[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
15 พฤษภาคม 2567 23:55:38 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 65 66 [67] 68 69 ... 1128
1321  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าว ไอที] - ลือ! Apple อาจจะเปิดตัว iPad และ Mac ใหม่แบบเงียบๆ ในสัปดาห์นี้ เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 16:53:44
ลือ! Apple อาจจะเปิดตัว iPad และ Mac ใหม่แบบเงียบๆ ในสัปดาห์นี้
         


ลือ! Apple อาจจะเปิดตัว iPad และ Mac ใหม่แบบเงียบๆ ในสัปดาห์นี้" width="100" height="100  เว็บไซต์ดัง และ นักวิเคราะห์เผยว่า Apple อาจจะเปิดตัว Mac และ iPad ในสัปดาห์นี้
         

https://www.sanook.com/hitech/1597955/
         
1322  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "มิ้นต์ ชาลิดา" เปิดใจเล่าครั้งแรก! เคยเกือบเลิก "ภูผา" เครียดซูบผอม จนปอดฉี เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 16:28:06
"มิ้นต์ ชาลิดา" เปิดใจเล่าครั้งแรก! เคยเกือบเลิก "ภูผา" เครียดซูบผอม จนปอดฉีด
         


"มิ้นต์ ชาลิดา" เปิดใจเล่าครั้งแรก! เคยเกือบเลิก "ภูผา" เครียดซูบผอม จนปอดฉีด" width="100" height="100  "มิ้นต์ ชาลิดา" เปิดใจเล่าครั้งแรก! เคยเกือบเลิกหวานใจ "ภูผา เตชะณรงค์" ยอมรับตอนนั้นเครียดหนักซูบผอม จนถึงขั้นปอดฉีด
         

https://www.sanook.com/news/9269650/
         
1323  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - สภาฯ-ภาคประชาสังคมจัดสัมมนา '3 ปีหลัง รปห.เมียนมา' หวังเป็นเวทีพูดคุย-สะพานแก เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 15:28:39
สภาฯ-ภาคประชาสังคมจัดสัมมนา '3 ปีหลัง รปห.เมียนมา' หวังเป็นเวทีพูดคุย-สะพานแก้ปัญหาอย่างสันติ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-03-04 14:33</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>สภาฯ ร่วมกับภาคประชาสังคม-องค์กรระหว่างประเทศหลายเครือข่าย จัดสัมมนาหารือสถานการณ์เมียนมา 3 ปีหลังรัฐประหารเมียนมา 'โรม' และ 'ปดิพัทธ์' กล่าวเปิดงาน หวังวงประชุมเป็นพื้นที่พูดคุย-เป็นสะพานเชื่อมความต่างสู่การแก้ปัญหาอย่างสันติ</p>
<p> </p>
<p>4 มี.ค. 2567 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานเมื่อ 2 มี.ค. 2567 ที่อาคารรัฐสภา องค์กรภาคีเครือข่ายทั้งไทย และต่างประเทศ ร่วมด้วยคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อความช่วยเหลือด้านประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง (International IDEA) กลุ่มสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน (APHR), องค์กรภาคประชาสังคม "Fortify Rights", มูลนิธิเสมสิกขาลัย, และสำนักข่าวเมียนมา "Mizzima Media Group" ร่วมจัดการประชุมนานาชาติและนิทรรศการ "3 ปีหลังรัฐประหาร : สู่ประชาธิปไตยในเมียนมา และผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนไทย" ระหว่างวันที่ 2-3 มี.ค. 2567</p>
<p>งานสัมมนามีผู้เข้าร่วมการประชุมจากทั้งหน่วยงานด้านการระหว่างประเทศของไทย ภาคประชาสังคม นักวิชาการ ผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงตัวแทนของภาคส่วนและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในเมียนมา ที่เข้าร่วมทั้งด้วยตนเองและผ่านระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์รวมกว่า 200 คน รวมทั้งบุคคลสำคัญอย่าง จ่อโมทุน ผู้แทนถาวรเมียนมา ประจำสหประชาชาติ, 'ซินหม่าอ่อง' รัฐมนตรีการต่างประเทศ รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG), ทอม แอนดรูวส์ ผู้รายงานพิเศษด้านเมียนมาประจำสหประชาชาติ ดันแคน แมคอาเธอร์ จาก “The Border Consotium” และอื่นๆ </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53566820978_8d015fba4b_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">รังสิมันต์ โรม</span></p>
<p>ในโอกาสนี้ รังสิมันต์ โรม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ได้เป็นผู้กล่าวต้อนรับและเปิดการประชุมในครั้งนี้ โดยระบุว่าในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ในประเทศเมียนมา ได้ส่งผลกระทบข้ามพรมแดนออกมาสู่ทั้งภูมิภาครวมทั้งประเทศไทย และเป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสันติภาพและความเป็นไปในเมียนมามีผลอย่างสำคัญต่อความเป็นไปในประเทศไทยและทั้งภูมิภาคอาเซียน</p>
<p>ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ตนขอย้ำว่า รัฐสภาต้องมีความรับผิดชอบสำคัญในการปกป้องการเติบโตและงอกงามของประชาธิปไตย รวมถึงในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ซึ่งจะไม่เพียงแต่เติมเต็มความฝันของชาวเมียนมา แต่ยังจะเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับความมั่นคงและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งภูมิภาคด้วย</p>
<p>รังสิมันต์ กล่าวต่อไป ว่าประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับเมียนมาอย่างที่ไม่มีประเทศไหนสามารถมีได้เสมือน ด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีร่วมกันมาอย่างช้านาน รวมถึงพรมแดนที่อยู่ใกล้ชิดกัน และด้วยสถานะแบบนี้ ทำให้ประเทศไทยสามารถมีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวกลางสำหรับการพูดคุยเพื่อแสวงหาหนทางสู่สันติภาพให้กับความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นได้</p>
<p>ดังนั้น การมีส่วนร่วมของประเทศไทยอย่างแข็งขันในกระบวนการสันติภาพ ด้วยการนำพาภาคส่วนต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาสู่การพูดคุยกันภายใต้บรรยากาศที่เป็นมิตร จะปูทางสู่การแก้ปัญหาทางการเมืองและอนาคตประชาธิปไตยของเมียนมาอย่างยั่งยืนได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ไม่ต่อเพียงเฉพาะเมียนมาเท่านั้น แต่จะเป็นการยืนยันความมุ่งมั่นของประเทศไทย ที่พร้อมจะร่วมมือกับทุกส่วนในการแสวงหาความมั่นคงในภูมิภาคด้วย</p>
<p>"สิ่งที่เรากำลังทำในวันนี้คือบันไดก้าวแรก ในการนำผู้มีส่วนได้เสียที่แตกต่างหลากหลายมาร่วมพูดคุยกัน นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่การสร้างพื้นที่ในการพูดคุยและแสวงหาความร่วมมือต่อกัน และด้วยการพูดคุยครั้งนี้ จะเป็นการปูทางสู่การแก้ปัญหาทางการเมืองในเมียนมาอย่างสันติและยั่งยืนต่อไปในอนาคต" รังสิมันต์ กล่าว</p>
<p>นอกจากนี้ ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ยังได้ร่วมกล่าวต้อนรับทุกภาคส่วนที่มาร่วมการประชุมในวันนี้ด้วย โดยระบุว่าเป็นเวลา 3 ปีแล้วที่กองทัพเมียนมาได้ทำการรัฐประหาร การแสวงหาประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนยังคงเป็นเป้าหมายของชาวเมียนมาที่ยังไม่บรรลุ การต่อสู้เพื่ออนาคตที่เป็นธรรมและมีสันติภาพยังคงดำเนินต่อไป และยังส่งผลต่อทั้งภูมิภาครวมทั้งประเทศไทยด้วย</p>
<p>การประชุมตลอดทั้งสองวันนี้เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นที่พวกเรา ไม่ว่าจะเป็นบุคคล ตัวแทนประชาคมระหว่างประเทศ ภาคประชาสังคม ผู้เชี่ยวชาญ และที่สำคัญที่สุดคือประชาชนชาวเมียนมาที่กล้าหาญ ต่างมีร่วมกันในการตระหนักรู้ถึงปัญหาที่ซับซ้อนและมีหลายระดับของสิ่งที่เกิดขึ้นล</p>
<p>ปดิพัทธ์ กล่าวต่อไป ว่าด้วยการพูดคุยอย่างเปิดเผยและการร่วมแลกเปลี่ยนอย่างเสรี และด้วยความปรารถนาที่จะแสวงหาร่วมมือระหว่างกัน ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้นต่อสถานการณ์ในเมียนมา ทั้งในทางการเมือง เศรษฐกิจ และวิกฤติมนุษยธรรมที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้</p>
<p>รวมทั้งการมองให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในอนาคตของเมียนมา เพื่อเตรียมตัวเราเองให้พร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งในแง่ของความท้าทาย และสิ่งที่เราจะทำได้ในอนาคต รวมถึงการนำไปสู่ยุทธศาสตร์และแผนที่เป็นรูปธรรมสำหรับทั้งประเทศไทยและประชาคมโลก ในการสนับสนุนการสร้างประชาธิปไตยในเมียนมา การช่วยเหลือผู้ลี้ภัย และการสร้างเสถียรภาพให้แก่ภูมิภาคนี้ภายใต้ความร่วมมือและการให้เกียรติต่อกัน</p>
<p>"เรามารวมกันที่นี่ ไม่ใช่เพียงเพื่อมารับฟังความคิดที่แตกต่างกันและการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เท่านั้น แต่เราจะร่วมกันสร้างสะพานเชื่อมความแตกต่างเข้าหากัน แสวงหาพื้นที่ตรงกลาง และการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างอนาคตให้แก่เมียนมาที่เป็นธรรมและมีสันติภาพต่อไปในอนาคต" ปดิพัทธ์ กล่าว</p>
<p>ปดิพัทธ์ ยังกล่าวต่อไป ว่าความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างกองทัพของสองประเทศคือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่อนุญาตให้การรัฐประหารเกิดขึ้นได้ หากเทียบกับที่ผ่านมาเราได้เห็นถึงตัวอย่างการปฏิบัติจากองค์กรความร่วมมือระหว่างรัฐสภาระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น IPU หรือ AIPA ที่ปฏิเสธความชอบธรรมของรัฐบาลทหารเมียนมา สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยึดถือหลักการประชาธิปไตยที่แตกต่างกัน</p>
<p>สำหรับตนและเพื่อนสมาชิกรัฐสภาของประเทศไทย เราจะใช้กลไกของสภาในการตรวจสอบรัฐบาลไทยให้มีความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง เช่น การตั้งคำถามต่อวิกฤติมนุษยธรรมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จากการทะลักข้ามพรมแดนของผู้หนีภัยสงครามเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีคำตอบหรือแนวทางใดๆ</p>
<p>สำหรับการประชุมในวันนี้ มีการพูดคุยในหลายประเด็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ทางการเมืองและความขัดแย้ง, สถานการร์ทางเศรษฐกิจ, สถานการณ์เสรีภาพสื่อและบทบาทสื่อมวลชน, ความสาหัสของวิกฤติทางมนุษยธรรมที่กำลังเกิดขึ้น, บทบาทของประชาคมระหว่างประเทศรวมทั้งประเทศไทย ในการมีส่วนร่วมแก้ปัญหาในเมียนมา เป็นต้น</p>
<p>โดยประเด็นหนึ่งที่มีการพูดถึงอย่างน่าสนใจ คือความเป็นไปได้ของระบบการเมืองของเมียนมาในอนาคต ที่เป็นรูปแบบประชาธิปไตยสหพันธรัฐ (Federal democratic governance) ที่ในขณะนี้มีข้อเห็นร่วมกันอย่างหลวมๆ เกิดขึ้นแล้วในสังคมเมียนมา ว่าเป็นรูปแบบการปกครองที่จะให้สิทธิในการปกครองตนเองอย่างเท่าเทียมกับชาติพันธุ์ต่างๆ และเหมาะสมกับสังคมเมียนมาที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ที่สุด โดยในหมู่แนวร่วมต่อต้านการรัฐประหารภายใต้รัฐบาลเงา NUG ในขณะนี้ ได้มีการหารือกันในระดับหนึ่งแล้วถึงการสร้างรูปแบบการปกครองที่เป็นไปได้นี้ หลังการโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการทหารประสบความสำเร็จในอนาคต</p>
<p>นอกจากนี้ ภายในงานสัมมนามีการจัดนิทรรศการจากภาคประชาสังคม มูลนิธิเสมสิกขาลัย จัดนิทรรศการ 'In-Between หรือชีวิตติดกับ' ที่เล่าเรื่องผู้ลี้ภัยและผลกระทบจากสงครามรัฐกะเรนนี, มูลนิธิ "Fortify Rights", องค์กร Sea-Junction ที่จัดนิทรรศการเรื่อง 'ศิลปะแห่งการต่อต้านรัฐประหารเมียนมา' และอื่นๆ</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53566820998_2f64c0fb8d_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">นิทรรศการงานสัมมนา 3 ปีหลังรัฐประหาร</span></p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108306
 
1324  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - มติเอกฉันท์ศาลฎีกาฯ ยกฟ้อง -ถอนหมายจับ 'ยิ่งลักษณ์' คดีจัดโรดโชว์ 240 ล้าน เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 13:58:04
มติเอกฉันท์ศาลฎีกาฯ ยกฟ้อง -ถอนหมายจับ 'ยิ่งลักษณ์' คดีจัดโรดโชว์ 240 ล้าน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-03-04 13:11</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p> </p>
<p>ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมติเอกฉันท์ ยกฟ้อง พร้อมสั่งเพิกถอนหมายจับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีจัดโรดโชว์ 240 ล้าน โครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020</p>
<p>4 มี.ค.2567 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมติเอกฉันท์ 9 : 0 ยกฟ้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับพวกรวม 6 คน พร้อมสั่งเพิกถอนหมายจับ คดีโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 งบ 240 ล้านบาท</p>
<p>สำหรับพวกรวม 6 คน ประกอบด้วย นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯสมัยนั้น ,สุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขานายกฯ ยังมีบริษัทเอกชนอีกคือ บริษัทมติชน จำกัด (มหาชน), บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และระวิ โหลทองมกรรมการบริษัทสยามสปอร์ตฯ</p>
<p>ทั้งนี้ข้อกล่าวหาคดีมาจากกรณีการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต มุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันราคาจัดจ้าง โครงการโรดโชว์สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 เพื่อเอื้อบริษัทเอกชน ช่วงปี 2556-2557 เป็นเหตุให้รัฐเสียหายเกือบ 240 ล้านบาท ซึ่งโครงการโรดโชว์มีวัตถุประสงค์ที่จะนำเสนอนโยบาย การสร้างรถไฟไฟฟ้าความเร็วสูงสูดและโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ที่จะมีการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท</p>
<p>ตามข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 157 ประกอบกับกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ มาตรา 12, 13 และ กฎหมายว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตมาตรา 123/1</p>
<p>รายงานข่าวจากไทยพีบีเอสระบุด้วยว่า ส่วนคดีทางการเมืองของ ยิ่งลักษณ์ หากทราบผลแห่งคำพิพากษาคดีโรดโชว์แล้ว ก็ไม่มีคดีทางการเมืองที่ค้างอยู่ มีเพียงคดีที่ศาลพิพากษาไปแล้วคือคดีจำนำข้าว โทษจำคุก 5 ปี ตั้งแต่ปี 2560 มีความเป็นไปได้สูง ตามที่คอการเมืองวิเคราะห์กันเอาไว้ว่า ยิ่งลักษณ์อาจจะเดินตามรอยโดยใช้โมเดลกลับไทยฉบับนายทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นได้</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108304
 
1325  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เมื่อไรก็ซึ้ง! ชาวเน็ตญี่ปุ่นน้ำตาแตก "โฆษณาเก่าจากไทย" คนดูแตะ 10 ล้านวิว (คลิป เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 13:58:03
เมื่อไรก็ซึ้ง! ชาวเน็ตญี่ปุ่นน้ำตาแตก "โฆษณาเก่าจากไทย" คนดูแตะ 10 ล้านวิว (คลิป)
         


เมื่อไรก็ซึ้ง! ชาวเน็ตญี่ปุ่นน้ำตาแตก &quot;โฆษณาเก่าจากไทย&quot; คนดูแตะ 10 ล้านวิว (คลิป)" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;กลายเป็นไวรัลล่าสุดในประเทศญี่ปุ่น สำหรับโฆษณาไทยที่มีเนื้อหาสุดซึ้งกินใจ ทำเอาชาวเน็ตแดนปลาดิบถึงกับเข้ามาชมและส่งต่อกันมากมายภายในระยะเวลาแค่ 1 เดือนเท่านั้น
         

https://www.sanook.com/news/9269566/
         
1326  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'โรม' ยังไม่ยืนยัน 'เมียนมา' ส่งหนังสือค้านจัดสัมมนา 'รับมือวิกฤตเมียนมา เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 12:27:57
'โรม' ยังไม่ยืนยัน 'เมียนมา' ส่งหนังสือค้านจัดสัมมนา 'รับมือวิกฤตเมียนมา' ของ กมธ.ความมั่นคง
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2024-03-03 19:29</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: รังสิมันต์ โรม </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'โรม' ยังไม่ยืนยัน ทูตเมียนมาส่งหนังสือคัดค้านสัมมนาว่าด้วยสถานการณ์การเมืองเมียนมา จัดโดย กมธ.ความมั่นคง เจ้าตัวหวังให้เวทีการแลกเปลี่ยนความเห็นข้อมูลหลายฝ่ายอย่างรอบด้าน เป็นข้อมูลให้ทางการไทยใช้ตัดสินใจรับมือวิกฤตเมียนมาในหลายมิติ แปลกใจ กต.ไทยไม่ส่ง จนท.มาร่วมงาน</p>
<p> </p>
<p>3 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (3 มี.ค.) ที่รัฐสภา แยกเกียกกาย กรุงเทพฯ รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล และประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีสืบเนื่องจากวันนี้ (3 มี.ค.) สื่อต่างชาติ และสำนักข่าว The Standard รายงานว่า เอกอัครราชทูตเมียนมาได้ส่งหนังสือราชการ 'ลับ' (Secret) ถึงกระทรวงการต่างประเทศไทย ระบุ "คัดค้านอย่างรุนแรง" ต่อสัมมนาหัวข้อ "3 ปีหลังรัฐประหาร : สู่ประชาธิปไตยในเมียนมา และผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนไทย" (Toward Democratic Myanmar and its impact on security along the Thai border) จัดโดย กมธ.ความมั่นคงฯ ที่รัฐสภา ระหว่างวันที่ 2-3 มี.ค. 2567 </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53565102999_b41166df81_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">รังสิมันต์ โรม</span></p>
<p>รังสิมันต์ โรม กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว ตนเองขอยังไม่ยืนยันว่าจริง หรือเท็จ แต่มีเหตุผลให้น่าเชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น เนื่องจากถ้าไม่ใช่เอกสารจริง ก็คงมีการออกมาปฏิเสธแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีการออกมาปฏิเสธอะไร และเขารับทราบว่ามีการแจ้งมาหาเขาทุกทิศทางว่ามีข้อกังวลในการจัดงานครั้งนี้ แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียด</p>
<p>รังสิมันต์ โรม ยืนยันว่า ประเทศไทยมีสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีอำนาจที่มีสิทธิในการออกกฎหมาย มีอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน และฝ่ายบริหารภายใต้ความไว้วางใจของรัฐสภา การทำหน้าที่ของ กมธ.มีอำนาจรัฐธรรมนูญรองรับ และมีความจำเป็นที่สภาฯ จะเข้าถึงข้อมูลและทำความเข้าใจ ซึ่งเขายืนยันว่าการจัดเวทีนี้ไม่ใช่การแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น แต่การจัดเวทีสัมมนาเพื่อรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน และสภาฯ ก็มีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลต่างๆ เพราะว่าสภาฯ ให้คำแนะนำต่อรัฐบาล วันนี้มีการเชิญรัฐบาลมาร่วมรับฟังด้วยตัวเอง เพื่อให้เขานำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจนนโยบายด้านการต่างประเทศ</p>
<p>สส.พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความจำเป็นในการจัดเวทีสัมมนาว่า เป็นผลสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมา กำลังเข้ามากระทบกับประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลอาจต้องมีเครื่องมือ และนโยบายในรับมือวิกฤตที่ไทยกำลังได้รับผลกระทบ เพราะตอนนี้ที่ประเทศพม่ามีผู้พลัดถิ่นภายในราว 2 ล้านคน และถ้าเขาทะลักเข้ามาในประเทศไทย แล้วจะรับมืออย่างไร มันคือสถานการณ์ที่เราต้องบริหารจัดการให้ดี และเขามองว่าประเทศไทยควรมีการเตรียมพร้อมเรื่องนี้</p>
<p>รังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า เวทีวันนี้เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากวงวิชาการ ภาครัฐ กลุ่มชาติพันธุ์ และภาคประชาสังคม เพื่อให้ภาครัฐได้มีข้อมูลอย่างรอบด้านว่าจะรับมือวิกฤตการณ์จากประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร</p>
<p>"สิ่งที่ทำคือเป็นการพยายามทำให้รัฐบาลได้มีข้อมูล ให้รัฐบาลได้เข้าใจว่ากำลังเจอสถานการณ์อะไร เชื่อแค่สถานทูตที่ย่างกุ้งอย่างเดียวไม่พอ เราควรต้องฟังบรรดากลุ่มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และการฟังเหล่านี้ผมยืนยันว่ามันเป็นแค่การรับฟังข้อมูล และข้อสังเกตต่างๆ เราต้องเอาไปประมวลผลไปคิดต่อ เพื่อตัดสินใจ ซึ่งจะมีความสำคัญต่อประเทศเรา" รังสิมันต์ โรม กล่าว</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">'ปานปรีย์' ยกเลิกเข้าร่วมกระชั้น</span></h2>
<p>ต่อกรณี ปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยกเลิกการมาพูดในงานสัมมนาเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ระบุว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้แจ้งเหตุผลที่ไม่เข้าร่วมงานสัมมนา และทาง กมธ.ได้รับแจ้งค่อนข้างกระชั้น ซึ่งเขาพยายามประสานทุกทาง รวมถึงผ่านทางเอกสารในการเชิญมา </p>
<p>โรม กล่าวต่อว่า เขาพยายามเชิญกระทรวงการต่างประเทศมาร่วมงาน เพื่อให้สื่อสารว่าทางการไทยคิดอย่างไร และขณะเดียวกัน ทางการไทยจะได้รับทราบว่า คนอื่นๆ คิดกับรัฐบาลไทยอย่างไร ซึ่งงานสัมมนา มีการเชิญมาจากหลายภาคส่วนไม่ใช่แค่เอ็นจีโอ แต่มีนักวิชาการจากประเทศไทย และต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งเขาคิดว่าเวที 2 วันนี้มีประโยชน์มากๆ </p>
<p>นอกจากนี้ ประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ ระบุด้วยว่า ตอนแรกปานปรีย์ ไม่ได้มาร่วมงาน แต่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ข้าราชการประจำที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาร่วมงานได้ โดยจะส่งมา 5 คน แต่ตอนหลังไม่มีใครมาร่วมงานเลย ซึ่งก็เป็นคำถามว่าสถานทูตประเทศต่างๆ และกลุ่มชาติพันธุ์มาร่วมงาน แต่ผู้ที่ไม่มากลับเป็นกระทรวงการต่างประเทศไทย ซึ่งค่อนข้างแปลกใจ เพราะกระทรวงการต่างประเทศไทยมีพันธกิจในด้านนี้</p>
<p>อย่างไรก็ตาม โรม ระบุว่า ปานปรีย์ ไม่มาไม่เป็นไร เขาจะนำความคิดเห็นจากการจัดเวทีสัมมนา 2 วันนี้ ไปจัดทำเป็นรายงาน และเสนอเป็นคำแนะนำต่อกระทรวงการต่างประเทศ และจะติดตามผลต่อว่าเมื่อส่งไปแล้ว กระทรวงการต่างประเทศว่าอย่างไร สมมติ กต.ตอบมาว่าไม่ทำ ไม่ปฏิบัติตาม มันมีเหตุผลอะไร ก็ต้องทำงานต่อแบบนี้ อันนี้เป็นอำนาจตามกฎหมายที่อนุญาตให้ทาง กมธ. และรัฐสภา</p>
<p>สุดท้าย รังสิมันต์ กล่าวถึงภาพรวมของงานสัมมนา 2 วันนี้ว่า "พอใจมาก" และความพอใจของเขา ขึ้นอยู่กับทุกคนที่มาร่วมงาน เพราะว่าเขาทำหน้าที่เจ้าบ้านที่เปิดบ้านให้ทุกคนได้มาเข้าร่วมและได้ถ่ายทอดความคิดเห็นต่างๆ และผลตอบรับที่เราได้รับมันค่อนข้างดี ดังนั้น โดยรวมทั้งหมด เขาคิดว่ามันประสบความสำเร็จมากๆ มันเป็นงานที่ทุกคนก็ชื่นชม และหลายคนบอกอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่คิดว่าจะมีงานแบบนี้ที่สภาฯ ของประเทศไทย</p>
<p>"ผมเองก็เห็นความหวังว่าเราอาจจะทำให้ทิศทางการต่างประเทศของเรามันอาจจะเป็นทิศทางที่ ได้รับเสียงชื่นชมของเวทีต่างประเทศได้ ซึ่งที่ผ่านมาเราต้องยอมรับว่า เราอาจจะไม่ค่อยให้ความสนใจกับเรื่องของความมั่นคง ไม่ค่อยให้ความสนใจกับสิทธิมนุษยชนมากนัก แม้ว่าเราอยากจะเข้าเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ ก็ตาม เอาเข้าจริงเราไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เราอยากจะทำขนาดนั้น เหล่านี้มันก็เป็นก้าวแรกและเป็นก้าวสำคัญที่เราคงต้องขยับต่อ เพื่อสร้างบทบาทของประเทศไทยในเวทีต่างประเทศให้มากขึ้น" ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ กล่าวทิ้งท้าย  </p>
<p>ขณะที่ The Standard รายงานวันนี้ (3 มี.ค.) ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศไทยปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่ทูตเมียนมาส่งหนังสือคัดค้านงานสัมมนา เช่นเดียวกับโฆษกกองทัพเมียนมาที่ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด</p>
<p>ทั้งนี้ สัมมนาหัวข้อ "3 ปีหลังรัฐประหาร : สู่ประชาธิปไตยในเมียนมา และผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนไทย" จัดโดย กมธ.ความมั่นคงฯ ที่รัฐสภา ระหว่างวันที่ 2-3 มีนาคม 2567 โดยวันนี้ (3 มี.ค.) มีการเสวนาว่าด้วยการรับมือวิกฤตเมียนมาและผู้ลี้ภัย มุมมองของสถานการณ์เมียนมาจากกลุ่มชาติพันธุ์ และปิดท้ายปาฐกถาจากนักวิชาการ ฉายภาพให้เห็นอุปสรรคและความท้าทายของประเทศไทย จากผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในเมียนมา</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108297
 
1327  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - เปิดทะเบียนรถ “ลุงป้อม” ใส่แดงแปร๊ดดดด ตั้งแต่ชุดยันรองเท้า นำ พปชร.สัญจรหนองคา เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 11:54:58
เปิดทะเบียนรถ “ลุงป้อม” ใส่แดงแปร๊ดดดด ตั้งแต่ชุดยันรองเท้า นำ พปชร.สัญจรหนองคาย
         


เปิดทะเบียนรถ “ลุงป้อม” ใส่แดงแปร๊ดดดด ตั้งแต่ชุดยันรองเท้า นำ พปชร.สัญจรหนองคาย" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;ส่องทะเบียนรถ “ประวิตร” นำ พปชร.สัญจรหนองคาย มาในลุคกร้าวใจวัยโจ๋ ไม่แดงไม่มีแรงเดิน
         

https://www.sanook.com/news/9269454/
         
1328  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เอ็นดู "น้องเกล" ปลอบนกยูงไม่ให้ร้อง ตัดภาพมาที่โพสต์ล่าสุด ถูกแซวกลับสนั่น เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 11:27:21
เอ็นดู "น้องเกล" ปลอบนกยูงไม่ให้ร้อง ตัดภาพมาที่โพสต์ล่าสุด ถูกแซวกลับสนั่น
         


เอ็นดู &quot;น้องเกล&quot; ปลอบนกยูงไม่ให้ร้อง ตัดภาพมาที่โพสต์ล่าสุด ถูกแซวกลับสนั่น" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;น้องเกล ปลอบ นกยูง ไม่ร้องได้น่ารักมาก แต่โพสต์ล่าสุดของ แม่ชม ทำเอาโดนแซวกลับสนั่นเลย
         

https://www.sanook.com/news/9269438/
         
1329  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'พิธา' ชี้ไทยได้รับผลกระทบหลายด้าน-สภาย่อมมีความชอบธรรมเป็นพื้นที่พูดคุยป เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 10:54:33
'พิธา' ชี้ไทยได้รับผลกระทบหลายด้าน-สภาย่อมมีความชอบธรรมเป็นพื้นที่พูดคุยปมเมียนมา
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-03-04 01:40</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>“พิธา” ชี้ประเทศไทยได้รับผลกระทบหลายด้าน-สภาย่อมมีความชอบธรรมเป็นพื้นที่พูดคุยปัญหาเมียนมา ยกไทยเป็นพื้นที่กลางสำหรับทุกฝ่ายได้ ชี้ถึงเวลาจับมืออาเซียน-จีน-อินเดียร่วมกู้สถานการณ์เมียนมาสู่สันติ</p>
<p> </p>
<p>3 มี.ค. 2567 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ในช่วงบ่ายของการประชุมระดับนานาชาติและนิทรรศการ "3 ปีหลังรัฐประหาร : สู่ประชาธิปไตยในเมียนมา และผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนไทย" ที่อาคารรัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมวงพูดคุยในหัวข้อ "การสร้างสะพานเชื่อมระหว่างประเทศ" ในกรณีบทบาทของประเทศไทยต่อการแก้ไขวิกฤติมนุษยธรรมที่กำลังเกิดขึ้นในเมียนมาขณะนี้ โดยมี สุทธิชัย หยุ่น เป็นพิธีกรถามคำถามในหลากหลายประเด็น</p>
<p>โดยพิธาเริ่มต้นจากคำถาม ที่เกี่ยวกับกรณีการออกจดหมายจากกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา ประท้วงการจัดงานของรัฐสภาในครั้งนี้ โดยระบุว่ารัฐสภาเป็นสถานที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่หลากหลายอยู่แล้ว ในฐานะตัวแทนประชาชนที่มีส่วนได้เสีย รวมทั้งการตรวจสอบถ่วงดุลการบริหารของรัฐบาล ซึ่งย่อมต้องรวมถึงนโยบายด้านการต่างประเทศและด้านความมั่นคงด้วย </p>
<p>และในเมื่อผลกระทบจากสถานการณ์ในเมียนมา ล้วนแต่ส่งผลในทางตรงต่อคนไทยในหลากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการที่ต้องจ้างงานคนเมียนมา ปัญหาไฟป่าจากฝั่งเมียนมาที่กลายมาเป็น pm2.5 ในไทย ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่มีที่ตั้งอยู่ตามชายแดน ฯลฯ รัฐสภาไทยจึงย่อมมีความชอบธรรมอย่างเต็มที่ในการพูดคุยกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมา ตามหน้าที่ของผู้แทนราษฎรที่ต้องพูดคุยแทนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งไม่ใช่การแทรกแซง แต่เราไม่สามารถตีตัวออกห่างจากปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้</p>
<p>พิธายังได้ตอบคำถามที่ยกขึ้นมาโดยสุทธิชัย ถึงกรณีที่รัฐบาลไทยร่วมมือกับรัฐบาลเมียนมา ในการสร้าง “ระเบียงมนุษยธรรม” เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากภัยสงคราม ผ่านสภากาชาดของทั้งสองประเทศ โดยพิธาชี้ให้เห็นว่าแม้จะเป็นก้าวแรกที่ไปต่อได้ แต่ก็มีการวิจารณ์อยู่มาก ว่าการใช้สภากาชาดทั้งสองฝั่งอาจไม่ส่งผลดี เพราะสภากาชาดเป็นการให้ความช่วยเหลือแบบรวมศูนย์ ขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมและองค์กรอื่นๆ ซึ่งในกรณีของเมียนมา สภากาชาดอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหารโดยตรง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไม่สามารถเลือกฝั่งได้</p>
<p>ในช่วงหนึ่ง สุทธิชัยได้ถามพิธาต่อว่าหากเป็นรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี สิ่งที่จะทำแตกต่างไปจากนี้คืออะไรบ้าง ซึ่งพิธาระบุว่าต้องแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว</p>
<p>โดยในส่วนของระยะสั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้แน่ๆ ก็คือการทะลักเข้ามาของผู้หนีภัยความขัดแย้งระลอกใหม่ หลังการประกาศเกณฑ์ทหารแบบใหม่ ซึ่งประเทศไทยจะต้องเตรียมรับมือ ศูนย์ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่มีขึ้นแล้ว ต้องเปิดให้มีบทบาทมากกว่าของหน่วยงานรัฐ แต่ต้องมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือทั้งในทางสาธารณสุข การศึกษา และเศรษฐกิจด้วย</p>
<p>ระยะกลาง การมีบทบาทต่อสถานการณ์เมียนมา ต้องอาศัยมากกว่าบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศหรือกระทรวงกลาโหม แต่ต้องมีการบูรณาการทุกส่วนของรัฐบาลเข้ามา หรือในอีกนัยหนึ่ง นี่เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย เพราะเป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับปัญหาระดับชาติหลายกรณี</p>
<p>ทั้งนี้ บทบาทของประเทศไทยไม่อาจกระทำโดยลำพังได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งผู้นำอาเซียน และประเทศที่มีพรมแดนร่วมกับเมียนมารวมถึงจีนและอินเดียด้วย ไทยไม่อาจขาดอาเซียนในการมีบทบาท และอาเซียนก็ไม่อาจขาดประเทศไทยในการเดินหน้าตามฉันทามติ 5 ข้อกรณีเมียนมาได้</p>
<p>พิธากล่าวต่อไป ว่าในระยะยาว สิ่งที่ประเทศไทยสามารถมีบทบาทขึ้นมาได้ ก็คือการเป็นตัวกลางในการเจรจา เช่น อาจจะมี “เชียงใหม่ ไดอะล็อก” ขึ้นมา ที่จะเป็นพื้นที่ในการเชิญทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในสถานการณ์เมียนมาเข้ามาร่วมพูดคุยกัน โดยประเทศไทยมีศักยภาพจะทำสิ่งนี้ได้ ทั้งด้วยความใกล้ชิด และความรับผิดชอบที่ประเทศไทยมีในฐานะเพื่อนบ้าน</p>
<p>"จากนายกรัฐมนตรีไปจนถึงนายกท้องถิ่น หากมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็ย่อมสามารถบรรลุสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เวลานี้เหมาะสมแล้ว ที่การพูดคุยจะต้องเกิดขึ้นบนโต๊ะเจรจาเพื่อนำไปสู่การหยุดยิง และประเทศไทยสามารถเป็นได้มากกว่าผู้ยืนดูอยู่ห่างๆ แต่สามารถมีบทบาทในการเป็นผู้สร้างพื้นที่พูดคุยได้" พิธา กล่าว</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108303
 
1330  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - งามสง่า! จีนขุดพบซาก "ถนนสำหรับจักรพรรดิ" พร้อมประตูเมืองโบราณ คนยุคนี้เห็นย เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 08:56:25
งามสง่า! จีนขุดพบซาก "ถนนสำหรับจักรพรรดิ" พร้อมประตูเมืองโบราณ คนยุคนี้เห็นยังทึ่ง
         


งามสง่า! จีนขุดพบซาก &quot;ถนนสำหรับจักรพรรดิ&quot; พร้อมประตูเมืองโบราณ คนยุคนี้เห็นยังทึ่ง" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;จีนขุดพบซากถนนสำหรับจักรพรรดิ พร้อมซากประตูเมืองโบราณในหนานจิง ทิ้งร่องรอยไว้ให้คนในยุคปัจจุบันได้ทึ่ง




         

https://www.sanook.com/news/9269382/
         
1331  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - นักวิชาการมองไทยสามารถใช้เงินกู้เพื่อการลงทุนยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจสูงขึ้น เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 07:48:02
นักวิชาการมองไทยสามารถใช้เงินกู้เพื่อการลงทุนยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจสูงขึ้นได้
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2024-03-03 18:32</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>เศรษฐกิจสหรัฐดีแต่หนี้สาธารณะพุ่งทะลุ 34 ล้านล้านดอลลาร์อย่างถาวร กดดันดอลลาร์และพันธบัตรรัฐบาล ทำราคาทองคำและบิทคอยน์ทำนิวไฮ ความวิตก US Government Shutdown รอบใหม่อาจป่วนตลาดการเงินโลก ไทยสามารถใช้เงินกู้เพื่อการลงทุนยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจสูงขึ้น เพื่อสร้างฐานรายได้ กระตุ้นการบริโภคเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตเต็มศักยภาพ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เศรษฐกิจสหรัฐดีแต่หนี้สาธารณะพุ่งทะลุ 34 ล้านล้านดอลลาร์อย่างถาวร กดดันดอลลาร์และพันธบัตรรัฐบาล ทำราคาทองคำและบิทคอยน์ทำนิวไฮ ความวิตก US Government Shutdown รอบใหม่อาจป่วนตลาดการเงินโลก ไทยสามารถใช้เงินกู้เพื่อการลงทุนยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจสูงขึ้น เพื่อสร้างฐานรายได้ กระตุ้นการบริโภคเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตเต็มศักยภาพ</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53564898633_e2cd3106f9_o_d.png" /></p>
<p>3 มี.ค. 2567 รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย   เปิดเผยว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาล่าสุดยังคงแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาขยายตัวดี แต่หนี้สาธารณะพุ่งทะลุ 34 ล้านล้านดอลลาร์อย่างถาวร เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาก่อหนี้เพิ่มมากถึง  1.5 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 2024 อัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวในระดับสูง ขนาดของหนี้สาธารณะกว่า 34.4 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้หนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านดอลลาร์ในทุกๆ 100 วัน สิ่งนี้จะกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง นักลงทุนและธนาคารกลางประเทศต่างๆลดการถือครองดอลลาร์และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเพิ่มเติม ภาวะดังกล่าวทำให้ราคาทองคำและบิทคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและทำนิวไฮ โดยราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับขึ้นมากว่า 6% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ ราคาบิทคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 50% ตั้งแต่ต้นปี จากการ  approval of spot ETFs และ halving ที่กำลังจะเกิดขึ้น การที่รางวัลจากการขุด Bitcoin ลดลงทุก ๆ 4 ปี หมายความว่า อุปทาน (Supply) ของ Bitcoin ที่ค่อนข้างจำกัดอยู่แล้ว จะยิ่งจำกัดลงไปอีก ในขณะที่อุปสงค์ (Demand) ใน Bitcoin กลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากข่าวที่บริษัทต่าง ๆ พากันเข้าซื้อ Bitcoin ไม่ว่าจะเป็น Tesla, MicroStrategy, Square รวมถึงธนาคารระดับโลกที่เริ่มสนใจ Bitcoin เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Goldman Sach, หรือ Morgan Stanley เป็นต้น ท่ามกลางสภาวะที่อุปทานของ Bitcoin ลดน้อยลง ขณะที่อุปสงค์กลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามทฤษฎีแล้ว ราคาของ Bitcoin จะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกครั้งที่เกิดปรากฏการณ์ Bitcoin Halving แต่ขอให้ นักลงทุน ระมัดระวังการเก็งกำไรเกินขนาด และ ฟองสบู่อาจแตกได้อีกรอบหนึ่ง </p>
<p>แม้นสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีของสหรัฐฯ จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยมาสู่ระดับ 124.2% เทียบกับระดับ 122.9% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ อันเป็นผลจากจีดีพีที่ขยายตัวดี สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเคยขึ้นไปแตะระดับ 130% ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2564 หลังการหดตัวของเศรษฐกิจรุนแรงจากการล็อคดาวน์ในปี พ.ศ. 2563 การที่สหรัฐอเมริกามีหนี้สาธารณะคงค้างจำนวนมหาศาลและยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะนำไปสู่ความจำเป็นต้องปรับขึ้นภาษี และ ลดการใช้จ่ายภาครัฐในอนาคต รวมทั้ง ความวิตก US Government Shutdown และความเสี่ยงในการปิดที่ทำการของรัฐบาลบางส่วนในรอบใหม่อาจป่วนตลาดการเงินโลกได้ นอกจากนี้ โอกาสที่สหรัฐอเมริกาจะใช้แนวทางการส่งออกเงินเฟ้อเพื่อลดมูลค่าการเป็นหนี้อาจเกิดขึ้นได้ สิ่งนี้จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการกดดันการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ในระยะยาว ผลของแผนเศรษฐกิจ American Rescue Plan 1.9 ล้านล้านดอลลาร์และงบประมาณขนาดใหญ่ภายใต้ Build Back Better Campaign Agenda ของรัฐบาลโจ ไบเดน เมื่อบวกเข้ากับงบประมาณใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้สหรัฐอเมริกาแซงญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฝรังเศส และเยอรมันในแง่ของสัดส่วนการใช้จ่ายทางการคลังที่เป็น Fiscal Support เทียบกับจีดีพี ทำให้ตลาดแรงงานเข้าสู่การจ้างงานเต็มที่ เศรษฐกิจขยายตัวสหรัฐอเมริกาขยายตัวดี แต่การทำงบประมาณขาดดุลมหาศาลเพื่อลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องหลายปีทำให้ หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นเดียวกัน  </p>
<p>ดร.อนุสรณ์ กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจไทยผันผวนน้อยลง แต่ศักยภาพของเศรษฐกิจลดลงตามลำดับ ไทยยังมีช่องว่างทางการคลัง สามารถใช้เงินกู้เพื่อการลงทุนยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจให้สูงขึ้นและปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างฐานรายได้และขีดความสามารถในการแข่งขัน กระตุ้นการบริโภคเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตเต็มศักยภาพ ต่อต้านการชะลอตัวทางเศรษฐกิจได้   ผลการศึกษาเชิงประจักษ์ส่วนใหญ่พบวา การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคแบบ Countercyclical มีความสัมพันธ์เชิงลบกับความผันผวนของเศรษฐกิจมหภาค กล่าวคือ การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคแบบ Countercyclical ในระดับที่สูงส่งผลให้ความผันผวนของอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจลดต่ำลง การศึกษาของ Ramey ในปี 1995 ซึ่งศึกษาความสัมพันธ์ระหวางอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจกับอัตราความผันผวนของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ  พบว่า ประเทศที่มีความผันผวนของอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูงจะส่งผลกระทบเชิงลบต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว การเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการคลัง (Fiscal Space) โดยการปรับปรุงนโยบาย และพัฒนาโครงสร้างภาษีทั้งระบบมีความสำคัญ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อให้ฐานะทางการคลังมีความแข็งแกร่ง เพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในอนาคต </p>
<p>เงินบาทโดยเฉลี่ยนั้นแข็งค่าสูงกว่าเพื่อนบ้านในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ความสามารถทางการแข่งขันราคาสินค้าส่งออกด้อยลง ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้น้อยกว่าเวียดนาม อินโดนีเซียและมาเลเซียในช่วงที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่ากว่าทุกสกุลคู่ค้าคู่แข่งโดยเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาประมาณ 15-40% โดยประมาณ การลงทุนโดยตรง (FDI) ที่เข้าจีนน้อยลงและเริ่มไหลออกจากจีน จากการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจและสงครามทางการค้า การลงทุนโดยตรงของนักลงทุนต่างชาติในจีนปีที่แล้วต่ำสุดในรอบ 30 ปี    การลงทุนโดยตรง FDI ในจีนได้ย้ายไป เวียดนาม (ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา FDI เพิ่มขึ้น 44%) ไป อินเดีย ไป อินโดนีเซีย มากกว่า มาที่ประเทศไทย (ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา FDI ลดลง -20-21%) เป็นโจทย์ที่ไทยต้องช่วยกันหาคำตอบว่าเป็นเพราะปัจจัยอะไร 
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108294
 
1332  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - รู้ไว้ปลอดภัย! ทำไมเมื่อนอนโรงแรม ควรแขวน "ผ้าขนหนูเปียก" ไว้ตรงที่จับประตู? เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 06:22:21
รู้ไว้ปลอดภัย! ทำไมเมื่อนอนโรงแรม ควรแขวน "ผ้าขนหนูเปียก" ไว้ตรงที่จับประตู?
         


รู้ไว้ปลอดภัย! ทำไมเมื่อนอนโรงแรม ควรแขวน &quot;ผ้าขนหนูเปียก&quot; ไว้ตรงที่จับประตู?" width="100" height="100&nbsp;&nbsp; รู้หรือไม่…? เมื่อเข้าพักในโรงแรม ควรใช้ผ้าเช็ดตัวชุบน้ำเปียกๆ แขวนไว้ที่ลูกบิดประตู สิ่งนี้มีประโยชน์มากในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
         

https://www.sanook.com/news/9269130/
         
1333  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - [ประมวลภาพ] ยืนหยุดขังหน้าศาลอาญารัชดาวันที่ 5  หนุน 3 ข้อเรียกร้อง 'ตะวัน'  เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 06:15:49
[ประมวลภาพ] ยืนหยุดขังหน้าศาลอาญารัชดาวันที่ 5  หนุน 3 ข้อเรียกร้อง 'ตะวัน' 
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-03-04 01:01</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพโดย แมวส้ม</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ประมวลภาพกิจกรรม 'ยืนหยุดขัง' หน้าศาลอาญารัชดาวันที่ 5 หนุน 3 ข้อเรียกร้อง 'ตะวัน' พร้อมทั้งทวงคืนสิทธิประกันตัวให้ผู้ต้องขังทางการเมือง และเรียกร้องความยุติธรรมให้เพื่อนในเรือนจำทุกคน </p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53565756815_98234f39db_b.jpg" /></p>
<p>3 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 มี.ค.) เวลา 16.00 น. กลุ่มประชาชนซึ่งเรียกตัวเองว่า 'มวลชนอิสระ' จัดกิจกรรม “ส่งใจให้เพื่อน” บริเวณหน้าศาลอาญารัชดา เพื่อทวงคืนสิทธิประกันตัวให้ผู้ต้องขังทางการเมือง และเรียกร้องความยุติธรรมให้เพื่อนในเรือนจำทุกคน โดยมีการยืนหยุดขังเป็นเวลา 112 นาที เพื่อส่งกำลังใจให้ผู้ที่ที่ยังถูกคุมขังในคดีทางการเมือง  และ สนับสนุนข้อเรียกร้อง 3 ข้อของ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน  ประกอบด้วย  1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 2. ต้องไม่มีการคุมขังผู้เห็นต่างทางการเมือง และ 3. ไทยไม่สมควรได้เป็นคณะมนตรีด้านสิทธิมนุษยชน แห่งองค์การสหประชาชาติ </p>
<p>ทั้งนี้ ตะวัน ถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังนักกิจกรรมคนดังกล่าวอดอาหารและน้ำประท้วง 9 วันติดต่อกัน เรียกร้อง 3 ข้อ ดังกล่าว</p>
<p>สำหรับกิจกรรมยืนหยัดขังศาลอาญารัชดา จัดติดต่อมาวันที่ 5 แล้ว แล้ววันนี้ยุติกิจกรรมเวลา 19.12 น.</p>
<p>นอกจาก ทานตะวัน และณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟร้งค์สองนักกิจกรรมอิสระ ถูกตำรวจออกหมายจับข้อหา พ.ร.บ.คอมฯ และมาตรา 116 เมื่อ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา จากกรณีที่ทานตะวัน โพสต์คลิปบีบแตรรถตำรวจอารักขาขบวนเสด็จ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. โดยทั้งสองไม่ได้รับสิทธิประกันตัวนั้น สถานการณ์นักโทษการเมืองที่ยังอยู่ในเรือนจำทำให้ต้องเพิ่มไปอีก 2 ราย โดยเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน สรุปไว้ในตอนนั้นว่า มีผู้ต้องขังคดีการเมืองรวมทั้งสิ้น อย่างน้อย 38 คน แบ่งเป็นระหว่างสู้คดี 25 คน และคดีถึงที่สุดแล้ว 13 คน</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ภาพบรรยากาศกิจกรรมยืนหยุดขัง : </span></h2>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53565320806_7724aac737_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53565637934_b6f9934c38_b.jpg" /><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53564466557_eb73e6662c_b.jpg" /><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53565320741_ca428517e5_b.jpg" /><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53565637894_a657d8f5c0_b.jpg" /><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53565320691_b903d25c35_b.jpg" /></p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108301
 
1334  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'ธำรงศักดิ์' เผยผลสอบถามปมศาสนา 'ทั้งประเทศ' ระบุ 'ไม่มีศาสนา' 2% ขณะที่ ม เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 04:41:19
'ธำรงศักดิ์' เผยผลสอบถามปมศาสนา 'ทั้งประเทศ' ระบุ 'ไม่มีศาสนา' 2% ขณะที่ ม.ปลาย 6.6% มหา'ลัย 9%
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-03-04 01:24</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>นักวิชาการรัฐศาสตร์ ม.รังสิต เผยข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับ “ศาสนา” พบ 'ทั้งประเทศ' ระบุ 'ไม่มีศาสนา' 2% ขณะที่ Gen Z มัธยมปลาย 6.6% Gen Z มหาวิทยาลัย 9% ชี้คนไทยทั่วประเทศระบุว่าไม่มีศาสนาสูงกว่าข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ และมีแนวโน้มว่าคน Gen Z ระบุว่าไม่มีศาสนามากกว่าที่เราเคยรับรู้กัน</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fpermalink.php%3Fstory_fbid%3Dpfbid0HDqLFErrovxSYwYnsbnWLbwkifQkTWgq9GVHzCEDtdLArGqLkE5MwTVov6NRYhWpl%26id%3D100050549886530&amp;show_text=true&amp;width=500" width="500" height="442" style="border:none;overflow:hidden" scrolling="no" frameborder="0" allowfullscreen="true" allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share"></iframe></p>
<p>4 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ รองศาสตราจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ และผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโทรัฐศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์รายงานวิจัยผ่าน เฟซบุ๊ก 'ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์' โดยระบุว่า คำถามข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับ “ศาสนา”</p>
<p>ผลการวิจัยพบว่า</p>
<ul>
<li>คนไทยทั้งประเทศ (18 ปีขึ้นไป: 4,559 คน) ระบุว่า ไม่มีศาสนา ร้อยละ 2.0</li>
<li>Gen Z ทั้งประเทศ (อายุ 18-26 ปี: 1,047 คน) ระบุว่า ไม่มีศาสนา ร้อยละ 5.50</li>
<li>Gen Z มัธยมปลาย (อายุ 15-19 ปี: กรุงเทพและปริมณฑล: 503 คน) ระบุว่า ไม่มีศาสนา ร้อยละ 6.60</li>
<li>Gen Z มหาวิทยาลัย (อายุ 18-26 ปี: 490 คน) ระบุว่า ไม่มีศาสนา ร้อยละ 9.0</li>
</ul>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53565383471_33885c2ee6_b.jpg" /></p>
<p>ธำรงศักดิ์ อธิบายด้วยว่า ประเทศต่างๆ ในโลกยอมรับความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนามากขึ้น ดังนั้น ในการสำรวจข้อมูลประชากร หรือแม้แต่ในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล จึงมีช่องให้ติ๊ก “ไม่มีศาสนา” หรือ “ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาใด” (no religion, non-religious, unaffiliated) ทั้งนี้ เพื่อยอมรับอัตลักษณ์ของแต่ละคน เสรีภาพทางศาสนา และเป็นข้อมูลสำคัญในการคาดการด้านการตลาด เศรษฐกิจ สังคมและการเมือง</p>
<p>ข้อมูลของ The World Factbook เมื่อปี 2563 ประมาณว่าประชากรในโลก เป็นศาสนาคริสต์ ร้อยละ 31.1 มุสลิม ร้อยละ 24.9 ฮินดู ร้อยละ 15.2 พุทธ ร้อยละ 6.6 ศาสนาท้องถิ่น ร้อยละ 5.6 ไม่มีศาสนา ร้อยละ 15.6 ที่เหลือเป็นศาสนาอื่นๆ</p>
<p>อังกฤษ มีการสำรวจข้อมูลศาสนาของประชากรปี 2564 พบว่า ผู้ตอบไม่มีศาสนาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคนอายุตั้งแต่ 40 ปีลงมา และผู้ตอบว่าเป็นคริสต์มีน้อยลง ประชากรทั้งอังกฤษมี 56.49 ล้านคน เป็นคริสต์ ร้อยละ 46.3 ไม่มีศาสนา ร้อยละ 36.7 มุสลิม ร้อยละ 6.7 ฮินดู ร้อยละ 1.8 ที่เหลือเป็นศาสนาอื่นๆ</p>
<p>สหรัฐอเมริกา ประชากร 339.66 ล้านคน เป็นคริสต์ ร้อยละ 68.2 ยิว ร้อยละ 3.5 มุสลิม ร้อยละ 0.9 ฮินดูและพุทธ ร้อยละ 0.7 ไม่มีศาสนา ร้อยละ 22.8 ที่เหลือเป็นศาสนาอื่นๆ</p>
<p>จีน ประชากร 1,413.14 ล้านคน ศาสนาพื้นเมือง ร้อยละ 21.9 พุทธ ร้อยละ 18.2 คริสต์ ร้อยละ 5.1 มุสลิม ร้อยละ 1.8 ไม่มีศาสนา ร้อยละ 52.1 ที่เหลือเป็นศาสนาอื่นๆ</p>
<p>สิงคโปร์ ประชากร 5.97 ล้านคน เป็นพุทธ ร้อยละ 31.1 คริสต์ ร้อยละ 18.9 มุสลิม ร้อยละ 15.6 เต๋า ร้อยละ 8.8 ฮินดู ร้อยละ 5 อื่นๆ ร้อยละ 0.6 ไม่มีศาสนา ร้อยละ 20</p>
<p>ไทย ปี 2554 สำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าคนไทยอายุ 13 ปีขึ้นไป เป็นพุทธ ร้อยละ 94.6 อิสลาม/มุสลิม ร้อยละ 4.6 คริสต์ ร้อยละ 0.7 ศาสนาอื่นๆ และไม่มีศาสนา ร้อยละ 0.1</p>
<p>จากการเก็บข้อมูลแบบสอบถามของผู้วิจัย (2566-2567) ชี้ว่า คนไทยทั่วประเทศระบุว่าไม่มีศาสนาสูงกว่าข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ และมีแนวโน้มว่าคน Gen Z ระบุว่าไม่มีศาสนามากกว่าที่เราเคยรับรู้กัน</p>
<p>คนไทยทั่วประเทศที่ระบุไม่มีศาสนาร้อยละ 2 นั้น ก็คิดเป็นประชากรราว 1.3 ล้านคน</p>
<p>คน Gen Z ระดับมหาวิทยาลัย ระบุว่าไม่มีศาสนาร้อยละ 9 ก็คิดเป็นประชากรราว 1.3 แสนคน</p>
<p>หมายเหตุ : คำว่า “ไม่มีศาสนา” หรือ “ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาใด” ไม่ได้หมายถึงการไม่มีความเชื่อความศรัทธาในแนวคิดใด ไม่ใช่ไม่มีค่านิยม จริยธรรม คุณธรรม และประเพณีทางสังคม แต่หมายถึงการไม่ได้ระบุตัวตนว่าตนได้สังกัดในศาสนาใดศาสนาหนึ่งเพียงเท่านั้น</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ข้อมูลพื้นฐาน</span></h2>
<p>คนไทยทั่วประเทศ เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 6-17 เมษายน 2566</p>
<p>Gen Z ทั่วประเทศ เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 14-25 มีนาคม 2566</p>
<p>Gen Z มหาวิทยาลัย เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2566</p>
<p>Gen Z มัธยมปลาย ในเขตกรุงเทพฯและจังหวัดปริมณฑล สมุทรปราการ นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร รวม 6 จังหวัด เก็บข้อมูลระหว่าง 13 พฤศจิกายน ถึง 1 ธันวาคม 2566</p>
<p> </p>
<p><strong>รายการอ้างอิง</strong></p>
<ul>
<li>“Census data suggests UK faces ‘non-religious future’, say campaigners.” The Guardian &lt; <a href="https://www.theguardian.com/uk-news/2023/jan/30/census-data-england-wales-uk-non-religious-future-campaigners?fbclid=IwAR3ufZXlitlle34xiaFP93WDMAv_vFhBXnHEKU2U4bw7dw_b2gNmuPY7dEc" target="_blank">https://www.theguardian.com/.../census-data-england-wales...[/url]</li>
<li>Religion in England &lt; <a href="https://en.wikipedia.org/wiki/Religion_in_England?fbclid=IwAR3weQofPo_nyMhBv2wVE81Ot7Ztf60-eRmmsdcXNcTNHu7sNbdbdWqXF8M" target="_blank">https://en.wikipedia.org/wiki/Religion_in_England[/url]</li>
<li>Religion in USA &lt; <a href="https://www.cia.gov/the-world-factbook/countries/united-states/?fbclid=IwAR3Py64VpKO8WaxKNHTP8xusBSuzUBKcgZKJf4ZVol_wUwLhWYClZht_NFQ" target="_blank">https://www.cia.gov/the-world.../countries/united-states/[/url]</li>
<li>Religion in China &lt; <a href="https://www.cia.gov/the-world-factbook/countries/china/?fbclid=IwAR0pH-RChiErkhbyx82xjraICFsVNdZ92nwgaa5i3OpvG5yNsIh4bKXr-5A#people-and-society" target="_blank">https://www.cia.gov/the-world-factbook/countries/china/...[/url]</li>
<li>Religion in Singapore &lt; <a href="https://www.cia.gov/the-world-factbook/countries/singapore/?fbclid=IwAR1PPlZg9SPMdMbVxNmMV38IXp-EnseJnfYxDwvhn0EjMejzi2HZpihMIOs" target="_blank">https://www.cia.gov/the-world-factbook/countries/singapore/[/url]</li>
<li>สำนักงานสถิติแห่งชาติ 2555 &lt; <a href="http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/pubs/sns/5510-12.pdf?fbclid=IwAR05hPi5qYUX2B-LD0OwK6TQ6UhjRXOLIyTO6V_0sDbXhV2kwMXOqvuFJlU" target="_blank">http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/pubs/sns/5510-12.pdf[/url]</li>
</ul>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108302
 
1335  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - “โจลี่ เหงียน” ต้นสังกัดออกแถลงการณ์ ย้ำชัด! ไม่เกี่ยวข้องปมหย่า "พีเค-โยเกิร์ต เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 03:52:19
“โจลี่ เหงียน” ต้นสังกัดออกแถลงการณ์ ย้ำชัด! ไม่เกี่ยวข้องปมหย่า "พีเค-โยเกิร์ต"
         


“โจลี่ เหงียน” ต้นสังกัดออกแถลงการณ์ ย้ำชัด! ไม่เกี่ยวข้องปมหย่า &quot;พีเค-โยเกิร์ต&quot;" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;ด่วน! ต้นสังกัด “โจลี่ เหงียน” นางแบบและนางงามชื่อดังจากประเทศเวียดนาม ออกแถลงการณ์ ย้ำชัดไม่เกี่ยวข้องปมหย่าร้าง "พีเค-โยเกิร์ต" เตรียมดำเนินคดีเพจให้ข้อมูลใส่ร้าย
         

https://www.sanook.com/news/9269330/
         
1336  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'พิธา' ชี้ไทยได้รับผลกระทบหลายด้าน-สภาย่อมมีความชอบธรรมเป็นพื้นที่พูดคุยป เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 03:06:23
'พิธา' ชี้ไทยได้รับผลกระทบหลายด้าน-สภาย่อมมีความชอบธรรมเป็นพื้นที่พูดคุยปมเมียนมา
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-03-04 01:40</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>“พิธา” ชี้ประเทศไทยได้รับผลกระทบหลายด้าน-สภาย่อมมีความชอบธรรมเป็นพื้นที่พูดคุยปัญหาเมียนมา ยกไทยเป็นพื้นที่กลางสำหรับทุกฝ่ายได้ ชี้ถึงเวลาจับมืออาเซียน-จีน-อินเดียร่วมกู้สถานการณ์เมียนมาสู่สันติ</p>
<p>3 มี.ค. 2567 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ในช่วงบ่ายของการประชุมระดับนานาชาติและนิทรรศการ “3 ปีหลังรัฐประหาร : สู่ประชาธิปไตยในเมียนมา และผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนไทย” ที่อาคารรัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมวงพูดคุยในหัวข้อ “การสร้างสะพานเชื่อมระหว่างประเทศ” ในกรณีบทบาทของประเทศไทยต่อการแก้ไขวิกฤติมนุษยธรรมที่กำลังเกิดขึ้นในเมียนมาขณะนี้ โดยมี สุทธิชัย หยุ่น เป็นพิธีกรถามคำถามในหลากหลายประเด็น</p>
<p>โดยพิธาเริ่มต้นจากคำถาม ที่เกี่ยวกับกรณีการออกจดหมายจากกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา ประท้วงการจัดงานของรัฐสภาในครั้งนี้ โดยระบุว่ารัฐสภาเป็นสถานที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่หลากหลายอยู่แล้ว ในฐานะตัวแทนประชาชนที่มีส่วนได้เสีย รวมทั้งการตรวจสอบถ่วงดุลการบริหารของรัฐบาล ซึ่งย่อมต้องรวมถึงนโยบายด้านการต่างประเทศและด้านความมั่นคงด้วย </p>
<p>และในเมื่อผลกระทบจากสถานการณ์ในเมียนมา ล้วนแต่ส่งผลในทางตรงต่อคนไทยในหลากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการที่ต้องจ้างงานคนเมียนมา ปัญหาไฟป่าจากฝั่งเมียนมาที่กลายมาเป็น pm2.5 ในไทย ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่มีที่ตั้งอยู่ตามชายแดน ฯลฯ รัฐสภาไทยจึงย่อมมีความชอบธรรมอย่างเต็มที่ในการพูดคุยกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมา ตามหน้าที่ของผู้แทนราษฎรที่ต้องพูดคุยแทนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งไม่ใช่การแทรกแซง แต่เราไม่สามารถตีตัวออกห่างจากปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้</p>
<p>พิธายังได้ตอบคำถามที่ยกขึ้นมาโดยสุทธิชัย ถึงกรณีที่รัฐบาลไทยร่วมมือกับรัฐบาลเมียนมา ในการสร้าง “ระเบียงมนุษยธรรม” เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากภัยสงคราม ผ่านสภากาชาดของทั้งสองประเทศ โดยพิธาชี้ให้เห็นว่าแม้จะเป็นก้าวแรกที่ไปต่อได้ แต่ก็มีการวิจารณ์อยู่มาก ว่าการใช้สภากาชาดทั้งสองฝั่งอาจไม่ส่งผลดี เพราะสภากาชาดเป็นการให้ความช่วยเหลือแบบรวมศูนย์ ขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมและองค์กรอื่นๆ ซึ่งในกรณีของเมียนมา สภากาชาดอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหารโดยตรง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไม่สามารถเลือกฝั่งได้</p>
<p>ในช่วงหนึ่ง สุทธิชัยได้ถามพิธาต่อว่าหากเป็นรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี สิ่งที่จะทำแตกต่างไปจากนี้คืออะไรบ้าง ซึ่งพิธาระบุว่าต้องแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว</p>
<p>โดยในส่วนของระยะสั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้แน่ๆ ก็คือการทะลักเข้ามาของผู้หนีภัยความขัดแย้งระลอกใหม่ หลังการประกาศเกณฑ์ทหารแบบใหม่ ซึ่งประเทศไทยจะต้องเตรียมรับมือ ศูนย์ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่มีขึ้นแล้ว ต้องเปิดให้มีบทบาทมากกว่าของหน่วยงานรัฐ แต่ต้องมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือทั้งในทางสาธารณสุข การศึกษา และเศรษฐกิจด้วย</p>
<p>ระยะกลาง การมีบทบาทต่อสถานการณ์เมียนมา ต้องอาศัยมากกว่าบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศหรือกระทรวงกลาโหม แต่ต้องมีการบูรณาการทุกส่วนของรัฐบาลเข้ามา หรือในอีกนัยหนึ่ง นี่เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย เพราะเป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับปัญหาระดับชาติหลายกรณี</p>
<p>ทั้งนี้ บทบาทของประเทศไทยไม่อาจกระทำโดยลำพังได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งผู้นำอาเซียน และประเทศที่มีพรมแดนร่วมกับเมียนมารวมถึงจีนและอินเดียด้วย ไทยไม่อาจขาดอาเซียนในการมีบทบาท และอาเซียนก็ไม่อาจขาดประเทศไทยในการเดินหน้าตามฉันทามติ 5 ข้อกรณีเมียนมาได้</p>
<p>พิธากล่าวต่อไป ว่าในระยะยาว สิ่งที่ประเทศไทยสามารถมีบทบาทขึ้นมาได้ ก็คือการเป็นตัวกลางในการเจรจา เช่น อาจจะมี “เชียงใหม่ ไดอะล็อก” ขึ้นมา ที่จะเป็นพื้นที่ในการเชิญทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในสถานการณ์เมียนมาเข้ามาร่วมพูดคุยกัน โดยประเทศไทยมีศักยภาพจะทำสิ่งนี้ได้ ทั้งด้วยความใกล้ชิด และความรับผิดชอบที่ประเทศไทยมีในฐานะเพื่อนบ้าน</p>
<p>“จากนายกรัมนตรีไปจนถึงนายกท้องถิ่น หากมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็ย่อมสามารถบรรลุสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เวลานี้เหมาะสมแล้ว ที่การพูดคุยจะต้องเกิดขึ้นบนโต๊ะเจรจาเพื่อนำไปสู่การหยุดยิง และประเทศไทยสามารถเป็นได้มากกว่าผู้ยืนดูอยู่ห่างๆ แต่สามารถมีบทบาทในการเป็นผู้สร้างพื้นที่พูดคุยได้” พิธากล่าว</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108303
 
1337  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ชีวิตนิสิตของเรากับ “ชายแท้ชมรมบอล” ในคณะสายสัง เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 01:26:40
ชีวิตนิสิตของเรากับ “ชายแท้ชมรมบอล” ในคณะสายสัง
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2024-03-03 22:22</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>นิสิตภาคปอ</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เกิดดราม่าเล็กๆขึ้น จากการที่มีผู้พบเห็นกลุ่มนิสิตสวมชุดบอลรวมตัวกัน จากภาพถ่ายที่ถูกโพสต์ลงทวิตเตอร์ได้แสดงภาพนิสิตกลุ่มนึงหันหน้าเข้ากำแพง และมีนิสิตที่ดูเหมือนจะเป็นรุ่นพี่ยืนและตะคอกสั่ง มีเสียงล่ำลือว่าเป็น ชมรมกีฬาฟุตบอล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรณีนี้ทำให้มีหลายๆคนตั้งคำถามว่า ชมรมกีฬาในมหาวิทยาลัย ในยุคหลังโควิด ในยุคหลังการเคลื่อนไหวของเยาวชนปี 63 ยังมีระบบโซตัสอยู่อีกหรือ?</p>
<p><span style="color:#2980b9;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53565364939_cf4a91de64_c_d.jpg" style="width: 640px; height: 372px;" />
(ภาพจากทวิตเตอร์ </span><span style="color:#2980b9;">[url]https://twitter.com/mananyapt/status/1665748272068141058/photo/1</span>[/url]<span style="color:#2980b9;">)</span> </p>
<p>เราที่พึ่งได้เข้าคณะสายสังคม ที่คำขวัญคณะประกาศว่า “ก้าวแรกสู่คณะxxx ก้าวต่อไปสู่การเสียสละเพื่อส่วนรวม” ไม่คิดว่าปรากฏการณ์โซตัสเหล่านี้จะเกิดขึ้นในคณะนี้ ดั่งที่รุ่นพี่สโมสรนิสิตคณะนี้ได้พูดอยู่ตลอดถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาคทางเพศ </p>
<p>ทว่า เมื่อเรามาอยู่ในคณะนี้ได้เกือบครบ 1 ปีการศึกษา สิ่งที่เราคิดมันกลับไม่เป็นจริงตามนั้น และมีประเด็นชวนตั้งข้อสังเกต จึงจำเป็นจะต้องเขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเหล่านี้ เพราะแม้เรื่องนี้เป็นที่รับรู้กันอยู่แล้ว แต่ไม่มีใครคิดจะทำอะไรเลย</p>
<p style="text-align: center;">*****</p>
<p>เมื่อไม่นานมานี้ มีกิจกรรมนึงของคณะที่นิสิตหญิงชมรมการแสดงต้องไปแสดงปิดกิจกรรม เรื่องนี้ดูจะไม่มีอะไร แต่ก็เป็นเรื่องขึ้น เพราะระหว่างการแสดง อยู่ดีๆก็มีกลุ่มนิสิตชายกลุ่มหนึ่งมาจับกลุ่มกันข้างเวที พูดคุยเสียงดังล้อเลียนนิสิตหญิงชมรมการแสดง พร้อมทำท่าทางล้อเลียนเช่น การถกเสื้อแล้วเต้นไปมาเพื่อล้อเลียนชุดที่ชมรมการแสดงใส่(ชุดเอวลอย) ทั้งยังพูดถึงหน้าอกและร่างกายของนิสิตหญิงในชมรมอย่างสนุกสนาน</p>
<p>การกระทำนี้เกิดขึ้นท่ามกลางที่สาธารณะซึ่งมีนิสิตในคณะเห็นจำนวนมาก และพวกเขายังได้มีการโพสต์คลิปตัวเองเต้นอยู่ข้างเวทีโดยไม่สนใจเลยว่าชมรมการแสดงนั้นแสดงอยู่ข้างๆและผู้คนจำนวนมากกำลังรับชมการแสดงนั้นอยู่ </p>
<p style="text-align: center;">*****</p>
<p>เหตุการณ์นี้มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บนแพลตฟอร์มออนไลน์แห่งหนึ่ง เมื่อนิสิตหญิงประธานชมรมการแสดงได้โพสต์ความคิดเห็นของตนเองจากที่มีคนถามว่า ชอบผู้ชายแบบไหน นิสิตหญิงคนดังกล่าวบอกว่า ตนเองชอบแบบไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ชายแท้ชมรมบอล ประโยคดังกล่าวสร้างความสั่นสะเทือนให้กลุ่มนิสิตชายและมีการนำเอาไปถกเถียงพูดคุยกันอย่างกว้างขวาง</p>
<p>ใช่แล้ว กลุ่มนิสิตชายที่เราพูดถึงข้างบนนั้นคือ กลุ่มชายแท้ชมรมบอล ซึ่งชื่อนี้ผู้คนในคณะก็เรียกพวกเขาแบบนั้นเช่นกัน</p>
<p style="text-align: center;">*****</p>
<p>คำว่ากลุ่มชายแท้ชมรมบอล บางคนอาจจะเข้าใจว่า เรากำลังเหยียดอยู่รึเปล่า แต่ผิดคาด เมื่อกลุ่มชายแท้ชมรมบอลโดนวิจารณ์ในประเด็นใดๆก็ตาม (เช่นในกรณีข้างต้น) พวกเขากลับแสดงออกอย่างภาคภูมิใจว่า “กูนี้แหละ คือชายแท้ชมรมบอล” อีกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ เมื่อเพื่อนในชั้นเรียนตำหนิว่าพวกชายแท้ชมรมบอลหลังห้องเสียงดัง ก็จะถูกตอบโต้กลับด้วยการโอ้อวดอย่างภาคภูมิใจเป็นลักษณะว่า “กูไงชายแท้ชมรมบอลหลังห้องที่คุยกันเสียงดัง” ลงบนโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงการแสดงตัวตนออกมาอย่างภาคภูมิใจว่า “กูนี้ไง ชายแท้ชมรมบอลที่กล้าหาญและเกรียงไกร ไปแข่งที่ไหนก็ได้รับชัยชนะ”</p>
<p>เรื่องเหล่านี้ฟังแล้วอาจเหมือนนิยายหรือเรื่องเกินจริง โดยเฉพาะเมื่อเกิดกับในคณะสายสังคมที่อ้างว่าก้าวหน้าที่สุด แต่ถ้านี้เป็นความจริงและทุกคนในคณะก็รู้สึกแบบเดียวกัน มันสามารถสะท้อนปรากฏการณ์อะไรได้บ้าง</p>
<p style="text-align: center;">*****</p>
<p>เมื่อหลายปีก่อน คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยมีประเด็นแชทกลุ่มนิสิตชาย เอารูปหลุดหรือรูปนิสิตหญิงมาลงในกรุ๊ปไลน์ และพูดจาแทะโลม แต่สุดท้ายก็มีคนเอาแชทและภาพต่างๆมาเปิดเผย เกิดกระแส <strong>#นิติจุฬา</strong> จนกลุ่มดังกล่าวจำเป็นต้องปิดไป และมีการคาดโทษทางวินัย ซึ่งเหตุการณ์นี้ทุกท่านก็คงจะทราบถึงความสะเทือนใจที่เกิดขึ้น</p>
<p>แต่ก็คงจะเป็นเรื่องอยู่ไม่นานก็จางหายหรือเป็นเรื่องเตือนใจเฉพาะนิสิตในคณะนั้นเท่านั้น ขณะที่กลุ่มนิสิตชายแท้ชมรมบอลในคณะสายสังคมนี้ กลับยังมีพฤติกรรมการจัด rank ผู้หญิงในคณะว่าใครสวยที่สุด ชอบใครที่สุด หรือใครน่าดึงดูดทางเพศมากที่สุด ซึ่งเป็นหนึ่งในเป็นวัฒนธรรมชมรมที่รุ่นพี่ให้น้องๆในชมรมแนะนำตัวในลักษณะนี้ทุกๆปี</p>
<p style="text-align: center;">*****</p>
<p>พฤติกรรมต่างๆที่กลุ่มชายแท้ชมรมบอลกระทำก่อให้เกิดความเห็นที่ไม่เห็นด้วยต่างๆมากมาย แต่ก็เป็นไปในลักษณะไม่พอใจ เช่นเมื่อไม่นานมานี้ได้มีนิสิตคนหนึ่งโพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์มีเนื้อความว่า </p>
<p>“ผู้ชายคณะxxx เตะบอล มั่นค*ย อีโก้สูง เรื้อน ไม่มีอุดมการณ์ เดนคณะ…” </p>

<p>จากทวิตดังกล่าว เกิดแชทไลน์หลุดออกมามีเนื้อหาของผู้ชายในชมรมบอลท่านหนึ่งโพสต์หน้าของนิสิตที่คาดว่าเป็นผู้โพสต์ทวิตเตอร์ข้างต้นพร้อมข้อความว่า “อีด*กคนทำ” และอีกคนหนึ่งพิมพ์กลับไปว่า “ล่าแม่มด” และยังมีข้อความอีกว่า “ไอ้ค*ยกระ*รี่ สวะ” </p>
<p>การที่ไม่มีการพูดคุยและแก้ปัญหา โดยสโมสรนิสิตคณะก็ยังเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ ทำให้ประเด็น “ชายแท้ชมรมบอล” สร้างความแตกร้าวอย่างช้าๆในคณะและการตั้งคำถามต่อภาพลักษณ์แท้จริงของคณะ</p>
<p style="text-align: center;">*****</p>
<p>แล้วไม่มีใครคิดจะทำอะไรบ้างหรือ อาจารย์ที่ปรึกษาสามารถให้คำแนะนำได้หรือไม่ จากที่เรารู้ พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เคยถูกตักเตือนโดยอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมเลย กลับกันสิ่งที่เกิดขึ้นคือมีข่าวลือว่าอาจารย์ที่ปรึกษามักจะเอาใจเด็ก ชอบโทรชวนเด็กในชมรมออกไปกินเหล้าด้วยกันตอนดึกๆ และบทสนทนาเหล่านี้ก็เกลื่อนวง อาจารย์ยังทำตัวสนิทสนมกับเด็กในชมรมอย่างเกินงาม ทั้งการจับเนื้อต้องตัว และแสดงอาการหึงหวง </p>
<p>ชมรมบอลยังเป็นที่ที่น่าสนใจศึกษา นอกจากวัฒนธรรมแบบโซตัสก็มีระบบอุปถัมภ์และคอนเนคชั่นจำนวนมากมาย ถึงขั้นที่อาจารย์ในคณะท่านหนึ่งเคยบอกว่า “มึงอยากเป็นปลัด มึงไม่ต้องมาเข้าเรียนหรอก มึงไปเตะบอลนู้น” </p>
<p style="text-align: center;">*****</p>
<p>ที่เราเขียนบทความนี้คือการแสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์ในการอภิปรายต่อไป ไม่ใช่ต้องการโจมตีตัวบุคคลใดๆ หรือคิดว่าชายแท้ชมรมบอลเป็นเรื่องควรถูกยกเลิก พฤติกรรมและวัฒนธรรมของพวกเขาที่ส่งต่อกันมาเช่นนี้ ไม่ใช่ไม่เป็นที่รับรู้ แต่ไม่มีใครกล้าพูดถึงแบบตรงไปตรงมา ทำให้ไม่เกิดการเห็นปัญหาที่ชัดและไม่นำไปสู่การพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจใดๆในคณะ เรื่องราวพวกนี้มาจากเหตุการณ์ที่เราเห็นเอง แต่ก็มีอีกมากที่ไม่ได้เขียนโดยได้ยินจากรุ่นพี่และรุ่นเพื่อนจำนวนมาก รวมถึงเพื่อนๆเราส่งมาให้ดู สิ่งเหล่านี้ ในคณะที่สอนเรื่องเฟมินิสม์ ควรจะละเลยหรือ เราควรจะวิเคราะห์และวิพากษ์ปิตาธิปไตยในชมรมนี้กันหรือไม่ </p>
<p>ท้ายที่สุด เราขอความเห็นใจจากเหล่าเพื่อนที่หวังดีกับชมรมบอล กล้าพูดตักเตือนพฤติกรรมของพวกเขา จากนั้นคงเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมและตัวนายกสโมสรนิสิตคณะที่รับรู้แต่ไม่เคยนำประเด็นของคนกลุ่มนี้ขึ้นมาพูดถึงเลย และสุดท้ายคือพวกเราทุกคน ที่ไม่ควรปล่อยปะละเลยการละเมิดสิทธิมนุษยชน การแสดงออกและพูดจาเหยียดเพศ ดูถูกกันและกัน </p>
<p>การที่เราเขียนบทความนี้ก็เพื่อต้องการทำให้คณะสายสังคมแห่งนี้ คำโฆษณาเรื่องความยุติธรรม ปราศจากการใช้อำนาจกดขี่คนอื่น ปราศจากการเหยียดเพศ ปราศจากความเกลียดชังที่เกิดจากความเห็นต่าง และเป็นพื้นที่เสรีทางความคิดที่ผู้คนสามารถวิจารณ์สิ่งต่างๆได้อย่างเสรีและมีเหตุมีผลของเรานั้น มีอยู่จริง ไม่เป็นเพียงคำสวยหรู</p>
<p style="text-align: center;"><strong>0000</strong>
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">บทคhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108298
 
1338  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "โยเกิร์ต" โพสต์แรก! หลังหย่า "พีเค" ชัดเจนเลยว่า ตอนนี้เข้มแข็งมาก เมื่อ: 04 มีนาคม 2567 01:07:11
"โยเกิร์ต" โพสต์แรก! หลังหย่า "พีเค" ชัดเจนเลยว่า ตอนนี้เข้มแข็งมาก
         


&quot;โยเกิร์ต&quot; โพสต์แรก! หลังหย่า &quot;พีเค&quot; ชัดเจนเลยว่า ตอนนี้เข้มแข็งมาก" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;"โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์" โพสต์แรก! หลังหย่า "พีเค ปิยะวัฒน์" แคปชั่นกับรูปถ่ายชัดเจนเลยว่า ตอนนี้เข้มแข็งมาก
         

https://www.sanook.com/news/9269334/
         
1339  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ผลกระทบจากการบังคับเกณฑ์ทหารและนโยบายเก็บภาษีแรงงานข้ามชาติของรัฐบาลทหารเม เมื่อ: 03 มีนาคม 2567 23:53:09
ผลกระทบจากการบังคับเกณฑ์ทหารและนโยบายเก็บภาษีแรงงานข้ามชาติของรัฐบาลทหารเมียนมาต่อประเทศไทย
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2024-03-03 23:02</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ชวรัตน์ ชวรางกูร และ ศิววงศ์ สุขทวี  
24 กุมภาพันธ์ 2567
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>หลังจากที่กองทัพเมียนมาเพลี่ยงพล้ำต่อกองกำลังชาติพันธุ์และกองกำลังพิทักษ์ประชาชนทำให้กองทัพเมียนมาอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัดและแม้ว่ากองทัพจะยังคงพยายามจะรักษาอำนาจไว้ แต่จากสถานการณ์ที่กองทัพเมียนมาเป็นฝ่ายสูญเสียมากขึ้นในการรบแต่ละครั้ง เราก็อาจจะได้เห็นความความก้าวร้าวและโหดเหี้ยมของกองทัพเมียนมามากยิ่งขึ้น</p>
<p>ธันวาคม 2566 - รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศการเก็บภาษีเงินได้คนเมียนมาที่อาศัยอยู่นอกประเทศในอัตรา 2% ของรายได้ต่อเดือนให้กับทางการเมียนมา โดยกำหนดให้แนบเป็นหลักฐานในการต่ออายุหนังสือเดินทาง และยังกำหนดให้แรงงานเมียนมาที่ออกไปทำงานในต่างประเทศผ่านบริษัทนายหน้าต้องเปิดบัญชีกับธนาคารเมียนมาแล้วต้องโอนเงินกลับบ้านผ่านบัญชีดังกล่าวในอัตรา 25% หากไม่บัญชีดังกล่าวไม่มีการเคลื่อนไหวภายในสามเดือนก็ถูกขึ้นบัญชีห้ามเดินทางออกไปนอกประเทศในอนาคต ขณะนี้มีคนเมียนมาที่อยู่อาศัยและทำงานในประเทศไทยประมาณ 4 ล้านคน เป็นแรงงานเมียนมาที่ได้รับอนุญาติทำงานในประเทศไทยจำนวน 2.3 ล้านคน ส่วนมากเป็นแรงงานไม่มีทักษะซึ่งเป็นกำลังสำคัญในอุตสาหกรรมภาคการผลิตและการบริการของไทย แรงงานเมียนมาจำนวนมากมีรายได้ขั้นต่ำและไม่พร้อมที่จะทำตามนโยบายใหม่นี้เนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงค์ชีวิตอยู่แล้วและก็ไม่ต้องการสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมานำเงินที่พวกเขาทำงานหามาด้วยความยากลำบากไปใช้สู้รบ ในเมื่อมันยากอยู่แล้วที่จะรักษาตัวเองอยู่ในระบบการจัดการแรงงานของไทยเนื่องจากความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายที่สูง มาตรการของรัฐบาลเมียนมาที่ประกาศออกมากำลังจะทำให้แรงงาน เมียนมาในประเทศไทยตัดสินใจ หรือถูกผลักให้ออกจากระบบการจัดการของไทยเป็นจำนวนมากจากการไม่สามารถต่ออายุหนังสือเดินทาง และจะทำให้ไทยมีจำนวนแรงงานเมียนมาในประเทศที่อยู่นอกระบบการจัดการของรัฐบาลไทยเพิ่มมากเป็นขึ้นและยากที่จะจัดการในอนาคตต่อไป</p>
<p>กุมภาพันธ์ 2567 – รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศใช้กฎหมายบังคับการเกณฑ์ทหารโดยจะบังคับให้ประชาชนชาวเมียนมาที่ยังอยู่ในวัยทำงาน ทั้งผู้ชายอายุ 18-35 ปีและผู้หญิงอายุ 18-27 ปี จำนวน 5,000 คนต่อเดือนและมีโทษจำคุก 3-5 ปีหากหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร ทั้งนี้มีคนเมียนมาจำนวน 14 ล้านที่มีสิทธิถูกเกณฑ์ทหาร ต่อมาได้มีการยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารกับผู้หญิง โดยกองทัพเมียนมาได้เริ่มการจดชื่อและจับหนุ่มสาวเหล่านี้ไปเป็นทหารและเริ่มรีดไถเงินจำนวนมากหากใครต้องการหลีกเลี่ยงการเป็นทหาร คำถามคือหนุ่มสาวเหล่านี้มีศักยภาพในการสู้รบกับกองกำลังชาติพันธุ์และกองกำลังพิทักษ์ประชาชนหรือไม่? แล้วทำไมกองทัพเมียนมาจึงต้องการพวกเขา? นี่เป็นยุทธวิธีการรบที่ไร้จิตสำนึกของกองทัพเมียนมาตั้งแต่อดีตที่มักจะเกณฑ์ชาวบ้านไปแบกหามอยู่แนวหน้า เสี่ยงต่อการถูกกับระเบิดและถูกฆ่าตาย หนุ่มสาวเหล่านี้จึงกลายเป็นโล่มนุษย์ชั้นดีให้กับกองทัพเมียนมา และทำให้กองกำลังชาติพันธุ์และกองกำลังพิทักษ์ประชาชนลังเลที่จะทำร้ายประชาชนพวกเดียวกันเอง และจะทำให้หนุ่มสาวชาวเมียนมาจำนวนมากตัดสินใจหนีการบังคับเกณฑ์ทหารในครั้งนี้เพราะรู้อยู่แล้วว่าหากถูกเกณฑ์เข้าไปเป็นทหารจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ทางรอดของพวกเขาคือหนีออกนอกประเทศ เนื่องจากประเทศไทยมีชายแดนติดกับประเทศเมียนมาถึง 2,200 กิโลเมตร และมีแรงงานเมียนมาอยู่ในไทยแล้วเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้เป้าหมายของพวกเขาคือประเทศไทย เห็นได้จากจำนวนชาวเมียนมาที่ต่อคิวขอวีซ่าที่หน้าสถานทูตไทยในเมียนมา ในขณะที่รัฐบาลเมียนมาเริ่มยุติการออกเอกสารเดินทางให้กับประชาชนและไทยประกาศออกวีซ่าเดินทางให้เหลือวันละ 400 คน ทำให้คนเมียนมาไม่มีทางเลือกที่จะเดินทางมาอย่างถูกต้องและเหลือทางเลือกที่จะเดินทางมายังประเทศไทยผ่านช่องทางไม่ถูกต้องแทน</p>
<p><strong>เป็นที่คาดการณ์ว่าจะมีคนอย่างน้อย 10% ของคนที่มีสิทธิถูกบังคับเกณฑ์ทหาร หรือ 1.4 ล้านคนจะเริ่มอพยพหลบหนีออกจากประเทศเมียนมา นี่ยังไม่รวมกลุ่มผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาที่อยู่ในประเทศไทยแล้วกว่า 100,000 คน และ ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศเมียนมากว่า 500,000 คนที่อาศัยอยู่ติดกับชายแดนไทยและพร้อมจะข้ามมายังฝั่งไทยหากสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาทวีความรุนแรงขึ้น</strong></p>
<p>คงเดาไม่ยากว่าสิ่งที่ไทยอาจจะต้องเผชิญจากสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา นโยบายเก็บภาษีแรงงานข้ามชาติและการบังคับเกณฑ์ทหารของรัฐบาลทหารเมียนมาในเวลาไม่นาน คือคลื่นผู้อพยพลี้ภัยชาวเมียนมาที่จะเดินทางเข้าไทยอย่างไม่ถูกต้อง ขณะที่แรงงานชาวเมียนมาจำนวนมากที่กำลังจะหลุดออกจากระบบการจัดการของไทย ประเมินอย่างไม่เป็นทางการจะมีคนเมียนมาที่ไม่มีสถานะอยู่อาศัยในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็น 4 ล้านคนในปีนี้ สิ่งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่คือรูปแบบการอพยพโยกย้ายถิ่นฐานแบบผสมผสานคือทั้งแบบปกติและไม่ปกติ รวมถึงเดินทางด้วยหลายเหตุผล หลายข้อเท็จจริงโดยมีแนวโน้มที่จะเป็นการอพยพแบบไม่ปกติมากขึ้น </p>
<p>เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินได้ขอให้ชาวเมียนมาเดินทางมาอย่างถูกต้องและหากลักลอบเข้ามาต้องดำเนินการเอาผิดทางกฎหมาย ทำให้เห็นว่ารัฐบาลไทยกำลังประเมินสถานการณ์ผิดไปและเลือกที่จะไม่มีมาตรการให้ความช่วยเหลือชาวเมียนมาเพิ่มเติมจากที่มีอยู่ การบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียวไม่สามารถหยุดยั้งเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นได้เนื่องจากสถานการณ์ได้ผ่านจุดที่สามารถควบคุมได้แล้ว</p>
<p><strong>ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์การอพยพลี้ภัยเข้ามาในประเทศไทยอย่างไม่ถูกต้องนับจากนี้คือการเป็นการเติบโตขึ้นของของธุรกิจสีเทาและธุรกิจมืดตามแนวชายแดน ทั้งขบวนการนำพาคนเข้าเมือง ซึ่งเชื่อมโยงกับการค้ามนุษย์ การแสวงหาประโยชน์อื่น การบังคับเรียกค่าไถ่ การบังคับใช้แรงงาน การลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อน ยาเสพติด และการทุจริตของเจ้าหน้าที่ สถานการณ์สิทธิของแรงงานข้ามชาติและผู้ลี้ภัยในประเทศไทยจะตกต่ำลงและอาจจะส่งผลกระทบต่อการเจรจาและข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศที่ไทยกำลังดำเนินการอยู่ ไทยอาจถูกลงโทษจากกลุ่มผู้ซื้อสินค้าในต่างประเทศโดยการลดและยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าต่างๆ ความไม่สงบในประเทศเมียนมาจะสร้างผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างมหาศาลจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของไทยในเวลาอันสั้นนี้หากประเทศไทยยังคงนิ่งเฉยต่อสถานการณ์ความไม่สงบและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศเมียนมา </strong></p>
<p style="text-align: center;"><strong>0000</strong>
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">บทhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108299
 
1340  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - แอร์โฮสเตสมาเตือนเอง 5 สิ่งที่แนะนำให้ทำ เมื่อผู้โดยสารใช้ห้องน้ำบนเครื่องบิน เมื่อ: 03 มีนาคม 2567 22:35:43
แอร์โฮสเตสมาเตือนเอง 5 สิ่งที่แนะนำให้ทำ เมื่อผู้โดยสารใช้ห้องน้ำบนเครื่องบิน
         


แอร์โฮสเตสมาเตือนเอง 5 สิ่งที่แนะนำให้ทำ เมื่อผู้โดยสารใช้ห้องน้ำบนเครื่องบิน" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;5 สิ่งที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แนะนำให้ผู้โดยสารทำเมื่อเข้าใช้ห้องน้ำบนเครื่องบิน สุขอนามัยและความปลอดภัย
         

https://www.sanook.com/news/9269322/
         
หน้า:  1 ... 65 66 [67] 68 69 ... 1128
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.554 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 22 สิงหาคม 2566 02:23:12