.เสือผาด ทับสายทอง ออกชื่อเสือผาด คนในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ระหว่าง พ.ศ.2484-2490 รู้จักกันทั้งนั้น หนังสือพิมพ์ลงข่าว เรียกว่า ขุนโจร 7 จังหวัด เพราะปล้นฆ่าอยู่แถวๆ นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และธนบุรี
แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีใครกล้าออกชื่อเสือผาด แต่เรียกลับหลังว่า คุณพระ
เสือผาดมีอิทธิพลขนาดนี้ คุณเทพบอกว่า หลายคดีความเล็กๆ น้อยๆ ของเสือเล็กเสือน้อย กระทั่งเสือปลา ก็ใช้ชื่อเสือผาด ยิ่งมีคดีความร้ายๆ ชื่อเสียงก็ยิ่งเพิ่มความน่ากลัว จนเชื่อกันว่า กระทั่งข้าราชการ ตำรวจ ก็กลัวเสือผาด หรือไม่ก็อ้างว่าเป็นลูกน้อง หรือเป็นสายเลือดเสือผาด...กันทุกคน
เสือผาดทำนา เสือผาดเกี่ยวข้าว เพียงแต่มีเสียงบอกว่า “พรุ่งนี้เป็นวันเกี่ยวข้าวคุณพระ” ผู้คนก็จะเดินทางไปช่วยเกี่ยวข้าวหัวดำเต็มท้องนา โดยไม่ต้องไหว้วานกันเลย
ผู้คนที่ไปช่วยงานคุณพระมาหลายต่อหลายงาน เมื่อไถ่ถามกันจริงๆ ก็ไม่เคยรู้จักตัวเสือผาด
ไม่รู้ว่าเสือผาดอยู่ที่ไหน ไม่เคยมีใครเห็นหัว ได้ยินแต่ชื่อ ก็กลัวเสียแล้ว
“ขณะนั้น ผมรับราชการอยู่อำเภอกำแพงแสน อันเป็นแดนอิทธิพล พื้นที่สีดำของเสือผาด รู้เรื่องราวเสือผาดมาก จนกลัวเสือผาดเหมือนกัน” คุณเทพว่า
วันหนึ่งขี่จักรยานไปอำเภอกับนายพิณ กันตะเพ็ง ศึกษาธิการอำเภอกำแพงแสน คุณเทพพบคนถูกยิงตายอยู่กลางทาง เป็นชายหนุ่มวัย 19-20 ปี
มีคนกระซิบว่า เมื่อคืนนี้เสือผาดพาลูกน้องไปปล้น แต่สงสัยลูกน้อง จึงยิงทิ้งเสียก่อนเข้าปล้น
เช้าตรู่อีกวันหนึ่ง มีรายงานถึง ร.ต.ต.สุข ศรีเพ็ญ นายอำเภอกำแพงแสน ว่า ส.ต.ท.จำเนียร ภักดีเจริญ ถูกยิงตายที่ตำบลห้วยขวาง คุณเทพไปชันสูตรศพกับนายอำเภอ พบสภาพ ส.ต.ท.จำเนียร ถูกยิงตายอยู่ในชุดนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว ขณะนอนอยู่กับเมียน้อย มีปืนพกกระบอกหนึ่งตกอยู่ข้างตัว
คนในบ้านเล่าว่า คนที่มายิง...ปราดเข้าเหยียบอก ส.ต.ท.จำเนียร แล้วประกาศว่า “ไอ้เนียร มึงรู้จักกูไหม”
เขาบอกว่า
เจ้าของเสียง “นั่นล่ะเสือผาด”งานนี้ไม่ใช่งานปล้น เพราะผู้ร้ายไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินแม้แต่ชิ้นเดียว แต่เป็นงานล้างแค้น
เรื่องเดิมมีว่า ส.ต.ท.จำเนียร เป็นลูกชายขุนภักดีห้วยพระ (กิ้ว ภักดีเจริญ) คหบดีมั่งคั่งตำบลสามง่าม วันหนึ่งมีโจรปล้นบ้านขุนภักดี จับเอาตัวนายจำรูญ น้องชาย ส.ต.ท.จำเนียร ไปยิงทิ้งที่ทุ่งนา ในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียว ส.ต.ท.จำเนียร ประกาศว่าจะตามล่าตามล้างโจรก๊กนี้ให้ได้
ต่อมา ส.ต.ท.จำเนียรสืบทราบว่า ในงานปล้นงานหนึ่ง พวกโจรได้ไปสุมหัวกันกินเหล้าวางแผนที่บ้านหลังหนึ่ง ส.ต.ท.จำเนียรใช้กฎหมายเถื่อน บุกจับเจ้าของบ้านหลังนั้น ไปยิงทิ้งตรงที่น้องชายถูกฆ่า
ขุนภักดีห้วยพระเสียลูกชายไปเป็นคนที่สอง ก็เห็นว่าขืนให้ตามล่าตามล้างกันต่อไป คงจะต้องตายกันไม่สิ้นสุด จึงส่งสารถึงเสือผาด นัดมาเจรจาหย่าศึก
คุณเทพบอกว่า ต่อมา เสือผาดได้เดินทางมาที่บ้านนายนนท์ ห้วยขวาง ซึ่งเป็นลูกน้องคนหนึ่ง พบกับขุนภักดีห้วยพระ ทั้งเสือผาดและขุนภักดี กินเหล้าด้วยกัน และสาบานต่อหน้าเหล้าว่า จะเลิกแล้วกันไป
คนสมัยก่อน พูดคำไหนคำนั้น เรื่องจึงสงบลงได้
นายนนท์คนนี้ รูปร่างอ้วนใหญ่ผิวดำ ตาเข หน้าตาออกทางนักเลง น่าเกรงขาม ทั้งบิดามารดารวมทั้งตัวคุณเทพเองก็คุ้นเคยกันดี มารดาคุณเทพเล่าประวัตินายนนท์ให้ฟังว่า นายนนท์ขาว ชาวตำบลตาก้อง มาทำแม่นายนนท์ท้องแล้วไม่รับเป็นลูก แม่นายนนท์โกรธมาก เมื่อลูกเกิดมาจึงตั้งชื่อว่า นนท์ ให้เหมือนพ่อ
คุณเทพเล่าว่า รู้จักคนในวงศ์สกุลทับสายทอง คือพี่น้องของเสือผาดอยู่บ้าง บิดาคุณเทพเมื่อเป็นเด็กวัดห้วยจระเข้า รู้จักดีกับนายจรูญ ทับสายทอง บ้านคันลำ หลังองค์พระปฐมเจดีย์
ตอนเล็กๆ บิดาเอาคุณเทพไปฝากไว้กับหลวงตาปาน ทับสายทอง อาคนหนึ่งของเสือผาด อดีตหลวงตาปานเป็นทหารยศสิบโท เมื่อมาบวชก็ยังติดนิสัยทหาร ยังซ้อมชกมวยเสมอ ตกค่ำก็จะตีกลองยาว รำกลองยาว และรำมวยไทยให้ดู วันหนึ่งมีพระรูป
หนึ่งมาปัสสาวะอยู่ชานกุฏิ หลวงตาปานเห็นก็โกรธ โดดเข้าเตะพระรูปนั้นตกกุฏิไปเลย
เพื่อนคุณเทพคนหนึ่ง ชื่อประชา ไม่อยากใช้นามสกุลทับสายทอง ขอให้คุณเทพเปลี่ยนนามสกุลให้ คุณเทพถามว่า พ่อชื่ออะไร ได้ความว่า พ่อชื่อมิ่ง จึงเปลี่ยนนามสกุลให้เป็น...มิ่งมนตรี
เสือผาดมีน้องชายคนหนึ่ง ชื่อ
พุ่ม เป็นนักเลงขี้เหล้า ใครอยากให้ตีหัวหรือชกหน้าใคร ขอเหล้าขวดเดียวก็ทำให้เลย ชื่อ
นายพุ่มมาโด่งดังเอามากๆ ดังระดับฝากชื่อไว้ในแผ่นดินสยาม ก็ตอนถือปืนเข้าไปยิงจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่สนามหลวง แต่ยิงไม่ถูกที่สำคัญ นายพุ่มก็ต้องเข้าคุกไป
ฉากสุดท้ายของเสือผาด คุณเทพเล่าว่า เสือผาดวางแผนปล้นที่ตำบลคุ้งพยอม อำเภอบ้านโป่ง แต่พลาดท่าถูก พ.ต.ท.ประชา บูรณธณิต วางแผนซ้อนกล ส่งคนเข้าไปร่วมปล้น เมื่อถูกตำรวจล้อม ฝ่ายเสือผาดสู้ตาย ยิง ร.ต.ท.ตายไปคนหนึ่ง แต่ตัวเองหนีไปจนมุมในทุ่งนา
เรื่องเล่าที่คุณเทพเก็บเอาไว้ด้วยหูตัวเองมีว่า เมื่อจนมุม เสือผาดไม่เป็นอะไรเลย แต่
เห็นว่าคงแหวกวงล้อมออกไปไม่ได้ เสือผาดจึงถอดพระเครื่อง (หลวงพ่อรุ่ง เป็นอาจารย์หลวงพ่อเงิน) ออกโยนทิ้ง แล้วใช้ปืนยิงหัวตัวเองตาย
ถึงตอนตาย คุณเทพบอกว่า เสือผาดก็ยังทำประโยชน์ให้กับตำรวจอีกหลายคน ที่ต่างก็สร้างเกียรติประวัติว่า เป็นผู้พิชิตเสือผาด บางนายคุยว่า เสือผาดตายเพราะกระสุนปืนตัวเอง นายตำรวจหลายนายได้เลื่อนยศในทันที.