[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ไปเที่ยว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 17 เมษายน 2557 14:42:04



หัวข้อ: พระมงคลบพิตร พระนครศรีอยุธยา พุทธอนุสรณ์หลังเสียกรุงฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 เมษายน 2557 14:42:04
.

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/53880624845623__3617_3588_3621_4.gif)

พระมงคลบพิตร
วัดมงคลบพิตร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

พระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และสำคัญในประเทศไทยซึ่งมีประชาชนมาสักการบูชาขอพรกันมาก และได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์มาหลายครั้งทั้งในสมัยกรุงศรีอยุธยาและหลังเสียกรุง

พระมงคลบพิตร ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างมาตั้งแต่เมื่อใด สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น สังเกตดูจากพระพักตร์แม้จะมีพุทธลักษณะค่อนข้างเป็นวงรีแล้ว แต่ก็ยังคงเห็นเค้าพระพักตร์เป็นเหลี่ยมอยู่ ซึ่งเป็นพุทธลักษณะแบบอยุธยาตอนต้น

เมื่อพิจารณาถึงเส้นพระขนงที่โค้ง ก็จะพบว่าเป็นศิลปะที่ผสมผสานกับศิลปะสุโขทัยอีกด้วย องค์พระก่อด้วยอิฐแล้วหุ้มด้วยสัมฤทธิ์แผ่น นับเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย

มีหลักฐานว่า เมื่อปี พ.ศ. ๒๑๔๖ พระเจ้าทรงธรรม ได้โปรดเกล้าฯ ให้ชะลอหลวงพ่อวัดมงคลบพิตร จากด้านตะวันออกของวัดหลวงมาไว้ทางด้านตะวันตก ณ ที่ประดิษฐานในปัจจุบัน และยังได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างมณฑปครอบไว้ ต่อมาในสมัยพระพุทธเจ้าเสือ เกิดอสุนีบาตต้องยอดพระมณฑปเกิดไฟไหม้พังลงมาต้องพระศอของพระมงคลบพิตรหัก พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้รื้อเครื่องนอกออกแล้วสร้างใหม่เป็นพระวิหาร แต่คงทำเครื่องยอดอย่างมณฑปของเดิม ต่อมาในสมัยพระเจ้าบรมโกศได้โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศรเป็นแม่กองบูรณปฏิสังขรณ์และรื้อยอดมณฑปเดิมเปลี่ยนเป็นพระวิหาร ครั้นถึงปี พ.ศ. ๒๓๑๐ ได้เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ วิหารพระมงคลบพิตรได้ถูกเพลิงเผาผลาญ จนเครื่องบนของพระวิหารพังลงมา ถูกพระเมาฬีและพระกรขวาขององค์พระเสียหาย

ครั้นถึงประมาณปี พ.ศ. ๒๔๕๗-๒๔๖๐ พระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์) ดำรงตำแหน่งที่สมุหเทศาภิบาลมณฑลอยุธยา ได้เริ่มปฏิสังขรณ์หลวงพ่อมงคลบพิตรเป็นครั้งแรก โดยได้ซ่อมพระเมาฬีและพระกรขวาด้วยปูนปั้น ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๔ คุณหญิงอมเรศร สมบัติ ได้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์เพื่อบูรณะฐานพระมงคลบพิตร ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเห็นว่าพระมงคลบพิตรเป็นพระพุทธรูปสำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้ตั้งงบประมาณเพื่อบูรณะให้มีสภาพเดิม ตลอดจนได้สร้างพระมหาวิหารเพื่อประดิษฐานพระมงคลบพิตรดังที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/66452449725733__3617_3588_3621_.gif)
พระมงคลบพิตร หลังเสียกรุงฯ
พระมงคลบพิตรนี้ได้ถูกไฟไหม้ พระวิหารเครื่องบนหักลงมา
ต้องพระเมาฬีและพระกรขวาหัก


วิหารพระมงคลบพิตร อยุธยา มีประวัติความเป็นมาแยกเป็น ๒ ส่วน คือ องค์พระ กับวิหาร
 
องค์พระ (มงคลบพิตร) สร้างก่ออิฐบุทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง ๑๐ เมตร สูง ๑๒ เมตร มีร่องรอยระบุว่าน่าจะสร้างขึ้นเรือน พ.ศ. ๒๐๐๐ (พงศาวดารว่าสร้าง พ.ศ. ๒๐๘๑)
 
สร้างเป็นพระกลางแจ้ง องค์ใหญ่โดดๆ ไม่มีหลังคาคลุม ตามความศรัทธานิยมของยุคนั้น อยู่ในวัดลีเชียง(ชีเชียง) ทางด้านตะวันออกของปัจจุบัน
 
วิหาร มีขึ้นสมัยหลังมากแล้ว เริ่มจากพระเจ้าทรงธรรม ย้ายองค์พระจากตะวันออกเลื่อนไปทางตะวันตก(ที่ตั้งปัจจุบัน) แล้วก่อมณฑปครอบองค์พระเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๑๕๕
 
พระเจ้าแผ่นดินรัชกาลต่อๆ มาแปลงมณฑปเป็นวิหาร สืบมาจนเสียกรุง พ.ศ. ๒๓๑๐ ไม่เคยพบหลักฐานว่าพม่าเผาวิหารพระมงคลบพิตร มีแต่จินตนาการ
 
วิหารพระมงคลบพิตร ถูกโจรผู้ร้ายพื้นเมืองลักลอบขุดหาสมบัติหลังกรุงแตก รวมทั้งกาลเวลานับร้อยปีทำลายตามธรรมชาติให้เหลือเป็น “ซาก”
 
ต่อมาผู้คนทั่วไปยกย่อง “ซาก”เป็นสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ของ“อยุธยากรุงเก่า” จะเห็นรูปถ่ายแพร่หลายทั่วไป ตั้งแต่ยุคแรกมีการท่องเที่ยวแล้วอยู่ในความทรงจำตราบทุกวันนี้
 
ปัจจุบันได้ทำลาย“ซาก”กลายเป็นวิหารใหม่ สร้างใหม่เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐
 
ควรสร้างอาคารโล่งโถงขนาดเล็กหลบไว้ด้านข้าง ทางทิศใต้วิหาร เป็นที่จัดแสดงภาพถ่ายและผังภูมิสถานวิหารมงคลบพิตรที่สัมพันธ์กับพระราชวังหลวง พระนครศรีอยุธยาโบราณ เพื่อแบ่งปันและเผยแพร่ความรู้อย่างเคารพนบนอบและอ่อนน้อม



ข้อมูล หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันอังคารที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓ และ นสพ.ข่าวสด น. ๒๘ ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/47443308970994_1.JPG)
พระมงคลบพิตร พระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย
รูปลักษณ์ปัจจุบัน ภายหลังจากการบูรณะแล้ว

ภาพล่าง "เศียรพระสมัยอยุธยา" ประดิษฐานที่วัดมงคลบพิตร พระนครศรีอยุธยา
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/41211931241883_2.JPG)
พระสมัยอยุธยา

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/16998369039760_3.JPG)
พระสมัยอยุธยาตอนกลางพบที่วัดโลกยสุธา

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/86758785777621_4.JPG)
พระสมัยอยุุธยาตอนต้นพบที่วัดวรโพธิ์

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/25065675460629_5.JPG)
พระทรงเครื่องหูตุ้มสมัยอยุธยาตอนต้นพบที่วัดวรโพธิ์


ภาพล่าง "พระมงคลบพิตร" หลังถูกไฟไหม้เมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยา

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/71353215227524__3617_3591_3588_2.gif)
ภาพพระวิหารพระมงคลบพิตรนี้ได้ถูกข้าศึกทำลาย เมื่อ พ.ศ.๒๓๑๐
จนถึง พ.ศ.๒๔๙๙ รวมระยะเวลา ๑๘๙ ปี จึงบูรณะพระวิหารใหม่

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/41036374908354__3617_3591_3588_3.gif)
พระมงคลบพิตร พระยาโบราณฯ ปฏิสังขรณ์เฉพาะพระเมาฬีและพระกรขวาที่หักด้วยปูนปั้น
เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๖๓ ยังเห็นลวดลายแท่นฐานปูนของเก่าสมัยพระเจ้าบรมโกศบ้างพอสมควร

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/72868800949719_SAM_3883.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/84641487648089_SAM_3862.jpg)