"แสงธรรมสุขใจ"

<< < (24/25) > >>

ขม..ค่ะึึ:


มีเพียงใจดวงใสใส กระจ่างสว่างวาบ
กับบทเรียนแห่งสัจจธรรมมรณานุสติ

สู่..
ทางสายธรรม
อันแสนสว่างสงบ..
สยบทุกข์สุข

หยุด
ว่ายวนพ้นเพียร
พาร่างให้ห่างไกลกิเลส
จิตแว่วสำเนียง
"ชีวิตนี้ช่างแสนสั้นนัก..."

ให้..
พ้นผ่านทุกข์
ด้วยรู้หยุดรู้วาง
เลือกทางสายกลาง
รักษาศีล..ภาวนาสมาธิ

ให้..
ตั้งจิตมั่น ตั้งสัตยาธิษฐาน
จิตพ้นม่านกรรม
ขัดเกลากิเลสอันมัดหนา

รอ..
เพียงแสงธรรมส่องนำทาง
ให้พบความกระจ่างแจ้ง
ดั่งบัวพ้นน้ำ...

ขม..ค่ะึึ:
สุขหรือไม่...?..
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัตถุ แต่ขึ้นอยู่ที่ใจ
ที่มองเห็นความเป็นจริงของโลกและชีวิต
จนสามารถปล่อยวางคลายความยึดมั่นได้
บางคน มีวัตถุอำนวยความสะดวกมาก  แต่ยังหาสุขไม่ได้เลย
บางคนมีวัตถุอำนวยความสะดวกไม่มาก แต่มีความสุขล้นเหลือ



ขม..ค่ะึึ:
เมื่อใจสูงขึ้น
การดิ้นรนก็ย่อมที่สูงขึ้น หรือประณีตขึ้น
และมีความรอดของชีวิต ที่สูง ๆ แปลก ๆ ยิ่งขึ้นไป

คนทุกคนในโลกคือ สิ่งมีชีวิตแบบเดียวกัน
มีปัญหาเดียวกันคือดิ้นรน..
ให้พ้นจากทุกข์ ตามระดับของตน

ทุกชีวิตปรานารถเช่นเดียวกัน
เพื่อความอยู่รอด จึงควรระวัง..การบียดเบียนกัน
เพราะนั้น คือจุดเริ่มต้นของเรื่องร้ายๆ  ของอนาคตทีเดียว


เงาฝัน:



-:-  ความ พอดี  -:-

สรรพสิ่งในโลกนี้มีสองแง่
ความ ดีแท้สมบูรณ์ค่าหาไม่เห็น
เอาแต่พอดีงามตามที่เป็น
ไม่ยากเย็นเฟ้นหา ถ้าพอใจ

ดีกับเสียมีอยู่คู่กันติด
ถูกกับผิดว่างกับวุ่น ขุ่นกับใส
ที่เย็นน้อยเพราะร้อนลนจนเป็นไฟ
สองด้านในความเป็นจริงจาก สิ่งเดียว

แดดเป็นตัวเร่งให้ไม้ผลิดอก
แย้มบานออกแดดก็เผาจน เฉาเหี่ยว
ข้าวได้ฝนชูช่อรอคมเคียว
พอน้ำเชี่ยวท่วมนาน้ำตานอง

สรรพสิ่งมีทั้งให้ทั้งทำลาย
ถ้า มากมายเกินพอก็เศร้าหมอง
น้อยก็ทุกข์ทนหามาไว้ครอง
โลกจึงพร่องขาด นิยามความพอดี

แม่รักลูกอยากให้ได้ดังใจแม่
จึง เอาแต่สอนพร่ำคอยจ้ำจี้
แม่ก็ทุกข์ลูกก็ทนทุกข์ทวี
ต่างทุกข์ที่ไม่ ได้ดังใจกัน

อย่าหาแต่ข้อเสียของคนอื่น
หาความดีเขาไว้ชื่นชูใจ มั่น
ข้อเสียตนหมือนงูชูคอชัน
คอยประจัญทำร้ายทำลายตัว

ธรรมชาติล้วนเป็นเช่นนั้น เอง
ตามบทเพลงเหตุปัจจัยใช่ดีชั่ว
สัจธรรมมีสองด้านอยู่พันพัว
อย่า สุดขั้ววางใจให้พอดี

(พระอาจารย์ ชาญชัย อธิปญฺโญ)

คนทุกคนก็มีทั้งข้อดีและข้อ เสีย ไม่มีใครดีหมดหรือเสียหมด
การมองสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง จึงจะมองอย่างเที่ยงธรรม ปราศจากอคติ
คนเรามักมองไม่เห็นตัวเองว่าเป็นคนเช่นใด
เห็นแต่คนอื่นว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งนี้เพราะเราคุ้นเคยกับการมองเห็นสิ่งนอกตัว
ไม่ฝึกมองเห็นสิ่งในตัว การเห็นความผิดตนเอง เห็นข้อบกพร่องของตนเอง
จึงจะเป็นประโยชน์ในการแก้ไข ปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น...

(อย่าพร่องดี และอย่าเกินดี แค่พอดี)

อัตตะนา โจทะยัตตานัง ยะทัตตะคะระหิ ตะทะกัพพะ มาโน
จงเตือนตนด้วยตนเอง.....ติตนเองเพราะเหตุ ใด ไม่ควรทำเหตุนั้น

ขอบคุณบทความจาก ธรรมจักรดอทเน็ต
http://www.infoforthai.com/forum/topic/892

ขม..ค่ะึึ:
เป็นเพราะหลงคิดว่ามันเป็น “ของฉัน”
ผู้คนทั้งโลกจึงกลายเป็น “ของมัน” ไปโดยไม่รู้ตัว
มีชีวิตอยู่ก็เพื่อมัน ยอมทุกข์ก็เพื่อมัน
ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่ามีเวลาอยู่ในโลกนี้จำกัด
แต่ก็ใช้เวลาไปอย่างไม่เสียดายก็เพื่อมัน
ซ้ำร้ายกว่านั้นหลายคนยอมทำชั่ว
อกตัญญูต่อผู้มีพระคุณก็เพื่อมัน
.
พระไพศาล วิสาโล



ขม..ค่ะึึ:
**  ใต้ร่มพระพุทธธรรม  **

ศรัทธาธรรมหลั่งไหลมาทั่วสารทิศ
ฝากดวงจิตใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา
หล่อเลี้ยงดวงวิญญาณพลัดผ่านมา
เย็นชื่นฉ่ำอุรารสพระธรรม

ทั้งออกตกเหนือใต้กลางอีสาน
ต่างซมซานไขว่คว้าอยู่เช้าค่ำ
โลกย์ร้อนรุ่มกันดารคืบคลานคลำ
ปริศนาอำพรางคลี่พร่างพราย

เรียกร้องหาฟ้าอำไพจากใจเหงา
คลายฤดีบรรเทาทุกเช้าสาย
ยังมืดบอดขื่นขมด้วยงมงาย
แสงสว่างฉาบฉายทั่วภพพื้น

ดั่งนกแสงตะวันบินผันผ่าน
แม้ร้าวรานไม่ย้อนกลับหลับเพิ่งตื่น
สั่งสมประสบการณ์ผ่านวันคืน
รอยปีติกลบสะอื้นคลื่นชีวิต

อณูทิพย์  ธารทอง



นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว