NATO จะได้อะไรจากการเข้าเป็นสมาชิกของสวีเดน
<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-03-18 20:07</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>การรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ 2565 ทำให้สวีเดนและฟินแลนด์ตัดสินใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ (NATO) ในเดือนพฤษภาคมของปีเดียวกัน อย่างไรก็ตามบรรดาประเทศพันธมิตรได้ขยายระยะเวลาในการเชิญทั้งสองประเทศออกไปในที่ประชุมสุดยอดของนาโต้ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 </p>
<p>ฟินแลนด์ได้เข้าเป็นสมาชิกนาโต้ชาติที่ 31 อย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 ในขณะที่สวีเดนยังพบเจออุปสรรคจากตุรกีและฮังการี แม้ว่ารัฐบาลสวีเดนได้มีปรับแก้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายภายในประเทศตามคำเรียกร้องของตุรกี อย่างไรก็ตาม ตุรกีเรียกร้องประเด็นอื่นๆ เพิ่มเติมซึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับสวีเดน ไม่ว่าจะเป็นการท่ีรัฐบาลอังการาต้องการซื้อเครื่องบินรบ F-16 จากสหรัฐฯ และต้องการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป การอภิปรายในรัฐสภาตุรกีได้เริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 ในที่สุดหลังจากได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ประธานาธิบดีเรเจฟ ทายยิบ แอร์โดอัน ได้ให้สัตยาบันรับรองสวีเดนเป็นสมาชิกนาโต้</p>
<p>หลังจากการเจรจาต่อรองและความพยายามทางการทูตอย่างยาวนาน สวีเดนก็สามารถเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ในการเข้าร่วมนาโต้ได้ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ หลังจากฮังการีซึ่งเป็นชาติสุดท้ายได้ให้การรับรองสวีเดนเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ชะลอการให้สัตยาบัน โดยระบุว่าสวีเดนวิพากวิจารณ์ปัญหาประชาธิปไตยในฮังการี</p>
<p>ในวันที่ 7 มีนาคม สวีเดนได้เข้ามาเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของนาโต้ นั่นหมายความว่าสวีเดนสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆในฐานะพันธมิตรได้อย่างเต็มที่ แทนที่จะเป็นเพียงแค่ผู้สังเกตการณ์การประชุม กระบวนการนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญก่อนการประชุมสุดยอดครบรอบ 75 ปี ของนาโต้ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมในปีนี้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ภูมิภาคนอร์ดิกรวมเป็นหนึ่งในนาโต้</span></h2>
<p>เมื่อภูมิภาคนอร์ดิกทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของนาโต้แล้ว ยุโรปจะสามารถประกันความมั่นคงของตนเองได้มากขึ้น ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็งในด้านการป้องกันประเทศให้สหรัฐอเมริกาและแคนาดา นอกจากนี้การละลายของธารน้ำแข็งทางตอนเหนือนั้นถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้ทั้งมิตรและศัตรู การขยายตัวของนาโต้จะเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาความมั่นคงในบริเวณนี้ไว้ได้ การเข้ามาของสวีเดนและฟินแลนด์จะช่วยเสริมสร้างการป้องกันในภูมิภาคอาร์กติก ซึ่งก่อนหน้านั้นมีเพียงแค่นอร์เวย์และไอซ์แลนด์ที่เผชิญกับพรมแดนอันทอดยาวของรัสเซีย</p>
<p>การที่ยุโรปรวมตัวกันในนาโต้ยังส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังรัสเซียว่าความพยายามของรัสเซียในการทำให้พันธมิตรอ่อนแอลงนั้นล้มเหลว ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนี้จะเสริมสร้างขีดความสามารถของนาโต้ในการเผชิญหน้ากับเครมลิน และรับมือกับความท้าทายระดับทวีป เช่น การก่อการร้าย ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การคอรัปชั่น และปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นภัยต่อความมั่นคง</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">สวีเดนในฐานะสมาชิกนาโต้อย่างสมบูรณ์</span></h2>
<p>สวีเดนเป็นดินแดนที่เชื่อมพื้นที่แอตแลนติก อาร์กติก และบอลติก เข้าด้วยกัน จึงมีความสำคัญอย่างมากในแง่ยุทธศาสตร์และการเคลื่อนกำลังพลในปฏิบัติการร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศแถบนอร์ดิกและบริเวณอาร์กติก รวมถึงประเทศแถบบอลติกและโปแลนด์อีกด้วย</p>
<p>สวีเดนวางแผนที่จะพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร หลังจากใช้งบประมาณด้านกลาโหมอยู่ที่ประมาณ 1% ของGDPมาเป็นเวลาหลายปี รัฐบาลพรรคขวากลางได้เพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งอาจเปิดทางให้สวีเดนสามารถบรรลุเป้าหมายของนาโต้ในการเพิ่มงบประมาณกลาโหมเป็น 2% ของGDP ภายในปีนี้</p>
<p>สวีเดนยังมีความพยายามในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในแถบนอร์ดิก และเชื่อมสัมพันธ์พหุพาคี โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรซึ่งสวีเดนได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางทหารขั้นสูงด้วย </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ข้อได้เปรียบใหม่ในทางยุทธศาสตร์ของพันธมิตร</span></h2>
<p>การเป็นสมาชิกนาโต้ของสวีเดนนำมาซึ่งข้อได้เปรียบหลายประการ ประการสำคัญคือความสามารถในด้านการป้องกัน เพิ่มอิทธิพลทางยุทธศาสตร์เหนือทะเลบอลติก สำหรับสวีเดนแล้ว เกาะกอตแลนด์เป็นเกาะยุทธศาสตร์ที่สวีเดนให้ความสำคัญมากที่สุด หลังการเข้าร่วมนาโต้ เกาะแห่งนี้จะเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ที่ช่วยให้นาโต้สามารถควบคุมภูมิภาคนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้บริบทความขัดแย้งกับรัสเซีย</p>
<p>สวีเดนยังมีกองทัพเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสามในแถบทะเลบอลติก รองจากรัสเซียและเยอรมนี อีกทั้งยังมีกองทัพอากาศที่จะมีส่วนช่วยในการรักษาความปลอดภัยในการเคลื่อนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ข้ามทะเลบอลติก</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวีเดน</span></h2>
<p>สวีเดนมีกองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบกเคลื่อนที่ ซึ่งออกแบบมาเฉพาะในด้านความเร็วและความคล่องตัวในปฏิบัติการพื้นที่บริเวณชายฝั่ง กองกำลังดังกล่าวสามารถเสริมสร้างประสิทธิภาพอย่างมากให้กับปฏิบัติการในสภาพหมู่เกาะที่ซับซ้อน เช่น ชายฝั่งของประเทศเอสโตเนีย </p>
<p>สวีเดนและฟินแลนด์ยังมีสิ่งที่ประเทศสมาชิกนาโต้ในแถบทะเลบอลติกไม่มี นั่นคือ เรือรบเคลื่อนที่เร็ว เรือสะเทินน้ำสะเทินบก และเรือล่าใกล้ชายฝั่งที่ได้รับการฝึกฝนให้ป้องกันตนเองจากกองกำลังของศัตรูได้ ทั้งยังสามารถโจมตีได้อีกด้วย นอกเหนือจากนี้แล้ว ในบรรดาสมาชิกนาโต้มีเพียงแค่สหรัฐฯและสหราชอาณาจักรเท่านั้นที่มีกองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบกที่เข้มแข็ง</p>
<p>ยิ่งไปกว่านั้น สวีเดนถือว่ามีความเชี่ยวชาญในการล่าเรือดำน้ำของศัตรู เนื่องจากมีเรือดำน้ำเครื่องยนต์ดีเซลที่ออกแบบมาให้สามารถปฏิบัติการในน่านน้ำตื้นและน่านน้ำที่ท้าทาย</p>
<p>ในแง่ของอากาศยานรบ กองทัพอากาศของสวีเดนมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนอร์ดิก อากาศยานเหล่านี้มีอาวุธที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธต่อต้านเรือ และจรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศ ที่จะช่วยสนับสนุนนาโต้ยามต้องเผชิญหน้ากับรัสเซีย</p>
<p>อย่างไรก็ตาม แม้กองทัพสวีเดนจะมีความแข็งแกร่งและทันสมัย แต่ก็ยังมีทรัพยากรที่น้อยเกินไปและยังต้องการการพัฒนาระบบให้ดีมากยิ่งขึ้น กองทัพเรือจะต้องเสริมกำลังให้แข็งแกร่งมากพอเพื่อให้สามารถป้องกันสวีเดนและทะเลบอลติกจากกองทัพรัสเซียที่มีขนาดใหญ่และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ นอกจากนั้น กองทัพภาคพื้นดินของสวีเดนยังมีจำนวนน้อย และจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการผลิตและหมุนเวียนกองกำลังถาวรให้กับนาโต้ ดังนั้น การมีส่วนร่วมของสวีเดนในด้านกลาโหมในส่วนนี้จึงมีไม่มากนัก</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">บทบาททางภูมิยุทธศาสตร์ของสวีเดนในนาโต้</span></h2>
<p>ภารกิจหลักของสวีเดนและประเทศนอร์ดิกอื่น ๆ ในฐานะสมาชิกนาโต้คือการสนับสนุนการป้องกันร่วมกับพันธมิตรในภูมิภาคยุโรปเหนือ ซึ่งรวมถึงประเทศในแถบบอลติกและโปแลนด์</p>
<p>จากรายงานของคณะกรรมาธิการป้องกันประเทศ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 สวีเดนมีสถานะเป็นฐานปฏิบัติการที่ให้การสนับสนุนกองกำลังทางบก ทะเล และทางอากาศของประเทศพันธมิตร รวมทั้งเป็นพื้นที่สำหรับการจัดหาและขนส่งของนาโต้ สวีเดนไม่ได้มองตนเองว่าเป็นหน้าด่านในสงครามแต่มองตนเองเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่จะรักษาเส้นทางสัญจรเพื่อป้องกันพื้นที่ทางตอนเหนือของนอร์เวย์ ฟินแลนด์ และประเทศแถบบอลติก และเนื่องด้วยความตกลงสนับสนุนชาติเจ้าภาพในยามสงครามระหว่างสวีเดนและนาโต้ กองกำลังพันธมิตรสามารถใช้ประโยชน์จากอาณาเขตของสวีเดนได้ ไม่ว่าจะเป็นทางน่านฟ้า และน่านน้ำได้ แม้ว่าอาจจะต้องขอนุญาตสวีเดนก่อนทุกครั้ง</p>
<p>ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สวีเดนได้พยายามพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในแถบนอร์ดิกมาตลอด โดยมีฟินแลนด์เป็นหุ้นส่วนสำคัญ ดังนั้นสวีเดนจึงมองตนเองว่าเป็นส่วนสำคัญหลักในกลุ่มประเทศนอร์ดิกที่เป็นพันธมิตรนาโต้</p>
<p>ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 ทันทีที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ สวีเดน นอร์เวย์ ฟินแลนด์ และเดนมาร์กได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อบูรณาการกองกำลังอากาศของทั้ง 4 ประเทศ เพื่อที่จะปฏิบัติการร่วมกันภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ประเทศที่ลงนามได้ให้คำมั่นถึงการบูรณาการโครงสร้างการบังคับบัญชา การวางแผนปฏิบัติการ การเฝ้าระวังน่านฟ้าร่วมกัน การฝึกและการซ้อมรบ และแม้ว่าความเป็นสมาชิกภาพของสวีเดนในนาโต้จะทำให้สวีเดนเข้าร่วมในกลไกต่าง ๆ ของนาโต้ได้อย่างเต็มที่ แต่ความร่วมมือระหว่างประเทศในแถบนอร์ดิกที่มีมาอย่างยาวนานจะยังคงดำเนินต่อไป และจะเป็นส่วนเสริมที่สำคัญต่อนาโต้</p>
<div class="ืnote-box">
<div class="note-box">
<h2><span style="color:#2980b9;">สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ </span></h2>
<p><strong>ในระยะสั้น : รัสเซียเพิ่มความแข็งกร้าวต่อประเทศนอร์ดิก</strong></p>
<p>รัสเซียจะแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้นต่อประเทศนอร์ดิก โดยเฉพาะสวีเดน และยังได้ข่มขู่ว่าจะดำเนินการทั้งทางการเมืองและทางทหารต่อสวีเดน มาเรีย ซาคาโรวา ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสื่อของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้แสดงความเห็นว่า “การละทิ้งนโยบายที่ยาวนานในการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและเข้าร่วมกลุ่มที่ต่อต้านรัสเซียอย่างเปิดเผยนั้นไม่อาจทำให้ชาวสวีเดนทั่วไปรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย”</p>
<p>แม้ว่าพันธมิตรวางแผนที่จะสนับสนุนสวีเดนด้วยกองกำลังและทรัพยากรทางทหารเพิ่มเติม ในกรณีเกิดความขัดแย้งขึ้นใกล้พรมแดนทางตอนเหนือของนาโต้ แต่ก็อาจจะเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามโดรนซึ่งทางรัสเซียได้ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าจะจัดการกับสวีเดนด้วยระบบโดรนและอากาศยานไร้คนขับหากสวีเดนเข้าร่วมพันธมิตร</p>
<p>นอกจากนี้ รัสเซียยังได้ติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ไว้ที่คาลินินกราด ซึ่งอยู่ห่างจากสวีเดนเพียง 300 กิโลเมตร นักวิจัยหลายรายเชื่อว่าหลังจากได้รับการปรับแต่งแล้ว ขีปนาวุธนี้จะสามารถไปได้ไกลถึง 2,000 กิโลเมตร ฉะนั้นแล้วจากตำแหน่งที่ตั้ง ขีปนาวุธดังกล่าวสามารถครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของยุโรปได้</p>
<p><strong>ในระยะยาว : รัสเซียโจมตีประเทศสมาชิกนาโต้</strong></p>
<p>หากรัสเซียจะโจมตีประเทศสมาชิกนาโต้ ประเทศกลุ่มบอลติกเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากที่สุด สวีเดนก็อาจจะตกเป็นเป้าด้วยเช่นกัน การโจมตีภาคพื้นดินในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากขีดความสามารถในการปฏิบัติการของรัสเซียนั้นจำกัด สถานการณ์ที่เป็นไปได้มากกว่าคือการใช้กลยุทธ์สงครามแบบทางอ้อม เช่นการโจมตีทางอากาศและการใช้โดรน เพราะถึงแม้รัสเซียจะถูกคว่ำบาตร แต่ก็ยังคงนำเข้าเทคโนโลยีจากจีนได้ ทำให้มีโอกาสพัฒนาและผลิตอาวุธขั้นสูงจำนวนมาก รวมถึงโดรนประเภทใหม่ ๆ </p>
<p>ในปีต่อ ๆ ไป ยังมีการคาดการณ์ว่ารัสเซียจะสามารถฟื้นฟูขีดความสามารถทางด้านการทหาร และเพิ่มโอกาสในการรุกรานยูเครนและประเทศอื่น ๆ อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของนาโต้และยูเครนในอนาคต และตำแหน่งแห่งที่ของรัสเซียอาจจะเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯในเดือนพฤจิกายนที่จะถึงนี้</p>
</div>
</div>
<p> <strong>เรียบเรียงจาก</strong></p>
<ul>
<li>
What Sweden will bring to NATO</li>
</ul>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/03/108482