|
หัวข้อ: แปะก๊วยลอยแก้ว หวาน หอม ละมุน บำรุงสมอง - กิมเล้ง เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 05 กันยายน 2555 12:56:53 แปะก๊วยลอยแก้ว หวาน หอม ละมุน บำรุงสมอง โดย กิมเล้ง (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/79888595475090_1.png) แปะก๊วย ของหวานบำรุงสมอง • เครื่องปรุง - แปะก๊วยต้มสุก 100 กรัม - ถั่วแดงต้มสุก 50 กรัม - ลำไยอบแห้ง ¼ ถ้วย - น้ำตาลกรวด และน้ำตาลทรายไม่ฟอกสี • วิธีทำ 1. ลำไยอบแห้งล้างน้ำให้สะอาด นำไปต้มกับน้ำตาลด้วยไฟอ่อน ๆ จนเนื้อลำไยนิ่ม 2. ใส่ถั่วแดงต้มสุก และแปะก๊วยต้ม (ที่บ้านพอมีเนื้อมะพร้าวอ่อนจึงใส่ไปด้วย) ชิมรสหวานตามความชอบ 3. ตักใส่ถ้วยรับประทานขณะอุ่น ๆ หรือใส่ภาชนะมีฝาปิดมิดชิดแช่ตู้เย็นไว้ทานได้หลายวัน (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/50835317124923_2.png) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/27518966587053_3.png) คอยหมั่นช้อนฟองทิ้งด้วยจ้ะ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/79888595475090_1.png) แปะก๊วย เป็นพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดจากทางตะวันออกของประเทศจีน (แถบภูเขาด้านตะวันตกของนครเซี่ยงไฮ้) ที่มีการแยกต้นเป็นเพศผู้ และเพศเมีย ใบมีลักษณะคล้ายใบพัด แยกออกเป็น 2 กลีบ พบว่ามีการนำเข้าไปปลูกในประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับการเผยแผ่ศาสนาพุทธนิกายเซน เมื่อประมาณ ช่วงราว ค.ศ. ๑๓๐๐ หรือสมัยคามากุระ ลักษณะพิเศษของต้นแปะก๊วยคือ จะผลัดใบไม่พร้อมกันทุกต้น แต่เมื่อผลัดใบ ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วร่วงหล่นทั้งต้นภายในไม่กี่วัน ในปัจจุบันหลายๆ ประเทศได้ให้การยอมรับถึงสรรพคุณของใบแปะก๊วยในการรักษาโรคสมองเสื่อม โดยการนำสารสกัดจากใบแปะก๊วยมารวมกับสารอื่น ๆ ช่วยให้การดูดซับที่ผนังลำไส้เล็กดีขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถนำเอาสารสกัดจากใบแปะก๊วยนี้มาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำสารสกัดดังกล่าวมาทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อบำรุงสมอง และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ใช้รักษาโรคความจำเสื่อม โรคซึมเศร้า อาการหลงๆ ลืมๆ อันเนื่องมาจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอในผู้ป่วยสูงอายุ ผลแปะก๊วย ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารจีนหลากหลายชนิด มีสรรพคุณช่วยบำรุงสมอง ช่วยให้เลือดลมหมุนเวียนได้สะดวก แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าแหล่งใหญ่ของสารที่ทำหน้าที่ช่วยเสริมสุขภาพดังกล่าว กลับพบมากในส่วนของใบมากกว่าผลเสียอีก …ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย เท่าที่ซื้อหาแปะก๊วยมารับประทาน เห็นว่าแปะก๊วยที่แพ็คสำเร็จ (แพคสูญญากาศ) มีวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า เช่น แม็คโคร เป็นต้น มีคุณภาพดีที่สุด ผลสวย เหลืองสด และผ่านการต้มสุกมาระดับหนึ่งแล้ว เพียงนำมาวางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 2–3 ชั่วโมง ก็สามารถนำไปปรุงรับประทานได้ แต่ราคาค่อนข้างแพงมาก หากเปรียบเทียบกับแปะก๊วยที่วางขายในตลาดสดทั่วไป ซึ่งได้เคยซื้อนำมาปรุงเป็นของหวานตามเมนูข้างต้น และถึงกับต้องเททิ้งไป เพราะไปซื้อจากร้านขายอาหารสด ประเภทเนื้อสัตว์ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลาทะเล ลูกชิ้น ไส้กรอก ฯลฯ โดยขายควบคู่ไปกับแปะก๊วยต้มสุก หน่อไม้จีน วุ้นเส้นสด ทำให้กลิ่นคาวจากของสดเหล่านั้น ติดมาที่ผลแปะก๊วยด้วย แม้จะนำไปล้างน้ำหลาย ๆ ครั้ง กลิ่นคาวก็ยังคงติดอยู่อย่างเหนียวแน่น ส่วนวิธีกำจัดความขมของแปะก๊วย (ต้มสุกแล้ว) ให้สังเกตที่ผลของแปะก๊วย ถ้าเห็นเป็นจุดเขียวเล็ก ๆ ตรงกลางผลด้านบน แสดงว่ามีต้นอ่อนของแปะก๊วยงอกอยู่ด้านใน และต้นอ่อนนี้เองที่ทำให้แปะก๊วยมีรสขม วิธีกำจัดความขม ให้ใช้ไม้จิ้มฟันแทงจากด้านล่างของผล ซึ่งเป็นส่วนที่เรียวเล็ก แทงขึ้นไปด้านบนตรง ๆ ต้นอ่อนของแปะก๊วยจะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย ทำให้ความขมหมดไปอย่างได้ผลดีที่สุด เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีผู้ให้คำแนะนำหลากหลาย บางตำราให้นำไปต้มโดยใส่ผงโซดาไบคาร์บอเนตไปด้วย บางตำราให้นำไปต้มหลาย ๆ ครั้ง จะทำให้ความขมหมดไป ซึ่งเป็นไปได้แต่ก็จะทำให้คุณค่าของสารอาหารหมดตามไปด้วยเช่นกัน ... ถั่วแดง ถั่วแดง เป็นธัญพืชที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แมกนีเซียม, ฟอสฟอรัส, โปแตสเซียม ประโยชน์ของถั่วแดง ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงประสาท บำบัดอาการเหน็บชา ใจสั่น ช่วยขับพิษ ขับของเหลวในร่างกาย บรรเทาอาการปวดตามข้อ ตามกระดูก ตามตำรายาจีนได้กล่าวไว้ คือ ช่วยขับปัสสาวะ บรรเทาอาการปวดบวม บรรเทาอาการปวดข้อต่อ ปรับสภาพเลือด กำจัดหนอง ขับพิษ บำบัดอาการประจำเดือนผิดปกติ ขับน้ำนม วิธีทำถั่วแดงต้มสุก - ถั่วแดงล้างน้ำ เพื่อกำจัดฝุ่นละออง แล้วเติมน้ำให้ท่วม แช่ทิ้งไว้ 1 คืน - เทน้ำแช่ถั่วแดงทิ้ง แล้วล้างน้ำอีก 1 ครั้ง นำไปต้มด้วยไฟอ่อน ๆ ให้สุกนิ่ม - นำไปใส่ของหวาน เช่น ทับทิมกรอบ แปะก๊วยลอยแก้ว ฯลฯ ส่วนที่เหลือ ใส่ถุงพลาสติก แล้วใส่น้ำตาลทรายกับน้ำต้มถั่วแดงนิดหน่อย ปิดปากถุงแล้วเขย่าให้น้ำตาลกระจายละลายทั่วถึงกัน นำเก็บรักษาไว้ในตู้เย็น แล้วแบ่งมาใส่ของหวานต่าง ๆ เช่น แปะก๊วยลอยแก้ว เป็นต้น |