จับตา 'อิสราเอล' อาจส่งทหารบุกฉนวนกาซา ความเคลื่อนไหว 'เฮซบอลเลาะห์' หลังจากนี้
<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-10-08 23:51</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: เบนจามิน เนทันยาฮู (ที่มา:
http://en.kremlin.ru/events/president/news/60221]รัฐบาลเครมลิ
PPTV36" เผยแพร่รายการ "รอบโลก Daily" ประจำวันที่ 8 ต.ค. 2566 ซึ่งเป็นรายการข่าวต่างประเทศ โดยมี กรุณา บัวคำศรี ผู้สื่อข่าวอาวุโส เป็นผู้รายงานข่าว เมื่อเวลา 17.30 น. รายงานสถานการณ์เหตุความรุนแรงในประเทศอิสราเอล หลังจากเมื่อ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มองค์กรการเมือง "ฮามาส" ได้เปิดปฏิบัติยิงขีปนาวุธจากฉนวนกาซา จำนวนกว่า 5,000 ลูกเข้าไปในกรุงเทลอาวีฟ ก่อนส่งนักรบเข้าไปในทางตอนใต้ของประเทศอิสราเอล และยึดพื้นที่ชุมชน และหมู่บ้านอีกหลายแห่ง </p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="314" scrolling="no" src="
https://www.facebook.com/plugins/video.php?height=314&href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FPPTVHD36%2Fvideos%2F191524473967480%2F&show_text=false&width=560&t=0" style="border:none;overflow:hidden" width="560"></iframe></p>
<p>นอกจากนี้ นักรบฮามาสได้จับกุมตัวประกันจำนวนมาก ซึ่งทางการไทยระบุว่า มีแรงงานไทยจำนวน 11 ราย ถูกจับตัวไปด้วย </p>
<p>กรุณา ระบุต่อว่า มีเรื่องที่ต้องจับตามองหลังจากนี้ 2 ประเด็นคือ 1. อิสราเอลจะเตรียมส่งกำลังภาคพื้นดินเข้าไปช่วยตัวประกันหรือไม่ เนื่องจากการโจมตีทางอากาศอย่างเดียวจะทำให้พวกเขาเข้าไม่ถึงและไม่สามารถช่วยเหลือตัวประกันได้ และ 2. ถ้าอิสราเอล มีการส่งกำลังเข้าไปในฉนวนกาซา บรรดาพันธมิตรอย่างเฮซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกองกำลังนักรบที่เข้มแข็งที่สุดในภูมิภาค จะทำอย่างไรต่อไป</p>
<p>หลังการโจมตีไม่กี่ชั่วโมง มูฮัมหมัด อัล-เดอิฟ ผู้บัญชาการปีกทหารของฮามาส ได้เผยแพร่เทปบันทึกเสียงระบุว่า ฮามาสอยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว ซึ่งเรียกปฏิบัติการนี้ว่า "อัลอักซอสตอร์ม" (Al-Aqsa Storm) เพื่อเอาคืนที่ชาวปาเลสไตน์ถูกกดขี่โดยชาวยิวหลายทศวรรษ ไม่ว่าจะเป็นการยึดดินแดน การกดขี่ประชาชนในฉนวนกาซา และการบุกรุกดินแดนของมัสยิดอัลอักซอ ในนครเยรูซาเลม </p>
<p>ขณะที่เบนจามิน เนธันยาฮู นายกรัฐมนตรีแห่งอิสราเอล ประกาศระดมพลสำรอง พร้อมตอบโต้กลุ่มฮามาส และประกาศให้อิสราเอลเข้าสู่ภาวะสงครามโดยทันที และเนทันยาฮู กล่าวในวันนี้ด้วยว่า อาจส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในฉนวนกาซา เพื่อช่วยเหลือตัวประกัน และสู้กับฮามาส</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/7848/32643455017_78eb1f84b0_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">เบนจามิน เนธันยาฮู (ที่มา:
http://en.kremlin.ru/events/president/news/60221]รัฐบาลรัสเซี
"อัลจาซีรา" รายงานว่า เมื่อ 8 ต.ค. 2566 การโจมตีของฮามาส คร่าชีวิตประชาชน จำนวนอย่างน้อย 250 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตที่สูงที่สุดในรอบ 50 ปีของอิสราเอล และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มีประชาชนปาเลสไตน์ จำนวน 300 คน เสียชีวิตจากการตอบโต้จากอิสราเอล ยิงจรวดเข้าไปในฉนวนกาซา นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บอีกนับพันจากการโจมตีจากทั้ง 2 ฝ่าย </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">จับตาความเคลื่อนไหว 'เฮซบอลเลาะห์'</span></h2>
<p>รายการ '
รอบโลก Daily' รายงานว่า หลังจากเนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศตอบโต้ และเตรียมส่งกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในฉนวนกาซาแล้ว สิ่งที่ต้องจับตาดูคือพันธมิตรคนสำคัญของ ‘ฮามาส’ คือกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ซึ่งมีฐานบัญชาการอยู่ทางใต้ของเลบานอน และได้รับการสนับสนุนจากประเทศอิหร่าน ในการฝึกจรยุทธ์เสมอมา </p>
<p>ขณะที่เว็บไซต์
อัลจาซีรา รายงานวันนี้ (8 ต.ค.) ว่า หลังจากการโจมตีของฮามาส วันนี้ (8 ต.ค.) เฮซบอลเลาะห์ ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนการโจมตีของฮามาส และมีการยิงปืนใหญ่ (Mortar) เข้าไปในฟาร์ม 3 แห่งในพื้นที่ทางเหนืออิสราเอล ซึ่งอิสราเอลได้ตอบโต้โดยการยิงขีปนาวุธกลับไปทางตอนใต้ของเลบานอน ทำให้หลังจากนี้มีการจับตาดูว่า ‘อิสราเอล’ จะต้องรับศึก 2 ด้านหรือไม่ ทั้งเหนือและใต้พร้อมกัน</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53242499297_771652b058_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">(ซ้าย) ชีคฮัสซัน นัสรันเลาะห์ แกนนำ เฮซบอลเลาะห์ (ที่มา: </span>
<span style="color:#d35400;">Fars Media Corporation</span><span style="color:#d35400;">)</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ย้อนรอยเหตุการณ์ข้อพิพาท</span></h2>
<p>ข้อมูลจากกรุณา บัวคำศรี ระบุว่า สถานการณ์ข้อพิพาทระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1947 (พ.ศ. 2490) หรือ 2 ปี หลังยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 ลัทธิไซออนนิสต์ ได้ประกาศว่าจะกลับไปตั้งประเทศในดินแดนพันธะสัญญาหรือนครเยรูซาเลม และได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนของชาวอาหรับที่เรียกตนเองว่า "ปาเลสไตน์" </p>
<p>หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 องค์การสหประชาชาติ หรือ UN ได้เข้ามาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และให้แบ่งดินแดนของปาเลสไตน์ออกเป็น 2 ส่วน โดยให้อิสราเอล 1 ส่วน และ 1 ส่วนให้ปาเลสไตน์ เพื่อให้อิสราเอลได้ตั้งรัฐเป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ชาวปาเลสไตน์ไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากเขาอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้มาหลายทศวรรษแล้ว และมองว่าดินแดนเป็นของเขา</p>
<p>เมื่อปี 1947 อิสราเอล ได้ประกาศตั้งดินแดนโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านจากโลกอาหรับ และทำให้เกิดเป็นสงครามติดตามมาในปี 1948 หรือ พ.ศ. 2491 เพื่อปลดปล่อยดินแดนของปาเลสไตน์จากอิสราเอล อย่างไรก็ตาม โลกอาหรับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และต้องเซ็นสัญญาสงบศึกกับอิสราเอลในภายหลัง </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/51200014406_063e0afa47_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ภาพแผนที่รัฐยิวและรัฐอาหรับตามแผนแบ่งปาเลสไตน์ 1947 ของ UN (ซ้าย) และหลังสงครามปี 1948 (ขวา) ซึ่งในปัจจุบัน รัฐยิว (อิสราเอล) ยึดครองพื้นที่เขตเวสต์แบงก์ และทรานส์จอร์แดน หลังชนะสงคราม (ภาพจาก PASSIA)</span></p>
<p>ผลจากสงครามดังกล่าวทำให้ปาเลสไตน์เสียพื้นที่บางส่วนที่ UN แบ่งให้ หนึ่งในพื้นที่ดังกล่าวคือ "ฉนวนกาซา" ขนาด 360 ตร.กม. หรือถ้าเทียบกับสัดส่วนกับจังหวัดในไทยจะใกล้เคียงกับจังหวัดสมุทรปรากร</p>
<p>สำหรับพื้นที่ของฉนวนกาซา มีพรมแดนทางใต้ติดกับประเทศอียิปต์ และทางตะวันออกติดกับ อิสราเอล และด้านตะวันตกติดกับมหาสมุทรเมดิเตอเรเนียน</p>
<p>อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของการขยายดินแดนของอิสราเอล คือสงคราม 6 วัน เมื่อปี 1967 (พ.ศ. 2510) ซึ่งเหตุที่เรียกว่าสงคราม 6 วันเนื่องจากอิสราเอลสามารถเอาชนะหลายชาติในโลกอาหรับโดยใช้เวลาเพียง 6 วันเท่านั้น ผลจากสงครามทำให้อิสราเอล สามารถรุกคืบเอาฉนวนกาซา และเขตเวสต์แบงก์มาเป็นของตัวเอง หลังจากนั้น อิสราเอลได้ส่งคนเข้าไปตั้งถิ่นฐานในฉนวนกาซาเพิ่มมากขึ้น ทำให้ปาเลสไตน์ไม่พอใจอย่างมาก </p>
<p>ความไม่พอใจของปาเลสไตน์ นำมาสู่การตั้งองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ หรือ PLO โดยมีผู้นำคนสำคัญคือยัสเซอร์ อาราฟัต (เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2547) มีฐานปฏิบัติการอยู่ในฉนวนกาซา จุดมุ่งหมายสำคัญของกลุ่มการต่อสู้เพื่อแย่งชิงดินแดนปาเลสไตน์คืนจากอิสราเอล อย่างไรก็ตาม มีชาวปาเลสไตน์บางส่วนไม่พอใจท่าทีของกลุ่ม PLO ที่ประนีประนอมมากเกินไปและใช้วิธีการเจรจากับอิสราเอลมากขึ้นในช่วงหลัง</p>
<p>โดยเฉพาะเมื่อปี 1993 (พ.ศ. 2536) ผู้นำ PLO ทำสนธิสัญญาออสโล (Oslo) กับรัฐบาลอิสราเอล นำโดย ยิตซ์ฮัก ราบิน นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐฯ และเมื่อปี 1995 (พ.ศ. 2538) มีการเซ็นสัญญาครั้งที่ 2 ที่เมืองทาบา ประเทศอียิปต์ จุดมุ่งหมายสำคัญคือเพื่อบรรลุสันติภาพระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ และส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาคืออิสราเอลจะอนุญาตให้ปาเลสไตน์สามารถปกครองตนเองอย่างจำกัดในเขตฉนวนกาซา </p>
<p>เมื่อประชาชนชาวปาเลสไตน์ไม่พอใจในท่าทีของ PLO จึงได้เกิดการแยกตัวออกมาสนับสนุนกลุ่มหนึ่งที่ชื่อว่า ฮามาส ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเดียวกับ PLO แต่ว่ามีท่าทีแข็งกร้าวมากกว่า ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน แต่ PLO และฮามาส ก็แย่งชิงอำนาจทางการเมืองกันมาโดยตลอด โดยเมื่อปี 2006 หรือปี พ.ศ. 2549 ฮามาส ชนะเลือกตั้ง โดยได้ที่นั่งในสภาจำนวน 74 ที่นั่ง จาก 132 ที่นั่ง ส่งผลให้ ฮามาส กลายเป็นผู้ปกครองฮามาส แทนที่ของฟาตาร์ (ชื่อใหม่ขององค์การ PLO)</p>
<p>ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากลุ่มฮามาส องค์การทางการเมือง ได้โจมตีอิสราเอลอย่างต่อเนื่องทั้งครั้งเล็ก และใหญ่ ส่วนข้อพิพาทล่าสุดคือเมื่อปี 2566 ช่วงที่อิสราเอล ให้ตำรวจทำการบุกมัสยิด "อัล-อักซอ" </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เหตุการณ์มัสยิด "อัล-อักซอ"</span></h2>
<p>ข้อมูลจาก
PPTV36HD ระบุว่า พื้นที่มัสยิดอัล-อักซอ ตั้งอยู่ในเขตกรุงเก่านครเยรูซาเลม และตั้งอยู่ในจุดเดียวกับโดมทองแห่งศิลา มัสยิดแห่งนี้มีความสำคัญกับ 3 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาคริสต์ ศาสนายูดาห์ และศาสนาอิสลาม </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53243746499_47298cef14_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">โดมทองแห่งศิลา (Dome of Rock) (ที่มา:
wikicommon)</span></p>
<p>ศาสนาอิสลามเชื่อว่า มัสยิดอัล-อักซอ เป็นพื้นที่ที่ศาสดามูฮัมหมัด มาละหมาดก่อนขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์ ศาสนายูดาห์ เชื่อว่า ก่อนจะมีโดมทองแห่งศิลาและมัสยิดอัลอักซอ ตรงจุดนี้คือ Temple Mount ซึ่งเป็นที่สถิตของแผ่นหินที่พระเจ้าของชาวยิวทรงสร้างโลกขึ้นมาเป็นจุดแรก เป็นสถานที่ตั้งของพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ พระวิหารของชาวยิวถูกบาบิโลนทำลายไปก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นชาวยิวก็สร้างพระวิหารขึ้นมาใหม่ แต่ถูกทำลายโดยชาวโรมันในปี ค.ศ. 70 (พ.ศ. 603) จนกระทั่งในช่วงศตวรรษที่ 7 โดมทองแห่งศิลาก็ถูกสร้างขึ้นแทนที่ หลังชาวมุสลิมเข้ามาครอบครองเยรูซาเลม นอกจากนี้ สำหรับศาสนาคริสต์ บริเวณดังกล่าวยังเป็นสถานที่ประสูติของศาสดาของศาสนาคริสต์ "พระเยซูคริสต์เจ้า"</p>
<p>เหตุการณ์ข้อพิพาทล่าสุดเริ่มเมื่อปี 2564 เมื่อตำรวจอิสราเอล บุกเข้าไปไล่ประชาชนชาวปาเลสไตน์ที่กำลังทำพิธีทางศาสนาออกจากพื้นที่มัสยิดอัล-อักซอ ในเขตกรุงเก่าของเยรูซาเลม โดยใช้ระเบิดควัน ระเบิดแฟลช และแก๊สน้ำตา โดยตำรวจอ้างเรื่องควบคุมการแพร่ระบาดโคโรนาไวรัส 2019 </p>
<p>เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่ฮามาส และทำการตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธเข้าไปในอิสราเอล จำนวนกว่า 1,000 ลูก ขณะที่อิสราเอล ได้ตอบโต้ด้วยขีปนาวุธเช่นเดียวกันใส่เขตที่อยู่อาศัยของชาวปาเลสไตน์ ในย่านฉนวนกาซ่า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนประมาณ 200 คน จนสุดท้าย อียิปต์เข้ามาเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย และมีการเซ็นสัญญาตกลงหยุดยิง </p>
<p>กระทั่งเมื่อปี 2566 ตำรวจอิสราเอลได้บุกเข้าไปในมัสยิดอัล-อักซอ อีกครั้ง โดยมีประชาชนเล่าเหตุการณ์ว่าตำรวจโยนระเบิดแฟลช และยิงกระสุนยางเข้าไปในด้านในมัสยิดขณะที่ชาวปาเลสไตน์กำลังละหมาด หลังจากนั้น ก็เกิดความวุ่นวายและการปะทะกัน มีคนได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน </p>
<p>ตำรวจอิสราเอลได้ออกแถลงการณ์ว่าที่ต้องบุกเข้าไปเนื่องจากมีคนในมัสยิดพยายามก่อจลาจลด้วยการนำพลุไฟ กระบอง และก้อนหินเข้าไปในมัสยิด รวมถึงปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่และจุดพลุไฟข้างในมัสยิด เพื่อทำลายความสงบเรียบร้อยและถือเป็นการดูหมิ่นศาสนสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ </p>
<p>หลังเกิดเหตุการณ์ กลุ่มฮามาส ในฉนวนกาซายิงจรวด 9 ลูกเข้าใส่ฝั่งอิสราเอล เป้าหมายอยู่ที่โรงงานผลิตอาวุธ ขณะที่ฝั่งอิสราเอล ได้ตอบโต้โดยการยิงจรวดไปยังค่ายฝึกทหารและโรงงานผลิตอาวุธของกลุ่มฮามาส เช่นกัน</p>
<p>หลังจากแลกขีปนาวุธ ทางตำรวจอิสราเอลได้กลับเข้าไปบุกในมัสยิดอีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อควบคุมความสงบเรียบร้อย และจับกุมผู้ก่อเหตุจลาจลในมัสยิด</p>
<p>สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดก็คือกลุ่มฮามาส ประเคนจรวดเข้าไปในอิสราเอลจำนวน 5,000 พันกว่าลูก และส่งนักรบข้ามเขตความมั่นคงของอิสราเอลเข้าไป ตามที่รายงานข้างต้น หลังจากนี้ต้องจับตาดูว่าการสู้รบจะดำเนินอย่างไรต่อไป และกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ จะเคลื่อนไหวอย่างไร
</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/10/106280