[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => สมถภาวนา - อภิญญาจิต => ข้อความที่เริ่มโดย: Maintenence ที่ 21 กันยายน 2562 11:11:13



หัวข้อ: สิ่งต่างๆ ที่ความอยากต้องการมันเป็นทุกข์ - พอจ.สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Maintenence ที่ 21 กันยายน 2562 11:11:13
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/24339410704043_70281296_2411498292221441_1524.jpg)

สิ่งต่างๆ ที่ความอยากต้องการมันเป็นทุกข์

ความอยากมันเกิดจากความหลง ต้องใช้ปัญญาคือความจริงมาแก้ ความหลงที่คิดว่าการหาความสุขจากสิ่งต่างๆ ในโลกนี้เป็นวิธีกำจัดความเครียด เป็นวิธีให้ความสุขแต่ความจริงมันเป็นวิธีสร้างความเครียดมากกว่า ต้องกำจัดมันด้วยการยุติความอยากที่จะไปหาความสุขจากสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกนี้ พอยุติความอยากที่จะหาความสุขได้ความเครียดก็จะหายไป เพราะว่าจะสามารถอยู่เฉยๆ ได้อย่างมีความสุข ใจที่ปราศจากความอยากแล้วจะไม่มีความเครียด จะเป็นใจที่มีแต่ความสุข มีความสงบตลอดเวลานั่นเอง

นี่คือสิ่งที่เราจะต้องไปปฏิบัติให้ได้ แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้นได้เราต้องผ่านขั้นเมตตาให้ได้ก่อน ต้องมีความเมตตา ถ้าไม่มีความเมตตาเดี๋ยวก็ติดอยู่กับปัญหาคนนั้นคนนี้ ทะเลาะกับคนนั้นคนนี้ มีเรื่องมีราวกับคนนั้นคนนี้ จะไม่สามารถที่จะไปทำทานได้ ทำทานเพื่ออะไร เพื่อเราจะได้ยุติความอยากเที่ยวอยากหาความสุขจากสิ่งต่างๆ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องไปหาเงินมากๆ ถ้าหาเงินก็หาเพียงพอ พอต่อการเลี้ยงชีพก็พอ ถ้าเราหาเงินไม่มากเราก็ไม่ต้องทำงานมาก เราก็จะได้มีเวลาไปหัดเป็นนักบวชได้ หัดไปอยู่วัดไปถือศีล ๘ ไปหัดฝึกสมาธิได้ก่อน ทำตอนที่เรายังเป็นผู้ครองเรือนก่อนเป็นฆราวาสก่อน หัดทำไปก่อนต่อไปจะเพิ่มวันไปอยู่วัดได้มากขึ้นๆ จนเรามีความมั่นใจว่าเราบวชได้เราก็ไปบวชเลย พอเราบวชแล้วแสดงว่าทีนี้เรามีบารมีแล้ว เรามีบารมีที่จะปฏิบัติ เพื่อให้เกิดมรรคผลนิพพานขึ้นมาได้ เพราะการที่จะทำให้มีมรรคผลนิพพานนี้ต้องอยู่แบบนักบวช ต้องไม่มีกิจกรรมอย่างอื่นทำ มีแต่กิจกรรมคือเดินจงกรมนั่งสมาธิเท่านั้น เดินจงกรมเพื่อเจริญสติ นั่งสมาธิเพื่อทำใจให้สงบ แล้วก็มาเจริญปัญญาต่อเพื่อให้เกิดปัญญาเพื่อให้เห็นว่า สิ่งต่างๆ ที่ความอยากต้องการนั้นมันเป็นทุกข์ไม่ใช่เป็นสุข ถ้าเห็นว่ามันเป็นทุกข์ ทุกข์เพราะอะไร ทุกข์เพราะว่ามันไม่เที่ยง ทุกข์เพราะว่าเราไปสั่งให้มันเที่ยงไม่ได้ เราอยากให้สิ่งนี้ให้ความสุขกับเราไปตลอด แต่มันไม่สามารถให้ความสุขกับเราไปตลอดได้ เพราะมันไม่เที่ยงมันจะต้องเปลี่ยนหรือมันจะต้องหมด เช่น เงินทองเราได้มาแล้วเราบอกว่าได้เงินทองมาแล้วต้องให้มันอยู่เท่าเดิม มันจะอยู่เท่าเดิมได้ยังไงถ้าเราต้องเอาไปใช้เพื่อให้ความสุข พอใช้เงินทองมันก็หมดละซิ มันหมดมันก็ทำเราเครียดแล้วเพราะเงินทองไม่พอใช้ก็ทุกข์ขึ้นมาแล้ว เครียดขึ้นมาแล้ว แต่ถ้าเราไม่ใช้เงินทองเราก็ไม่เครียดกับเงินทอง ถ้าไม่ใช้เงินทองก็ต้องไม่มีความอยากที่จะหาความสุขด้วยการใช้เงินทอง หาความสุขด้วยการทำใจให้สงบ กลับมาอยู่ที่สมาธิ ฝึกสมาธิทำสมาธิ พอมีสมาธิแล้วใจก็ไม่หิวแล้ว อยู่เฉยๆ ก็มีความสุขได้ ถ้าเกิดความอยากขึ้นมาก็ใช้ปัญญากำจัดมันไป เพราะสมาธิไม่สามารถที่จะไปกำจัดความอยากได้ สมาธิเป็นเพียงแต่กดมันไว้ เหมือนหินทับหญ้า เวลาเราเอาหินไปทับหญ้าๆ มันก็งอกขึ้นมาไม่ได้ แต่ถ้าเกิดใครไปหยิบเอาหินออกเดี๋ยวหญ้ามันก็งอกขึ้นมาใหม่ได้

ฉันใด เวลาเราเข้าสมาธิเราก็หยุดความอยากต่างๆ ได้ แต่พอเราออกจากสมาธิเราก็ต้องคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ พอคิดแล้วเดี๋ยวก็มีความอยากโผล่ขึ้นมา พอโผล่ขึ้นมาใจก็เริ่มเครียดแล้ว ถ้าไม่อยากให้เครียดก็เอาปัญญามาสอนใจว่า ไม่มีอะไรที่ความอยากต้องการนั้นเป็นสุขหรอก มันเป็นทุกข์เพราะมันไม่เที่ยง มันเป็นสุขเดี๋ยวเดียว สุขแล้วเดี๋ยวมันจะต้องหมดไป หมดไปแล้วมันก็จะกลายเป็นความทุกข์ขึ้นมา ถ้าอยากจะมีความสุขก็กลับไปในสมาธิดีกว่า ให้ทำอย่างนี้ไปทุกครั้งที่เกิดความอยาก กำจัดความอยาก อย่าไปทำตามความอยาก ต่อไปความอยากมันก็หมดกำลัง


สนทนาธรรมบนเขา
 วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒
 พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
 วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
 ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน