ย้อนหนึ่งทศวรรษของการคุมขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์
<span class="submitted-by">Submitted on Thu, 2024-03-14 20:55</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>รายงาน: ณัฐพล เมฆโสภณ</p>
<p>ภาพปก/กราฟิก: กิตติยา อรอินทร์</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ย้อนเหตุการณ์หนึ่งทศวรรษของการคุมขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มีชาวอุยกูร์ราว 41 รายยังถูกคุมขังในห้องกัก ตม. สวนพลู อย่างไม่มีกำหนดเวลา และตลอด 10 ปีที่ผ่านมา มีชาวอุยกูร์ที่เสียชีวิตระหว่างการคุมตัวของรัฐไทยอย่างน้อย 5 ราย</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53587549360_f41fe2318c_b.jpg" /></p>
<p>ชาวอุยกูร์ นับถือศาสนาอิสลาม อาศัยอยู่ในมณฑลซินเจียง ทานตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน มี
ประชากรอยู่ราว 11 ล้านคน หรือคิดเป็น 45 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรในมณฑลซินเจียงจำนวน 25 ล้านคน </p>
<p>ช่วงราวปี 2557 ชาวอุย์กูร์จำนวนมากลี้ภัยออกจากประเทศจีน เนื่องจากประเทศจีนมีนโยบายไม่อนุญาตให้ชาวอุยกูร์นับถือศาสนาอิสลาม และมีนโยบายกดขี่ทางวัฒนธรรม เช่น การห้ามประกอบพิธีทางศาสนาหรือการถือศีลอด เหตุผลดังกล่าวส่งผลให้ชาวอุยกูร์ต้องการไปประเทศที่ 3 ที่เปิดโอกาสให้พวกเขานับถือศาสนาอิสลามและได้ปฏิบัติตามศาสนกิจ </p>
<p>เส้นทางการลี้ภัยของชาวอุยกูร์บางส่วนเดินทางลงมาที่ภาคใต้ของประเทศไทย หรือไปที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อเดินทางต่อไปในประเทศที่ 3 ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกเดินทางไปที่ประเทศตุรกี </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53584235249_83113e38ea_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">แผนที่มณฑลซินเจียง ตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน (ที่มา: ฮิวแมนไรท์วอตช์)</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">จุดเริ่มต้นของการคุมขังชาวอุยกูร์</span></h2>
<p>ประเด็นของผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในไทยเริ่มปรากฏบนหน้าสื่อ เมื่อ 12 มี.ค. 2557
รายการข่าว 3 มิติ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 รายงานว่า ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจคนตรวจเข้าเมือง 6 พบชาวมุสลิมอุยกูร์ที่ลี้ภัยมาจากมณฑลซินเจียง ประเทศจีน จำนวน 220 รายที่สวนยางพารา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยแบ่งเป็น ชาย 78 ราย หญิง 60 ราย และเด็ก 82 ราย </p>
<p>อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชาวอุยกูร์ทั้งหมดต้องการลี้ภัยไปประเทศตุรกี และทางการตุรกีได้ยินดีรับผู้ลี้ภัยทั้งหมด แต่ข้อมูลจาก
กัณวีร์ สืบแสง ขณะนั้นทำงานเป็นผู้ประสานงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขณะนั้น (สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล) ได้ปฏิเสธไม่ให้เครื่องบินจากกรุงอังการาเดินทางมารับผู้ลี้ภัย โดยไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด หลังจากนั้น ทางการไทยมีกระจายขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในสถานกักตัว สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ และเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการคุมขังชาวอุยกูร์อย่างยาวนาน</p>
<p>นอกจากนี้ ข้อมูลจากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระดับสากล 'ฮิวแมนไรท์วอตช์' (HRW) เปิดเผยว่า ตลอดทั้งปี 2557 ทางการไทยสามารถควบคุมตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ ราว 350 ราย </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">8 ก.ค. 2558 - ไทยบังคับส่งตัวชาวอุยกูร์ 109 ราย กลับประเทศจีน</span></h2>
<p>
สื่อต่างชาติ และ
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อ 29 มิ.ย. 2558 ทางการไทยส่งตัวผู้หญิงและเด็กชาวอุยกูร์จำนวนราว 172 ราย ลี้ภัยประเทศตุรกี</p>
<p>ต่อมา 8 ก.ค. 2558
ฮิวแมนไรท์วอตช์ และ
บีบีซีไทย ได้รายงานว่า ทางการไทยมีการบังคับชาวอุยกูร์จำนวน 109 คน ใส่กุญแจมือ ใช้ถุงดำครอบศีรษะ และส่งตัวพวกเขาให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่กรุงเทพฯ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จีนจะพาชาวอุยกูร์ขึ้นเครื่องบินกลับไปประเทศ หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครชะตากรรมชาวอุยกูร์กลุ่มนี้อีกเลย </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/52258018771_767d4f012a_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ชาวอุยกูร์ถูกบังคับส่งตัวให้เจ้าหน้าที่จีนพากลับประเทศ (ที่มา: แฟ้มภาพ)</span></p>
<p>การส่งตัวชาวอุยกูร์ไปประเทศจีนทำให้ประเทศไทยในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกวิจารณ์อย่างหนักโดยเฉพาะจากประเทศโลกตะวันตกอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง อีกทั้ง เป็นการละเมิดหลักจารีตประเพณีระหว่างประเทศ 'หลักการห้ามผลักดันไปเผชิญอันตราย' (non-refoulment) </p>
<p>วันเดียวกัน (8 ก.ค. 2558) ช่วงกลางดึก ชาวตุรกีรวมตัวหน้าสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ นครอิสตันบูล เพื่อประท้วงรัฐบาลไทย เพราะไม่พอใจการตัดสินใจของทางการไทยที่ส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน และมีความกังวลว่าคนกลุ่มนี้จะถูกทางการจีนประหารชีวิต นอกจากนี้ ประชาชนตุรกียังได้บุกเข้าไปทำลายสิ่งของภายในอาคาร และมีการปลดธงชาติไทยลงจากยอดเสา</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">17 ส.ค. 2558 - เหตุระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ มีผู้เสียชีวิต 20 ราย</span></h2>
<p>17 ส.ค. 2558 หนึ่งเดือนหลังรัฐบาลไทยผลักดันชาวอุยกูร์กลับประเทศต้นทาง ได้เกิดเหตุวางระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 120 ราย และเสียชีวิต 20 คน แบ่งเป็นคนไทย 6 ราย และชาวต่างชาติ 14 ราย </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://farm6.staticflickr.com/5681/20661283015_ebdb6e2c2e_z.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์ที่แยกราชประสงค์ ภายหลังเกิดเหตุระเบิดเมื่อคืนวันที่ 17 ส.ค. 2557 (ที่มา: Piyasak Ausap)</span></p>
<p>ต่อมา ทางการไทยสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวอุยกูร์ได้ 2 คน คือ อาเดม คาราดัก ผู้ลี้ภัยจากซินเจียง และ ไมไรลี ยูซุฟู ผู้เคยทำธุรกิจเครื่องสำอาง ข้อหามีส่วนร่วมกับการระเบิดที่แยกราชประสงค์ ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกราย วรรณา สวนสัน หรือไมซาเราะห์ ชาวพังงา ถูกตั้งข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์และครอบครองวัตถุระเบิด เพราะเช่าห้องให้แก่ อาเดม และไมไรลี ได้ประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี</p>
<p>หลังเหตุระเบิดมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการตอบโต้จากกรณีที่ประเทศไทยบังคับส่งกลับชาวอุยกูร์เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่ทางการไทยยังคงปฏิเสธการเชื่อมโยงดังกล่าว ขณะที่
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น อ้างว่าเป็น "การเสียผลประโยชน์ของกลุ่มก้อนทางการเมือง"</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>
เผยศาลขอให้กรมราชทัณฑ์จัดอาหารฮาลาลให้จำเลยชาวอุยกูร์</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">10 ม.ค. 2563 - ชาวอุยกูร์ 7 คนหลบหนีออกจากห้องกัก มุกดาหาร</span></h2>
<p>
เบนาร์นิวส์ รายงานว่า เมื่อ 10 ม.ค. 2563 ชาวอุยกูร์ 7 รายหลบหนีออกจากห้องกัก ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.มุกดาหาร โดยทั้ง 7 คนระบุว่าหนีออกมาเพราะทนสภาพคับแคบของห้องกักไม่ไหว ก่อนที่ภายหลังทั้งหมดถูกจับกุม </p>
<p>
ทั้งหมดถูกศาลสั่งจำคุกคนละ 2 ปี ฐานแหกห้องกักที่มุกดาหาร และชาวอุยกูร์ 5 จาก 7 คนถูกชาวบ้านดำเนินคดีเพิ่มฐานลักทรัพย์ จากการสอบถาม วณัฐ โคสาสุ ทนายความของผู้ต้องหา ระบุด้วยว่า เนื่องจากทั้ง 5 คนเมื่อแหกห้องกักออกมาแล้ว ไปเจอชาวบ้านกำลังหาหนูนาในทุ่งนา จึงจับชาวบ้านมัดมือและเท้า ขโมยไฟฉาย ไม้เคาะเรียกหนูนา และหน้าไม้ยิงหนู ก่อนหลบหนี ทั้งนี้ ทั้ง 5 คนไม่มีการขโมยเงินของชาวบ้านแต่อย่างใด</p>
<p>ต่อมา 28 ต.ค. 2563 ศาลจังหวัดมุกดาหาร ตัดสินโทษจำคุกทั้ง 5 คน มีความผิดข้อหาชิงทรัพย์และมีอาวุธติดตัวไปด้วย ตามกฎหมายอาญา ม.34 วรรค 2 โดยสั่งจำคุกทั้งหมด คนละ 16 ปี </p>
<p>โดยชาวอุยกูร์ 2 คนได้ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุกคนละ 8 ปี เนื่องจากให้การรับสารภาพ และชาวอุยกูร์จำเลยอีก 3 ราย ได้ลดโทษ 1 ใน 3 เนื่องจากรับสารภาพหลังสอบพยานโจทก์เสร็จสิ้น เหลือจำคุกคนละ 10 ปี </p>
<p>ทำให้ทั้ง 5 คน เมื่อรวมกับโทษหลบหนีออกจากห้องกัก โดยชาวอุยกูร์ 2 รายถูกจำคุก 10 ปี และอีก 3 รายถูกจำคุก 12 ปี </p>
<p>วณัฐ กล่าวด้วยว่า ทางผู้ต้องกักทั้ง 7 ราย ได้แจ้งทนายความด้วยว่า พวกเขาถูกเจ้าหน้าที่หลายคนที่ห้องกักมุกดาหารทำร้ายร่างกาย แต่ไม่สามารถจดจำใบหน้าผู้ก่อเหตุได้ จึงไม่ได้มีการดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ </p>
<p>ข้อมูลจากแหล่งข่าวเผยว่า โดยทั้ง 7 รายถูกนำตัวมาคุมขังที่เรือนจำคลองเปรม โดย 2 รายที่ครบกำหนดโทษแล้วถูกนำตัวไปคุมขังที่ ตม.สวนพลู </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">27 ก.ค. 2565 - มีการนำตัวผู้ลี้ภัยชาวอุย์กูร์ราว 50 คน มาคุมขังที่ห้องกักฯ สวนพลู</span> </h2>
<p>
เบนาร์นิวส์ รายงานว่า 27 ก.ค. 2565 ทางการไทยได้ย้ายผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ 50 คนจากสถานกักตัวทั่วประเทศ มาที่สถานกักตัวคนต่างด้าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สวนพลู กรุงเทพฯ หลังจากเมื่อ 11 ก.ค. 2565 มีชายชาวอุย์กูร์ 3 คนหลบหนีจากห้องกัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กรณีนี้ชาวอุยกูร์ถูกจับกุมเพียง 2 คน และอีก 1 คนอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">5 มี.ค. 2567 - มีชาวอุยกูร์หลบหนีจากห้องกัก ตม. สวนพลู 2 ราย</span></h2>
<p>5 มี.ค. 2567 แหล่งข่าวหลายแห่งยืนยันว่ามีชาวอุย์กูร์ 2 รายหลบหนีออกจากห้องกัก ตม.สวนพลู ซึ่งภายหลังถูกจับกุมตัวทั้ง 2 คน ยังไม่ทราบว่าถูกคุมขังที่ใด </p>
<p>ปัจจุบัน ชลิดา ทาเจริญศักดิ์ ประธานมูลนิธิศักยภาพชุมชน ได้เช็กกับทาง ตม. ยืนยันว่า มีชาวอุยกูร์ประมาณ 41 คนที่ยังอยู่ใน ตม. สวนพลู และยังถูกคุมขังโดยยังไม่ทราบว่าจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อไร </p>
<div class="note-box">
<h2><span style="color:#2980b9;">ทำไมชาวอุยกูร์ถึงถูกกักขังอย่างยาวนาน</span></h2>
<p>ศิววงศ์ สุขทวี ที่ปรึกษาองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) ระบุว่า การกักตัวชาวอุยกูร์ในห้องกัก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทั้ง 41 คน มานานถึง 10 ปี เป็นปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 54 ซึ่งกำหนดว่า ผู้ที่เข้าเมืองผิดกฎหมายและ<strong> 'ไม่มีคดีอาญา' </strong>จะถูกผลักดันออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม ตม.สามารถกักตัวนานเท่าไรก็ได้ จนกว่าจะมีการตัดสินใจส่งออกนอกประเทศ ดังนั้น ชาวอุยกูร์จะต้องติดในห้องกักไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีกำหนด และเป็นผลให้ชาวอุยกูร์ต้องอยู่ในห้องกักมาอย่างยาวนานถึง 10 ปี</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53587170571_0d82c39671_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ศิววงศ์ สุขทวี</span></p>
<p><strong>พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 54</strong> ระบุว่า คนต่างด้าวผู้ใดเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตนั้น สิ้นสุดหรือถูกเพิกถอนแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะส่งตัวคนต่างด้าวผู้นั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักรก็ได้ ถ้ามีกรณีต้องสอบสวน เพื่อส่งตัวกลับตามวรรคหนึ่ง ให้นำมาตรา 19 และมาตรา 20 มาใช้บังคับโดยอนุโลม</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เป็นเพราะจีน?</span></h2>
<p>ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชีย องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ ตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่ไทยยังไม่ตัดสินใจเรื่องอุยกูร์ เนื่องจากกังวลผลกระทบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ </p>
<p>ย้อนไปเมื่อปี 2558 กรณีการส่งตัวชาวอุยกูร์ 109 คนกลับไปประเทศจีนนั้น ทำให้ประเทศไทยถูกโจมตีอย่างหนักจากนานาชาติ เพราะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง แต่ถ้าส่งชาวอุยกูร์ไปประเทศที่ 3 อย่างตุรกี ไทยก็กังวลผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับจีน เพราะจีนแสดงเจตจำนงมาตลอดว่า ชาวอุยกูร์ที่ลี้ภัยมาที่ไทยเป็นพลเมืองของประเทศตนเอง และพยายามเรียกร้องให้ไทยส่งตัวชาวอุยกูร์กลับ ขณะเดียวกัน ไทยยังต้องการความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน และต้องการมาตรการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจจากจีนอยู่ </p>
<p>ดังนั้น การตัดสินใจที่ดีที่สุดคือ 'การไม่ตัดสินใจ' ส่งตัวชาวอุยกูร์ออกนอกประเทศ และทำให้ชาวอุยกูร์ราว 41 ราย ต้องอยู่สถานกักกันแบบไม่มีกำหนด หรืออาจจะต้องอยู่จนเสียชีวิต </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">กต.เผยลากยาว 10 ปี เพราะกระบวนการยังไม่เสร็จ ยันไม่เกี่ยวกับจีน</span></h2>
<p>เมื่อ 12 มี.ค. 2567 ปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อกรณีของการกักตัวชาวอุยกูร์ 40 กว่ารายใน สตม. ครบ 10 ปีว่า การเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายของไทย เข้าใจว่ามีชาวอุยกูร์ถูกคุมขังอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าที่ใด </p>
<p>ส่วนเรื่องการส่งตัวกลับประเทศจีนหรือส่งตัวไปประเทศที่ 3 อย่างตุรกีตามที่ชาวอุยกูร์ร้องขอหรือไม่นั้น ปานปรีย์ ระบุว่าขอให้กระบวนการเสร็จสิ้นและค่อยตัดสินใจตอนนั้น นอกจากนี้ ปานปรีย์ ระบุยืนยันว่า การตัดสินใจเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจีนอย่างแน่นอน เพราะว่าเป็นเรื่องกฎหมายภายในประเทศ</p>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">ตลอด 10 ปี ของการคุมขังชาวอุยกูร์ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย</span></h2>
<p>
ฮิวแมนไรท์วอตช์ และ
สภาอุยกูร์โลก (World Uyghur Congress) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์เสียชีวิตภายใต้การควบคุมดูแลของทางการไทยแล้ว อย่างน้อย 5 ราย มีรายละเอียดดังนี้</p>
<p>มิ.ย. 2557 มีเด็กทารกแรกเกิดชาวอุยกูร์เสียชีวิต 1 ราย และ 22 ธ.ค. 2557 อับดุลเลาะห์ อับดุลเวลี (Abdullah Abduweli) เด็กชายชาวอุยกูร์อายุ 3 ขวบ เสียชีวิตจากโรคทางเดินหายใจ ระหว่างถูกควบคุมตัว </p>
<p>ส.ค. 2561 บิลาห์ (Bilal) ชายชาวอุยกูร์ อายุ 29 ปี เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ระหว่างถูกคุมขังในห้องกักมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2557 </p>
<p>ผู้เสียชีวิต 2 รายล่าสุด คือเมื่อ 11 ก.พ. 2566 คนแรก อาซิซ อับดุลเลาะห์ (Aziz Abdullah) ผู้แสวงหาที่ลี้ภัยชาวอุยกูร์ อายุ 49 ปี เสียชีวิตจากปอดอักเสบจากการติดเชื้อ</p>
<p>เมื่อ 21 เม.ย. 2566 มัตโตห์ตี มัตตูร์ซุน (Mettohti Metqurban) ชาวอุยกูร์วัย 40 ปี เสียชีวิตหลังถูกตัวนำจากห้องกักส่งโรงพยาบาล เนื่องจากอาการจากระบบไหลเวียนโลหิต และการหายใจล้มเหลว </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53587163576_05562d1343_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">มัตโตห์ตี มัตตูร์ซุน (ที่มา: Private)</span></p>
<div class="Note-box">
<div class="note-box">
<h2><span style="color:#2980b9;">คุณภาพชีวิตในห้องกักอันย่ำแย่ และเข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์</span></h2>
<p>ภาคประชาสังคมได้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าการเสียชีวิตของชาวอุยกูร์ในห้องกักนั้นกำลังสะท้อนคุณภาพชีวิตอันย่ำแย่และแออัดของห้องกัก ตม.</p>
<p>กฤตพร เสมสันทัด ผู้อำนวยการโครงการ 'มูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ' กล่าวที่รัฐสภา ระหว่างยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงตัวแทนจากคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ คณะกรรมการการต่างประเทศ และคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า สภาพคุณภาพชีวิตของผู้ต้องกักในสถานกักตัว สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองย่ำแย่อย่างมาก มีพื้นที่แออัดจนไม่สามารถนอนเหยียดหลังได้เต็มที่ ช่องรับแสงธรรมชาติน้อย ไม่มีพื้นที่ส่วนตัว ไม่มีพื้นที่ออกกำลังกาย ไม่สามารถติดต่อบุคคลภายนอกและสมาชิกครอบครัวได้ กิจวัตรที่ซ้ำไปซ้ำมาตลอด 10 ปี เป็นปัจจัยเสี่ยงสะสมที่ทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างรุนแรง</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53585827712_119c8ce480_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">กฤตพร เสมสันทัด</span></p>
<p>ในวันนั้น กฤตพร เรียกร้องเธอต้องการให้รัฐบาลยุติการกักตัวชาวอุยกูร์ทั้งหมดในปีที่ 10 นี้ และขอให้มีการใช้มาตรการทดแทนการกักขัง นอกจากนี้ เธอเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในการยกระดับห้องกักตัว สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง</p>
<p>ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เคยเข้าตรวจสอบห้องกัก ตม. เมื่อปี 2566 หลังมีเหตุการณ์ผู้ต้องกักชาวอุยกูร์เสียชีวิต 2 รายติดต่อกันในเวลาไม่เกิน 1 เดือนในห้องกักของ ตม. สวนพลู โดย กสม. ทำข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลโดยคร่าว ดังนี้ </p>
<p>1. ต้องปรับปรุงห้องขังสอดคล้องกับหลักการสิทธิมนุษยชน แก้ไขความแออัด และเปิดช่องทางให้ผู้ถูกกักได้ไปประเทศที่ 3 2. ให้สิทธิผู้ต้องกักติดต่อบุคคลภายนอก สมาชิกครอบครัว ที่ปรึกษากฎหมาย เจ้าหน้าที่สถานทูตต่างๆ หรือชาวมุสลิม สามารถพูดคุยกับจุฬาราชมนตรี โดยการสื่อสารอาจอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ หรือการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ตม.ได้ </p>
<p>3. ชาวอุยกูร์ควรเข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุข เช่น ให้มีแพทย์ และจิตแพทย์ เข้าไปตรวจสุขภาพในห้องกัก</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>
10 ปีที่ถูกขัง ชะตากรรมชาวอุยกูร์ยังไร้จุดหมาย เมื่อ 'การเมืองระหว่างประเทศ' มาก่อน 'มนุษยธรรม'</li>
<li>
ปชช.ยื่น จม.เปิดผนึก 1,088 รายชื่อถึงนายกฯ ยุติการกักขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์</li>
</ul>
</div>
</div>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">จับตา คดี 2 ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดราชประสงค์ เข้าสู่ศาลพลเรือน สืบพยานกว่า 140 ปาก ลากยาวเกือบ 10 ปี</span></h2>
<p>หลังการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 ราย ว่ามีส่วนร่วมวางระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ เมื่อปี 2558 เบื้องต้น สื่อรายงานว่าทั้ง 2 ผู้ต้องสงสัย ได้แก่ อาเดม คาราดัก และ ไมไลรี ยูซูฟุ สารภาพในชั้นสอบสวน แต่เมื่อปี 2559 สองผู้ต้องสงสัยขึ้นให้การในศาลทหาร ได้กลับคำให้การเป็น 'ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา' โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ถูกทำร้ายร่างกาย บังคับให้รับสารภาพ และเผชิญปัญหาข้อจำกัดทางภาษา </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/1585/25954923603_46f8b4316d_o.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">อาเดม คาราดัก (ชุดนักโทษคนหน้า) และ ไมไลรี ยูซูฟู (ชุดนักโทษคนหลัง) ขณะที่คดีของพวกเขายังถูกพิจารณาในศาลทหารกรุงเทพ แฟ้มภาพ</span></p>
<p>การพิจารณาคดีในชั้นศาลทหารเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากปัญหาเรื่องการหาล่ามภาษาอุยกูร์ และพยานโจทก์ไม่เดินทางมาที่ศาล จนกระทั่งในปี 2563 มีการโอนคดีความจากศาลทหาร มาเป็นศาลพลเรือน '<strong>ศาลอาญากรุงเทพใต้</strong>' และเริ่มกลับมาพิจารณาคดีในชั้นสืบพยานอีกครั้งในปี 2565 </p>
<p>รายงานข้อมูลจากภาคประชาสังคม ระบุว่า เมื่อปี 2567 คดีของอาเดม คาราดัก และ ไมไรลี ยูซูฟุ ยังอยู่ขั้นตอนการสืบพยานชั้นศาล โดยมีบัญชีพยานทั้งหมดประมาณ 140 รายชื่อ และคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาคดีอีก 2 ปี ถึงได้ฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น</p>
<p>ทั้งนี้ อาเดม คาราดัก และ ไมไรลี ยูซุฟุ ถูกคุมขังที่คุกภายในค่ายทหารกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 แจ้งวัฒนะ จนถึงปัจจุบัน และจะมีการสืบพยานคดีนี้ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ วันที่ 26-28 มี.ค. 2567 </p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>
7 ปี คดีระเบิดราชประสงค์สืบพยานได้ 40 จาก 400 กว่าปาก ทนายชี้หลักฐานโจทก์ยังไม่ถึงจำเลย</li>
<li>
เผยศาลขอให้กรมราชทัณฑ์จัดอาหารฮาลาลให้จำเลยชาวอุยกูร์</li>
</ul>
</div>
<div class="note-box">
<p> หมายเหตุ - เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567 เวลา 10.38 น. มีการอัพเดทคดีความของ 5 ผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ ที่หลบหนีออกจากห้องกักมุกดาหาร เมื่อปี 2563</p>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/03/108432