armageddon เขียน:
นับเป็นภัยศาสนา ที่แฝงมา เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก
เรื่องสังสารวัฎ แม้แต่พระพุทธเจ้า ยังหาที่สุดเบื้องต้นไม่ได้
ด้วยอดีตังคสญาณ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเอกอุยิ่งกว่าสัตว์ตนใดๆ
ยังไม่อาจมองไป ถึงเบื้องต้นของสังสารวัฎ
อันหาที่สุดของเบื้องต้น ไม่ได้
อดีตังคสญาณของพระพุทธองค์ ยังไม่อาจมองและกล่าว ไปถึงเบื้องต้น แห่งปฐมบรมพุทธเจ้า
พระบรมศาสดา ยังมองได้เพียงพระทีปังกร
แต่คนพวกนั้น สามารถแต่งนิยาย แต่งเรื่อง แต่งชื่อมาได้
พระปฐมพุทธเจ้ามาได้
นายแน่มาก
คุณมีความรู้คุณแค่หางอึ่ง ทะลึ่งเอามาแสดง แล้วไปยัดใส่พระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า เลวจริงๆ สมเป็นมารเลย
พระพุทธเจ้าหาจุดเบื้องต้นของสังสารวัฎได้ แต่สอนให้เถรวาทเพียงว่า จุดเบื้องต้นนั้นเราเป็นจิตปภัสสร แต่ต่อมาหลงในอวิชชา จึงทำให้เกิดปฏิจจสมุปบาท เกิดภพเกิดชาติขึ้น
พระพุทธเจ้าหาจุดเบื้องต้นของสังสารวัฎได้ จึงสอนให้ทางมหายานถึงเรื่องก่อนเกิดสังสารวัฏในเรื่องอาทิพุทธ พระไวโรจนพุทธเจ้า ฯลฯ
นับเป็นภัยพระศาสนา ที่แฝงเข้ามาอีกแล้วหล่ะครับพี่น้อง
แทงกลับ มารพลศักดิ์ให้ดิ้น ให้แถไป กระแด่วๆๆ
พระพุทธเจ้าพระองค์จริง ไม่เคยสอนเรื่องพวกนี้หรอกครับ
พระอานนท์พหูสูตร ก็ไม่ได้จดบันทีก พวกนี้ด้วย
ที่มาสอนเรืองพระอาทิ พระไวโรจน์
ถ้าเด่นจริง ดังจริง และถ้าเป็นของจริง
ก็คงไม่มีพระสาวกองค์ใด ในพระไตรปิก(ของแท้)
จะไม่กล่าวถึงยํ กิญจิ สญชานาสิ อุทธํ อโธ ติโยญจาปิ มชเฌ เอเตสุ นนทิญจ ปนุชชวิญญาณํ ภเว น ติฏฐ
ดูก่อนท่านทั้งหลาย ท่านจงรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งในเบื้องบน เบื้องต่ำ และเบื้องขวาง สถานกลางแล้วจงบรรเทาเสีย จะละเสียซึ่งความเพลิดเพลินและความถือมั่นในสิ่งเหล่านั้น วิญญาณของท่านก็จะไม่ตั้งอยู่ในภพดังนี้
[๔๙๓] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า
ก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเห็นไหม ควันหรือหมอกนั้นพลุ่งไปสู่ทิศตะวันออก
ทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศเบื้องบน ทิศเบื้องต่ำ และอนุทิศ เมื่อ
ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลรับพระดำรัสแล้วจึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นั่น
มารผู้มีบาป เที่ยวแสวงหาวิญญาณ. ของโคธิกกุลบุตร ด้วยคิดว่า วิญญาณของ
โคธิกกุลบุตรตั้งอยู่ ณ ที่ไหน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โคธิกกุลบุตร มีวิญญาณ
อันไม่ตั้งอยู่แล้ว ปรินิพพานแล้ว.
[๔๙๔] ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปถือพิณมีสีเหลืองเหมือนมะตูมสุก
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าด้วยคาถาว่า
ข้าพระองค์ได้ค้นหาวิญญาณของ
โคธิกกุลบุตร ทั้งในทิศเบื้องบน ทั้งทิศ
เบื้องต่ำ ทั้งทางขวาง ทั้งทิศใหญ่ ทิศน้อย
ทั่วแล้ว มิได้ประสบ โคธิกะนั้นไป ณ
ที่ไหน.
[๔๙๕] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
นักปราชญ์ผู้ใดสมบูรณ์ด้วยธิติ มี
ปกติเพ่งพินิจ ยินดีแล้วในฌานทุกเมื่อ
พากเพียรอยู่ตลอดวันและคืน ไม่มีความ
อาลัยในชีวิต ชนะเสนาของมัจจุราชแล้ว
ไม่กลับมาสู่ภพใหม่ นักปราชญ์นั้นคือ
โคธิกกุลบุตร ได้ถอนตัณหาพร้อมด้วย
ราก ปรินิพพานแล้ว.
มารยังหาวิญญาณพระโคธิกะไม่ได้
แต่ปุถุชนธรรมดาๆ
หาพระอาทิ หาพระไวโรจน์ หาพระวิสุทธรังสี
หาพระพุทธเจ้าองค์ปฐม เจอ
แถมยังเวียนว่าย ในสังสารวัฎ ตามภพ ตามชาติ อีก