[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 19:57:47



หัวข้อ: หลวงปู่ลี อุตตโร วัดเอี่ยมวนาราม ต.คำเจริญ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 19:57:47

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/91430826443764_view_resizing_images_1_.jpg)

หลวงปู่ลี อุตตโร
วัดเอี่ยมวนาราม ต.คำเจริญ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี

"พระครูพนาภินันท์" หรือ "หลวงปู่ ลี อุตตโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดเอี่ยมวนาราม ต.คำเจริญ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี พระสายวิปัสสนา ศิษย์พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล-พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า

เกิดในสกุล จุใจล้ำ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ม.ค.2449 ที่บ้านเลขที่ 82 หมู่ที่ 9 บ้านฮี ต.ขุหลุ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ครอบครัวเป็นเกษตรกร

การศึกษาสำเร็จวิชาสามัญชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนบ้านอนันต์ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เนื่องจากไปอาศัยอยู่กับอา ที่รับราชการครู

อายุ 19 ปี บรรพชาที่วัดศรีบุญเรือง อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2468

ต่อมาอายุ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2469 โดยมี พระอธิการพันธ์ วัดราษฎร์ประดิษฐ์ อ.ตระการพืชผล เป็นพระอุปัชฌาย์

ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท ในสำนักเรียนวัดโพธิ์ชัย อ.ตระการพืชผล ปีพ.ศ.2480-2481

พ.ศ.2482 ได้รับพระราช ทานสมณศักดิ์พระครูสามัญชั้นตรี ที่พระครูพนาภินันท์ และปีพ.ศ.2524 เลื่อนเป็นพระครูชั้นโท ในราชทินนามเดิม

ลำดับการปกครอง พ.ศ.2475 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง อ.ตระการพืชผล และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลกระเดียน พ.ศ.2500 ท่านจึงได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเอี่ยมวนาราม บ้านม่วงเดียด อ.ตระการพืชผล

ภายหลังชราภาพท่านจึงลาออกจากตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ และเจ้าคณะตำบลกระเดียน

สำหรับวัดเอี่ยมวนารามเป็นวัดป่าธรรมชาติ และเป็นสำนักวิปัสสนากรรมฐานสำคัญของ อ.ตระการพืชผล สภาพวัดร่มรื่น มีน้ำล้อมรอบ เหมาะสำหรับพระนักปฏิบัติ และผู้แสวงหาความสงบ ผู้ที่อุปถัมภ์สำคัญ คือ นายง้วนเอี่ยม พ่อค้าชาวไทยเชื้อสายจีน

หลวงปู่ลีเป็นพระสายปฏิบัติที่เคร่งครัดพระวินัยรูปหนึ่งของภาคอีสาน ด้วยความที่เป็นพระซึ่งรักความสงบ สมถะ ชอบป่า จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ "พระครูพนาภินันท์" อันมีความหมายว่า "มีความรักความผูกพันกับป่า"

ท่านเคยธุดงค์ไปตามป่าเขาทั้งในประเทศทั่วทุกภาคและข้ามไปถึงประเทศลาว แถบแขวงจำปาสัก แขวงสะหวันนะเขต รวมทั้งเดินเลยทะลุเข้าไปในประเทศกัมพูชา

ด้วยความตั้งใจจะเอาจริงและเอาดีทางเจริญวิปัสสนาให้ได้ จึงเข้าฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่เสาร์ และหลวงปู่มั่น รับการฝึกวิชาวิปัสสนากรรมฐาน

สามารถนั่งวิปัสสนานานถึง 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน 2 คืนติดต่อกัน

ท่านยังเป็นพระนักพัฒนาที่น่ายกย่อง คือ พัฒนาทั้งศาสนวัตถุ ศาสนบุคคล และศาสนธรรม

ผลงานสำคัญ อาทิ เป็นประธานสร้างอุโบสถวัดบ้านฮี วัดบ้านเวียง และวัดเอี่ยมวนารามแล้ว ยังบริจาคทรัพย์ส่วนตัวและร่วมกับข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน สร้างตึกหลวงปู่ลี อุตตโร (พระครูพนาภินันท์) มอบให้โรงพยาบาลตระการพืชผล

ส่งเสริมการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม สละทรัพย์ตั้งทุนมูลนิธิวิทยาลัยอุบลราชธานี วัดมหาวนาราม และให้ทุนส่งเสริมปริยัติธรรม แผนกธรรม-บาลี สำนักเรียนวัดบ่อชะเนง อ.หัวตะพาน วัดศรีโพธิ์ชัย อ.ตระการพืชผล และอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังจัดตั้งสำนักวิปัสสนากรรมฐานขึ้นที่วัด เปิดอบรมเข้าปริวาสกรรม บวชสามเณรหมู่ภาค ฤดูร้อนประจำทุกปี เป็นหน่วยอบรมแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองประจำอำเภอ และสร้างวัดเอี่ยมฯ ให้เป็นสถานที่ให้ธรรมเป็นทาน เป็นที่พึ่งทั้งทางกายและใจแก่ชาวพุทธทุกหมู่เหล่า

เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2544 หลวงปู่ลีมีอาการอาพาธ ศิษยานุศิษย์และญาติโยมจะพาท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลตระการพืชผล แต่ท่านไม่ยอมไป พร้อมกล่าวเป็นนัยว่า "แก่มากแล้ว รักษาก็ไม่หาย"

วันที่ 9 มี.ค.2545 ศิษย์ทั้งหลายก็นำท่านเข้า โรงพยาบาลจนได้ เมื่ออาการอาพาธทรุดหนักจนน่าเป็นห่วง ถัดมา 2 วันแม้อาการไม่ดีขึ้น แต่สติของท่านมั่นคง และขอให้ศิษย์นำท่านกลับวัด

สุดท้ายละสังขารด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2545 ด้วยวัย 96 ปี พรรษา 76


อริยะโลกที่ 6