[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4 => ข้อความที่เริ่มโดย: phonsak ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2554 13:30:18



หัวข้อ: ความรู้ในระดับสูงจากการทำสมถะและวิปัสสนา
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2554 13:30:18
ความรู้ในระดับสูงจากการทำสมถะและวิปัสสนา


สมาธิ = จิตนิ่ง (ไม่ใช่กาย) นิ่งจนสามารถดับกิเลสทั้งหลายที่เกิดขึ้นได้  สมาธิในระดับสูงสุดเรียกว่า "เจโตวิมุติติ"

วิปัสสนา =  การดูจิต ดูกายตน จนกระทั่งเกิดปัญญารู้ความจริงว่า มีจิตอันหนึ่งที่เป็นตัวรู้ ซ่อนอยู่ในจิตของเรา ซึ่งเป็นผู้เคลื่อนไหวไปตามแรงของกุศล/อกุศล และความคิดปรุงแต่ง  วิปัสสนาในระดับสูงสุดเรียกว่า "ปัญญาวิมุติติ"

จิตตัวรู้ =  จิตพุทธะ หรือจิตนิพพาน หรือจิตมีสติสัมปะชัญญะเต็มที่  ไม่หลงไปตามการลวงของกิเลสตัณหาใด

จิตที่เคลื่อนไหว = จิตสังขาร หรือ จิตในปฏิจจสมุปบาท    จิตสังขาร หรือ จิตในปฏิจจสมุปบาท นี้เอง ที่พาคุณไปเกิดเป็นคน สัตว์ เทพ พรหม เปรต สัตว์นรก ฯลฯ

ทำสมาธิอย่างเดียวโดยไม่ทำวิปัสสนา เข้าถึงนิพพานได้ยาก   พระพุทธเจ้าจึงสอนให้ทำสมาธิควบคู๋ไปกับวิปัสสนา  ผลลัพท์ก็คือ รู้ก็สักแต่ว่ารู้  เห็นก็สักแต่ว่าเห็น  อะไรอะไรก็สักแต่ว่าทั้งนั้น  จิตไม่คิดปรุงแต่งออกไปเป็นอย่างอื่น 

เมื่อนั้นเราจะรู้ว่า  ที่แท้เหล่ามนุษย์ สัตว์ เทพ พรหม เปรต สัตว์นรก ฯลฯ ล้วนกำลังอยู่ในความฝันของตัวเองที่บุญและบาปนำมาให้พบ  และให้เล่นอยู่ในภพภูมิต่างๆตามกำลังบุญบาปของตน


หัวข้อ: Re: ความรู้ในระดับสูงจากการทำสมถะและวิปัสสนา
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 23:50:05
อ้างอิงคำพูดคุณพลศักดิ์
เมื่อนั้นเราจะรู้ว่า  ที่แท้เหล่ามนุษย์ สัตว์ เทพ พรหม เปรต สัตว์นรก ฯลฯ ล้วนกำลังอยู่ในความฝันของตัวเองที่บุญและบาปนำมาให้พบ  และให้เล่นอยู่ในภพภูมิต่างๆตามกำลังบุญบาปของตน


 ;D ;D ;D
ความรู้ระดับสูงทีได้จากสมถะ และวิปัสสนา (จริงๆๆ)

ก็เลยโยงไปอ้างอิงท้าวความถึงกระทู้นี้

http://www.sookjai.com/index.php?topic=16254.0 (http://www.sookjai.com/index.php?topic=16254.0)

กระทู้นั้น มีกลิ่นอายของมาร
ที่ทำให้เวียนว่าย ในสังสารวัฎ  ด้วยกำลังบุญและบาป ติดอยู่ในความฝันตนเอง
จนจะอยู่เป้นสัตว์ตัวสุดท้าย ที่จะตื่น

 ;D ;D ;D

แลก็อ้างอิง คำพูดคุณพลศักดิ์เอง  เป็นคำรบสอง
ว่ามั่วขนาดไหน

พระโพธิสัตว์ที่เข้านิพพานไปแล้ว  แต่ไม่ยอมคงอยู่ในพระนิพพาน(พุทธภูมิ) จึงทิ้งพระนิพพาน(พุทธภูมิ)ออกมาอยู่ในโพธิสัตว์ภูมิ  เช่น พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระกษิติครรถ์โพธิสัตว์  แม้แต่พระเยซูคริสต์  พวกท่านเป็นพระบุตรเพียงคนเดียวของพระเจ้า(พระพุทธเจ้า)

กลับมาเวียนว่าย ตามคติทั้งหก เช่นเดิม
เพราะเพลินต่อ อายตนะ

 ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ความรู้ในระดับสูงจากการทำสมถะและวิปัสสนา
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 19 มิถุนายน 2554 23:57:10
อ้างอิงคำพูดคุณพลศักดิ์
เมื่อนั้นเราจะรู้ว่า  ที่แท้เหล่ามนุษย์ สัตว์ เทพ พรหม เปรต สัตว์นรก ฯลฯ ล้วนกำลังอยู่ในความฝันของตัวเองที่บุญและบาปนำมาให้พบ  และให้เล่นอยู่ในภพภูมิต่างๆตามกำลังบุญบาปของตน


 ;D ;D ;D
ความรู้ระดับสูงทีได้จากสมถะ และวิปัสสนา (จริงๆๆ)

ก็เลยโยงไปอ้างอิงท้าวความถึงกระทู้นี้

http://www.sookjai.com/index.php?topic=16254.0 (http://www.sookjai.com/index.php?topic=16254.0)

กระทู้นั้น มีกลิ่นอายของมาร
ที่ทำให้เวียนว่าย ในสังสารวัฎ  ด้วยกำลังบุญและบาป ติดอยู่ในความฝันตนเอง
จนจะอยู่เป้นสัตว์ตัวสุดท้าย ที่จะตื่น

 ;D ;D ;D

แลก็อ้างอิง คำพูดคุณพลศักดิ์เอง  เป็นคำรบสอง
ว่ามั่วขนาดไหน

พระโพธิสัตว์ที่เข้านิพพานไปแล้ว  แต่ไม่ยอมคงอยู่ในพระนิพพาน(พุทธภูมิ) จึงทิ้งพระนิพพาน(พุทธภูมิ)ออกมาอยู่ในโพธิสัตว์ภูมิ  เช่น พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระกษิติครรถ์โพธิสัตว์  แม้แต่พระเยซูคริสต์  พวกท่านเป็นพระบุตรเพียงคนเดียวของพระเจ้า(พระพุทธเจ้า)

กลับมาเวียนว่าย ตามคติทั้งหก เช่นเดิม
เพราะเพลินต่อ อายตนะ

 ;D ;D ;D

พระอรหันต์โพธิสัตว์ท่านบรรลุธรรมแล้ว  จะไปเพลินต่อ อายตนะได้อย่างไร  เพียงแต่ท่านมีหน้าที่ต้องทำ ต้องช่วยโปรดสัตว์ต่อเท่านั้เอง


หัวข้อ: Re: ความรู้ในระดับสูงจากการทำสมถะและวิปัสสนา
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 20 มิถุนายน 2554 23:45:09
 ;D ;D ;D

กว่าคุณพลศักดิ์จะไปหาคำตอบมาได้ ตั้งห้าเดือนแน่ะ
ไปโดนช๊อตไฟฟ้ามาหรือไงครับ

ความรู้ระดับสูงของคุณพลศักดิ์  ยังสูงไม่พอครับ

ต้องสูงพอที่จะเข้าไปดูที่ดุสิตให้ได้เสียก่อนครับ


อุคส่าห์ ไปคิดคำตอบ  ไปสรรหามากว่าห้าเดือน  ก็มาตอบผิดอีกแล้ว ครับ

พระอรหันต์ อยู่ต่อได้ ตามอายุขัยเท่านั้น

พระพุทธเจ้า ก็อยู่ได้ ไม่เกินอายุขัย

ก่อนจะมาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า ทรงเลือกสถานที่เกิด ห้าอย่าง
เรียกว่า ปัญจะมหาวิโลกนะ

ข้อที่หนึ่ง เลื่อกกาล อายุขัย
การที่ทรงเลือก อายุกาลมนุษย์ เพราะอายุมนุษย์ขึ้นลงตามกระแสสังขาร บางยุคอายุ ๘ หมื่นปี ๔ หมื่นปี ๒ หมื่นปี อายุกาลของมนุษย์ในยุคนั้น ๑๐๐ ปีตรงตามที่ทรงกำหนดไว้คือต้องไม่สั้นกว่าร้อยปี ต้องไม่ยาวเกินแสนปี ที่ทรงเลือกอายุ ๑๐๐ ปีเพื่อให้เห็นความไม่เที่ยงของสังขาร เหตุที่ไม่ตรัสรู้บนสวรรค์ทั้งนี้เพราะเทวดาไม่เห็นทุกข์มีแต่สุข อายุยืนยาวนานนัก จะไม่เห็นอริยสัจ การตรัสรู้ธรรมและแสดงธรรมได้ผลดีมากในเมืองมนุษย์

ถ้าอายุเกินกว่านี้   อยู่แถไปแถมา เป็นพันปี

เรียกว่า มั่วครับ




หัวข้อ: Re: ความรู้ในระดับสูงจากการทำสมถะและวิปัสสนา
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 21 มิถุนายน 2554 00:10:30
 ;D ;D ;D

พระอรหันต์ ไม่เป็นทุกข์เพราะอุปาทานอันเร่าร้อนเผาลนครับ 
เพราะความสิ้นไปแห่งตัณหาอันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพสิ้นแล้ว  

แล้วพระอรหันต์
จะไปสู่ภพภูมิต่างๆ  ไม่รู้จบ ได้อย่างไร

เมื่อเครื่องนำไปสู่ภพอันได้แก่ ตัณหา อุปทาน ได้ สิ้นลงไปแล้ว

ถ้ายังเกิดภพอยู่  ก็ไม่ใช่แล้ว

แบบนั้น เรียกว่ามั่วตามเคยครับ


 ;D ;D ;D