จิตเดิมแท้ถาม: คำว่าจิตเดิมแท้คือจิตที่มีกิเลสหรือจิตบริสุทธิ์ครับ
พระอาจารย์: เป็นจิตที่ยังมีกิเลสอยู่ คือจิตที่นิ่งสงบเป็นสมาธินี่ท่านเรียกว่าเป็นจิตเดิมแท้ แต่ยังมีกิเลสฝังอยู่ภายในจิตนั้น เพียงแต่ว่ายังไม่ออกมาทำงาน พอออกจากสมาธิมา ก็ออกจากจิตเดิมแท้มาสู่จิตปัจจุบัน เช่น เวลาเราเข้าสมาธินี่เรากลับเข้าไปสู่จิตเดิมของเรา จิตที่สงบนิ่ง แต่จิตสงบนิ่งของเรานี้ยังมีกิเลสฝังอยู่ พอเราออกจากสมาธิมา กิเลสที่ฝังอยู่ก็จะออกมาแสดงบทบาท แสดงความโลภความโกรธต่อไป ถ้าเราต้องการทำให้จิตบริสุทธิ์เราก็ต้องปฏิบัติวิปัสสนา ใช้ปัญญามากำจัดกิเลสที่มีอยู่ในใจให้หมดสิ้นไป ถ้ามีปัญญา ปัญญาจะสามารถกำจัดกิเลสต่างๆ ให้หมดไป พอกิเลสหมดไปด้วยปัญญา จิตก็เรียกว่าจิตบริสุทธิ์ เป็นจิตของพระพุทธเจ้า จิตของพระอรหันต์ ที่ไม่มีวันที่จะต้องกลับมาเกิดแก่เจ็บตาย ไม่มีกิเลสมาสร้างความทุกข์ให้อีกต่อไปธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน
หน้าที่ของเงินทองเงินทองก็เป็นของในโลกนี้ ไม่มีใครเอาติดตัวไปได้ เงินทองก็มีไว้รับใช้ร่างกายของเราให้ร่างกายเราอยู่อย่างสุขสบาย มีปัจจัยสี่ มีอาหาร มียารักษาโรค มีเครื่องนุ่งห่ม มีที่อยู่อาศัย พอเรามีครบแล้ว มีมากกว่านั้นก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร เพราะไม่สามารถเอาไปให้ความสุขกับจิตใจได้ จะให้ความสุขกับจิตใจ ก็ต้องเอาเงินทองที่เหลืออยู่จากการใช้ในการดูแลร่างกายนี้เอาไปทำบุญ พอเราเอาเงินทองไปทำบุญ เราก็จะได้บุญที่จะเป็นความสุขของใจ ถ้าเอาเงินทองไปซื้อความสุขทางร่างกายก็จะได้ความสุขปลอม ได้ความสุขเดี๋ยวเดียว เช่น เราไปเที่ยวเราก็ได้ความสุขตอนที่เราไปเที่ยวกัน พอเรากลับมาบ้านความสุขนั้นก็หายไป ความอยากเที่ยวก็มาอีก ก็ต้องไปเที่ยวอีกถึงจะมีความสุข ถ้าไม่ได้เที่ยวก็กลับเป็นความทุกข์ไป แต่ถ้าเราเอาเงินที่จะไปเที่ยวนี้มาทำบุญ เราจะได้ความสุขใจอิ่มใจที่ไม่ได้หมดไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับการไปเที่ยว เราทำบุญแล้วความอยากไปเที่ยวก็ไม่มี ทำให้เราอยู่บ้านเฉยๆได้ อยู่ไม่ได้ทำอะไรก็มีความสุข อยู่เฉยๆก็มีความสุข เพราะบุญที่เราทำมันเป็นเหมือนอาหารหล่อเลี้ยงจิตใจ ทำให้ใจไม่หิวกับความต้องการไปทำตามความอยากต่างๆ การทำบุญนี้เป็นการมาสลายความอยากใช้เงินไปในทางที่เป็นโทษ ใช้เงินไปในทางที่ทำให้เกิดความอยากขึ้นมาเรื่อยๆ เช่น เอาเงินไปเที่ยวเอาเงินไปซื้อของฟุ่มเฟือยต่างๆ ซื้อแล้วแทนที่มันจะพอ มันไม่พอ มันกลับอยากจะซื้ออีก อยากจะได้อีก ไปเที่ยวก็อยากจะไปเที่ยวอีก แต่ถ้าเอาเงินที่จะใช้กับสิ่งเหล่านี้ไปทำบุญ มันก็ทำให้ความอยากเที่ยวอยากใช้เงินต่างๆมันน้อยลงไป ถ้าเราทำเรื่อยๆ ต่อไปเราจะไม่มีความรู้สึกอยากจะเที่ยว อยากจะซื้อของฟุ่มเฟือยต่างๆ เพราะใจเรามีบุญมีความสุขใจที่เกิดจากการทำบุญระงับความอยากต่างๆ ความอยากใช้เงินต่างๆ ได้ นี่คือหน้าที่ของเงินทองที่พวกเรามีอยู่
ส่วนหนึ่งก็ต้องมีไว้สำหรับดูแลร่างกาย เพราะร่างกายถ้าขาดปัจจัยสี่ ร่างกายก็จะต้องทุกข์ยากลำบาก หรือเจ็บไข้ได้ป่วย หรือถึงกับเสียชีวิตไป เราก็ต้องมีเงินทองส่วนนี้ไว้สำหรับเลี้ยงดูร่างกาย แต่ถ้าเรามีมากกว่าที่เราจะใช้กับการดูแลร่างกายได้ ก็อย่าเอาไปใช้ซื้อของฟุ่มเฟือยซื้อของไม่จำเป็น เอาไปทำตามความอยากต่างๆ เพราะมันจะเป็นการสร้างความทุกข์ให้กับใจ แทนที่จะให้ความสุขกับใจ มันจะสร้างความอยากให้เกิดขึ้นมาเรื่อยๆสนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๐
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน