คุณหญิงสดับ หรือที่รู้จักในหมู่ชาววังคือ หม่อมราชวงศ์หญิงสดับ ลดาวัลย์ หญิงสาวราชนิกูลผู้นี้เข้าถวายตัวในตำแหน่ง
ของเจ้าจอมในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ในวันนั้นคุณหญิงสดับได้รับพระราชทาน"กำไลมาศ"จากพระเจ้าอยู่หัว
ซึ่งเป็นกำไลทองคำแท้จากบางสะพานหนักสี่บาท ทำเป็นรูปตะปูสองดอกไขว้กัน ในขณะนั้น คุณหญิงสดับมีอายุเพียง 16 ปี
ตลอดระยะเวลาในการเป็นข้าทูลละอองพระบาทนั้น คุณหญิงได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื้อสัตย์
จงรักภักดีหาที่สุดไม่ได้
ไม่นานนักพระเจ้าอยู่หัวก็โปรดเกล้าฯสถาปนาขึ้นเป็นพระสนมเอก อันเป็นตำแหน่งที่เจ้าจอมมารดาหลายๆท่านที่รับราชการ
มาช้านานก็ยังไม่ได้เป็นพระสนมเอก แต่คุณหญิงสดับซึ่งเป็นเพียงเด็กสาววัยรุ่น และเพิ่งเข้ามารับราชการเป็นเจ้าจอม
กลับได้รับพระราชทานตำแหน่งที่สูงถึงเพียงนี้ ยิ่งก่อให้เกิดความอิจฉาริษยาจากคนรอบข้าง ด้วยวัยเพียง 17 ปี
ท่านจึงได้เล่าถึงความรู้สึกครั้งนั้นว่า
"...เหลียวไปไหนพบแต่ศัตรู คุณจอมท่านนั้นส่อเสียดว่าอย่างนั้น
คุณจอมท่านนี้ว่าอย่างนี้ ตรองดูทีข้าพเจ้าจะย่อยยับแค่ไหน....."
ด้วยความอายุยังน้อย ขาดความยั้งคิด ท่านจึงตัดสินใจทำลายชีวิตตนเองด้วยการกินน้ำยาล้างรูปแต่ก็รักษารอดมาได้
แม้ว่าท่านจะถูกกลั่นแกล้งใส่ร้ายป้ายสีไปต่างๆนาๆแต่ก็มิเคยที่จะปริปากเพ็ดทูลสิ่งใดๆให้เป็นที่หนักพระทัยของพระเจ้าอยู่หัว
จึงทำให้ไม่สามารถมีสิ่งใดมาทำลายความรักที่ท่านมีต่อรัชกาลที่ 5 ได้ นับว่าท่านเป็นเจ้าจอมที่รัชกาลที่ 5 โปรดมากในเวลานั้น
คุณหญิงสดับรับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่เคยทูลขอพระราชทานทรัพสินมีค่าแต่อย่างใด
ด้วยอุปนิสัยค่อนข้างจะเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่ไม่น้อยจึงเป็นที่สนิทเสน่หามากขึ้นไปอีกถึงกับพระราชทานสิ่งของมีค่าให้อยู่เนืองๆ
เมื่อรัชกาลที่ 5 สวรรคต ในขณะนั้นคุณหญิงสดับมีอายุแค่เพียง 20 ปี ท่านจึงตัดสินใจสละสมบัติของมีค่าทุกอย่าง
ที่เคยได้รับพระราชทานให้แก่สมเด็จพระพันปีหลวง เพื่อไม่ให้เกิดการครหาว่าท่านจะนำสมบัติไปปรนเปรอชายอื่น
เนื่องจากนเวลานั้นตัวคุณหญิงสดับเองก็เปรียบเหมือนแม่หม้ายสาวสวยทรงเครื่องสมบัติชุดใหญ่แน่นอนว่าต้องเป็นที่สนใจ
ของเหล่าภมรที่ต้องการจะดอมดม ไม่นานนักคุณหญิงสดับจึงตัดสินใจหลบหลีกความวุ่นวายในราชสำนัก
หาความสงบให้แก่จิตใจโดยการบวชชีจำวัดอยู่ที่วัดเขาบางทรายจังหวัดชลบุรีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระเจ้าอยู่หัว
ชายผู้เป็นที่รัก โดยมีกำไลมาศเพียงอย่างเดียวที่เหลือติดตัวของท่านไป ท่านได้ปฏิญาณตนอย่างแน่วแน่ว่าจะครองตน
เป็นหม้ายโสดเพื่อรักษาเกียรติยศแห่งการเป็นพระสนมในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ตลอดชีวิต