการอ่านเขียนอักษรลาวโบราณ อักษรขอม ทำให้มีความรู้ในการอ่านเขียนอักขระโบราณด้วย

หลังอุปสมบทได้เพียง 7 พรรษา ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสุวรรณมงคล ว่างลง คณะสงฆ์อำเภอกันทรวิชัย ได้แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส

วัตรปฏิบัติของหลวงปู่สัมฤทธิ์ ทุกคืนเวลา 3 นาฬิกา ท่านจะตื่นขึ้นมานั่งสมาธิสวดมนต์ภาวนา รวมทั้งหลังออกพรรษาทุกปี จะออกเดินธุดงควัตรไปตามป่าเขาในภาคอีสานและป่าประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแสวงหาความหลุดพ้นตามรอยพระตถาคต

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2507 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสุวรรณมงคล อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม พ.ศ.2510 เป็นเจ้าคณะตำบลคันธารราษฎร์

พ.ศ.2514 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2519 ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย พ.ศ.2547 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย

พ.ศ.2558 ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2520 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ พระครูวิชัยกิตติคุณ

พ.ศ.2525 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอกในราชทินนามเดิม

หลวงปู่สัมฤทธิ์ ให้ความสำคัญกับการศึกษาพระสงฆ์ เนื่องจากผู้มาบวชเรียนส่วนใหญ่ล้วนมาจากครอบครัวที่ยากจน ท่านรับหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม และเป็นเจ้าสำนักเรียนวัดสุวรรณมงคล เป็นประธานสอบธรรมสนามหลวง

ในแต่ละปีจะจัดทุนการศึกษาให้ภิกษุ สามเณรที่เรียนดี ความประพฤติดี มารยาทดี ช่วยกิจการงานวัดดี รวมทั้งก่อตั้งศูนย์อบรมเด็กเล็กขึ้นภายในวัดปัจจุบันมีเด็กมาอยู่ในความอุปการะเกือบร้อยคน

เป็นผู้ที่เคร่งพระธรรมวินัย เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ทำให้ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนชาวอำเภอกันทรวิชัยและพื้นที่ใกล้เคียง ในแต่ละวันมีผู้เลื่อมใสศรัทธาจำนวนมากเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม และประพรมน้ำพระพุทธมนต์อย่างไม่ขาดสาย ปัจจัยที่ได้จากการบริจาคจะนำมาพัฒนาวัด เช่น สร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญ เมรุ ศาลาบำเพ็ญบุญ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังบริจาคช่วยสาธารณกุศล เป็นค่าอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน ช่วยชุมชน ผู้ด้อยโอกาส

พระครูวิชัยกิตติคุณ เคยพูดกับศิษยานุศิษย์เสมอ ว่า "ปัจจัยหรือทรัพย์สินเงินทองไม่ได้มีความจำเป็นต่อสมณเพศเพราะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยศรัทธาญาติ โยม" สำหรับหัวข้อธรรมที่หลวงปู่สัมฤทธิ์ พร่ำสอนญาติโยม คือ อย่ายึดติดวัตถุมงคล ขอให้ยึดเอาพระธรรมคำสอนขององค์ศาสดา เป็นหลักในการดำเนินชีวิต เมื่อเกิดมาเป็นคนแล้วจะต้องมีศีลธรรม โดยมีสุจริตทั้งสาม คือ

1.กายสุจริต ทำสิงที่ดีงามถูกต้องประพฤติชอบด้วยกาย 2.วจีสุจริต พูดสิ่งที่ดีงามถูกต้อง ประพฤติชอบด้วยวาจา 3.มโนสุจริต คิดสิ่งที่ดีงามถูกต้อง ประพฤติชอบด้วยใจ

นอกจากนี้ ยังเป็นพระนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ โดยร่วมกับญาติโยมปลูกไม้ยืนต้นไว้เต็มวัด และปลูกเพิ่มทุกปีทำให้วัดแห่งนี้มีแต่ความร่มรื่นเหมาะกับการปฏิบัติธรรมยิ่งนัก

บัดนี้ แม้อายุย่างเข้าสู่วัยชรา แต่สุขภาพพลานามัยยังแข็งแรงสมบูรณ์ ปฏิบัติศาสนกิจด้วยความขยันขันแข็ง

นับเป็นเนื้อนาบุญอย่างแท้จริง

อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์