[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: เงาฝัน ที่ 05 สิงหาคม 2555 19:04:14



หัวข้อ: ว่าด้วย... พึงเที่ยวไปผู้เดียว
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 05 สิงหาคม 2555 19:04:14


(http://uc.exteenblog.com/dhammaworld/images/Zen/1180253134.jpg)

พึงเที่ยวไปผู้เดียว

·  บุคคลวางอาชญาในสัตว์ทั้งปวงแล้ว ไม่เบียดเบียนบรรดาสัตว์เหล่านั้น
แม้ผู้ใดผู้หนึ่งให้ลำบาก ไม่พึงปรารถนาบุตรจะพึงปรารถนาสหายแต่ที่ไหน
พึงเที่ยวไปผู้เดียว   เหมือนนอแรด   ฉะนั้น.

.  ความเยื่อใยย่อมมีแก่บุคคลผู้เกี่ยวข้องกัน ทุกข์นี้ย่อมเกิดขึ้น
ตามความเยื่อใย บุคคลเล็งเห็นโทษอันเกิดแต่ความเยื่อใย
พึงเที่ยวไปผู้เดียว  เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.

·  บุคคลอนุเคราะห์มิตรสหาย เป็นผู้มีจิตปฏิพัทธ์แล้ว ชื่อว่า
ย่อมยังประโยชน์ให้เสื่อม บุคคลเห็นภัย คือ การยังประโยชน์ให้เสื่อม
ในการเชยชิดนี้  พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.
                                   
·  บุคคลข้องอยู่แล้ว ด้วยความเยื่อใยในบุตรและภริยา
เหมือนไม้ไผ่กอใหญ่เกี่ยวก่ายกันฉะนั้น บุคคลไม่ข้องอยู่ เหมือนหน่อไม้
พึงเที่ยวไปผู้เดียว  เหมือนนอแรด ฉะนั้น.
 
·  เนื้อในป่าที่บุคคลไม่ผูกไว้แล้ว  ย่อมไปหากินตามความปรารถนา
ฉันใด นรชนผู้รู้แจ้ง เพ่งความประพฤติตามความพอใจของตน
พึงเที่ยวไปแต่ผู้เดียว  เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.

·  การปรึกษาในที่อยู่ ที่ยืน ในการไปในการเที่ยว ย่อมมีในท่ามกลางแห่งสหาย
บุคคลเพ่งความประพฤติตามความพอใจ  ที่พวกบุรุษชั่วไม่เพ่งเล็งแล้ว
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.

·  การเล่น การยินดี ย่อมมีในท่ามกลางแห่งสหาย อนึ่ง ความรักที่ยิ่งใหญ่
ย่อมมีในบุตรทั้งหลาย บุคคลเมื่อเกลียดชังความพลัดพราก
จากสัตว์และสังขารอันเป็นที่รัก พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น.

·  บุคคลย่อมเป็นอยู่ตามสบาย ในทิศทั้งสี่และไม่เดือดร้อน
ยินดีด้วยปัจจัยตามมีตามได้  ครอบงำเสียซึ่งอันตราย ไม่หวาดเสียว
พึงเป็นผู้เที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น.

·  แม้บรรพชิตบางพวกก็สงเคราะห์ได้ยาก อนึ่ง คฤหัสถ์ผู้อยู่ครองเรือน
สงเคราะห์ได้ยาก บุคคลเป็นผู้มีความขวนขวายน้อย ในบุตรของผู้อื่น
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น.

·  นักปราชญ์ละเหตุ อันเป็นเครื่องปรากฏแห่งคฤหัสถ์
ดุจต้นทองหลางมีใบร่วงหล่น ตัดเครื่องผูกแห่งคฤหัสถ์ได้แล้ว
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น.

·  เราย่อมสรรเสริญสหายผู้ถึงพร้อมด้วยศีลขันธ์เป็นต้น พึงคบสหาย
ผู้ประเสริฐสุด ผู้เสมอกัน กุลบุตรไม่ได้สหายผู้ประเสริฐสุด
และผู้เสมอกันเหล่านี้แล้ว
พึงเป็นผู้บริโภคโภชนะไม่มีโทษ เที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น.
 
·  บุคคลแลดูกำไลทองทั้งสองอันงามผุดผ่อง ที่บุตรแห่งนายช่างทองให้สำเร็จ
ด้วยดีแล้ว กระทบกันอยู่ในข้อมือ  พึงเที่ยวไปผู้เดียว  เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.

·  การที่เราจะพึงพูดจากับพระกุมารทั้งสอง หรือการข้องอยู่ด้วย
อำนาจแห่งความเยื่อใย  พึงมีได้อย่างนี้ บุคคลเล็งเห็นภัยนี้ในอนาคต
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น.

·  ก็กามทั้งหลายงามวิจิตร มีรสอร่อยเป็นที่รื่นรมย์ใจ
ย่อมย่ำยีจิตด้วยรูปแปลกๆ บุคคลเห็นโทษในกามคุณทั้งหลายแล้ว
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.

·  บุคคลเห็นภัย คือ จัญไร ฝี อุปัทวะโรค ลูกศร และความน่ากลัวนี้
ในกามคุณทั้งหลายแล้ว      พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนอแรด ฉะนั้น.

·  บุคคลพึงครอบงำอันตรายเหล่านี้แม้ทั้งปวง คือ หนาว
ร้อน หิว กระหาย ลม แดด เหลือบ และสัตว์เลื่อยคลานแล้ว
พึงเที่ยวไปผู้เดียว  เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.

·  บุคคลพึงเป็นผู้เที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด
เปรียบเหมือนช้างใหญ่ ที่เกิดในตระกูลปทุม มีขันธ์เกิดขึ้นแล้ว
ละโขลงอยู่ในป่าตามอภิรมย์  ฉะนั้น.
 
·  บุคคลพึงใคร่ครวญถ้อยคำของพระปัจเจกพุทธเจ้า
ผู้เป็นเผ่าพันธุ์พระอาทิตย์ว่า
การที่บุคคลผู้ยินดีแล้ว ด้วยการคลุกคลีด้วยคณะ
จะพึงบรรลุวิมุตติอันมีในสมัย นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
พึงเที่ยวไปผู้เดียว  เหมือนนอแรด   ฉะนั้น.
 
·  เราล่วงพ้นทิฏฐิอันเป็นข้าศึก ได้แล้วถึงความเป็นผู้เที่ยง
ได้มรรคแล้ว เป็นผู้มีญาณเกิดขึ้นแล้ว อันผู้อื่นไม่พึงแนะนำ
พึงเที่ยวไปผู้เดียว  เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.
 
·  บุคคลผู้ไม่โลภ ไม่หลอกลวง ไม่มีความกระหาย ไม่ลบหลู่
มีโมหะดุจน้ำฝาดอันกำจัดเสียแล้ว
ไม่มีความอยาก ครอบงำโลกทั้งปวงได้แล้ว
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.

·  กุลบุตรพึงเว้นสหายผู้ลามก ไม่พึงเสพด้วยตนเอง
ซึ่งสหายผู้ชี้บอกความฉิบหายมิใช่ประโยชน์
ผู้ตั้งอยู่ในกรรมอันไม่เสมอ ผู้ข้องอยู่ ผู้ประมาท
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.

·  บุคคลพึงคบมิตรผู้เป็นพหูสูตทรงธรรม ผู้ยิ่งด้วยคุณธรรม มีปฏิภาณ
รู้จักประโยชน์ทั้งหลาย กำจัดความสงสัยได้แล้ว
พึงเที่ยวไปผู้เดียว  เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.
 
·  บุคคลไม่พอใจการเล่น ความยินดีและกามสุขในโลกแล้ว
ไม่เพ่งเล็งอยู่ เว้นจากฐานะแห่งการประดับ มีปกติกล่าวคำสัตย์
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น.
 
·  บุคคลละบุตร ภรรยา บิดา มารดา ทรัพย์  ข้าวเปลือก
พวกพ้อง และกาม ซึ่งตั้งอยู่ตามส่วนแล้ว
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.
 
·  บัณฑิตทราบว่าความเกี่ยวข้องในเวลาบริโภคเบญจกามคุณนี้
มีสุขน้อย มีความยินดีน้อย มีทุกข์มาก ดุจหัวฝี ดังนี้แล้ว
พึงเที่ยวไปผู้เดียว  เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.
 
·  บุคคลพึงทำลายสังโยชน์ทั้งหลายเสีย เหมือนปลาทำลายข่าย
เหมือนไฟไม่หวนกลับมาสู่ที่ไหม้แล้ว
พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น.
 
·  บุคคลผู้มีจักษุทอดลงแล้ว ไม่คะนองเท้า มีอินทรีย์อันคุ้มครองแล้ว
มีใจอันรักษาแล้ว ผู้อันกิเลสไม่รั่วรดแล้ว และอันไฟคือกิเลสไม่แผดเผาอยู่
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.
 
·  บุคคลละเพศแห่งคฤหัสถ์ ดุจต้นทองหลางมีใบร่วงหล่นแล้ว
นุ่งห่มผ้ากาสายะ ออกบวชเป็นบรรพชิต
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น.
 
·  ภิกษุไม่กระทำความยินดีในรสทั้งหลาย ไม่โลเล ไม่เลี้ยงคนอื่น
มีปกติเที่ยวบิณฑบาตตามลำดับตรอก   ผู้มีจิตไม่ผูกพันในตระกูล
พึงเที่ยวไปผู้เดียว  เหมือนนอแรด ฉะนั้น.
 
·  บุคคลละธรรมเป็นเครื่องกั้นจิต ๕ อย่าง บรรเทาอุปกิเลสทั้งปวงแล้ว
ผู้อันทิฏฐิไม่อาศัย  ตัดโทษคือความเยื่อใยได้แล้ว
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น.
 
·  บุคคลละสุข ทุกข์ โสมนัสและโทมนัสในกาลก่อนได้ ได้อุเบกขา
และสมถะอันบริสุทธิ์แล้ว    พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น.
 
·  บุคคลปรารภความเพียรเพื่อบรรลุปรมัตถประโยชน์ มีจิตไม่หดหู่
มีความประพฤติไม่เกียจคร้าน มีความบากบั่นมั่นคงถึงพร้อมแล้ว
ด้วยกำลังกาย และกำลังญาณ พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น.
 
·  บุคคลไม่ละการหลีกเร้นและฌาน มีปกติประพฤติธรรม
อันสมควรเป็นนิตย์ ในธรรมทั้งหลาย
พิจารณาเห็นโทษในภพทั้งหลาย
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น.
 
·  บุคคลผู้ปรารถนาความสิ้นตัณหา พึงเป็นผู้ไม่ประมาท
ไม่เป็นคนบ้าคนใบ้ มีการสดับ มีสติ มีธรรมอันกำหนดรู้แล้ว
เป็นผู้เที่ยง มีความเพียร
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น.
 
·  บุคคลไม่สะดุ้งในธรรมมีความไม่เที่ยงเป็นต้น
เหมือนราชสีห์ไม่สะดุ้งในเสียง
ไม่ข้องอยู่ในธรรมมีขันธ์และอายตนะเป็นต้น
เหมือนลมไม่ข้องอยู่ในข่าย
ไม่ติดอยู่ด้วยความยินดีและความโลภ เหมือนดอกปทุมไม่ติดอยู่ด้วยน้ำ
พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด  ฉะนั้น.
 
·  บุคคลพึงเสพเสนาสนะอันสงัด
เป็นผู้เที่ยวไปผู้เดียว เช่นกับนอแรด เหมือนราชสีห์

(http://2.bp.blogspot.com/_oigT0GOX_oY/TUaW9msh-bI/AAAAAAAAAaE/m9PDrCQjqMw/s400/Azure-wallpaper_wallpapers_5494_1600x1200.jpg)
http://www.wat-esansamakkee.com/newss/959.html