คนทำงาน 'อุตสาหกรรมสกปรก' ในสหรัฐฯ ไม่สามารถเปลี่ยนมาทำ 'งานสีเขียว' ได้จริง
<span class="submitted-by">Submitted on Thu, 2023-08-31 14:20</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>แม้มีการระบุว่าเศรษฐกิจสีเขียวจะสร้างเส้นทางอาชีพใหม่สำหรับคนทำงานที่ถูกแทนที่ในอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน แต่การศึกษาใหม่ในสหรัฐฯ พบว่ามีน้อยกว่า 1% ที่จะเปลี่ยนมาทำงานในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดได้</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/601/22606753389_e4110a00eb_o_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพประกอบ: SkinheadSportBiker1 (CC BY 2.0)</span></p>
<p>เมื่อช่วงปลายเดือน ส.ค. 2023 Cowboy State Daily สื่อท้องถิ่นในรัฐไวโอมิง สหรัฐอเมริกา นำเสนอรายงานข่าวระบุว่าแม้รัฐบาลของโจ ไบเดน ได้ให้คำมั่นไว้มานานแล้วว่าในขณะที่พวกเขาดำเนินการปิดเหมืองถ่านหินและลดการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซบนในที่ดินสาธารณะ คนทำงานในอุตสาหกรรมถ่านหินและปิโตรเลียมจะมีอาชีพใหม่ในระบบ “เศรษฐกิจสีเขียว” แต่มันกลับยังเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้น</p>
<p>
การศึกษาใหม่โดยสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ (NBER) พบว่ามีคนทำงานน้อยกว่า 1% ที่ออกจากงานในอุตสาหกรรมถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ ไปทำงานในอุตสาหกรรมปล่อยคาร์บอนต่ำ รายงานฉบับนี้ชี้ว่าส่วนใหญ่แล้วผู้ คนทำงานในอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยคาร์บอนสูง มักจะย้ายงานไปยังอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยคาร์บอนสูงอีกอุตสาหกรรมหนึ่งแทน</p>
<p>ในเดือน มิ.ย. 2023 ฝ่ายบริหารของรัฐบาลไบเดน ระบุว่าตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด เพิ่มขึ้น 3.9% ในปี 2565 ซึ่งมีจำนวนตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น 114,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ แต่จากรายงานของ NBER พบว่าอัตราการเปลี่ยนจากงาน 'สกปรก' ไปเป็น 'สีเขียว' แม้จะเพิ่มขึ้น 10 เท่าระหว่างปี 2005 ถึง 2021 แต่ก็ประเมินว่าสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นนั้นยังน้อยกว่า 1%</p>
<p>รายงานนี้ถือว่า 'อุตสาหกรรมสกัด' (Extractive industries) ทั้งหมดเป็นงานสกปรก ทั้งเหมืองแร่ น้ำมันและก๊าซ ถ่านหิน และการกลั่น นอกจากนี้ยังรวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตหลายประเภท เช่น การผลิตปูนซีเมนต์ โรงงานกระดาษและเยื่อกระดาษ และการผลิตสารเคมี - ส่วนงานสีเขียว หมายถึงตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมการผลิตพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และรถยนต์ไฟฟ้า</p>
<p>ในรัฐไวโอมิง คนทำงานในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและเหมืองถ่านหินลดลงอย่างมาก ข้อมูลจาก Federal Reserve Economic Data ระบุระหว่างเดือน ธ.ค. 2014 ถึง มิ.ย. 2023 จำนวนคนทำงานในอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในรัฐไวโอมิงลดลงจาก 4,600 คน เหลือ 2,300 คน ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น จำนวนคนทำงานในเหมืองถ่านหินลดลงจากประมาณ 6,600 คน เหลือน้อยกว่า 4,600 คน</p>
<p>อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมถ่านหินยังคงจ้างงานสูงสุดในภาคการผลิตไฟฟ้าของไวโอมิง จากรายงานงานด้านพลังงานและการจ้างงานของสหรัฐฯ ประจำปี 2023 พบว่ามีการจ้างงานคนงาน 858 คน ในการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน ในขณะที่มีการจ้าง 223 คน ในการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และ 137 คน ในการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม</p>
<p>Cowboy State Daily ยังสำรวจพบว่าสถานศึกษาในรัฐไวโอมิง ที่มีการสอนหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด เช่น พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ นั้น นักศึกษาที่ลงทะเบียนส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้จบมัธยมปลาย มากกว่าคนทำงานที่มาจากอุตสาหกรรมถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ เพื่อหวังเปลี่ยนอาชีพสู่อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่ช่วยสนับสนุนสมติฐานที่ว่าคนทำงานอุตสาหกรรมสกปรก ไม่สามารถเปลี่ยนมาทำงานสีเขียวได้จริง</p>
<p><strong>ที่มา:</strong>
‘Dirty’ Industry Workers Aren’t Transitioning To ‘Green’ Jobs, Study Finds (Kevin Killough, Cowboy State Daily, 23 August 2023)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/08/105698