Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2563 18:47:51 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 กรกฎาคม 2563 19:01:13 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2563 18:57:14 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 กรกฎาคม 2563 19:16:58 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2563 16:03:14 » |
|
ภาพ ลายเซ็นพระนามในท้ายหนังสือต้นปฏิสังขาโย ที่มา : จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อเจ้าฟ้าภาณุรังษีทรงผนวช วันที่ ๔๐๙๘ วันศุกร์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๓ ปีเถาะ เอกศก ๑๒๔๑ (วันที่ ๓๐ มกราคม ๒๔๒๒)
เสด็จวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ประทับพลับพลาทอดพระเนตรสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษี(สว่างวงศ์) กับพระองค์เจ้าเทวัญ(อุไทยวงศ์)โปรยทาน แล้วเสด็จเข้าในพระอุโบสถทรงผนวช
สมเด็จพระองค์น้อยนั้น พระอุปัชฌาย์ (กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์) กับพระสาสนโสภณ (สา ปุสฺสเทโว) ช่วยครองผ้าให้ เป็นการวิเศษผิดกับตามธรรมเนียมขึ้นทรงผนวช จนเสร็จสวดญัตติแล้ว พระองค์เจ้าเทวัญ(อุไทยวงศ์)จึ่งได้ทรงผนวชต่อไป กรมพระปวเรศเป็นพระอุปัชฌาย์ พระสาสนโสภณเป็นกรรมวาจา ครั้งนี้จะทรงผนวชน้อยวัน ทรงถือผ้า ๓ ผืน ทั้ง ๒ พระองค์ ไม่รับผ้าผู้อื่น เจ้านายข้าราชการถวายดอกไม้ธูปเทียน
ทรงผนวชแล้วเสด็จขึ้นทางพระที่นั่งอมรินทร เสด็จพุทธรัตนสถาน
สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอและพระเจ้าน้องยาเธอซึ่งทรงผนวชใหม่กับพระราชาคณะ ๑๐ รูป เข้าไปในพุทธรัตน(สถาน)สวดอีกครั้ง ๑ แต่พระองค์เจ้าเทวัญนั้นให้พักอยู่นอกเสมาก่อน สวดญัติสมเด็จพระองค์น้อยในพระอุโบสถเสร็จแล้วพระองค์เจ้าเทวัญจึ่งได้เข้าไป แล้วพระสงฆ์พร้อมกันอยู่ที่พระตำหนัก เสด็จประทับที่พระที่นั่ง(ทรงผนวช) สมเด็จพระองค์น้อยประทับที่ตำหนักเสด็จที่วัด พระองค์เจ้าเทวัญอยู่กุฎีด้านเหนือ พระสาสนโสภณกับหม่อมเจ้า(พระ)อรุณ(นิภาคุณากร)อยู่กุฎีด้านใต้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับส่งขึ้นกุฏิแล้วเสด็จขึ้น
เวลา ๔ ทุ่มเสด็จพุทธรัตนสถาน มีสวดมนต์ฉลองพระที่นั่งหัตถบาส ๓๐๐ รูป สวดจบแล้วเสด็จไปตรัสกับเสด็จที่วัด ที่พระตำหนักจน ๒ ยาม เสด็จขึ้นขอขอบคุณ : f.เล่าเรื่อง วัดบวรฯ (ที่มาข้อมูล-ภาพ) รื้ออาคารบอมเบย์เบอร์มา สุดท้ายได้กรมศิลปากรดำเนินการฟื้นฟู เยียวยาให้ชาวแพร่ ขอขอบคุณ : f.สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ (ที่มาภาพ) จากอดีตสู่ปัจจุบัน งานอนุรักษ์โบราณสถานวัดม่อนจำศีล อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ที่สำนักฯ ร่วมกับมูลนิธิ วทัญญู ณ ถลาง ได้ร่วมกันดำเนินการบูรณะ อนุรักษ์ฯ ฟื้นคืนชีวิตให้กับโบราณสถานแห่งนี้กันอีกครั้ง...วัดม่อนจำศีล บ้านป่าขาม หมู่ ๑ ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง เป็นปริมณฑลพื้นที่สถานแห่งหนึ่งซึ่ง เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งบนแผ่นดินล้านนา เนื่องจากเป็นโบราณสถานและพุทธสถานที่เก่าแก่อายุกกว่าพันปี |
ขอขอบคุณ : f.สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ (ที่มาภาพ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2563 20:14:09 » |
|
การบำเพ็ญพระราชกุศลเข้าพรรษา เมื่อปลายสมัยรัชกาลที่ ๔ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจักเสด็จพระราชดำเนินถวายพุ่มเทียน ณ วัดบวรนิเวศวิหารอยู่เป็นประจำทุกปี โดยจักเสด็จพระราชดำเนินมาทรงนมัสการและถวายพุ่มเทียนพระพุทธชินสีห์ภายในพระอุโบสถ และถวายพุ่มพระสงฆ์ที่อยู่จำพรรษาภายในพระอาราม แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการและถวายพุ่มเทียนปูชนียวัตถุสถานสำคัญประจำพระอาราม ประกอบด้วย พระเจดีย์ และพระศรีศาสดา แล้วจึงเสด็จไปถวายพุ่มเทียนแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธ์ (ภายหลังได้รับสถาปนาขึ้นที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์) แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินไปถวายพุ่มเทียนแด่สามเณรพระโอรสที่ทรงผนวช ๓ คราวด้วยกัน
คราวแรก ในปีจุลศักราช ๑๒๒๘ (พ.ศ.๒๔๐๙) คือ สามเณรสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ กรมขุนพินิตประชานารถ (ภายหลังเสด็จเถลิงถวัราชสมบัติขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๕)
คราวที่ ๒ ในปีจุลศักราช ๑๒๒๙ (พ.ศ.๒๔๑๐) คือ สามเณรพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร (ภายหลังดำรงพระอิสริยยศที่ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์)
คราวที่ ๓ ในปีจุลศักราช ๑๒๓๐ (พ.ศ.๒๔๑๑) มีพระราชโอรสทรงผนวชเป็นสามเณร ๓ พระองค์ด้วยกันคือ - สามเณรพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าคัคณางคยุคล (ภายหลังดำรงพระอิสริยยศที่ กรมหลวงพิชิตปรีชากร) เสด็จประทับอยู่พระปั้นหย่า - สามเณรพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าเกษมสันต์โสภาคย์ (ภายหลังดำรงพระอิสริยยศที่ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์) เสด็จประทับอยู่พระตำหนักโรงพิมพ์ - สามเณรพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าสุขสวัสดิ์ (ภายหลังดำรงพระอิสริยยศที่ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช) - สามเณรพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ (ภายหลังดำรงพระอิสริยยศที่ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์) - สามเณรพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ (ภายหลังดำรงพระอิสริยยศที่ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม) และ - สามเณรพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ากมลาศเลอสรรค์ (ภายหลังดำรงพระอิสริยยศที่ กรมหมื่นราชศักดิ์สโมสร) ซึ่งทั้ง ๔ พระองค์นี้เสด็จประทับอยู่ที่คณะกุฏิ์
ดังปรากฏความใน “จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน พ.ศ. ๒๔๑๑” ความตอนหนึ่งว่า “ปีมะโรง จ.ศ. ๑๒๓๐...ณ วันจันทร์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๘ (วันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๑๑) เวลา ๔ ทุ่มเศษ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทางพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงพระราชยาน เสด็จทางสถลมารค ประทับวัดบวรนิเวศน์ ทรงนมัสการถวายพุ่มพระชินศรี เสด็จทรงพระราชดำเนินขึ้นบนพระเจดีย์ ทรงถวายพุ่ม เสด็จขึ้นไปนมัสการพระศาสดา ถวายพุ่ม ทรงพระดำเนินขึ้นบนตำหนักกรมหมื่นบวรรังษี ทรงถวายพุ่ม ทรงพระราชดำเนินไปตำหนักพระเจ้าลูกเธอทั้ง ๖ พระองค์ ถวายพุ่ม
เวลา ๒ ยาม เสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง
เวลาตี ๓ ยามเสด็จออกทางพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงพระราชยานประทับท่าราชวรดิษฐ์ ทรงเรือพระที่นั่งกลไฟ ชื่ออรรคเรศรัตนาสน์ ล่องน้ำขึ้นไปประทับวังจันทรเกษม”เสด็จเยี่ยมพระอนุชา ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาของทุกปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจักเสด็จพระราชดำเนินถวายพุ่มพระสงฆ์ หรือพุ่มเทียน ณ วัดบวรนิเวศวิหาร โดยเฉพาะสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ยังดำรงพระอิสริยยศที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ พระราชอุปัธยาจารย์ในพระองค์ ตลอดจนสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ พระเจ้าน้องยาเธอ และพระเจ้าลูกยาเธอที่ทรงผนวชจำพรรษานั้น หม่อมเจ้าพระราชาคณะ จักเสด็จถวายที่ตำหนัก ส่วนพระสงฆ์อื่นๆ ในพระอารามนั้นถวายที่พระอุโบสถ ตามธรรมเนียมที่สืบมาแต่รัชกาลที่ ๔
จนในพรรษกาลปีพุทธศักราช ๒๔๒๓ ตรงกับวันอังคาร แรม ๖ ค่ำ เดือน ๘๘ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒ (วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๒๓) ครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินถวายพุ่มพระสงฆ์ที่วัดบวรนิเวศวิหาร แต่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์มิได้เสด็จอยู่ ด้วยเสด็จไปเยี่ยมพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนันตการฤทธิ์ พระอนุชาร่วมพระมารดา ซึ่งประชวรอยู่ ณ วังพระนิเวศน์เดิม (กรมอู่ทหารเรือในปัจจุบัน)
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงเสด็จไปนมัสการปูชนียวัตถุสถานภายในพระอารามก่อน แล้วประทับรอที่ตำหนักพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจันทรทัตจุฑาธารที่ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ จนพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์เสด็จกลับ จึงเสด็จฯ ไปถวายพุ่มพระสงฆ์ที่ตำหนักเดิม จนค่ำแล้วจึงเสด็จกลับ
ดังความที่ปรากฏในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน ที่ว่า “...วันอังคาร แรม ๖ ค่ำ เดือน ๘๘ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒ เวลาบ่ายเสด็จออกทรงรถพระที่นั่ง เสด็จวัดบวรนิเวศ เสด็จเข้าในพระอุโบสถพระราชทานพุ่มพระสงฆ์ทั้งพระอาราม แต่กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ไม่ได้เสด็จอยู่ เสด็จไปเยี่ยมกรมหมื่นอนันต์ด้วยประชวรมาก แล้วเสด็จนมัสการพระเจดีย์สถูปและพระวิหาร แล้วเสด็จทรงนมัสการต้นศรีมหาโพธิ์ พระวุฒิการกราบทูลว่าเสด็จกรมพระปวเรศเสด็จกลับแล้ว จึงเสด็จจากฐานโพธิ์ประทับตำหนักพระองค์เจ้าจันทรทัตจุฑาธาร พระราชทานพุ่มแล้วเสด็จตำหนักกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ถวายพุ่มแล้วตรัสอยู่จนเวลาย่ำค่ำเสด็จกลับ...”ขอขอบคุณที่มา f.เล่าเรื่อง วัดบวรฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2563 18:40:18 » |
|
ฝนตก ในวันอัญเชิญพระบรมศพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ มายังพระเมรุมาศ ฝนตก ในวันอัญเชิญพระบรมศพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ มายังพระเมรุมาศ
ดังปรากฏความในลายพระหัตถ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เมื่อครั้งยังดำรงพระอิสริยยศที่ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ถึง พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ลงวันที่ ๒๔ มกราคม ร.ศ.๑๑๙ ด้วยทรงยืมสมุดพระอภิธรรมสำหรับทรงอ่านนำหน้าพระบรมศพ แต่ด้วยฝนตกสมุดจึงเปรอะเปื้อน จึงต้องทรงลายพระหัตถ์มาขอประทานโทษ ดังความที่ว่า
“ที่ ๓๓๕ วัดบวรนิเวศวิหาร วันที่ ๒๔ มกราคม ร.ศ.๑๑๙
กราบทูล พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร
หม่อมเจ้าฉันขอทูลขอบพระเดชพระคุณ ในการที่ประทานยืมหนังสือสำหรับอ่านนำศพ บัดนี้เสร็จธุระแล้ว ขอถวายคืน เมื่อวันชักพระบรมศพเผอิญฝนตก น้ำฝนหล่นจากกลดกำมะลอ ตกลงที่สมุดเปรอะเปื้อนบ้าง เวลาบันดาลเป็น หวังว่า ท่านจะไม่ทรงถือโทษ
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด กรมหมื่นวชิรญาณ” พัดยศพระพุทธชินสีห์ ตาลิปัตรหักทองขวางประดับพลอย เดิมชื่อกันว่า พัดยศเล่มนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวถวายพัดนี้ เพื่อเป็นพุทธบูชาเมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน แต่ในหนังสือราชการของกระทรวงธรรมการ ถึงพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส นั้นสันนิษฐานว่าเป็นของยศบูชาที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่พระพุทธรูปสำคัญประจำพระอารามหลวง ทั้งยังได้จำแนก พัดยศที่พระราชทานพระพุทธรูปสำคัญออกเป็น ๒ ลำดับชั้นคือ
๑) ตาลิปัตรหักทองขวางประดับพลอย ๒) หักทองขวางเปล่า
ซึ่งในส่วนของพัดยศที่ถวายพระพุทธรูปสำคัญนี้ จึงมีลักษณะเป็นพัดแฉกทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ซึ่งเดิมเป็นงานปักดิ้นทองแล่งที่สั่งทำมาจากเมืองจีน ยอดและด้ามทำด้วยไม้ปิดทอง ดังความในหนังสือกระทรวงธรรมการที่ว่า
“ที่ ๑๑/๑๐๒๑
วันที่ ๗ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๐
กราบทูลใน พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ทราบฝ่าพระบาท
ด้วยได้รับลายพระหัตถ์ที่ ๒๐/๙๐ ประทานตาลิปัตรหักทองขวางประดับพลอย เปนของทรงถวายพระชินสีห์เป็นยศบูชานานมาแล้ว ไม่ทรงทราบว่าครั้งรัชกาลไหน บัดนี้เก่าคร่ำคร่าเต็มทีแล้ว จะตั้งรับเสด็จฤๅเก็บไว้เปนมิวเซียมด้ามก็ค่อนฃ้างปติกูล ครั้นจะทรงร้องขอเปลี่ยนก็ทรงพรรณาประโยชน์ในการทำเปลี่ยนไม่ได้นอกจากจะตั้งรับเสด็จฤๅประกาศยศบูชา ซึ่งเทียบกับราคาที่จะต้องลงทุนทำใหม่ จะคุ้มกันฤๅไม่คุ้มก็ไม่ทรงทราบ จึงประทานคืนมา ถ้าเกล้ากระหม่อมเห็นควรจะเปลี่ยนก็ทำเปลี่ยนแลถวายเพื่อทรงจบพระหัตถ์ในวันเสด็จพระราชทานพระกฐิน ถ้าเห็นป่วยการเปล่าก็ให้เก็บเอาไว้นั้น ได้ทราบเกล้าฯ แล้ว
แฉกนี้ เกล้ากระหม่อมเข้าใจว่าเปนของรัชกาลที่ ๓ พระราชทานตามพระอารามหลวงที่สำคัญเปน ๒ ชั้นคือประดับพลอยชั้น ๑ หักทองขวางเปล่าชั้น ๑ ครั้งฉลองวัดอรุณคราวหลังนี้ ก็โปรดเกล้าฯ ให้ปักถวายใหม่อย่างประดับพลอย ต้องรีบทำทั้งกลางวันกลางคืนให้ทันพระราชประสงค์ แลพัดที่ได้ทรงถวายพระชินสีห์นี้ประดับพลอย ก็นับเปนชั้นที่ ๑ จะไม่กี่พระอารามนัก เปนของยศบูชาในพระพุทธปฏิมากรที่สำคัญอยู่ในบ้านในเมือง ส่วนความเห็นของเกล้ากระหม่อมแล้ว ควรทำเปลี่ยนให้คงดีไว้ จะปักด้วยดิ้งแหล้งก็อยู่ในร้อยบาทเศษ ถ้าจะปักอย่างเดิมสั่งไปเมืองจีนก็คงไม่ถึง ส่วนด้ามแลยอดนั้นเปนไม้ปิดทองทึบทุกแห่ง เข้าใจว่ามีราวด้วย ถ้าจะเปลี่ยนแล้วจะได้ขอพระบรมราชานุญาตเปนพิเศษ ฤๅจะประทานทุกวันก็ได้ จำเพาะแต่ค่าวัตถุส่วนแรงทำจะช่วยทำถวายได้ การยศบูชาหรือเครื่องนมัสการที่บูชาอยู่ทุกวัน เกล้ากระหม่อมก็เห็นว่าคล้ายกัน เพราะเปนสิ่งบูชาประโยชน์ที่จะได้หรือไม่ได้อย่างไรนั้น ก็แล้วแต่ผู้ที่จะดำริห์เห็น ถ้าฝ่าพระบาททรงเห็นตามกราบทูลนี้จะได้ทำใหม่ ถ้าไม่เห็นด้วย เกล้ากระหม่อมจะซ่อมปิดทองด้ามเสียใหม่ ทำยอดใหม่ ส่วนแฉกที่ปักจะซ่อมตามแต่ที่จะดีได้ส่งไปถวายควรจะคงไว้ เพราะเปนของพระเจ้าแผ่นดินทรงบูชาพระพุทธปฏิมากรจำเพาะพระองค์นั้นอยู่
จะประทานมาเฃ้ามิวเซียมในกระทรวงนี้ดูหาสู้ชอบกลไม่ เว้นไว้แต่ทำใหม่ เปลี่ยนให้มีตัวอยู่ ของเก่ามาเฃ้ามิวเซียมเช่นนี้ก็ชอบอยู่
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้าฯ (ลงนาม) ภาสกรวงศ์”
ในปัจจุบันจากการเชิญพัดยศพระพุทธชินสีห์นี้ออกประดิษฐานเบื้องหน้าในคราวพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินเป็นสำคัญขอขอบคุณที่มาข้อมูล/ภาพ : fb.เรื่องเล่า...วัดบวรฯ (เรื่อง ศรัณย์ มะกรูดอินทร์)
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 กรกฎาคม 2563 15:31:50 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2563 15:44:15 » |
|
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ที่ประสูติแต่สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๔๒๑ ชาววังเรียกว่า “ทูลกระหม่อมใหญ่”
เดิมทีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบอกพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์ใหญ่ว่า "มหาอุณหิศ" แต่ด้วยทรงเห็นว่าเมื่อเขียนเป็นภาษาอังกฤษแล้วอาจจะอ่านได้ว่า 'อุณหิศ' หรือ 'อันหิศ' ก็ได้ จึงมีพระราชหัตถ์ถึงพระยาอัษฎางค์เปลี่ยนพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์ใหญ่เสียใหม่ว่า "มหาวชิรุณหิศ" ซึ่งแปลว่า มงกุฎเพชรใหญ่
พระองค์มีพระอนุชาและพระขนิษฐาร่วมพระมารดา ได้แก่ สมเด็จเจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์, สมเด็จเจ้าฟ้าวิจิตรจิรประภา, สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนศรีธรรมราชธำรงฤทธิ์, สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร, สมเด็จเจ้าฟ้าศิราภรณ์โสภณ และสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสงขลานครินทร์ (ต่อมาคือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก)
ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์แรกของประเทศไทย แทนตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) เดิม แต่หลังจากดำรงตำแหน่งสยามกุฎราชกุมารได้เพียง ๘ ปี ก็เสด็จสวรรคต ขณะมีพระชนมายุ ๑๕ พรรษา
พระองค์ประชวรด้วยพระโรคไข้รากสาดน้อย เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๔๓๗ ขณะมีพระชนมายุ ๑๕ พรรษา ๖ เดือน กับ ๗ วัน นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของราชวงศ์จักรี เพราะทูลกระหม่อมใหญ่พระองค์นี้ทรงเป็นที่รักใคร่ของชาววัง พระองค์ทรงเขียนบันทึกประจำวันเป็นภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่ทรงพระเยาว์
จากเหตุการณ์นี้เล่ากันว่าสมเด็จพระพันวัสสา ทรงล้มทั้งยืนในทันที พระองค์ทรงพระกันแสงอย่างรุนแรง ไม่ทรงฟังคำปลอบประโลมใดๆ ทรงโศกเศร้าจนไม่เสด็จกลับตำหนัก กั้นพระฉากบรรทมในที่ประดิษฐานพระบรมศพพระราชโอรส ไม่เสวยพระกระยาหาร จนทรงพระประชวรในที่สุด และการสวรรคตของทูลกระหม่อมใหญ่ในครั้งนี้ก็ส่งผลให้สายการขึ้นครองราชสมบัติเปลี่ยนสายไปสู่พระราชโอรสในสมเด็จพระพันปี
ภายหลังที่สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สวรรคต พระราชโอรสองค์ถัดมาของพระมเหสีเอกก็น่าจะได้รับตำแหน่งนี้ต่อ ซึ่งขณะนั้นสายสมเด็จพระพันวัสสา มีพระราชโอรสอยู่ ๒ พระองค์ คือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าสมมติวงศ์วโรทัย และสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช (พระบรมราชชนกในรัชกาลที่ ๘ และ ๙)
แต่การสืบต่อตำแหน่งไม่ได้เป็นไปตามนั้น แต่ได้มีการสลับสายจาก สมเด็จพระพันวัสสาไปสู่สายสมเด็จพระพันปี ด้วยเหตุผลที่ไม่แน่ชัด มีเพียงพระราชดำรัสครั้งหนึ่งว่า “...ลูกแม่กลางกับลูกแม่เล็ก ให้นึกว่าเหมือนแม่เดียวกัน เรียงพี่เรียงน้องในการสืบสันตติวงศ์...”
(แม่กลาง คือ สมเด็จพระพันวัสสา และแม่เล็ก คือ สมเด็จพระพันปี) เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๔๓๗ จึงมีการสถาปนาตำแหน่งสยามมกุฎราชกุมาร พระองค์ใหม่ คือ “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ กรมขุนเทพทวาราวดี” ขึ้นเป็น “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร” นับเป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์ที่ ๒ แห่งรัตนโกสินทร์ และสายสมเด็จพระพันปี มีสมเด็จฯ เจ้าฟ้าขึ้นสืบราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ต่อเนื่องกัน ๒ พระองค์ คือ รัชกาลที่ ๖ และรัชกาลที่ ๗
แต่เมื่อรัชกาลที่ ๗ ทรงสละราชสมบัติ ในปี ๒๔๗๗ รัชกาลที่ ๗ เป็นพระราชโอรสองค์สุดท้ายในสมเด็จพระพันปี การสืบราชสันตติวงศ์ได้กลับมาที่สายสมเด็จพระพันวัสสาอีกครั้ง เมื่อพระองค์เจ้าอานันทมหิดล ผู้เป็นพระนัดดาได้สืบราชสมบัติต่อจากรัชกาลที่ ๗ ขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘ แห่งราชวงศ์จักรี
หมายเหตุ “สมเด็จพระพันปี” หมายถึง สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง “สมเด็จพระพันวัสสา” หมายถึง สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าหม่อมราโชทัย ประมาณ พ.ศ. ๒๔๐๘ ถ่ายภาพโดย จอห์น ทอมสัน ( John Thomson) หม่อมราโชทัย(หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร)ล่ามหลวง ในรัชกาลที่ ๔ ผู้เดินทางไปเจริญพระไมตรีกับประเทศอังกฤษ หม่อมราโชทัย มีนามเดิม หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร กวีและล่ามหลวงคนสำคัญของคณะทูตไทย นำโดยพระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชุ่ม บุนนาค) เชิญพระราชสาสน์และเครื่องราชบรรณาการไปถวายสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียเมื่อปี พ.ศ.๒๔๐๐
หม่อมราโชทัย เป็นบุตรหม่อมเจ้าชอุ่ม (ต่อมาคือพระบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นเทวานุรักษ์ โอรสสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์ (ต้นราชสกุลอิศรางกูร)) กับหม่อมนก เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๓๖๒ ท่านเป็นนัดดาของสมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์ และสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีในรัชกาลที่ ๒ เป็นปนัดดาของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ ซึ่งเป็นพระพี่นางในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
เมื่อเจริญวัย บิดาได้นำไปถวายตัวอยู่กับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนั้นยังดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าฟ้ามงกุฎ สมมุติเทวาวงศ์ พงศาอิศวรกระษัตริย์ ขัตติยราชกุมาร เมื่อเจ้าฟ้ามงกุฎผนวชในสมัยรัชกาลที่ ๓ หม่อมราชวงศ์กระต่ายก็ได้ตามเสด็จไปรับใช้ ท่านได้เรียนภาษาอังกฤษกับหมอบรัดเลย์ จนได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความรู้ภาษาอังกฤษดี จนเจ้าฟ้ามงกุฎทรงใช้ให้เป็นตัวแทนเชิญกระแสรับสั่งไปพูดจากับชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์ จึงได้เข้ารับราชการเป็นราชเลขานุการ ช่วยราชกิจได้ดี จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นหม่อมราโชทัย ราว พ.ศ.๒๓๙๘
ต่อมาใน พ.ศ.๒๔๐๐ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมราโชทัยเป็นล่ามหลวงไปกับคณะราชทูตไทยที่เชิญพระราชสาสน์และเครื่องมงคลราชบรรณาการ เดินทางไปถวายสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อกลับมาได้รับพระราชทานพานทองเล็กเป็นบำเหน็จความชอบในราชการ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมราโชทัยขึ้นเป็นอธิบดีพิพากษาศาลต่างประเทศเป็นคนแรกของไทย การเดินทางไปเจริญทางพระไมตรีกับประเทศอังกฤษในครั้งนั้นเป็นที่มาของหนังสือนิราศเมืองลอนดอน ซึ่งแต่งหลังจากเดินทางกลับได้ ๒ ปี
งานประพันธ์เล่มสำคัญของหม่อมราโชทัย ได้แก่เรื่อง จดหมายเหตุเรื่องราชทูตไทยไปประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๐ และเรื่อง นิราศลอนดอน ซึ่งมีประวัติการแต่งนิราศลอนดอน ปรากฏในหนังสือฉบับพิมพ์ครั้งแรกว่า เมื่อแรกนั้น หอพระสมุดวชิรญาณคิดว่าจะพิมพ์แต่เรื่อง จดหมายเหตุเรื่องราชทูตไทยไปประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ.๒๔๐๐ ของหม่อมราโชทัย แต่เมื่อพิมพ์แล้วส่งสมุดตัวอย่างไปถวาย สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลย์มารศรี พระอัครราชเทวี ทอดพระเนตรแล้ว มีรับสั่งมาว่าหม่อมราโชทัยได้แต่งเรื่องนิราศลอนดอน ต่อเนื่องจากจดหมายเหตุนี้มีอยู่อีกเรื่องหนึ่ง เหมือนเป็นหนังสือชุดเดียวกัน ทรงพระดำริเห็นว่าควรจะรวมพิมพ์เรื่องนิราศลอนดอนด้วย ผู้อ่านจะได้อ่านหนังสือซึ่งหม่อมราโชทัยแต่งในครั้งนั้นให้บริบูรณ์
หนังสือนิราศลอนดอนนี้ หม่อมราโชทัยแต่งขึ้นหลังจากจดหมายเหตุระยะทางราชทูตไทยไปลอนดอน ๒ ปี โดยนำเนื้อความจดหมายเหตุมาแต่งขยายเป็นกลอนนิราศ ตั้งชื่อว่า นิราศลอนดอน และได้ขายกรรมสิทธิ์การพิมพ์ครั้งแรกให้หมอบรัดเลย์เป็นเงิน ๔๐๐ บาท เมื่อ ปีระกา พ.ศ.๒๔๐๔ โดยหมอบรัดเลย์ลงบันทึกว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ซื้อขายกรรมสิทธิ์หนังสือกันในเมืองไทย
เรื่องนิราศลอนดอน ได้รับการยกย่องกันมาแต่ในรัชกาลที่ ๔ ว่า “แต่งดีถึงชั้นเอกในหนังสือกลอนไทย ถึงนิราศของสุนทรภู่ เรื่องที่นับว่าเปนอย่างดีก็ไม่ดีกว่านิราศลอนดอน” จนถึงกับมีผู้ไม่เชื่อว่าหม่อมราโชทัยซึ่งเป็นนักเรียนด้านภาษาฝรั่งจะแต่งขึ้นเอง มีการคาดการณ์และเล่าลือกันไปต่างๆ เช่น พระสารสาสน์พลขันธ์ สมบุญ (ขุนมหาสิทธิโวหาร อาลักษณ์ในรัชกาลที่ ๔) ได้กราบทูล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่า หม่อมราโชทัยได้วานขุนสารประเสริฐ นุช แต่งให้ บ้างก็ว่าหม่อมราโชทัยวานให้สุนทรภู่แต่ง โดยอ้างว่าเมื่อสุนทรภู่ตาย เขาพบบางส่วนของนิราศลอนดอนฉบับร่างที่บ้านสุนทรภู่ แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงอ่านโดยถ้วนถี่แล้ว ทรงมั่นพระทัยว่า หนังสือเรื่องนี้หม่อมราโชทัยแต่งเอง แต่อาจวานขุนสารประเสริฐ นุช ช่วยตรวจทานการสะกดและ แก้ถ้อยคำบ้างเล็กน้อย เพราะในนิราศลอนดอนนั้น มีรายละเอียดต่างๆ ที่ไม่ปรากฏในจดหมายเหตุเรื่องราชทูตไทยไปประเทศอังกฤษ ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือร่วมเดินทางไปกับคณะทูตเท่านั้นที่จะทราบได้ เพราะแต่งอย่างเป็นผู้ที่ “รู้เอง เห็นเอง ไม่ได้แต่งอย่างกลอนพาไป” และได้ทรงยกย่อง หม่อมราโชทัย ว่า “เปนแต่ผู้แต่งหนังสือดีในทางความเรียง ซึ่งจะเห็นได้ในจดหมายเหตุที่พิมพ์ตอนต้นสมุดเล่มนี้อย่างเดียว ยังเปนกวีที่สมควรจะยกย่องว่าเปนชั้นสูงด้วยอิกอย่าง ๑ ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านทั้งหลายได้อ่านหนังสือนิราศลอนดอนตอนต่อไปในสมุดเล่มนี้แล้ว จะเห็นเปนอย่างเดียวกันทุกคน.”
หม่อมราโชทัยถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๑๐ สิริอายุ ๔๘ ปี พิธีพระราชทานเพลิงศพจัดขึ้นที่เมรุวัดอรุณราชวราราม เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๑๐
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 กรกฎาคม 2563 16:10:17 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2563 11:05:26 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2564 18:39:47 » |
|
พระอินทโมลี (ช้าง) วัดบรมธาตุ จังหวัดชัยนาท (พ.ศ.๒๓๘๕-๒๔๖๕) ภาพถ่าย ชุด หอพระสมุดวชิรญาณ รหัสเอกสาร ภ ๐๐๑ หวญ ๖๗/๓๕ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ขณะกำลังก่อสร้างพระอุโบสถ ถ่ายจากด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ เห็นสะพานพระรูปซึ่งเป็นสะพานข้ามคลองที่กั้นแบ่งเขตพุทธาวาสและสังฆาวาสอยู่ด้านล่างของภาพ | ฟิล์มกระจก ชุด หอพระสมุดวชิรญาณ รหัสเอกสาร หวญ ๕๘/๑๔ วันที่ ๑๑ มกราคม ๒๔๕๙ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน ไปในการเฉลิมพระราชมณเฑียรพระที่นั่งอนันตสมาคมรหัสเอกสาร 44M00049 เอกสารที่เกี่ยวข้อง เอกสารกรมราชเลขาธิการรัชกาลที่ ๖ กระทรวงวัง รหัสเอกสาร ร.๖ ว ๑๗/๓๒ เรื่อง เฉลิมพระที่นั่งอนันตสมาคม (๒๖ ธันวาคม - ๘ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๙)
เจ้าอุบลวรรณาหรืออุบลวัณณา เป็นธิดาองค์ที่ ๒ ของพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ และแม่เจ้าอุสาห์ เป็นพระขนิษฐาของแม่เจ้าทิพเกสร ข้อมูลจาก หนังสือ เจ้าหลวงเชียงใหม่ พิมพ์เนื่องในโอกาสสมโภชเชียงใหม่ ๗๐๐ ปี รหัสเอกสาร 36M00012
สมุดจดรายชื่อพระที่นั่ง ถ้ำ น้ำตก สระ น้ำพุ ลำธาร ลาด บันได ลาดผลึก ผา ประตู บ่อ ป่า ชั้น เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ เบ็ดเตล็ด รหัสเอกสาร ร.๕ บ ๑๐/๔๗
เครื่องจักรสร้างรางรถไฟบนสะพานพระราม ๖ ภาพถ่าย ชุด การรถไฟแห่งประเทศไทย รหัสเอกสาร ภ รฟท ๔๙/๗
หมู่พระมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง แลเห็นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ชักมุขต่อเนื่อง กับพระที่นั่งพิมานรัตยา (ซ้าย) พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท และซุ้มประตูกำแพงแก้ว ส่วนด้านซ้ายเห็นเขื่อนเพ็ชร ภาพถ่ายก่อนการสร้างพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในพุทธศักราช ๒๔๑๙ |
ฟิล์มกระจก ชุด หอพระสมุดวชิรญาณ รหัสเอกสาร หวญ ๒๒/๑ พระอุโบสถวัดสุปัฏนาราม ตั้งอยู่ในตำบลในเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ออกแบบโดยหลวงสถิตนิมานการ (ชวน สุปิยพันธ์) ตามแนวดำริของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺสโส) เริ่มก่อสร้างเมื่อพุทธศักราช ๒๔๖๓ แล้วเสร็จพุทธศักราช ๒๔๗๓ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรป ภาพถ่ายคราวสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จไปเมื่อพุทธศักราช ๒๔๗๒ |
ฟิล์มกระจก ชุด หอพระสมุดวชิรญาณ รหัสเอกสาร หวญ ๑๕/๑ หนังสือฟิล์มกระจกหนึ่งพันภาพประวัติศาสตร์ เล่ม ๒ สำเภาวัดยานนาวา พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์ มีฐานเป็นสำเภาเท่าขนาดเรือสำเภาจริงไว้ที่ด้านหลังพระอุโบสถ มีพระราชดำรัสว่า "คนภายนอกอยากจะเห็นว่าเรือสำเภาเป็นอย่างไรจะได้มาดู" มีพระเจดีย์อยู่ในลำสำเภาสององค์ ใหญ่องค์หนึ่ง เล็กองค์หนึ่ง ที่ห้องท้ายบาลีประดิษฐานรูปหล่อพระเวสสันดรกับกัณหาชาลี และศิลาจารึกภาษาไทยแผ่นหนึ่ง ภาษาจีนแผ่นหนึ่ง |
ฟิล์มกระจก ชุด หอพระสมุดวชิรญาณ รหัสเอกสาร หวญ ๘/๓๖ หนังสือฟิล์มกระจกหนึ่งพันภาพประวัติศาสตร์ เล่ม ๒ ปราสาทนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง จำลองแบบก่อสร้างของปราสาทเมืองพระนครหลวงของอาณาจักรขอม แต่สร้างไม่แล้วเสร็จ ต่อมาในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้พระพุฒาจารย์ (มา) วัดจักรวรรดิราชาวาส เป็นแม่กองบูรณะ จึงได้มีการสร้างมณฑปไว้บนยอด ภายในประดิษฐานพระพุทธบาทสี่รอย |
ฟิล์มกระจก ชุด หอพระสมุดวชิรญาณ รหัสเอกสาร หวญ ๕๐/๒๕ #หนังสือฟิล์มกระจกหนึ่งพันภาพประวัติศาสตร์ เล่ม๒ ที่มา (ข้อมูล-ภาพ) : สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2564 17:25:02 » |
|
การกู้เงินหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒สงครามโลกครั้งที่ ๒ ยุติเมื่อฝ่ายอักษะประกาศยอมแพ้แก่ฝ่ายสัมพันธมิตร ในปี ๒๔๘๘ โดยระหว่างสงครามและหลังจากนั้น ประเทศไทยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เป็นสมัยข้าวยากหมากแพง ขาดแคลนปัจจัยสี่ทุกหัวระแหง สหกรณ์จำกัดสินใช้ เข้าใจสภาวะดังกล่าว จึงพิมพ์เอกสารตัวอย่างการขอกู้เงินให้สมาชิกหรือบุคคลทั่วไปได้พิจารณา ซึ่งสรุปเนื้อความง่ายๆ ว่า
๑. หากกู้เงินจำนวน ๔๕๐ บาท จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ๒. ถ้าผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยปีละ ๕๐ บาท ๙๘ สตางค์ สามารถผ่อนได้นาน ๑๕ ปี ๓. เมื่อผ่อนครบ ๑๕ ปี ดอกเบี้ยทั้งหมดเพียง ๓๑๔ บาท ๗๐ สตางค์
จากตัวอย่างนี้ การกู้เงินต้นจำนวน ๔๕๐ บาท ในสมัยนั้น เป็นเงินจำนวนไม่น้อยทีเดียว และเมื่อรวมกับดอกเบี้ยที่ต้องใช้ด้วยย่อมเป็นภาระเพิ่มขึ้นเช่นกัน หากอย่างไรก็ตาม เอกสารตัวอย่างการกู้เงินเป็นเพียงแนวทางสำหรับผู้สนใจเท่านั้น การขอกู้อาจเกิดขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของบุคคล แต่ถึงกระนั้น ไม่ว่ายุคสมัยใดโปรดคำนึงเสมอว่า "การไม่เป็นหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐยิ่ง" ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนนามสกุลนับแต่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) โปรดให้ตราพระราชบัญญัติขนานนามสกุล พ.ศ.๒๔๕๕ และบังคับใช้ พ.ศ.๒๔๕๖ คนไทยจึงมีนามสกุลต่อท้ายชื่อเพื่อระบุตัวตนได้ชัดเจน ครั้น พ.ศ.๒๔๘๑ รัฐบาลประกาศใช้พระราชบัญญัติขนานนามสกุลฉบับที่ ๒ ขึ้น เนื้อหาส่วนหนึ่งกำหนดค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนนามสกุลใหม่ ดังเห็นได้จากเอกสารจดหมายเหตุของสำนักงานปกครองจังหวัดสุโขทัย "เรื่องระเบียบเปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุล และร่วมชื่อสกุล" แผ่นที่ ๒๕ สรุปความว่า การเปลี่ยนนามสกุลใหม่ เพราะนามสกุลเดิมเหมือนกับนามสกุลตระกูลอื่น มีคำหยาบคายปะปน หรือสำเนียงเป็นภาษาต่างประเทศ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม หากเปลี่ยนด้วยเหตุผลอื่นๆ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายละ ๑๐ บาท
ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนนามสกุลรายละ ๑๐ บาท สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ นี้ ราคาสูงไม่น้อย ดังนั้น การมีนามสกุลที่ไม่ขัดกับกฎหมายจึงเป็นการรักษาชื่อเสียง รักษาความภูมิใจที่บรรพบุรุษตั้งไว้ และไม่เสียสตางค์โดยใช่เหตุ ขอขอบคุณที่มา : คลังวิชาการ กรมศิลปากร ผู้เขียน : นายธานินทร์ ทิพยางค์ (นักจดหมายเหตุ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 06 เมษายน 2565 15:24:35 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 เมษายน 2565 15:49:53 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 100.0.4896.75
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 07 เมษายน 2565 12:40:41 » |
|
“...ถ้าเห็นพระบัญชรเปิด ต่างคนก็จะวิ่งไปทูลเจ้านายของตน แล้วเจ้านายจะเสด็จขึ้นเฝ้าโดยทรงแต่งองค์ ทรงผ้าลาย ทรงแพรสะพักสีตามวัน แต่ต้องทรงนัดกันเพื่อทรงเหมือนกันทุกพระองค์ แม้จนหีบหมากเสวยก็เหมือนกัน เพราะได้รับพระราชทานเหมือนกัน เช่น หีบทอง หีบหูหิ้วนาค ก็เหมือนกันหมดทุกพระองค์...พระเจ้าลูกเธอที่ทรงพระเยาว์ ทรงผ้าพื้น และฉลองพระองค์ชั้นใน (สำหรับ) เจ้านายที่ทรงพระเยาว์มาก เวลาขึ้นเฝ้า มีข้าหลวงรับเสด็จและข้าหลวงจะต้องถวายพระกลดคันยาวใหญ่ ส่วนเจ้าจอมนั้น สำหรับวันพระต้องนุ่งสีตามวัน ห่มผ้าสีชมพู เจ้านายฝ่ายในและเจ้าจอมเวลาหน้าหนาวไม่เคยเห็นสวม (เสื้อนอก) ฉลองพระองค์หรือเสื้อกันหนาว ถ้าหนาวมากห่มผ้าไหมพรมผ้าครุยไหมแพรสก๊อตแล้วแต่ของจะมาจากต่างประเทศใหม่ๆ ตามสมัยนิยม...” บันทึกความทรงจำ บทนิพนธ์หม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอม ดิศกุล ที่มาภาพ : สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 10 เมษายน 2565 20:21:57 » |
|
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ สมเด็จพระญาณสังวร จุดพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่ขาว อนาลโย ณ เมรุชั่วคราววัดถ้ำกลองเพล จังหวัดอุดรธานี (ปัจจุบันคือ จังหวัดหนองบัวลำภู) เมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๗ที่มา : เล่าเรื่องวัดบวรฯ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่มา : เล่าเรื่องวัดบวรฯ พระโพธิรังษี มารชีศาสนาธิการ สังฆปาโมกข์ (จันแก้ว คนฺธาโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ รูปที่ ๒ (พ.ศ.๒๔๕๗ - พ.ศ.๒๔๖๕) อดีต ปัญจมสังฆราชา(สังฆราชา ที่ ๕)แห่งเมืองเชียงใหม่ที่ได้รับการ เถราภิเษกจาก พระเจ้าอินทวิชยานนท์ พระเจ้าเชียงใหม่ องค์ที่ ๗ อดีต เจ้าอาวาสวัดเชตุพน ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ที่มา : เพจพระพุทธศาสนาไทยลาวกัมพูชา
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 เมษายน 2565 20:24:55 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5746
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 100.0.4896.127
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 28 เมษายน 2565 10:07:17 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 เมษายน 2565 10:37:07 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
|
กำลังโหลด...