พระอุดมญาณโมลี หลวงปู่ใหญ่แห่งอีสาน

พระอุดมญาณโมลี หลวงปู่ใหญ่แห่งอีสาน

พระมหาเถระผู้รัตตัญญูเปี่ยมด้วยเมตตาธรรมสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พ่อแม่ครูบาอาจารย์สายวัดป่ากัมมัฏฐานแห่งภาคอีสาน

"พระอุดมญาณโมลี" หรือหลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่ชาวบ้านกล่าวขวัญ ด้วยความเคารพนับถืออย่างสูงว่า "หลวงปู่ใหญ่"

ถือกำเนิดในสกุล แสนมงคล เมื่อวันอังคารที่ 10 ต.ค.2454 ณ บ้านโนนทัน ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

เป็นเด็กที่มีอุปนิสัยเรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย ซื่อสัตย์สุจริต มีเมตตาปรานี ไม่ชอบเบียดเบียนรังแกสัตว์ ฝักใฝ่สนใจในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่ยังเล็ก ประกอบกับครอบครัวก็มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา หมั่นทำบุญกุศลเป็นประจำ ทำให้ได้ก้าวเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ได้อย่างราบรื่น

อีกทั้งท่านได้ประสบกับช่วงชีวิตในวัยเด็กที่แสนลำบาก ทำให้มองเห็นถึงความยากลำบากของการใช้ชีวิต

จนเมื่ออายุได้ 10 ขวบ มารดาได้นำไปฝากไว้ที่วัดโพธิ์ศรี และได้เริ่มเรียนภาษาไทยที่โรงเรียนประชาบาล ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนภาษาไทยในวัด เด็กชายจันทร์ศรีได้รับความเมตตาจากเจ้าอธิการเป๊ะ ธัมมเมตติโก ได้เมตตานำเข้าเรียน ศึกษาจนจบชั้นประถม 3 ก็หมดชั้นเรียน ผลการสอบผ่านปกติ

อายุครบ 14 ปี ได้เป็นครูสำรองช่วยสอน และช่วงวัยนี้เองที่ได้เดินเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์เป็นครั้งแรกและครองตนอยู่ในสมณเพศเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีท่านหลวงพ่อเป๊ะ เป็นพระอุปัชฌาย์

หลวงพ่อเป๊ะมีเมตตาและเอ็นดู จึงสอนให้ท่องแบบปากต่อปาก เริ่มตั้งแต่ทำวัตรเช้าเย็น สวดมนต์เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน และพระสูตรต่างๆ ได้คล่องแคล่ว แล้วให้เรียนอักษรธรรม อักษรธรรมประจำภาคอีสาน อักษรขอม ภาษาเขมร จนอ่านออกเขียนได้คล่องแคล่ว และได้ฝึกเทศน์มหาชาติชาดกประจำภาษาพื้นเมืองของภาคอีสาน ซึ่งได้ตามนิยมมากในสมัยนั้น หลวงปู่ได้บวชเป็นเณรสังกัดมหานิกายอยู่ 4 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2468-2471

พออายุ 17 ปี ก็ขอญัตติเป็นธรรมยุตและเริ่มออกธุดงค์กัมมัฏฐานเรื่อยมา โดยมีพระครูบาอาจารย์หลายท่านที่เมตตาธรรมอบรมสอนข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ

เดินทางธุดงค์มุ่งสู่หนทางแห่งความหลุดพ้นตามรอยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นหนทางที่ยากลำบาก ขณะเดียวกัน ต้องคอยโปรดญาติโยมที่มีความเชื่อเรื่องภูตผีปีศาจ งมงายไสยศาสตร์ ซึ่งถือเป็นภาระหน้าที่ใหญ่หลวงของพระกัมมัฏฐานในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก การโปรดญาติโยมให้เลิกถือผีให้มาถือคุณพระรัตนตรัยและศีล 5 เป็นที่พึ่ง ถือว่าเป็นความเมตตาอันสูงส่งของพระกัมมัฏฐานในสมัยนั้น

กระทั่งเมื่อวันที่ 13 ม.ค.2474 เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีหลวงปู่จันทร์ เขมิโย เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาธโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลวงปู่จันทร์ศรีเล่าให้ลูกศิษย์ลูกหาฟังอยู่เสมอว่า ที่อยู่ในพระพุทธศาสนาจนตลอดรอดฝั่งและได้รับความผาสุกร่มเย็นมาเป็นลำดับ ก็เพราะช่วงหนึ่งในชีวิตของท่านได้อุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้รับการฝึกหัดทรมานจนได้หลัก ในการปฏิบัติเรื่อยมา ซึ่งโอวาทธรรมของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ประดุจแสงสว่างนำกำไรแห่งชีวิตพรหมจรรย์มาสู่หลวงปู่ตราบจนทุกวันนี้

ตลอดเส้นทางของหลวงปู่ในร่มผ้ากาสาวพัสตร์นั้น ท่านเสียสละเพื่อธำรงพระพุทธศาสนา และศาสนกิจด้านต่างๆ ทั้งด้านการศึกษาและเผยแผ่ อุปถัมภ์สร้างโรงเรียนปริยัติธรรม สร้างตึกสงฆ์อาพาธให้กับร.พ. อุดรธานี สร้างหอพักผู้ป่วยพิเศษ บูรณปฏิสังขรณ์วัดโพธิสมภรณ์ เพื่อยังประโยชน์ด้านการใช้สอยของคณะสงฆ์และญาติโยม

พระอุดมญาณโมลี ยึดหลักในการปฏิบัติเสมอมาคือ "กยิรา เจ กยิราเถนํ" ถ้าจะทำการใด ให้ทำการนั้นจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างถ้ามีความขยันหมั่นเพียร สิ่งนั้นต้องสำเร็จตามความตั้งใจจริง

ท่านจึงเป็นพระสงฆ์ที่ประชาชนชาวอุดรธานีและใกล้เคียงให้ความศรัทธามาก

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 14 ธ.ค.2559 พระอุดมญาณโมลี หรือหลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป ละสังขารอย่างสงบ ที่ร.พ.จุฬาลงกรณ์ สิริอายุ 105 ปี 85 พรรษาท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและคณะศิษยานุศิษย์

ข่าวสดออนไลน์