[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
16 พฤษภาคม 2567 19:23:45 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - ที่ปรึกษานายกชี้ออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ขัด รธน.  (อ่าน 101 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2566 10:26:07 »

ที่ปรึกษานายกชี้ออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ขัด รธน.
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-11-12 09:41</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'พิชิต ชื่นบาน' ที่ปรึกษานายก ชี้รัฐบาลใช้วิธีออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน ดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เปิดทางให้รัฐสภาตรวจสอบถ่วงดุล - รองเลขาธิการเพื่อไทยถามคนค้านดิจิทัลวอลเล็ต สะท้อนไม่เข้าใจถ่องแท้ วอนผู้วิจารณ์อย่ายัดเยียดความกลัว ความกังวล มาเป็นข้อจำกัดความเจริญประเทศ</p>
<p>เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2566 พิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตราพระราชบัญญัติกู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่าพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ได้กำหนดหลักการเกี่ยวกับวินัยการเงินการคลังและช่วยให้หน่วยงานของรัฐมีการรักษาวินัยการเงินการคลังและดำเนินนโยบายด้านการคลังตามกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้ รวมทั้งกำหนดหลักการให้รัฐบาลสามารถตรากฎหมายพิเศษเพื่อกู้เงินได้ โดยเงินที่กู้กระทรวงการคลังจะเก็บไว้เพื่อจ่ายออกไปตามโครงการเงินกู้ ไม่ต้องนำส่งคลังเพื่อเข้าบัญชีเงินคงคลัง ทำให้ปัจจุบันรัฐบาลสามารถตรากฎหมายพิเศษเพื่อกู้เงินและจ่ายเงินแผ่นดินตาม พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ ได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 140 แต่อย่างใด</p>
<p>การตรากฎหมายพิเศษเพื่อกู้เงินตาม พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ มาตรา 53 นั้น วรรคคหนึ่ง บัญญัติว่า “การกู้เงินของรัฐบาลนอกเหนือจากที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ ให้กระทรวงการคลังกระทำได้ก็แต่โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายที่ตราขึ้นเป็นการเฉพาะ และเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ โดยไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน”</p>
<p>วรรคสอง บัญญัติว่า “กฎหมายที่ตราขึ้นตามวรรคหนึ่ง ต้องระบุวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ระยะเวลาในการกู้เงิน แผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ วงเงินที่อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินกู้ และหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินแผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้นั้น”</p>
<p>และวรรคสาม บัญญัติว่า “เงินที่ได้รับจากการกู้เงินตามวรรคหนึ่ง ให้กระทรวงการคลังเก็บรักษาไว้เพื่อให้หน่วยงานของรัฐเบิกไปใช้จ่ายตามแผนงานหรือโครงการตามที่กฎหมายกำหนดได้โดยไม่ต้องนำส่งคลัง เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น” จากบทบัญญัติในมาตรา 53 เห็นได้ว่า กรอบและเงื่อนไขในการออกกฎหมายเพื่อการกู้เงินของรัฐบาลมีได้ในกรณีที่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน โดยต้องระบุวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ระยะเวลาในการกู้เงิน แผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ วงเงินที่อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินกู้ และหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินแผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้</p>
<p>ส่วนรูปแบบของกฎหมายเฉพาะเพื่อกู้เงินตามมาตรา 53 สามารถกระทำได้ 2 รูปแบบ คือ “รูปแบบของพระราชบัญญัติ” หรือ “รูปแบบของพระราชกำหนด” หาใช่กระทำได้เฉพาะในรูปแบบของพระราชกำหนดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะถ้อยคำใน พ.ร.บ. วินัยการเงินฯ มาตรา 53 วรรคหนึ่ง กำหนดเพียงว่า “มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ” ซึ่งถ้อยคำนี้มีความแตกต่างกับเงื่อนไขในการตราพระราชกำหนดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรคสอง ที่กำหนดว่า “เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้”</p>
<p>ดังนั้น ความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่องตามความหมายในพ.ร.บ. วินัยการเงินฯ มาตรา 53 จึงไม่ต้องถึงขนาดที่จะต้องเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรคสอง แต่อย่างใด เพราะหากถึงขนาดที่เป็นกรณีฉุกเฉิน รัฐบาลย่อมสามารถออกกฎหมายเพื่อกู้เงินโดยตราพระราชกำหนดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 ได้อยู่แล้ว</p>
<p>“ด้วยเหตุนี้หากรัฐบาลพิจารณาแล้วเห็นว่า สถานการณ์ในปัจจุบันมีปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจของประเทศที่ความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ และโครงการเติมเงิน10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet จะส่งผลให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นผ่านการบริโภคและการลงทุน รวมทั้งจะเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อนำไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต รัฐบาลย่อมสามารถตรากฎหมายเฉพาะเพื่อกู้เงิน โดยรูปแบบของพระราชบัญญัติได้ตามพ.ร.บ. วินัยการเงินฯ มาตรา 53 และไม่ถือว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 140 และมาตรา 62 ประการใด” พิชิต กล่าว</p>
<p>นายพิชิต กล่าวว่า การที่รัฐบาลได้เลือกรูปแบบของกฎหมายเพื่อกู้เงินโดยออกเป็นพระราชบัญญัติแทนที่จะออกเป็นพระราชกำหนดนั้น รัฐบาลมีเจตนาที่จะให้กระบวนการตราพระราชบัญญัติเพื่อกู้เงินนี้ ได้โดยผ่านการตรวจสอบ ถ่วงดุลตามกลไกของรัฐสภา เพื่อให้รัฐสภาซึ่งเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยได้ร่วมกันพิจารณาทบทวนเหตุผลความจำเป็น วัตถุประสงค์ ระยะเวลา และแผนงานหรือโครงการ ฯ อีกครั้งหนึ่ง อันเป็นกระบวนการตรวจสอบตามครรลองในวิถีทางของประชาธิปไตย และยังเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาที่อาจมีความเห็นในประเด็นต่าง ๆ สามารถส่งเสนอความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตรวจสอบร่างพระราชบัญญัติกู้เงินว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ได้อีกทางหนึ่ง</p>
<p>ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ได้กระทำบนพื้นฐานโดยสุจริตและมิได้ใช้ดุลพินิจบิดเบือนหลักการของรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด รวมทั้งไม่มีเจตนาซ่อนเร้นหรือแอบแฝงเพื่อหาทางลงตามที่มีหลายฝ่ายวิจารณ์แต่ประการใด เพราะรัฐบาลเห็นว่าโครงการฯดังกล่าวมีความสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสามารถช่วยเหลือประชาชนครอบคลุมมากกว่า 50 ล้านคน ทั้งนี้ เราต้องไม่ลืมว่า ยังมีประชาชนอีกมากมายที่ยังคงเฝ้ารอโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet อยู่ เพราะเงินจำนวนดังกล่าวสามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้มาก ยกตัวอย่างครอบครัว ที่มีพ่อ แม่ และลูก เข้าเงื่อนไขรับเงิน 10,000 บาท แสดงว่าครอบครัวนี้สามารถมีเงินมาหมุนเวียนในชีวิตประจำวัน ถึง 30,000 บาท ซึ่งช่วยให้ประชาชนสามารถคิด วางแผน เพื่อนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ หรือหารายได้เพิ่มเติมได้อีกช่องทางหนึ่ง</p>
<p>นายพิชิต กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่นักวิชาการวิจารณ์ว่า โครงการฯ ดังกล่าวไม่ตรงปก เพราะเป็นการกู้มาแจก 100% ไม่เหมือนตอนยื่นนโยบายต่อ กกต. ที่บอกจะนำเงินมาจากงบประมาณแผ่นดิน นั้น ขออธิบายว่าในประเด็นนี้เมื่อครั้งที่พรรคเพื่อไทย ได้มีการชี้แจง กกต. ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2660 มาตรา 57 พรรคเพื่อไทยได้มีการระบุเงื่อนไขว่าอย่างชัดเจนว่า “ที่มาของวงเงินที่จะใช้ในการดำเนินการสามารถปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ด้านการคลังของประเทศ”</p>
<p>เมื่อวันนี้ รัฐบาลได้หาข้อสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนแล้ว เห็นว่าในการกระตุ้นและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจต้องมีการเติมเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจมูลค่า 6 แสนล้านบาท โดยจะต้องออกเป็น พ.ร.บ. กู้เงิน จำนวน 5 แสนล้านบาท และมาจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จำนวน 1 แสนล้านบาท จึงเป็นการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ด้านการคลังของประเทศตามที่ได้แจ้งต่อ กกต. แล้ว</p>
<p>“อยากฝากประเด็นให้คิดว่าการออก พ.ร.บ.กู้เงินในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อนำประเทศไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล แม้อาจมีหลายฝ่ายมีข้อกังวลเกี่ยวกับการออก พ.ร.บ. กู้เงิน ว่าอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่การตีความกฎหมายนั้น ดังสุภาษิตที่ว่า สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวพราย จึงเป็นเรื่องสองคนย่อมเห็นต่างกันได้อย่างสร้างสรรค์ แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและที่สำคัญประชาชนรอความหวังกับโครงการนี้อยู่ ตนเห็นข่าวยายอายุ 71 ปี ที่กระโดดลงไปในน้ำเพื่อตามธนบัตรใบหนึ่งพันบาทเพียงใบเดียว สุดท้ายตกลงไปในน้ำโดยไม่ห่วงชีวิต จึงอยากสะท้อนให้เห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำของประเทศที่หากเรามองปัญหามาจากหอคอยงาช้างย่อมไม่อาจเห็นปัญหาที่อยู่จุดข้างล่างได้” พิชิต ระบุ</p>
<p>นายพิชิต กล่าวว่า ท้ายสุดหากเรื่องนี้ไปอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นนี้เอง อย่างไรก็ตามเมื่อวิกฤติปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ และมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดปัญหาอีกหลายประการตามมา รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน จึงมีหน้าที่ที่จึงต้องรีบดำเนินการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นเสียก่อน เพราะทุกปัญหาย่อมมีไว้ให้แก้ แต่ผู้นำที่ดีย่อมแก้ก่อนมีปัญหา</p>
<h2><span style="color:#3498db;">โฆษกรัฐบาลชี้แจงทุกคำตอบเกี่ยวกับ Digital wallet ผ่านข้อมูล infographics ตอบคำถามคาใจประชาชน</span></h2>
<p><img alt="" src="https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2023/11/11/1270983/1699700924_256322-tnamcot-1024x556.jpg" /></p>
<p>ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยแพร่ infographics คำถามคาใจ Digital Wallet ฉบับประชาชน ตอบทุกคำถามที่ประชาชนสงสัยต่อนโยบาย Digital Wallet</p>
<p>โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงประเด็นที่ยังมีข้อสงสัยต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ในสังคมไทยผ่าน infographics เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจถึงแนวคิด หลักคิด การดำเนินมาตรการ ซึ่งล้วนเกิดขึ้นจากการพิจารณาอย่างถ้วนถี่ของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องการกระตุ้นการใช้จ่ายให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เพิ่มโอกาส ยกระดับวิถีชีวิต พัฒนาความเป็นอยู่ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม</p>
<p>“นายกรัฐมนตรียืนยันการทำงานตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ต้องการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และที่สำคัญที่สุดคือทำให้ชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้น ซึ่งมีหลายการทำงานที่ประสบความสำเร็จแล้วเพียงช่วงเวลา 60 วันที่เข้ารับหน้าที่ และตอนนี้ รัฐบาลมุ่งหน้าที่จะพัฒนาภาพรวมของระบบเศรษฐกิจทั้งระบบให้ดีขึ้น แก้ปัญหาเก่า เพิ่มโอกาสไม่ให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจในอนาคต” ชัย กล่าว</p>
<h2><span style="color:#3498db;">รองเลขาธิการเพื่อไทยถามคนค้านดิจิทัลวอลเล็ต สะท้อนไม่เข้าใจถ่องแท้</span></h2>
<p>ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท อันเป็นนโยบายที่สำคัญของพรรคเพื่อไทย หลังจากการแถลงของนายกฯ เศรษฐา เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญและความจำเป็น ที่รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินนโยบายดังกล่าว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและ GDP ของประเทศให้เติบโตเฉลี่ยปีละ 5% เและตัวเลขธนาคารแห่งประเทศไทยไตรมาสที่ 3 ยังสะท้อนว่า ทั้งภาคการลงทุนและการบริโภค ตกลงทุกด้านเมื่อเทียบกับปี 2565 สอดรับกับการประเมินของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ระบุว่า ครึ่งปีแรกของปี 2566 เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 2.2% สะท้อนว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยไม่ได้เติบโตอย่างแท้จริง เป็นเพียงภาพลวงตา</p>
<p>นางสาวลิณธิภรณ์ กล่าวอีกว่า การที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ สส.พรรคก้าวไกล อีกหลายท่าน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายดังกล่าว ตนเข้าใจดี ว่าถือเป็นบทบาทของฝ่ายค้านที่ต้องการตรวจสอบ แต่ต้องไม่ลืมว่าการดำเนินนโยบายดังกล่าว รัฐบาลได้พิจารณาอย่างรอบคอบและถี่ถ้วนโดยศึกษาทั้งทางกฎหมาย และการเงิน รวมทั้งยังคงมุ่งรักษาวินัยทางการเงินและการคลัง การวิจารณ์ดังกล่าวนอกจากจะสะท้อนว่าผู้พูด ไม่ได้ศึกษาในรายละเอียดของคำแถลงอย่างถ่องแท้แล้ว ยังสะท้อนว่า ผู้พูดมองแต่มุมของตนเอง ไม่ได้มองเห็นถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง</p>
<p>เพราะหากมองโดยปราศจากอคติ มีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกกำลังถดถอย สภาวะสงครามที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตได้ยาก สิ่งที่รัฐบาลทำวันนี้ จึงเป็นทางเลือกที่จำเป็นและเป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่เรียกร้อง และถือเป็นมิติใหม่ ที่รัฐบาล ‘ให้อำนาจกับประชาชน’ เป็นผู้ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้ เพื่อกระตุ้นภาคการผลิตภายในประเทศ ซึ่งก็ดำเนินการควบคู่กันไปกับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งระยะกลางและระยะยาว หากเป็นไปตามเป้าหมาย GDP ของประเทศจะสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ 5% จะช่วยทำให้หนี้สาธารณะที่หมักหมมมาเป็น 10 ปี ลดลงเป็น 67.1% ได้</p>
<p>“ฐานคิดของพรรคเพื่อไทย เราพยายามทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้มาแล้วในหลายครั้ง เราสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มองไปในอนาคตเสมอ ถึงวันนี้เราเป็นรัฐบาลก็ยังยึดมั่นแนวทางนี้ ฝากถึงผู้วิจารณ์ทั้งหลาย อย่ายัดเยียดความกลัว ความกังวล ของตนเอง มาเป็นข้อจำกัดความเจริญเติบโตของประเทศเลยนะคะ” ลิณธิภรณ์ กล่าว</p>
<p><span style="color:#3498db;">ที่มาเรียบเรียงจากสำนักข่าวไทย </span><span style="color:#3498db;">[1]</span><span style="color:#3498db;"> </span><span style="color:#3498db;">[2]</span><span style="color:#3498db;"> </span><span style="color:#3498db;">[3]</span></p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวด่วน] - ครม.อนุมัติ บวท.กู้เงิน 1,256 ล. รองรับการเปิดบริการสนามบินอู่ตะเภา
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 115 กระทู้ล่าสุด 14 กุมภาพันธ์ 2566 23:27:41
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ผลสำรวจนิด้าโพลพบส่วนใหญ่ 69.39% ไม่เห็นด้วยออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 95 กระทู้ล่าสุด 19 พฤศจิกายน 2566 12:44:58
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ปธ.วิปรัฐบาลเผยสภาฯ พร้อมถกร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน - 'อนุทิน' ย้ำ ภท. หนุนดิจิ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 89 กระทู้ล่าสุด 19 พฤศจิกายน 2566 15:47:34
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - 'จุลพันธ์' เผย 'กฤษฎีกา' ตอบกลับสามารถออก พ.ร.บ.กู้เงิน - ‘ศิริกัญญา’ เตือนแค
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 38 กระทู้ล่าสุด 09 มกราคม 2567 12:47:05
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ศาล รธน.วินิจฉัยข้อหา ‘เผาทรัพย์’ ไม่ขัด รธน. นัดพิพากษาคดี ‘แอมมี่ - ปูน’ เผารูป ร
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 40 กระทู้ล่าสุด 15 มกราคม 2567 17:46:34
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.205 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 01 พฤษภาคม 2567 13:02:25