[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
10 พฤษภาคม 2567 04:04:59 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - ย้อนหนึ่งทศวรรษของการคุมขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์  (อ่าน 27 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 15 มีนาคม 2567 11:26:13 »

ย้อนหนึ่งทศวรรษของการคุมขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์
 


<span class="submitted-by">Submitted on Thu, 2024-03-14 20:55</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>รายงาน: ณัฐพล เมฆโสภณ</p>
<p>ภาพปก/กราฟิก: กิตติยา อรอินทร์</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ย้อนเหตุการณ์หนึ่งทศวรรษของการคุมขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มีชาวอุยกูร์ราว 41 รายยังถูกคุมขังในห้องกัก ตม. สวนพลู อย่างไม่มีกำหนดเวลา และตลอด 10 ปีที่ผ่านมา มีชาวอุยกูร์ที่เสียชีวิตระหว่างการคุมตัวของรัฐไทยอย่างน้อย 5 ราย</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53587549360_f41fe2318c_b.jpg" /></p>
<p>ชาวอุยกูร์ นับถือศาสนาอิสลาม อาศัยอยู่ในมณฑลซินเจียง ทานตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน มีประชากรอยู่ราว 11 ล้านคน หรือคิดเป็น 45 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรในมณฑลซินเจียงจำนวน 25 ล้านคน </p>
<p>ช่วงราวปี 2557 ชาวอุย์กูร์จำนวนมากลี้ภัยออกจากประเทศจีน เนื่องจากประเทศจีนมีนโยบายไม่อนุญาตให้ชาวอุยกูร์นับถือศาสนาอิสลาม และมีนโยบายกดขี่ทางวัฒนธรรม เช่น การห้ามประกอบพิธีทางศาสนาหรือการถือศีลอด เหตุผลดังกล่าวส่งผลให้ชาวอุยกูร์ต้องการไปประเทศที่ 3 ที่เปิดโอกาสให้พวกเขานับถือศาสนาอิสลามและได้ปฏิบัติตามศาสนกิจ </p>
<p>เส้นทางการลี้ภัยของชาวอุยกูร์บางส่วนเดินทางลงมาที่ภาคใต้ของประเทศไทย หรือไปที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อเดินทางต่อไปในประเทศที่ 3 ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกเดินทางไปที่ประเทศตุรกี </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53584235249_83113e38ea_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">แผนที่มณฑลซินเจียง ตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน (ที่มา: ฮิวแมนไรท์วอตช์)</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">จุดเริ่มต้นของการคุมขังชาวอุยกูร์</span></h2>
<p>ประเด็นของผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในไทยเริ่มปรากฏบนหน้าสื่อ เมื่อ 12 มี.ค. 2557 รายการข่าว 3 มิติ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 รายงานว่า ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจคนตรวจเข้าเมือง 6 พบชาวมุสลิมอุยกูร์ที่ลี้ภัยมาจากมณฑลซินเจียง ประเทศจีน จำนวน 220 รายที่สวนยางพารา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยแบ่งเป็น ชาย 78 ราย หญิง 60 ราย และเด็ก 82 ราย </p>
<p>อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชาวอุยกูร์ทั้งหมดต้องการลี้ภัยไปประเทศตุรกี และทางการตุรกีได้ยินดีรับผู้ลี้ภัยทั้งหมด แต่ข้อมูลจากกัณวีร์ สืบแสง ขณะนั้นทำงานเป็นผู้ประสานงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขณะนั้น (สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล) ได้ปฏิเสธไม่ให้เครื่องบินจากกรุงอังการาเดินทางมารับผู้ลี้ภัย โดยไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด หลังจากนั้น ทางการไทยมีกระจายขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในสถานกักตัว สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ และเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการคุมขังชาวอุยกูร์อย่างยาวนาน</p>
<p>นอกจากนี้ ข้อมูลจากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระดับสากล 'ฮิวแมนไรท์วอตช์' (HRW) เปิดเผยว่า ตลอดทั้งปี 2557 ทางการไทยสามารถควบคุมตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ ราว 350 ราย </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">8 ก.ค. 2558 - ไทยบังคับส่งตัวชาวอุยกูร์ 109 ราย กลับประเทศจีน</span></h2>
<p>สื่อต่างชาติ และสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อ 29 มิ.ย. 2558 ทางการไทยส่งตัวผู้หญิงและเด็กชาวอุยกูร์จำนวนราว 172 ราย ลี้ภัยประเทศตุรกี</p>
<p>ต่อมา 8 ก.ค. 2558 ฮิวแมนไรท์วอตช์ และบีบีซีไทย ได้รายงานว่า ทางการไทยมีการบังคับชาวอุยกูร์จำนวน 109 คน ใส่กุญแจมือ ใช้ถุงดำครอบศีรษะ และส่งตัวพวกเขาให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่กรุงเทพฯ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จีนจะพาชาวอุยกูร์ขึ้นเครื่องบินกลับไปประเทศ หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครชะตากรรมชาวอุยกูร์กลุ่มนี้อีกเลย </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52258018771_767d4f012a_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ชาวอุยกูร์ถูกบังคับส่งตัวให้เจ้าหน้าที่จีนพากลับประเทศ (ที่มา: แฟ้มภาพ)</span></p>
<p>การส่งตัวชาวอุยกูร์ไปประเทศจีนทำให้ประเทศไทยในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกวิจารณ์อย่างหนักโดยเฉพาะจากประเทศโลกตะวันตกอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง อีกทั้ง เป็นการละเมิดหลักจารีตประเพณีระหว่างประเทศ 'หลักการห้ามผลักดันไปเผชิญอันตราย' (non-refoulment) </p>
<p>วันเดียวกัน (8 ก.ค. 2558) ช่วงกลางดึก ชาวตุรกีรวมตัวหน้าสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ นครอิสตันบูล เพื่อประท้วงรัฐบาลไทย เพราะไม่พอใจการตัดสินใจของทางการไทยที่ส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน และมีความกังวลว่าคนกลุ่มนี้จะถูกทางการจีนประหารชีวิต นอกจากนี้ ประชาชนตุรกียังได้บุกเข้าไปทำลายสิ่งของภายในอาคาร และมีการปลดธงชาติไทยลงจากยอดเสา</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">17 ส.ค. 2558 - เหตุระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ มีผู้เสียชีวิต 20 ราย</span></h2>
<p>17 ส.ค. 2558 หนึ่งเดือนหลังรัฐบาลไทยผลักดันชาวอุยกูร์กลับประเทศต้นทาง ได้เกิดเหตุวางระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 120 ราย และเสียชีวิต 20 คน แบ่งเป็นคนไทย 6 ราย และชาวต่างชาติ 14 ราย </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://farm6.staticflickr.com/5681/20661283015_ebdb6e2c2e_z.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์ที่แยกราชประสงค์ ภายหลังเกิดเหตุระเบิดเมื่อคืนวันที่ 17 ส.ค. 2557 (ที่มา: Piyasak Ausap)</span></p>
<p>ต่อมา ทางการไทยสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวอุยกูร์ได้ 2 คน คือ อาเดม คาราดัก ผู้ลี้ภัยจากซินเจียง และ ไมไรลี ยูซุฟู ผู้เคยทำธุรกิจเครื่องสำอาง ข้อหามีส่วนร่วมกับการระเบิดที่แยกราชประสงค์ ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกราย วรรณา สวนสัน หรือไมซาเราะห์ ชาวพังงา ถูกตั้งข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์และครอบครองวัตถุระเบิด เพราะเช่าห้องให้แก่ อาเดม และไมไรลี ได้ประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี</p>
<p>หลังเหตุระเบิดมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการตอบโต้จากกรณีที่ประเทศไทยบังคับส่งกลับชาวอุยกูร์เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่ทางการไทยยังคงปฏิเสธการเชื่อมโยงดังกล่าว ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น อ้างว่าเป็น "การเสียผลประโยชน์ของกลุ่มก้อนทางการเมือง"</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>เผยศาลขอให้กรมราชทัณฑ์จัดอาหารฮาลาลให้จำเลยชาวอุยกูร์</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">10 ม.ค. 2563 - ชาวอุยกูร์ 7 คนหลบหนีออกจากห้องกัก มุกดาหาร</span></h2>
<p>เบนาร์นิวส์ รายงานว่า เมื่อ 10 ม.ค. 2563 ชาวอุยกูร์ 7 รายหลบหนีออกจากห้องกัก ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.มุกดาหาร โดยทั้ง 7 คนระบุว่าหนีออกมาเพราะทนสภาพคับแคบของห้องกักไม่ไหว ก่อนที่ภายหลังทั้งหมดถูกจับกุม </p>
<p>ทั้งหมดถูกศาลสั่งจำคุกคนละ 2 ปี ฐานแหกห้องกักที่มุกดาหาร และชาวอุยกูร์ 5 จาก 7 คนถูกชาวบ้านดำเนินคดีเพิ่มฐานลักทรัพย์ จากการสอบถาม วณัฐ โคสาสุ ทนายความของผู้ต้องหา ระบุด้วยว่า เนื่องจากทั้ง 5 คนเมื่อแหกห้องกักออกมาแล้ว ไปเจอชาวบ้านกำลังหาหนูนาในทุ่งนา จึงจับชาวบ้านมัดมือและเท้า ขโมยไฟฉาย ไม้เคาะเรียกหนูนา และหน้าไม้ยิงหนู ก่อนหลบหนี ทั้งนี้ ทั้ง 5 คนไม่มีการขโมยเงินของชาวบ้านแต่อย่างใด</p>
<p>ต่อมา 28 ต.ค. 2563 ศาลจังหวัดมุกดาหาร ตัดสินโทษจำคุกทั้ง 5 คน มีความผิดข้อหาชิงทรัพย์และมีอาวุธติดตัวไปด้วย ตามกฎหมายอาญา ม.34 วรรค 2 โดยสั่งจำคุกทั้งหมด คนละ 16 ปี </p>
<p>โดยชาวอุยกูร์ 2 คนได้ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุกคนละ 8 ปี เนื่องจากให้การรับสารภาพ และชาวอุยกูร์จำเลยอีก 3 ราย ได้ลดโทษ 1 ใน 3 เนื่องจากรับสารภาพหลังสอบพยานโจทก์เสร็จสิ้น เหลือจำคุกคนละ 10 ปี  </p>
<p>ทำให้ทั้ง 5 คน เมื่อรวมกับโทษหลบหนีออกจากห้องกัก โดยชาวอุยกูร์ 2 รายถูกจำคุก 10 ปี และอีก 3 รายถูกจำคุก 12 ปี </p>
<p>วณัฐ กล่าวด้วยว่า ทางผู้ต้องกักทั้ง 7 ราย ได้แจ้งทนายความด้วยว่า พวกเขาถูกเจ้าหน้าที่หลายคนที่ห้องกักมุกดาหารทำร้ายร่างกาย แต่ไม่สามารถจดจำใบหน้าผู้ก่อเหตุได้ จึงไม่ได้มีการดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ </p>
<p>ข้อมูลจากแหล่งข่าวเผยว่า โดยทั้ง 7 รายถูกนำตัวมาคุมขังที่เรือนจำคลองเปรม โดย 2 รายที่ครบกำหนดโทษแล้วถูกนำตัวไปคุมขังที่ ตม.สวนพลู </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">27 ก.ค. 2565 - มีการนำตัวผู้ลี้ภัยชาวอุย์กูร์ราว 50 คน มาคุมขังที่ห้องกักฯ สวนพลู</span> </h2>
<p>เบนาร์นิวส์ รายงานว่า 27 ก.ค. 2565 ทางการไทยได้ย้ายผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ 50 คนจากสถานกักตัวทั่วประเทศ มาที่สถานกักตัวคนต่างด้าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สวนพลู กรุงเทพฯ หลังจากเมื่อ 11 ก.ค. 2565 มีชายชาวอุย์กูร์ 3 คนหลบหนีจากห้องกัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กรณีนี้ชาวอุยกูร์ถูกจับกุมเพียง 2 คน และอีก 1 คนอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">5 มี.ค. 2567 - มีชาวอุยกูร์หลบหนีจากห้องกัก ตม. สวนพลู 2 ราย</span></h2>
<p>5 มี.ค. 2567 แหล่งข่าวหลายแห่งยืนยันว่ามีชาวอุย์กูร์ 2 รายหลบหนีออกจากห้องกัก ตม.สวนพลู ซึ่งภายหลังถูกจับกุมตัวทั้ง 2 คน ยังไม่ทราบว่าถูกคุมขังที่ใด </p>
<p>ปัจจุบัน ชลิดา ทาเจริญศักดิ์ ประธานมูลนิธิศักยภาพชุมชน ได้เช็กกับทาง ตม. ยืนยันว่า มีชาวอุยกูร์ประมาณ 41 คนที่ยังอยู่ใน ตม. สวนพลู และยังถูกคุมขังโดยยังไม่ทราบว่าจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อไร </p>
<div class="note-box">
<h2><span style="color:#2980b9;">ทำไมชาวอุยกูร์ถึงถูกกักขังอย่างยาวนาน</span></h2>
<p>ศิววงศ์ สุขทวี ที่ปรึกษาองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) ระบุว่า การกักตัวชาวอุยกูร์ในห้องกัก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทั้ง 41 คน มานานถึง 10 ปี เป็นปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 54 ซึ่งกำหนดว่า ผู้ที่เข้าเมืองผิดกฎหมายและ<strong> 'ไม่มีคดีอาญา' </strong>จะถูกผลักดันออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม ตม.สามารถกักตัวนานเท่าไรก็ได้ จนกว่าจะมีการตัดสินใจส่งออกนอกประเทศ ดังนั้น ชาวอุยกูร์จะต้องติดในห้องกักไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีกำหนด และเป็นผลให้ชาวอุยกูร์ต้องอยู่ในห้องกักมาอย่างยาวนานถึง 10 ปี</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53587170571_0d82c39671_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ศิววงศ์ สุขทวี</span></p>
<p><strong>พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 54</strong> ระบุว่า คนต่างด้าวผู้ใดเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตนั้น สิ้นสุดหรือถูกเพิกถอนแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะส่งตัวคนต่างด้าวผู้นั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักรก็ได้ ถ้ามีกรณีต้องสอบสวน เพื่อส่งตัวกลับตามวรรคหนึ่ง ให้นำมาตรา 19 และมาตรา 20 มาใช้บังคับโดยอนุโลม</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เป็นเพราะจีน?</span></h2>
<p>ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชีย องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ ตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่ไทยยังไม่ตัดสินใจเรื่องอุยกูร์ เนื่องจากกังวลผลกระทบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ </p>
<p>ย้อนไปเมื่อปี 2558 กรณีการส่งตัวชาวอุยกูร์ 109 คนกลับไปประเทศจีนนั้น ทำให้ประเทศไทยถูกโจมตีอย่างหนักจากนานาชาติ เพราะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง แต่ถ้าส่งชาวอุยกูร์ไปประเทศที่ 3 อย่างตุรกี ไทยก็กังวลผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับจีน เพราะจีนแสดงเจตจำนงมาตลอดว่า ชาวอุยกูร์ที่ลี้ภัยมาที่ไทยเป็นพลเมืองของประเทศตนเอง และพยายามเรียกร้องให้ไทยส่งตัวชาวอุยกูร์กลับ ขณะเดียวกัน ไทยยังต้องการความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน และต้องการมาตรการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจจากจีนอยู่ </p>
<p>ดังนั้น การตัดสินใจที่ดีที่สุดคือ 'การไม่ตัดสินใจ' ส่งตัวชาวอุยกูร์ออกนอกประเทศ และทำให้ชาวอุยกูร์ราว 41 ราย ต้องอยู่สถานกักกันแบบไม่มีกำหนด หรืออาจจะต้องอยู่จนเสียชีวิต </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">กต.เผยลากยาว 10 ปี เพราะกระบวนการยังไม่เสร็จ ยันไม่เกี่ยวกับจีน</span></h2>
<p>เมื่อ 12 มี.ค. 2567 ปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อกรณีของการกักตัวชาวอุยกูร์ 40 กว่ารายใน สตม. ครบ 10 ปีว่า การเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายของไทย เข้าใจว่ามีชาวอุยกูร์ถูกคุมขังอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าที่ใด </p>
<p>ส่วนเรื่องการส่งตัวกลับประเทศจีนหรือส่งตัวไปประเทศที่ 3 อย่างตุรกีตามที่ชาวอุยกูร์ร้องขอหรือไม่นั้น ปานปรีย์ ระบุว่าขอให้กระบวนการเสร็จสิ้นและค่อยตัดสินใจตอนนั้น นอกจากนี้ ปานปรีย์ ระบุยืนยันว่า การตัดสินใจเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจีนอย่างแน่นอน เพราะว่าเป็นเรื่องกฎหมายภายในประเทศ</p>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">ตลอด 10 ปี ของการคุมขังชาวอุยกูร์ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย</span></h2>
<p>ฮิวแมนไรท์วอตช์ และสภาอุยกูร์โลก (World Uyghur Congress) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์เสียชีวิตภายใต้การควบคุมดูแลของทางการไทยแล้ว อย่างน้อย 5 ราย มีรายละเอียดดังนี้</p>
<p>มิ.ย. 2557 มีเด็กทารกแรกเกิดชาวอุยกูร์เสียชีวิต 1 ราย และ 22 ธ.ค. 2557 อับดุลเลาะห์ อับดุลเวลี (Abdullah Abduweli) เด็กชายชาวอุยกูร์อายุ 3 ขวบ เสียชีวิตจากโรคทางเดินหายใจ ระหว่างถูกควบคุมตัว </p>
<p>ส.ค. 2561 บิลาห์ (Bilal) ชายชาวอุยกูร์ อายุ 29 ปี เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ระหว่างถูกคุมขังในห้องกักมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2557 </p>
<p>ผู้เสียชีวิต 2 รายล่าสุด คือเมื่อ 11  ก.พ. 2566 คนแรก อาซิซ อับดุลเลาะห์ (Aziz Abdullah) ผู้แสวงหาที่ลี้ภัยชาวอุยกูร์ อายุ 49 ปี เสียชีวิตจากปอดอักเสบจากการติดเชื้อ</p>
<p>เมื่อ 21 เม.ย. 2566 มัตโตห์ตี มัตตูร์ซุน (Mettohti Metqurban) ชาวอุยกูร์วัย 40 ปี เสียชีวิตหลังถูกตัวนำจากห้องกักส่งโรงพยาบาล เนื่องจากอาการจากระบบไหลเวียนโลหิต และการหายใจล้มเหลว </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53587163576_05562d1343_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">มัตโตห์ตี มัตตูร์ซุน (ที่มา: Private)</span></p>
<div class="Note-box">
<div class="note-box">
<h2><span style="color:#2980b9;">คุณภาพชีวิตในห้องกักอันย่ำแย่ และเข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์</span></h2>
<p>ภาคประชาสังคมได้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าการเสียชีวิตของชาวอุยกูร์ในห้องกักนั้นกำลังสะท้อนคุณภาพชีวิตอันย่ำแย่และแออัดของห้องกัก ตม.</p>
<p>กฤตพร เสมสันทัด ผู้อำนวยการโครงการ 'มูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ' กล่าวที่รัฐสภา ระหว่างยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงตัวแทนจากคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ คณะกรรมการการต่างประเทศ และคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า สภาพคุณภาพชีวิตของผู้ต้องกักในสถานกักตัว สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองย่ำแย่อย่างมาก มีพื้นที่แออัดจนไม่สามารถนอนเหยียดหลังได้เต็มที่ ช่องรับแสงธรรมชาติน้อย ไม่มีพื้นที่ส่วนตัว ไม่มีพื้นที่ออกกำลังกาย ไม่สามารถติดต่อบุคคลภายนอกและสมาชิกครอบครัวได้ กิจวัตรที่ซ้ำไปซ้ำมาตลอด 10 ปี เป็นปัจจัยเสี่ยงสะสมที่ทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างรุนแรง</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53585827712_119c8ce480_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">กฤตพร เสมสันทัด</span></p>
<p>ในวันนั้น กฤตพร เรียกร้องเธอต้องการให้รัฐบาลยุติการกักตัวชาวอุยกูร์ทั้งหมดในปีที่ 10 นี้ และขอให้มีการใช้มาตรการทดแทนการกักขัง นอกจากนี้ เธอเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในการยกระดับห้องกักตัว สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง</p>
<p>ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เคยเข้าตรวจสอบห้องกัก ตม. เมื่อปี 2566 หลังมีเหตุการณ์ผู้ต้องกักชาวอุยกูร์เสียชีวิต 2 รายติดต่อกันในเวลาไม่เกิน 1 เดือนในห้องกักของ ตม. สวนพลู โดย กสม. ทำข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลโดยคร่าว ดังนี้ </p>
<p>1. ต้องปรับปรุงห้องขังสอดคล้องกับหลักการสิทธิมนุษยชน แก้ไขความแออัด และเปิดช่องทางให้ผู้ถูกกักได้ไปประเทศที่ 3 2. ให้สิทธิผู้ต้องกักติดต่อบุคคลภายนอก สมาชิกครอบครัว ที่ปรึกษากฎหมาย เจ้าหน้าที่สถานทูตต่างๆ หรือชาวมุสลิม สามารถพูดคุยกับจุฬาราชมนตรี โดยการสื่อสารอาจอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ หรือการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ตม.ได้ </p>
<p>3. ชาวอุยกูร์ควรเข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุข เช่น ให้มีแพทย์ และจิตแพทย์ เข้าไปตรวจสุขภาพในห้องกัก</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>10 ปีที่ถูกขัง ชะตากรรมชาวอุยกูร์ยังไร้จุดหมาย เมื่อ 'การเมืองระหว่างประเทศ' มาก่อน 'มนุษยธรรม'</li>
<li>ปชช.ยื่น จม.เปิดผนึก 1,088 รายชื่อถึงนายกฯ ยุติการกักขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์</li>
</ul>
</div>
</div>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">จับตา คดี 2 ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดราชประสงค์ เข้าสู่ศาลพลเรือน สืบพยานกว่า 140 ปาก ลากยาวเกือบ 10 ปี</span></h2>
<p>หลังการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 ราย ว่ามีส่วนร่วมวางระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ เมื่อปี 2558 เบื้องต้น สื่อรายงานว่าทั้ง 2 ผู้ต้องสงสัย ได้แก่ อาเดม คาราดัก และ ไมไลรี ยูซูฟุ สารภาพในชั้นสอบสวน แต่เมื่อปี 2559 สองผู้ต้องสงสัยขึ้นให้การในศาลทหาร ได้กลับคำให้การเป็น 'ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา' โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ถูกทำร้ายร่างกาย บังคับให้รับสารภาพ และเผชิญปัญหาข้อจำกัดทางภาษา </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/1585/25954923603_46f8b4316d_o.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">อาเดม คาราดัก (ชุดนักโทษคนหน้า) และ ไมไลรี ยูซูฟู (ชุดนักโทษคนหลัง) ขณะที่คดีของพวกเขายังถูกพิจารณาในศาลทหารกรุงเทพ แฟ้มภาพ</span></p>
<p>การพิจารณาคดีในชั้นศาลทหารเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากปัญหาเรื่องการหาล่ามภาษาอุยกูร์ และพยานโจทก์ไม่เดินทางมาที่ศาล จนกระทั่งในปี 2563 มีการโอนคดีความจากศาลทหาร มาเป็นศาลพลเรือน '<strong>ศาลอาญากรุงเทพใต้</strong>' และเริ่มกลับมาพิจารณาคดีในชั้นสืบพยานอีกครั้งในปี 2565 </p>
<p>รายงานข้อมูลจากภาคประชาสังคม ระบุว่า เมื่อปี 2567 คดีของอาเดม คาราดัก และ ไมไรลี ยูซูฟุ ยังอยู่ขั้นตอนการสืบพยานชั้นศาล โดยมีบัญชีพยานทั้งหมดประมาณ 140 รายชื่อ และคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาคดีอีก 2 ปี ถึงได้ฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น</p>
<p>ทั้งนี้ อาเดม คาราดัก และ ไมไรลี ยูซุฟุ ถูกคุมขังที่คุกภายในค่ายทหารกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 แจ้งวัฒนะ จนถึงปัจจุบัน และจะมีการสืบพยานคดีนี้ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ วันที่ 26-28 มี.ค. 2567 </p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>7 ปี คดีระเบิดราชประสงค์สืบพยานได้ 40 จาก 400 กว่าปาก ทนายชี้หลักฐานโจทก์ยังไม่ถึงจำเลย</li>
<li>เผยศาลขอให้กรมราชทัณฑ์จัดอาหารฮาลาลให้จำเลยชาวอุยกูร์</li>
</ul>
</div>
<div class="note-box">
<p> หมายเหตุ - เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567 เวลา 10.38 น. มีการอัพเดทคดีความของ 5 ผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ ที่หลบหนีออกจากห้องกักมุกดาหาร เมื่อปี 2563</p>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108432
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวมาแรง] - ศาลอนุมัติหมายจับเจ้าของโกดังเก็บดอกไม้เพลิงมูโนะ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 370 กระทู้ล่าสุด 02 สิงหาคม 2566 14:49:17
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - องค์กรพิทักษ์สัตว์เรียกร้องให้เพิ่มเรื่องสวัสดิภาพสัตว์และห้ามใช้ยาปฏิชีวน
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 382 กระทู้ล่าสุด 05 สิงหาคม 2566 15:31:10
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - คาดแบงก์พาณิชย์ไทยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย กนง.
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 285 กระทู้ล่าสุด 06 สิงหาคม 2566 18:04:42
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ย้อนหนึ่งทศวรรษของการคุมขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 28 กระทู้ล่าสุด 14 มีนาคม 2567 22:53:10
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ย้อนหนึ่งทศวรรษของการคุมขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 32 กระทู้ล่าสุด 15 มีนาคม 2567 00:31:07
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.836 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 16 มีนาคม 2567 09:01:31