|
หัวข้อ: ชะอม ดับร้อน ชะลอความแก่ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 30 กรกฎาคม 2564 20:02:50 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/67754423866669_14079886_1729248673991516_2023.jpg) ชะอม ดับร้อน ชะลอความแก่ ชะอม ชื่อสามัญ Climbing Wattle,Acacia,Cha-om ชื่อวิทยาศาสตร์ Acacia pennata (L) Willd จัดอยู่ในวงค์ถั่ว (fabaceae หรือ leguminosae) และอยู่ในวงค์ย่อยสีเสียด (mimosoideae หรือ mimosaceae) ผักชะอม มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ เช่น ผักหละ (ภาคเหนือ) อม (ภาคใต้) ผักขา (ภาคอีสาน อุดรธานี) พูซูเด๊าะ (แม่ฮ้องสอน) โพซุยโดะ (กระเหรี่ยง)เป็นต้น ชะอมมี 2 ชนิด คือชะอมบ้านและชะอมป่า ชะอมบ้านเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กส่วนชะอมป่าเป็นไม้รอเลื้อย คนส่วนใหญ่นิยมกินชะอมบ้านเพราะปลูกกันทั่วไป ชะอมมีสรรพคุณทางยา รากมีรสจืดฝาดเล็กน้อย ใช้ต้มเป็นยาแก้กรดไหลย้อนและโรคในช่องท้อง ส่วนใบและยอดอ่อนบางบ้านนำไปชุบไข่ทอดกินกับน้ำพริกหรือใส่แกงส้ม บางบ้านใส่ในแกงเปรอะ กินแล้วช่วยแก้ปวดเมื่อย บำรุงธาตุ แต่กินบ่อยๆ ไม่ดี โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคปวดกระดูก ปวดข้อ โรคเกาต์ ส่วนเปลือกต้น คนสมัยก่อนเอามาต้มกับน้ำ ทิ้งไว้ให้เย็นจะเกิดฟอง เอาไปซักผ้าล้างคราบสกปรกเหมือนผงซักฟอกทั่วไป ชะอมเป็นผักที่ช่วยระบายความร้อน ดังนั้นจึงเป็นผักที่เหมาะกับการกินในหน้าร้อนจริงๆ และถ้าปลูกเองได้ก็จะช่วยประหยัดค่ากับข้าวด้วย นอกจากจะช่วยระบายความร้อนในร่างกายแล้ว ชะอมยังช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นชะอมยังเหมาะสำหรับ “คนวัยทอง” เพราะมีแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัสสูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันรวมถึงเส้นเอ็น เพราะคนวัยนี้จะปวดเมื่อยตามร่างกายได้ง่าย ที่สำคัญในชะอมมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยชะลอวัยได้อีกด้วย ถึงแม้ชะอมจะเป็นของดี แต่ก็เป็นของต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยโรคเกาต์ เนื่องจากมีกรดยูริกสูง เมื่อกินเข้าไปจะกระตุ้นให้โรคเกาต์กำเริบได้ และสำหรับมารดาที่ให้นมบุตรก็ไม่ควรกินชะอม เพราะจะทำให้มีน้ำนมน้อยลง รู้สรรพคุณของชะอมกันแล้วก็รีบทำเมนูชะอมทานกัน ขอขอบคุณที่มา (ข้อมูล/ภาพ) : ส่วนพัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช |