[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
14 พฤษภาคม 2567 14:36:51 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมเนียมการรับประทานโดยใช้ "ตะเกียบ"  (อ่าน 2110 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5482


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 22 กันยายน 2556 14:00:05 »

.

ภาพจาก : เว็บไซต์ "มติชนออนไลน์"

ในสมัยราชวงศ์ถัง นักการศึกษาชื่อ ขงอิ่งต๋า ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญตำราคัมภีร์ขงจื๊อ มีชีวิตอยู่เมื่อปี ค.ศ. ๕๗๔-๖๔๘ สนองรับคำสั่งของพระเจ้าถังไท้จง เรียบเรียง "อู่จิงเจิ้งอี้" (Wujing Zhengyi- An Exact Implication of the Five Classics) สำหรับเป็นบรรทัดฐานในการสอบคัดเลือกคนเข้ารับราชการ

ขงอิ่งต๋าพูดถึงธรรมเนียมและมารยาทในการกินข้าวของคนจีนในสมัยนั้นว่า "มารยาทการกินข้าวของคนโบราณจะไม่ใช้ตะเกียบ แต่ใช้มือ เมื่อกินข้าวร่วมกับคนอื่นควรชำระมือให้สะอาดหมดจด อย่าให้ถึงเวลากินข้าวแล้วเอามือถูใบสน หยิบข้าวกิน เกรงจะเป็นที่ติฉินของคนอื่นว่าสกปรก"

คนโบราณที่ขงอิ่งต๋ากล่าวถึงคือคนในยุคขงจื๊อ จึงมีความเชื่อกันว่า คนจีนน่าจะรู้จักใช้ตะเกียบกันมาเป็นเวลานานมากกว่า ๒,๐๐๐ ปี ตะเกียบใช้สำหรับคีบผักต้มจากหม้อน้ำแกงมาไว้ในชามข้าว จากนั้นจึงเอามือหยิบข้าวกิน ถ้ามีใครใช้ตะเกียบพุ้ยข้าวเข้าปากถือเป็นการเสียมารยาทมาก สิ่งใดที่บรรพบุรุษสร้างหรือกำหนดไว้จะไม่มีผู้ใดกล้าฝ่าฝืน คนจีนจึงรักษาธรรมเนียมการกินด้วยมืออยู่เป็นเวลานานหลายร้อยปี

จีนเริ่มใช้ตะเกียบตั้งแต่เมื่อใดไม่มีหลักฐานปรากฏชัดแจ้ง แต่ยอมรับกันว่าคนจีนใช้ตะเกียบกินข้าวกันอย่างแพร่หลายหลัง ยุคราชวงศ์ฮั่น ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ ๓

สมัยนั้นเรียกตะเกียบ ว่า "จู้" ต่อมาเปลี่ยนเป็น "ไขว้จื่อ" เหตุเพราะชาวเรือถือคำว่า จู้ ที่ไปพ้องเสียงกับคำที่มีความหมายว่า หยุด ว่าไม่เป็นมงคลต่อการเดินเรือ

การที่คนจีนใช้ตะเกียบกินอาหารมาเป็นเวลานับพันปีจึงมีคำสอนไว้มากมาย กระทั่งกลายมาเป็นวัฒนธรรมตะเกียบ ซึ่งมีตั้งแต่การจับตะเกียบจนถึงข้อห้ามต่างๆ ดังนี้

ห้ามวางตะเกียบเปะปะ จะต้องวางให้เป็นระเบียบเสมอกัน ทั้งคู่ คนจีนถือคำว่า "ชางฉางเหลียงต่วน" ความหมายตามตัวอักษรหมายถึง สามยาวสองสั้น โดยนัยหมายถึงความตาย หรือความวิบัติฉิบหาย

ดังนั้น การวางตะเกียบที่ทำให้เหมือนมีแท่งไม้สั้นๆ ยาวๆ จึงไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง ห้ามทำเช่นนี้เด็ดขาด

ห้ามใช้ตะเกียบชี้หน้าผู้อื่น หรือถือไว้ในลักษณะที่ให้นิ้วชี้ชี้คนอื่นที่อยู่ร่วมโต๊ะ ห้ามอม ดูดหรือเลียตะเกียบ

ห้ามใช้ตะเกียบเคาะถ้วยชาม เพราะมีแต่ขอทานเท่านั้นที่จะเคาะถ้วยชาม ปากก็ร้องขอความเมตตาให้บริจาคทาน

ห้ามใช้ตะเกียบวนไปมาบนโต๊ะอาหาร ควรใช้ตะเกียบคีบอาหารที่ต้องการนั้นทันที

ห้ามใช้ตะเกียบคุ้ยหาอาหาร การกระทำเช่นนี้เปรียบเหมือนพวกโจรสลัดขุดสุสานเพื่อหาสมบัติ เป็นกิริยาที่น่ารังเกียจ

ห้ามคีบอาหารให้น้ำหยดใส่อาหารจานอื่น เมื่อคีบอาหารได้แล้วจะต้องให้สะเด็ดน้ำสักนิด เพื่อไม่ให้น้ำหยด และอย่าทำอาหารที่คีบอยู่หล่นใส่โต๊ะหรืออาหารจานอื่น

ห้ามถือตะเกียบกลับข้าง คือถือปลายตะเกียบขึ้นใช้ช่วงบนคีบอาหาร กิริยานี้น่าดูแคลนที่สุด ถือว่าไม่ไว้หน้าตนเอง เหมือนหิวจนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

ห้ามใช้ตะเกียบข้างเดียวเสียบแทงลงในอาหาร เป็นการเหยียดหยามน้ำใจกัน ห้ามปักตะเกียบไว้ในชามข้าว เพราะดูเหมือนปักธูปในกระถางไหว้คนตาย โดยเฉพาะข้าวให้คนอื่นแล้วปักตะเกียบไว้ในชามข้าวส่งให้ ถือเป็นการสาปแช่ง

ห้ามวางตะเกียบไขว้กัน ถือว่าไม่ให้เกียรติทั้งตนเองและเพื่อนร่วมโต๊ะ

ห้ามทำตะเกียบตกพื้น จะทำให้วิญญาณที่หลับสงบอยู่ใต้พิภพตื่นตกใจ ถือว่าอกตัญญู ต้องรีบเก็บตะเกียบมาวาดเครื่องหมายกากบาทบนจุดที่ตกทันที พร้อมกล่าวคำขอโทษ

วิธีถือตะเกียบที่ถูกต้อง จะต้องถือตะเกียบไว้ตรงง่ามนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ ให้อีกสามนิ้วที่เหลือคอยประคองตัวตะเกียบไว้ และต้องถือให้เสมอกัน เมื่ออิ่มแล้วต้องวางตะเกียบขวางไว้กลางชามข้าวเสมอ



ข้อมูล : หนังสือพิมพ์รายวันข่าวสด



จีนขาดแคลนตะเกียบ
จีนขาดแคลนตะเกียบ ต้องนำเข้าจากสหรัฐ และการขาดแคลนดังกล่าวทำให้บริษัทสหรัฐบางรายสบโอกาสหารายได้จากการส่งออก "ไม้ตะเกียบ" ไปยังจีน โดยปัจจุบันบริษัท "Georgia Chopsticks" ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐจอร์เจีย สามารถผลิตไม้ตะเกียบได้ ๒ ล้านคู่ และได้ส่งออกไปให้จีนภายใต้แบรนด์"เมด อิน ยูเอสเอ"
 
รายงานระบุว่า บริษัทแห่งนี้ ใช้เวลาผลิตตะเกียบตลอด ๒๔ ชม.และหวังว่าจะสามารถเพิ่มยอดการผลิตให้ได้ ๑๐ ล้านคู่ต่อวันก่อนสิ้นปีนี้ โดยไม้ตะเกียบแต่ละคู่ล้วนมีเครื่องหมาย "เมด อิน ยูเอสเอ" และท่ามกลางสถานการณ์ขาดแคลนไม้ Poplar และ Sweet gum ที่ใช้ผลิตตะเกียบ รัฐจอร์เจียถือเป็นเมืองเต็มไปด้วยไม้สองประเภทนี้ ซึ่งกลายเป็นเมืองในฝันที่จะผลิตไม้ตะเกียบส่งออกให้แก่จีนแผ่นดินใหญ่โดยปริยาย
 
ด้านนายแจ ลี ชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท"Georgia Chopsticks"กล่าวว่า ตอนแรกที่เขาเริ่มธุรกิจนี้ เพื่อน ๆ และครอบครัวต่างมีปฎิกิริยาถามว่า เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า ส่วนลูกจ้างรายหนึ่งกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นปรากฎการณ์น่าทึ่งและแปลกประหลาดที่สินค้าภายใต้แบรนด์ "เมด อิน ยูเอสเอ" สามารถเข้าไปปรากฎในเมืองจีนได้ โดยที่ผ่านมา ชาวจีนได้ผลิตไม้ตะเกียบเป็นจำนวน ๖๓,๐๐๐ ล้านคู่ในแต่ละปี แต่ผู้เชี่ยวชาญประจำสภาพัฒนาเศรษฐกิจสหรัฐระบุว่า ขณะนี้ ภูมิภาคแปซิฟิค โดยเฉพาะจีนและญี่่ปุ่น กำลังเผชิญสถานการณ์ขาดแคลนไม้
... จาก เว็บไซต์ "มติชนออนไลน์"

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 กันยายน 2556 14:08:01 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวเด่น] - สายกินควรรู้ หมอมาเฉลยเอง "ตะเกียบ" แบบใด? สะอาดและมีแบคทีเรียน้อยที่สุด
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 41 กระทู้ล่าสุด 06 พฤษภาคม 2567 08:47:52
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.312 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 01 มีนาคม 2567 05:50:59