[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
16 พฤษภาคม 2567 03:56:21 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Demon Slayer ดาบพิฆาตอสูรกับยุค 'ไทโชโมเดิร์น' ของญี่ปุ่น  (อ่าน 300 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5081


ระบบปฏิบัติการ:
Linux Linux
เวบเบราเซอร์:
Chrome 90.0.4430.210 Chrome 90.0.4430.210


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 19 มกราคม 2566 18:08:56 »




จงจุดไฟในหัวใจให้ลุกโชน! ทำความรู้จัก ‘ยุคไทโช’ ผ่าน “ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba”





เมื่อเอ่ยถึงยุคสมัยต่าง ๆ ของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น หลายคนคงจะคุ้นหูกับชื่อเรียกของยุคเอโดะ เมจิ โชวะ หรือยุคเฮเซ ที่ถูกแฝงอยู่ตามหน้าภาพยนตร์ มังงะหรืออนิเมะเรื่องต่าง ๆ (เช่น คุโด้ ชินอิจิ เชอร์ล็อค โฮล์ม แห่งยุคเฮเซ ในเรื่องโคนัน) ที่จนถึงตอนนี้ที่รัชสมัยได้ถูกเปลี่ยนมาจนถึงยุคเรวะแล้ว แต่ถ้าเกิดว่าเราจะพูดถึงยุค ‘ไทโช’ ขึ้นมาล่ะ เพียงแค่ชื่อก็มีน้อยคนที่จะรู้จักแล้วใช่หรือไม่

แต่เราจะมาเชื่อมโยงเรื่องราวของ ยุคไทโช (大正) ให้เข้ากับอนิเมะเรื่องดังแห่งศตวรรษนี้อย่าง ดาบพิฆาตอสูร (Kimetsu no Yaiba) ของ อ.โคโยฮารุ โกโตเกะ ที่มีเรื่องราวการตามล่าอสูรของเหล่าผู้ใช้ปราณได้เกิดขึ้นมาโดยมียุคสมัยนั้นเป็นเซ็ตติ้งเบื้องหลัง ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักและเจาะเบื้องลึกกันผ่านมุมมองต่าง ๆ ที่เห็นในเรื่องนี้กัน เป็นเรื่องซุบซิบยุคไทโชนั่นเอง! *เสียงจารย์เข้* (มีการเผยรายละเอียดในฉบับมังงะเล็กน้อย)



ยุคไทโช (大正) เป็นยุคสมัยหนึ่งของญี่ปุ่นที่อยู่ต่อมาจากยุคเมจิ ไล่เลียงในช่วงราว ๆ ปี ค.ศ. 1912 – 1926 (เทียบกับสมัยรัชกาลที่ 6 ของไทย) เป็นยุคสมัยสั้น ๆ ที่ดำเนินไปได้เพียง 14 ปีเท่านั้น แต่ตลอดช่วงระยะเวลานี้กลับเรียกได้ว่าเป็นช่วงรอยต่อของยุคสมัยเก่ากับวัฒนธรรมใหม่เข้ามาผสานกันเป็นอย่างมาก และมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนใกล้เคียงกับยุคสมัยใหม่ มีการนำวัฒนธรรมตะวันตกมาผสมผสานกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นจนยุคนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ไทโชโรมัน หรือ ไทโชยุคสมัยใหม่ ยุคนี้มีความก้าวหน้าในด้านการค้าขายกับต่างชาติ ด้านสถาปัตยกรรมรูปเเบบตะวันตก ด้านการเเต่งกาย (ซึ่งจะพูดถึงอย่างละเอียดในหัวข้อถัด ๆ ไป) ด้านการคมนาคมเเละด้านอุตสาหกรรม

เราจะเห็นได้ว่าต้นเรื่องในตอนแรก ฝั่งของบ้านทันจิโร่ซึ่งอยู่บนภูเขาดูเข้าเค้าความโบราณ มีการดำเนินชีวิตแบบคนญี่ปุ่นในสมัยก่อน แต่เมื่อลงไปขายถ่านในเมืองก็จะเห็นบรรดาเสาไฟฟ้าที่แสดงได้ว่ามีการนำไฟฟ้าเข้ามาใช้กันแล้วในยุคนี้ มีการทำเกษตรกรรม แรงงาน ทว่าตอนที่มีภารกิจให้ทันจิโร่เดินทางไปยังอาซากุสะ ที่โตเกียว จะเห็นความชัดเจนของความเจริญในเมืองใหญ่ มีแสงไฟสว่างไสวตลอดทั้งคืน มีป้ายธง โรงหนัง โรงละคร ตึกระฟ้าอึนกากุ สถาปัตยกรรมแบบไทโชโรมัน ซ้ำยังมีรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ ที่เราได้เห็นกันในภาคเดอะมูฟวี่รถไฟสู่นิรันดร์ (Kimetsu no Yaiba: Mugen Train The Movie) ก็ยังมีต้นแบบมาจากรถไฟรุ่น JNR 8602 ฮะจิโรกุ ที่ผลิตในช่วง ค.ศ. 1919 ราว ๆ ร้อยปีที่แล้ว ซึ่งยิ่งแสดงให้ความรุ่งเรืองของสังคมและอุตสาหกรรมในยุคไทโชได้เป็นอย่างดี

สาเหตุที่ยุคไทโชพัฒนาได้อย่างรวดเร็วนั้น อาจเป็นเพราะญี่ปุ่นต้องการพัฒนาให้ประเทศตัวเองทัดเทียมกับชาวตะวันตก เพื่อแสดงให้เห็นถึงการนำประเทศไปสู่โลกยุคใหม่ ทำให้ในยุคสมัยนั้นญี่ปุ่นจึงกลายเป็นอีกประเทศมหาอำนาจของตะวันออกไปด้วย




ยุคสมัยของประชาธิปไตยเบ่งบาน เปลี่ยนค่านิยมให้ผู้หญิงเริ่มมีบทบาทสังคมมากขึ้น

ในยุคไทโช ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่แนวคิดประชาธิปไตยและเสรีนิยมถูกแพร่หลายเป็นอย่างมาก ซึ่งแนวคิดนี้ถูกเรียกว่า ประชาธิปไตยยุคไทโช หรือ ไทโชเดโมเครซี เกิดขบวนการทางการเมืองเรียกว่า ‘ขบวนการป้องกันรัฐธรรมนูญ’ เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชน ค่านิยมยุคสมัยนี้จะมีความอิงชาติตะวันตกมากยิ่งขึ้น มีการตระหนักความเท่าเทียมทางเพศมากกว่ายุคสมัยก่อนหน้านั้น สังคมในยุคนั้นเริ่มให้ผู้หญิงออกมามีบทบาทมากขึ้น จึงเริ่มเห็นว่ามีจะผู้หญิงออกมาทำงาน และผู้ชายเริ่มให้เกียรติผู้หญิงที่มีตำแหน่งงานสูงกว่า

ภายในเรื่องดาบพิฆาตอสูร เราจะเห็นได้เลยว่าแทบจะไม่มีการแบ่งแยกความเป็นชายหรือความเป็นหญิง ผลักให้คนเพศใดกลุ่มใดออกไปเป็นคนชายขอบของเรื่อง ทั้งในฝั่งหน่วยพิฆาตอสูรที่มีตัวละครเสาหลักที่เป็นผู้หญิงให้เห็นอย่าง เสาหลักแมลง โคโจ ชิโนบุ เสาหลักความรัก คันโรจิ มิตซึริ หรือเสาหลักบุปผา โคโจ คานาเอะ ที่สามารถยืนหยัดขึ้นมาได้ด้วยความแข็งแกร่ง ไม่ถูกลดบทบาทผู้นำลงไปเพียงเพราะเป็นผู้หญิง ซ้ำยังได้รับการยอมรับจากสมาชิกทุกคนในหน่วยพิฆาตอสูร

อีกหนึ่งการสอดแทรกบทบาทของผู้หญิงที่เรารู้สึกชอบอนิเมะเรื่องนี้คือเหล่าตัวละครฝั่งคฤหาสน์ผีเสื้อ ที่ผสานแต่ละบทบาทของความเป็นผู้หญิงได้อย่างลงตัวและเข้าใจ มี ชิโนบุ เป็นผู้นำบ้านคอยค้ำจุนทุกคน โดยขึ้นมาแทน คานาเอะ พี่สาว มีตัวละครน้องน้อยสามสาว นาโฮะ คิโยะ ซึมิ ที่เป็นฝ่ายพยาบาลคอยช่วยงานภายใน มี อาโออิ ที่ถึงแม้จะผ่านบททดสอบกลายเป็นสมาชิกหน่วยพิฆาตอสูร แต่เพราะหวาดกลัวจึงไม่สามารถร่วมสู้ในสนามรบได้ เลยหันมาเป็นฝ่ายดูแลจัดการอาหาร ดูแลต่าง ๆ แทน และสุดท้าย คานาโอะ ที่ถูกอุปการะมาเลี้ยง ไม่เคยมีความแค้นต่ออสูรเหมือนคนอื่น ๆ แต่ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมบททดสอบสุดท้ายและกลายมาเป็นสมาชิกหน่วยพิฆาตอสูรด้วยความตั้งใจของตัวเอง (เพราะไม่สามารถช่วยเหลืองานบ้านได้เหมือนคนอื่น ๆ จึงเลือกที่จะหันไปจับดาบเรียนรู้ปราณบุปผาด้วยตัวเอง อาศัยการดูจดจำท่วงท่ามาจากคานาเอะ เก่งสุดยอด!)




ยุคสมัยแห่ง Beauty Standard บรรทัดฐานความงามที่ไม่เป็นปัจเจกบุคคล  

ในยุคสมัยก่อนของญี่ปุ่น รวมไปถึงยุคไทโช สังคมจะค่อนข้างให้ความสำคัญกับหน้าตา รูปลักษณ์ที่เกลี้ยงเกลา เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่าแม้ในย่านเริงรมย์โยชิวาระที่มีมาตั้งแต่อดีตกาล และถูกหยิบยกเข้ามาเป็นหนึ่งพาร์ตของเนื้อเรื่อง ทันจิโร่ยังเคยถูกตำหนิว่าใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นแม้จะไม่มากก็ไม่สามารถให้ออกไปรับแขกได้ เพราะในสายตาคนทั่วไปในยุคไทโช บุคคลที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า เช่น ทันจิโร่ ซาบิโตะ ซาเนมิ (เสาหลักวายุ) เกนยะ เกียวเม (เสาหลักหินผา) จะถูกจัดว่าอัปลักษณ์ หรือน่าเกลียดกว่าคนทั่วไป

แต่ถึงแม้เราจะไม่นำบรรทัดฐานในสังคมปัจจุบันที่มีความตระหนักคิดเรื่อง Beauty Standard เพิ่มขึ้นมาบ้สง ไปตัดสินว่ายุคนั้นไม่ดี แต่อีกหนึ่งตัวละครที่เรารู้สึกว่าเธอได้รับความบอบช้ำจากบรรทัดฐานความงามในยุคสมัยไทโชเป็นอย่างมาก คือ เสาหลักความรัก คันโรจิ มิตซึริ จากเนื้อหาในมังงะเล่าว่าเธอคือผู้แข็งแกร่งที่มีความหนาแน่นของกล้ามเนื้อมากกว่าคนทั่วไปถึง 8 เท่า กินจุกว่านักซูโม่ 3 คนรวมกัน มีสีผมที่แปลกประหลาดจากผู้หญิงทั่วไป เป็นสีชมพูปลายเขียวอ่อน (เพราะชอบกินซากุระโมจิมากจนทำให้สีผมเปลี่ยนไปตาม) เพราะความแตกต่างของตัวเธอทำให้มิตซึริถูกปฏิเสธการดูตัวด้วยคำพูดที่ว่า ‘ผู้ที่จะแต่งงานกับคุณได้ คงมีแต่สัตว์ประหลาดอย่างหมีไม่ก็หมูป่ากระมัง สีผมที่แสนประหลาดนั่นด้วย แค่คิดว่าพันธุกรรมนั่นจะตกสู่ลูก ๆ ก็ขนลุกแล้ว’ จากประโยคนั้นทำให้มิตซึริเลือกที่จะย้อมผมตัวเองเป็นสีดำ อดกลั้นความอยากอาหารจนหน้ามืด พูดโกหกทำเป็นอ่อนแอให้เหมือนผู้หญิงทั่วไป จนกระทั่งมีผู้ชายมาบอกว่าอยากจะแต่งงานกับเธอ

อย่างไรก็ดี สุดท้ายมิตซึริก็คิดได้ว่าตัวเธอจะต้องปิดบังความเป็นตัวเองไปตลอดอย่างนั้นเหรอ เราอินกับประโยคตัดพ้อเชิงสงสัยในช่วงเกริ่นความหลังว่า ‘ฉันต้องไม่เป็นตัวฉันเหรอ? ตัวตนจริง ๆ ของฉันอาจจะมีประโยชน์กับผู้อื่นไม่ใช่เหรอ? ในโลกนี้จะไม่มีที่ยอมรับตัวตนจริง ๆ ของฉันเลยเหรอ?’ เพราะว่าแตกต่างจากบรรทัดฐานรูปลักษณ์ของสังคมจึงทำให้เจ็บปวด และมิตซึริก็ได้มาเข้าหน่วยพิฆาตอสูร สถานที่ที่ยอมรับและเคารพในสิ่งที่ตัวเธอเป็น และมาเข้าหน่วยพิฆาตอสูรเพื่อตามหาคู่รักที่อยู่เคียงข้างกันไปตลอดชีวิตอีกด้วย

จาก https://www.mangozero.com/taisho-jap-kimetsu-no-yaiba/

เนื้อหาสำรอง http://www.tairomdham.net/index.php/topic,16067.0.html



<a href="https://www.youtube.com/v/SZfnHBwPAUs" target="_blank">https://www.youtube.com/v/SZfnHBwPAUs</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/BCn3CEFVNTU" target="_blank">https://www.youtube.com/v/BCn3CEFVNTU</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/ZEES0swnsgQ" target="_blank">https://www.youtube.com/v/ZEES0swnsgQ</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/7kGZiIsIuMQ" target="_blank">https://www.youtube.com/v/7kGZiIsIuMQ</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/0DLbav1ZTEg" target="_blank">https://www.youtube.com/v/0DLbav1ZTEg</a>


<a href="https://www.youtube.com/v/jVIFF6kI9Ps" target="_blank">https://www.youtube.com/v/jVIFF6kI9Ps</a>


<a href="https://www.youtube.com/v/6LDt4ZHdsAg" target="_blank">https://www.youtube.com/v/6LDt4ZHdsAg</a>








Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 มกราคม 2566 18:12:40 โดย มดเอ๊ก » บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
เอาสตรีท แฟชั่น ของญี่ปุ่น มาฝาก น่ารัก ๆ ทั้งนั้น
สุขใจ ตลาดสด
หมีงงในพงหญ้า 0 1875 กระทู้ล่าสุด 20 มกราคม 2553 23:44:21
โดย หมีงงในพงหญ้า
dramma for demon
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
sometime 2 1542 กระทู้ล่าสุด 27 เมษายน 2553 14:52:39
โดย sometime
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.792 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 02 พฤษภาคม 2567 10:36:01