หัวข้อ: พระเทพรัตนกวี (สุรินทร์ ชุตินธโร) วัดมหาธาตุ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 21 สิงหาคม 2562 18:13:55 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/37831607129838__1_320x200_.jpg) พระเทพรัตนกวี (สุรินทร์ ชุตินธโร) วัดมหาธาตุ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พระเทพรัตนกวี (สุรินทร์ ชุตินธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ พระอารามหลวง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูป เป็นพระนักปกครองและพระนักเผยแผ่พระพุทธศาสนา จัดระเบียบการบริหารงานของคณะสงฆ์ ปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ มีนามเดิมว่า สุรินทร์ แย้มสุข เกิดเมื่อวันที่ 15 ก.พ.2480 ที่บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 1 ต.พยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ อายุ 18 ปี บรรพชาที่วัดเนินเหล็ก ต.เนินเหล็ก อ.เมือง จ.อุทัยธานี มีพระครูอุดมธรรมภาณ วัดทัพทัน อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี เป็นพระอุปัชฌาย์ มุ่งมั่นเล่าเรียนพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท และเอก ตามลำดับ อายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดเนินเหล็ก อ.เมือง จ.อุทัยธานี เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2502 มี พระครูอุทัยธรรมวินิจ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูอุกฤษฎ์สุตการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์บุญธรรม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ จากนั้นออกเดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ที่วัดโพธาราม อ.เมือง นครสวรรค์ และสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค รวมทั้งสอบได้วิชาชุดครูมูล จากนั้นหันมาศึกษาด้านอภิธรรม และศึกษาเพิ่มเติมพระวินัยปิฎก, พระสุตันตปิฎก เป็นภาษาอังกฤษกับพระอาจารย์อูมานันทะ, พระอภิธรรมปิฎก ภาษาอังกฤษ กับพระอูโสภณะ พระสงฆ์ชาวพม่า ต่อมา พระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโพธาราม เปิดสำนักเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดโกรกพระใต้ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ จึงส่งท่านไปเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ทั้งแผนกนักธรรมและบาลี พร้อมกับศึกษาบาลีควบไปกับการสอนด้วย จนสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค พ.ศ.2513 พระธรรมคุณาภรณ์ เปิดสำนักเรียนปริยัติธรรม แผนกนักธรรมและบาลี ที่วัดมหาธาตุ อ.เมืองเพชรบูรณ์ จึงถูกส่งมาเป็นครูสอนที่วัดมหาธาตุ พร้อมกับสอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค พ.ศ.2513 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกนักธรรมและบาลี รวมทั้งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ และเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ พ.ศ.2515 เป็นเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ พ.ศ.2540 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ.2560 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ ผลงานด้านสาธารณูปการ พ.ศ.2523 เป็นผู้จัดทอดกฐิน (กฐินตกค้าง) นำไปทอดยังวัดที่ไม่มีผู้จองปีละ 100 วัด โดยการชักชวนผู้มีจิตศรัทธาให้เป็นเจ้าภาพ ได้เงินถวายวัดรวมทั้งหมดกว่า 3.6 ล้านบาท กิจกรรมดังกล่าวเป็นที่โดดเด่นของวัดมหาธาตุ ซึ่งได้ถือปฏิบัติกันสืบมาจนถึงปัจจุบัน กลายเป็นประเพณีของวัดมหาธาตุ ด้วยเหตุนี้ พระเทพรัตนกวีจึงได้รับสมญานามจากชาวบ้านด้วยความรักและศรัทธาว่า "เจ้าคุณกฐินตก" ท่านยังรับกิจนิมนต์ให้ไปแสดงปาฐกถาธรรมตามสถานที่ต่างๆ มากมาย เนื่องจากเป็นผู้แตกฉานในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า และเป็นเจ้าของรายการพุทธภาษิตสะกิดใจของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.เพชรบูรณ์ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ท่านจะนำพุทธภาษิตขึ้นมาอธิบายให้ความหมายประกอบเรื่องราวต่างๆ ในชาดก จนมีผู้ฟังติดกันงอมแงม จนได้รับการยกย่องให้เป็นพระธรรมนิเทศก์ ที่แสดงธรรมและอรรถาธิบายธรรมได้อย่างดียิ่ง ท่านยังจัดทำโครงการสร้างพระพุทธรูป มอบไว้ประจำสถานศึกษา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา เพื่อให้ข้าราชการครู นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ได้สักการบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล สืบทอดพระพุทธศาสนา ปัจจุบัน สร้างพระพุทธรูปและมอบให้โรงเรียนต่างๆ จำนวน 120 โรงเรียน ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2517 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนามที่ พระศรีพัชโรดม พ.ศ.2543 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชพัชราภรณ์ พ.ศ.2551 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพรัตนกวี ช่วงบั้นปลายชีวิต มีอาการอาพาธบ่อยครั้ง ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ กระทั่ง วันที่ 27 ธ.ค.2561 เวลา 09.29 น. มรณภาพอย่างสงบ ด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สิริอายุ 81 ปี พรรษา 59 ข่าวสดออนไลน์ [ |