[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
17 พฤษภาคม 2567 20:00:19 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 321 322 [323] 324 325 ... 1129
6441  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - นักวิชาการซัด “พท.-พปชร-รทสช.” จับมือตั้งรัฐบาล ไร้อุดมการณ์-มีแต่ผลประโยชน์ เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 16:07:35
นักวิชาการซัด “พท.-พปชร-รทสช.” จับมือตั้งรัฐบาล ไร้อุดมการณ์-มีแต่ผลประโยชน์
         


นักวิชาการซัด “พท.-พปชร-รทสช.” จับมือตั้งรัฐบาล ไร้อุดมการณ์-มีแต่ผลประโยชน์" width="75" height="75
  
         

https://www.sanook.com/news/8970386/
         
6442  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - Prof.Zam: “เราต้องการสิ่งก่อสร้างกระนั้นหรือ ถึงจะมีสันติภาพ” ในปาตานี/ชายแดนใต้ เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 15:28:56
Prof.Zam: “เราต้องการสิ่งก่อสร้างกระนั้นหรือ ถึงจะมีสันติภาพ” ในปาตานี/ชายแดนใต้
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-12 12:56</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>Prof.Zam นักวิจัยสันติภาพและผู้ประสานงานเครือข่ายศึกษาความขัดแย้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งคำถามถึงการสร้างสันติภาพในบริบทปาตานี/ชายแดนใต้ ชี้อุปสรรคใหญ่ของการสร้างวัฒนธรรมสันติภาพ มีอำนาจกดทับและความยุติธรรมไม่มี ประชาชนเห็นแตกต่างกันและการไม่มีเอกภาพ กระบวนการเจรจาที่เชื่องช้า ไม่เรียนรู้อดีตและต้องเริ่มใหม่ทุกครั้ง ถ้าจะให้เร็วต้องสมดุลทั้งสองฝ่าย ความครอบคลุมจึงสำคัญและมี Road Map บอกสิ่งที่อยากจะบรรลุ เสนอ 8 ข้อที่ต้องทำเพื่อสร้างปาตานีใหม่ (Patani Baru) ที่มีสันติภาพ</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53110832543_f09074ed3c_o_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">Kamarulzaman Askandar หรือ Prof.Zam ผู้ประสานงานการวิจัยและการศึกษาเพื่อสันติภาพที่ Universiti Sains Malaysia (REPUSM) และยังเป็นผู้ประสานงานระดับภูมิภาคสำหรับเครือข่ายศึกษาความขัดแย้งแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEACSN) ผู้สนับสนุนกิจกรรมสร้างสันติภาพในพื้นที่ความขัดแย้งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแข็งขัน</span></p>
<p>แม้ว่า กระบวนการพูดคุยสันติภาพ/สันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้/ปาตานี ระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับตัวแทนขบวนการ BRN เพื่อหาทางออกจาความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยาวนานขณะนี้ ดูเหมือนจะยังไม่คืบหน้าอะไร เพราะไม่รู้เมื่อไหร่ประเทศไทยจะได้ตั้งรัฐบาลซักที</p>
<p>แต่สำหรับคนในพื้นที่ชายแดนใต้/ปาตานีแล้ว ตลอดระยะเวลา 10 ปีของกระบวนการพูดคุยสันติภาพ(เริ่มตั้งแต่ปี 2556) นั้น ได้สร้างการเรียนรู้และบทเรียนมาพอสมควร โดยเฉพาะในกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม นักวิชาการ แม้กระทั่งคนที่อยู่ในกระบวนการพูดคุยเองในฐานะหุ้นส่วนสันติภาพ </p>
<p>ส่วนหนึ่งก็มาจากการสนับสนุนชุดข้อมูล/ความรู้/ข้อคิด/ข้อเสนอแนะ ฯลฯ ของนักวิชาการคนสำคัญอย่าง “Kamarulzaman Askandar” ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่น่าจะไม่รู้จัก แต่คนในพื้นที่จะเรียกกันว่า Prof.Zam </p>
<p>Prof.Zam เป็นผู้ประสานงานการวิจัยและการศึกษาเพื่อสันติภาพที่ Universiti Sains Malaysia (REPUSM) และยังเป็นผู้ประสานงานระดับภูมิภาคสำหรับเครือข่ายศึกษาความขัดแย้งแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEACSN) เขาสนับสนุนกิจกรรมสร้างสันติภาพในพื้นที่ความขัดแย้งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแข็งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาเจะห์ อินโดนีเซีย มินดาเนา ฟิลิปปินส์ และภาคใต้ของไทย</p>
<p>ในโอกาสที่ สถาบันปาตานีเพื่อการวิจัยและพัฒนามนุษย์ (INSANI) สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (CAP) และเครือข่ายผู้นำอิสลามปาตานี (JAKIP) จัดงานระดมทุนจัดตั้ง “กองทุนองค์กรภาคประชาสังคมปาตานี” (BINA Patani) เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้เชิญ Prof.Zam มาให้ความรู้เรื่อง “บทบาทของสันติศึกษาในการสร้างวัฒนธรรมสันติภาพ”</p>
<p>การบรรยายครั้งนี้มีเนื้อหาน่าสนใจต่อความพยายามในการสร้างสันติภาพ/สันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้/ปาตานี แม้ Prof.Zam จะบอกว่ารู้สึกลำบากใจที่จะพูดถึงเรื่องความขัดแย้งและสันติภาพ ในฐานะคนมาเลเซียที่ไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนกับคนที่อยู่ในพื้นที่ขัดแย้งโดยตรง</p>
<h2 style="text-align: center;"><span style="color:#3498db;"><strong>0 0 0</strong></span></h2>
<p>“เมื่อพูดถึงสันติภาพก็ต้องพูดถึงความขัดแย้ง เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้าน เพื่อทำความเข้าใจวัฒนธรรมสันติภาพ ก็ต้องทำความเข้าใจวัฒนธรรมของความขัดแย้งและการใช้ความรุนแรง</p>
<p>อะไรคือการสร้างสันติภาพ คิดว่าพี่น้องหลายคนคงจะรู้และรู้สึกได้ในฐานะคนที่อยู่ในปาตานี</p>
<p>ถ้าดูอย่างผิวเผิน สันติภาพก็คือการไม่มีความรุนแรง ไม่มีสงคราม แต่เพียงพอหรือยังที่จะอธิบายความหมายของสันติภาพ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">สันติภาพไม่ใช่แค่ไม่มีความรุนแรง</span></h2>
<p>สันติภาพไม่ได้หมายถึงการไม่มีความรุนแรง ทั้งทางโดยตรงและทางอ้อม ทั้งจากการกระทำของฝ่ายหนึ่งต่ออีกฝ่ายหนึ่ง แต่ยังรวมถึงการไม่มีความรุนแรงในเชิงโครงสร้างในสังคมที่ส่งผลทำให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรง การกดดัน การข่มเหงรังแกหรือการฆาตกรรมคนในสังคมนั้นขึ้นมา </p>
<p>สิ่งที่เราไม่ต้องการคือความรุนแรงเชิงโครงสร้าง เราไม่ต้องการกฎหมายที่กดขี่สังคม เราไม่ต้องการกฎหมายทหารหรือกฎอัยการศึกที่บังคับใช้ในสังคมอย่างเข้มงวด ถ้าเราต้องการสันติภาพ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ต้องมีกลไกจัดการความขัดแย้ง</span></h2>
<p>สันติภาพคือสิ่งหนึ่งที่แสดงถึงการมีความยุติธรรม เราจะดูว่าสังคมของเรามีความยุติธรรมหรือไม่ ไม่ใช่ดูเพียงแค่ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่หมายถึงการได้รับความยุติธรรมอย่างต่อเนื่องยาวนานมาเป็นสิบเป็นร้อยปีและตลอดไป 
สังคมจำเป็นต้องมีความยุติธรรม มีกลไกที่จะจัดการและแก้ปัญหาความขัดแย้ง ไม่ว่าความขัดแย้งนั้นจะเกิดขึ้นที่ไหนก็ตาม</p>
<p>เมื่อความขัดแย้งเกิดขึ้น เราจะมีกี่วิธีการในการจัดการความขัดแย้ง เรามีกลไกอะไรบ้างที่เราสร้างขึ้นเพื่อจะหาทางออกจากความขัดแย้ง </p>
<h2><span style="color:#3498db;">ถ้ายังรู้สึกหวาดกลัว เราก็ยังไม่มีสันติภาพ</span></h2>
<p>การสร้างสันติภาพอ้างอิงถึงเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของมนุษย์ Human Security </p>
<p>ในสังคมเรามีความรู้สึกหวาดกลัวหรือไม่ ถ้ายังมีความรู้สึกหวาดกลัวก็หมายความว่าเรายังไม่มีสันติภาพ ความกลัวคืออะไร ความกลัวเป็นเหตุทำให้สังคมสร้างสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา เช่น ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน เพราะเรากลัวความไม่ปลอดภัย</p>
<p>เราจะพูดคุยเราก็หวาดกลัว ที่ปาตานีเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเท่านั้นที่เราสามารถพูดคุยกันเรื่องนี้ได้ เมื่อก่อนเราจะพูดคุยเรื่องความขัดแย้งและสันติภาพอย่างเปิดเผยไม่ได้ เพราะเรากลัว ยิ่งมีกฎหมายควบคุมเราอยู่เราก็ไม่สามารถส่งเสียงในสิ่งที่เราต้องการได้ </p>
<p>เราเป็นอิสระจากความกลัวหรือไม่ เราสามารถทำตามความปรารถนาได้หรือไม่ เราไม่มีความเจริญรุ่งเรืองหรือไม่ เรามีส่วนร่วมในสังคมหรือไม่</p>
<h2><span style="color:#3498db;">มีอิสระเสรีทางด้านอัตลักษณ์และศักดิ์ศรี</span></h2>
<p>เราเคยได้ยินมาว่า พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยากจนที่สุดในประเทศ นั่นแสดงว่าเราไม่มีความเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการพัฒนา ทั้งที่เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการมีสันติภาพ</p>
<p>ท้ายที่สุดก็คืออัตลักษณ์และศักดิ์ศรีของเราเป็นอย่างไร อัตลักษณ์ของเราคือความเป็นมลายูอิสลามปาตานี เรามีอิสรเสรีอย่างไรในการที่จะแสดงออกทางด้านอัตลักษณ์ และมีศักดิ์ศรีในฐานะอัตลักษณ์แห่งชาติ หรือไม่ นี่คือเงื่อนไขหนึ่งของการมีสันติภาพ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">วัฒนธรรมสันติภาพกับวัฒนธรรมความรุนแรง </span></h2>
<p>วัฒนธรรมการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติของสังคม เมื่อมีความขัดแย้งก็จะมีการใช้ความรุนแรง ซึ่งเราสามารถพบเห็นได้ในสังคม</p>
<p>เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วมีทหารตำรวจเข้ามาจัดการ หรือมีการตอบโต้ขึ้นมาก็เป็นเรื่องปกติ นี่คือวัฒนธรรมของความรุนแรง คือมีปฏิบัติการแล้วมีการต่อต้านหรือตอบโต้ขึ้นมา</p>
<p>ความรุนแรงเป็นธรรมชาติหนึ่งของชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะบางทีเราเองก็ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาทั้งในระดับปัจเจกบุคคล ในครอบครัวหรือในสังคม </p>
<p>แล้วอะไรบ้างที่เราต้องทำเพื่อปฏิเสธวัฒนธรรมการใช้ความรุนแรง ในที่นี้ให้เรามุ่งเน้นไปที่วัฒนธรรมสันติภาพ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ต้องแก้ปัญหาความขัดแย้งที่รากเหง้า</span></h2>
<p>ตามความหมายของ UNESCO วัฒนธรรมสันติภาพคือวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อ คุณค่า พฤติกรรมที่เคารพถึงศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ทั้งในฐานะปัจเจกบุคคลหรือเชื้อชาติ ศักดิ์ศรีเหล่านี้ต้องได้รับการเคารพจากผู้อื่น </p>
<p>ผู้ผลักดันสันติภาพทุกคนต้องผลักดันสันติภาพตั้งแต่คนเล็กๆ ไปจนถึงคนใหญ่คนโต ต้องป้องกันความขัดแย้งเพราะเป็นสาเหตุหนึ่งของความรุนแรงที่เรามองเห็นได้อย่างเปิดเผย แต่ไม่ได้หมายความว่าความขัดแย้งทั้งหมดจะเป็นสาเหตุของความรุนแรง</p>
<p>ดังนั้น เพื่อจะแก้ปัญหาความขัดแย้งแบบเบ็ดเสร็จ เราจำเป็นต้องค้นหาสาเหตุรากเหง้าว่าอะไรคือต้นเหตุของความขัดแย้ง เราต้องมีวิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่รากเหง้า</p>
<h2><span style="color:#3498db;">แต่รัฐกับขบวนการมองต่างกัน</span></h2>
<p>ผมติดตามกระบวนการสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับกลุ่มชาวมลายูปัตตานีที่มีคนในขบวนการต่าง ๆ เป็นตัวแทน พบว่า บนโต๊ะพูดคุยยังไม่มีผลลัพธ์อะไรมากนัก เพราะอะไร ผมก็จะตอบว่า แม้ทั้งสองฝ่ายจะนั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้อ่านหนังสือหน้าเดียวกัน เพราะฝ่ายรัฐไทยมองสถานการณ์ในปาตานีเป็นเรื่องความไม่สงบ จึงแก้ปัญหาโดยนำทหารและกฎหมายทหารเข้ามาใช้เพื่อรักษาความปลอดภัย ด้วยการกดความรุนแรงเอาไว้</p>
<p>ถามว่า สิ่งเหล่านี้จะแก้ปัญหาความขัดแย้งได้หรือไม่ มองอย่างผิวเผินอาจจะใช่ แต่ถ้ามองอย่างลึกซึ้งไม่สามารถแก้ปัญหาได้ </p>
<p>แล้วตัวแทนของรัฐบาลไทย และ ฝ่ายขบวนการมองความขัดแย้งอย่างไร </p>
<p>ฝ่ายขบวนการมองความขัดแย้งในมุมของความยุติธรรมว่า ความยุติธรรมถือเป็นสาเหตุรากเหง้าหนึ่งของความขัดแย้ง สุดท้ายก็ต้องการสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นเพื่อมุ่งไปสู่การมีสันติภาพ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ต้องจัดการความอยุติธรรมทางประวัติศาสตร์</span></h2>
<p>เรามองว่า จำเป็นต้องจัดการกับความอยุติธรรมทางประวัติศาสตร์ (historical injustices) เราต้องเชื่อมโยงกับสถานการณ์ในอดีตสมัยรัฐปาตานีเสียเอกราชเมื่อปี ค.ศ.1976 กระทั่งเกิดกลุ่มขบวนการต่อสู้เพื่อจะกอบกู้รัฐ อัตลักษณ์และศักดิ์ศรีของปาตานีกลับคืนมา จากนั้นก็เกิดประวัติศาสตร์การกดขี่ข่มเหงนานเท่าที่มีการลุกขึ้นสู้ของขบวนการ</p>
<p>สิ่งเหล่านี้เราต้องมีการจัดการและมองว่าเป็นปัญหารากเหง้า แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายที่นั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกัน แต่มีมุมมองที่ต่างกัน ผลลัพธ์ก็จะไม่เกิดขึ้น </p>
<h2><span style="color:#3498db;">เราต้องการสิ่งก่อสร้างกระนั้นหรือ ชีวิตถึงจะมีสันติภาพ</span></h2>
<p>ดังนั้น เราจำเป็นต้องแก้ปัญหาที่รากเหง้าของความขัดแย้ง ไม่ใช่มองแค่ว่าพลเมืองปาตานียากจน ก็แค่แจกเงินหรือสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นมา ถามว่าจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ไหมถ้ามีสิ่งก่อสร้างเกิดขึ้น </p>
<p>ชีวิตเราต้องการสิ่งก่อสร้างกระนั้นหรือ เมื่อเรามีสิ่งก่อสร้างแล้วชีวิตเราจะมีความสุข ทั้งที่วิธีการนั้นต้องพึ่งพาคนอื่นมาสร้างให้เพื่อความสุขของเรา ผมคิดว่าไม่ </p>
<p>ในการป้องกันความขัดแย้งที่ใช้ความรุนแรงและการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่รากเหง้า โดยใช้ความร่วมมือ การเจรจา การประนีประนอมและการยอมรับความแตกต่างในสังคม ถือเป็นแก่นแท้ของวัฒนธรรมสันติภาพ </p>
<p>เรารู้อยู่แล้วว่า การจะแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ต้องใช้วิธีการพูดคุยร่วมกันและไม่ใช้ความรุนแรง เพราะหากมีการใช้ความรุนแรงมันก็จะทำลายกันทั้งสองฝ่าย</p>
<h2><span style="color:#3498db;">เป้าหมายหลักของการศึกษาสันติภาพ</span></h2>
<p>1. การเรียนรู้และปลูกฝังความตระหนัก ความห่วงใยและพฤติกรรมที่สามารถนำไปสู่ความสัมพันธ์ สภาพที่ดี และมีโครงสร้างทางสังคมที่สงบสุข</p>
<p>เหตุที่ต้องสร้างความตระหนักก็เพราะผลของการใช้ความรุนแรงจะนำไปสู่พฤติกรรมที่จะส่งผลด้านลบที่ร้ายแรง และพฤติกรรมด้านลบก็มาจากมุมมองทัศนคติด้านลบนั่นเอง ซึ่งเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนผ่านทัศนคติของเราไปสู่มุมมองที่ดีกว่า </p>
<p>2. การต่อสู้เพื่อความยุติธรรม </p>
<p>3. สร้างวัฒนธรรมแห่งความเคารพและความสมานฉันท์ในสังคม</p>
<p>4. ปลูกฝังความสงบสันติภาพภายใน ซึ่งต้องเริ่มจากภายในของตัวเราเองก่อน ถ้าภายในตัวเราเองไม่มีความสันติ แล้วครอบครัวเรา สังคมเรา และประเทศของเราจะมีสันติภาพได้อย่างไร </p>
<p>5. ละทิ้งรูปแบบความคิดและการมีปฏิสัมพันธ์ที่ไม่สันติหรือมีการใช้กำลัง</p>
<p>6. เปลี่ยนวิธีคิด ทัศนคติ และค่านิยมของสังคม</p>
<p>7. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดหรือเพิ่มความรุนแรงของความขัดแย้ง</p>
<h2><span style="color:#3498db;">สร้างวัฒนธรรมสันติภาพ ในบริบทของปาตานี</span></h2>
<p>นี่เป็นชุดข้อมูลความรู้ในภาพรวมทั่วไปที่ผมใช้สอนนักศึกษา แต่ในการศึกษาสันติภาพนั้นมีอะไรบ้างที่เราต้องทำ การศึกษาสันติภาพสามารถนำไปสร้างวัฒนธรรมสันติภาพที่ปาตานีได้อย่างไร </p>
<p>ในบริบทของปาตานี เราคงไม่สามารถนำยุทธศาสตร์เหล่านั้นมาใช้ได้แบบเบ็ดเสร็จ แต่ต้องพิจารณาบริบทในภาคสนามด้วย เพราะสถานการณ์ในสนามจะเป็นตัวกำหนด</p>
<p>เรารับรู้ว่า ปาตานีเป็นพื้นที่เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน และมีการใช้อาวุธมายาวนาน เป็นความขัดแย้งทางสังคมและทางอาวุธที่ยืดเยื้อ แต่ไม่ได้รับความสนใจจากโลกซักเท่าไหร่? </p>
<p>คนนอกไม่ค่อยรับรู้เรื่องราวในปาตานีหรือในประเทศไทยมากนัก นี่ก็เป็นปัญหาอย่างหนึ่งเช่นกัน เพราะการที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ ถ้ามีความเห็นจากภายนอก จากสังคมโลกก็จะส่งผลสะเทือนได้ แต่ขอโทษปัตตานีไม่ได้สำคัญมากสำหรับคนภายนอก ทำให้เราไม่ค่อยเห็นการช่วยเหลือจากภายนอกเข้ามาในปาตานีมากสักเท่าไหร่</p>
<h2><span style="color:#3498db;">อำนาจที่กดทับ ความยุติธรรมไม่มี</span></h2>
<p>บริบทของปาตานี ประกอบด้วย</p>
<p>ㆍอัตลักษณ์ ค่านิยมและความต้องการของคนชายขอบ เป็นสิ่งที่เรารับรู้กัน เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องเรียนรู้และปกป้องก่อนที่มันจะพังทลายไปมากกว่านี้
ㆍมีกฎหมายและโครงสร้าง (อำนาจ) รวมถึงโครงสร้างด้านความมั่นคงที่กดทับอยู่ ซึ่งคนมาเลเซียเวลาเดินทางมาปาตานีก็จะรู้สึกตกใจ เพราะมีด่านตรวจเยอะมาก ทั้งด่านตำรวจ ด่านทหารและด่านอื่นๆ นี่คือภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นที่นี่
ㆍขาดความยุติธรรมและความเป็นอยู่ที่ดี คนที่ก่อเหตุรุนแรงหรือก่อความไม่สงบ (เมื่อถูกดำเนินคดี) มีการให้ความยุติธรรมกับพวกเขาอย่างไร ซึ่งประเด็นนี้ค่อนข้างที่จะอ่อนไหว 
ความเห็นที่แตกต่างและการไม่มีเอกภาพ
ㆍมีความหลากหลายของตัวแสดงในพื้นที่ ทั้งในเรื่องความหวัง เรื่องเล่าและเป้าหมายสุดท้ายที่แตกต่างกันและขัดแย้งกัน</p>
<p>ลองถามตัวเองดูว่า คนอิสลามมลายูปาตานีเป็นเอกภาพหรือไม่ นี่ก็เป็นปัญหาหนึ่งเพราะความหลากหลายนั้นสร้างความลำบากใจในการที่จะแก้ปัญหาได้ เพราะแต่ละคนมีเรื่องราวของตัวเองและมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน </p>
<p>ถ้าเราอยากเดินหน้าไปด้วยกัน เราจะไม่ถูกกีดกันจากคนนอกเลย แต่เราจะถูกสกัดขัดขาจากพวกเราด้วยกันเอง แม้แต่การนำปัญหาขึ้นไปคุยบนโต๊ะเจรจาสันติภาพ ใครหรือกลุ่มไหนจะเป็นผู้นำปัญหาเหล่านั้นขึ้นไปพูดคุย ก่อนหน้านี้เรามีกลุ่ม MARA Patani ตอนนี้ก็เป็น BRN แล้วกลุ่มอื่น ๆ ที่รู้สึกว่าถูกกันออกไป เขาไม่อยากจะเป็นผู้นำด้วยดอกหรือ</p>
<p>ในขณะที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายของฝ่ายต่าง ๆ ในสังคมปาตานีนั้น แล้วกลุ่มที่อยู่บนโต๊ะเจรจาสันติภาพ ถือเป็นตัวแทนที่จะนำพาความปรารถนาของคนปาตานีโดยรวมทั้งหมดหรือไม่</p>
<h2><span style="color:#3498db;">หาจุดร่วมได้ ถ้าไม่สุดโต่งเกินไป</span></h2>
<p>มีความแตกแยกในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มภาคประชาสังคมที่แยกเป็นกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ แต่ละกลุ่มก็มีวาระของตัวเอง และยังมีเรื่องช่องว่างระหว่างวัย กลุ่มอูลามะ (ผู้รู้ศาสนา) ก็แบบหนึ่ง คนรุ่นใหม่ก็แบบหนึ่ง ไม่นับความคิดที่แตกต่างกันระหว่างชายหญิงที่มีอยู่แล้ว</p>
<p>จริงๆ แล้วความแตกต่างหลากหลายเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีถ้าสามารถหาจุดร่วมที่มีพลังได้ และสามารถเป็นตัวแทนเสียงของสังคมปาตานีได้ แต่ในความเป็นจริง ถ้าเรื่องแตกต่างกันนั้นแสดงออกถึงความสุดโต่งเกินเลย มันก็จะทำลายความพยายามของเราไป</p>
<p>เพราะเหตุนี้ผมจึงบอกว่า ความหลากหลาย เรื่องเล่าที่ต่างกัน พร้อมกับเป้าหมายสุดท้ายที่แตกต่างกันมันก็จะเป็นปัญหา</p>
<h2><span style="color:#3498db;">กระบวนการเจรจาสันติภาพที่เชื่องช้า</span></h2>
<p>สุดท้าย ㆍ กระบวนการเจรจาสันติภาพเป็นไปอย่างเชื่องช้า ไม่สมดุล ไม่ครอบคลุมและไม่มีแผนที่นำทาง(Road Map) และจุดจบที่ชัดเจน </p>
<p>ทำไมถึงบอกว่า กระบวนการสันติภาพล่าช้า ซึ่งผมก็พูดตามที่ผมมองเห็น ถ้าจะโกรธก็โกรธได้ จุดเริ่มต้นของกระบวนการสันติภาพเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2556 แม้มีการพบปะพูดคุยกันอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วในแบบที่ไม่เป็นทางการ </p>
<p>ถามว่า ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบันปี 2566 เกิดผลลัพธ์อะไรบ้าง กระบวนการพูดคุยสันติภาพที่เริ่มต้นด้วยขบวนการ BRN ต่อมาก็เป็นกลุ่ม MARA Patani แล้วก็กลับมาที่ขบวนการ BRN อีกครั้ง และกระบวนการพูดคุยตอนนี้ก็เดินไปหยุดไป</p>
<p>ถึงแม้ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก ซึ่งอาจส่งผลในทางบวกมากขึ้นในภายภาคหน้า และผมก็ไม่ได้คิดว่าความพยายามที่ต่อเนื่องยาวนานมานั้นจะว่างเปล่า 
ไม่เรียนรู้อดีต และต้องเริ่มกระบวนการใหม่ทุกครั้ง</p>
<p>กระบวนการสันติภาพก็เหมือนกับการสร้างบ้านที่ต้องสร้างทีละขั้นทีละตอน เริ่มจากการวางรากฐานก่อน จากนั้นก็สร้างสิ่งต่างๆตามมา สุดท้ายเราก็หวังว่าสามารถที่จะสร้างบ้านขึ้นมา 1 หลังได้ ทั้งหมดนี้คือ 1 กระบวนการซึ่งผมไม่มีปัญหากับกระบวนการนี้ ตราบเท่าที่เราสามารถเรียนรู้จากกระบวนการก่อนหน้านี้ แต่ปัญหาคือเราไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ซ้ำยังสร้างปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการพูดคุยแล้วก็กลับไปเริ่มต้นใหม่อีก นี่คือปัญหา</p>
<p>กระบวนการที่เชื่องช้าเราจะทำอย่างไรที่จะเร่งให้เร็วขึ้น ผมรู้ว่าฝ่ายมาเลเซียต้องการจะเร่งให้เร็วเพราะมาเลเซียเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหาความขัดแย้งนี้ในฐานะผู้อำนวยความสะดวก มาเลเซีย0ต้องการที่จะให้มีผลลัพธ์จากกระบวนการพูดคุยนี้ให้เร็ว</p>
<p>ถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ ก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ถ้าจะไปให้เร็ว ต้องมีความสมดุลทั้งสองฝ่าย</span></h2>
<p>ผมเห็นด้วยที่จะให้มีกระบวนการที่รวดเร็ว เพราะเป็นความทุกข์ยากของคนปาตานีที่ต้องการให้มีการแก้ปัญหาให้ได้ในที่สุด แต่เราจะแก้ปัญหาอย่างไร ถ้าการแก้ปัญหาไม่มีความสมดุล เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดจากการกดดันของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และมีความได้เปรียบมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่งมากเกินไป </p>
<p>นั่นไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดี การแก้ปัญหาที่ไม่ดีมันเลวร้ายกว่าการไม่แก้ปัญหา กระบวนการแก้ปัญหาที่ไม่ดีเราก็ต้องแก้ไขหรือยกเลิก ซึ่งก็ต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้นเราอย่าเร่งรีบเกินไปจนกระทั่งว่าเป็นเหตุให้เกิดการตัดสินใจที่ทำให้เราเสียเปรียบ นี่คือ กระบวนการสันติภาพที่ล่าช้าและไม่สมดุล</p>
<p>บนโต๊ะพูดคุยสันติภาพ ทั้ง 2 ฝ่ายก็มีปัญหาเรื่องจำนวนคณะพูดคุยแต่ละฝ่าย มีปัญหาเรื่องวิธีการพูดคุย และเรื่องอื่น ๆ ที่เห็นแล้วไม่สมดุลกัน ซึ่งการเจรจาก็ต้องทำให้สมดุลกันทั้งสองฝ่าย และการสร้างความสมดุลกันนั้นก็คือ อย่ามีแต่ฝ่ายขบวนการแต่จำเป็นต้องมีการสนับสนุนจากสังคมโดยรวมด้วย</p>
<p>แต่เมื่อเรามีความแตกแยกกัน ซึ่งมาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ส่งผลทำให้กลุ่มขบวนการที่เข้าร่วมเจรจากับฝ่ายรัฐจะรู้สึกว่าไม่มีเพื่อนหรือผู้สนับสนุนอยู่ข้างหลัง ก็ทำให้เกิดความอ่อนแอ เพราะต่างก็มีเรื่องเล่าของตัวเองแตกต่างกันไป นี่คือเรื่องหนึ่งที่เราต้องมาช่วยกันคิด </p>
<h2><span style="color:#3498db;">กระบวนการสันติภาพที่ครอบคลุมจึงสำคัญ</span></h2>
<p>Inclusivity ความครอบคลุมจึงสำคัญ ไม่ครอบคลุมเฉพาะกลุ่มขบวนการเท่านั้น แต่จะต้องเชื่อมโยงกับสังคมโดยรวมอย่างไร รวมถึงภาคประชาสังคมก็ต้องร่วมอยู่ในเรื่องนี้ด้วย และต้องไม่ปฏิเสธหรือกีดกันกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง </p>
<p>เราอย่าเลือกเฉพาะเพื่อนเราเท่านั้น เพราะการที่จะเดินไปข้างหน้าได้นั้นจะไว้ใจแค่เพื่อนเรา ส่วนคนอื่น ๆ นั้นเป็นศัตรูไม่ได้ </p>
<p>กระบวนการเจรจาสันติภาพถ้าไม่มีฝ่ายขบวนการทุกกลุ่มเข้าร่วมก็จะมีปัญหาเช่นกัน ยิ่งมีเฉพาะฝ่ายที่อ้างว่า ฉันนี่แหละที่เป็นตัวแทนของทุกคน สามารถทำได้ทุกอย่าง ฉันจะเป็นผู้นำเอง คนที่ไม่ตามฉันก็จะเป็นตัวป่วน </p>
<h2><span style="color:#3498db;">ต้องมี Road Map บอกสิ่งที่เราอยากจะบรรลุ</span></h2>
<p>เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะนำไปสู่ความครอบคลุมได้นั้น ก็คือจะต้องมี Road Map (แผนที่นำทาง) ที่ชัดเจน </p>
<p>Road Map จำเป็นต้องมี เพราะบางครั้งผมก็ไม่แน่ใจว่ากระบวนการสันติภาพจะไปทางไหน บางครั้งเวลาใครถามว่าอะไรที่เราอยากจะบรรลุ คำตอบคือยังไม่แน่นอน จะให้แน่นอนได้เมื่อไหร่ก็หลังจากที่เราพยายามทำมันขึ้นมา แต่เราก็พยายามมาแล้วหลายปี ในขณะที่สังคมก็ประสบกับความทุกข์ยากอยู่ ต้องการหาทางออก เพราะฉะนั้นเราต้องจริงจังเรื่องนี้ และจุดจบที่ชัดเจนจะต้องมี </p>
<p>สิ่งที่ผมพูดนี้ ไม่ได้เจาะจงไปที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เจาะจงไปที่ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งฝ่ายรัฐบาลไทยก็ยังไม่มีความชัดเจนและครอบคลุม เพราะฝ่ายรัฐบาลไทยก็ยังมีความแตกแยกและมีความต้องการที่แตกต่างกันของฝ่ายต่างๆ กันอยู่ ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายทหาร รวมถึงสำนักพระราชวัง</p>
<p>รัฐบาลใหม่ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไหร่ ซึ่งผมก็คิดว่ารัฐบาลใหม่ก็จะมีแนวทางของเขา เพราะฉะนั้นเราต้องร่วมกันคิดว่าอะไรคือจุดจบปลายทางที่ชัดเจน ที่เราจะต้องไปให้ถึง</p>
<h2><span style="color:#3498db;">จะต้องทำอะไรต่อไป....?  ใน 8 ข้อ</span></h2>
<p>เราจะย้อนกลับไปที่วัตถุประสงค์เดิมของเวทีวันนี้ คือ การศึกษาสันติภาพจะสามารถสร้างวัฒนธรรมสันติภาพที่ปาตานี เราจะรวมเป็นความหวังใหม่ในการสร้างปาตานีใหม่ (Patani Baru) </p>
<p>เพราะเราต้องการสร้างสิ่งใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องมองหาสิ่งที่เรามีอยู่ เพราะฉะนั้นผมจึงกล่าวถึงบริบทของปาตานี เพื่อที่จะเติมเต็มในสิ่งที่ขาดไป และต้องรวมแนวทาง/ยุทธศาสตร์ที่ดีกว่า ให้สามารถหนุนเสริมเราในการสร้าง Patani Baru ที่สามารถสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับเราได้</p>
<h2><span style="color:#3498db;">สร้างปาตานีใหม่ (Patani Baru) ที่มีสันติภาพ</span></h2>
<p>เป้าหมายของทั่วไปของการศึกษาสันติภาพคืออะไร</p>
<p>1. ย้อนดูคุณค่าและเป้าหมายหลักของสันติศึกษา ปรับใช้ให้เข้ากับบริบทและค่านิยมของชุมชนปาตานีเพื่อสร้างวัฒนธรรมสันติภาพในเวอร์ชันปาตานี รวมถึงประวัติศาสตร์ ที่มีอยู่ในพื้นที่ </p>
<p>2. ทำให้สิ่งนี้เป็นพื้นฐานของ "หลักการแห่งสันติภาพสำหรับชุมชนปาตานี" ซึ่งเคารพในอัตลักษณ์ คุณค่า ศักดิ์ศรี ความต้องการและความหวังของชุมชนชาวมุสลิมเชื้อสายมลายูปาตานี</p>
<p>เมื่อเราจะสร้าง Patani Baru เรามีหลักการที่กล่าวถึงเฉพาะ Patani Baru ที่มีสันติภาพว่าคืออะไรและมีปัจจัยอะไรที่สามารถส่งเสริมการสร้างสันติภาพปาตานี </p>
<p>3. ทำหลักการนี้เป็นพื้นฐานในการสร้าง Patani Baru ที่สงบสุข มั่งคั่ง และสง่างาม เป็นหลักการพื้นฐานในการสร้าง Patani Baru ที่มีสันติภาพ มีความรุ่งเรืองและมีศักดิ์ศรีของปาตานีใหม่ ไม่ใช่ปาตานีเก่าและไม่ใช่ปาตานีปัจจุบัน </p>
<h2><span style="color:#3498db;">ยกตัวอย่างกรณี Aceh Baru </span></h2>
<p>ทุกท่านต้องค้นหาให้ได้ว่า อะไรบ้างที่ต้องมีใน Patani Baru ที่จะเป็นฐานของทั้งหมดที่ผมได้กล่าวไว้</p>
<p>ผมมีเพื่อนที่อาเจ๊ะห์ (ประเทศอินโดนีเซีย) เมื่อก่อนผมไปอาเจ๊ะห์บ่อย ได้เรียนรู้จากพวกเขาเยอะและได้สนับสนุนกระบวนการสันติภาพที่อาเจ๊ะห์ หนึ่งในโปรแกรมที่เราได้ทำ คือการก่อตั้งหน่วยงานหนึ่งชื่อว่า Konsosial Aceh Baru : KAB เมื่อครั้งยังมีความขัดแย้งอยู่</p>
<p>โดยทำกิจกรรมที่เราเรียกว่า Scenario Building Workshop ที่จะให้สังคมอาเจ๊ะห์ได้พูดคุยกันว่า อาเจ๊ะห์ในภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะถ้าไม่แก้ปัญหาความขัดแย้งก็จะเป็นอาเจ๊ะห์ที่ล้มเหลวแหลกลาน แต่เราพยายามเลี่ยงได้ เพราะเรามีทางเลือกอื่นๆ นั่นคือ Aceh Baru </p>
<p>ถ้าเราทำ Patani Baru เราจะต้องทำอะไรบ้าง ผมหวังว่าทางผู้จัดคงจะรวบรวมความเห็นและข้อเสนอแนะมาศึกษาว่า อะไรที่จำเป็นสำหรับ Patani Baru ที่มีสันติภาพ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">พัฒนาและเผยแพร่แนวคิดในทุกระดับการศึกษา</span></h2>
<p>4. พัฒนาและเผยแพร่ "หลักสันติ" และแนวคิด "Patani Baru" ในทุกระดับการศึกษา - โรงเรียน มหาวิทยาลัย ทั้งการศึกษาในระบบและนอกระบบที่ไม่เป็นทางการ</p>
<p>เมื่อไหร่ ที่เราจะพัฒนาและเผยแพร่ "หลักสันติ" และแนวคิด "Patani Baru" ในทุกระดับการศึกษา</p>
<p>ต้องเริ่มที่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับกลางจนถึงระดับสูง รวมทั้งการศึกษาในระบบคือโรงเรียนและมหาวิทยาลัย และการศึกษานอกระบบคือการศึกษาที่จัดการโดยองค์กรพัฒนาเอกชน/ภาคประชาสังคม และอื่น ๆ เพื่อฝึกอบรมคนที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาปกติ เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกันในการเรียนรู้ที่จะนำไปสู่ความปรารถนาของแนวคิดสันติภาพของปาตานีใหม่ (Patani Baru)</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ต้องสามัคคีและมีส่วนร่วมของทุกกลุ่ม</span></h2>
<p>5. ชิด ๆ กัน (ขยับแถวให้ชิดกัน)... ต้องกลับไปคิดว่า เราจะหลีกเลี่ยงความแตกต่างกันได้อย่างไร แล้วมามุ่งเน้นความสามัคคีกัน สร้างการมีส่วนร่วมของทุกกลุ่มทุกระดับ เพราะเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือปาตานีที่มีสันติภาพ ปาตานีที่ไม่มีความหวาดกลัว ปาตานีที่มีคุณค่าและศักดิ์ศรีของตนเองด้วยอัตลักษณ์ความเป็นมลายูอิสลามของเรา</p>
<p>ทำไมเราจะไม่สามารถทำงานร่วมกันเพื่อเป้าหมายเดียวกันนี้ได้ นี่คือสิ่งที่เราต้องคิด โดยต้องเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกันเพื่อพูดคุยกัน</p>
<p>6. สนับสนุนและช่วยเหลือกระบวนการสันติภาพปาตานีในทุกระดับ เพราะเรามีกระบวนการสันติภาพ เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น </p>
<p>เราไม่มีกระบวนการสันติภาพอื่น ๆ อีก ถึงแม้ว่าจะมีการพบปะพูดคุยกับกลุ่มอื่น ๆ บ้างก็ตาม แต่กระบวนการสันติภาพที่เป็นทางการที่มีผู้เกี่ยวข้อง 2 ฝ่ายและมีฝ่ายผู้อำนวยความสะดวกก็เป็นกระบวนการเดียวเท่านั้น เป็นกระบวนการที่โอบกอดเราเอาไว้และต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากพวกเราทุกคน</p>
<p>ขอให้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า เราจะทำอย่างไรที่จะทำให้มีกระบวนการพูดคุยที่ประสบความสำเร็จ และมีผลลัพธ์ที่ดีสำหรับพวกเราทุกคน</p>
<h2><span style="color:#3498db;">เคารพผู้จากไปและสร้างแหล่งอ้างอิงสันติภาพปาตานี</span></h2>
<p>7.เคารพ หวงแหนและชื่นชมการต่อสู้ของผู้จากไป แต่บางทีเราก็ลืมผลงานที่พวกเขาได้ทิ้งไว้ให้เราได้อยู่อย่างมีความสุขในทุกวันนี้ ต้องไม่ลืมว่าพวกเขาเหล่านั้นได้เสียสละมากน้อยแค่ไหนในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ และ</p>
<p>8. จัดตั้งพิพิธภัณฑ์สันติภาพปาตานีเพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงสำหรับสันติภาพปาตานี และหน่วยงานที่จะติดตามการพัฒนาของ Patani Baru เพื่อให้เกิดความคิดเห็นที่เป็นบวก แม้ว่านิทรรศการหรือการจัดแสดงต่าง ๆ ทางประวัติศาสตร์ที่มีอยู่แล้วนั้นถือว่าดีมาก แต่จำเป็นต้องมีพื้นที่อ้างอิงถึงความพยายามในการต่อสู้เพื่อสันติภาพในปาตานีที่กว้างขึ้น รวมถึงทุก ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปาตานี</p>
<p>จำไว้ว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างสถานการณ์กับพฤติกรรมและทัศนคติ ถ้าต้องการปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น เราต้องมีทัศนคติที่ดีกว่า มีความคิดที่ดีกว่าและมีความสันติมากกว่า ซึ่งเราสามารถทำได้ และพยายามทำให้เกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์สันติภาพปาตานี</p>
<p><span style="color:#3498db;">*ฟังบรรยายเต็มระหว่างนาที 30.00 ถึง นาที 1.11.30 </span><span style="color:#3498db;">ตามลิงค์นี้</span><span style="color:#3498db;"> </span></p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">รายงานพิเ
6443  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - รวบตำรวจหนุ่ม บุกโรงพยาบาลยิงปืนขู่ หลังตามง้อนายทหารพยาบาลยศ "ร.ท." ไม่สำเร็ เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 14:09:07
รวบตำรวจหนุ่ม บุกโรงพยาบาลยิงปืนขู่ หลังตามง้อนายทหารพยาบาลยศ "ร.ท." ไม่สำเร็จ
         


รวบตำรวจหนุ่ม บุกโรงพยาบาลยิงปืนขู่ หลังตามง้อนายทหารพยาบาลยศ &quot;ร.ท.&quot; ไม่สำเร็จ" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/8970302/
         
6444  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - โพลวันแม่ พบคนต่างวัยมองปัญหาเดียวกันคือแม่ลูกไม่มีการแบ่งเวลาให้กัน เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 13:58:50
โพลวันแม่ พบคนต่างวัยมองปัญหาเดียวกันคือแม่ลูกไม่มีการแบ่งเวลาให้กัน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-12 12:25</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>สวนดุสิตโพลสำรวจ 1,074 คน เรื่อง “วันแม่ 2023 ของคนต่างวัย” ทั้งคนอายุไม่เกิน 40 ปีและอายุเกินมองว่าปัญหาความสัมพันธ์ระหว่าง “แม่-ลูก” อันดับ 1 คือ การแบ่งเวลา ไม่มีเวลาให้กัน</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53110503544_45ccd4bc31_o_d.jpg" /></p>
<p>12 ส.ค. 2566 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “วันแม่ 2023 ของคนต่างวัย” สำรวจระหว่างวันที่ 7-10 ส.ค. 2566  กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,074 คน แบ่งเป็น 2 ช่วงวัยตามค่าเฉลี่ยอายุมัธยฐานของประชากรไทย ปี 2566 คือ 40 ปี โดยแบ่งเป็น กลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปี และกลุ่มอายุ 41 ปีขึ้นไป พบว่าทั้ง 2 วัย (กลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปีและกลุ่มอายุ 41 ปีขึ้นไป) เห็นว่าวันแม่เป็นวันพิเศษที่ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน ร้อยละ 77.17 และร้อยละ 76.04 ตามลำดับ</p>
<p>โดยกลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปี มองว่าแม่ที่ดีจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ร้อยละ 88.26 รองลงมาคือ สนุกสนาน ไม่เครียด ร้อยละ 74.36 กลุ่มอายุ 41 ปีขึ้นไปมองว่าต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกเช่นกัน ร้อยละ 93.74 รองลงมาคือ แม่ที่ดีควรสนับสนุนให้ลูกประสบความสำเร็จ ร้อยละ 70.66</p>
<p>กลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปี มองว่าปัญหาความสัมพันธ์ระหว่าง “แม่-ลูก” อันดับ 1 คือ การแบ่งเวลา ไม่มีเวลาให้กัน ร้อยละ 66.99 รองลงมาคือ การควบคุมอารมณ์ของแม่และลูก ร้อยละ 66.41 ส่วนกลุ่มอายุ 41 ปีขึ้นไปมองว่าปัญหาคือเรื่องการแบ่งเวลาเช่นกัน ร้อยละ 69.05 รองลงมาคือ การพูดคุยสื่อสารระหว่างกัน ร้อยละ 68.69</p>
<p>กิจกรรมที่จะทำในวันแม่ปีนี้ ทั้ง 2 กลุ่มอายุคิดว่าจะรับประทานอาหารร่วมกัน ร้อยละ 84.25 และร้อยละ 78.86 ตามลำดับ โดยกลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปี คาดว่าจะใช้จ่ายในวันแม่ปีนี้เฉลี่ยประมาณ 3,100.30 บาท ส่วนกลุ่มอายุ 41 ปีขึ้นไป จะใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 2,393.50 บาท</p>
<p>เมนูอาหารที่ทำให้คิดถึงแม่สำหรับกลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปี คือ เมนูแกงส้ม ร้อยละ 49.22 ส่วนกลุ่มอายุ 41 ปีขึ้นไป คือ เมนูไข่พะโล้ ร้อยละ 61.24</p>
<p>ดร.จันทร์จนา ศิริพันธ์วัฒนา ผู้จัดการสวนดุสิตโฮมเบเกอรี่ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า “แม่เป็นบุคคลพิเศษของลูกเสมอ” วันแม่จึงเป็นวันที่สำคัญของหลาย ๆ ครอบครัว จากผลการสำรวจพบว่า สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นไปในสังคมไทย โดยจะเห็นว่าทุกครอบครัวเลือกที่ใช้เป็นเวลาที่พิเศษสุดในการแสดงความรัก ความอบอุ่น และใช้เวลาอยู่ร่วมกัน  เนื่องจากคุณแม่ยุคใหม่ต้องทำงานและมีปัญหาในด้านการแบ่งเวลา วันแม่จึงเป็นโอกาสแห่งการเติมเต็มช่องว่างของการมีเวลาให้กันและกัน      </p>
<p>ส่วนปัญหาระหว่างแม่กับลูก คือ เรื่องการสื่อสารเพราะด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันล้ำหน้ามาก ทำให้ต่างคนต่างอยู่กับอุปกรณ์สื่อสารของตนเอง และความแตกต่างของเจนเนอเรชั่น ต่างมีชุดข้อมูลและความต้องการแตกต่างกัน ซึ่งแม่ต้องหาทางที่จะสื่อสารกับลูกให้เหมาะสมเพื่อสร้างบรรยากาศความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ทั้งนี้ ถึงแม้จะไม่ใช่วันแม่ก็จะเห็นว่าหลาย ๆ ครอบครัวใช้วิธีการสร้างความสัมพันธ์ผ่านโต๊ะอาหาร เพราะจะมีการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการและมีการชวนกันทานอาหารที่ชอบซึ่งเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายและส่งเสริมความสัมพันธ์ของแม่กับลูกและคนในครอบครัวได้อย่างดี</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105421
 
6445  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - คนไทยทุกคนรับ “ยาคุมกำเนิด-ถุงยาง” ป้องกันตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์-โรคติดต่อทาง เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 12:28:47
คนไทยทุกคนรับ “ยาคุมกำเนิด-ถุงยาง” ป้องกันตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์-โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-12 11:14</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>สปสช.ชวนคนไทยทุกคนทุกสิทธิการรักษา รับ “ยาเม็ดคุมกำเนิด-ถุงยางอนามัย” สิทธิประโยชน์กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้แล้ว รับบริการได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ลงทะเบียนใช้สิทธิผ่าน “แอปเป๋าตัง” ก่อนเข้ารับบริการที่ “หน่วยบริการในระบบ” ทั้ง คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรม ร้านยา หน่วยบริการปฐมภูมิ คลินิกการพยาบาล รพ.สต. เป็นต้น พร้อมรับถุงยางอนามัยผ่านตู้จ่ายถุงยางอัตโนมัติได้แล้ววันนี้    </p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53109664432_bc3e4bebb7_o_d.jpg " /></p>
<p>12 ส.ค. 2566 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แจ้งข่าวว่า ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า แนวทางในการป้องกันและควบคุมโรคจำเป็นต้องให้บริการที่ครอบคลุมอย่างทั่วถึง ภายหลังจากที่ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้ ทำให้บริการภายใต้สิทธิประโยชน์บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครอบคลุมการดูแลคนไทยทุกคนทุกสิทธิรักษาพยาบาลทั่วประเทศ </p>
<p>ทั้งนี้ รวมถึงการให้บริการยาเม็ดคุมกำเนิดและถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันภาวะตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จากเดิมเป็นการให้บริการเฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทองก่อน เนื่องจากอยู่ระหว่างรอความชัดเจนในข้อกฎหมาย แต่ในวันนี้คนไทยทุกสิทธิการรักษาพยาบาลสามารถขอรับยาเม็ดคุมกำเนิดและถุงยางอนามัยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้แล้ว ตามหลักเกณฑ์การให้บริการของ สปสช.</p>
<p>ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ในการรับบริการยาเม็ดคุมกำเนิดนั้น เป็นการให้บริการหญิงไทยอายุระหว่าง 15-59 ปี ครั้งละไม่เกิน 3 แผง คนละไม่เกิน 13 แผงต่อปี เข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่ หน่วยบริการปฐมภูมิที่เข้าร่วมโครงการ รพ.สต. โรงพยาบาลรัฐ ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรม คลินิกการพยาบาลฯ และร้านยา เป็นต้น 
วิธีรับบริการ มี 2 วิธี ดังนี้</p>
<p>1.รับบริการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ให้เลือกที่เมนูกระเป๋าสุขภาพ คลิกสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค คลิกยาเม็ดคุมกำเนิด จะปรากฏข้อมูลเงื่อนไขการรับบริการ จากนั้นให้คลิกดูหน่วยบริการ ซึ่งท่านสามารถค้นหาหน่วยบริการและนัดวันเพื่อไปรับยาคุมกำเนิดได้ หลังจากนั้นให้ไปรับยาคุมกำเนิดที่หน่วยบริการตามวันที่นัดไว้ในระบบ  </p>
<p>2.กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน ให้นำบัตรประชาชน มาดำเนินการลงทะเบียน เพื่อรับยาคุมกำเนิด ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ </p>
<p>ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ส่วนการรับถุงยาอนามัยนั้น เป็นการให้บริการคนไทยทุกคน รับครั้งละ 10 ชิ้นต่อคน/สัปดาห์ และไม่เกิน 52 ครั้ง/คน/ปี โดยมีให้เลือก 4 ไซส์ คือ 49 มม., 52 มม., 54 มม. และ 56 มม. สำหรับขึ้นตอนการรับถุงยางอนามัยนั้น สามารถรับบริการได้ที่หน่วยบริการในระบบบัตรทองที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเช่นกัน โดยลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเช่นเดียวกับวิธีการรับบริการยาคุมกำเนิด โดยเลือกเมนูกระเป๋าสุขภาพ คลิกที่สิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค และเลือกคลิกที่ถุงยางอนามัย ทำการเลือกหน่วยบริการและนัดหมายการรับบริการ จากนั้นให้ไปรับถุงยางอนามัยตามวันที่นัดไวในระบบ  
    
นอกจากนี้ วันนี้คนไทยทุกคนทุกสิทธิ อายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถนำบัตรประชาชนไปรับถุงยางอนามัยผ่านตู้จ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติได้เช่นกัน ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ บมจ.สบายเทคโนโลยี ขณะนี้ติดตั้งแล้ว 12 จุดในพื้นที่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สระบุรี และชลบุรี (พัทยา) </p>
<p>“วันนี้คนไทยทุกคนสามารถรับบริการยาเม็ดคุมกำเนิดและถุงยางอนามัย สิทธิประโยชน์จาก สปสช.ได้แล้ว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์สำหรับประชาชนเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ รวมถึงการตั้งครรภ์ในกลุ่มวัยรุ่นที่ยังไม่มีความพร้อม” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว </p>
<p>สถานที่จุดตั้งตู้จ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติ มีดังนี้ </p>
<p>1. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ
2. คลีนิคเวชกรรมอารีรักษ์ คลองเตย กรุงเทพฯ
3. มหาวิทยาลัยรังสิต ตึกเภสัชศาสตร์ ปทุมธานี 
4. หมู่บ้านรังสิตซิตี้ (แฟลตบางทอง) ปทุมธานี
5. ท่าเรือแหลมบาลีฮาย จ.ชลบุรี (2 ตู้) 
6. โรงพยาบาลเมืองพัทยา จ.ชลบุรี 
7. เซ็นทรัลพัทยา ชั้น 1 และชั้น 6 
8. เซ็นทรัล มารีน่า พัทยา ชั้น 1 
9. ตลาดต้นสัก อ.เมือง จ.นนทบุรี 
10. ห้างสุขอนันต์ ปาร์ค สระบุรี </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105419
 
6446  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เพชร กรุณพล จี้สื่อดังนำเสนอข้อเท็จจริง อย่าใส่อคติส่วนตัวลงในข่าว กรณี สส.ต้นก เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 11:37:37
เพชร กรุณพล จี้สื่อดังนำเสนอข้อเท็จจริง อย่าใส่อคติส่วนตัวลงในข่าว กรณี สส.ต้นกล้า
         


เพชร กรุณพล จี้สื่อดังนำเสนอข้อเท็จจริง อย่าใส่อคติส่วนตัวลงในข่าว กรณี สส.ต้นกล้า" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/8969850/
         
6447  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - “ชัยวุฒิ” จี้ ตร.จัดการแก๊งแอปฯดูดเงิน หลังผู้ประกาศข่าวดังสูญเงินนับล้าน เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 10:07:08
“ชัยวุฒิ” จี้ ตร.จัดการแก๊งแอปฯดูดเงิน หลังผู้ประกาศข่าวดังสูญเงินนับล้าน
         


“ชัยวุฒิ” จี้ ตร.จัดการแก๊งแอปฯดูดเงิน หลังผู้ประกาศข่าวดังสูญเงินนับล้าน" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/8969550/
         
6448  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - หมอปลาย แย้มเพิ่มอีก นายกคนต่อไป ตัว พ. บ่าแข็ง หรือจะเป็นสายเลือดเดียวกับ... เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 09:07:30
หมอปลาย แย้มเพิ่มอีก นายกคนต่อไป ตัว พ. บ่าแข็ง หรือจะเป็นสายเลือดเดียวกับ...
         


หมอปลาย แย้มเพิ่มอีก นายกคนต่อไป ตัว พ. บ่าแข็ง หรือจะเป็นสายเลือดเดียวกับ..." width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/8969418/
         
6449  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ทะลักวัดแทบแตก วันเกิด "หลวงปู่เฮง" เกจิดังอีสาน ฮือฮาจุดธูปเจอเลขอายุเต็มๆ เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 06:37:17
ทะลักวัดแทบแตก วันเกิด "หลวงปู่เฮง" เกจิดังอีสาน ฮือฮาจุดธูปเจอเลขอายุเต็มๆ
         


ทะลักวัดแทบแตก วันเกิด &quot;หลวงปู่เฮง&quot; เกจิดังอีสาน ฮือฮาจุดธูปเจอเลขอายุเต็มๆ" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;วันเกิด "หลวงปู่เฮง" เกจิดังอีสานใต้ ประชาชนแห่รอรับแจกเหรียญปลุกเสก 7 รุ่น ชาวบ้านฮือฮา จุดธูปเจอเลขอายุหลวงปู่เฮงเต็มๆ
         

https://www.sanook.com/news/8967550/
         
6450  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - “ละคร 8 ตอน” การเมืองไทย ดราม่าดุเดือดแค่ไหน ไปดูกัน! เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 04:05:11
“ละคร 8 ตอน” การเมืองไทย ดราม่าดุเดือดแค่ไหน ไปดูกัน!
         


“ละคร 8 ตอน” การเมืองไทย ดราม่าดุเดือดแค่ไหน ไปดูกัน!" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;Sanook ชวนไปดู “ละคร 8 ตอน” ของการเมืองไทยว่าจะดราม่าดุเดือดแค่ไหน แล้วจุดจบของละครโรงใหญ่นี้จะเป็นอย่างไรกันแน่?
         

https://www.sanook.com/news/8966894/
         
6451  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "เวลาให้ลูกคือสิ่งสำคัญ" ทนายแจม ก้าวไกล กับบทบาทใหม่ฐานะแม่และนักการเมือง เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 04:05:11
"เวลาให้ลูกคือสิ่งสำคัญ" ทนายแจม ก้าวไกล กับบทบาทใหม่ฐานะแม่และนักการเมือง
         


&quot;เวลาให้ลูกคือสิ่งสำคัญ&quot; ทนายแจม ก้าวไกล กับบทบาทใหม่ฐานะแม่และนักการเมือง" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;ทนายแจม-ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส. กทม. พรรคก้าวไกล ยืนยันเวลาให้ลูกคือสิ่งสำคัญ พร้อมเปิดใจบทบาทใหม่ฐานะแม่และนักการเมือง
         

https://www.sanook.com/news/8943402/
         
6452  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - สรยุทธ โพสต์ เพื่อไทย ปิดดีลที่ 315 เสียง ดึงพรรค 2 ลุง โหวต "เศรษฐา" เป็นนายกฯ เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 01:14:03
สรยุทธ โพสต์ เพื่อไทย ปิดดีลที่ 315 เสียง ดึงพรรค 2 ลุง โหวต "เศรษฐา" เป็นนายกฯ
         


สรยุทธ โพสต์ เพื่อไทย ปิดดีลที่ 315 เสียง ดึงพรรค 2 ลุง โหวต &quot;เศรษฐา&quot; เป็นนายกฯ" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;เพจสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว โพสต์ เพื่อไทย ปิดดีล 315 เสียง 12 พรรคการเมือง มีพรรค 2 ลุงตามคาด ดัน เศรษฐา  เป็นนายกฯ คนที่ 30
         

https://www.sanook.com/news/8967470/
         
6453  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'ภูมิธรรม' เสนอ รบ.รักษาการหยุดแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง รอ รบ.ใหม่เข เมื่อ: 12 สิงหาคม 2566 01:04:17
'ภูมิธรรม' เสนอ รบ.รักษาการหยุดแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง รอ รบ.ใหม่เข้ามาบริหาร
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2023-08-11 13:31</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: ภูมิธรรม เวชยชัย</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'ภูมิธรรม' รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงแต่เช้าตรู่ ขอให้รักษารัฐบาลรักษามารยาทตามธรรมเนียม หยุดแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ซึ่งจะมีผลต่อการดำเนินนโยบาย อ้างข้าราชการเกษียณฟังไม่ขึ้น ให้รอรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร</p>
<p> </p>
<p>11 ส.ค. 2566 ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กวันนี้ (11 ส.ค.) เมื่อ 5.30 น. ออกแถลงการณ์วันนี้ (11 ส.ค.) เสนอรัฐบาลรักษาการรักษามารยาทตามธรรมเนียมปฏิบัติ หยุดแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่จะมีผลต่อการดำเนินนโยบาย ให้รอรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร การอ้างว่ามีข้าราชการเกษียณอายุฟังไม่ขึ้น เพราะว่าระบบข้าราชการยังดำเนินต่อไปได้ และยังไม่สิ้นปีงบประมาณ</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="581" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fpwechayachai%2Fposts%2Fpfbid027pDJkdrPT2TjViEj7VmdcV8xpzSsqYsq4Z5qLBMTRhaBCosBsg7b9D36ixvyfR12l&amp;show_text=true&amp;width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p>
<div class="note-box">
<h2><span style="color:#2980b9;">รายละเอียดแถลงการณ์</span></h2>
<p>ในห้วงเวลานี้ เป็นระยะเปลี่ยนผ่านที่จะมีรัฐบาลใหม่ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง จะเข้ามาบริหารประเทศ</p>
<ul>
<li>ข้อเสนอต่อรัฐบาลรักษาการ</li>
</ul>
<p>รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐบาลรักษาการมีอำนาจหน้าที่อันจำกัด เช่น ห้ามอนุมัติโครงการที่จะสร้างความผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไป ห้ามแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ รวมถึงพนักงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ เพื่อรอให้รัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มทั้งจากตัวบทกฎหมาย และอาณัติจากประชาชนเข้ามาบริหารตามแนวนโยบายที่ได้ประกาศไว้กับพี่น้องประชาชน</p>
<p>ดังนั้น รัฐบาลรักษาการควรรักษามารยาทตามธรรมเนียมปฏิบัติ และปฏิบัติตามข้อกำหนดของบทบาทหน้าที่ตามกฎหมาย ด้วยการยุติการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงทุกตำแหน่ง ที่จะมีผลต่อการผลักดันนโยบายของรัฐบาลใหม่</p>
<p>การกล่าวอ้างว่าจะมีข้าราชการระดับสูงเกษียณอายุราชการเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากยังไม่สิ้นปีงบประมาณ และกลไกระบบราชการยังสามารถดำเนินอยู่ได้</p>
<p>รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำนโยบายของรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศตามที่เสนอไว้ต่อพี่น้องประชาชน เพราะถือเป็นสัญญาประชาคมที่จะต้องเข้ามาเร่งดำเนินการทันที ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน และต้องอาศัยข้าราชการเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายให้ประสบผลสำเร็จ</p>
<p>ทั้งนี้ เพราะปัญหาวิกฤตของประเทศมีสาระสำคัญเกี่ยวกับความจำเป็นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฟื้นฟูผู้ประกอบการธุรกิจทุกกลุ่ม และฟื้นฟูความกินดี อยู่ดีของพี่น้องประชาชน ดังนั้น รัฐบาลใหม่จึงต้องมีกลไกที่สามารถขจัดอุปสรรค และเร่งทำตามนโยบายให้ลุล่วงโดยเร็วอย่างมีประสิทธิภาพ นั่นหมายถึงการมีข้าราชการ อย่างเช่น ระดับปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ที่สามารถปฏิบัติงานในการตอบสนองการบริหารงานของรัฐบาลใหม่ เพื่อร่วมสร้างผลสำเร็จต่อทุกนโยบายของรัฐบาลใหมให้สามารถแก้วิกฤตของประเทศและประชาชนได้</p>
<p>สิ่งที่เรานำเสนอ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติและความชอบธรรมของรัฐบาลใหม่ในการเข้ามาบริหารประเทศ และเป็นสิ่งที่รัฐบาลรักษาการไม่ควรกระทำอย่างยิ่งในช่วงรอยต่อที่รัฐบาลที่มีอำนาจเต็มจะเข้ามาบริหารประเทศ เพราะนอกจากจะผิดรัฐธรรมนูญแล้ว ยังผิดต่อธรรมเนียมปฏิบัติ และมารยาททางการเมืองที่สำคัญยิ่ง</p>
<ul>
<li>ความคิดเห็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ของปลัดกระทรวง ทุกกระทรวง</li>
</ul>
<p>เนื่องจากท่านเป็นกลไกสำคัญในการตอบสนองการทำงานตามนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่ได้รับความเห็นชอบจากสภา เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ สามารถบรรลุผลอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นที่ท่านควรจะต้องชะลอการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ระดับสำคัญ โดยรอรับนโยบายจากรัฐบาลใหม่ เพื่อให้การทำงานร่วมกันกับรัฐบาลใหม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงและสามารถแก้วิกฤตของประเทศ ให้หลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ ที่สั่งสมกันมาโดยเร็ว</p>
<p>โดยหวังว่าท่านจะร่วมกับรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อนนโยบายเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนได้อย่างราบรื่น</p>
<p>มาร่วมกันสร้างประเทศไทย
ให้ดีขึ้นกว่าเดิม</p>
<p>นายภูมิธรรม เวชยชัย
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
11 สิงหาคม 2566</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53108187371_e697bc0d41_b.jpg" /></p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53107618452_3998a32864_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">เฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai</span></p>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105412
 
6454  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'บาปไม่อาจลบล้างได้ ' มินอ่องหล่ายสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ กลางกรุงเนปิดอว์ เมื่อ: 11 สิงหาคม 2566 23:20:05
'บาปไม่อาจลบล้างได้ ' มินอ่องหล่ายสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ กลางกรุงเนปิดอว์
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2023-08-11 14:47</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'มินอ่องหล่าย' เปิดตัวพระพุทธรูปขนาดใหญ่กลางกรุงเนปิดอว์ ประชาชนวิจารณ์ไม่อาจกลบบาปกรรมของมินอ่องหล่ายได้ พระพุทธรูปแห่งนี้มี<wbr></wbr>ความเป็นการเมืองอยู่ การที่มินอ่องหล่ายตั้<wbr></wbr>งชื่อพระพทุธรูปว่ามารวิชัยที่<wbr></wbr>แปลว่า "เอาชนะมาร" นั้น แสดงให้เห็นถึงการที่มินอ่องหล่<wbr></wbr>ายไม่ได้สนใจที่จะบูชาพระพุ<wbr></wbr>ทธศาสนา แต่สนใจในการปราบศัตรูมากกว่า</p>
<p> </p>
<p>11 ส.ค. 2566 รัฐบาลทหารพม่าจัดให้มีพิธี<wbr></wbr>สมโภชเปิดตัวพระพุทธรูปหินอ่อน ปางมารวิชัย ที่ อุทยานพุทธศาสนา อ.ทักขิณาสิริ กรุงเนปิดอว์ ซึ่งรัฐบาลระบุว่<wbr></wbr>าเป็นพระพุทธรูปหินอ่อนที่ "ใหญ่ที่สุดในโลก" ด้วยความสูง 25 เมตร</p>
<p>นักข่าวของฟรอนเทียร์เมี<wbr></wbr>ยนมาร์รายงานว่า ในช่วงที่กำลังมีการก่<wbr></wbr>อสร้างนั้นมีการวางกำลังคุ้มกั<wbr></wbr>นพื้นที่ตั้งของพระพุทธรูปแห่<wbr></wbr>งอย่างแน่นหนา นักข่าวของพวกเขาพยายามเข้<wbr></wbr>าไปทำข่าวในเรื่องนี้เมื่อวันที่<wbr></wbr> 28 มี.ค. ที่ผ่านนมา ก็ถูกสกัดกั้นไม่ให้เข้<wbr></wbr>าไปโดยทหารรักษาความปลอดภัย 5 นาย</p>
<p>มีคนขับรถสามล้อที่พาคนงานก่<wbr></wbr>อสร้างไปส่งที่อุทยานเคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า ทุกคนที่เข้าไปที่ลานแห่งนี้<wbr></wbr>จะต้องถูกตรวจค้น และแรงงานก่อสร้างจะต้องฝากบั<wbr></wbr>ตรประชาชนของพวกเขาไว้ที่<wbr></wbr>กองกำลังความมั่นคงในช่วงที่<wbr></wbr>พวกเขาปฏิบัติงานข้างใน คนขับสามล้อบอกว่าในพุทธอุ<wbr></wbr>ทยานมีการสิ่งก่อสร้<wbr></wbr>างทางศาสนาจำนวนมากเป็นที่ๆ ดูอลังการ</p>
<p>ในขณะที่ประชาชนทั่วไปถูกปิดกั้<wbr></wbr>นไม่ให้เข้าถึง แต่กลุ่มชนชั้นนำของกองทัพพม่<wbr></wbr>าและชนชั้นนำที่เป็นนักธุรกิ<wbr></wbr>จกลับสามารถเข้าถึงอุทยานได้<wbr></wbr>โดยไม่มีปัญหาอะไร</p>
<p>U Khin Yi หัวหน้าพรรคสหสามัคคีและการพั<wbr></wbr>ฒนา (USDP) ซึ่งเป็นพรรคที่มีรัฐบาลทหารพม่าสนับหนุน เคยเขียนแสดงความชื่<wbr></wbr>นชมความสามารถของวิศวกรของรัฐบาล โดยระบุว่าในอุทยานขนาดประมาณ 569 ไร่ มีพระพุทธรู<wbr></wbr>ปและอาคารศาสนาจำนวนมาก มีสระมุจลินทร์ที่ตั้งของพระพุ<wbr></wbr>ทธรูปซึ่งมีพญานาคและสถูปวางไว้<wbr></wbr>เพื่ออารักขา</p>
<p>แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นสถานที่ๆ ยิ่งใหญ่อลังการเพียงใด แต่สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรู<wbr></wbr>ปหินอ่อนที่สร้างโดยรัฐบาลทหารพม่ากลายเป็นสิ่งที่ย้ำ<wbr></wbr>เตือนให้เห็นถึงความโหดเหี้<wbr></wbr>ยมของกองทัพพม่าและความหลงใหลมั<wbr></wbr>วเมาในความยิ่งใหญ่ของมินอ่<wbr></wbr>องหล่าย</p>
<p>หลังการรัฐประหารกองทัพพม่าก็<wbr></wbr>ใช้กำลังปราบปรามประชาชนอย่<wbr></wbr>างหนัก จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมแล้ว 3,900 ราย และมีผู้ที่ถูกจับกุมรวม 24,236 ราย มีอยู่ 19,721 รายที่ยังคงอยู่ในทีคุมขัง อ้างอิงจากข้อมูลของสมาคมให้<wbr></wbr>ความช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่<wbr></wbr>า (AAPP) เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา</p>
<p>ผู้หญิงรายหนึ่งจากกรุงเนปิดอว์<wbr></wbr>กล่าวว่า มินอ่องหล่ายน่าจะกำลังกลั<wbr></wbr>วกรรมตามสนองตัวเอง เธอบอกว่าไม่ว่ามินอ่องหล่<wbr></wbr>ายจะสร้างพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่<wbr></wbr>สุดในโลกหรืออารามที่ใหญ่ที่สุ<wbr></wbr>ดของโลก บาปกรรมของเขาก็ไม่อาจลบเลื<wbr></wbr>อนไปได้ เพราะเขาเป็นดั่งมารร้ายที่ทารุ<wbr></wbr>ณและสังหารผู้คน</p>
<p>"เขา (มินอ่องหล่าย) กำลังกลัว เขาจึงพยายามกลบบาปกรรมของตั<wbr></wbr>วเองด้วยการทำอะไรเกี่ยวกับเรื่<wbr></wbr>องศาสนา" ผู้หญิงจากกรุงเนปิดอว์กล่าว</p>

<p>ในขณะที่การสร้างพระพุทธรูปนี้<wbr></wbr>เป็นแผนการที่มีมาตั้งแต่ก่<wbr></wbr>อนหน้าการรัฐประหารแล้ว แต่น่าสังเกตว่าสื่อรั<wbr></wbr>ฐบาลพม่าทำการเสนอข่าวในเรื่<wbr></wbr>องพระพุทธรูปใหม่นี้เพิ่มมากขึ้<wbr></wbr>นหลังจากที่กองทัพพม่าเข้ามายึ<wbr></wbr>ดอำนาจ และมีการเรียกพระพุทธรูปว่า "ภูมีผัสสะมุทรา"</p>
<p>ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับพระพุ<wbr></wbr>ทธรูปนี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พลจันวา ซอมินทุน แถลงว่าโครงการนี้ดำเนิ<wbr></wbr>นการโดยกองทัพพม่าและสภาวิ<wbr></wbr>ศวกรพม่าโดยทั้งหมด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการบริ<wbr></wbr>จาคที่รวมแล้วราว 40 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,400 ล้านบาท) ทางรัฐบาลทหารพม่าพยายามขอบริ<wbr></wbr>จาคจากประชาชนโดยมีการเปิดเผยบั<wbr></wbr>ญชีธนาคารของพวกเขาผ่านทางสื่<wbr></wbr>อรัฐ แต่ผู้ที่บริจาคโดยส่วนใหญ่แล้<wbr></wbr>วเป็นพวกพ้องชนชั้นนำของเผด็<wbr></wbr>จการและกลุ่มชนชั้นนำนักธุรกิ<wbr></wbr>จอื่นๆ</p>
<p>มีการตั้งข้อสังเกตว่าเงินบริ<wbr></wbr>จาคพุ่งสูงขึ้นมากเกือบ 20 เท่าจากเงินบริจาคเดิมคือจาก 810 ล้านจ๊าด (ราว 13.5 ล้านบาท) เป็น 16,000 ล้านจ๊าด (ราว 267 ล้านบาท) โดยผู้ที่บริจาคให้มากที่สุ<wbr></wbr>ดสองอันดับแรกอยู่ที่ 2,000 ล้านจ๊าด (ราว 33 ล้านบาท) คือ U Khin Maung Aye จากธนาคารซีบี และ U Kyay จากบริษัท Wai Mar มีอีกรายหนึ่งที่บริจาคให้<wbr></wbr>จำนวนมากคือ U Thein Win Zaw พวกพ้องกองทัพที่ถูกกล่าวหาว่<wbr></wbr>าทำตัวเป็นช่องทางให้เผด็<wbr></wbr>จการโดยการเป็นตัวแทนซื้อบริษั<wbr></wbr>ทโทรคมนาคม</p>
<p>แต่ถึงแม้ว่าเงินบริ<wbr></wbr>จาคจะมหาศาลขนาดนี้ แต่แรงงานที่ทำงานสร้างอุ<wbr></wbr>ทยานพระพุทธรูปกลับได้รับค่าจ้<wbr></wbr>างแค่เล็กน้อย มีแรงงานก่อสร้างบอกว่<wbr></wbr>าพวกเขาทำงานตั้งแต่ 08.00 น. - 17.30 น. แต่ได้รับค่าจ้างแค่ 7,000-20,000 จ๊าดต่อวัน (ราว 120-330 บาท) ตามแต่บทบาทของพวกเขาแล้วก็มั<wbr></wbr>กจะจ่ายให้ทุกๆ 3 วัน</p>
<p>แต่แรงงานรายหนึ่งก็บอกว่<wbr></wbr>าพวกเขาไม่มีทางเลือก มีแต่ต้องทำงานให้กับรัฐบาลทหารพม่าแม้จะถูกครหา เพราะถ้าพวกเขาไม่ทำงานนี้<wbr></wbr>พวกเขาก็จะอดตาย</p>
<p> </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">คนทั่วไปไม่รู้แม้แต่ชื่อพระพุ<wbr></wbr>ทธรูป</span></h2>
<p>คนขับแท็กซี่รายหนึ่งที่ขั<wbr></wbr>บรถพานักข่าวฟรอนเทียร์เมี<wbr></wbr>ยนมาร์ไปที่อุทยานพระพุทธรูปกล่<wbr></wbr>าวว่า เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพระพุ<wbr></wbr>ทธรูปหินอ่อนที่พวกเผด็จการพม่<wbr></wbr>าสร้างมีชื่อว่าอะไร</p>
<p>ผู้หญิงอีกคนหนึ่งในเนปิดอว์กล่<wbr></wbr>าวว่า ประชาชนรู้แค่ว่ามินอ่องหล่<wbr></wbr>ายกำลังสร้าง "เจดีย์ของมินอ่องหล่าย" แต่ไม่มีใครรู้ว่ามีชื่อว่าอะไร และไม่มีใครที่อยากจะรู้</p>
<p>มินอ่องหล่ายได้ปรึกษากับพระสงฆ์อาวุโสที่<wbr></wbr>อยู่ใกล้ชิดกับเขาที่ดำรงตำแหน่<wbr></wbr>งเป็นกรรมการสังฆมหานายกะของรั<wbr></wbr>ฐบาลพม่า โดยตั้งให้พระพุทธรูปชื่อมารวิ<wbr></wbr>ชัย</p>
<p>มีพระสงฆ์ Sayadaw U Wayama ที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตยจากเครื<wbr></wbr>อข่ายสังฆปฏิวัติต่อต้านเผด็<wbr></wbr>จการทหาร วิพากษ์วิจารณ์พระสงฆ์ที่ไปให้<wbr></wbr>คำปรึกษากับกลุ่มผู้นำเผด็<wbr></wbr>จการทหารว่า "คงต้องบอกว่าพระอาจารย์สงฆ์<wbr></wbr>เหล่านี้ช่วยให้เขา (มินอ่องหล่<wbr></wbr>าย) โกหก, คดโกง และกลบเกลื่อนการกระทำที่ไม่เป็<wbr></wbr>นธรรมและการกระทำที่โหดร้าย"</p>
<p>U Wayama กล่าวว่า การที่มินอ่องหล่ายตั้<wbr></wbr>งชื่อพระพทุธรูปว่ามารวิชัยที่<wbr></wbr>แปลว่า "เอาชนะมาร" นั้น แสดงให้เห็นถึงการที่มินอ่องหล่<wbr></wbr>ายไม่ได้สนใจที่จะบูชาพระพุ<wbr></wbr>ทธศาสนา แต่สนใจในการปราบศัตรูด้<wbr></wbr>วยความรุนแรงมากกว่า</p>
<p>ถึงแม้ว่าพระพุทธรูปปางมารวิจั<wbr></wbr>ยในทางหลักการแล้วจะหมายถึ<wbr></wbr>งการที่พระพุทธเจ้าได้เอาชนะ "มาร" ที่เป็นภาพแทนนามธรรมอย่าง ความโลภ, ความเกลียดชัง และความตาย แต่มิงอ่องหล่ายไม่ได้ต้องการเอาชนะนามธรรมเหล่<wbr></wbr>านี้ เขาต้องการเอาชนะศัตรูที่<wbr></wbr>เป็นประชาชนของประเทศตัวเองผู้<wbr></wbr>ลุกฮือขึ้นต่อต้านเผด็จการทหาร</p>
<p>นอกจากนี้แล้วพระพุทธรูปที่อุ<wbr></wbr>ทยานแห่งใหม่ยังดูเหมื<wbr></wbr>อนจะเผยให้เห็นการที่กองทัพพม่<wbr></wbr>ามีความหมกมุ่นอยู่กับเลข 9 ด้วย จากการที่ตัวเลขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธรูป ไม่ว่าจะเป็นความสูงของโครงสร้<wbr></wbr>างทั้งหมด 81 ฟุต พระพุทธรูปเองมีความสูง 63 ฟุต มีฐานพระพุทธรูป 18 ฟุต มีน้ำหนักรวมแล้ว 5,292 ตัน ตัวฐานมีน้ำหนัก 3,510 ตัน ขณะที่ส่วนของพระพุทธรูปมีน้ำ<wbr></wbr>หนัก 1,782 ตัน ตัวเลขเหล่านี้เมื่อแยกหลักแต่<wbr></wbr>ละหลักออกมาแล้วนำมาบวกกั<wbr></wbr>นจนกลายเป็นหลักหน่วยแล้<wbr></wbr>วคำตอบจะเท่ากับ 9 ทั้งหมด (เช่น น้ำหนัก 5+2+9+2 = 18 = 1+8 = 9)</p>
<p>ไม่เพียงตัวเลขน้ำหนั<wbr></wbr>กและขนาดของพระพุทธรูปกับส่<wbr></wbr>วนประกอบเท่านั้น แม้กระทั่งตัวเลขอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการก่อสร้างอุ<wbr></wbr>ทยานพระพุทธรูปแห่งนี้ก็เกี่<wbr></wbr>ยวข้องกับเลข 9 ด้วย ไม่ว่าจะเป็นศิลาจารึก 720 ชิ้นที่ประกอบด้วยเจดีย์เล็กๆ มีการใช้เวลาก่อสร้าง 1,143 วัน เริ่มจากวันที่ 14 เดือน 6 ปี พ.ศ. 2563 มีพระสงฆ์รวมแล้ว 900 รูปที่เข้าร่วมพิธีสมโภชเปิดตั<wbr></wbr>วพระพุทธรูปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา</p>
<p>เรื่องที่กองทัพพม่าที่เรียกว่<wbr></wbr>าทัตมะตอว์มีความหมกมุ่นกับตั<wbr></wbr>วเลข 9 นี้เคยมีมาตั้งแต่สมัยเผด็<wbr></wbr>จการทหารคนแรกคือ เนวิน ที่รัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปี 2505 นักประวัติศาสตร์ เดวิด สไตน์เบิร์ก ระบุว่าเนวินเชื่อว่าเลข 9 เป็นเลขมงคลเพราะมีโหรให้คำปรึ<wbr></wbr>กษาเขาไว้แบบนี้ เมื่อปี 2530 ในตอนที่กำลังมี<wbr></wbr>ความพยายามปราบปรามตลาดมืดที่<wbr></wbr>แพร่หลายทั่วพม่า เนวิน ได้ถึงขั้นเปลี่ยนธนบัตรที่<wbr></wbr>สามารถบวกกันเป็นเลข 9 ได้ (เช่น ธนบัตร 90 จ๊าด หรือ 45 จ๊าด) ซึ่งก่อให้เกิดการขาดเสถี<wbr></wbr>ยรภาพทางเศรษฐกิจ และน่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่<wbr></wbr>ทำให้มีขบวนการประท้วงใหญ่เพื่<wbr></wbr>อต่อต้านเผด็จการในปี 2531</p>
<p> </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">มรดกเผด็จการที่พยายามอย่<wbr></wbr>างมากที่จะดึงดูดให้คนเข้าชม</span></h2>
<p>การที่มินอ่องหล่ายสร้างพระพุ<wbr></wbr>ทธรูปขนาดใหญ่เช่นนี้ ยังเป็นการเดินรอยตามเผด็<wbr></wbr>จการทหารพม่าในอดีตที่<wbr></wbr>พยายามจะเลียนแบบกษัตริย์พม่<wbr></wbr>าในช่วงก่อนยุคอาณานิคม ที่แสดงตนเป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำชู<wbr></wbr>พุทธศาสนา ในปี 2523 เนวินก็เคยสร้างมหาวิชยเจดีย์ ที่อยู่ห่างจากศาสนาสถานที่สำคั<wbr></wbr>ญที่สุดของพม่าอย่างเจดีย์<wbr></wbr>ชเวดากองไม่มากนัก</p>
<p>หลังจากที่มีการย้ายเมื<wbr></wbr>องหลวงจากย่างกุ้งไปที่เนปิดอว์ ตานฉ่วยซึ่งเป็นผู้นำเผด็<wbr></wbr>จการในยุคปี 2552 ก็ทำการเปิดตัวมหาเจดีย์อุ<wbr></wbr>ปปาตะสันติ ซึ่งแทบจะลอกแบบจากเจดีย์<wbr></wbr>ชเวดากองมาทั้งดุ้น เวลา 7 ปีก่อนหน้านั้นตานฉ่วยก็เคยสร้<wbr></wbr>างพระพุทธรูปหนัก 560 ตัน ในกรุงย่างกุ้ง โดยอาศัยหินอ่อนจากภูเขาซาจิ<wbr></wbr>นในมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นแหล่งเดียวกับที่มินอ่<wbr></wbr>องหล่ายใช้สร้างพระพุทธรู<wbr></wbr>ปปางมารวิชัยในครั้งนี้เช่นเดี<wbr></wbr>ยวกัน</p>
<p>พระรูปหนึ่งที่เข้าร่วมพิธี<wbr></wbr>ทางศาสนาเปิดตัวพระพุทธรูปกล่<wbr></wbr>าวว่า หินอ่อนจากภูเขาซาจินเป็นหินอ่<wbr></wbr>อนที่เหมาะกับงานประติ<wbr></wbr>มากรรมมากที่สุด มันเป็นหินอ่อนที่<wbr></wbr>ทนทานมากและทนต่อสภาพดินฟ้<wbr></wbr>าอากาศ รวมถึงมีสีขาวบริสุทธิ์ด้วย</p>
<p>ทั้งอุปปะสันติและมหาวิชยเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สร้างโดยอดี<wbr></wbr>ตเผด็จการพม่าต่างก็ไม่ค่อยมี<wbr></wbr>คนเข้าชม มินอ่องหล่ายหวังว่าอุทยานพุ<wbr></wbr>ทธศาสนาของเขาจะมีคนเข้<wbr></wbr>าชมมากกว่าของเผด็จการคนก่อนๆ และมีการพยายามจูงใจให้มีคนเข้<wbr></wbr>าชม เช่นมีการทำถนนใหม่ตรงหน้<wbr></wbr>าทางเข้าอุทยาน ชื่อถนนซาเบล จากเดิมที่เป็นถนนลูกรัง 2 เลน ให้กลายเป็นถนนเรียบ 4 เลน เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้และมี<wbr></wbr>โคมไฟประดับ มีการเชื่อมต่อกับถนนสั<wbr></wbr>ญจรสายหลักของเนปิดอว์</p>
<p>ทางด้านหลังอุทยานก็มีารสร้<wbr></wbr>างถนนสี่เลนเพิ่มเช่นกัน ถนนเส้นหลังนี้เชื่อมต่อกั<wbr></wbr>บถนนทางด่วนย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์ ในตอนนี้อาจจะยังปิดไม่ให้คนทั่<wbr></wbr>วไปเข้าในส่วนนี้ แต่ถ้าหากเปิดใช้งานแล้วมั<wbr></wbr>นจะเป็นกลายเป็นถนนที่เชื่อมต่<wbr></wbr>อพระพุทธรูปกับเส้นทางไปสู่เมื<wbr></wbr>องใหญ่ที่สุดสองเมืองของพม่า</p>
<p>ในการแถลงข่าวเมื่อเดือนกรกฎาคม พลจัตวา ซอมินทุน โฆษกของรัฐบาลทหารพม่ายังบอกอีกว่<wbr></wbr>าผู้คนจะสามารถเข้าชมอุทยานได้<wbr></wbr>หลังวันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป โดยจะเปิดให้เข้าชมฟรีในช่วงวั<wbr></wbr>นที่ 1-16 ส.ค. นี้ หลังจากนั้นจะมีการเก็บตั๋วค่<wbr></wbr>าธรรมเนียมเข้าชม</p>
<p>U Wayama พูดเย้ยหยันเรื่องที่รัฐบาลทหารพม่าหวังว่าจะมีนักท่องเที่<wbr></wbr>ยวต่างชาติมาเที่ยวชมอุทยานด้วย โดยบอกว่า "นักท่องเที่ยวคงไม่อยากมาเยื<wbr></wbr>อนประเทศที่มีคนจำนวนมากถูกสั<wbr></wbr>งหารหรอก"</p>
<p>ผู้หญิงเนปิดอว์คนหนึ่งบอกว่า การที่พระพุทธรูปแห่งนี้มี<wbr></wbr>ความเป็นการเมืองอยู่ ทำให้เรื่องที่คนจะเข้าชมพระพุ<wbr></wbr>ทธรูปนี้หรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวกับว่าจะเก็บค่<wbr></wbr>าธรรมเนียมหรือดูฟรี เธอคิดว่าชาวพม่าคงไม่คิดจะเข้<wbr></wbr>าชมพระพุทธรูปนี้ถึงแม้ว่าจะเปิ<wbr></wbr>ดให้ดูฟรีก็ตาม</p>
<p> </p>
<p> </p>
<p><strong>เรียบเรียงจาก</strong></p>
<p> ‘His sins can’t be erased’: Junta leader to consecrate Buddha image, Frontier Myanmar, 31-07-2023</p>
<p><a href="https://www.frontiermyanmar.net/en/his-sins-cant-be-erased-junta-leader-to-consecrate-buddha-image/" target="_blank">https://www.frontiermyanmar.<wbr></wbr>net/en/his-sins-cant-be-<wbr></wbr>erased-junta-leader-to-<wbr></wbr>consecrate-buddha-image/[/url]</p>
<p>Daily Briefing in Relation to the Military Coup, AAPP, 09-08-2023</p>
<p><a href="https://aappb.org/?p=25954" target="_blank">https://aappb.org/?p=25954[/url]</p>
<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105414
 
6455  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "เก๋ไก๋" ส่งมินิฮาร์ทผ่านเพลงรัก เคลื่อนไหวครั้งแรก หลัง "แน็ก" ประกาศไม่โ เมื่อ: 11 สิงหาคม 2566 22:43:05
"เก๋ไก๋" ส่งมินิฮาร์ทผ่านเพลงรัก เคลื่อนไหวครั้งแรก หลัง "แน็ก" ประกาศไม่โสดแล้ว
         


&quot;เก๋ไก๋&quot; ส่งมินิฮาร์ทผ่านเพลงรัก เคลื่อนไหวครั้งแรก หลัง &quot;แน็ก&quot; ประกาศไม่โสดแล้ว" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;"เก๋ไก๋ สไลเดอร์" ส่งมินิฮาร์ทผ่านเพลงรัก เคลื่อนไหวครั้งแรก หลัง "แน็ก ชาลี" ประกาศไม่โสดแล้ว
         

https://www.sanook.com/news/8967474/
         
6456  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 3 ปี วันเฉลิมหาย: รียูเนียนกับ ‘ต้าร์-วันเฉลิม’ ในวันเกิดครบ 41 ปี เมื่อ: 11 สิงหาคม 2566 21:42:44
3 ปี วันเฉลิมหาย: รียูเนียนกับ ‘ต้าร์-วันเฉลิม’ ในวันเกิดครบ 41 ปี
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2023-08-11 20:19</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><div class="summary-box">
<ul>
<li>วันนี้ (11 ส.ค.) ที่หอศิลป์ กรุงเทพฯ มีกิจกรรม 3 ปี วันเฉลิมหาย: รียูเนียนกับ ‘ต้าร์-วันเฉลิม’ เนื่องในวันเกิดครบ 41 ปี</li>
<li>เจน-สิตานันท์ พี่สาววันเฉลิม ชวนคุยอัปเดตประเด็นที่หลายคนสงสัย จากนั้นต่อด้วยวงเสวนาโดย รังสิมันต์ โรม ส.ส.ก้าวไกล ศ.กิตติคุณ วิทิต มันตราภรณ์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ซินเธีย เวลิโก ผู้แทนระดับภูมิภาคของ OHCHR และปิดท้ายด้วยการเป่าเค้กร่วมกันเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 41 ปีของ ต้าร์-วันเฉลิม</li>
</ul>
</div>
<pre style="text-align: center;">
<img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53109275138_99a7f5c9ed_b.jpg" />

<iframe allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/mBgwbYDH5QU" title="YouTube video player" width="560"></iframe><h2><span style="color:#2980b9;">“ไม่เคยเห็นต้าร์โกรธใคร” ชัชชาติพูดถึงวันเฉลิม</span></h2>
<p>ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาเยี่ยมชมนิทรรศการรำลึก 3 ปี วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกบังคับสูญหายระหว่างการลี้ภัยทางการเมืองในกัมพูชาเมื่อ 4 มิ.ย.2563 ที่วันนี้ครอบครัวและเพื่อนรวมถึงมูลนิธิผสานวัฒนธรรมที่ช่วยติดตามดำเนินการในกรณีนี้</p>
<p>ชัชชาติ กล่าวถึง ต้าร์-วันเฉลิมว่าเคยทำงานร่วมกันช่วงสมัยที่ทำงานอยู่กระทรวงคมนาคม โดยต้าร์ทำงานเป็นทีมสื่อสารให้ เขากล่าวถึงต้าร์ว่าเป็นคนที่เขาไม่เคยเห็นต้าร์โกรธใคร และทำงานด้วยกันอย่างดี </p>
<p>ชัชชาติกล่าวรำลึกถึงต้าร์และทุกคนที่ถูกบังคับสูญหายและคิดว่าไม่ควรมีใครต้องถูกกระทำความรุนแรงถึงกับต้องถูกทำให้หายไป</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53108910254_851273550b_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">พี่สาวต้าร์เปิดสัมพันธ์ ฮวด-ฮุนเซน-วันเฉลิม-ทักษิณ</span></h2>
<p>เจน-สิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของต้าร์ และนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน เล่าถึงกิจกรรมที่ต้าร์ทำตอนเรียนมหาวิทยาลัยที่รามคำแหงว่าเขาสนใจรณรงค์เพื่อป้องกันเอดส์โดยไปแจกถุงยางอนามัยที่ธนิยะ สีลม แต่กลับถูกคนที่ขายถุงยางอนามัยอยู่ไล่กระทืบ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53108135187_beea77e7a2_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">สิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของต้าร์ และนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน</span></p>
<p>สิตานันท์ เล่าว่าขณะที่ต้าร์ถูกอุ้มที่กัมพูชา เธอได้ยินเสียงเหตุการณ์ทางไลน์เพราะปกติเธอกับน้องก็ได้คุยกันอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้วและวันนั้นได้คุยโทรกันอยู่ขณะเกิดเหตุ</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/TukmP3Uwvwc" title="YouTube video player" width="560"></iframe></p>
<p>สิตานันท์เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่าง "ฮวด" ที่มีความใกล้ชิดกับทั้งต้าร์ วันเฉลิม และทักษิณ ชินวัตร รวมถึงสมเด็จฮุนเซน เธอได้ตั้งคำถามว่าทำไมทักษิณถึงลอยตัวเหนือปัญหาและทำเป็นไม่รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับต้าร์</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53109275133_36f52d7b40_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/zgdoubngAlE" title="YouTube video player" width="560"></iframe></p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>2 ปีวันเฉลิมหาย: เปิดข้อมูลใหม่ เผยบทบาทที่ถูกกลบฝัง</li>
<li>สมยศ ทวีตชวน ‘วัชเรศร’ ซื้อหนังสือยุทธการอุ้มฆ่าผู้ลี้ภัย เนื่องในวันเกิด 41 ปี ‘วันเฉลิม’</li>
</ul>
</div>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53108135177_0c175453d1_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53108135157_a4cff5d717_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ลูกๆ ของภูชนะ ร่วมงานด้วย</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">โรม มองรัฐต้องมีหน้าที่สืบสวน</span></h2>
<h2><span style="color:#2980b9;">ชี้มีคนบางกลุ่มสกัดวาระสิทธิมนุษยชน</span></h2>
<p>รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เริ่มจากกล่าวรำลึกถึงวันเฉลิมว่ารู้จักกันตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนอยู่แล้วและก็เคยถกเถียงประเด็นนโยบายและการเมืองกันแต่เมื่อเกิดรัฐประหาร 2557ก็ทำให้ไม่ได้เจอกันอีกเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมสมรภูมิที่อยากเห็นประเทศไทยดีกว่านี้ และได้กล่าวรำลึกถึงโดยระบุถึงรายชื่อของผู้ที่ถูกบังคับสูญหายภายหลังการรัฐประหารในปี 2557</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53108910274_61bb881842_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล </span></p>
<p>รังสิมันต์ กล่าวว่าการทำให้บุคคลสูญหายเป็นเรื่องเลวร้ายมาก เพราะเมื่อสูญหายแล้วทำให้คนในครอบครัวไม่ทราบชะตากรรมของคนที่ถูกทำให้สูญหายและยังทำให้คนในสังคมรู้สึกไม่ปลอดภัยด้วย ไม่เพียงแต่คนที่ถูกทำให้สูญหายจะถูกปกปิดชะตากรรมของพวกเขาแล้วแต่อาชญากรก็ปกปิดตัวเองด้วย คนก็จะคิดกันว่าถ้านักกิจกรรมถูกทำให้สูญหายไปได้ก็จะมีคำถามตามมาว่าจะวันหนึ่งจะไม่เกิดกับตัวเราเอง </p>
<p>ส.ส.พรรคก้าวไกลกล่าวด้วยเรื่องนี้ได้ทำให้ ส.ส.ทั้งรัฐสภาตื่นตัวและเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องยุติได้แล้ว จึงผลักดันกฎหมายออกมาเพื่อป้องกันการบังคับสูญหายและซ้อมทรมาน แต่เขาก็เล่าว่าที่ผ่านมาก็มีอุปสรรคเพราะเมื่อร่างของประชาชนถูกนำเข้าสภาได้เพียงวันเดียวพรรคอนาคตใหม่ก็ถูกยุบไปเสียก่อน </p>
<p>รังสิมันต์กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการบังคับสูญหายและซ้อมทรมานก็ยังได้รับการสนับสนุนในสภาเพราะเมื่อเกิดกรณีของวันเฉลิมแล้วก็ยังเกิดกรณีของผู้กำกับโจ้ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต ทำให้สภาตื่นตัวว่าต้องมีกฎหมายมาแก้ไขเรื่องนี้ สังคมไทยไม่ควรต้องรู้สึกว่าสังคมไม่ปลอดภัยอีกต่อไป โดยในกฎหมายนี้ก็มีหลายเรื่องที่เป็นความก้าวหน้าเช่นการให้เจ้าหน้าที่รัฐต้องติดกล้องในการดำเนินการจับกุมและสอบสวน</p>
<p>รังสิมันต์ ย้ำว่าไม่ว่าจะเป็นอาชญากรหรือไม่บุคคลที่ถูกจับกุมก็ไม่ควรถูกบังคับสูญหายหรือซ้อมทรมาน และความตื่นตัวของสมาชิกรัฐสภาทำให้กฎหมายนี้ผ่านมาได้โดยไม่มีเสียงคัดค้าน แต่กลับต้องมาเจอกับรัฐบาลที่ออก พ.ร.ก.มาเลื่อนการบังคับใช้ 4 มาตราในกฎหมายที่รวมเรื่องการติดกล้องระหว่างการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วยทั้งที่เรื่องนี้นับเป็นการปฏิวัติกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย แม้ว่าภายหลังศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาว่าขัดรัฐธรรมนูญซึ่งในสถานการณ์ปกติคนที่มีตำแหน่งนายกฯ จะต้องลาออกแล้วแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็บอกว่าออกไม่ได้แล้วเพราะตอนนี้เพียงแต่เป็นตำแหน่งรักษาการ</p>
<p>“มีกลุ่มอำนาจบางกลุ่มพยายามใช้กระบวนการทางการเมืองทุกทางเพื่อทำให้เรื่องสิทธิมนุษยชนไม่ก้าวหน้า” รังสิมันต์กล่าว</p>
<p>ส.ส.บัญชีพรรคก้าวไกลกล่าวว่า การจะบรรลุเป้าหมายในการป้องกันการบังคับสูญหายและตามล่าผู้กระทำความผิดเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับครอบครัวของผู้ถูกบังคับสูญหายได้อย่างไรนั้น แม้ว่าที่ผ่านมาการกระทำเหล่านี้จะเป็นเรื่องผิดกฎหมายอยู่แล้ว ก็ยังเป็นหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการเพื่อป้องกันและติดตามจับกุมด้วย แต่หลายกรณีการตามจับคนร้ายไม่ได้เพราะผู้ที่ถูกกระทำส่วนมากคือคนเห็นต่างจากรัฐ เช่นในกรณีวันเฉลิมซึ่งเกิดในกัมพูชายังกลายเป็นข้ออ้างที่รัฐอ้างว่าไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ แต่เขาก็เชื่อว่ากรณีของวันเฉลิมผู้กระทำคือเจ้าหน้าที่รัฐและจะมีเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ไม่กี่คนที่กระทำการลักษณะนี้ได้</p>
<p>รังสิมันต์กล่าวว่าเดิมที่เขาหมายมั่นว่าถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลจะต้องรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาแม้ว่าวันนี้คงจะไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว แต่เขาก็มองว่าหน่วยงานอย่างตำรวจและกระทรวงการต่างประเทศก็ยังมีหน้าที่ต้องปูทางการสืบสวน อัยการที่มีหน้าที่ต้องประสานงาน ถ้าหน่วยงานเหล่านี้ได้ทำหน้าที่ของตัวเองก็จะตามจับคนร้ายได้และเชื่อว่าตำรวจไทยทำได้แต่ยังมีคนที่ขัดขวางกระบวนการไว้ </p>
<p>ส.ส.ก้าวไกลกล่าวต่อว่าถ้าต้องการคืนความยุติธรรมกับครอบครัวของคนที่สูญเสียหน่วยงานของรัฐต้องสืบหาให้ได้ว่าคนที่ถูกอุ้มไปมีชะตากรรมอย่างไร และเป็นกระบวนการที่รัฐบาลสามารถทำได้ทันที แต่เขาในฐานะที่เป็น ส.ส.ขอยืนยันว่าจะมีการตั้งกระทู้ถาม และถ้ามีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นก็จะดำเนินการเรียกหน่วยงานต่างๆ มาถามและติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานเหล่านี้ที่มีหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการบังคับสูญหายและซ้อมทรมานที่จะต้องสืบหาติดตามคนที่ถูกบังคับสูญหายและติดตามตัวคนร้าย เพื่อตรวจสอบว่าหน่วยงานเหล่านี้ได้ทำหน้าที่อะไรไปแล้วบ้างซึ่งเป็นอำนาจของรัฐสภาที่จะทำได้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">มองอนาคต กรณีบังคับสูญหาย</span></h2>
<p>วิทิต มันตราภรณ์ จากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่าในไทยมีกรณีที่เป็นการบังคับสูญหายกว่า 80 กว่ากรณีที่ถูกทำให้สูญหายแต่รัฐไทยก็ยังยินดีที่จะจ่ายเงินเยียวยาง่ายกว่าจะออกมารับผิดชอบเช่นในกรณีของบิลลี่ หรือตากใบ ซึ่งเราก็อยากได้รับความรับผิดชอบด้วยไม่ใช่แค่ค่าเสียหายเท่านั้น แม้ว่าจะมีการการแก้ไขกฎเกณฑ์การจ่ายเป็น 4 แสนบาทแล้วแต่การหาความรับผิดชอบจากรัฐนั้นก็ยังเป็นเรื่องยากมาก</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53109123995_952c470945_b.jpg" /> </p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">วิทิต มันตราภรณ์ จากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย</span></p>
<p>วิทิตกล่าวว่านอกจากเรื่องนี้ก็มีมิติภายนอกด้วยคือกรณีที่เกิดการกระทำความผิดข้ามประเทศด้วย ซึ่งเขามองว่าถ้ารัฐไทยมีข้อตกลงที่ทำกับประเทศเพื่อนบ้านของไทยไว้อย่างไรก็ควรต้องปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นด้วย </p>
<p>สำหรับประเด็นกฎหมายป้องกันการบังคับสูญหายและซ้อมทรมานของไทยวิทิตมองว่ากฎหมายที่เพิ่งออกมาให้นี้ไม่ได้ดีกับเพียงผู้ถูกกระทำแต่ยังดีกับเจ้าหน้าที่รัฐด้วยเพราะการกำหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องอัดเทปบันทึกระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ก็ยังเป็นการหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเจ้าหน้าที่ด้วย</p>
<p>นอกจากนั้นกฎหมายนี้ยังมีส่วนที่ดีอีกคือห้ามส่งตัวผู้ที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตหากถูกส่งตัวกลับประเทศ แต่ก็ยังเกิดกรณีที่มีการส่งเด็กพม่าที่เข้ามาเรียนในไทยถูกส่งกลับครูที่ให้เข้ามาเรียนก็ยังถูกดำเนินคดีอีกซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ไม่ดี ซึ่งเรื่องนี้นักการเมืองก็ควรจะต้องเข้ามาช่วยด้วย และไม่ควรเอากฎมหายคนเข้าเมืองมากลบกฎหมายที่ดีหรือไม่ใช่แค่เอาดุลพินิจของเจ้าหน้าที่บางฝ่ายบางคนมาใช้ และตัวผู้บังคับบัญชาก็ต้องมีนโยบายหรือแนวปฏิบัติที่ชัดเจนด้วย</p>
<p>วิทิตกล่าวถึงการเข้าร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญา CED ที่ตอนนี้ไทยมีกฎหมายภายในรอไว้แล้วในอนาคตก็คือการเข้าร่วมภาคีอนุสัญญา CED แต่เขาก็มองว่านิยามการบังคับสูญหายใน CED ยังมีความชัดเจนกว่ากฎหมายของไทย และกฎหมายไทยก็ควรจะต้องทำให้นิยามกว้างขึ้นด้วย เช่นในเรื่องของผู้กระทำความผิดที่ในอนุสัญญานับรวมถึงผู้กระทำที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐด้วยเพราะรัฐมีหน้าที่จะต้องควบคุมและลงโทษผู้กระทำความผิดด้วย อีกทั้งในอนุสัญญายังนับรวมไปถึงการกระทำความผิดที่มากกว่าความผิดทางอาญา คือการกระทำความผิดที่เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ เช่นการอุ้มหายบุคคลเป็นกลุ่มหรือมีการอุ้มหายอย่างเป็นระบบซึ่งการกระทำความผิดลักษณะนี้มีความรับผิดชอบสูงกว่าความผิดทางอาญาทั่วไป</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53109275128_e48c8c7d61_b.jpg" /></p>
<p>วิทิตยังกล่าวด้วยว่าในอนุสัญญานี้ยังเปิดให้เกิดกระบวนการที่ให้ประชาชนผู้ถูกละเมิดสามารถไปยื่นเรื่องถึงกลไกของสหประชาชาติได้เพื่อสั่งให้รัฐของผู้ถูกละเมิดต้องดำเนินการติดตามคนที่สูญหายโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการของศาลในรัฐนั้นๆ  เพื่อติดตามและและคุ้มครองหลักฐานการกระทำความผิดไม่ให้ถูกทำลาย รวมถึงประเด็นการเยียวยาด้วย</p>
<p>อาจารย์นิติ จุฬาฯ ยังฝากประเด็นเพิ่มเติมที่ควรต้องถกเถียงกันว่าจะใส่ไว้ในกฎหมายอย่างไรคือการอุ้มหายเป็นการกระทำความผิดต่อเนื่องจนกว่าจะเจอตัว แต่กรณีที่เกิดการละเมิดก่อนที่รัฐไทยจะมีกฎหมายหรือเข้าร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญานี้จะต้องทำให้ครอบคลุมแค่ไหน เพราะในเรื่องนี้คณะกรรมการ CED บอกว่าถ้าเป็นเหตุที่เกิดก่อนรัฐเข้าร่วมเป็นภาคีก็ไม่สามารถทำให้รัฐเข้ามารับผิดชอบได้แต่เนื่องจากการกระทำอุ้มหายนี้เป็นเหตุต่อเนื่องกันจึงยังขอการชดใช้ได้เพราะจะเป็นการใช้กฎหมายใหม่เอาผิดย้อนหลัง</p>
<p>วิทิตกล่าวถึงประเด็นที่มีอยู๋ในอนุสัญญาคือการห้ามการกักตัวแบบลับไว้อย่างเด็ดขาด แม้ว่าจะมีพ.ร.บ.ป้องกันบังคับสูญหายและซ้อมทรมานแล้วแต่ในไทยยังมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ยังเปิดให้มีการควบคุมตัวบุคคลไปไว้ที่อื่นที่ไม่ใช่สถานที่ของรัฐโดยอ้างทั้งเรื่องผู้ที่ถูกคุมตัวยังไม่เป็นผู้ต้องหาหรือนำตัวมาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ดังนั้นจึงต้องแก้ไขกฎหมายอื่นๆ ที่เปิดช่องให้เกิดการกระทำลักษณะนี้ด้วย</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53109209343_7bde3d0be4_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53108706291_a21a1bfcff_b.jpg" /></p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105418
 
6457  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - “เศรษฐา” มั่นใจ โหวตนายกฯ ผ่านฉลุยในครั้งแรก ไม่ปฏิเสธร่วมงานพรรค 2 ลุง เมื่อ: 11 สิงหาคม 2566 21:32:42
“เศรษฐา” มั่นใจ โหวตนายกฯ ผ่านฉลุยในครั้งแรก ไม่ปฏิเสธร่วมงานพรรค 2 ลุง
         


“เศรษฐา” มั่นใจ โหวตนายกฯ ผ่านฉลุยในครั้งแรก ไม่ปฏิเสธร่วมงานพรรค 2 ลุง" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;เศรษฐา มั่นใจ โหวตครั้งแรกผ่านได้ ไม่ปฏิเสธ ร่วมงานพรรค 2 ลุง ชี้การเลือกตั้งผ่านไปแล้ว วันนี้ต้องอยู่กับความเป็นจริง เผยเคลียร์ใจ อนุทิน แล้ว
         

https://www.sanook.com/news/8967514/
         
6458  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - สมยศ ทวีตชวน ‘วัชเรศร’ ซื้อหนังสือยุทธการอุ้มฆ่าผู้ลี้ภัย เนื่องในวันเกิด 41 ปี เมื่อ: 11 สิงหาคม 2566 20:12:28
สมยศ ทวีตชวน ‘วัชเรศร’ ซื้อหนังสือยุทธการอุ้มฆ่าผู้ลี้ภัย เนื่องในวันเกิด 41 ปี ‘วันเฉลิม’
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2023-08-11 15:28</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ที่มาภาพ: ทวิตเตอร์ @pruksakasemsuk</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>สมยศ ทวีตเชิญชวน ‘คุณอ้น-วัชเรศร’ เยือนหอศิลป์-ซื้อหนังสือยุทธการอุ้มฆ่าผู้ลี้ภัย 2557 เนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิด 41 ปี ของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยไทยที่ถูกบังคับให้สูญหายไป 3 ปีแล้ว</p>
<p>11 ส.ค. 2566 สมยศ พฤกษาเกษมสุข นักเคลื่อนไหวทางการเมืองจากกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ทวีตข้อความเชิญชวน คุณอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์ มาที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อซื้อหนังสือยุทธการอุ้มฆ่าผู้ลี้ภัยการเมือง 2557 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด 41 ปี วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ถูกบังคับให้สูญหาย </p>
<p>โดยวันนี้ (11 ส.ค.) ที่หอศิลป์กรุงเทพฯ เวลา 18.00-20.00 น. จะมีงานเสวนา “รียูเนียนกับ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ : ความยุติธรรมต่อผู้ถูกบังคับให้สูญหายและความคืบหน้า”</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>2 ปีวันเฉลิมหาย: เปิดข้อมูลใหม่ เผยบทบาทที่ถูกกลบฝัง </li>
</ul>
</div>
<p>อนึ่ง วัชเรศร อายุ 42 ปี เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 กับสุจาริณี วิวัชรวงศ์ และเป็นพี่ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา</p>
<p>เมื่อต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา วัชเรศร กลับประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปี จากที่พำนักในสหรัฐอเมริกามาโดยตลอด</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>'Bangkok Tuk-Tuk' ท่านอ้น โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก หลังกลับไทย</li>
<li>วัชเรศร วิวัชรวงศ์ ตอบ สมศักดิ์ เจียมฯ ไม่มีนัดข้าวกับคนในพรรคเพื่อไทย ยันไม่ยุ่งกับเรื่องการเมือง</li>
<li>'ท่านอ้น' เผยอดีตประธานาธิบดีเยอรมนีหวังไทยได้รัฐบาลเคารพการตัดสินใจของประชาชน</li>
</ul>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105415
 
6459  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ผัวสุดงง ทำงาน ตปท. 3 ปี กลับมาลูกสาวบอกแม่เพิ่งคลอดลูก เห็นหน้าเด็กในเปลแล้วอึ้ เมื่อ: 11 สิงหาคม 2566 20:12:27
ผัวสุดงง ทำงาน ตปท. 3 ปี กลับมาลูกสาวบอกแม่เพิ่งคลอดลูก เห็นหน้าเด็กในเปลแล้วอึ้ง
         


ผัวสุดงง ทำงาน ตปท. 3 ปี กลับมาลูกสาวบอกแม่เพิ่งคลอดลูก เห็นหน้าเด็กในเปลแล้วอึ้ง" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;ผัวไปทำงานต่างประเทศนาน 3 ปี ทำเซอร์ไพรส์กลับมาเยี่ยมบ้าน งงลูกสาวบอกแม่เพิ่งคลอดลูก เห็นหน้าเด็กในเปลถึงกับลั่น
         

https://www.sanook.com/news/8967286/
         
6460  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ศาลปกครองสูงสุด ชี้ คำสั่ง มธ. ไล่ 'สมศักดิ์ เจียม' ออกจากราชการชอบด้วยกฎหมาย เมื่อ: 11 สิงหาคม 2566 18:41:41
ศาลปกครองสูงสุด ชี้ คำสั่ง มธ. ไล่ 'สมศักดิ์ เจียม' ออกจากราชการชอบด้วยกฎหมายแล้ว
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2023-08-11 17:34</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยคดี 'สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล' ฟ้องมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้ คำสั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ลงโทษไล่สมศักดิ์ออกจากราชการชอบด้วยกฎหมายแล้ว ศาลปกครองสูงสุดจึงพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น เป็นยกฟ้อง</p>
<p> </p>
<p>11 ส.ค. 2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานเวลา 14.30 น. ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำพิพากษาคดีสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ฟ้องมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ผู้ถูกฟ้องที่ 1) และคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) กรณีคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ</p>
<p>ศาลวินิจฉัยพฤติการณ์ว่าการที่ผู้ฟ้องอ้างไม่มาทำงานเพราะกฎอัยการศึก ไม่ใช่เหตุผลอันสมควร ไม่สามารถนำมาอ้างได้ ผู้ฟ้องเป็นผู้ที่ทำงานมายาวนานจึงทราบดีว่าการมาปฏิบัติหน้าที่เป็นเรื่องสำคัญ</p>
<p>ผู้ฟ้องคดีได้ละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ราชการติดต่อกันเกิน 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 57 โดยไม่มีเหตุอันสมควร และจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของราชการ เป็นความผิดวินัยร้ายแรง สมควรลงโทษไล่ออกจากราชการ ดังนั้น คำสั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ลงโทษไล่ผู้ฟ้องออกจากราชการนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว</p>
<p>ส่วนข้อเท็จจริงที่ว่า พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย (ประธานผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ที่เป็นหนึ่งใน คสช. และ สมคิด เลิศไพฑูรย์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง นั้นเป็นการคาดการณ์ของผู้ฟ้องคดีเท่านั้น</p>
<p>ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาไม่เห็นพ้องตามศาลปกครองชั้นต้น ที่พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ และเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2</p>
<p>ศาลพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น เป็นยกฟ้อง</p>
<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105417
 
หน้า:  1 ... 321 322 [323] 324 325 ... 1129
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.503 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 02 กันยายน 2566 05:14:47