สรรพคุณของ "เห็ด" ชนิดต่างๆ

สรรพคุณของเห็ดชนิดต่างๆ

จากการค้นคว้าของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบสรรพคุณของเห็ดแต่ละชนิดดังนี้

เห็ดหอม ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด และเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสและมะเร็ง โดยในเห็ดหอมมีกรดอะมิโนอยู่ถึง 21 ชนิด อุดมด้วยวิตามินเอ และมีวิตามินบี 1 บี 2 สูงพอๆ กับยีสต์ ทั้งมีวิตามินดีสูง ช่วยบำรุงกระดูก และมีปริมาณโซเดียมต่ำ เหมาะสำหรับ ผู้เป็นโรคเกี่ยวกับไต นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัสและเหล็ก จึงช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

เห็ดหูหนู เป็นกลุ่มคาร์โบไฮเดรต สามารถเพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาวในผู้สูงอายุ ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้น รวมทั้งช่วยรักษาโรคกระเพาะและริดสีดวง ช่วยบำรุงกระเพาะ สมอง หัวใจ ปอด ตับ ทั้งนี้ แพทย์แผนจีนใช้เป็นอาหารบำรุงไตให้แข็งแรง ลดไข้ แก้ไอ กระตุ้นการทำงานของลำไส้ บำรุงร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ กระจายโลหิต แก้ร้อนใน กระหายน้ำ และต้มกับน้ำตาลกรวดจิบแก้ไอ

เห็ดฟาง ช่วยลดความดันโลหิตและเร่งการสมานแผล บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง บำรุงตับแก้ช้ำใน, เห็ดเข็มทอง รับประทานเป็นประจำจะช่วยรักษาโรคตับ กระเพาะและลำไส้อักเสบเรื้อรัง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่เยื่อบุช่องท้อง ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน, เห็ดนางฟ้า เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดนางรม เห็ดภูฏาน ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ลดน้ำตาลในเลือด ปรับสภาพความดันโลหิต ลดการอักเสบ ยังยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย

เห็ดหลินจือ มีสารสำคัญเบต้ากลูแคน ซึ่งมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง คนญี่ปุ่นมักใช้ควบคู่กับการรักษาโรคมะเร็งและโรคผู้สูงอายุ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูง สามารถรักษาโรคในระบบต่างๆ ในร่างกายได้ 3 ระบบ คือ 1.ระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะ ท้องผูก ริดสีดวงทวาร 2.ระบบทางเดินหายใจ เช่น อาการไอ แก้ปอดอักเสบ ภูมิแพ้ และ 3.ระบบการไหลเวียนของเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ลดคอเลสเตอรอล

เห็ดป่า จากป่าธรรมชาติ จังหวัดหนองบัวลำภู

ส่วนเห็ดป่าในธรรมชาติ พบสรรพคุณ เห็ดเผาะ เห็ดถอบ บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง แก้ช้ำใน, เห็ดโคน บำรุงร่างกาย ทำให้แช่มชื่น กระจายโลหิต ยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ และเห็ดตับเต่า บำรุงร่างกาย กระจายโลหิตดับพิษร้อนภายในร่างกาย

เห็ดจัดอยู่ในกลุ่มของราประเภทหนึ่ง อุตสาหกรรมการเพาะเห็ดในช่วงปี ค.ศ.1991-1994 ได้เพิ่มขึ้นถึง 30.5% และมีเห็ดเพียง 10 ชนิดที่มีการเพาะกันมากถึง 95% ของเห็ดทั้งหมด โดย 6 อันดับแรกได้แก่ เห็ดกระดุม เห็ดหอม กลุ่มเห็ดนางรม เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดหูหนู และเห็ดฟาง ทั้งนี้ นอกจากจะบริโภคเห็ดเป็นอาหารได้แล้วยังมีเห็ดบางชนิดที่จัดเป็นอาหารเสริมและมีการผลิตสารสกัดจากเห็ด และเห็ดบางชนิดมีสรรพคุณเป็นยามีการสกัดสารบริสุทธิ์จากเห็ดใช้เป็นยารักษาโรค โดยที่ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการวิเคราะห์และทางเทคโนโลยีชีวภาพได้ช่วยให้นักวิจัยสามารถศึกษาสารสำคัญที่ออกฤทธิ์เป็นยาในเห็ดได้มากยิ่งขึ้น

จากการศึกษาในห้องปฏิบัติการและการศึกษาทางคลินิก พบว่าเห็ดมีสารซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และบางชนิดยับยั้งการเจริญของก้อนเนื้องอก การค้นพบสารสำคัญที่มีคุณสมบัติเป็นยานี่เองที่ทำให้นักวิจัยค้นคว้าหาวิธีการผลิตสารนี้ให้ได้ปริมาณมากขึ้น

ข้อมูล : หนังสือพิมพ์รายวันข่าวสด