[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 พฤษภาคม 2567 18:57:55 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กระทู้นี้สำหรับ พี่ แป๋ม คร่าว ๆ น่ะ เต็มไม่ได้  (อ่าน 4224 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 30 เมษายน 2553 14:35:08 »




ถ่ายภาพประกอบเนื้อหาโดยข้าพเจ้า(บางครั้ง)ภาพนี้เก็บอยู่ที่ สีสด DOTCOM



............................本師釋迦牟尼佛...............................



.........................คาถาหฤทัยประจำพระองค์..............................



......................โอม มุนี มุนี มหา มุนี เย สวาหา...............................



ด้วยสัตว์โลกจะต้องยอมทนในความทุกข์ทั้งปวง เนื่องจากมิรู้ถึงวิธีการที่จะหลุดพ้นออกมาได้ ดังเช่นโลกแห่งนี้ที่เหล่าสัตว์ยากแก่การสั่งสอนอบรม เหตุเพราะไม่มีพระพุทธะองค์ใดมาตรัสรู้เว้นแต่พระศากยมุนีพระองค์เดียวที่อุบัติขึ้นในโลก ด้วยพระมหากรุณา จึงสามารถทรงอดทนต่อความ
เหนื่อยยากได้ และด้วยพระมหาปัญญาจึงสามารถทรงตรัสรู้ได้ โดยไม่แปดเปื้อนกับมลทินของโลกพระองค์จึงทรงอุบัติด้วยกายสังขารขึ้นที่สวนลุมพินี ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์ของพระราชชนก และกรุงเทวทหะของพระราชชนนี และเหตุที่พระองค์ทรงได้ตรัสรู้และสั่งสอนสรรพสัตว์จึงได้รับการถวายพระสมญานามว่า พระบรมศาสดาแห่งโลก(本師) โดยที่แท้จริงแล้ว บรรดาพระพุทธเจ้าทั้งปวงทรงมีพระหทัยตั้งมั่นปรารถนาช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงอยู่แล้ว และด้วยอำนาจแห่งความปรารถนาที่แรงกล้า(ปณิธาน)นั้น พระองค์จึงทรงถืออุบัติขึ้นในโลกทั้งหลาย และทรงมุ่งมั่นบำเพ็ญเพียร เพราะได้ประสบกับความทุกขเวทนาต่างๆ ของโลกแล้วจึงมีพระปณิธานว่าจะโปรดฉุดช่วยให้หมดสิ้น
สหาโลกธาตุเป็นชื่อเรียกโลกที่เราอยู่นี้ของพุทธศาสนา มีความหมายว่า โลกธาตุที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ซึ่งจำต้องอดทน ต้องอยู่ด้วยขันติธรรม เพราะโลกนี้เต็มไปด้วยทุกข์จากการเกิด แก่เจ็บ ตาย และโลกธรรมทั้ง ๘ เป็นต้น พระศากยมุนีทรงสามารถชำนะได้แล้ว ชาวโลกจึงถวายพระสมญา
นามว่า พระผู้สามารถและผู้อารี อันแสดงถึงความไม่หวาดหวั่นต่อภัยแห่งวัฏฏสงสาร และความเมตตากรุณาเป็นที่สุด


ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นเครื่องสักการะ

แด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

และขออุทิศเพื่อสรรพสัตว์ทั้งปวง



ที่มาของเนื้อหาฉบับนี้ 後學釋聖傑
พระวิศวภัทร เสี่ยเกี๊ยก
วัดเทพพุทธาราม (เซียนฮุดยี่)
จ.ชลบุรี

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 เมษายน 2553 15:21:18 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 30 เมษายน 2553 14:41:37 »




ในคัมภีร์กรุณาปุณฑริกสูตร กล่าวว่า ในอดีตกัลป์อันแสนยาวนานที่ล่วงมาแล้วนั้นพระศากยมุนีทรงเคยเสวยพระชาติเป็นมนุษย์นามว่า รัตนสาคร ได้เป็นผู้นำพา สั่งสอน ชี้นำสรรพสัตว์จำนวนมากมายไม่มีประมาณ ประดุจพระอวโลกิเตศวร พระสมันตภัทรและพระเมตไตรย ด้วยเหตุที่
พระรัตนสาครบังเกิดพระบรมโพธิจิต เวลานั้นจึงมีพระปณิธานแน่วแน่จักชำระโลกธาตุของพระองค์เองให้บริสุทธิ์อลังการ เพื่อจักสงเคราะห์แก่สรรพสัตว์ที่มีกุศลมูล ปรารถนาให้ไม่มีแม้สิ่งเดียวที่จะยังความเสื่อมชั่วร้ายแก่โลก แต่พระรัตนสาครโพธิสัตว์ในสมัยนั้นได้มีดำริว่า สัตว์ในสหาโลกธาตุ ยากที่จะช่วยเหลือ
ยากที่จะโปรดยิ่งนัก แม้นหากไร้ซึ่งผู้ยินดีจะฉุดช่วยแล้วไซร้ สรรพสัตว์ในโลกแห่งความเสื่อมทั้ง ๕ นี้ก็จักมิต้องตกสู่นิรยภูมิอบายสถาน
มิอาจหลุดพ้นได้เป็นอันมากเชียวหรือ พระรัตนสาคร(พระศากยมุนีในปัจจุบัน) จึงทรงประกาศพระมหาปณิธานถึง ๕๐๐ ประการ เพื่อจักได้ทรงสามารถอดทนต่อความทุกข์ของโลกแห่งความเสื่อมได้ แล้วจึงประกาศความปรารถนาว่าจะเสด็จสู่ดินแดน สหาโลกธาตุ แห่งนี้ ว่าด้วยเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายก่ออนันตริยกรรม ทำลายพระสัทธรรม พระอริยบุคคลประพฤติตนด้วยความเห็นผิด ก่อสร้างอกุศลอันสาหัสทั้งปวง ประดุจมหาบรรพตอันใหญ่ยิ่ง คือถูกอวิชชา
ความโง่หลงครอบงำกดทับไว้ ด้วยเหตุที่เราจักกระทำเพื่อสรรพสัตว์แล้ว เราจึงมีจิตตั้งมั่นที่อลังการพากเพียรสั่งสมในบารมีทั้ง ๖ ประการ เหตุที่เราจักปลูกฝังกุศลมูลความดีงามในแต่ละสรรพสัตว์ทั้งปวงในสิบกัลป์จึงเข้าสู่อเวจีมหานรกเสวยทุกข์ทรมานทั้งปวง รวมทั้งเป็นเดรัจฉาน เปรต ภูติผีที่ยากไร้ และเกิดเป็นมนุษย์ที่ยากจนแสนเข็ญด้วยประการฉะนี้ในคัมภีร์พุทธมูลจริยาสูตร กล่าวว่า พระศากยมุนีเคยทรงถืออุบัติเป็นกุลบุตรเมื่อสมัยอดีตที่ยาวนานเวลานั้นได้เข้าเฝ้าฯและได้สดับฟังธรรมจากพระทีปังกรพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิดในจิตให้เกิดปีติโสมนัสศรัทธาเป็นที่สุด ได้ถวายสักการะด้วยสิ่งมีค่าเป็นอันมาก พร้อมทั้งสยายเกศาและน้อมกายของตนให้พระทีปังกรเสด็จข้ามร่างไป ด้วยมิต้องการให้มีสิ่งแปดเปื้อนต้องพระพุทธยุคลบาท เพลานั้นเมื่อ
พระบาทแห่งพระทีปังกรสัมผัสร่างแล้ว จึงตั้งปณิธานว่า เราขอปณิธานสำเร็จซึ่งพระอนุตรสัมโพธิญาณในอนาคตกาลเบื้องหน้า ประดุจพระทีปังกรพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดในวารนี้อย่างมิมิดเพี้ยนจากกันเลย แลได้เป็นบรมศาสดาจารย์แห่งเทวดาและมนุษย์ทั้งปวงครั้งนั้นเมื่อพระทีปังกรพุทธเจ้าทรงทราบด้วยพระพุทธเจโตปริยญาณ ถึงมหาปณิธานอันลึกซึ้งยิ่งใหญ่นั้น ทรงทราบว่ากุลบุตรนี้ได้เพาะบ่มกุศลมูลสุกงอมแล้ว
จึงประทานพุทธพยากรณ์ว่าจากนี้ไป.................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 เมษายน 2553 15:11:11 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 30 เมษายน 2553 14:49:08 »




อีกเก้าสิบเอ็ดกัลป์ ในกัลป์ชื่อว่า ภัทร จักได้สำเร็จพระพุทธญาณในอนาคตกาลเบื้องหน้า โดยจะมี
พระพุทธนามว่า ศากยมุนี อย่างแน่นอนในพระสูตรต่าง ๆกล่าวไว้ว่า พระพุทธะและโพธิสัตว์ทั้งปวงเคยทรงบำเพ็ญบารมีและกุศลความดีทั้งปวงมา
แล้วในอดีตที่แสนยาวนาน ดังเช่นพระศากยมุนีที่ในอดีตชาติเคยทรงถือกำเนิดในภูมิมนุษย์ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ กษัตริย์ มหาอำมาตย์
บ้างก็เป็นชาวบ้านธรรมดา จนถึงการเป็นเดรัจฉานซึ่งล้วนด้วยปณิธานอันเปี่ยมด้วยพระมหากรุณา จึงทรงกระทำประโยชน์แก่ตนและประโยชน์แก่ผู้อื่น
นานัปการในคัมภีร์ที่ชื่อว่า เหตุแห่งการสร้างพระสถูปที่พระโพธิสัตว์เฉือนมังสะให้พยัคฆ์ กล่าวว่า.............................................
พระศากยมุนีในสมัยหนึ่งนั้น ได้เสวยพระชาติเป็นราชบุตร แต่มิทรงยินดีในกามคุณทั้ง ๕ มุ่งมั่นต้องการแต่พระโพธิญาณความรู้แจ้ง
จึงได้เสด็จสู่คิริพนาไพรเพื่อบำเพ็ญธรรม ระหว่างนั้นทรงพบเสือแม่ลูกอ่อนเพิ่งตกลูกออกมาเจ็ดตัว ด้วยหิมะตกไม่หยุดเสือนั้นจึงไม่สามารถหาอาหารได้ จึงได้แต่กอดลูกไว้ทั้งความหิวอยู่เช่นนั้น แต่ด้วยความหิวรุ่มเร้าจึงจะกินลูกในไส้ของตัวเอง ราชกุมารโพธิสัตว์เมื่อ
ทอดพระเนตรแล้วจึงสลดสังเวชยิ่งนัก ทรงพิจารณาถึงชีวิตและสังขารของตนว่ามีเกิดมีดับ อันจักหาความเที่ยงแท้ไม่ได้ ล้วนแต่เป็นทุกข์ เป็นที่ประชุมของพิษร้ายทั้งปวง แลเมื่อทรงพิจารณาเห็นเช่นนี้แล้ว จึงประกาศมหาปณิธานว่าเราขออุเบกขาในชีพแลสังขารนี้ ขออุทิศตนเพื่อช่วย
เหลือชีวิตแห่งสรรพสัตว์นี้ไว้อันกุศลใดจะพึงมีนั้นขอให้เราจงสำเร็จซึ่งพระโพธิญาณโดยเร็วเทอญ ฯลฯ อันสรรพสัตว์ใดที่ยังมิได้รับการโปรดเราก็จักโปรด ยังมิได้หลุดพ้นเราจักยังให้หลุดพ้น ที่ยังมิสงบระงับเราจะเป็นผู้ยังให้สงบระงับเองแล้วจึงสละสังขารเป็นทานแก่พยัคฆ์นั้นในคัมภีร์มหาปรินิรวาณสูตร บรรยายว่า ในโลกที่ไร้ซึ่งพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ พระศากยมุนีทรงบำเพ็ญทุกรจริยาอย่างยิ่งยวด ด้วยใฝ่มุ่งในพระสัตยธรรมแท้จริงเพื่อยังประโยชน์แก่สรรพสัตว์ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมิอาจสำเร็จซึ่งเป้าหมาย ภายหลังจึงเร้นกายสู่คิรีพนาวาส เพื่อบำเพ็ญเพียรสมาธิอันลึกซึ้งคัมภีรภาพ และพิจารณาธรรม เมื่อกาลเลยล่วงนับปีแต่มิทรงย่อท้อเบื่อหน่าย เทวราชสักรินทร์ด้วยปรารถนาจักทดสอบความตั้งใจจริงนั้น จึงเนรมิตกายเป็นรากษส ยักษ์ชนิดหนึ่ง ร้ายน่าสะพึงกลัวยิ่งนักมาปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าและกล่าวธรรมโศลกเพียงครึ่งบทว่า สรรพจริยาเป็นอนิจจังหามั่นคงเที่ยงแท้อยู่ไม่ อันคือธรรมแห่งการเกิดขึ้นและดับลงของสรรพสิ่งทั้งปวง..................................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 เมษายน 2553 15:13:42 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 30 เมษายน 2553 14:57:51 »





..................................บทไตรสรณคมน์...............................



......................................ซากุยอี........................................




.............................ทำวัตรเย็นและบทมหากรุณาธารณีสูตร................................




............................................ไตปุยจิว...................................................



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 เมษายน 2553 15:29:42 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 30 เมษายน 2553 16:32:41 »


อ้อ ค่ะ
อนุโมทนาสาธุรรมนะคะ น้อง"บางครั้ง"   ( โอ๊ะ  ภาพประกอบอลังการ งานสร้าง!)
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ


 รัก  ตกหลุมรัก   รัก
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 30 เมษายน 2553 16:55:42 »






โอ สารีบุตร ธรรมทั้งปวงว่างเปล่า
ไม่มีรูป ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว ไม่เพิ่ม ไม่ลด
ในความว่างเปล่าไม่มีรูป


ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา
( ตอนปรัชญาปารามิตาหฤทัยสูตร )

อ่านต่อรายละเอียดเนื้อหา

คลิ๊กค่ะ  : 
  http://www.sookjai.com/index.php?topic=976.0#top
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: 30 เมษายน 2553 18:33:16 »





สาธุ.........สาธุ..........สาธุ พี่ แป๋ม นับว่าเรามีบุญวาสนาต่อกันจึงได้มาศึกษาพระธรรมร่วมกันใน




(:LOVE:)สุขใจ แห่งนี้ สาธุ สาธุ สาธุ รัก



บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 30 เมษายน 2553 19:04:55 »

สาธุ ๆ
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2553 04:59:37 »


http://img693.imageshack.us/img693/8421/250b.gif
กระทู้นี้สำหรับ พี่ แป๋ม คร่าว ๆ น่ะ เต็มไม่ได้


 รัก   รัก   รัก

ต้องขอบพระคุณทุกๆท่านผู้มีส่วนร่วมในการก่อตั้งเวปสุขใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้องแม๊คค่ะ
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.344 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 09 พฤษภาคม 2567 05:16:11