[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
04 พฤษภาคม 2567 03:24:44 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 294 295 [296] 297 298 ... 1121
5901  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ผู้โดยสารอึ้ง พนักงานต้อนรับออกมาถ่ายรูป-เต้นรำ บนปีกเครื่องบิน คลิปฉาวสะพัดทั เมื่อ: 27 สิงหาคม 2566 01:01:31
ผู้โดยสารอึ้ง พนักงานต้อนรับออกมาถ่ายรูป-เต้นรำ บนปีกเครื่องบิน คลิปฉาวสะพัดทั่วโลก
         


ผู้โดยสารอึ้ง พนักงานต้อนรับออกมาถ่ายรูป-เต้นรำ บนปีกเครื่องบิน คลิปฉาวสะพัดทั่วโลก" width="75" height="75
  ผู้โดยสารอึ้ง พนักงานต้อนรับออกมาถ่ายรูป-เต้นรำบนปีกเครื่องบินอย่างสนุกสนาน คลิปฉาวสะพัดทั่วโลก
         

https://www.sanook.com/news/8995114/
         
5902  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - บิ๊กตู่ เคาะโผผู้นำเหล่าทัพ ทัพเรือลงตัวที่ “บิ๊กดุง” พร้อมทูลเกล้าฯ 1-2 วัน เมื่อ: 27 สิงหาคม 2566 00:42:10
บิ๊กตู่ เคาะโผผู้นำเหล่าทัพ ทัพเรือลงตัวที่ “บิ๊กดุง” พร้อมทูลเกล้าฯ 1-2 วัน
         


บิ๊กตู่ เคาะโผผู้นำเหล่าทัพ ทัพเรือลงตัวที่ “บิ๊กดุง” พร้อมทูลเกล้าฯ 1-2 วัน" width="75" height="75
  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคาะโผผู้นำเหล่าทัพ ทัพเรือลงตัวที่ “บิ๊กดุง” พร้อมทูลเกล้าฯ 1-2 วัน
         

https://www.sanook.com/news/8995118/
         
5903  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'ประยุทธ์' โพสต์ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมมือทำงานตลอด 9 ปี เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 23:37:35
'ประยุทธ์' โพสต์ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมมือทำงานตลอด 9 ปี
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-26 14:34</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'ประยุทธ์' โพสต์ระบุ 9 ปีของการทำงาน ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือ หวังประเทศกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="335" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fprayutofficial%2Fposts%2Fpfbid0iCHk7qcNw3XkCHwb2LDqBEosNhkUihnQztQMREaAg8J8KBCEDm7oK38o33CwvqvAl&amp;show_text=true&amp;width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p>
<p>26 ส.ค. 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟสบุ๊ค ระบุว่าตลอดระยะเวลา 9 ปี ของการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย เป็นช่วงเวลาที่มีความหมายมากที่สุดของชีวิต เป็น 9 ปีที่ได้ทำงานเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของผม และของเราทุกคน เป็น 9 ปีที่ผมได้ใช้สติปัญญา ทุ่มเททุกศักยภาพและกำลังความสามารถ สานพลังจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน รวมทั้งเชิดชูสถาบันอันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย และเป็น 9 ปีของประเทศไทยที่ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีความเจริญก้าวหน้าในหลายด้านทัดเทียมนานาอารยประเทศ และพร้อมยกระดับไปสู่ประเทศชั้นนำของโลก ในอนาคตอันใกล้นี้ ด้วยเหตุผลสำคัญได้แก่</p>
<p>1. เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมี "ยุทธศาสตร์ชาติ" ระยะยาว 20 ปี เพื่อเป็นเข็มทิศนำทางและกรอบแนวคิดในการพัฒนาประเทศในทุกมิติ ให้เกิดความต่อเนื่อง เป็นเป้าหมายให้ทุกภาคส่วนได้ทำงานร่วมกัน ขับเคลื่อนประเทศตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกระดับ </p>
<p>2. มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมครั้งยิ่งใหญ่ ในทุกระบบ ทั้งทางถนน ทางราง ทางทะเล และทางอากาศ รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในอนาคต ยกบทบาทของประเทศจากความโดดเด่นทางภูมิรัฐศาสตร์ ให้เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ ด้านการบิน ด้านการขนส่งสินค้า ด้านการท่องเที่ยว ฯลฯ </p>
<p>3. มีความพร้อมเรื่อง "เศรษฐกิจดิจิทัล" และ "เศรษฐกิจแพลตฟอร์ม" โดยมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล และ 5G ที่โดดเด่นในภูมิภาค เป็นที่ดึงดูดการลงทุนบริษัทชั้นนำของโลกหลายราย ซึ่งจะส่งเสริมบทบาทให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้าน 5G - Data center - Cloud services ที่สำคัญในภูมิภาค มีการใช้ประโยชน์ของประชาชนในชีวิตประจำวัน การศึกษาหาความรู้ การประกอบอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตนและสร้างรายได้ที่สูงขึ้นของคนทุกกลุ่ม ทุกสาขาอาชีพ  </p>
<p>4. มีการกำหนด 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมทั้งมีเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเขตส่งเสริมเศรษฐกิจเพื่อกิจการพิเศษ ทั้งด้านการแพทย์ ด้านนวัตกรรม ด้านดิจิทัล เป็นต้น ที่เป็นแหล่งบ่มเพาะแรงงานทักษะสูง-แรงงานแห่งอนาคต รวมถึงเกษตรอัจฉริยะ  เพื่อตอบสนองตลาดแรงงานในอนาคต และการพัฒนาประเทศในศตวรรษที่ 21</p>
<p>5. สร้างกลไกในการบริการจัดการทรัพยากรที่สำคัญของชาติ (1) "น้ำ" ออกกฎหมายน้ำฉบับแรกของประเทศ มีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) บูรณาการหน่วยงานน้ำในทุกระดับ (2) "ดิน" ตั้งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) และจัดทำแผนที่ One Map เพื่อแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อนมาหลายสิบปี รวมทั้งจัดสรรที่ดินทำกินให้กับผู้ยากไร้-เกษตรกร (3) "ป่า" เช่น ออกกฎหมายป่าชุมชน ไม้มีค่า และตลาดคาร์บอนเครดิต เพื่อส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ</p>
<p>6. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เช่น (1) ส่งเสริมสวัสดิการกลุ่มเปราะบางทั้งเด็ก-ผู้สูงอายุ-ผู้พิการ (2) ส่งเสริมบทบาทกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กองทุนยุติธรรม และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (3) การยกระดับศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ด้วยการศึกษา รองรับความท้าทายใหม่ๆ ของโลกในอนาคต</p>
<p>7. ปฏิรูปกฎหมายไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน อำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ และดึงดูดการลงทุนเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ รวมทั้งแก้ไขและบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล สามารถแก้ไขวิกฤตชาติได้ในหลายเรื่อง เช่น ปลดธงแดง ICAO และแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย IUU สร้างความเชื่อมั่นประเทศไทยในเวทีโลก </p>
<p>8. ประยุกต์เทคโนโลยีที่ทันสมัยในระบบราชการไทย เพื่อยกระดับการให้บริการแก่ประชาชนและเอกชน ที่เข้าถึงง่าย - สะดวก - โปร่งใส เช่น (1) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ช่วยให้การจ่ายเงินช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางตรงเป้าหมาย เต็มเม็ดเต็มหน่วย ตรวจสอบได้ (2) UCEP สายด่วน 1669 บริการการแพทย์ฉุกเฉิน ฟรีทุกสิทธิ์ ทุกโรงพยาบาล เป็นต้น</p>
<p>9. สร้างความสัมพันธ์ทั่วโลก ทั้งในรูปแบบทวิภาคี-พหุภาคี และเขตการค้าเสรี (FTA) รวมทั้งรื้อฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย เพื่อขยายความร่วมมือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และตลาดการค้าระหว่างกัน 
ทั้งนี้ การเดินทางของประเทศไทยในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ราบรื่น หรือง่ายดาย ยังคงมีวิกฤตโควิด วิกฤตความขัดแย้งในโลก ที่ส่งผลกระทบด้านราคาพลังงาน ค่าครองชีพ และเงินเฟ้อจนถึงในปัจจุบัน แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทย ช่วยให้เราฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ และฟื้นตัวมาได้ ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ยังคงผันผวน</p>
<p>ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อนข้าราชการ และทุกภาคส่วน ที่ได้เสียสละและอดทนในทุกสถานการณ์ที่ผ่านมา เพื่อให้ส่วนรวม สังคม และประเทศชาติ กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง ซึ่งผมมั่นใจอย่างยิ่งว่าประเทศไทยนับจากวันนี้เป็นต้นไป จะไม่ได้เริ่มนับที่ 1 อีกต่อไป หากทุกอย่างที่เราสร้างกันมานั้นได้รับการต่อยอด ก็จะทำให้เราเดินทางเข้าสู่ "เส้นชัย" ได้เร็ววันขึ้นครับ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105633
 
5904  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "พิธา" ยืนยันโสดสนิท ไม่มีคนคุย หัวใจยังว่างแต่ไม่ได้ปิด เชื่อความรักสวยงามเ เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 22:30:14
"พิธา" ยืนยันโสดสนิท ไม่มีคนคุย หัวใจยังว่างแต่ไม่ได้ปิด เชื่อความรักสวยงามเสมอ
         


&quot;พิธา&quot; ยืนยันโสดสนิท ไม่มีคนคุย หัวใจยังว่างแต่ไม่ได้ปิด เชื่อความรักสวยงามเสมอ" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;"พิธา" ยืนยันโสดสนิท ไม่มีคนคุย ดูแลลูกเป็นหลัก หัวใจยังว่างแต่ไม่ได้ปิด เชื่อความรักสวยงามเสมอ
         

https://www.sanook.com/news/8995110/
         
5905  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ‘เศรษฐา’ ลุยถกตัวแทนภาคเอกชน-ธุรกิจ จ.พังงา ย้ำต้องเพิ่มรายได้ผ่านการท่องเที่ เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 22:06:30
‘เศรษฐา’ ลุยถกตัวแทนภาคเอกชน-ธุรกิจ จ.พังงา ย้ำต้องเพิ่มรายได้ผ่านการท่องเที่ยว
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-26 14:49</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>‘เศรษฐา’ ลุยถกตัวแทนภาคเอกชน-ธุรกิจ จ.พังงา ย้ำต้องเพิ่มรายได้ผ่านการท่องเที่ยว รับปากให้ความสำคัญ ครม.สัญจร ดันฟรีวีซ่ากับประเทศกลุ่มเป้าหมายเที่ยวไทยระยะยาว</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53142595505_a902347c7e_o_d.jpg" /></p>
<p>26 ส.ค. 2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งข่าวว่าที่โรงแรม Moracea by Khaolak Resort อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและคณะทำงานด้านนโยบายการท่องเที่ยวพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่รับฟังข้อเสนอแนะจากตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจและเอกชนใน จ.พังงา</p>
<p>นายกฤษ ศรีฟ้า อดีตผู้สมัคร สส.พังงา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จ.พังงา มีงบประมาณเรื่องของการจัดการน้ำไว้หลายที่รวมทั้งงบประมาณจัดการน้ำที่เขาหลัก พร้อมทั้งฝากนายกรัฐมนตรี ถ้าเป็นไปได้ให้มีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)สัญจร เพื่อคืนโอกาสในการพัฒนาต่างๆ ให้กับ จ.พังงาอีกครั้งหนึ่ง</p>
<p>ด้าน นายกสมาคมท่องเที่ยว จ.พังงา ระบุว่า เฉพาะภาคใต้มีการท่องเที่ยวชุมชนอยู่ 800 ชุมชน แต่ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการเข้าถึงตลาด และไม่ได้รับการเข้าถึงโครงการของภาครัฐ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซี่งได้แต่โรงแรมอย่างเดียว แต่ชุมชนไม่ได้ พร้อมขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดที่ช่วยจดทะเบียนการท่องเที่ยวชุมชน</p>
<p>ด้าน ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.พังงา ระบุว่า ในช่วงเดือน ม.ค.จนถึง มิ.ย. 2566 มีตัวเลขรายได้ 6,300 ล้านบาทสำหรับการท่องเที่ยว พร้อมย้ำว่าการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามันจะสร้างตัวเลขใหม่ 1 ล้านล้านบาทภายในปี 2570 โดยขยายสนามบิน จ.ภูเก็ต 2 ให้มีศักยภาพและพัฒนาแผนรถไฟ และต้องจัดระเบียบขนส่งในภูเก็ต พังงา กระบี่ ไม่ให้นักท่องเที่ยวถูกเอาเอาเปรียบ หากมีขนส่งสาธารณะจะทำให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกมากขึ้น</p>
<p>ตัวแทนภาคเอกชนยังสะท้อนว่า สถิติการท่องเที่ยว ต.ค.-มิ.ย. 2566 มีรายได้รวม8,000 ล้านบาท ในช่วงโควิด-19 มีนักท่องเที่ยว 4 ล้านคจากประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย จีน รัสเซีย และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยสงกรานต์มี 30,000-40,000 คนต่อปี และอยากให้ จ.พังงาเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวผ่าน Thailan Travel Mary Plus(TTM+) 2024</p>
<p>จากนั้นนายเศรษฐา ระบุว่า ตนแปลกใจที่ จ.พังงา ไม่ได้มีนายกรัฐมนตรี มาลงพื้นที่เป็นเวลาหลาย 10 ปี และแม้ จ.พังงา จะไม่มีสส.พรรคเพื่อไทย แต่ตนก็จะมาอีกครั้งสำหรับ จ.ภูเก็ต จ.พังงา เพราะการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งตนจะเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม จ.ภูเก็ต ขณะนี้จีดีพีตกต่ำ ดังนั้น ต้องพึ่งการลดหนี้ เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ตนไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับ นพ.พรหมินทร์ เคยเป็นเลขาธิการนายกฯ และก็มีว่าที่รัฐมนตรีได้มารับฟังข้อเสนอจากที่นี่ด้วย</p>
<p>นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าถ้าดูการเติบโตเศรษฐกิจของจังหวัดและภูมิภาค ผลตอบแทนน่าจะคุ้ม รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยหลังถวายสัตย์ฯ เราจะดูองค์รวมทั้งหมด จะไม่ได้ทำเชิงรุกอย่างเดียว ต้องดูปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมาด้วย ต้องทำควบคู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการยกเว้นวีซ่าให้จีน อินเดีย ส่วนรัสเซียเป็นตลาดใหญ่ เราจะขยายให้ท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ 90 วัน และคาซัคสถาน ก็จะเปิดตลาดด้วย ส่วนเรื่องท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนั้น ทำให้มีการพักผ่อนระยะยาว เชื่อว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาแน่นอน โดยรัฐบาลจะให้ความสำคัญพัฒนาส่วนนี้ด้วย ส่วนอีวีบัส (รถเมล์ไฟฟ้า) ก็สามารถทำได้เลย</p>
<p>“เรื่อง ครม.สัญจร ก็เป็นเรื่องสำคัญกับจังหวัดนั้น การมาคณะเล็กอาจคล่องตัวอาจแยก ครม.เศรษฐกิจ ครม.ความมั่นคง เพื่อความคล่องตัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่า และจะกลับมาอีกครั้ง” นายเศรษฐา กล่าว</p>
<h2><span style="color:#3498db;">เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขอใช้ผลงานรัฐบาลพิสูจน์ </span></h2>
<p>ที่โรงแรม Moracea by Khaolak Resort อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจและเอกชนในการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในกลุ่มจังหวัดอันดามัน ว่า จากการรับฟังข้อเสนอคล้าย จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะการผลักดันสนามบิน การผลักดันสาธารณูปโภคพื้นฐาน และการผลักดันสนามบิน จ.พังงา ส่วนการขยายสนามบิน จ.ภูเก็ต จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นก่อนด้วย เพราะเข้าใจว่ามีแผนอยู่แล้ว</p>
<p>ส่วนกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กในเชิงส่งไม้ต่อให้รัฐบาลชุดใหม่นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ตนยังไม่ได้อ่านรายละเอียด โดยจะรับไปพิจารณา ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันมาจากรัฐบาลเดิม ก็จะมีการไปรับฟังงานที่ค้างไว้ โดยเฉพาะงานต่างประเทศที่สามารถสานต่อได้ ส่วนในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีก็ต้องดู ว่าสิ่งไหนทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาสถานการณ์การเมืองก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ และบางอย่างจะล็อคยาว 20 ปีก็ต้องดูความเหมาะสมและ สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน</p>
<p>นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวใกล้เคียง แต่ขณะนี้ยังไม่อยากก้าวล่วงคณะเจรจา ซึ่งขณะนี้การเจรจาคืบหน้าไปในทางที่ดี และมีการลงรายละเอียดด้วยว่า อยู่ระหว่างการพูดคุยกัน ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดความถนัดของบุคคลที่จะเข้ามาดูแลกระทรวงนั้นๆ โดยยึดความเจริญของประเทศเป็นหลัก ไม่ใช่แค่การจัดสรรอย่างเดียว ซึ่งของพรรคเพื่อไทยเหลืออีกนิดเดียว 2-3 ตำแหน่ง และต้องขอดูรายละเอียดว่าจะเป็นอย่างไร หลังมีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยได้กระทรวงมหาดไทย</p>
<p>เมื่อถามถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้มีชื่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นั่ง รมว.มหาดไทยแล้วเปลี่ยนมาชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายภูมิธรรมจะเสียใจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจ และตำแหน่งในกระทรวงใหญ่ๆ มีการพูดคุยกันแล้ว และคิดอย่างดีแล้ว เพราะผู้ใหญ่ในแต่ละพรรคทุกคน ผ่านการดูแลงานมาเยอะเชื่อว่าทุกคนมีความเหมาะสม</p>
<p>นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการแต่งตั้งผู้แทนการค้าไทยซึ่งที่ผ่านมาเคยมีส่วนสำคัญในการเจรจาการค้าในสมัยรัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร ว่า เรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะปัจจุบันการค้าโลก ทั้ง FTA การเปิดตลาดใหม่ เพื่อเชิญนักลงทุนเข้ามาในประเทศ ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งตามความเข้าใจของตัวเองผู้แทนการค้ามี 5 คน และสามารถตั้งประธานได้อีก 1 คน ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสำคัญที่พัฒนาประเทศ โดยจะพิจารณาความเหมาะสมและความสามารถส่วนบุคคลในการแต่งตั้ง ขออย่าบอกว่าเป็นโควตาของพรรคการเมืองไหน แต่ขอให้เอาประโยชน์ประเทศชาติเป็นที่ตั้ง</p>
<p>นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ขอเอาผลงานเป็นที่ พิสูจน์การทำงานของรัฐบาลนี้รวมถึงกระแสข่าวที่ว่าตนเองจากควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่ง หรือไม่นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ขณะนี้ยอมรับว่าสภาวะเศรษฐกิจมีปัญหา และรับทราบว่าการคาดหวังของประชาชนสูง แต่ก็เชื่อว่าคนที่ถูกคัดเลือกจะทำหน้าที่พร้อมที่จะทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย และยอมรับว่า เป็นธรรมดาว่ารัฐมนตรีช่วยว่าการจะต้องร่วมงานกับรัฐมนตรีว่าการ และการนำโจทย์ความลำบากของประชาชนไม่ว่าบุคคลที่จะมาเป็น รัฐมนตรีช่วยไม่ว่าจะมาจากพรรคการเมืองใดจะสามารถคุย และทำงานร่วมกันได้ ไม่อยากตั้งแง่ว่ามาจากพรรคไหน ซึ่งเชื่อว่า 11 พรรคการเมืองที่มาอยู่ด้วยกันวันนี้เชื่อว่าทุกคนเข้าใจถ่องแท้ ถึงความต้องการของประชาชนเข้าใจถึงปัญหา เข้าใจถึงการเดินไปข้างหน้าก้าวข้ามความขัดแย้ง</p>
<p>นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยมองว่า เป็นเรื่องสำคัญและเป็นมาตรการหลักของพรรคเพื่อไทย โดยยืนยันเดินหน้าเต็มตัวแต่ตอนนี้ขอดูรายละเอียดอีกทีก่อน โดยวันจันทร์ที่ 28 ส.ค.และวันอังคารที่ 29 ส.ค.นี้จะได้มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุยรวบรวมข้อมูล และจะจัดทำไทม์ไลน์ หวังว่าในไตรมาส 1 ในปี 2567 จะดำเนินการได้</p>
<p>เมื่อถามว่าข้อมูลข่าวความนิยมของศรีปทุมโพลพบว่าความนิยมของพรรคเพื่อไทยลดลงนายเศรษฐา ระบุว่า ขอให้ผลงานพรรคเพื่อไทยเป็นเครื่องพิสูจน์ ซึ่งขณะนี้เราทำงานทุกวัน และทุกคนร่วมกันโดยไม่มีความเหน็ดเหนื่อย โดยยอมรับว่าความคาดหวังของคนไม่สามารถควบคุมได้ แต่ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยได้คุยพรรคร่วมรัฐบาล ทุกคนจะเข้าใจ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105634
 
5906  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'สมบัติ บุญงามอนงค์' ประกาศไม่ใช้สิทธิ 'ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท' ตั้งคำถาม 6 ข เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 20:35:52
'สมบัติ บุญงามอนงค์' ประกาศไม่ใช้สิทธิ 'ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท' ตั้งคำถาม 6 ข้อ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-26 15:44</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'สมบัติ บุญงามอนงค์' หรือ 'บก.ลายจุด' นักกิจกรรมทางการเมือง ประกาศไม่ใช้สิทธิ 'ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท' ตั้งคำถาม 6 ข้อ </p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="329" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fnuling%2Fposts%2Fpfbid031xaQ2at3jgYJ9siyFe6FCrG6Wk1qHj4L4HSYVLMqPB2uGZxiQjRSBiHX9n6pTzEAl&amp;show_text=true&amp;width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p>
<p>26 ส.ค. 2566 สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรมทางการเมือง ได้โพสต์เฟสบุ๊ค ถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทยว่า ชวนคิด ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท</p>
<p>1. หากโครงการใช้เวลา 1 ปีในการเตรียมการ เหตุผลจริงๆ เป็นเรื่องเทคโนโลยีและการออกแบบระบบ หรือว่าต้องหาแหล่งที่มาของเงิน 540,000 ล้านบาทให้ได้ก่อน</p>
<p>2. ถ้าติดแค่ปัญหาด้านเทคนิค สามารถใช้เป๋าตังที่รัฐบาลประยุทธ์เคยทำก่อนได้ เพื่อให้แก้ปัญหากำลังซื้อขาดแคลนตามที่เคยวิเคราะห์ไว้</p>
<p>3. ยอด 10,000 บาท ไม่จำเป็นต้องให้ในคราวเดียว แต่สามารถแบ่งเป็นเดือน เช่น เดือนละ 2,000 บาท หากใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เดือนต่อไป เพื่อให้การใช้เงินมีการกระจายตัวครบ 6 เดือนในช่วงกระตุ้นเศรษฐกิจ</p>
<p>4. ควรเปลี่ยนข้อจำกัดเชิงพื้นที่จาก 4 กม. เป็นเขตพื้นที่การปกครอง เช่น ให้ใช้เฉพาะในเขตหรืออำเภอที่ตนเองมีภูมิลำเนา แต่กรณีนี้ยังมีปัญหาเรื่องแรงงานข้ามถิ่น หรือไม่ได้อาศัยอยู่ในเชตพื้นที่ที่มีบ้านเลขที่</p>
<p>5. คนไทยจำนวนหนึ่งไม่ได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านทร 14 แต่อยู่ในระบบทะเบียนบ้านกลางของทางกรมการปกครอง คำถาม เขตพื้นที่ที่คนกลุ่มนี้จะใช้บริการคือยึดจากตรงจุดไหน</p>
<p>6. การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการลักษณะนี้ จะทำให้เกิดกำลังซื้อเทียมขึ้นมา พอจบโครงการตลาดจะซึมลง คำถามคือ อะไรคือกุญแจทำให้การอัดฉีดระยะสั้นด้วยเงินจำนวนมากเช่นนี้ทำให้เศรษฐกิจฟื้นได้จริงๆ หลังจบโครงการ</p>
<p>ปล.ผมขอประกาศไม่ใช้สิทธิโครงการนี้</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105635
 
5907  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - นักศึกษาตัดพ้อ ขาหัก ครูยังบังคับให้เข้าห้องสอบ เดินขึ้นบันไดไม่ไหวบอกไม่พยาย เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 19:59:52
นักศึกษาตัดพ้อ ขาหัก ครูยังบังคับให้เข้าห้องสอบ เดินขึ้นบันไดไม่ไหวบอกไม่พยายาม
         


นักศึกษาตัดพ้อ ขาหัก ครูยังบังคับให้เข้าห้องสอบ เดินขึ้นบันไดไม่ไหวบอกไม่พยายาม" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;นักศึกษาตัดพ้อครูใจร้าย ขาหักยังบังคับให้เข้าห้องสอบ เดินขึ้นบันไดไม่ไหว ครูบอกไม่มีความพยายาม ชาวเน็ตเห็นใจแต่ก็กลัวคดีพลิก
         

https://www.sanook.com/news/8995090/
         
5908  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - พรรคประชาชาติเลือก ‘ทวี สอดส่อง’ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 19:04:39
พรรคประชาชาติเลือก ‘ทวี สอดส่อง’ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-26 16:01</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>พรรคประชาชาติมีมติเลือก ‘พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง’ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แทน ‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ ที่ลาออกไปรับตำแหน่งประธานรัฐสภา พร้อมกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53142675925_af602a0c34_o_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติคนใหม่ (แฟ้มภาพ)</span></p>
<p>26 ส.ค. 2566 ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ครั้งที่ 2 ของพรรคประชาชาติ ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มีวาระเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ลาออกจากหัวหน้าพรรค เพื่อรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา </p>
<p>โดยที่ประชุมมีมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น เลือก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดย พ.ต.อ.ทวี ยังมีชื่อเป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี </p>
<p>ส่วนรองหัวหน้าพรรค 12 คน ประกอบด้วย 1.นายวรวีร์ มะกูดี 2.นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ 3.นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ 4.นายวิทยา พานิชพงษ์ 5.นายอับดุลอายี สาแม็ง 6.ดร.วรวิทย์ บารู 7.นายกูเฮง ยาวอหะซัน 8.พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ 9.นายปราโมทย์ แหล่ทองคำ 10.นายฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ 11.นายยู่สิน จินตภากร และ 12.นายสุธีรพันธ์ สุขวุฒิชัย</p>
<p>ขณะที่ นายซูการ์โน มะทา ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค นายพิสุทธิ์ อังจันทร์เพ็ญ นายธนาวิทย์ ไชยานุพงษ์ นายมังโสด หมะเต๊ะ และนายมูหะมัด ยูโซ๊ะ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค นายมนตรี มนจรัส ดำรงตำแหน่งเหรัญญิก นางณีรานุช วัฒนาทร ดำรงตำแหน่งนายทะเบียนพรรค นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ โฆษกพรรค นายสุไลมาน บือแนปีแน นายต่วนอิสกันดาร์ ดาโต๊ะมูลียอ นางสาวรอมือละห์ แซเยะ รองโฆษกพรรค และนายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส กรรมการยุทธศาสตร์ </p>
<p>พ.ต.อ.ทวี ให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มประชุมกรณีที่ตนอาจได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่า โผ ครม.ที่ออกมายังเป็นเพียงข่าว ขณะนี้ต้องรอความชัดเจน ยังไม่ทราบเลยว่าจะได้ตำแหน่งอะไร แต่ในมิติความยุติธรรมเป็นมิติใหญ่ ถือเป็นปัจจัยที่ 5 ไม่ว่าคนจะยากดีมีจน ความยุติธรรมถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งหลังจากนี้พรรคประชาชาติจะต้องทำงานให้หนักขึ้น เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105636
 
5909  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - “สุชาติ” โพสต์อำลาตำแหน่ง ย้ำทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ไม่เสียใจที่หลุดโผ เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 18:42:00
“สุชาติ”  โพสต์อำลาตำแหน่ง ย้ำทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ไม่เสียใจที่หลุดโผ
         


“สุชาติ”  โพสต์อำลาตำแหน่ง ย้ำทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ไม่เสียใจที่หลุดโผ" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/8995038/
         
5910  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - งานศึกษา ILO ชี้ AI จะไม่แทนที่คนทำงานส่วนใหญ่ แต่ 'คนทำงานธุรการ' มีความเสี่ยง เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 17:32:25
งานศึกษา ILO ชี้ AI จะไม่แทนที่คนทำงานส่วนใหญ่ แต่ 'คนทำงานธุรการ' มีความเสี่ยง
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-26 16:27</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>งานศึกษาชิ้นใหม่ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ชี้แทนที่ AI จะมาแย่งงานทั้งหมดจากคนทำงาน แต่ AI กลับมีแนวโน้มที่จะหนุนเสริมอาชีพต่างๆ มากขึ้น กระนั้น 'คนทำงานธุรการ' ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ก็มีความเสี่ยงในการตกงานมากกว่าอาชีพอื่นๆ แนะภาครัฐมีนโยบายรับมือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53045022670_88a0b52d1d_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพประกอบ: starline/Freepik</span></p>
<p>เมื่อช่วงปลายเดือน ส.ค. 2023 องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เผยแพร่รายงาน Generative AI and Jobs: A global analysis of potential effects on job quantity and quality ชี้ให้เห็นว่า Generative AI ไม่น่าจะเข้ามาแทนที่งานของคนทำงานส่วนใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์ แต่อาจทำให้งานบางอย่างเป็นอัตโนมัติมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้คาดว่าจะเปิดโอกาสให้คนทำงานงานจัดสรรเวลาให้กับความรับผิดชอบอื่นๆ </p>
<p>แต่กระนั้น ยังมีคำเตือนโดยเฉพาะเกี่ยวกับงานธุรการ ซึ่งคาดว่าจะรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ Generative AI อาจมีผลกระทบที่ชัดเจนมากขึ้นต่อการจ้างงานผู้หญิง เนื่องจากการจ้างงานในสาขานี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ร่ำรวย</p>
<p>ทั้งนี้ความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับ Generative AI และแอปพลิเคชันแชทบอท ได้จุดชนวนความกังวลให้นึกถึงกรณีการสูญเสียและการโยกย้ายงานครั้งใหญ่ในอดีต เช่น การเปิดตัวสายการประกอบแบบเคลื่อนย้ายได้ในช่วงต้นทศวรรษ 1900 และการถือกำเนิดของคอมพิวเตอร์เมนเฟรมในทศวรรษ 1950 เป็นต้น</p>
<p>อย่างไรก็ตาม การวิจัยที่ดำเนินการโดย ILO นำเสนอมุมมองที่แตกต่างจากความวิตกกังวลเหล่านี้ การศึกษาสรุปว่า แทนที่ AI จะมาแย่งงานทั้งหมดจากคนทำงาน แต่ AI กลับมีแนวโน้มที่จะหนุนเสริมอาชีพและอุตสาหกรรมต่างๆ มากขึ้น โดยทำให้บางแง่มุมคนทำงานสามารถใช้ระบบอัตโนมัติได้</p>
<p>รายงานยังระบุว่าผลกระทบหลักจากเทคโนโลยีนี้มีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับการยกระดับประสบการณ์การทำงานโดยรวม</p>
<p>จากการวิเคราะห์หมวดหมู่งานที่เฉพาะเจาะจง การศึกษาระบุว่างานธุรการมีความเสี่ยงมากที่สุดจากการนำ Generative AI ไปใช้ในที่ทำงาน เทคโนโลยีนี้สามารถสร้างข้อความ รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว โมเดล 3 มิติ และข้อมูลประเภทอื่นๆ รายงานยืนยันว่าประมาณ 1 ใน 4 ของงานภายในขอบเขตที่กล่าวไปนี้เผชิญกับความเป็นไปได้สูงที่จะถูกระบบอัตโนมัติแทนที่ ในทางตรงกันข้าม อาชีพอื่นๆ เช่น การบริหารจัดการและการขาย คาดว่าจะเผชิญกับการนำ AI ไปแทนที่งาน เพียงเล็กน้อยเท่านั้น</p>
<p>แม้จะมีมุมมองในแง่ดีต่อ AI แต่ ILO ก็เน้นย้ำถึงผลกระทบต่อคนทำงานหากถูก Generative AI มาแทนที่ ดังนั้น รายงานฉบับนี้จึงเตือนให้รัฐบาลกำหนดนโยบายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการสร้างนโยบายที่จัดการกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ</p>
<p><strong>ที่มา:</strong>
Generative AI likely to augment rather than destroy jobs (ILO, 21 August 2023)
Generative AI Unlikely To Replace Most Jobs But Clerical Workers At Risk, UN Study Warns (ABP News Bureau, 22 Aug 2023)</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105637
 
5911  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ภาพงานหมั้น "หมาก-คิม" ผูกข้อมือต้อนรับสะใภ้แบบประเพณีล้านนา เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 17:28:51
ภาพงานหมั้น "หมาก-คิม" ผูกข้อมือต้อนรับสะใภ้แบบประเพณีล้านนา
         


ภาพงานหมั้น &quot;หมาก-คิม&quot; ผูกข้อมือต้อนรับสะใภ้แบบประเพณีล้านนา" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;หมาก-คิม ภาพสวมแหวนหมั้นและผูกข้อมือตามประเพณีล้านนา บรรยากาศอบอุ่นมาก แอบซูมแหวนเพชรเม็ดใหญ่เจิดจ้าที่สุด
         

https://www.sanook.com/news/8995046/
         
5912  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ‘เศรษฐา’ ลุยถกตัวแทนภาคเอกชน-ธุรกิจ จ.พังงา ย้ำต้องเพิ่มรายได้ผ่านการท่องเที่ เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 16:02:19
‘เศรษฐา’ ลุยถกตัวแทนภาคเอกชน-ธุรกิจ จ.พังงา ย้ำต้องเพิ่มรายได้ผ่านการท่องเที่ยว
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-26 14:49</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>‘เศรษฐา’ ลุยถกตัวแทนภาคเอกชน-ธุรกิจ จ.พังงา ย้ำต้องเพิ่มรายได้ผ่านการท่องเที่ยว รับปากให้ความสำคัญ ครม.สัญจร ดันฟรีวีซ่ากับประเทศกลุ่มเป้าหมายเที่ยวไทยระยะยาว</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53142595505_a902347c7e_o_d.jpg" /></p>
<p>26 ส.ค. 2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งข่าวว่าที่โรงแรม Moracea by Khaolak Resort อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและคณะทำงานด้านนโยบายการท่องเที่ยวพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่รับฟังข้อเสนอแนะจากตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจและเอกชนใน จ.พังงา</p>
<p>นายกฤษ ศรีฟ้า อดีตผู้สมัคร สส.พังงา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จ.พังงา มีงบประมาณเรื่องของการจัดการน้ำไว้หลายที่รวมทั้งงบประมาณจัดการน้ำที่เขาหลัก พร้อมทั้งฝากนายกรัฐมนตรี ถ้าเป็นไปได้ให้มีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)สัญจร เพื่อคืนโอกาสในการพัฒนาต่างๆ ให้กับ จ.พังงาอีกครั้งหนึ่ง</p>
<p>ด้าน นายกสมาคมท่องเที่ยว จ.พังงา ระบุว่า เฉพาะภาคใต้มีการท่องเที่ยวชุมชนอยู่ 800 ชุมชน แต่ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการเข้าถึงตลาด และไม่ได้รับการเข้าถึงโครงการของภาครัฐ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซี่งได้แต่โรงแรมอย่างเดียว แต่ชุมชนไม่ได้ พร้อมขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดที่ช่วยจดทะเบียนการท่องเที่ยวชุมชน</p>
<p>ด้าน ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.พังงา ระบุว่า ในช่วงเดือน ม.ค.จนถึง มิ.ย. 2566 มีตัวเลขรายได้ 6,300 ล้านบาทสำหรับการท่องเที่ยว พร้อมย้ำว่าการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามันจะสร้างตัวเลขใหม่ 1 ล้านล้านบาทภายในปี 2570 โดยขยายสนามบิน จ.ภูเก็ต 2 ให้มีศักยภาพและพัฒนาแผนรถไฟ และต้องจัดระเบียบขนส่งในภูเก็ต พังงา กระบี่ ไม่ให้นักท่องเที่ยวถูกเอาเอาเปรียบ หากมีขนส่งสาธารณะจะทำให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกมากขึ้น</p>
<p>ตัวแทนภาคเอกชนยังสะท้อนว่า สถิติการท่องเที่ยว ต.ค.-มิ.ย. 2566 มีรายได้รวม8,000 ล้านบาท ในช่วงโควิด-19 มีนักท่องเที่ยว 4 ล้านคจากประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย จีน รัสเซีย และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยสงกรานต์มี 30,000-40,000 คนต่อปี และอยากให้ จ.พังงาเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวผ่าน Thailan Travel Mary Plus(TTM+) 2024</p>
<p>จากนั้นนายเศรษฐา ระบุว่า ตนแปลกใจที่ จ.พังงา ไม่ได้มีนายกรัฐมนตรี มาลงพื้นที่เป็นเวลาหลาย 10 ปี และแม้ จ.พังงา จะไม่มีสส.พรรคเพื่อไทย แต่ตนก็จะมาอีกครั้งสำหรับ จ.ภูเก็ต จ.พังงา เพราะการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งตนจะเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม จ.ภูเก็ต ขณะนี้จีดีพีตกต่ำ ดังนั้น ต้องพึ่งการลดหนี้ เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ตนไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับ นพ.พรหมินทร์ เคยเป็นเลขาธิการนายกฯ และก็มีว่าที่รัฐมนตรีได้มารับฟังข้อเสนอจากที่นี่ด้วย</p>
<p>นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าถ้าดูการเติบโตเศรษฐกิจของจังหวัดและภูมิภาค ผลตอบแทนน่าจะคุ้ม รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยหลังถวายสัตย์ฯ เราจะดูองค์รวมทั้งหมด จะไม่ได้ทำเชิงรุกอย่างเดียว ต้องดูปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมาด้วย ต้องทำควบคู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการยกเว้นวีซ่าให้จีน อินเดีย ส่วนรัสเซียเป็นตลาดใหญ่ เราจะขยายให้ท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ 90 วัน และคาซัคสถาน ก็จะเปิดตลาดด้วย ส่วนเรื่องท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนั้น ทำให้มีการพักผ่อนระยะยาว เชื่อว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาแน่นอน โดยรัฐบาลจะให้ความสำคัญพัฒนาส่วนนี้ด้วย ส่วนอีวีบัส (รถเมล์ไฟฟ้า) ก็สามารถทำได้เลย</p>
<p>“เรื่อง ครม.สัญจร ก็เป็นเรื่องสำคัญกับจังหวัดนั้น การมาคณะเล็กอาจคล่องตัวอาจแยก ครม.เศรษฐกิจ ครม.ความมั่นคง เพื่อความคล่องตัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่า และจะกลับมาอีกครั้ง” นายเศรษฐา กล่าว</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105634
 
5913  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - คลิปน่ารัก "น้องวีจิ" จับมือคุณย่าเดิน บทสนทนาฟังแล้วยิ้มเลย เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 14:58:00
คลิปน่ารัก "น้องวีจิ" จับมือคุณย่าเดิน บทสนทนาฟังแล้วยิ้มเลย
         


คลิปน่ารัก &quot;น้องวีจิ&quot; จับมือคุณย่าเดิน บทสนทนาฟังแล้วยิ้มเลย" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;น้องวีจิ คลิปน่ารักช่วยประคองคุณย่าตอนเดิน บทสนทนาน่าเอ็นดูจริงๆ หลานสาวเป็นห่วงคุณยาสุดๆ
         

https://www.sanook.com/news/8994914/
         
5914  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จ.ขอนแก่น ลุยเชิงรุกรับเรื่องร้องทุกข์ ‘สิทธิบัตรทอ เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 14:29:50
ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จ.ขอนแก่น ลุยเชิงรุกรับเรื่องร้องทุกข์ ‘สิทธิบัตรทอง’
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-26 14:01</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จ.ขอนแก่น เผยทำงานเชิงรุก ร่วมเครือข่ายในพื้นที่ออกหน่วยให้คำแนะนำสิทธิบัตรทองกับชุมชน เผยช่วยเหลือญาติผู้ป่วยฉีดวัคซีนโควิด ประสานส่วนกลางแค่สัปดาห์เดียว ได้เงินช่วยเหลือเยียวยาทันที - รพ.กล้วยน้ำไทร่วมมือ สปสช. ให้บริการรับส่งต่อผู้ป่วย เพิ่มความสะดวกรักษาใกล้บ้าน-ลดแออัด รพ.รัฐ </p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53142123186_3f0dd29453_o_d.jpg" /></p>
<p>26 ส.ค. 2566 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แจ้งข่าวว่า นายปฏิวัติ เฉลิมชาติ ผู้ประสานงานศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นหน่วยรับเรื่องร้องเรียนอื่นที่เป็นอิสระจากผู้ถูกร้องเรียนตามมาตรา 50(5) พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 เปิดเผยว่า ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จ.ขอนแก่น ไม่ได้ทำงานเชิงรับอย่างเดียว แต่ยังขับเคลื่อนการทำงานเชิงรุกด้วย โดยประสานกับเครือข่ายในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ที่เป็นภาคประชาสังคม ร่วมออกหน่วยบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับชุมชน  </p>
<p>รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สิทธิบัตรทองหรือบัตร 30 บาท) ตลอดจนรับเรื่องร้องทุกข์ หรือตอบคำถามข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับการใช้สิทธิบัตรทอง ทั้งการเปลี่ยนหน่วยบริการ การลงทะเบียนย้ายสิทธิสำหรับประชาชนที่มีภูมิลำเนาต่างถิ่น  </p>
<p>นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของการช่วยเหลือกรณีที่อาจได้รับความเสียหายจากการบริการทางการแพทย์ ให้ได้รับการเยียวยาอีกด้วย ตัวอย่างเช่น การประสานช่วยเหลือเยียวยาให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเสียชีวิตที่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) แต่ญาติอยู่ที่ จ.ขอนแก่น และได้มาร้องทุกข์ที่ ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จ.ขอนแก่น </p>
<p>นายปฏิวัติ กล่าวต่อไปว่า ทางศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จึงได้ประสานไปยัง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 13 กทม. ที่รับผิดชอบในพื้นที่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีหลักเกณฑ์ชดเชยกรณีฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วเสียชีวิต โดยไม่ต้องมีการสอบสวนสาเหตุ จนในที่สุดญาติ และครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รับการช่วยเหลือชดเชย จำนวนประมาณ 2 แสน - 4 แสนบาท โดยกรณีดังกล่าวเกิดการเสียชีวิตซึ่งคาดว่ามาจากการฉีดวัคซีน สปสช. จึงอนุมัติให้ได้รับการชดเชยในทันที  </p>
<p>"จากกรณีที่เกิดขึ้น ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จ.ขอนแก่น รับเรื่องร้องทุกข์จากญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งเหตุเกิดเมื่อช่วงปลายปี 2565 โดยญาติเข้ามาร้องทุกข์กับหน่วยฯ เมื่อเดือน ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งหน่วยได้ประสานเพื่อช่วยเหลือกับสปสช. เขต 13 กทม. และพบว่าเข้าข่ายให้การช่วยเหลือตามมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ที่ดูแลคุ้มครอง ซึ่งประสานให้การช่วยเหลือกับญาติผู้เสียชีวิตเพียง 1 สัปดาห์ ก็ทราบว่าได้มีการอนุมัติการช่วยเหลือกับกรณีที่เกิดขึ้นจากสปสช.แล้ว" ผู้ประสานงานศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จ.ขอนแก่น ระบุ </p>
<p>ผู้ประสานงานศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จ.ขอนแก่น กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จ.ขอนแก่น ยังปรับเปลี่ยนช่องทางการรับเรื่องร้องทุกข์จากผู้ใช้สิทธิบัตรทองผ่านเพจ 'บัตรทองของเรา' ซึ่งเป็นของเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเป็นภาคประชาสังคมที่มาร่วมขับเคลื่อนดูแลสิทธิด้านสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่ เพราะประเด็นด้านระบบบริการสุขภาพสาธารณสุข เป็น 1 ใน 8 ภารกิจหลักของงานคุ้มครองผู้บริโภคด้วย </p>
<p>"การเปิดช่องทางการร้องทุกข์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวมถึงการลงพื้นที่ออกหน่วยร่วมกับเครือข่ายอื่นๆ ก็ช่วยให้การเข้าถึงบริการสุขภาพตามสิทธิบัตรทองใน จ.ขอนแก่นมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น" นายปฏิวัติ กล่าว  </p>
<h2><span style="color:#3498db;">รพ.กล้วยน้ำไทร่วมมือ สปสช. ให้บริการรับส่งต่อผู้ป่วย เพิ่มความสะดวกรักษาใกล้บ้าน-ลดแออัด รพ.รัฐ </span></h2>
<p>นพ.สุวินัย บุษราคัมวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์และพยาบาล โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ใน 17 โรงพยาบาลเอกชนที่ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการรับส่งต่อผู้ป่วยนอก/ผู้ป่วยใน สิทธิบัตรทอง ในพื้นที่ กทม. ตามมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2545 กล่าวถึงเหตุผลที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ตัดสินใจเข้าร่วมให้บริการในครั้งนี้ว่า เดิมทีโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทให้บริการคนไข้สิทธิบัตรทองอยู่แล้วประมาณ 1 แสนคน แต่ต่อมาได้มีการยกเลิกสัญญากับ สปสช. ทำให้คนไข้ที่เคยรับบริการกับกล้วยน้ำไทมีปัญหาไม่ได้รับความสะดวก </p>
<p>นพ.สุวินัย กล่าวว่า คนไข้เดิมเหล่านี้ส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่ในละแวกที่ตั้งของโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท เมื่อมีการยกเลิกสัญญา ทำให้ถูกย้ายไปขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาลของรัฐซึ่งอยู่ไกลกว่าเดิม บางส่วนไม่สามารถหาหน่วยบริการทุติยภูมิได้ บางส่วนยังเป็นสิทธิว่างที่ยังหาหน่วยบริการลงไม่ได้ และอีกส่วนก็ถูกย้ายไปขึ้นทะเบียนกับคลินิกชุมชนอบอุ่น ซึ่งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทก็มีเครือข่ายคลินิกในระดับปฐมภูมิอยู่แล้ว เมื่อมีการส่งต่อก็จะส่งมาที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ทำให้เกิดการดูแลต่อเนื่อง แต่ตอนนี้ต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลอื่นที่ปกติก็มีความหนาแน่นอยู่แล้ว </p>
<p>เมื่อพิจารณาปัจจัยเหล่านี้แล้ว โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทจึงตัดสินใจเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการตามมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยให้สามารถถูกส่งต่อมาที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทได้ ขณะเดียวกัน ก็เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระ ลดความแออัดของโรงพยาบาลของรัฐอีกด้วย”นพ.สุวินัย กล่าว </p>
<p>นพ.สุวินัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของความพร้อมในการให้บริการนั้น โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทมีความพร้อมอย่างเต็มที่เพราะเดิมทีก็ให้บริการผู้ป่วยสิทธิบัตรทองอยู่แล้ว ครอบคลุมบริการตั้งแต่อาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน การรับส่งต่อจากคลินิกหรือโรงพยาบาลรัฐที่ไม่มีเตียงรองรับ โรคหัวใจ โรคประสาทและสมอง และสาขาอื่นๆ ทุกสาขา โดยผู้ป่วยสิทธิบัตรทองจะได้รับบริการตามมาตรฐานวิชาชีพ และเท่าเทียมกับผู้ป่วยประกันสังคมและผู้ป่วยเงินสดที่จ่ายเงินเอง </p>
<p>“โรงพยาบาลเรารับทั้งสิทธิบัตรทอง ประกันสังคมและคนไข้เงินสดทั่วไป มาตรฐานการรักษาเท่าเทียมกัน เพียงแต่เรื่องห้องอาจจะต่างกัน เช่น สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคมจะมีห้องรวมให้ แต่ถ้าอยากอยู่ห้องเดี่ยวก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เป็นต้น แต่ในเรื่องการดูแลรักษา ผ่าตัด การให้ยา ทุกอย่างเหมือนกันหมดเป็นมาตรฐานเดียวกัน”นพ.สุวินัย กล่าว </p>
<p>นพ.สุวินัย กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากการแถลงความร่วมมือในครั้งนี้แล้ว สิ่งที่อยากเห็นในอนาคตคือการที่ภาครัฐให้โอกาสโรงพยาบาลเอกชนเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระให้มากขึ้น เพราะคนไข้ไปหนาแน่นที่โรงพยาบาลรัฐเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่คนไข้บางส่วนอาจมีที่อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลเอกชนมากกว่า จึงอยากให้กระจายผู้ป่วยมาให้โรงพยาบาลเอกชนมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือรัฐในการลดความแออัด </p>
<p>อนึ่ง มาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2545 ระบุว่า บุคคลที่ได้ลงทะเบียนแล้ว ให้ใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขได้จากหน่วยบริการประจำของตนหรือหน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่ายหน่วยบริการที่เกี่ยวข้อง หรือจากหน่วยบริการอื่นที่หน่วยบริการประจำของตนหรือเครือข่ายหน่วยบริการที่เกี่ยวข้องส่งต่อ เว้นแต่กรณีที่มีเหตุสมควร หรือกรณีอุบัติเหตุหรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ให้บุคคลนั้นมีสิทธิเข้ารับบริการจากสถานบริการอื่นได้ ทั้งนี้ตามที่คณะกรรมการกำหนด โดยคำนึงถึงความสะดวกและความจําเป็นของผู้ใช้สิทธิรับบริการ และให้สถานบริการที่ให้บริการนั้นมีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายจากกองทุนตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105632
 
5915  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 20-26 ส.ค. 2566 เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 12:57:26
สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 20-26 ส.ค. 2566
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-26 12:20</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p><strong>รัฐบาลเดินหน้ามาตรการป้องกันการใช้แรงงานลิง กำหนดสัญลักษณ์ MFP</strong></p>
<p>นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลขับเคลื่อนมาตรการตรวจรับรองแปลงระบบผลิตอาหารปลอดภัย GAP (Good Agricultural Practice) MFP (GAP Monkey Free Plus) ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดสายการผลิต รวมทั้งผลักดันการใช้เครื่องหมาย GAP MFP อย่างเป็นรูปธรรมและสากล ตอกย้ำ และยืนยันถึงขั้นตอนกระบวนการผลิตและการแปรรูปมะพร้าวของประเทศไทย สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในตลาดต่างประเทศ</p>
<p>รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม ชมรม และบริษัทผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์มะพร้าวไทย เดินหน้าตามมาตรการ GAP Monkey free plus เพื่อตรวจรับรองสวนมะพร้าวให้เข้าสู่ระบบผลิต GAP</p>
<p>รวมทั้งเพื่อตรวจรับรองว่าแปลงปลูกไม่ได้ใช้ลิงเก็บเกี่ยว โดยนอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว หน่วยงานภาครัฐยังได้วิจัยและคิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเป็นแนวทางให้เกษตรกร และอุตสาหกรรมมะพร้าวไทย ได้นำไปเรียนรู้ และปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ในการเก็บเกี่ยวมะพร้าวต่อไป</p>
<p>รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวจะดำเนินการตรวจประเมินการใช้แรงงานลิงในแปลงเกษตรกรที่ได้การรับรอง GAP มะพร้าวเป็นลำดับแรก และตรวจประเมินแปลงเกษตรกรในเครือข่ายของบริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์มะพร้าวเพื่อการส่งออก โดยเชื่อมั่นว่า จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อคู่ค้า และต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านการผลิตมะพร้าวในทุกขั้นตอนได้เป็นอย่างดีและยั่งยืน</p>
<p>ปัจจุบัน มีแปลงที่ผ่านการตรวจประเมิน GAP MFP เป็นแปลงมะพร้าวแกง 1,372 แปลง รวมพื้นที่ 13,546 ไร่ และแปลงมะพร้าวอ่อน 533 แปลง รวมพื้นที่ 6,597 ไร่ มีเป้าหมายจะตรวจให้ครอบคลุม แปลงเกษตรกรที่ได้รับการรับรอง GAP แล้วอีกประมาณ 4,526 แปลง 47,125 ไร่ และตรวจให้เกษตรกรและเกษตรกรที่ผู้ประกอบการแจ้งความประสงค์ไว้ภายในเดือนกันยายน 2566 นี้ (ณ เดือนมีนาคม 2566)</p>
<p>ที่มา: สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น, 26/8/2566</p>
<p><strong>เตือน "วีซ่าเกษตรเกาหลี" (วีซ่า E-8) ต้องผ่าน "กรมการจัดหางาน" จัดส่งเท่านั้น</strong></p>
<p>"นายไพโรจน์ โชติกเสถียร" อธิบดีกรมการจัดหางาน อธิบายถึงกระแสข่าวมีหน่วยงานหรือองค์กร ประกาศลงทะเบียนและรับสมัครไปทำงานภาคเกษตรตามฤดูกาลที่สาธารณรัฐเกาหลี (วีซ่าเกษตรเกาหลี) โดยเก็บเงินค่าใช้จ่ายล่วงหน้าจำนวนหนึ่ง พร้อมการันตีรายได้ 54,000 – 70,000 บาทต่อเดือน ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานภาคเกษตรตามฤดูกาล (Seasonal Worker) ที่เกาหลีใต้ด้วยวีซ่า E - 8 ทางการเกาหลีใต้ระบุอย่างชัดเจนให้กรมการจัดหางานเป็นหน่วยงานผู้ดำเนินการเท่านั้น ห้ามหน่วยงาน องค์กร หรือบริษัทจัดหางานเข้าแทรกแซงและทำสัญญาซ้อนกับแรงงาน</p>
<p>"ขอย้ำเตือนประชาชนและบุคคลทั่วไปที่สนใจไปทำงานเกษตรตามฤดูกาลเกาหลีใต้ อย่าหลงเชื่อหากมีหน่วยงาน องค์กรหรือบุคคลใดแอบอ้างว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขอวีซ่านี้หรือมีช่องทางพิเศษในการอำนวยความสะดวกเพื่อไปทำงานต่างประเทศได้" "นายไพโรจน์" ระบุ</p>
<p>ด้าน "นายรัตนะ สวามีชัย" เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้ทำหนังสือแจ้งเวียนประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจัดส่งคนงานไปทำงานภาคการเกษตรในต่างประเทศ ถึงหัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดทุกจังหวัด ข้อความโดยสรุปว่า การจัดส่งแรงงานไปทำงาน "วีซ่าเกษตรเกาหลี" ต้องยึดถือและปฏิบัติตามกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเท่านั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน</p>
<p>จึงขอให้หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดแจ้งเกษตรกร หรือผู้เกี่ยวข้อง ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากกรมจัดการงาน กระทรวงแรงงาน ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย</p>
<p>สำหรับการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ (ถ้ามี) สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติขอเรียนยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ และสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัด แต่อย่างใดทั้งสิ้น</p>
<p>ที่มา: คมชัดลึก, 26/8/2566</p>
<p><strong>สปส. ผุดโครงการบูรณาการ “ศาลแรงงานเคลื่อนที่” หวังคุ้มครองแรงงานตามกฎหมาย</strong></p>
<p>นายอาทิตย์ อิสโม ประธานคณะกรรมการอุทธรณ์ สำนักงานประกันสังคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอุทธรณ์ ร่วมกับคณะอนุกรรมการอุทธรณ์ (วิชาการ) สัญจร โดยมี ผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 9 สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา พื้นที่ใกล้เคียง และคณะกรรมการอุทธรณ์ เข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมโรงแรมคุ้มไทรงาม โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท (เกาะยอ) อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา</p>
<p>นายอาทิตย์ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ ได้มีแนวคิดตรงกันที่จะผุดโครงการบูรณาการศาลแรงงานเคลื่อนที่ ระหว่าง ผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 9 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และคณะกรรมการอุทธรณ์ สำนักงานประกันสังคม เพื่อให้ข้อมูลและคำปรึกษาทั้งในด้านข้อกฎหมายและอื่นๆ ก่อนฟ้อง ให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิ สวัสดิการ และข้อมูลด้านแรงงาน รวมทั้งประสานหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลืออำนวยความยุติธรรม ขยายโอกาสแก่ประชาชน คู่ความ หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับสิทธิและสวัสดิการด้านแรงงานได้เข้าถึงหรือได้รับการเยียวยาความเดือดร้อนด้วยความเป็นธรรม ลดภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงความยุติธรรมอย่างสะดวก รวดเร็ว ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาศาล สามารถบรรเทาความเดือดร้อน ได้รับการเยียวยาตามมาตรฐานที่รัฐและกฎหมายแรงงานกำหนดโดยสะดวก ประหยัด เสมอภาค เป็นธรรม และเกิดมาตรฐานเดียวกัน</p>
<p>“ศาลแรงงานกลางได้ขอความร่วมมือกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในการพิจารณาคดีอันเกิดแต่มูลละเมิดระหว่างนายจ้างและลูกจ้างสืบเนื่องจากข้อพิพาทแรงงาน หรือเกี่ยวกับการทำงานตามสัญญาจ้างแรงงาน ทั้งนี้ ให้รวมถึงมูลละเมิดระหว่างลูกจ้างกับลูกจ้างที่เกิดจากการทำงานในทางการที่จ้างด้วย ข้อพิพาทแรงงานตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือกฎหมายว่าด้วยการจัดหางานและคุ้มครองแรงงาน รวมทั้งคดีที่มีกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลแรงงาน” นายอาทิตย์ กล่าว</p>
<p>ที่มา: เดลินิวส์, 25/8/2566</p>
<p><strong>"สภานายจ้างฯ" ชง 3 ข้อเสนอ รัฐบาลใหม่ จดทะเบียน-ต่อใบอนุญาตแรงงานข้ามชาติ</strong></p>
<p>นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เราได้นายกฯคนใหม่ และกำลังจะได้รัฐบาลชุดใหม่ เพื่อมาบริหารประเทศ โดยในส่วนของสถานการณ์แรงงานข้ามชาติ หลังจากเดือนเมษายน 2566 พบว่า มีแรงงานข้ามชาติ สัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม กว่า 1.9 ล้านคน อยู่ระหว่างกระบวนการจดทะเบียน และต่อใบอนุญาตตามมติคณะรัฐมนตรี 7 กุมภาพันธ์ 2566 และต้องลงตราวีซ่าภายใน 15 พฤษภาคม 2566 ขณะนี้ยังไม่ปรากฏตัวเลขอย่างเป็นทางการว่า เหลือแรงงานจำนวนเท่าใดที่ดำเนินการได้ทันและไม่ทันตามกำหนดเวลาดังกล่าว และยังไม่มีมติคณะรัฐมนตรีหรือมาตรการใดๆ มารองรับเพื่อให้แรงงานที่หลุดออกจากระบบ สามารถทำงานในไทยกับนายจ้างต่อไปได้อย่างถูกต้องในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ดังนั้นสภาองค์การนายจ้างฯ ขอเสนอ 3 ข้อ ถึงรัฐบาลชุดใหม่ ให้เร่งดำเนินการทันทีเพื่อแก้ปัญหาแรงงานข้ามชาติ</p>
<p>โดยประการแรก เสนอให้มีการเปิดศูนย์จดทะเบียนแรงงานข้ามชาติแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service Centers หรือ OSSCs) เพื่ออำนวยความสะดวกให้นายจ้างและแรงงานไม่ต้องเดินทางไปดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ในหลายหน่วยงาน ช่วยลดภาระเรื่องการเดินทางของทั้งนายจ้างและแรงงานในการเข้าสู่กระบวนการขอรับใบอนุญาต ในเรื่องค่าใช้จ่ายและเวลา และยังจะช่วยลดขั้นตอนโดยนายจ้างและแรงงานจะสามารถดำเนินการยื่นคำร้อง ตรวจสุขภาพ ลงตราวีซ่า และรับใบอนุญาตทำงาน พร้อมกับบัตรสีชมพู ได้ในจุดเดียว และดีที่สุดคือภายในวันเดียว</p>
<p>2) ลดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการต่อใบอนุญาตการเปิดศูนย์ OSSCs นายจ้างและแรงงานจะสามารถลดค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางได้ทันที หากการดำเนินการทั้งหมดสามารถผ่านศูนย์ได้ที่เดียว และใช้เวลาเพียง 1 วัน โดย อัตราค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนโดยสมบูรณ์ ควรสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเรียกเก็บเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนแรงงานหนึ่งคน สำหรับการทำงาน 2 ปี หากไม่มีประกันสังคม จะอยู่ที่ 9,480 บาท โดยประมาณ หรือ 6,380 บาท เมื่อหักค่าประกันสุขภาพออกไป ในกรณีที่แรงงานเข้าประกันสังคม ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการต่อเอกสารเดินทางของแรงงาน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่านายหน้า ในกรณีที่ทั้งนายจ้างและแรงงานไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนอย่างครบถ้วนได้ด้วยตนเอง เมื่อเปรียบเทียบกับฐานรายได้ค่าจ้างขั้นต่ำของแรงงานแล้ว จึงไม่จูงใจให้แรงงานเข้าสู่ระบบ รัฐบาลควรมีแนวคิดปรับลดค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง</p>
<p>ทั้งนี้แรงงานข้ามชาติ ยังมีข้อจำกัด เรื่องค่าวีซ่าเป็นเงื่อนไขไม่ให้แรงงานปรับเปลี่ยนสถานะเข้าเมืองให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยง่าย การใช้บริการคนกลาง หรือบริษัทในการช่วยดำเนินการอาจยังเป็นทางเลือกที่มีความสำคัญ ดังนั้น จึงจำเป็นที่รัฐควรจะกำหนดเพดานการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการบริการ ในปัจจุบันการจดทะเบียนแรงงาน ไม่มีการกำกับดูแลการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม การจดทะเบียนแรงงานจึงควรได้รับการกำกับดูแลโดยพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 เพื่อสร้างความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย</p>
<p>และ 3) ลดขั้นตอนหรือเงื่อนไขให้แรงงานข้ามชาติยังสามารถคงสถานะเข้าเมืองและมีใบอนุญาตทำงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระบุให้แรงงานต้องรายงานตัวทุก ๆ 90 วัน หากมองว่าการได้มาซึ่งใบอนุญาตทำงานของแรงงานข้ามชาติเป็นเรื่องยุ่งยาก การคงสถานะพำนักและทำงานในประเทศได้อย่างถูกกฎหมายนั้นเป็นเรื่องที่ยากพอๆ กัน ทั้งนายจ้างและแรงงานต่างมีหน้าที่แจ้งเข้าแจ้งออกการทำงานต่อกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และในระหว่างที่แรงงานอาศัยอยู่ในประเทศไทย ต้องแจ้งที่พักอาศัย และคอยรายงานตัวต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทุกๆ 90 วัน โดยผู้ให้ที่พักต่อคนต่างชาติก็มีหน้าที่ต้องแจ้งการให้ที่พักด้วย</p>
<p>นายเอกสิทธิ์ ยังระบุว่า การบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากนี้ควรใช้กรอบการพิจารณาใหม่ ให้เกิดการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมตามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เช่นเดียวกับแรงงานประเภทอื่นๆ หรือจากชาติอื่นๆ โดยอาจเริ่มจากการผ่อนปรนเงื่อนไขการรายงานตัว 90 วัน ซึ่งได้เห็นแล้วว่ามีการผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวกับผู้ถือวีซ่าประเภท smart visa ที่ให้รายงานตัวเพียงปีละหนึ่งครั้ง ในเมื่อแรงงานจดทะเบียนภายในประเทศมีนายจ้างและมีงานทำเป็นหลักแหล่ง การบริหารคนกลุ่มนี้ควรสอดคล้องกับความเป็นจริงและไม่นำมิติความมั่นคงของรัฐมาบังคับใช้อย่างเข้มงวดหรือเทียบเท่าการเข้าเมืองประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อมีมาตรการอื่นๆ ที่จะสามารถระบุหลักแหล่งของแรงงานได้ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งที่พักอาศัยใหม่ และการแจ้งเข้าทำงาน</p>
<p>นอกจากนี้ ประเทศไทยยังจำเป็นต้องมองภาคเศรษฐกิจ และแนวโน้มกำลังแรงงานในระยะยาว อย่างที่ทราบกันดีกว่า ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว และในปีนี้เอง ประเทศไทยมีกลุ่มประชากรวัยเกษียณ (60-64 ปี) เป็นจำนวนมากกว่าประชากรในวัยทำงานช่วงต้น (20-24 ปี)</p>
<p>ทั้งนี้ หากรัฐดำเนินการทั้ง 3 ข้อ ข้างต้นนี้ จะเป็นการสร้างมิติใหม่ของการอำนวยความสะดวกที่เอาความต้องการและประโยชน์ของผู้คนเป็นที่ตั้ง โดยก้าวข้ามการเลือกปฏิบัติอันมีเหตุมาจากสัญชาติ เชื้อชาติ หรือสถานะบุคคล โจทย์ของความมั่นคงของรัฐจะกลายเป็นการบริการและคุ้มครองประชาชน เพื่อสร้างความมั่นคงของมนุษย์ไปพร้อมๆ กับรัฐบาลที่มั่นคง</p>
<p>ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์, 24/8/2566</p>
<p><strong>CPALL ยันโครงการสะสมหุ้นพนักงาน ไม่ได้เอื้อให้ผู้บริหารแทรกแซง</strong></p>
<p>นายสุพจน์ ชิตเกษรพงศ์ เลขานุการบริษัท บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติโครงการสะสมหุ้นสำหรับพนักงาน (Employee Joint Investment Program-EJIP) ครั้งที่ 4 และบริษัทได้เปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566</p>
<p>คณะกรรมการของบริษัทได้มีหนังสือรับรองต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2566 โดยรับรองว่าโครงการ EJIP ของบริษัทไม่มีลักษณะที่เอื้อให้กรรมการหรือผู้บริหารสามารถแทรกแซงการตัดสินใจในการลงทุนได้</p>
<p>และเป็นการลงทุนสะสมซื้อหุ้นของบริษัทเป็นรายงวดตามสมัครใจของพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย ด้วยหลักการเฉลี่ยต้นทุน โดยบริษัทและบริษัทย่อยจะหักเงินเดือนพนักงานที่มีสิทธิและสมัครใจเข้าร่วมโครงการในอัตราร้อยละ 5 ของเงินเดือนในแต่ละเดือนจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ</p>
<p>และบริษัทและบริษัทย่อยที่พนักงานสังกัดจะจ่ายสมทบเพิ่มในอัตราร้อยละ 80 ของเงินที่หักจากพนักงานทุกเดือน โดยบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดำเนินโครงการจะนำเงินสะสมของพนักงานรวมกับเงินสมทบของบริษัทและบริษัทย่อยไปซื้อหุ้น CPALL ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในวันที่กำหนดของทุกเดือน</p>
<p>ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ, 23/8/2566</p>
<p><strong>ธุรกิจยานยนต์พบ รมว.แรงงาน ยอดส่งออกพุ่ง จ่ายโบนัสพนักงาน 9 เท่า</strong></p>
<p>นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายอำพล หอมปลื้ม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เด็นโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด และสหภาพแรงงานเด็นโซ่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ในโอกาสเข้าพบเพื่อเยี่ยมคาวระ และเรียนเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองครบรอบ 45 ปี แห่งการก่อตั้งสหภาพเด็นโซ่ ประเทศไทย</p>
<p>และหารือเรื่องการดำเนินกิจกรรมของสถาบันพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ (AHRDA) พร้อมมอบดอกไม้แสดงความขอบคุณรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่มีมาตรการช่วยเหลือพี่น้องผู้ใช้แรงงานจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากการดำเนินโครงการแฟคตอรี่ แซนด์บ็อกซ์</p>
<p>จนทำให้ธุรกิจส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์เกิดการจ้างงานต่อเนื่อง ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยมี นายมานิตย์ พรหมการีย์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน</p>
<p>นายสุชาติกล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงปี 2564 ส่งผลให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งเป็นรายได้สําคัญของประเทศได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง แต่ขณะเดียวกัน ธุรกิจภาคส่งออกที่มีภาคแรงงานกว่า 2 ล้านคน ใน 4 สาขา กลับเติบโต ได้แก่ อาหาร เครื่องมือแพทย์ ยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์</p>
<p>ซึ่งเป็นผลพวงจากการดำเนินการโครงการแฟคตอรี่ แซนด์บ็อกซ์ (Factory Sandbox) ของกระทรวงแรงงานตามนโยบายรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงแรงงานบูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม</p>
<p>ดำเนินการโครงการดังกล่าวด้วยหลักการเศรษฐศาสตร์คู่กับสาธารณสุข ทั้งการเยียวยา การให้ความช่วยเหลือ การฉีดวัคซีน ตรวจคัดกรองโควิด-19 ทำให้ธุรกิจส่งออกเติบโต ในรอบ 11 ปี ช่วยเหลือสถานประกอบการจนทำให้สามารถรักษาการจ้างงาน และบางบริษัทสามารถจ่ายโบนัสได้ถึง 9 เท่า</p>
<p>นายอำพล หอมปลื้ม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท เด็นโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ได้มาเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อขอบคุณไปยังรัฐบาล ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไว้ให้ประชาชนโดยเฉพาะลูกหลานที่จะเติบโตในอนาคต รวมทั้งทำให้นักลงทุนได้เข้ามาลงทุนในบ้านเราเพิ่ม</p>
<p>“ผมอยากสนับสนุนให้เกิดการจ้างงาน รวมถึงวันนี้ผมขอขอบคุณท่านรัฐมนตรี สุชาติ ชมกลิ่น ที่ช่วยเหลือภาคเอกชนจากผลกระทบโควิด-19 จากผลพวงของโครงการแฟคตอรี่ แซนด์บ็อกซ์ ทำให้วันนี้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เพราะช่วงโควิดนั้นต้องยอมรับว่าบริษัทแต่ละแห่งได้รับผลกระทบตาม ๆ กัน แต่ในขณะเดียวกันเราเป็นสถานประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เมื่อรัฐบาลออกมาตรการมาดูแลพนักงาน โรงงานก็ไม่หยุดการผลิต สามารถผลิตสินค้าและส่งออกได้ต่อเนื่อง</p>
<p>ทำให้ในปี 2566 มีรายได้จากการประกอบการรวมกว่า 74,000 ล้านบาท และที่สำคัญบริษัทได้จ่ายโบนัสพนักงานสูงถึง 8.4-9.5 เท่า เงินเดือนขึ้นสูงถึง 5.2 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ปากท้องของพี่น้องแรงงานภาคยานยนต์ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงจากความเข้มแข็งที่เกิดจากความร่วมมือจากภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงแรงงานที่สร้างหลักประกันให้พี่น้องแรงงานมีรายได้ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”</p>
<p>ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ, 23/8/2566</p>
<p><strong>จนท.แรงงานลำปาง รุดดูแลสิทธิประโยชน์ลูกจ้างเฟอร์นิเจอร์ ถูกเลิกจ้างลอตแรก 103 คน</strong></p>
<p>22 ส.ค. 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนางสุวรา พงศ์ปัญญาเนตร แรงงานจังหวัดลำปาง ว่า บริษัท ถาวร ลำปาง จำกัด ซึ่งประกอบกิจการและผลิตส่งออกเครื่องเรือนเครื่องใช้จากไม้ที่จังหวัดลำปาง ซึ่งมีลูกจ้างไทยทั้งหมด 189 คน แบ่งเป็นชาย 62 คน หญิง 127 คน แต่เนื่องจากประสบปัญหาขาดสภาพคล่องและขาดทุนสะสม บริษัทฯ จึงได้เลิกจ้างลูกจ้างชุดแรก จำนวน 103 คน มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. 2566 เป็นต้นไป และมีแผนเลิกจ้างเดือน ธ.ค. 2566 จำนวน 86 คน ตนจึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดลำปาง ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือตามภารกิจ เพื่อให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์พึงได้ตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน</p>
<p>นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เบื้องต้น สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำปาง รับคำร้องทุกข์ของลูกจ้าง จำนวน 103 คน เพื่อติดตามสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อาทิ ค่าจ้างค้างจ่ายตั้งแต่วันที่ 1-18 ส.ค. 2566 และค่าชดเชยการทำงานรวมเป็นเงินประมาณ 8,000,000 บาท เป็นต้น สำนักงานประกันสังคมจังหวัดลำปาง ดำเนินการให้คำปรึกษาสิทธิประโยชน์ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กรณีว่างงาน การเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 เพื่อรักษาสิทธิการประกันสังคม การชี้แจงขั้นตอนการลงทะเบียนว่างงานโดยมีผู้ประกันตนขึ้นทะเบียนว่างงาน 72 คน ขอรับเงินบำเหน็จชราภาพ 20 คน ในจำนวนนี้เป็นบำนาญ 19 คน และบำเหน็จ 1 คน สมัครมาตรา 39 จำนวน 3 คน ขณะที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง และศูนย์บริหารข้อมูลตลาดแรงงานภาคเหนือ นำตำแหน่งงานว่างมากกว่า 500 อัตรา มารองรับ และสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 10 ลำปาง ก็ได้แนะนำแนวทางอาชีพอิสระ มีผู้สนใจสมัครงานเบื้องต้น 4 คน</p>
<p>อย่างไรก็ตาม ทราบว่า นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ลงพื้นที่ติดตามการให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดลำปาง และให้กำลังใจแก่ลูกจ้างในครั้งนี้ด้วย</p>
<p>ที่มา: เดลินิวส์, 22/8/2566</p>
<p><strong>“กระทรวงแรงงาน” เปิดอบรมฟรี “สร้างอาชีพ เสริมรายได้ให้ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก แรงงานไทย” ถึง 31 ส.ค.นี้</strong></p>
<p>นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงฯได้จัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “สร้างอาชีพ เสริมรายได้ให้ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก แรงงานไทย”เพื่อพัฒนาทักษะให้แก่แรงงานและประชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ให้มีรายได้ต่อยอดนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบของกระทรวงแรงงาน ซึ่งเปิดรับสมัครผู้เข้าอบรมจนถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้</p>
<p>โดยจัดฝึกอบรมตามหลักสูตรที่เหมาะสมกับประชาชนในพื้นที่ 77 จังหวัด จำนวน 231 รุ่น ๆ ละ 110 คน รวมไม่น้อยกว่า 25,410 คน ระยะเวลาการฝึกอบรมหลักสูตรและรุ่นละ 12 ชั่วโมง (2 วัน) โดยแบ่งเป็นภาคทฤษฎี 6 ชั่วโมง และภาคปฏิบัติ 6 ชั่วโมง โดยกลุ่มเป้าหมายมีสิทธิเข้ารับการฝึกอบรมได้คนละ 1 รุ่น หรือ 1 หลักสูตร เท่านั้น</p>
<p>ซึ่งมีหลักสูตรดังนี้</p>
<p>(1.1) หลักสูตรการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น ประกอบด้วย 5 วิชา ดังนี้</p>
<p>(1.1.1) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นเพื่อก่อให้เกิดรายได้เพิ่ม</p>
<p>(1.1.2) การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ของสินค้าในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มยอดขายและรายได้</p>
<p>(1.1.3) การส่งเสริมการตลาดออนไลน์</p>
<p>(1.1.4) การพัฒนาทักษะการบริหารจัดการการเงิน</p>
<p>(1.1.5) ภาษีอากรเบื้องต้น และประโยชน์ของการเข้าร่วมโครงการภาครัฐ</p>
<p>(1.2) หลักสูตรการพัฒนาทักษะอาชีพงานบริการ ประกอบด้วย 5 วิชา ดังนี้</p>
<p>(1.2.1) การบริการอย่างไรให้ถูกใจลูกค้า</p>
<p>(1.2.2) การหาช่องทางทำเงินด้วยธุรกิจบริการ</p>
<p>(1.2.3) การเพิ่มรายได้ด้วยช่องทางการให้บริการบน Platform</p>
<p>(1.2.4) การพัฒนาทักษะการบริหารจัดการการเงิน</p>
<p>(1.2.5) ภาษีอากรเบื้องต้น และประโยชน์ของการเข้าร่วมโครงการภาครัฐ</p>
<p>ทั้งนี้คุณสมบัติผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมมีสัญชาติไทย ,อายุไม่น้อยกว่า 15 ปีเป็นกลุ่มแรงงานนอกระบบ และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน มีภูมิลำเนาหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่จัดฝึกอบรม และไม่เป็นนักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ หรือ บุคลากรของภาครัฐ หรือ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33</p>
<p>โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 สิงหาคมนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมอบรมสามารถสแกน QR Code ตามที่ปรากฎในภาพ</p>
<p>ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์, 20/8/2566</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105630
 
5916  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - นายกฯ “เศรษฐา” ผุดไอเดีย ครม.สัญจรคณะย่อย เน้นทำงานคล่องตัว เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 12:38:04
นายกฯ “เศรษฐา” ผุดไอเดีย ครม.สัญจรคณะย่อย เน้นทำงานคล่องตัว
         


นายกฯ “เศรษฐา” ผุดไอเดีย ครม.สัญจรคณะย่อย เน้นทำงานคล่องตัว" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/8994930/
         
5917  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "หมออ๋อง" แบกเป้ขึ้นรถไฟกลับ "พิดโลก" ทำหน้าที่ สส. คนหลายจังหวัดแย่งกันภูม เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 12:26:55
"หมออ๋อง" แบกเป้ขึ้นรถไฟกลับ "พิดโลก" ทำหน้าที่ สส. คนหลายจังหวัดแย่งกันภูมิใจ
         


&quot;หมออ๋อง&quot; แบกเป้ขึ้นรถไฟกลับ &quot;พิดโลก&quot; ทำหน้าที่ สส. คนหลายจังหวัดแย่งกันภูมิใจ" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;เซลฟี่ก็มา! "หมออ๋อง" แบกเป้ขึ้นรถไฟกลับ "พิดโลก" ทำหน้าที่ สส. ชาวเน็ตคอมเมนต์แย่งกันยกเป็น "ความภาคภูมิใจของจังหวัด"
         

https://www.sanook.com/news/8994926/
         
5918  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ศาลอาญาทุจริตฯ นัดสืบพยานจำเลยคดีอุ้มฆ่าบิลลี่ 28,30-31 ส.ค. 2566 เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 11:27:21
ศาลอาญาทุจริตฯ นัดสืบพยานจำเลยคดีอุ้มฆ่าบิลลี่ 28,30-31 ส.ค. 2566
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-26 11:00</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>มูลนิธิมูลนิธิผสานวัฒนธรรมเผยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดสืบพยานจำเลยทั้ง 4 ปาก คดีอุ้มฆ่าบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ  28,30-31 ส.ค. 2566  </p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52581950312_b47543b6ce_o_d.jpg" /></p>
<p>26 ส.ค. 2566 มูลนิธิมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เชิญชวนเข้าฟังการสืบพยานฝ่ายจำเลย ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวก 4 ปาก และพยานที่ฝ่าจำเลยอ้างเพิ่มเติมอีก 3 ปาก รวมทั้งสิ้น 7 ปาก วันที่ 28, 30-31 ส.ค. 2566 เวลา 09.00 น. ณ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ อท.166/2565 ซึ่งเป็นคดีที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกรวม 4 คน ตกเป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่น ๆ </p>
<p>โดยคดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2557 นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง “บางกลอย-ใจแผ่นดิน” ได้ถูกจับกุมและถูกเอาตัวไปโดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในขณะนั้น กับพวก หลังจากนั้นไม่มีใครทราบชะตากรรมของบิลลี่อีกเลย จนกระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และอัยการ ได้ร่วมกันติดตามสอบสวนคดีดังกล่าวจนได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมอันควรเชื่อได้ว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ ที่จับกุมบิลลี่ไปนั้น ได้ร่วมกันกระทำผิดต่อบิลลี่ ในคดีร่วมกันฆาตกรรมอำพรางโดยไตร่ตรองไว้ก่อน</p>
<p>การนัดสืบคดีในครั้งนี้จะเป็นการนัดสืบคดี 3 ครั้งสุดท้าย ในวันที่ 28, 30-31 ส.ค. 2566  นี้ ณ ศาลอาญาคดีทุจริตและมิชอบกลาง จะมีการสืบพยานฝ่ายจำเลยทั้งสิ้น 7 ปาก โดยในวันดังกล่าวมีนางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ ครอบครัวของบิลลี่ และผู้สังเกตการณ์จากองค์กรระหว่างประเทศเข้าฟังการพิจารณาในครั้งนี้อีกด้วย </p>
<p>มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอเชิญชวนสื่อมวลชนและผู้สนใจร่วมติดตามและเข้าร่วมสังเกตการณ์การสืบพยานนัดถัดไปตามวันและเวลาข้างต้น เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรมจะอำนวยความยุติธรรมให้แก่ครอบครัวของนายบิลลี่ และชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย-ใจแผ่นดินอย่างเต็มที่และเป็นธรรม นำเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด ทั้งยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดได้อย่างเป็นจริง</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105628
 
5919  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - โผเริ่มนิ่ง "ภูมิธรรม" นั่งรองฯ ควบพาณิชย์ "อนุทิน" ควบมหาดไทย "วราวุธ-ธรรม เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 09:56:48
โผเริ่มนิ่ง "ภูมิธรรม" นั่งรองฯ ควบพาณิชย์ "อนุทิน" ควบมหาดไทย "วราวุธ-ธรรมนัส" มีกระทรวง
         


โผเริ่มนิ่ง &quot;ภูมิธรรม&quot; นั่งรองฯ ควบพาณิชย์ &quot;อนุทิน&quot; ควบมหาดไทย &quot;วราวุธ-ธรรมนัส&quot; มีกระทรวง" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;โผ ครม.เริ่มนิ่ง "ภูมิธรรม" นั่งรองนายกฯ คนที่ 1 ควบพาณิชย์ "อนุทิน" รองฯ ควบมหาดไทย "วราวุธ" ย้ายไปพัฒนาสังคมฯ "ธรรมนัส" นั่งเกษตรฯ
         

https://www.sanook.com/news/8994806/
         
5920  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ยืนยันแล้ว! เน็ตไอดอลสาวถูกลักพาตัวจริง รู้พิกัดล่าสุดอยู่ประเทศไหน แต่ยังไม่ร เมื่อ: 26 สิงหาคม 2566 07:26:24
ยืนยันแล้ว! เน็ตไอดอลสาวถูกลักพาตัวจริง รู้พิกัดล่าสุดอยู่ประเทศไหน แต่ยังไม่รู้ชะตากรรม
         


ยืนยันแล้ว! เน็ตไอดอลสาวถูกลักพาตัวจริง รู้พิกัดล่าสุดอยู่ประเทศไหน แต่ยังไม่รู้ชะตากรรม" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/8994766/
         
หน้า:  1 ... 294 295 [296] 297 298 ... 1121
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 3.079 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 24 กันยายน 2566 20:45:36