Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« เมื่อ: 08 มีนาคม 2560 16:24:06 » |
|
. พระนลคำหลวง . เรื่องพระนลคำหลวงเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแปลจากฉบับภาษาอังกฤษของ เซอร์โมเนียร์ โมเนียร์-วิลเลียมส์ ซึ่งก็ได้แปลมาจากต้นฉบับภาษาสันสกฤตอีกทีหนึ่ง จึงได้ทรงมีพระราชนิพนธ์คำนำประกอบไว้ว่า คำแปลภาษาไทยนั้นอาจคลาดเคลื่อนไปบ้างเพราะแปลมาถึง ๒ ชั้น เฉพาะในส่วนนิทานวจนะซึ่งเป็นการนำเรื่อง เล่าให้ทราบว่าเหตุใดจึงเกิดการเล่าเรื่องพระนลขึ้น ได้ทรงอธิบายว่าเป็นเรื่องสังเขปที่ทรงผูกขึ้นเอง มิได้แปลมาจากภาษาสันสกฤต ฉะนั้นจึงไม่มีโศลกสันสกฤตกำกับอยู่เหมือนในตอนเรื่องพระนล ซึ่งทรงใช้วิธียกโศลกสันสกฤตมาตั้ง แล้วทรงแปลแต่งเป็นภาษาไทยเป็นตอนๆ ไป นอกจากนี้เรื่องพระนลตามฉบับสันสกฤตเดิมแบ่งเรื่องออกเป็น ๒๖ สรรค (คือตอน) ก็ทรงแบ่งเป็นสรรตามเดิม และได้เพิ่ม นมัสกฤติกถา คือ บทไหว้ครู อารัมภกถา คือ บทเกริ่นความ ไว้ในตอนต้นเรื่อง และเพิ่มอุตตรกถา คือ บทลงท้ายไว้ในตอนจบด้วย
ในบทนมัสกฤติกถานั้น เป็นบทไหว้ครู เริ่มด้วยไหว้พระรัตนตรัย แล้วจึงไหว้พระคเณศ ซึ่งถือกันว่าเป็นเทพเจ้าผู้ประสิทธิ์ความสำเร็จ ขจัดอุปสรรค จากนั้นก็ไหว้พระกฤษณไทวปายน หรือเรียกว่า พระวยาส ผู้แต่งเรื่องพระนล ไหว้พระอาจารย์ (พระยาอิศรโสภณ-หม่อมราชวงศ์หนู อิศรางกูร) พระอุปัชฌาย์ (สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส) สมเด็จพระบรมราชชนนี (สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง) ตลอดจนบรรดาทวยเทพและบรรพบุรุษทุกพระองค์ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และผู้ทรงสักการะเหล่านี้จงช่วยขจัดภัยพิบัติ ขอให้ราชอาณาจักรสยามตั้งอยู่มั่นคง และขอให้อาณาประชาราษฎรมีความสุขปราศจากทุกข์ทั้งปวง
บทอารัมภกถา กล่าวถึงเจตนาในการที่ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องพระนลคำหลวงนี้ ว่าทรงมีพระราชประสงค์เพื่อให้กุลบุตรได้เห็นแบบอย่างในการแต่งคำประพันธ์ จะได้ช่วยจรรโลงการประพันธ์ให้ยั่งยืนสืบไป บทโคลงในอารัมภกถานี้ มักมีผู้ยกมาประกอบคำกล่าวในเรื่องเกี่ยวกับบทกวีอยู่เนื่องๆ เช่น ◎ กะวีสง่าแม้น | | มณีสาร | คำเพราะคือสังวาลย์ | | กอบแก้ว | ควรเพิ่มพิริยการ | | กะวีเวท เทอญพ่อ | กอบกิจประเสริฐแล้ว | | ไป่ต้องร้อนตัว ฯ | อย่ากลัวถูกติพ้น | | เกินสมัย หน่อยเลย | ใครเยาะก็ช่างใคร | | อย่าเก้อ | เราไทยอักษรไทย | | เราแต่ง สิฮา | ใครติสิคือเส้อ | | ไม่รู้สีสา ฯ | นานาประเทศล้วน | | นับถือ | คนที่รู้หนังสือ | | แต่งได้ | ใครเกลียดอักษรคือ | | คนป่า | ใครเยาะกะวีไซร้ | | แน่แท้คนดง ฯ | ในบทอุตตรกถานั้น ทรงกล่าวถึงทศพิธราชธรรม อันเป็นธรรมสำหรับพระมหากษัตริย์ ๑๐ ประการ และทรงกล่าวถึงธรรมสำหรับสตรีผู้ประเสริฐ ๕ ประการ จากนั้นจึงทรงแจ้งพระปรมาภิไธย วันเดือนปีที่ทรงพระราชนิพนธ์จนสำเร็จและลงท้ายด้วยบทพระคุณของพระรัตนตรัย
ผู้อ่านเรื่องพระนล นอกจากจะได้รับรสแห่งกวีนิพนธ์อันประณีตและเรื่องราวอันสนุกสนานกอปรด้วยคติสอนใจและแบบอย่างในการดำเนินชีวิตแล้ว ยังจะได้รับประโยชน์อีกประการหนึ่งซึ่งมักจะพบเสมอในบทพระราชนิพนธ์ของพระองค์ นั่นคือ ภาคผนวก ซึ่งจะเป็นคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนั้นในแง่ต่างๆ เช่น ลักษณะคำประพันธ์และอภิธานศัพท์ ในเรื่องพระนลคำหลวงนี้ได้ทรงอธิบายลักษณะคำประพันธ์ไว้อย่างแจ่มแจ้งว่าประกอบด้วยโคลง กลอน กาพย์ และฉันท์ ซึ่งลักษณะการใช้คำประพันธ์หลายๆ ชนิดในเรื่องเดียวนี้ เรียกว่าคำหลวง ดังเช่นเรื่องคำหลวง อื่นๆ เป็นต้นว่ามหาชาติคำหลวง นันโทปนันทสูตรคำหลวง พระมาลัยคำหลวง ฯลฯ (แต่คำหลวงนั้นอาจใช้เรียกหนังสือที่เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระมหากษัตริย์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องประกอบด้วยคำประพันธ์ต่างๆ ชนิด) นอกจากนี้ได้ทรงลำดับชนิดของคำประพันธ์ที่ใช้ในเรื่องนี้ไว้อย่างละเอียดครบทุกตอน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องการประพันธ์
ในตอนอภิธานศัพท์นั้น นอกจากจะทรงอธิบายความหมายและลักษณะในการใช้รูปศัพท์แล้ว ยังได้ทรงอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับตัวละครบางตัวไว้อย่างชัดเจนอีกด้วย อันจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจข้อความที่เป็นปัญหาในบางตอนได้ เช่น เมื่อพระอรชุนประลองฝีมือธนูจนได้อภิเษกกับนางกฤษณาแล้ว พานางกลับไปถึงที่พักในป่า และแจ้งแก่นางกุนตีผู้เป็นชนนีว่า ได้ลาภมาอย่างหนึ่ง นางกุนตีเข้าใจว่าเป็นทรัพย์สิ่งของ จึงสั่งให้แบ่งกัน ทำให้เกิดปัญหาขึ้น เพราะพระเวทกำหนดว่ามารดาสั่งอย่างไรบุตรต้องปฏิบัติตาม นางกฤษณาจึงต้องเป็นชายาของกษัตริย์ปาณฑพทั้งห้าร่วมกัน ดังนี้เป็นต้น ผู้อ่านจะได้รับความรู้เกี่ยวกับศัพท์สันสกฤตตลอดจนชื่อต่างๆ ที่มักปรากฏอยู่ในมหากาพย์หรือวรรณคดีสันสกฤตเรื่องต่างๆ จากภาคผนวกนี้อย่างมากมาย
เรื่องพระนลคำหลวงนี้ จึงเหมาะที่ผู้สนใจในการประพันธ์ควรจะได้อ่าน หรือแม้แต่ผู้ที่ต้องการเพียงเรื่องราวอันสนุกสนานเพลิดเพลินใจกอปรด้วยรสแห่งบทกวีอันไพเราะก็สามารถจะหาได้จากเรื่องพระนลนี้เช่นกันเรื่องพระนลเป็นนิทานแทรกอยู่ในมหาภารตะ ซึ่งรจนาโดยมุนีกฤษณไทวปายน มีชื่อเรื่องว่า นโลปาขยานัม ซึ่งเซอร์โมเนียร์ โมเนียร์ วิลเลียมส์ ได้แปลความจากต้นฉบับโศลกภาษาสันสกฤตเป็นภาษาอังกฤษ และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงใช้ฉบับภาษาอังกฤษนี้ พระราชนิพนธ์เป็นวรรณกรรมคำหลวง ประกอบด้วยคำประพันธ์หลายชนิด ได้แก่ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน และร่าย ด้วยมีพระราชประสงค์จะให้เป็นแบบอย่างในการประพันธ์กวีนิพนธ์สำหรับกุลบุตร ดังปรากฏในโคลงพระราชนิพนธ์อารัมภกถา ดังนี้ ๏ ประสงค์แห่งข้าแต่ง | | เรื่องนล นี่ฤๅ | เพื่อแนะกุลบุตร์ยล | | เยี่ยงไว้ | ดูแยบแบบประพนธ์ | | โคลงกาพย์ กลอนนา | เผื่อจะคิดแต่งได้ | | อีกบ้างอย่างดนู ฯ | เนื้อหาของพระนลคำหลวงเริ่มต้นด้วย “นมัสกฤติกถา” หรือบทไหว้ครู “อารัมภ-กถา” แสดงพระราชประสงค์ในการนิพนธ์ “นิทานวัจนะ” ว่าด้วยบ่อเกิดของเรื่องพระนล แล้วจึงดำเนินเรื่องพระนล ซึ่งมีเนื้อหา ๒๖ สรรค แยกเป็น ๒ ภาษา โดยด้านซ้ายของหนังสือเป็นโศลกภาษาสันสกฤต ส่วนด้านขวาของหนังสือเป็นบทพระราชนิพนธ์ร้อยกรองภาษาไทย จากนั้นเป็น “อุตตรกถา” กล่าวถึงทศพิธราชธรรม เบญจธรรมของสตรี ระบุวันเวลาที่ทรงพระราชนิพนธ์ บทบูชาพระรัตนตรัยและสรรเสริญพระพุทธคุณ ตอนท้ายเป็นภาคผนวกอธิบายถึงลักษณะคำประพันธ์และอภิธานศัพท์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มพระราชนิพนธ์เรื่องพระนลคำหลวงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๖ แล้วเสร็จเมื่อวันเสาร์ที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ ทรงตรวจแก้ไขและพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๙ พระนลคำหลวงเป็นวรรณคดีที่ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นหนังสือแต่งดีประเภทกวีนิพนธ์ กรมศิลปากรหวังว่าหนังสือเรื่องพระนลคำหลวง จะอำนวยประโยชน์แก่นักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์และผู้สนใจวรรณคดีไทยโดยทั่วกัน สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากรพระราชนิพนธ์คำนำ ความประสงค์ของข้าพเจ้าในการที่แต่ง “พระนลคำหลวง” นี้มีอยู่อย่างไร ได้แสดงไว้ในอารัมภกถาแล้ว จึ่งไม่จำจะต้องกล่าวซ้ำในที่นี้อีก
การแต่งข้าพเจ้ารู้สึกตนอยู่ว่า ตกอยู่ในที่ลำบากมากอยู่ เพราะข้าพเจ้าเองก็หาได้เรียนรู้ภาษาสันสกฤตไม่ จึ่งจำเปนต้องอาศรัยคำแปลเปนภาษาอังกฤษของ เซอร์โมเนียร์ โมเนียร์-วิลเลียมส์อีกชั้น ๑. การที่แปลเปน ๒ ต่อเช่นนี้ คำแปลภาษาไทยก็อาจที่จะคลาดเคลื่อนจากความเดิมในภาษาสันสกฤตบ้าง. จริงอยู่ข้าพเจ้าได้พยายามตรวจสอบคำบางคำที่สงสัยในคำแปลภาษาอังกฤษนั้น เทียบกับคำแปลในพจนานุกรมอีกชั้น ๑ ด้วย; แต่ถึงกระนั้นก็อาจที่จะยังมีที่คลาดเคลื่อนอยู่บ้าง จึ่งต้องขอให้ปราชญ์ให้อภัยด้วยเถิด
อนึ่งในการเขียนภาษาสันสกฤตด้วยตัวอักษรไทยเปนของยากมาก เพราะฉนั้นถ้าพลั้งพลาดไปบ้าง ก็ต้องขออภัยอีกอย่าง ๑ ด้วย
ในการเขียนภาษาสันสกฤตเปนตัวไทย สิ่งซึ่งลำบากมีอยู่อย่าง ๑ คือ วิสรรค ซึ่งในหนังสือเทวนาครีเขียนเปนจุด ๒ จุดซ้อนกันเช่นนี้ และอันที่จริงก็คือวิสัญชนี (ะ) ที่ใช้ในการเขียนหนังสือไทยเรานั้นเอง แต่ไทยเราได้ใช้วิสัญชนีเปนเครื่องหมายสำหรับสระ อะ เสียแน่นอนนานมาแล้ว และฝังอยู่ในความเข้าใจของไทยเราแล้ว ว่าเปนสระอะ, เพราะฉนั้นถ้าจะใช้วิสัญชนีในที่วิสรรคเมื่อเขียนภาษาสันสกฤต ข้าพเจ้ารู้สึกว่าคงจะไม่พ้นความฉงน เช่นถ้าจะเขียนว่า “ทุะข” เช่นนี้ ก็ดูออกจะแปลกตาเสียแล้ว; แต่ก็คงยังพอสถานประมาณ. แต่ถ้าเขียน “มหาต๎มนาะ” เช่นนี้ ผู้อ่านที่ไม่เคยได้รู้จักวิสรรคของสันสกฤตเลย คงจะฉงนจนมิรู้ที่จะอ่านว่ากระไรทีเดียวเปนแน่แท้
ในการเขียนภาษาสันสกฤตด้วยตัวอักษรโรมัน โมเนียร์-วิลเลียมส์และ นักปราชญ์ชาวยุโรปอื่น ๆ เขาใช้ตัว “h” เช่นนี้แทนวิสรรค. ที่เขาเลือกเอาตัว “h” ใช้แทนวิสรรคเช่นนี้ ก็เพราะตัว “h” เปนตัวอักษรซึ่งในบางคำก็ไม่ออกเสียงเลย; เช่นคำว่า “honour” ก็อ่านว่า “ออเนอร” (หรือเขียนให้ตรงตามตัวโรมันว่า “ห์ออเนอร์”), คำว่า “why” อ่านว่า “ไว,” คำว่า “john” อ่านว่า “ชอห์น,” เช่นนี้เปนต้น. ส่วนในภาษาไทยเรา ข้าพเจ้ามาคำนึงดูก็เห็นว่า ตัว “ห” ของเราในบางแห่งก็ไม่ได้ออกเสียงเลยเหมือนกัน, เช่นในเวลาที่ใช้เปนตัวนำพยัญชนะอื่นให้เสียงสูงขึ้น, กับในเวลาที่อยู่ข้างท้ายแห่งคำ เช่น “ดำริห,” “พ่าห,” “เล่ห,” และ “โล่ห” เปนต้น, ซึ่งเพื่อให้แน่ว่าไม่ออกสำเนียงจึ่งมักจะการันต์เสียด้วยเช่น “ดำริห์” ดังนี้เปนต้น. เมื่อคำนึงดูว่า การที่ปราชญ์ยุโรปเขาได้บัญญัติใช้ตัว “h” มีจุดหมายเปนของแทนวิสรรคก็ไม่มีมูลอันใด ยิ่งไปกว่าที่ได้กล่าวมาข้างบนนี้แล้วไซร้
ข้าพเจ้าจึ่งเห็นว่า ถ้าในการเขียนภาษาสันสกฤตด้วยอักษรไทยจะใช้ตัว “ห” การันต์บ้าง ก็ดูจะไม่เขวยิ่งไปกว่า “h” ของเขาเลย; เช่นคำว่า “ทุะข” เขียนเป็น “ทุห์ข” เช่นนี้ ดูก็พอไปได้ไม่ขัดนัก. แต่การที่แผลงเช่นนี้ จำจะต้องอธิบายไว้ให้ชัดเจน ข้าพเจ้าจึ่งได้อธิบายมายืดยาวเช่นนี้ และในการที่ใช้ “ห์” แทน วิสรรคดังนี้ ถ้าปราชญ์ผู้พิถีพิถันจะรู้สึกขัดตาอยู่บ้างก็ขออภัยเสียด้วยเถิด
อนึ่งหนังสือ “พระนลคำหลวง” นี้ ข้าพเจ้าได้แต่งแล้วเสร็จตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๕๗ แต่การตรวจฉบับพิมพ์และแก้ไขแต้มเติมบทกลอนต่าง ๆ กินเวลานาน และจะทำไปโดยรีบร้อนไม่ได้ หนังสือจึ่งพึ่งจะได้ออกจำหน่าย ในปี พ.ศ. ๒๔๕๙ นี้
ในที่สุดนี้ ข้าพเจ้าขอขอบใจพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นกวีพจน์สุปรีชา ๑ พระยาพจนสุนทร ๑ พระปริยัติธรรมธาดา ๑ ในการที่ได้ช่วยตรวจแก้หนังสือนี้อย่างละเอียดละออ และได้ช่วยต่อแต้มกาพย์กลอนให้สละสลวยขึ้นด้วยเปนหลายแห่ง นับว่าเปนกำลังแก่ข้าพเจ้าเปนอันมาก กับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์ เมื่อก่อนเวลาที่ประชวรหนัก ได้ทรงเอาพระไทยใส่ช่วยแนะนำข้าพเจ้าในการแต่งหนังสือนี้เปนอันมาก ข้าพเจ้าจึ่งเว้นเสียมิได้ที่จะรำลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่าน ผู้ที่ข้าพเจ้ามีความเคารพนับถือเปนอาจารย์ของข้าพเจ้าพระองค์ ๑ และอดนึกไม่ได้ว่า ถ้าได้มีพระชนม์ยืนยาวต่อมาจนได้ทอดพระเนตรเห็นหนังสือนี้พิมพ์สำเร็จเปนเล่มขึ้นแล้ว จะเปนที่พอพระไทยหาน้อยไม่.
(วันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๕๙) นมัสกฤติกถา โอม์ นโม รัต๎นต๎รยัน์ส์ ศรณํ คัจ์ฉามิ◎โอมนโมนอบน้อม | | วันทา | อรหันตสัมมา | | พุทธเจ้า | อุตตมะธรรมสา | | ธุเลิศ | มหาตมะสงฆ์เค้า | | เขตเนื้อนาบุญ ฯ | โอม์ นโม คเณศาย วิฆ๎เนศ๎วราย ๏ โอมสุนทรเทพไท้ | | คเณศร | สิทธิบดีพร | | เพริศแพร้ว | อันข้าประพนธ์กลอน | | สุทธิพากย์ | จงช่วยนำข้าแคล้ว | | คลาศพ้นขัดขวาง ฯ | นโม วยาสาย กฤษณไทวปายนาย ๏ พลางนบพระวยาสเจ้า | | ทวิชนม์ | กฤษณะไทวปายน | | พรตกล้า | ผู้แต่งเรื่องพระนล | | สันสกฤต นั่นแล | ขอจุ่งดลจิตข้า | | แต่งแม้นพระมุนี ฯ | นโม อุปธ๎ยาย เม ๏ อ่อนกายศีร์ษะก้ม | | นมัสการ | พระอุปัธยาจารย์ | | พรตเจ้า | ขอคุณพระบรรสาน | | จิตแน่ว | บ่มิเหินห่างเค้า | | เขตแคว้นแดนกุศล ฯ | นโม ชนเน เม ๏ กมลมนัสน้อม | | อัญชลี | สมเด็จพระชนนี | | เกิดเกล้า | ขอจงพระทรงศรี | | สวัสดิสุข เกษมเทอญ | เพื่อพระคุณค่ำเช้า | | ร่มเพี้ยงฉายา ฯ | นโม วิศ๎เวเทเวโภ๎ย ๏ วันทาทวยเทพไท้ | | เทเวศร์ | ทรงมหิทธิฤทธิ์เดช | | อะคร้าว | อาทิอมรเศรษฐ | | ผดุงรัฐ สยามแฮ | อิกพระบรรพบุรุษท้าว | | สถิตด้าวแดนสรวง ฯ | สิท์ธัม์ อัส๎ตุ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 เมษายน 2560 16:01:19 โดย กิมเล้ง »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 09 มีนาคม 2560 15:51:30 » |
|
อารัมภกถา จักขอไขดำนาน เปนนิทานวัจนะ เพื่อจะแจ้งแถลงความตามเหตุเรื่องพระนล อันปนอยู่ณที่ คัมภีร์มหาภารตะ คละอยู่ในวันะบรรพ นับเปนส่วนหนึ่งนั้น อันเปนนิพนธกถา แห่งมหามุนี นามเธอมีประกาศิต กฤษณะทวปายน ประพนธ์เปนคำฉันท์ อันเรียกนามว่าโศลก ประโยคคำสำนวน
ล้วนเปนที่น่าฟัง ทั้งไพเราะเหมาะกลอน ศัพท์สุนทรจับใจในนั้นไซ้รไขขาน ว่าดำนานนลนี้ พระมุนีหนึ่งไซ้ร เล่าให้ปาณฑพนาถ ผู้นิราศไร้รัฐ ซัดเซอยู่กลางป่า เรื่องมีมามากมาย จะบรรยายมากมวล ก็มิควรที่นี้ ควรที่เพียงยกเอา มาเล่าสังเขปไว้ พอแต่เพียงจักได้ ทราบคดี ฯ๑ ๏ กรุงศรีนามออกอ้าง | | หัสดิน | ที่สถิตขุนหลวง | | เด่นด้าว | ปิ่นจันทรวงศ์วิน | | ทุราช | เผยพระเดชอะคร้าว | | หื่นหรรษ์ ฯ | ๒ ๏ ปางนั้นมีเจ้าอยู่ | | สองสกุล | ต่างอิทธิกำยำ | | กลั่นกล้า | ล้วนเปนหน่อพระสุน | | ทรราช สองแฮ | ล้วนเลิศสุรเดชจ้า | | แจ่มงาม ฯ | ๓ ๏ นามสกุลหนึ่งนั้น | | โกรพ | ลูกธตรฐภู | | วนาถไท้ | อีกกุลชื่อปาณฑพ | | วรกษัตร์ | เปนลูกปาณฑุไซ้ร | | สิทธิ์ศิลป์ ฯ | ๔ ๏ ภูมินทร์ธตรฐท้าว | | เชษฐา | พระเนตร์ธมืดมัว | | แต่กี้ | จึ่งองค์พระอนุชา | | ปาณฑุ | ทรงราชย์จังหวัดนี้ | | ก่อนมา ฯ | ๕ ๏ ราชาปาณฑุไซ้ร | | มีบุตร์ | ปัญจะประเสริฐไว | | ว่องแท้ | ทั้งห้ากษัตร์สุด | | สุรแกว่น | นามะปาณฑพแล้ | | เลิศสม ฯ | ๖ ๏ ประถมธรรมสุตเจ้า | | ยุธิษ เฐียรแฮ | ทุติยะพระภีมะเสน | | เกียรติก้อง | อีกอรชุนฤทธิ์ | | เรืองรุ่ง | สหเทพนกูลน้อง | | แฝดสอง ฯ | ๗ ๏ พี่น้องอันชื่อชี้ | | โกรพ นั่นฤๅ | มีอยู่รวมร้อยองค์ | | อะคร้าว | ทุรโยธนะลบ | | เลิศเหล่า นั้นแล | เปนลูกธตรฐท้าว | | เทิดธรรม์ ฯ | ๘ ๏ ปางนั้นปาณฑุเจ้า | | ภพนาถ | มีโรคพยาธิเบียฬ | | เบียดไท้ | จึ่งละซึ่งวรราช | | สมบัติ | ฝากราชมนตรีให้ | | รักษา ฯ | ๙ ๏ ราชาประเวศด้าว | | แดนพน | แต่พระโรคเธอมวล | | มากกล้า | | | | ปาณฑุก็วายชนม์ | | กลางพนัส นั่นแล | โอรสจึ่งกำพร้า | | แต่เยาว์ ฯ | ๑๐ ๏ เขาจึ่งเชิญท่านท้าว | | ธตรฐ | ทรงราชย์ประศาสน์แทน | | พระน้อง | ท้าวเธอสถิตทศ | | ธรรมเที่ยง | ปาณฑพจึ่งไป่ต้อง | | ขุกเข็ญ ฯ | ๑๑ ๏ ร่มเย็นเพราะท่านท้าว | | บิตุลา | เลี้ยงเท่าบุตร์เธอเอง | | บัดนั้น | ปัญจะกษัตร์ผา | | สุกสถิต | เอาเดชพระลุงกั้น | | เกศหรรษ์ ฯ | ๑๒ ๏ สรรพ์ศิลปศาสตร์พร้อม | | ไพบูลย์ | เรียนรอบรู้เร็วไว | | วิริยกล้า | จึ่งพระบิตุลาพูล | | พิศวาส | เพราะพระหลานทั้งห้า | | ถูกใจ ฯ | ๑๓ ๏ ครั้นวัยวุฒิเสร็จซ้อม | | สรรพเรียน | จึ่งธตรฐจอม | | จักร์กว้าง | สมมตยุธิษเฐียร | | ธรรมสุต | เปนพระเยาวราชอ้าง | | ออกนาม ฯ | ๑๔ ๏ ต้องตามระเบียบเบื้อง | | เบาราณ | ขุนเลือกเอายอดทวย | | ลูกเจ้า | แม้มิใช่กุมาร | | ลูกท่าน เองนอ | ขุนบ่เกี่ยงฤๅเข้า | | แก่ตน ฯ | ๑๕ ๏ ฝูงชนก็แซ่ซร้อง | | สาธุการ | ขุนเลือกเยาวราชดี | | แน่แท้ | เพราะยุธิษเฐียรชาญ | | เชิงประชิต | คงบ่มีที่แพ้ | | เศิกไหน ฯ | ๑๖ ๏ แต่ใจทุรโยชน์นั้น | | อิจฉา | ข้องจิตคิดอาธรรม์ | | โหดเหี้ยม | อีกปวงพระอนุชา | | ช่วยเจ็บ แค้นฮือ | ควรฤพระพ่อเสี้ยม | | ส่งหลาน ฯ | ๑๗ ๏ กุมารทั้งร้อยจึ่ง | | คิดกัน | จะทะลายปาณฑพ | | กษัตร์ห้า | หมั่นท้าประลองขัน | | แข่งยุทธ ศาสตร์แฮ | ปางปะราชิตบ้า | | บ่หาย ฯ | ๑๘ ๏ ปองร้ายฤไป่เว้น | | ว่างคิด | ตั้งแต่เอาเปรียบปาณ | | ฑพเจ้า | ก่อวิวาทหงุดหงิด | | ทุกเมื่อ | ฤๅพระพ่อเธอเว้า | | บ่ฟัง ฯ | ๑๙ ๏ ตละครั้งวิวาทแล้ว | | เลยโกรธ กันนา | ต่ออีกและนานกาล | | ไป่เว้น | ธตรฐจะเอาโทษ | | ทัณฑ์รํ่า ไปฤๅ | การก็เกินกว่าเหล้น | | หยอกกัน ฯ | ๒๐ ๏ ปางนั้นทุรโยธน์ตั้ง | | เพียรพาล | ยงยุพระบิตุรงค์ | | ท่านไท้ | ธตรฐก็รำคาญ | | ข้องขัด | เกรงบุตร์และหลานไซ้ร | | เข่นกัน ฯ | ๒๑ ๏ ครั้นจะรออีกไส้ร | | เกรงความ มากแฮ | เยียจะรบกลางเวียง | | แน่แท้ | ศัตรูจะวู่วาม | | ซ้ำส่ง ด้วยนอ | จำจะคิดอ่านแก้ | | บัดใจ ฯ | ๒๒ ๏ จอมไผทจึ่งเรียกห้า | | องค์หลาน | มาตรัสธิบายความ | | ถี่ถ้วน | อันหลานก็เห็นปาน | | โอรส ลุงนา | ลุงฤรักเจ้าล้วน | | อย่าแหนง ฯ | ๒๓ ๏ แต่งธรรมะสุตให้ | | เปนทา ยาทพ่อ | นี้พยานว่าลุง | | รักเจ้า | แต่ลูกแห่งลุงอา | | ธรรม์โหด เหี้ยมฮือ | จงจิตฤษยาเร้า | | เร่งราญ ฯ | ๒๔ ๏ การยุทธ์ระหว่างเชื้อ | | วงศ์เดียว | เครื่องจะนำฉิบหาย | | สู่ด้าว | แม้เราสิมัวเทียว | | แทงยุทธ์ กันนา | เยียปัจจามิตร์ห้าว | | หื่นหรรษ์ ฯ | ๒๕ ๏ เหตุฉนั้นดูก่อนเจ้า | | หลานชาย | เจ้าอย่าคิดเดียจฉันท์ | | เคียดขึ้ง | เชื่อลุงเถิดลุงหมาย | | ดีต่อ เจ้านา | หวังจะตัดการรึ้ง | | เร่าราญ ฯ | ๒๖ ๏ หลานเอยทั้งห้าจุ่ง | | จรลี | จากนครหัสดิน | | อย่าช้า | อีกนำแม่กุนตี | | มาตุ เจ้าเอย | ไปกับหลานทั้งห้า | | เถิดหลาน ฯ | ๒๗ ๏ ฟังสารสมเด็จไท้ | | บิตุลา | จึ่งพระยุธิษเฐียร | | นอบเกล้า | ทูลว่าพระราชา | | ธิบายแจ่ม แจ้งแล | ขอพระลุงผ่านเผ้า | | อย่าแหนง ฯ | ๒๘ ๏ การแก่งแย่งยุทธห้าว | | เหิมหาญ | ในระหว่างราชวงศ์ | | บัดนี้ | แน่แท้จะนำการ | | เข็ญขุก มานา | เหมือนช่วยศัตรูชี้ | | ช่องมลาย ฯ | ๒๙ ๏ ขอถวายความสัตย์ซํ้า | | ปฏิญญา | ต่อภักตร์เทพสักขี | | ทั่วด้าว | ทั้งข้าและอนุชา | | จงรัก พระเอย | จะไม่ทำให้ท้าว | | ขุ่นเคือง ฯ | ๓๐ ๏ จอมเมืองเนืองนิตย์เอื้อ | | เอนดู ข้านา | ฤๅจะไม่รู้คุณ | | ท่านไท้ | ทั้งห้ากตัญญู | | ยงมั่น จิตเฮย | ขอจะปฏิบัติให้ | | พระสราญ ฯ | ๓๑ ๏ ภูบาลจงได้โปรด | | อนุญาต | ให้ออกจากเวียงไชย | | บัดนี้ | อีกขอพระประศาสน์ | | อีกขอพระประศาสน์ | จงอย่าตามจู้จี้ | | ต่อไป ฯ | ๓๒ ๏ ทรงไชยธตรฐเจ้า | | จอมปราณ | ตอบว่าลุงจะสั่ง | | บุตร์ให้ | ไปดีเถิดนะหลาน | | เปนสุข | ไป่เนิ่นคงจะได้ | | กลับมา ฯ | ๓๓ ๏ จึ่งห้ากษัตร์ก้ม | | อัญชลี | ลาพระราชบิตุลา | | เลิศเกล้า | ไปเชิญพระชนนี | | เธอเสด็จ | เดินจากหัสดินเข้า | | เขตไพร ฯ | ๓๔ ๏ ไปถึงณหมู่บ้าน | | กลางดง | อันชื่อวารณาวัต | | เหมาะแท้ | พอเปนที่พักคง | | อยู่สุข ได้นา | สร้างที่พักพอแก้ | | ขัดพลาง ฯ | ๓๕ ๏ ปางนั้นทุรโยธน์ร้าย | | แรงอิจ ฉาแฮ | ทราบแห่งห้าปาณฑพ | | อยู่แล้ว | จึ่งพร้อมอนุชาคิด | | การกาจ | เพื่อมิให้เธอแคล้ว | | คลาศภัย ฯ | ๓๖ ๏ จงใจคิดเสร็จถ้วน | | เภทุบาย | ส่งพวกผู้ร่วมใจ | | หยาบช้า | คิดกันจะทำลาย | | ปาณฑพ | ด้วยฤทธิ์อัคคีกล้า | | แผดเผา ฯ | ๓๗ ๏ ให้เขาสร้างทับขึ้น | | ใหม่สราญ | ฝาชุบนํ้ามันยาง | | แต่งไว้ | ให้ล่อกษัตร์ปาณ | | ฑพสถิต นั่นนา | แล้วจะเผาจงไหม้ | | หมดพลัน ฯ | ๓๘ ๏ ปางนั้นมีผู้รัก | | กษัตร์ปาณ ฑพแฮ | ฅือวิทูรผู้อา | | นั่นไซ้ร | แต่งทาสหนึ่งนำสาร | | ไปบอก | ปัญจะปาณฑพให้ | | ระวัง ฯ | ๓๙ ๏ ดังนั้นกษัตร์ห้า | | รู้ตน | จึ่งบ่เข้าอยู่ทับ | | ใหม่นั้น | ล่อพราหมณ์หกตนดล | | เข้าอยู่ แทนฮือ | ปิดทวารทับหมั้น | | เหมาะงาม ฯ | ๔๑ ๏ ครั้นยามคํ่ามืดแล้ว | | ทุรโยธน์ | ให้จุดอัคคีเผา | | ทับไหม้ | แสงเพลิงเถกิงโรจน์ | | ลามลุก | จึ่งพระทุรโยธน์ไส้ร | | หื่นหรรษ์ ฯ | ๔๑ ๏ ปางนั้นปาณฑพห้า | | ปรีดี | เห็นว่าทุรโยธน์หลง | | แน่แล้ว | จึ่งเชิญพระชนนี | | รีบรุด | เข้าสู่แถวเถื่อนแคล้ว | | คลาศภัย | ๔๒ ๏ อาไศรยแห่งอื่นได้ | | โดยศานต์ | โกรพบ่ติดตาม | | มุ่งร้าย | เหตุคิดว่าวายปราณ | | ทั้งหก แล้วแล | จึ่งบ่คิดโยกย้าย | | หักหาญ ฯ | ๔๓ ๏ ไป่นานมีข่าวก้อง | | เกริกมา | ว่าพญาปัญจาล | | ผ่านเผ้า | ป่าวร้องกษัตร์รา | | ชันยบุตร | ไปสยัมพรเจ้า | | ธิดา ฯ | ๔๔ ๏ ครานั้นจึ่งพี่น้อง | | ต้องใจ กันแฮ | คิดใคร่ไปในงาน | | ท่านท้าว | ลามาตุครรไล | | โดยด่วน | จรสู่ปัญจาลด้าว | | ดั่งใจ ฯ | ๔๕ ๏ ไป่นานถึงซึ่งหน้า | | เวียงไชย | ปัญจะกษัตร์แปลง | | แปลกหน้า | เปนพราหมณะวีไสย | | ทรงเศวต | ศรธนูครบอ้า | | โอ่งาม ฯ | ๔๖size] ๏ พราหมณ์แปลงจึ่งเข้าสู่ | | วังรัตน์ | สู่พิธีมณฑล | | ไป่ช้า | ลูกเจ้าเหล่ากษัตร์ | | ต่างเยาะ หยันฮา | ว่าทวิชฤๅจะบ้า | | กระมัง ฯ | ๔๗ ๏ พราหมณ์ยังมิทราบเค้า | | กฏิกา ท่านฤๅ | ใครประสงค์บุตรี | | ท่านไท้ | จำแสดงซึ่งศักดา | | ธนุรเวท | คนเก่งจึ่งจะให้ | | บุตรี ฯ | ๔๘ ๏ ชีแปลงแสร้งตอบถ้อย | | ทวยกษัตร์ | เราก็เคยลองยิง | | อยู่บ้าง | ขอท่านอย่าขุกขัด | | โอกาศ เราเลย | เราบ่อยากโอ่อ้าง | | อวดดี ฯ | ๔๙ ๏ บุตรีภูธเรศร์ท้าว | | เลิศแล้ | ทราบข่าวว่างามลบ | | เลิศแล้ | เราจะละทางหมด | | ทางเสน่ห์ ได้ฤๅ | จำจะลองเผื่อแม้ | | โชคไชย ฯ | ๕๐ ๏ ไม่ช้าทวยลูกเจ้า | | ต่างตน | ขันแข่งฝีมือปืน | | เหมาะหมั้น | กษัตร์ทั่วสากล | | ประกวด กันแฮ | การประชุมที่นั้น | | น่าดู ฯ | ๕๑ ๏ อันธนูศาสตร์ล้วน | | ชำนาญ | แต่มิช้าชนเห็น | | ถ่องแท้ | ใครบ่เชี่ยวชาญปาน | | ห้าทวิช นั่นเลย | ต่างเปล่งอุทานแส้ | | ศัพท์ชม ฯ | ๕๒ ๏ ปฐมฉลาดชั้น | | เชิงธนู | คือทวิชที่สาม | | นั่นไซ้ร | ต่างตนก็มองดู | | เปนหนึ่ง ตาแฮ | ทั้งพระภูธเรศร์ไท้ | | โปรดปราน ฯ | ๕๓ ๏ บรรหารประกาศก้อง | | กลางชน | พราหมณ์หนุ่มสูคือใคร | | อยากรู้ | ไวว่องคล่องกว่าคน | | มือเอก เจียวพ่อ | กูบ่เห็นใครขู้ | | แข่งดี ฯ | ๕๔ ๏ พราหมณ์มีกำเนิดนั้น | | เปนไฉน | จึ่งเชี่ยวฝีมือชาญ | | ชดช้อย | สำนักคุรุใด | | จงบอก กูเทอญ | จงอย่าอำพรางน้อย | | หนึ่งเลย ฯ | ๕๕ ๏ เฉลยมธุรศท้าว | | ปัญจาล | ข้าชาติจันทรวงศ์ | | เลิศแล้ว | ชื่ออรชุนปาณ | | ฑุบุตร์ | โทณะพราหมณ์ครูแก้ว | | ประสาทศิลป์ ฯ | ๕๖ ๏ ภูมินทร์ทรุบทแผ้ว | | ผ่องใจ | สร้วมกอดพระอรชุน | | ไป่ช้า | พ่อเอยเก่งกะไร | | น่ารัก จริงพ่อ | งามรูปและงามหน้า | | หนุ่มนวล ฯ | ๕๗ ๏ สมควรเปนคู่เจ้า | | กฤษณา | ผู้ธิดายอดรัก | | เลิศไซ้ร | ตัวเราสิปรีดา | | เกินกล่าว แล้วพ่อ | เต็มจิตจะยกให้ | | ฉับพลัน ฯ | ๕๘ ๏ ครานั้นจึ่งยุวเจ้า | | อรชุน | นอบเกศเฉลยคำ | | ท่านเว้า | ขุนทรงพระการุญ | | เหลือขนาด | จำจะทูลเงื่อนเหง้า | | สัจจา ฯ | ๕๙ ๏ ข้าไซ้รและพี่น้อง | | รวมห้า คนเฮย | ล้วนบ่มีถิ่นฐาน | | อยู่หมั้น | พักอยู่อรัญทา | | รุณเถื่อน | ความยากลำบากนั้น | | มากมวล ฯ | ๖๐ ๏ อันนวลนาเรศร์แก้ว | | ขวัญเมือง | ฤๅจะไปอยู่วัน | | เวิกว้าง | เครื่องแต่จะขุ่นเคือง | | เข็ญขัด | ขอจุ่งพระเจ้าช้าง | | ตริดู ฯ | ๖๒ ๏ แม้ใครชำนะชั้น | | เชิงธนู | เราจะยกบุตรี | | แต่งให้ | ครานี้ละแน่สู | | ชำนะ | เราจึ่งเห็นควรได้ | | ธิดา ฯ | ๖๓ ๏ กฤษณาจงตอบแท้ | | จริงใจ เจ้าเอย | เจ้าจะถูกจิตฤๅ | | ดั่งนั้น | ฤๅเจ้าชอบอย่างไร | | จงบอก พ่อเทอญ | พ่อจะมิกางกั้น | | กีดใจ ฯ | ๖๔ ๏ อรไทยนามออกอ้าง | | กฤษณา | ทูลตอบด้วยจริงใจ | | ถ่องแท้ | ลูกบ่ขัดบิดา | | เกิดเกศ | ลูกจะยอมตามแม้ | | ขุกเข็ญ ฯ | ๖๕ ๏ เห็นลูกเธอแน่แท้ | | ปราถนา | จงรักพระอรชุน | | แม่นแล้ว | ขุนสั่งกิจวิวาห์ | | ปาณฑพ | กับพระบุตรีแก้ว | | ไป่รอ ฯ | ๖๖ ๏ พอเสร็จสมโภชพร้อม | | สิทธิ์สรรพ์ | จึ่งพระอรชุนลา | | ผ่านเผ้า | พานางนิ่มนวลจันทร์ | | จรจาก เวียงแฮ | พร้อมกับพี่น้องเข้า | | เขตดง ฯ | ๖๗ ๏ จึ่งองค์ทรุบทเจ้า | | ปัญจาล | ตรัสแด่พระทุรโยธน์ | | ไป่ช้า | เราขอฝากทูลสาร | | แด่พระ พ่อนา | เรื่องวิวาห์ลูกข้า | | กับหลาน ฯ | ๖๘ ๏ ขอท่านจอมเขตแคว้น | | หัสดิน | เอาเดชปรกบุตรี | | นิ่มเนื้อ | ขอฝากมิ่งนารินทร์ | | แทบบาท | ขอพระองค์โอบเอื้อ | | อุปถัมภ์ ฯ | ๖๙ ๏ ฟังคำแห่งท่านท้าว | | ทรุบท | ทุรโยธน์ขัดใจ | | ยิ่งลํ้า | จำเปนก็จำอด | | กลั้นโกรธ | ลาพระภูมิศร์กลํ้า | | กลับเมือง ฯ | ๗๐ ๏ ทราบเรื่องตลอดเค้า | | มวลมี | ธตรฐหลากพระไทย | | ธตรฐหลากพระไทย | ด้วยคิดว่าชีวี | | | เพราะว่าเธอเชื่อถ้อย | | บุตรา ฯ | ๗๑ ๏ คิดว่าไฟป่าไหม้ | | ในดง แล้วแล | จึ่งขาดความอนุเคราะห์ | | โอบเอื้อ | บัดนี้ทราบว่าคง | | ชนมชีพ อยู่ฮือ | จำจะรีบให้เชื้อ | | กลับมา ฯ | ๗๒ ๏ ราชาจึ่งใช้ราช | | บุรุษ | ให้รีบเร็วรวดไป | | อย่าช้า | สู่อรัญญิกสุด | | แดนนี่ | เชิญพระหลานทั้งห้า | | กลับพลัน ฯ | ๗๓ ๏ ครานั้นวรทูตเร้า | | เร่งจร | ถึงที่พระหลานพัก | | ไป่ช้า | ทูลพจนะสุนทร | | ตามพระ สั่งเฮย | เชิญพระหลานทั้งห้า | | กลับวัง ฯ | ๗๔ ๏ ฟังคำวรทูตพร้อง | | พาที | จึ่งพระปาณฑพเศรษฐ | | เพรียกพร้อง | น้องเอยพระภูมี | | เชิญกลับ | เราจะกลับฤๅน้อง | | กล่าวมา ฯ | ๗๕ ๏ อนุชาทั้งสี่พร้อม | | ใจกัน | ทูลพระธรรมสุตองค์ | | เอกไซ้ร | เห็นควรจะกลับพลัน | | บ่เนิ่น | เพื่อพระแม่เราได้ | | สุขสราญ ฯ | ๗๖ ๏ ปาณฑพกษัตร์ทั้ง | | เบญจางค์ | พร้อมพระนางกุนตี | | แม่เจ้า | รีบเสด็จเดินทาง | | แถวเถื่อน | ไป่เนิ่นเสด็จเข้า | | หัสดิน ฯ | ๗๗ ๏ ภูมินทร์ธตรฐผู้ | | ทรงธรรม์ | กอดพระหลานห้าองค์ | | เสร็จแล้ว | ถามว่าพระหลานผัน | | ผายกลับ แล้วแล | เจ้าจะอยู่เมืองแก้ว | | ฤไฉน ฯ | ๗๘ ๏ ไหว้พลางทางยุวเจ้า | | ยุธิษ เฐียรนา | ทูลพระปิ่นศศิพงศ์ | | ครอบด้าว | อันข้าจะสถิต | | เปนสุข ได้ฤๅ | เครื่องจะทำให้ท้าว | | ขุ่นเคือง ฯ | ๗๙ ๏ เหตุเรื่องวิวาทด้วย | | ปิยบุตร์ ท่านนา | ฤๅจะเหือดหายพลัน | | ห่อนได้ | ทุรโยธน์จะยั้งหยุด | | หยุกหยิก ได้ฤๅ | อีกอนุชข้าไซ้ร | | จัดเจน ฯ | ๘๐ ๏ ภีมะเสนจิตเหี้ยม | | หาญดุ นักนอ | ฤๅจะอดโทโส | | หยุดยั้ง | ทุรโยธน์ก็มุทลุ | | ตอแหย่ อยู่นา | ใครจะคอยรึงรั้ง | | จากกัน ฯ | ๘๑ ๏ เหตุฉนั้นพระผ่านเผ้า | | การุญ ด้วยเทอญ | ขอฝากพระมารดร | | ที่นี้ | ข้าห้าจะลาสุน | | ทรราช | ประเวศวนะลี้ | | หลบภัย ฯ | ๘๒ ๏ ภูวนัยฟังถ้อยจับ | | หฤฟัย | จึ่งเฉลยวาจา | | ลูกเจ้า | หลานเอยจะอยู่ไพร | | พงเถื่อน | เจ้าจะมีแต่เศร้า | | โศกศัลย์ ฯ | ๘๓ ๏ เขตขัณฑ์ลุงนี้กว้าง | | ขวางมี | ลุงจะแบ่งให้หลาน | | กึ่งได้ | จะสร้างสุรธานี | | ให้สถิต เจ้าเอย | เพื่อพระหลานทรงไว้ | | อิศะรีย์ ฯ | ๘๔ ๏ ภูมีพลันสั่งพร้อม | | อมาตย์รัตน์ | เกณฑ์พหลพลไกร | | กึกก้อง | สร้างนครอินทปัต | | รมเยศร์ | ทวยราษฎร์ก็พลันซร้อง | | ศัพท์ชม ฯ | ๘๕ ๏ บุรีรมย์สมเกียรติ์เจ้า | | วงศจันทร์ | อยู่แทบฝังยมนา | | น่านนํ้า | พร้อมปราสาทรัตนบรร | | ยงก์โอ่ โถงแล | คูค่ายรายเลิศค้ำ | | เขตสรรค์ ฯ | ๘๖ ๏ ปางนั้นธตรฐเจ้า | | จอมประชา | อภิเษกยุธิษเฐียร | | กลั่นแกล้ว | ให้งำสุรภารา | | อินทปัต | อีกสมบัติพัสดุแก้ว | | แบ่งบูรณ์ ฯ | ๘๗ ๏ เพื่อพูลพระยศท้าว | | ภราตรีย์ | จัดสรรพสุรโยธิน | | กาจกล้า | อีกอมาตย์เสวี | | วุฒิภาพ | มวลมอบให้เปนข้า | | พระหลาน ฯ | ๘๘ ๏ ภูบาลแบ่งนรทั้ง | | สี่ตระกูล | ไปนครอินทปัต | | อะคร้าว | ทุกสิงส่ำสมบูรณ | | จัดเพื่อ หลานเฮย | สมพระไทยท่านท้าว | | บิตุลา ฯ | ๘๙ ๏ ครานั้นจึ่งท่านท้าว | | ยุธิษ เฐียรแฮ | รับภิเษกสมโภช | | เสร็จแล้ว | จึ่งโอนอ่อนโมลิต | | ไหว้พระ ลุงแล | พร้อมอนุชกลั่นแกล้ว | | กราบลา ฯ | ๙๐ ๏ พากันเสด็จเข้า | | ครองเวียง | อินทปัตมหารม | | เยศร์ไซ้ร | เปนสุขสนุกเพียง | | เมืองมัฆ วานแฮ | ปัญจะปาณฑพได้ | | หื่นหรรษ์ ฯ | ๙๑ ๏ อันองค์ธรรมราชเจ้า | | จอมเมือง | ทรงทศพิธธรรม | | เที่ยงเท้ | ทวยราษฎร์บ่มีเคือง | | ข้องจิต น้อยเลย | ต่างเกษมสุขแปล้ | | ไปล่ใจ ฯ | ๙๒ ๏ แดนไกลฦๅเดชก้อง | | กังวาล | ชนนิยมบารมี | | ท่านท้าว | รู้ว่าบุรีศาน | | ติสุข | ต่างก็ชวนกันก้าว | | สู่กรุง ฯ | ๙๓ ๏ รุ่งเรืองกระเดื่องด้วย | | เดชะ | จึ่งพระธรรมราชา | | นฤปไท้ | คิดการราชสูยะ | | ยงยศ | เพื่อประกาศเกียรติ์ไท้ | | เกริกแดน ฯ | ๙๔ ๏ ทุกแคว้นทุกเขตด้าว | | ภารต | ขุนต่างประมวลมา | | กึกก้อง | เพื่อช่วยเผยอยศ | | ธรรมราช | แน่นนครแซ่ซร้อง | | สนั่นเวียง ฯ | ๙๕ ๏ ดูเพียงทวยเทพพร้อม | | กันมา | เฝ้าพระศักรินทร์จอม | | ฟากฟ้า | สํ่าสุระเสนา | | เนืองแน่น | ส่ำคชรถและม้า | | มากอุดม ฯ | ๙๖ ๏ ท้าวบรมจักรกฤษณ์แก้ว | | อวตาร | มาจากทวาระกา | | ช่วยไท้ | เพิ่มพูลพระยศปาณ | | ฑพเศรษฐ | ราชสูยะไซ้ร | | เสร็จดี ฯ | ๙๗ ๏ ปางนี้ทุรโยธน์ข้อง | | ขัดใจ | เสร็จช่วยยุธิษเฐียร | | กลับแคว้น | ยิ่งคิดจิตคือไฟ | | เผาแผด | ยิ่งคิดจิตยิ่งแค้น | | ขุ่นหมอง ฯ | ๙๘ ๏ นึกปองจักใคร่ล้าง | | ธรรมราช | จึ่งปฤกษาศกุนี | | เพื่อนแก้ว | ตัวเพื่อนสิฉลาด | | เชิงดวด สกาแฮ | กูก็หมดทางแล้ว | | จะหวัง ฯ | ๙๙ ๏ ยังมีแต่คิดท้า | | ยุธิษ เฐียรเฮย | เล่นสกาพนันกัน | | สักเทื้อ | ขอเพื่อนจุ่งช่วยคิด | | การเสร็จ | แม้ว่าเพื่อนเอื้อเฟื้อ | | จักดี ฯ | ๑๐๐ ๏ ศกุนีจึ่งรับถ้อย | | ปลงใจ ด้วยนา | ทุรโยธน์ก็ยินดี | | ไป่น้อย | แต่งทูตรีบเร็วไป | | อินทปัต | ให้แถลงแห่งถ้อย | | ถ่องขาน ฯ |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 มีนาคม 2560 13:27:33 โดย กิมเล้ง »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 12 มีนาคม 2560 13:26:36 » |
|
๑๐๑ ๏ สารพระทุรโยธน์เจ้า | | วงศ์จันทร์ | มาแด่พระอนุชา | | เกียรติ์ก้อง | เชิญเล่นสกากัน | | พอเพลิด เพลินนา | เชิญเสด็จพระน้อง | | สู่นคร ฯ | ๑๐๒ ๏ ภูธรธรรมราชไซ้ร | | ยินสาร | ฤๅจะยอมจำนน | | ห่อนได้ | จึ่งเสด็จจากสถาน | | อินทปัต | สู่หัสดินไซ้ร | | ฉับพลัน ฯ | ๑๐๓ ๏ ปางนั้นจึ่งเริ่มเหล้น | | ดวดสกา | โกรพให้ศกุนี | | ทอดให้ | ศกุนีเชี่ยววิชา | | เชิงดวด | อาจจะพลิกแพลงได้ | | ดั่งถวิล ฯ | ๑๐๔ ๏ กองสินสินับด้วย | | หมื่นพัน | ธรรมราชบ่ชำนะ | | สักเทื้อ | ไป่นานก็เสียสรรพ์ | | พัสดุ | ดูสกานิตย์เกื้อ | | ศกุนี ฯ | ๑๐๕ ๏ ปางนี้ทุรโยธน์ทั้ง | | อนุชา | ต่างก็ปลื้มปรีดี | | ไม่น้อย | เห็นเพื่อนพลิกสกา | | โกงเหมาะ แน่แฮ | ทุรโยธน์จึ่งกล่าวถ้อย | | ปฤจฉา ฯ | ๑๐๖ ๏ ดูราพระน้องเอก | | องค์กษัตร์ | อันว่าแก้วเงินทอง | | หมดไซ้ร | เอาอินทปัตรัฐ | | กองแลก เทอญพ่อ | เผื่อจะเหมาะโชคได้ | | กระมัง ฯ | ๑๐๗ ๏ ฟังคำทุรโยธน์ท้า | | ขุ่นเคือง | ธรรมราชพนันเวียง | | ดั่งท้า | โอ้เคราะห์ก็เสียเมือง | | ในบัด เดียวแฮ | จึ่งพระปาณฑพห้า | | เหือดศรี ฯ | ๑๐๘ ๏ ยินดีชนะได้ | | ดังหมาย | ทุรโยธน์ก็กล่าวไป | | อีกซ้ำ | นางเมียพระน้องชาย | | งามยอด หญิงฮา | ทรงสิริเลอล้ำ | | เลิศสรร ฯ | ๑๐๙ ๏ พนันเอาหล่อนไซ้ร | | เปนทุน เทอญพ่อ | เผื่อว่ากุศลนาง | | จะเกื้อ | พี่ปองจะได้สุน | | ทรเอก อนงค์แฮ | มาเปนทาสีเผื้อ | | จุใจ ฯ | ๑๑๐ ๏ ดาลฤทัยพ่างเพี้ยง | | เพลิงเผา | ท้าวยุธิษเฐียรยอม | | ดั่งท้า | ทอดดวดก็เสียเยา | | วะลักษณ์ อีกฮือ | ปาณฑพประหนึ่งบ้า | | บัดสี ฯ | ๑๑๐ ๏ ดาลฤทัยพ่างเพี้ยง | | เพลิงเผา | ท้าวยุธิษเฐียรยอม | | ดั่งท้า | ทอดดวดก็เสียเยา | | วะลักษณ์ อีกฮือ | ปาณฑพประหนึ่งบ้า | | บัดสี ฯ | ๑๑๑ ๏ ปางนี้โกรพพร้อม | | กันหัว ขึ้นฮา | ทุรโยธน์เรียกกฤษณา | | เพี่อใช้ | เฮ้ยอีกฤษณาตัว | | เฮ้ยอีกฤษณาตัว | ยังตะบอยอยู่ได้ | | บ่าวเรา ฯ | ๑๑๒ ๏ นงเยาว์ฟังเจ็บแค้น | | แสนอาย | จึ่งบ่ออกมาตาม | | เรียกร้อง | ทุรโยชน์ผู้จิตร้าย | | ร้องด่า | มันไม่มาแล้วน้อง | | ฉุตมา ฯ | ๑๑๓ ๏ อนุชาทุศาสน์ไหว้ | | แล้วไป | มือจิกเกศานาง | | แน่นแล้ว | ฉุดคร่าห์กระทั่งใน | | พระโรงรัตน์ | พลางด่าอยู่แจ้วๆ | | หยาบคาย ฯ | ๑๑๔ ๏ ใจร้ายซํ้าฉุดผ้า | | ทรามไวย | อีทาสนุ่งห่มเกิน | | กว่าหน้า | นางจะร้องเท่าใด | | กลับเยาะ ให้แฮ | ฉุดกระชากฉีกผ้า | | ห่มนาง ฯ | ๑๑๕ ๏ ปางนั้นองค์ท่านห้าว | | จักร์กฤษณ์ | สมเพชเห็นนางอาย | | แน่แท้ | พระจึ่งช่วยนิรมิตร์ | | ผ้าห่ม ให้นา | แม้กระชากฉีกแล้ | | กลับดี ฯ | ๑๑๖ ๏ ดังนี้ทุรโยธน์ข้อง | | พาที | กฤษณะท่านไฉน | | เช่นนี้ | นางนี้ก็ทาสี | | ทรามยศ | ควรแต่มันจะปี้ | | ป่นไป ฯ | ๑๑๗ ๏ ไท้วาสุเทพเจ้า | | ทวารา วดีเฮย | ตอบว่ามึงนี้ใจ | | โหดเหี้ยม | กูเชื้อกษัตรา | | ชายชาติ ทหารแฮ | ชายชาติ ทหารแฮ | | สั่งสอน ฯ | ๑๑๘ ๏ กูรอนราญแต่ด้วย | | บุรุษ | อันจะรังแกหญิง | | หยาบแท้ | อัปปรีละที่สุด | | น่าบัด สีฮือ | อันอนุชนั่นแล้ | | หยาบคาย ฯ | ๑๑๙ ๏ นึกอายคำท่านท้าว | | จักร์กฤษณ์ | ทุรโยธน์จึ่งอวดดี | | เดาะหน้า | เชษฐาสิเปนมิตร์ | | ปาณฑพ | จึ่งมาดุดันบ้า | | บ่นไป ฯ | ๑๒๐ ๏ จะให้ยกย่องแม้ | | ทาสี เจียวฤๅ | เอาเถิดจะตามใจ | | พี่ได้ | เฮ้ยอีแม่ตัวดี | | เอกอุ | กูจะยกย่องให้ | | ฦๅชา ฯ | ๑๒๑ ๏ มาเถิดมาเจ้านั่ง | | เหนือตัก กูเทอญ | กูจะเลี้ยงมึงชู | | เชิดหน้า | จะยอมเผยอศักดิ์ | | ยิ่งทาส อื่นนา | เลี้ยงอย่างเมียน้อยข้า | | อย่าฉงน ฯ | ๑๒๒ ๏ นฤมลยินถ้อยเจ็บ | | ดวงแด | ร้องเรียกสามีจง | | ช่วยน้อง | ปาณฑพตลึงแล | | จนจิต จริงฮือ | ครั้นจะช่วยขัดข้อง | | ประเพณี ฯ | ๑๒๓ ๏ เทวีเทวศร้อง | | รำพรรณ | โอ้พระธรรมราชา | | เกียรติ์ก้อง | พระจะปล่อยเมียขวัญ | | อัปรยศ แน่ฤๅ | ทูลเกศสมเพชน้อง | | สักครา ฯ | ๑๒๔ ๏ อ้าภีมะอีกทั้ง | | อรชุน | พระก็นิ่งดูดาย | | อยู่ด้วย | สหเทพนกุล | | เฉยอยู่ ได้นอ | พระจะปล่อยให้ม้วย | | ชีพเสีย ฯ | ๑๒๕ ๏ แม้เมียมีโทษแล้ว | | ควรลง โทษนา | นี่บ่เคยผิดเลย | | สักเทื้อ | ปรนิบัติทุกองค์ | | สมจิต พระเอย | ยามทุกข์ไยบ่เกื้อ | | กรุณา ฯ | ๑๒๖ ๏ ครานั้นทุรโยธน์แย้ม | | เย้ยสรวล | เยาะว่าชะสำออย | | ออดแท้ | ผัวเจ้าบ่กล้าลวน | | ลามแก่ กูนา | เพราะว่าหน้าขี้แพ้ | | บัดสี ฯ | ๑๒๗ ๏ มาดี ๆ อย่าดื้อ | | ดันไป | มาเถิดนั่งตักกู | | อย่าขึ้ง | แม้ทุศาสน์ขัดใจ | | ขึ้นอีก แล้วฤๅ | เขาก็จะจิกรึ้ง | | เกศมา ฯ | ๑๒๘ ๏ ครานั้นภีมะข้อง | | เคืองโกรธ | จับคทากวัดไกว | | | หมายตีพระทุรโยธน์ | | ตายบัด นั้นแล | เยียจะทุบให้เนื้อ | | แหลกลง ฯ | ๑๒๙ ๏ แต่องค์ธรรมสุตห้าม | | อนุชา | อันจะทำทุรโยธน์ | | นั่นไซ้ร | เหมือนหมิ่นพระบิตุลา | | ทรงศักดิ์ | อีกหนึ่งตัวพี่ไซ้ร | | ผิดเอง ฯ | ๑๓๐ ๏ แผนเพรงกษัตร์เหล้น | | กิจพนัน | ฤๅต่อพระกรยุทธ์ | | กาจกล้า | ใครแพ้ต้องยอมสรรพ์ | | ตามจิต เขาแฮ | บ่มิมีทางอ้า | | โอษฐเถียง ฯ | ๑๓๑ ๏ อ้าเนียงนาเรศร์แก้ว | | กลอยจิต | ผัวกระทบเคราะห์ยาม | | ยิ่งร้าย | แต่มิอาจทำผิด | | แบบเยี่ยง ธรรมนา | แบบเยี่ยง ธรรมนา | | ต่อไป ฯ | ๑๓๒ ๏ อรไทยฟังพจน์ท้าว | | ทรงธรรม | อัสสุชลหลั่งไหล | | ละห้อย | โอ้เคราะห์เฉภาะกรรม | | แกล้งข่ม เหงฮือ | โอ้สุดจะบุญน้อย | | อกเอย ฯ | ๑๓๓ ๏ ไม่เคยต้องยากแค้น | | รำคาญ | พระบิดาเคยถนอม | | กล่อมเกลี้ยง | สมชาติสุกุมาร | | กุลกษัตริย์ | มาต่ำเสียศักดิ์เพี้ยง | | แพศยา ฯ | ๑๓๔ ๏ ภรรดามีอยู่แม้ | | ห้าองค์ | เหมือนไม่มีผัวเพียง | | ดั่งหม้าย | ชายใดจะประสงค์ | | พึงเสพย์ ได้แฮ | โอ้สุดจะเคราะห์ร้าย | | สุดแสน ฯ | ๑๓๕ ๏ แค้นใจกำเนิดแล้ว | | เปนนา รีฮือ | แม้ว่าเปนชายชาญ | | ชาติไซ้ร | ใครเหิมหมิ่นชายา | | ยอดเสน่ห์ | คงบ่ยอมนิ่งให้ | | ข่มเหง ฯ | ๑๓๖ ๏ เกรงพระไทยท่านท้าว | | ธรรมราช | จึ่งบ่พูดให้จัง | | กว่านี้ | แม้ภีมะคนกาจ | | ยังนิ่ง อยู่แฮ | ขืนพูดคงจักปี้ | | ป่นพลัน ฯ | ๑๓๗ ๏ ปางนั้นภีมะข้อง | | ฟังความ พ้อนา | ตอบว่าพี่จนใจ | | แน่แล้ว | พระพี่ธห้ามปราม | | จำอด ใจแม่ | หาไม่มันไม่แคล้ว | | หัดถา ฯ | ๑๓๘ ๏ แก้วตาจงอย่าได้ | | สงไสย พี่เลย | พี่ไม่ลืมเหตุการณ์ | | เหล่านี้ | เมื่อน่าอีกต่อไป | | โอกาศ มีฤๅ | ใครจะคิดหลีกลี้ | | อย่าหมาย ฯ | ๑๓๙ ๏ อันอ้ายทุรโยธน์เหี้ยม | | อหังการ์ | บังอาจชวนขึ้นตัก | | เดาะเหล้น | พี่จะตีน่าขา | | ทั้งคู่ | คงจะคอยเขม้น | | อย่าหมอง ฯ | ๑๔๐ ๏ ส่วนน้องทุศาสน์ห้าว | | เหิมผิด | บังอาจจิกเกศา | | นิ่มน้อง | พี่จะดื่มโลหิต | | มันต่าง นํ้านา | เพี่อให้สาจิตข้อง | | ขัดใจ ฯ | ๑๔๑ ๏ ทันใดทุรโยธน์แค้น | | เคืองดุจ เพลิงฮือ | อีกทุศาสน์โกรธา | | ตวาดก้อง | สององค์ก็ต่างผุด | | ยืนอยู่ | แกว่งดาบวะวาบท้อง | | พระโรง ฯ | ๑๔๒ ๏ ผึงโผงทุรโยธน์ท้า | | ราวี | ชะๆ อ้ายสามาญ | | หยาบแท้ | มึงฤๅจะกล้าตี | | ขาหัก | กูบ่ย่อมให้แม้ | | แตะตัว ฯ | ๑๔๓ ๏ จะกลัวอ้ายถ่อยนั้น | | อย่าหมาย | กูก็รู้เพลงยุทธ์ | | กาจแกล้ว | ตัวมึงสิฉิบหาย | | จนหมด ตัวแฮ | ยังแต่ชีพไป่แคล้ว | | หัดถา ฯ | ๑๔๔ ๏ อนุชาทุศาสน์ซ้ำ | | เติมต่อ ด้วยเอย | อันจะกินเลือดกู | | ห่อนได้ | ตัวกูแหละจะขอ | | ผัดอึด ใจเดียว | คงจะทำเจ้าให้ | | สะใจ ฯ | ๑๔๕ ๏ จะไว้ชีวิตนั้น | | อย่าหมาย | จะต่อยหั่นฟันที | | ละน้อย | กูจะสับทั่วกาย | | จนขาด ใจฮา | เพื่อจะลงโทษถ้อย | | อหังการ ฯ | ๑๔๖ ๏ ฟังสารภีมะแค้น | | พันทวี | แกว่งคทากำยำ | | กาจกล้า | ตอบว่าจะราวี | | บ่ยั่น เลยแฮ | ถึงพระอินทร์จะท้า | | บ่เยง ฯ | ๑๔๗ ๏ หากเกรงพระพี่ไท้ | | เธอปราม | กูจึ่งจำหักใจ | | อดกลั้น | โกรพก็ต่างวาม | | วู่โกรธ | สองฝ่ายทะเลาะหลั้น | | แหล่งวัง ฯ | ๑๔๘ ๏ เสียงดังสนั่นเข้า | | ถึงใน | จึ่งธตรฐจอม | | แหล่งหล้า | มาที่ประชุมไต่ | | ถามเหตุ | ทราบเหตุจึ่งโอษฐอ้า | | อภิปราย ฯ | ๑๔๙ ๏ เหม่อ้ายใจโหดเหี้ยม | | โอหัง | มึงสิทำกูเสีย | | ชื่อด้วย | แสนส่ำระยำมัง | | หมดโลก | กูจะเอาโทษม้วย | | มอดชนม์ ฯ | ๑๕๐ ๏ ตละคนราวกับอ้าย | | มารผี | ดูฤมึงทำหลาน | | พ่อได้ | เลิกกันนะบัดนี้ | | เลิกหมด เจียวนา | ปวงสมบัติคืนให้ | | แก่หลาน ฯ | ๑๕๑ ๏ ฟังสารสมเด็จไท้ | | บิตุรงค์ | จึ่งพระทุรโยธน์ทูล | | ตอบถ้อย | การเล่นพนันตรง | | ตามเยี่ยง กษัตร์นา | พระจะทรงติข้อย | | อย่างไร ฯ | ๑๕๒ ๏ ใครโชคดีก็ได้ | | ทรัพย์สิน | ใครเคราะห์รัายก็จำ | | จักแพ้ | แต่แม้พระภูมินทร์ | | ดำรัส | ข้าจะขัดพระแล้ | | ไป่ควร ฯ | ๑๕๓ ๏ มวลทรัพย์สมบัติทั้ง | | ภารา | ข้าจะคืนให้ปวง | | ไป่ค้าน | ปาณฑพกษัตรา | | ดูก่อน เจ้าเอย | แม้ว่าน้องหน้าด้าน | | รับไป ฯ | ๑๕๔ ๏ ทันใดภีมะแค้น | | เดือดดาล | ลุกทลึ่งขึ้นยืน | | ตวาดก้อง | เราบ่อยากขอทาน | | ทุรโยธน์ | บ่อยากเปนพี่น้อง | | ต่อกัน ฯ | ๑๕๕ ๏ ครานั้นธตรฐเอื้อน | | อุวาจ | อินทปัตของปาณ | | ฑพแท้ | แม้ใครจะบังอาจ | | แย่งรัฐ นั้นฤๅ | กูจะเอาโทษแม้ | | เผด็จชนม์ ฯ | ๑๕๖ ๏ วิมลกษัตร์เจ้า | | จักรกฤษณ์ | หมายจะช่วยทั้งสอง | | ฝ่ายเอื้อ | จึ่งทูลพระทรงฤทธิ์ | | ธตรฐ | ให้ดวดกันอีกเทื้อ | | เถิดดี ฯ | ๑๕๗ ๏ ทีโชคปาณฑพเจ้า | | ชำนะ | โกรพจงคืนสิน | | เสร็จให้ | ถ้าแพ้ก็จงละ | | สมบัติ | ออกจากนครไซ้ร | | สู่พน ฯ | ๑๕๘ ๏ ต่างตนเห็นชอบด้วย | | วาที | จึ่งทอดสกากัน | | อีกแล้ | เพราะเพื่อศกุนี | | แพลงพลิก บาตแฮ | จึ่งยุธิษเฐียรแพ้ | | อีกครา ฯ | ๑๕๙ ๏ ราชาธรรมสุตเศร้า | | เสียศรี | ถามพระทุรโยธน์ไป | | บัดนั้น | จะให้อยู่พงพี | | กี่ขวบ เล่าฮือ | เราจะประพฤติหมั้น | | เหมาะตาม ฯ | ๑๖๐ ๏ ฟังถามทุรโยธน์ปลื้ม | | ปรีดี | ตอบว่าเราไม่ปอง | | เกลียดเจ้า | จงไปจากบุรี | | อินทปัต | เพียงสิบสามขวบเข้า | | กลับมา ฯ | ๑๖๑ ๏ ในป่าจงอยู่เพี้ยง | | สิบสอง ปีเทอญ | ปีที่สิบสามจง | | อยู่ส้อน | ปลอมแปลงพระองค์น้อง | | ให้ลับ เจียวนา | ครบขวบปีจึ่งย้อน | | กลับวัง ฯ | ทูลแด่พระบิตุลา | | ราชเจ้า | ข้าขอฝากบุเรศ | | อินทปัต | จนกว่าจะกลับเข้า | | จากพง ฯ | ๑๖๓ ๏ จึ่งองค์ธตรฐเจ้า | | ทรงธรรม์ | จำจิตรับฝากเวียง | | นั่นไซ้ร | จัดแต่อมาตย์อัน | | สามารถ | พิทักษ์อินทปัตไว้ | | เพื่อหลาน ฯ | ๑๖๔ ๏ จึ่งปาณฑพพี่น้อง | | ห้าองค์ | ลาพระเจ้าลุงจร | | จากด้าว | กฤษณายอดอนงค์ | | ไปกับ เธอแฮ | โกรพอันจิตห้าว | | จึ่งหรรษ์ ฯ | ๑๖๕ ๏ ปางนั้นประเวศด้าว | | แดนไพร | ห้ากษัตร์โทรมทรวง | | สุดเศร้า | สงสารแม่ทรามไวย | | วรลักษณ์ | แสนลำบากยากเต้า | | ไต่มา ฯ | ๑๖๖ ๏ เวลาวันหนึ่งนั้น | | ไปพบ | องค์พระพรหมฤษี | | สิทธิ์เจ้า | พฤหทัศวะจบ | | เจนเวท | หกกษัตร์นอบเกล้า | | อภิวันท์ ฯ | ๑๖๗ ๏ นักธรรม์ประภาษถ้อย | | ถามความ | ไยจึ่งมาเดินดง | | ดั่งนี้ | ธรรมราชก็เล่าตาม | | มูลเหตุ สิ้นแล | เล่าหมดความแต่กี้ | | ก่อนมา ฯ | ๑๖๘ ๏ สิทธาเธอทราบแล้ว | | สงสาร ยิ่งแฮ | จึ่งกล่าวกะถาสุน | | ทเรศไซ้ร | ดูรากษัตร์ปาณ | | ฑพเศรษฐ | ขอบพิตร์อย่าได้ | | โศกเกิน ฯ | ๑๖๙ ๏ พะเอินพระเคราะห์ร้าย | | แรงมี | แต่เมื่อยามสิ้นเคราะห์ | | หมดแล้ว | จักทรงสวัสดี | | ยิ่งกว่า ก่อนเฮย | คงจะสมจิตแผ้ว | | พหุภัย ฯ | ๑๗๐ ๏ จะไชยชำนะแกล้ว | | กลางสนาม | ยามยุทธนาการ | | อะคร้าว | ครั้นเมื่อเสร็จสงคราม | | ไกรแกว่น | พระจะครองครอบด้าว | | อยู่เย็น ฯ | ๑๗๑ ๏ จะเปนตัวอย่างเจ้า | | ขัตติยะ อื่นแฮ | ตราบชั่วกลียุค | | เกียรติ์ก้อง | เกียรติ์ก้อง | | ทรงยศ | จะเปนเรื่องขับร้อง | | ต่อไป ฯ | ๑๗๒ ๏ ทรงไชยดูเยี่ยงท้าว | | นลนาถ | งำเขตนิษัธแดน | | เด่นด้าว | เธอนั้นก็นิราศ | | นครรัช | เพราะบาตสกาห้าว | | หักหาญ ฯ | ๑๗๓ ๏ โบราณกษัตร์นั้น | | ทุกข์หนัก | แต่ก็ตั้งข่มจิต | | มั่นไว้ | จึ่งข้ามอุปสรรค | | คืนสุข ได้นา | เพียรอยู่จนตราบได้ | | กลับเมือง ฯ | ๑๗๔ ๏ เรื่องเปนคติแท้ | | ถ้วนดี | เครื่องจะเตือนจิตจอม | | กษัตร์ไซ้ร | อีกนางมหิษี | | นลราช นั้นฤๅ | เปนอย่างนางอื่นได้ | | อย่างจำ ฯ | ๑๗๕ ๏ ฟังคำพฤหทัศว์พร้อง | | พาที | จึ่งพระยุธิษเฐียร | | ตอบถ้อย | เชิญเล่าเถิดมุนี | | ทรงพรต | เรื่องพระนลนั้นข้อย | | อยากยิน ฯ | ๑๗๖ ๏ มุนินทร์ฟังพจน์ท้าว | | ยินดี | จึ่งเล่าเรื่องพระนล | | นิษัธเจ้า | ถี่ถ้วนประมวลมี | | พากย์เพราะ | จนจบครบถ้วนเค้า | | เขตความ ๚ะ | ๑๗๗ ๏ ตามเรื่องสังเขปนี้ | | ข้าผูก เองเอย | มิใช่แปลสันสกฤต | | ศัพท์ซึ้ง | ข้อใดจะไม่ถูก | | ขอโทษ เทอญพ่อ | ขอปราชญ์จงอย่าขึ้ง | | ขัดใจ ฯ | ๑๗๘ ๏ ต่อไปจะจับเรื่อง | | พระนล | สันสกฤตมีกำกับ | | อยู่แล้ | ในทางจะประพนธ์ | | เพราะอย่าง ไทยฤๅ | บางแห่งก็จำแก้ | | ดัดแปลง ฯ | ๑๗๙ ๏ บางแห่งเติมต่อถ้อย | | พาเหียร | แต่ไม่ผิดใจความ | | เก่าไซ้ร | ขอท่านผู้เปรียญ | | สันสกฤต | จงโปรดเมตตาให้ | | อภัย ๚ะ๛ | นโลปาข๎ยานัม์๑ ๏ อาสีท์ ราชา นโล นาม | | วีรเสนสุโต พลิ | อุปปัน์โน คุไณร์ อิษ๎ไฏ | | รูปวาน์ อัศ๎วโกวิทห์ | ๒ อติษ๎ฐัท์ มนุเชน์ท๎ราณาม์ | | มูร๎ธนิ เทวปติร์ อิว | อุปร๎ยุปริ สร๎เวษาม์ | | อาทิต๎ย อิว เตชสา | ๓ พ๎รห๎มัณ์โย เวทวิจ์ฉูโร | | นีษเธษุ มหีปติห์ | อัก์ษป๎รียห์ สัต๎ยวาที | | มหาน์ อัก์เษาหิณีปติห์ | ๔ อีป์สิโต วรนารีณาม์ | | อุทารห์ สํยต๎เยน์ท๎ริยห์ | รัก์ษิตา ธัน๎วินาม์ เศ๎รษ๎ฏห์ | | สาก์ษาท์ อิว มนุห๎ ส๎วยัม์ ฯ | ๕ ๏ ตไถวาสีท์ วิทร๎เภษุ | | ภีโม ภีมปราก๎รมห์ | ศูรห์ สร๎วคุไณร์ ยุก์ตห์ | | ป๎รชากามห์ ส จาป๎รชห์ | ๖ส ป๎รชาร๎เถ ปรํ ยัต๎นัม์ | | อกโรต์ สุสมาหิตห์ |
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 เมษายน 2560 15:56:56 โดย กิมเล้ง »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 31 มีนาคม 2560 11:55:57 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 พฤษภาคม 2560 16:17:46 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2560 16:33:05 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มิถุนายน 2560 16:57:39 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2560 16:42:39 » |
|
สรรคที่ ๕๏ อถ กาเล ศุเภ ป๎ราป์เต ๏ ครั้นคำณวนถึงกาล ศุภวารดฤถี ดีทั้งทางสูรย์จันทร์ เปนวันสรรพวิเศษ จึ่งภูธเรศร์ภีมราช ให้ป่าวประกาศทุกขอบขัณฑ์ อัญเชิญปวงมหิบาล มาในงานสยมพร ทราบสุนทรราชสาสน ปัถพีบาลทั้งน้อยใหญ่ หฤทัยต่างก็หรรษา เหตุว่าต่างผูกสมัค ต่างจงรักมารศรี ทมยันตีโฉมเฉลา ทวยลูกเจ้าทุกบ้านเมือง รู้เรื่องแล้วจึ่งรีบไป พร้อมอยู่ในพระโรงธาร อันตระการด้วยเสาล้อม พร้อมกนกสีสลับ รับคูหาเลิศสุวรรณ ลายล้วนสรรแต่ยอดงาม ยามนฤบาลทั้งหลาย เยื้องกรายเข้าสู่ที่ ล้วนแต่มีรูปสง่า ดังมหาสิงห์ทรงกำลัง ต่างองค์นั่งลงเหนืออาสน์ อันเขาได้ลาดเรียบร้อย คอยท่าทวยลูกเจ้า ผู้ผ่านเผ้าปัถพีทรง แต่ละองค์ทรงเครื่องบวร มาลยาภรณเพริศพรรณ กอบสุวรรณราชาวดี และมณีกุณฑลสล้าง ต่างกุมสรรพสาตรา อาวุธรุทร์คำแหง สมผู้แรงยุทธลำพอง เช่นตะบองคู่มือ บ้างก็ถือพระแสงทอง อันผุดผ่องกุดั่นวาม มีด้ามรูปแลเห็น เบญจศีร์ษะอุรค ภูมินายกยศยง แต่ละองค์งามเกศา ยาวสง่ามุ่นเหมาะดี มีนาสาสรวยสมทรง งามขนงก่งเพียงธนู ดูพระพักตร์ก็ผุดผ่อง ทั้งผองงามถนัด ราวนักษัตร์ในอากาศ อันวรราชมาฬกไซ้ร เต็มไปด้วยราชทั้งหลาย คล้ายนครโภควดี ที่เต็มไปด้วยนาคฉนั้น แน่นนันท์ด้วยนรพยัคฆ์ ผู้ทรงศักดิ์เกรียงไกร ดั่งคูหาในคิรีหลวง เต็มด้วยปวงพยัคฆ์ห้าว ทุกกษัตร์ทุกท้าวจิตพ้องต้องกัน ทั่วแล ฯ
๏ ทมยัน์ตี ตโต รังคัม์ ๏ ครานั้นทมยันตี มีพักตร์อันศรีสุภา เข้ามายังพระโรงรัตน์ อันแออัดด้วยทวยพญา ปวงราชาณที่นั้น ครั้นเห็นนางประภาผ่อง ต่างก็จ้องนางจนลืมพริบ ทิพยรูปนางนั้นถูกมนัส ทวยกษัตร์ต่างก็เพ่งพิศ ต่างพินิศสุรโฉม พึงประโลมจอดใจ จะหาที่ใดไม่มีติ ปวงสิริราชา ต่างตั้งตาเพ่งพิศวง แต่ละองค์ตลึงแล ดูนวลแขบ่วางตา ๏ ภารต ๏ ดูกรภารตเจ้า จงกำหนดเค้าพจนาท ๏ ตตห์ สํกีร๎ต๎ยมาเนษุ ๏ เมื่อเขาประกาศเกียรติคุณ และสุนทรนาม กษัตร์ทั้งหลาย ๏ ททร๎ศ ไภมี ๏ จึ่งโฉมฉายลักษณา ผู้สุดาภีมกษัตร์ เห็นบุรุษรัตน์ห้าองค์ ทั้งรูปทรงเหมือนกัน สรรพภูษณาภรณ รัตนบวรงามลม้าย คล้ายคลึงกันเปนแบบเดียว นางเฉลียวฉงนดู มองเปนครู่เปรียบกัน สนเท่ห์ครันเหลือใจ ไวทรรภีบ่แน่ลง องค์ไหนนลนฤปราช แม้นางนาฏแลดู องค์ใดอยู่ครู่ใหญ่ ๆ ใจก็แทบจะเชื่อมั่น ว่านั้นนลนฤบาล นงคราญนิ่งจินตัย ในหฤทัยก็ปั่นป่วน อนงค์นวลยืนดุษณี ตรองด้วยดีตริไตร ๏ กถํ หิ เทวาน์ ชานียาง ๏ ทำไฉนจะทราบถนัด รู้ชัดเทพฤทธิรงค์ น่าพะวงเหลือล้น ไหนหนอนลนฤบดี ๏ เอวํ สัญ์จิน์ตยัน์ตี สา ๏ ไวทรรภีบังอร เร่าร้อนรุมกลุ้มจิต ด้วยยิ่งคิดยิ่งยาก ดูยิ่งลำบากคับใจ นางไซ้รลองคำนึง ถึงเทวลิงค์ที่เคยฟัง ตั้งตามองดูลักษณ์ เผื่อจะประจักษ์แจ่มตา กัลยานึกในพระไทย เครื่องหมายใดผู้ใหญ่แถลง ไป่แจ้งเลยสักอัน ณเทวัญที่นี้ โอ้ใครจะช่วยชี้ ช่วยแก้สงไสย ได้นอ ฯ๏ สา วินิศ๎จิต๎ย พหุธา | | วิจาร๎ย จ ปุนห์ ปุนห์ | ๏ ทรามไวยนิ่งวินิจ | | ขัดข้องจิตไป่แผ้ว | วิจารครั้งหนึ่งแล้ว | | อีกครั้งยังฉงน | ศรณัม์ ป๎รติ เทวานาม์ | | ป๎ราป์ตกาลัม๎ อมัน๎ยต | ๏ นฤมลนึกถึงเทพ | | เสพสรณพระเจ้า | นางประณตนอบเกล้า | | กราบไหว้วันทา ฯ | วาจา จ มนสา ไจว | | นมัส๎การัม์ ป๎รยุช๎ย สา | ๏ ด้วยวาจามนัสพร้อม | | นางนมัสกฤตน้อม | นอบก้มเกศี | | | เทเวภ๎ยห์ ป๎ราญ์ชลิร์ ภูต๎วา เวปมาเนทัม์ อัพ๎รวีต์ ฯ๏ อัญชลีเทพไท้ | | กายสั่นราวกับไข้ | โอษฐเอื้อนทูลวอน ฯ | | | ๏ หํสานาง วจนาง ศ๎รุต๎วา ยถา เม ไนษโธ ว๎ฤตห์๏ ฟังสุนทรถ้อยแห่ง | | พญาหงส์ แล้วนา | ข้าบาทจิตจอดตรง | | นิษัธเจ้า | ปติเต๎ว เตน สัต๎เยน | | เทวาส๎ ตัม์ ป๎รทิศัน์ตุ เม | ด้วยสัตยวาทยง | | ยืนมั่น | ขอเทพแถลงเค้า | | แจ่มแจ้งเจนตา | มนสา วจสา ไจว | | ยถา นาภิจราม๎ยหัม์ | ๏ วาจามนัสพร้อม | | มั่นคง | บ่มิขอคลาศองค์ | | ผ่านเผ้า | เตน สัต๎เยน วิพุธาส๎ | | ตัม์ เอว ป๎รทิศัน์ตุ เม | ด้วยสัตยวาทยง | | ยืนมั่น | ขอเทพแถลงเค้า | | แจ่มแจ้งเจนตา | ยถา เทไวห์ ส เม ภร๎ตา | | วิหิโต นิษธาธิปห์ | ๏ ภรรดาอันเทพเจ้า | | จำนง ให้นา | คือนิษัธราชทรง | | เทริดเกล้า | เตน สัต๎เยน เม เทวาส๎ | | ตัม์ เอว ป๎รทิศัน์ตุ เม | ด้วยสัตยวาทยง | | ยืนมั่น | ยเถทํ ว๎รตัม์ อารัพ์ธํ | | นลัส๎ยาราธเน มยา | ๏ วาจาข้ากล่าวแล้ว | | แด่องค์ | นลราชขอให้คง | | เช่นเว้า | เตน สัต๎เยน เม เทวาส๎ | | ตัม์ เอว ป๎รทิศัน์ตุ เม | ด้วยสัตยวาทยง | | ยืนมั่น | ขอเทพแถลงเค้า | | แจ่มแจ้งเจนตา | ส๎วํ ไจว รูปาง กุร๎วัน์ตุ | | โลกปาลา มเหศ๎วราห์ | ๏ โลกปาลาธิปไท้ | | เมตตา ข้อยเทอญ | แสดงรูปอย่างเคยมา | | แต่กี้ | ยถาหัม์ อภิชานียาม์ | | ปุณ๎ยโศ๎ลกํ นราธิปัม์ ฯ | คงสังเกตราชา | | บุญโศลก ได้ดี | เหมือนเทพโปรดช่วยชี้ | | พระผู้พึงใจ ฯ | ๏ นิศัม๎ย ตัต์ ๏ ฝ่ายสี่ไท้เทวินทร์ ได้ยินคำวิงวอน ๏ ทมยัน์ต๎ยาส๎ กรุณัม์ ปริเทวิตัม์ ๏ อันบังอรทัมยันตี พร่ำพาทีน่ากรุณา เปนที่น่าพิศวง ความมั่นคงจงรัก แห่งเยาวลักษณ์นารี อันมีแด่นิษัธราช ทั้งมโนสอาดวิสุทธิ์ พุทธิฉลาดแหลมหลัก ภักดีรักแน่นอน ในภูธรนิษัธบดี ๏ ยโถก์ตํ จัก๎ริเร เทวาห์ ๏ ฟังมารศรีรูป วิเศษ เทเวศร์ฤทธิกำแหง จึ่งสำแดงเทวลิงค์ ให้สิ้นกริ่งใจอนงค์ ต่างองค์เทพมหิมา กายาบ่มิชุ่มชื้น เนตร์แน่วตื่นบมิพริบ ไป่กระหยิบอย่างคน อันสกลภูษณาภรณ บ่มิเปื้อนปอนแปกฝุ่น สุนทรเทพต่างสถิต บ่มิติดพื้นพระโรงธาร ฝ่ายภูบาลไนษัธ แลเห็นถนัดผิดเทวา มีฉายาเปนคู่องค์ ผ้าทรงแปกเปื้อนธุลี มาลัยมีเหี่ยวบ้าง อีกสรรพางค์เสโทท่วม รวมทั้งเนตร์ก็พริบอยู่ ชี้ให้รู้ได้ถนัด จึ่งสุดารัตนไภมี แลดูสี่เทวราช แล้วนางนาฏนฤมล พิศพระนลบุญโศลก เห็นสิทธิโชคชุมนุมเนา เยาวนารีจึ่งสรร พระทรงธรรม์ไนษัธ เปนบดีรัตนภรรดา สุรกัญญาผู้งามเนตร์ ไปยังทรงเดชเกียรติขจาย จับชายพระสพักตร์ทรง ปัดพ้นองค์พอไม่ขวาง นางชูพวงมาลี อันสอดสีสอาดตา สรวมอังศาพระนล โศภนขัตติยราช ดังนั้นประกาศปรากฎชัด นารีรัตน์เลือกพระนล เปนบดีตนเสนหา ประจักษ์ตาทั่วกัน ครานั้นได้ยินเสียง สำเนียงโอ้โอ๋ครวญ ในหมู่มวลลูกเจ้า ต่างก็โศกเศร้าเสียใจ แต่เทพไทสรรคบดี และพระฤษีทั้งผอง ต่างตนซร้องสาธุการ ด้วยสะมานจิตปลื้มปรีดิ์ ต่างยินดีสรรเสริญ เยินยกเกียรติพระนล ด้วยกระมลมนัสให้พร อยู่แล ฯ
๏ เการว๎ย ๏ ดูกรเผ่าโกรพ ๏ วีรเสนสุโต น๎ฤปห์ ๏ จึ่งพระทรงภพนฤเบนทร์ ลูกวีรเสนจอมกษัตริย์ ตรัสแก่ทมยันตี ผู้มีรูปอันชวนชม เอวกล่อมกลมองค์อรชร พระกล่าวสุนทรอ่อนหวาน แด่เยาวมาลย์ผู้พึงใจ ๏ ยัต์ ต๎วัม์ ภชสิ กัล๎ยาณิ ๏ ว่าอรไทยกัลยาณี เลือกพี่เปนภรรดา ต่อหน้ากษัตร์ทรงศักดิ เฉภาะพระพักตร์อมรเทเวศร์ ขอเยาวเรศร์จงทราบไว้ ว่าพี่ไซ้รเปนภรรดา ฟังวาจาเจ้าบ่จาง ดูรานางผู้ช่างสำรวล อนงค์นวลจงเชื่อพี่ ตราบใดมีลมปราณ ขอนงคราญอย่าสงกา จะเสนหาน้องผู้เดียว บ่มิเหลียวดูหญิงอื่น ของามชื่นจงเชื่อพี่ วาทีนี้เปนความสัตย์ ๏ ทมยัน์ตี ตถา วาค๎ภิร์๏ ครั้นธตรัสเช่นนั้น แด่ทมยันตีวิไลย นางปลื้มใจเปรมกมล เปนเหลือล้นเหลือจะชั่ง ทั้งสองต่างก็หรรษา ด้วยเสนหาเกษมสันต์ จึ่งชวนกันไปอัญชลี ก้มเกศีอภิวาทน์ แห่งเทวราชทรงศักดิ์ อัคนิเจ้าเปนประธาน นบนมัสการอ่อนค้อม น้อมมโนบูชา พระผู้เจ้าสรณา นั้นแล ฯ
๏ ว๎ฤเต ตุ ไนษเธ ไภม๎ยา ๑๖๏ ครั้นเห็นภีมราชสุดา เลือกพระราชา ผู้ครองนิษัธไพศาล ๏ จึ่งไทเทวราชโลกบาล ผู้ฤทธิ์ตระการ วิจิตร์วิโรจน์รังสี ๏ ต่างองค์เทเวศร์ต่างมี มนัสยินดี ด้วยนลแกล้วไกรสมร ๏ ต่างองค์อำนวยอวยพร สี่องค์อมร รวมแปดประการขานไข ๏ พระอินทร์ผู้ครอบครองไตร ตรึงษาธิปตัย ผู้ผัวศจีศรีสมาน ๏ ให้ท้าวนลราชมหิบาล สัมฤทธิในการ พลีและบวงสรวงสวรรค์ ๏ อีกหนึ่งยามองค์ทรงธรรม์ ดำเนินผ่านพลัน ให้ชนนิยมบารมี ๏ ฝ่ายท้าวเทวราช อัคนี ประสาทรังสี แด่ไท้ทุกเมื่อปราถนา ๏ อีกหนึ่งให้ทั่วโลกา ผ่องด้วยประภา ด้วยเดชพระเทพหุตาสิน ๏ ฝ่ายทัณฑธรเทวินทร์ ให้รสดังถวิล และธรรมสถิตนิตย์ยง ๏ พระวรุณเจ้านํ้าฤทธิรงค์ ให้ฝนอันองค์ กษัตร์จะเรียกได้ดาย ๏ อีกให้มาลีหลากหลาย สุวคนธ์ขจาย บ่มีเวลาราโรย ๏ ดังนี้สี่เทพกอบโกย พระพรต่างโอย ต่างอวยให้องค์ละสอง ๏ เสร็จประสาทพรสรวงปวงปอง เทวฤทธิ์เรืองรอง ก็กลับณตรีทิพสถาน ฯ๏ ปาร๎ถิวาศ๎จานุภุยาส๎ย | | วิวาหํ วิส๎มยาน์วิตห์ | ๏ ภูบาลอื่นอื่นผู้ | | หวังปรี ดิแฮ | เห็นวิวาห์พระนล | | ผ่องแผ้ว | ทมยัน์ต๎ยาศ จ มุทิตาห์ | | ป๎รติชัค๎มุร์ ยถาคตัม์ ฯ | ด้วยทมะยันตี | | ศรีสวัสดิ์ | ต่างมุ่งจิตดีแล้ว | | กลับนคร ฯ | ๏ คเตษุ ปาร๎ถเวน์เท๎รษุ | | ภีมห์ ป๎รีโต มหามนาห์ | ๏ ภูธรปวงกลับแล้ว | | สู่สถาน ตนนา | ภีมราชปลื้มปรีดี | | ไป่น้อย | วิวาหํ การยามาส | | ทมยัน์ต๎ยา นลัส๎ย จ ฯ | ให้แต่งวิวาหการ | | นลราช | กับสุดารัตน์สร้อย | | สุดสมร ฯ | ๏ อุษ๎ย ตัต๎ร ยถากามํ | | ไนษโธ ท๎วิปทาง วรห์ | ๏ ภูธรไนษัธไท้ | | แรมอยู่วิทรรภได้ | หน่อยแล้วควรกาล | | | ภีเมน สมนุช๎ญาโต | | ชคาม นครํ ส๎วกัม์ ฯ | ๏ ลาภูบาลภีมะท้าว | | เพื่อเสด็จประเวศด้าว | เขตแคว้นเมืองขวัญ ฯ | | | ๏ อวาป๎ย นารีรัต๎นํ ตุ | | ปุณ๎ยโศ๎ลโกปิ ปาร๎ถิวห์ | ๏ แต่วันบุญโศลกเจ้า | | ปัถพี | ได้รัตนนารี | | ยิ่งแก้ว | เรเม สห ตยา ราชัน์ | | ศจ๎เยว พลว๎ฤต๎รหา | ปานศักร์กับศจี | | สมคู่ กันนา | จิตบ่หมองหม่นแผ้ว | | ผ่องเพี้ยงจันทรา | อตีว มุทิตา ราชา | | ภ๎ราชมาโนงศุมาน์ อิว | ๏ มุทิตาแสงจับไท้ | | ภูธร | ผ่องดั่งแสงทินกร | | อคร้าว | อรัญ์ชยัต์ ป๎รชา วีโร | | ธร๎เมณ ปริปาลยัน์ | พระผดุงประชากร | | ธรรมฐิต เที่ยงแฮ | แสนสนุกทั่วด้าว | | แด่นนั้นเนาศานต์ | อีเช จาป๎ยัศ๎วเมเธน | | ยยาติร์ อิว นาหุษห์ | ๏ งานอัศวเมธไซ้ร | | ราชา ประพฤติแฮ | อย่างยยาตินา | | หุษไท้ | อัน๎ไยศ๎จ พหุภิร์ ธีมาน์ | | ก๎รตุภิศ๎จาป์ตทัก์ษิไณห์ | อีกกอบกิจบูชา | | มงคลเลิศ ปวงเฮย | ทวยทวิชทั่วได้ | | รับพร้อมทักษิณา | ปุนัศ๎จ รมณีเยษุ | | วเนษูปวเนษุ จ | ๏ ทุกทิวารัชนิล้วน | | รมณี | สราญรื่นในสวนศรี | | ใหญ่กว้าง | ทมยัน์ต๎ยา สห นโล | | วิชหารามโรปมห์ | ด้วยทมะยันตี | | กลอยจิต พระเอย | สุขเสน่ห์แนบข้าง | | สุขแม้นอมรา | ชนยามาส จ นโล | | ทมยัน์ต๎ มหามนห์ | ๏ ไป่ช้านลราชเจ้า | | มีบุตร์ | ด้วยอนงค์ปิยนุช | | นิ่มเนื้อ | อิน์ท๎รเสนํ สุตํ จาปิ | | อิน์ท๎รเสนาง จ กัน๎ยกาม์ | คืออินทระเสนสุต | | กุมารรัตน์ | อินทระเสนาเชื้อ | | ชาติแก้วกันยา | เอวํ ส ยชมานัศ๎จ | | วิหรํศ๎จ นราธิปห์ | ๏ พระนราธิปไท้ | | เธอหรรษ์ | เนืองนิตย์ยัญญะกรรม์ | | เกรอกกลุ้ม | รรัก์ษ วสุสัม์ปูร๎ณาง | | วสุธาง วสุธาธิปห์ ฯ | สมบูรณ์สุขแสนสรรพ์ | | ทรัพย์มาก | พสุธาธิปคุ้ม | | ครอบพื้นพสุธาร ฯ | ๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๕ ดังนี้ ฯ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 มิถุนายน 2560 16:45:16 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2560 17:04:25 » |
|
สรรคที่ ๖๏ ว๎ฤเต ตุ ไนษเธ ไภม๎ยา ๏ ครั้นเยาวมาลย์ไภมี เลือกนิษัธบดีแล้วไซ้ร จึ่งเทพไท้โลกบาล ผู้ตระการรุ่งรัศมี เสด็จจากธานีวิทรรภ์ พลันพบกลีเริงรอน และทวาบรเปนเพื่อนมา สี่เทวาก็หยุดปราไศรย จึ่งองค์ไท้เทวินทร์ ผู้ภินท์อสูรแรงร้าย ตรัสทักทายกลี ด้วยวจีอันสุนทร ๏ ท๎วาปเรณ สหาเยณ กเล พ๎รูหิ ก๎ว ยาส๎ยสิ ๏ ดูก่อนกลีเกียรติกระจาย พร้อมด้วยสหายทวาบร ท่านจะรีบร้อนไปหนไหน ขอจงแถลงแจ้งใจบ้างเถิด ครานี้ ๏ ตโตพ๎รวีต์ กลิห์ ศัก๎รํ ๏ ฝ่ายกลีฟังพจมาน จึ่งตอบบรรหารศักรราชา ๏ ทมยัน์ต๎ยา ส๎วยํวรํ ๏ ว่าข้านี้รีบเร่งจร สู่สยมพรทมยันตี นางนี้ข้าปราถนา เปนสวามีคู่ครองสราญ เยาวมาลย์นี้งามถนัด ดวงมนัสข้าจอดเสนหา ๏ ป๎รหัส๎เยน์โท๎ร ๏ อินทรราชาสำรวลพลาง ทางตอบถ้อยท้าวกลี ๏ นิว๎ฤต์ตห์ ส ส๎วยํวรห์ ๏ ว่าการพิธีสยมพรไซ้ร สัมฤทธิ์ใปแล้วนะท่าน เยาวมาลย์เลือกนลนเรนทร์ เปนบดีคู่เสนหา ต่อหน้าเราเทวราช และขัตติยชาติทั่วไป ๏ เอวัม์ อุก์ตัส๎ ตุ ศัก๎เรณ ๏ สดับถ้อยไท้ศักรินทร์ ผู้เปนปิ่นเทวบดี จึ่งกลีผู้นํ้าใจพาล ดาลความโกรธจนมืดหน้า ยกมือวันทาเทพทั้งหลาย อันขจรขจายฤทธิอำนาจ แล้วกล่าวประกาศคำแช่งด่า ด้วยวาจาอันทุรวาจ ๏ เทวานาม์ มานุษัม์ มัธ๎เย ยัต์ สา ปติม์ อวิน์ทต ๏ นางบังอาจเหิมกล้า ต่อหน้าเทพฤทธิรุทร์ เลือกเอามนุษถ่อยราศี เปนบดีฉนั้นไซ้ร ๏ ตัต๎ร ตัส๎ยา ภเวน์ น๎ยาย์ยัม์ ๏ โทษนางใหญ่หลวงหนัก หมิ่นศักดิ์เทพเทวัญ ๏ วิปุลํ ทัณ์ฑธารณัม์ ๏ ควรลงทัณฑ์แก่นาง ให้เปนตัวอย่างถึงขนาด นั่นแลฯ
๏ เอวัม์ อุก์เต ตุ กลินา ๒๘๏ ยามกลีโกรธา เผยพจนา พอสิ้นพจนาท ๏ ป๎รต๎ยูจุส๎ เต ทิเวากสห์ ๏ จึ่งเทพทั้งสี่ ผู้มีสุรชาติ ก็ตรัสประภาษ ตอบคำกลี ๏ อัส๎มาภิห์ สมนุช๎ญาเต ทมยัน์ต๎ยา นโล ว๎ฤตหํ ๏ ต่อหน้าเราไซ้ร ด้วยความเต็มใจ ยินยอมยินดี โฉมนางทรามชม ทมยันตี เลือกนลบดี เปนศรีภรรดา ๏ พระนลทรงธรรม ประเสริฐเลิศลํ้า กอปสรรพคุณา ใครเลยจะไม่ มีใจเสนหา ในองค์ราชา นฤบดี ๏ องค์ใดรอบรู้ เปนธรรมมัญญู อยู่คงเวที ทรงสุจริต ในกิจกรณีย์ ประกอบการดี เปนนิจนิรันดร์ ๏ องค์ใดวิเศษ รอบรู้พระเวท ทั้งสี่ขยัน อีกทั้งได้อ่าน ตำนานสำคัญ ชื่อภาควัตอัน เปนที่ปัญจมา ๏ องค์ใดย่อมหมั่น ตั้งกิจการยัญ ในราชเคหา บำบวงด้วยดี พลีเทวา มนัสศรัทธา ในเทพทรงธรรม์ ๏ องค์ใดย่อมเว้น จากเบียดเสียดเล่น เข่นฆ่าสัตว์สรรพ์ อีกสัจวาที มีอยู่ทุกวัน อีกถ้อยคำมั่น ยืนยันยวดยง ๏ อีกถือความสัตย์ มั่นคงสารพัต ทั้งทานจำนง ตะบะบำเพ็ญ เห็นศุจีทรง ข่มจิตเองลง ธำรงผ่องใส ๏ บุรุษพยัคฆ์ ทรงคุณประจักษ์ ดังนี้แน่ใจ เธอนั้นประเสริฐ เลิศลํ้าแดนไตร ปานเทพไท ผู้โลกบาล ๏ พระนลกษัตร์ ทรงรูปสมบัติ ศรีสวัสดิ์ศุภการ ผู้บังอาจแช่ง ให้แลงแหลกลาน จะไม่เปนการ แน่แล้วกลี ๏ ผู้ใดใจโหด ทั้งเขลาทั้งโฉด โกรธคนยอดดี ขอความแช่งด่า วาจาอัปรี ทุกข์โทษจุ่งมี แด่ผู้แช่งเอง ๏ อันว่าพระนล ทรงคุณบุญล้น คนย่อมยำเกรง แม้ใครแช่งชัก ตกหนักตนเอง เพราะนึกข่มเหง ชั่วแท้กลี ๏ ผู้แช่งจะตก ไปสู่นรก หมกกลางอัคคี ทนทุกข์เวทนา ทิวาราตรี ในขุมอันที่ ฦกลํ้าจำนอน ๏ สิ้นสุรวาที แด่ผีกลี และทวาบร จึ่งสี่เทเวศร์ วิเศษสุนทร เหิรเห็จเตร็จจร ยังทิพาลัย ฯ
๏ ตโต คเตษุ เทเวษุ ๑๖๏ ครั้นเห็นเทเวศร์มเหศร์ไกร ลิลาศยาตรไป จนพ้นระหว่างทางจร ๏ จึ่งท้าวกลีจิตร้อน กล่าวแก่ทวาบร ผู้มิตรสนิทร่วมใจ ๏ ว่าเราขัดแค้นฤทัย เหลืออดต่อไป เหลือหักให้เหือดแห้งหาย ๏ ดูราทวาบรเกียรติขจาย เรานี้มุ่งหมาย เข้าสิงในตัวพระนล ๏ จะเฝ้าแต่บันดาลดล จนเสียมณฑล ทั้งปวงสมบัติพัสถาน ๏ เฝ้ากวนจนทิ้งนงคราญ ไภมีเยาวมาลย์ ผู้ยอดสนิทเสนหา ๏ ตัวเจ้าจงเข้าสิงสกา เพื่อพลิกแพลงพา ให้เสียยับยิบฉิบหาย ๏ ดั่งนี้พาทีอธิบาย ทวาบรสหาย จงช่วยเราคิดสิทธิ์สรรพ์ ฯ ๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๖ ดังนี้ ฯ สรรคที่ ๗๏ เอวัม์ ส สมยํ ก๎ฤต๎วา ๏ ครานั้นจึ่งกลีร้าย และสหายผู้ชื่อทวาบร สองซ่อนสัญญากัน เปนสัมพันธมิตร์ร่วมฤทัย พร้อมใจกันไปยังนิเวศน์ เขตอันเตปุระระโหฐาน ที่พระผู้ผ่านกรุงนิษัธ อยู่เปนศรีสวัสดิ์หรรษา สองเทวาต่างมุ่งจิต เปนนิตย์มิได้ขาด หาโอกาศทุกคืนวัน เพื่อเหตุนั้นอยู่นิษัธนาน จนกาลล่วงลับไป ได้ถึงสิบสองพรรษา กลีจึ่งหาโอกาศ ตามที่ปราถนาได้ สาเหตุไซ้รคือจอมภพ ไถ่มูตร์จบสำเร็จไซ้ร ได้เสวยนํ้ามนต์ดื่ม แต่พะเอินลืมล้างบาท ยามลิลาศไปบวงสวรรค์ ณเมื่อนั้นแลจึ่งกลี เห็นได้ทีจึ่งเข้าสิงสถิต ในดวงจิตพระนล ทั้งดลจิตพระบุษกร ผู้โสทรอนุชา ให้หาพระบุษกรนั้น มาพลันกล่าวยุยง ๏ เอหิ ทีว๎ย นเลน ไว ๏ เธอจงชวนพระเชษฐา ทอดสกาพนันกัน ตัวเธอนั้นคงชำนะ พระนลแพ้ละอย่าสงไสย ตัวเราไซ้รจะคอยบันดาล ให้ท่านชนะเปนมั่นแม่น แม้เขตแคว้นกรุงนิษัธ และสมบัติพัสถาน นลนฤบาลจะวางประจำ แล้วแพ้ระยำยิบไป นั้นแล ฯ
๏ เอวัม์ อุก์ตัส๎ ตุ กลินา ๏ ได้ฟังกลีเธอเสริมส่ง ส่อยุยงเสี้ยมสอน ๏ ปุษ๎กโร นลัม์ อัภ๎ยยาต์ ๏ พระบุษกรจึ่งตรงเข้าไป เฝ้าจอมไผทนลบดี ฝ่ายกลีผีทุจริต เข้าสิงสถิตในลูกสกา คอยท่าบุษกรอยู่ ยามเข้าไปสู่พระภูธร แล้วพระบุษกรผู้สามารถ อาจต่อสู้ศัตรูกล้า ทูลพระราชานลบพิตร์ ผู้สถิตอยู่เฉภาะหน้า ว่าข้าแต่พระภูธร ผู้ภราดรเหนือเกศ เชิญทรงเดชทรงสกา กล่าววาจาชวนเปนหลายหน ฝ่ายพระจุมพลมิ่งมกุฎ ฟังอนุชท้าเช่นนั้น ทรงธรรม์ฟังบ่นิ่งอยู่ได้ เพราะพระไทยชอบทางสกา ทั้งในเวลานั้นไซ้ร ไวทรรภีนางก็ฟังอยู่ ภูธรฤๅจะยอมจำนน ภูวดลก็ทรงสกาพลัน ๏ ชียเต สม นลัส๎ ตทา ๏ ครานั้นนลนฤบดี มีแต่เสียบ่มิวาย เหตุด้วยผีร้ายกลี เข้าสิงที่ลูกบาต ๏ หิรัณ๎ยัส๎ย สุวร๎ณัส๎ย ยานยุค๎ยัส๎ย วาสสาม์ ๏ ภูวนาถเสียซึ่งหิรัญ อีกสุวรรณก็พลอยหมด อีกม้ารถยวดยานสิ้น ภูมินทร์เสียจนเครื่องทรง พระองค์ไซ้รคลั่งสกา ประหนึ่งว่าวิกลจริต ผู้มีจิตจงรัก จะทูลทักบ่มิหยุด สุดจะห้ามแหนได้ พระไนษัธธรณินทร์ ผู้ผลาญอรินแขงขลัง ดูดุจคลั่งเคลิ้มสัญญา เล่นสกาบ่มิหยุดหย่อน ได้เลย ฯ
๏ ภารต ๏ ดูกรภารตบดี ๏ ตตห์ เปารชนาห์ สร๎เว ๏ จึ่งชาวบุรีนิษัธนั้น ก็พร้อมกันมาวังราช ๏ มัน์ต๎ริภิห์ สห ๏ พร้อมด้วยอมาตย์มนตรีทั้งหลาย ต่างมุ่งหมายเฝ้าภูธร เพื่อทูลวอนงอนง้อ ขอให้พระบรรเทาลง ซึ่งความพะวงเหมือนโรคร้าย แลนา ๏ ตตห์ สูต ๏ จึ่งนายสูตราชไซ้ร เข้าไปแทบพระทวาร กราบกรานแล้วแถลงเหตุ ทูลนาเรศร์ทมยันตี ๏ เทวิ ๏ ข้าแต่เทวีเหนือเกล้า ๏ เอษ เปารชโน ท๎วาริ ติษ๎ฐติ การ๎ยวาน์ ๏ บัดนี้เล่าชาวภารา พากันมานับร้อย คอยอยู่ แทบทวารอัดแอ ๏ นิเวท๎ยตาง ไนษธาย ๏ เชิญพระแม่อยู่หัวเจ้า ไปเฝ้าทูลพระราชา ๏ สร๎วาห์ ป๎รก๎ฤตยห์ ส๎ถิตห์ ๏ ว่าบรรดาพศกนิกร มาสโมสรอยู่พร้อมกัน ทั้งนั้นต่างร้อนใจ ในการที่มีเหตุร้าย มากลํ้ากลายซึ่งพระองค์ ผู้ทรงธรรมลํ้าธรณี นั่นแล ฯ
๏ ตตห์ สา วาษ๎ปกลยา ๏ ครานั้นเทวีรูปวิไลย สอึกสอื้นไห้น่าสงสาร เยาวมาลย์ไปทูลพระราชา ทุกข์เวทนาปรากฎถนัด นารีรัตนไภมี ฤดีท่วมด้วยโศกาดูร จึ่งทูลองค์พระปิ่นนิษัธ ผู้เปนรัตนภรรดา ๏ ราชัน์ ๏ อ้าพระทูลกระหม่อมแก้ว ๏ เปารชโน ท๎วาริ ๏ อันประชาชนมาคอยอยู่แล้วที่พระทวารวัง พร้อมพรั่งพากันมาเพื่อวันทาแทบพระบาท ๏ มัน์ต๎ริภิห์ สหิตห์ สร๎ไว ๏ ทั้งอมาตย์มนตรีผู้มีปัญญาแหลมหลัก ๏ ราชภัก์ติปุรัส๎ก๎ฤตห์ ๏ เพราะซื่อตรงจงรักต่อฝ่าลอองธุลี ๏ ตํ ท๎รัษ๎ฏุม์ อร๎หสิ ๏ ขอภูมีจงโปรดเกล้าให้เข้ามา ด้วยเทอญ ๏ อิต๎เยวัม์ ปุนห์ ปุนร์ ภาษต ๏ นางพระยาพรํ่าซํ้าทูล แด่นเรนทร์สูรเปนหลายเทื้อ ๏ อาวิษ๎ฏห์ กลินา ๏ ฝ่ายพระเชื้อชาติกษัตรีย์ เหตุด้วยกลีเข้าสิงอยู่ไซ้ร ๏ ตาง ตถา รุจิราปางคึ ๏ ฟังอรไทยทรงศักดิ์ ผู้ลำนักเนตร์งามงอน ๏ วิลปัน์ตึ ตถา วิธาม์ ๏ จะทูลวิงวอนอ่อนหวาน น่าสงสารปานใดก็ดี ๏ ราชา นาภ๎ย ภาษต กิญ์จน ๏ ภูมีก็คงแต่นิ่งเฉย บ่มิได้เฉลยสุนทรวาท ๏ ตตัส๎ เต มัน์ต๎ริณห์ ส๎รเว ๏ ฝ่ายว่าอมาตย์ทวยลูกขุน สุนทรราชมนตรี ๏ เต ไจว ปุรวาสินห์ ๏ อีกทั้งชาวบุรีนิษัธ ซึ่งแออัดพากันมา ๏ ทุห์ขาร๎ต์ตา ๏ ต่างก็พากันเปล่งอุทาน ด้วยทุกข์ราญระทมใจ ๏ นายํม์ อัส๎ติ ๏ ว่าฉนี้ไซ้รผิดกว่าเคย โอ้กระไรเลยพระทูลเกล้า ๏ ว๎ฤๅฑิตา ชัค๎มุร์ อาลยาน์ ๏ ต่างก็เศร้าสลดใจ พากันกลับไปยังที่อยู่ ฯ
๏ ยุธิษ๎ฐิร ๏ ดูกรยุธิษเฐียร ๏ พหุน์ มาสาน์ ๏ เวลาเวียนไปเปนหลายมาส ๏ ตถา ตัท์ อภวัท์ ท๎ยูตัม์ ปุษ๎กรัส๎ย นลัส๎ย จ ๏ นลราชกับพระบุษกร บ่มิพักผ่อนการเล่นสกา ๏ ปุณ๎ยโศ๎ลกัส๎ ต๎วชียต ๏ ราชาบุญโศลกไซ้ร เสียเสมอไปทุกเวลา นั้นแล ฯ ๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๗ ดังนี้ ฯ สรรคที่ ๘๏ ทมยัน์ตี ตโต ท๎ฤษ๎ฏ๎วา ๏ ครานั้นนางทมยันตี เทวีเห็นแน่ถนัด อันจอมกษัตร์บุญโศลก ผู้ผดุงโลกนราธิบดี ท้าวเธอนั้นมีดวงจิต วิปริตวิกลไป หลงใหลราวเสียอารมณ์ ตระบมตระบึงเล่นสกา นางก็โศกาดูรพิลาป นางบ่มิทราบจะแก้ไฉน องค์อรไทยภีมสุดา ห่วงพระราชานั้นเปนยิ่งใหญ่ นางจินไตยด้วยกิจการ ทุกสถานอันควรแก่องค์ พระผู้ทรงปัถพี เปนที่พำนักแห่งประชากร บังอรตรึกนึกก็หวั่น ๆ ด้วยราชันท้าวเธอพะวง แต่นางก็คงจงใจ ให้ท้าวเธอโปรดเปนนิตย์ เมื่อเห็นบพิตร์นลรัตน์ เสียสมบัติพัสถาน นงคราญเหลือจะอดกลั้น เมื่อนั้นจึ่งมีวาจา แด่พฤหัตเสนาผู้ภักดี อันเปนนารีอยู่ใกล้ข้าง ทั้งเปนนางนมสนิท เข้าใจกิจสรรพการ นงคราญแน่ในความรัก ทั้งพูดมักเปนสุภาษิต มิ่งมิตร์จึงได้พาที ๏ ว๎ฤหัต์เสเน ๏ นี่แน่พฤหัตเสนา จงอย่าช้าไปประภาษ เรียกอมาตย์มาชุมนุมกัน อ้างทรงธรรม์นลให้หา ๏ อาจัก์ษ๎วยัท์ ธ๎ฤตํ ท๎รว๎ยัม์ ๏ แล้วกล่าววาจาแถลง แสดงราชทรัพย์สูญเท่าใด ๏ อวศิษ๎ฏํ จ ยัท์ วสุ ๏ อีกเท่าไรยังอยู่ดี คงมีเหลืออีกเท่านั้น ๆ ๏ ตตัส๎ เต มัน์ต๎ริณห์ สร๎เว ๏ อันทวยอมาตย์มนตรี ผู้มีจิตสวามิภักดิ์ จงรักแน่แด่นลราช ฟังพระประศาสน์ราชา ๏ อปิ โน ภาคเธยํ ส๎ยาท์ ๏ ต่างก็ว่าครานี้แล้ว เราจะไม่แคล้วความข้องขวาง พูดพลางต่างก็รีบเข้า ไปเฝ้าองค์พระนลบดี ๏ ท๎วิตียํ สมุปัส๎ถิตาห์ ๏ ครั้งนี้เปนคำรบสอง ซึ่งเขาทั้งผองผู้พศก แห่งนายกทรงธรรม์ พร้อมกันเข้ามาวันทา ๏ น๎ยเวทยัท์ ภีมสุตา ๏ จึ่งภีมสุดาเทวี ทูลพระภูบดีให้แจ้งเหตุ ๏ น จ ส ป๎รต๎ยนัน์ทต ๏ แต่ทรงเดชท้าวเธองวยงง จะฟังคำอนงค์นั้นก็หาไม่ ๏ วาก๎ยัม์ อป๎รตินัน์ทัน์ตัม์ ภร๎ตารัม์ อภิวีก์ษ๎ย สา ๏ ฝ่ายอรไทยอรรคชายา เห็นพระภรรดาบ่มิได้เฉลย บ่มิตรัสเลยแต่สักคำ ซํ้าบ่มิเอื้อเฟื้อไยดี ๏ ทมยัน์ตี ปุนร์ เวศ๎ม ว๎รีฑิตา ป๎รวิเวศ ห ๏ จึ่งทมยันตีโฉมฉาย เพื่อความอายแด่ชนนิกร บังอรรีบจรจรัล กลับคืนสู่ตำหนักจันทน์ นั้นแล ฯ
๏ นิศัม๎ย สตตํ จาก์ษาน์ ปุณ๎ยโศ๎ลกปรางมุขาน์ ๏ แต่เบื้องนั้นนางได้ทราบสาร เหตุการณ์เรื่องเล่นสกา ว่าพระราชาบุญโศลก ไร้โชคแพ้บ่มิเว้นวาย ๏ นลํ จ ห๎ฤตสร๎วัส๎วํ ๏ พระยอดชายนลกษัตร์ เสียสารพัตพัสดุดี ๆ ๏ ธาต๎รีม์ ปุนร์ อุวาจ ห ๏ เทวีร้อนอารมณ์ จึ่งตรัสแก่นางนมนั้นอีกครา ๏ ว๎ฤหัต์เสเน ปุนร์ คัจ์ฉ ๏ พฤหัตเสนาผู้ร่วมใจ แม่จงรับใช้ไปอีกหน ๏ วาร๎ษ๎เณยํ นลศาสนาต์ ๏ ออกนามพระนลจอมไผท เรียกวาร์ษไณยคนฉลาด ผู้เปนราชสารถี มาบัดนี้อย่าได้นาน ด้วยมีการกิจสำคัญ อันจะต้องใช้ไป่ควรช้า ๏ ว๎ฤหัต์เสนา ตุ ตัจ์ ฉ๎รุต๎วา ๏ พฤหัตเสนานางนม ได้สดับทมยันตี มีเสาวนีประภาษสั่ง บ่มิรอรั้งรีบออกไป ใช้ราชบุรุษผันผาย ไปตามนายวาร์ษไณย เข้าไปสู่ที่เฝ้า แห่งพระแม่อยู่หัวเจ้า ดังเสาวนี นั้นแล ฯ
๏ วาร๎ษ๎เณยัม์ ตุ ตโต ไภมี ๑๖๏ ครั้นเห็นวาร์ษไณยสารถี จึ่งรัตนนารี องค์ภีมราชสุดา ๏ ปราไศรยด้วยมธุวาจา จับใจนักหนา ไพเราะเสนาะนิ่มนวล ๏ รู้จักเทศะอันควร ทั้งกาลประมวล ประมาณช่างเหมาะเจาะจง ๏ ถึงกาละควรนวลอนงค์ กล่าวข้อความตรง จำนงให้กิจสัมฤทธิ์ดี ๏ ชานีเษต๎วํ ๏ ตรัสว่าดูราสารถี ตัวท่านรู้ดี อยู่แล้วเปนแน่แก่ใจ ๏ ยถา ราชา สัม๎ยัค์ว๎ฤต์ตห์ สทา ต๎วยิ ๏ ว่าองค์ราชายศไกร ไว้วางหฤทัย ในท่านผู้เปรื่องปรีชา ๏ วิษมัส๎ถัส๎ย ๏ บัดนี้ ย่อมเปนเวลา เดือดร้อนนักหนา ตูข้าก็พรั่นอันตราย ๏ ขอท่านจุ่งเปนสหาย เมื่อยามเคราะห์ร้าย จุ่งช่วยให้สมจินดา ๏ บัดนี้พระนฤปราชา ทรงเล่นสกา ก็แพ้แก่พระบุษกร ๏ ยิ่งแพ้ยิ่งพระภูธร ดูดังไฟฟอน ยิ่งอยากจะทรงร่ำไป ๏ อันว่าลูกบาตช่างกระไร ประหนึ่งมีใจ อันเจตจะแกล้งราชา ๏ ช่างพลิกช่างแพลงนานา ได้ดังจินดา แห่งบุษกรทุกที ๏ แต่ส่วนราชาธิบดี ลูกบาตอัปรี ทั้งกลอกทั้งกลับสับสน ๏ เหมือนมีชีวียินยล แกล้งทำพระนล ให้ป่นให้ยับย่อยไป ๏ สุห๎ฤต์ส๎วชนวาก๎ยานิ ยถาวัน์ น ศ๎ริโณติ จ ๏ แม้ผู้สนิทปานใด อันมีจิตใจ อันมุ่งจงรักภักดี พระองคบ่ฟังวาที พูดไปไยมี พระองค์บ่ฟังสักครา ๏ มมาปิ จ ตถา วาก๎ยํ ๏ แม้แต่ตัวเรานี้นา จักกล่าววาจา จะเตือนก็ปราศจากผล ๏ นาภินัน์ทติ โมหิตห์ ๏ พระบ่มิฟังสักหน จิตไท้มัวมล ด้วยโมหะมืดหนักหนา ๏ เราไม่ติโทษราชา ตามที่เปนมา จะเปนเพื่อเคราะห์แรงร้าย ๏ อันพระไนษัธฦๅสาย เธอเปนยอดชาย บ่เจตนาอาธรรม์ ๏ แม้ข้าตั้งจิตคิดขยัน ทูลเตือนราชัน ก็เปล่าประโยชน์โหดผล ๏ พระบ่มิฟังสักหน จิตไท้มัวมล ด้วยโมหะมืดหนักหนา ๏ สารเถ ๏ ดูราสารถีมีปัญญา ขอพึ่งสักครา พอคลายวิตกอกกรม ๏ ขอท่านอันเรานิยม จงช่วยให้สม ดังจิตที่คิดจินไตย ๏ ข้านี้หนักจิตเหลือใจ กลุ้มหฤทัย เพราะเกรงอุปัทว์ยายี ๏ เราเกรงหากพระสวามี คลุ้มคลั่งดังนี้ บางทีจะเกิดภัยพาล ๏ นลัส๎ย ทยิตาน์ อัศ๎วาน์ ๏ จงผูกมิ่งม้าอาชาชาญ ซึ่งนลภูบาล เธอโปรดเปนคู่หฤทัย ๏ คือสองมิ่งม้ามโนมัย อันรวดเร็วไว ประหนึ่งมโนชาญเชาวน์ ๏ อิทัม์ อาโรป๎ย มิถุนัม์ กุณ์ฑินํ ยาตุม์ อร๎หสิ ๏ จงรับลูกน้อยแห่งเรา ทั้งสองผู้เยา วลักษณ์วิไลยยศยง ๏ ขึ้นสู่พระราชรถทรง แล้วจุ่งพาตรง ไปส่งนครกุณฑิน ๏ อันที่สถิตภูมินทร์ ภีมะผู้ปิ่น วิทรรภราษฎร์ไพศาล ๏ ถึงแล้วจุ่งส่งสองกุมาร แด่พระภูบาล ผู้ผ่านวิทรรภสโมสร ๏ อีกทั้งราชรถงามงอน กับสองอัศดร จงฝากณที่เดียวกัน ๏ ส่วนตัวแห่งท่านเองนั้น จะอยู่เมืองขวัญ ก็แล้วแต่จิตจินไตย ๏ ฤๅชอบจะไปหนไหน ก็ตามแต่ใจ แห่งท่านจะมุ่งปราถนา ฯ
๏ ทมยัน์ต๎ยาส๎ ตุ ตัท์ วาก๎ยํ ๒๘๏ ฟังพระเสาวนี แห่งทมยันตี อรรคราชชายา จึ่งวาร์ษไณย ไหว้ราชกานดา สารถีราชา ทูลลาออกไป ๏ สู่ที่ศาลา ลูกขุนสภา อมาตย์วุฒิวัย จึ่งเล่าแถลง แจ้งการณ์ขานไข ตามที่อรไทย ได้ตรัสสั่งมา ๏ จึ่งมุขมนตรี ฟังแล้วด้วยดี สามัคคีปฤกษา จึ่งอนุญาตดังประภาษมา ยินยอมให้พา สองกุมารไป ๏ นายสารถี บ่มิรอรี รีบผูกรถไชย เชิญพระบุตรา ธิดาทรามไวย รีบเร่งรถไป สู่เมืองวิทรรภ์ ๏ ครั้นถึงนิเวศน์ แห่งพระทรงเดช ผู้ครองเขตขัณฑ์ จึ่งส่งอัศดร สุนทรเลอสรร กับรถสุวรรณ บ่มิรอรา ๏ เข้าเฝ้าภูมินทร์ เชิญหน่อนรินทร์ อินทรเสนา กับอินทรเสน ราเชนทร์บุตรา ถวายราชา ผู้ปิ่นธรณี ๏ บังคมแทบบาท ท้าวภีมราช เคารพด้วยดี เศร้าโศกสลด รันทดทวี สงสารภูมี นลราชฦๅชา ๏ เสร็จกิจแล้วไซ้ร จึ่งวาร์ษไณย กราบบังคมลา จากกรุงกุณฑิน บุรินหรรษา สู่อโยธยา นครเกรียงไกร ๏ ทุกข์โทมนัศ โศกรึ้งรึงรัด หวังตัดอาไลย เฝ้าท้าวฤตุบรรณ อันเกียรติเกริกไกร สุรราไช ศวรรยาธิบดี ๏ ขอสนองพระเดช พระคุณธเรศร์ ด้วยจิตเปรมปรีดิ์ ท้าวฤตุบรรณ เธอพลันปราณี ให้เปนสารถี เปนที่พึงใจ นั้นแล ฯ ๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๘ ดังนี้ ฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2560 16:05:11 » |
|
สรรคที่ ๙๏ ตตัส๎ ตุ ยาเต วาร๎ษ๎เณย ๏ เมื่อวาร์ษไณยสารถี ไปจากบุรีแล้วฉนั้น ๏ ปุณ๎ยโศ๎ลกัส๎ย ทิว๎ยตห์ ๏ ทรงธรรม์บุญโศลกราช ก็บ่มิได้ขาดการสกา ๏ ปุษ๎กเรณ ห๎ฤตัม์ ราช๎ยํ ๏ จนราชาแพ้พระบุษกร จนเสียนครเสียราชย์ ๏ ยัจ์จาน๎ยัท์ วสุ กิญ์จน ๏ ภูวนาถเสียสิน ทุกสิ่งสิ้นพัสดุสรรพ์ ๏ หฤตราช๎ยํ นลํ ราชัน์ ๏ นลราชันเสียสมบัติ สารพัตเพื่อแพ้สกา ๏ ป๎รหสัน์ ปุษ๎กโรพ๎รวีต์ ๏ จึ่งพระอนุชาบุษกร ยิ้มเย้ยก่อนแล้วจึ่งกล่าว ๏ ท๎ยูตัม์ ป๎รวร๎ตตาม์ ภูยห์ ๏ ว่าเชิญท้าวเธอทอดอีกเทื้อ เผื่อว่าโชคร้ายจะกลายเปนดี ๏ ป๎รติปาโณส๎ติ กัส๎ ตว ๏ ฤๅพระบ่มีทุนพนัน หมดกันแล้วฤๅไฉน ๏ ศิษ๎ฏา เต ทมยัน์เต๎ยกา ๏ อ้อเผลอไปยังมี ทมยันตีนารีรัตน์ ๏ สร๎วัม์ อัน๎ยัช์ ชิตัม์ มยา ๏ ส่ำสมบัติอื่น ๆ ไส้ร ข้าทอดได้สิ้นแล้วมา ๏ ทมยัน์ต๎ยาห์ ปนห์ สาธุ ๏ เชิญราชาทอดอีกที วางทมยันตีเปนทุน ๏ ว๎รตตาง ยทิ มัน๎ยเส ๏ ลองเสี่ยงบุญเสี่ยงเคราะห์ ผิวะเหมาะเผื่อบุญเชย พระฮา ฯ
๏ ปุษ๎กเรไณวัม์ อุก์ตัส๎ย ๏ ฟังคำเย้ยพระบุษกร ช่างแคะค่อนยอนโยก ๏ ปุณ๎ยโศ๎ลกัส์ย มัน๎ยุนา ๏ บุญโศลกเธอก็คั่งแค้น แน่นฤดีแดยัน ๏ ว๎ยาทีร๎ยเตว ห๎ฤทยํ ๏ อันพระหฤทัยเธอรุมรึง ประหนึ่งว่าจะพังพินาศ ๏ น ไจนํ กิญ์จิท์ อัพ๎รวีต์ ๏ พระบ่มิประภาษไฉนเลย บ่มิได้เฉลยคำพระน้อง ๏ ตตห์ ปุษ๎กรัม์ อาโลก๎ย ๏ พระจ้องดูพระบุษกร ผู้ช่างค่อนช่างเสียดสี ๏ นลห์ ปรมมัน๎ยุมาน์ ๏ อันพระภูมีราชานล พระกมลท่วมโทมนัศา ๏ อุต์ส๎ฤช๎ย สร๎วคาเต๎รโภ๎ย ภูษณานิ มหายศห์ ๏ แล้วราชาเปลื้องภูษณาภรณ สรรพอลงกรณอลงกฎ ประดับพระยศฦๅสาย จากพระวรกายหมดพระองค์ ๏ เอกวาสาห๎ยสํวีตห์ ๏ คงแต่ผ้าอยู่ผืนหนึ่ง อันซึ่งเจียนจะมิปรกอินทรีย์ ๏ นิศ๎จก๎ราม ตโต ราชา ๏ ป่างนี้จึ่งพระราชา ค่อยลีลาจากพระนิเวศน์ ๏ ต๎ยัก์ต๎วา สุวิปุลาง ศ๎ริยัม์ ๏ โอ้แสนสมเพชจอมกษัตร์ เคยครองสมบัติวิบูลย์ดี ๏ ทมยัน์ต๎เยกวัส๎ต๎ราถ ๏ ฝ่ายทมยันตีนารีรัตน์ ทรงสพัตร์แต่ผืนเดียวเช่นกัน ๏ คัจ์ฉัน์ตัม์ ปฤษ๎ฐโตน๎วคาต์ ๏ พลันเสด็จออกไปจากวัง ตามหลังองค์พระภรรดา ๏ ส ตยา วาห๎ยตห์ สาร๎ท์ธํ ต๎ริราต๎รํ ไนษโธวสัต์ ๏ อันพระราชาไนษัธ กับนารีรัตน์คู่เคียง ออกนอกเวียงแล้วอาไศรย อยู่ได้สามราตรี ที่ประตูไชย นั้นแล ฯ
๏ ปุษ๎กรัส๎ ตุ มหาราช ๏ ป่างนั้นไส้รจึ่งเจ้านคร คือพระบุษกรมหาราช ๏ โฆษยามาส ไว ปุเร ๏ ท้าวเธอประศาสน์บ่มิช้า ให้โฆษนาทั่วทั้งเวียงใหญ่ ๏ นเล ยห์ สัม๎ยัค์ อาติษ๎เฐต์ ส คัจ์เฉท์ พัธ๎ยตาม์ มม ๏ ถ้าแม้ผู้ใดเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่แก่พระนล ให้เอาคนนั้นพิฆาฏ ฟันฟาดเสียให้ม้วยมรณ ๏ ยุธิษ๎ฐิร ๏ ดูกรยุธิษเฐียรเจ้า ๏ ปุษ๎กรัส๎ย ตุ วาก๎เยน ๏ ครานั้นเล่าชาวนคร ฟังพระบุษกรเธอประกาศ ๏ ตัส๎ย วิเท๎วษเณน จ ๏ ต่างก็ขยาดยำเยง เกรงพระราชอาชญา ๏ เปารา น ตัส๎ย สัต์การํ กฤตวัน์โต ๏ บ่มิกล้าสนองพระคุณ สุนทรราชผู้นายตน ต่างคนก็ครวญครํ่าร่ำรัก ๏ ต๎ริราต๎รัม์ อุษิโต ราชา ๏ ราชาพำนักเนาอยู่ ที่ริมประตูอีกสามราตรี ๏ ชลมาเต๎รณ วร๎ตยัน์ ๏ พระมีแต่นํ้าเย็น เปนเครื่องดื่มแก้ระหายโหย ๏ ปีฑ๎ยมานาห๎ ก๎ษุธา ตัต๎ร ผลมูลานิ กร๎ษยัน์ ๏ ระอาโรยด้วยหิวนัก บ่มิพักเลือกสิ่งเสวย โอ้บ่เคยจะตกระกำ จำกินมูลผลาหาร ๏ ป๎ราติษ๎ฐต ตโต ราชา ๏ น่าสงสารองค์พระราชา จำต้องคลาศคลาจากนคร ๏ ทมยัน์ตี ตัม์ อัน๎วคาต์ ๏ ฝ่ายบังอรทมยันตี ด้วยภักดีตามเสด็จไป ปางประเวศแนวไพร บัดนั้นแล ฯ
๏ ก๎ษุธยา ปีฑ๎ยมานัส๎ ตุ นโล พหุติเถหนิ ๏ ครั้นดำเนินไปได้หลายเวลา ตามมรรคากลางพน จึ่งพระนลธก็อิดโรย เพื่อหิวโหยนั้นเปนที่ยิ่ง ๏ อปัส๎ยัจ์ฉกุนาน์ กาญ์ศ๎จิต์ ๏ เออโชคดีจริงเห็นนกทอง อันผุดผ่องขจิตร์มาศ ๏ ธิรัณ๎ยสท๎ฤศัจ์ฉทาน์ ๏ ร่อนลงกลาดอยู่ริมผลู อันที่ภูธรจะดำเนินไป ๏ ส จิน์ตยามาส ตทานิษธาธิปติร์ พลี ๏ จึ่งท้าวไทนิษธาธิบดี ผู้มีพลกำลังสามารถ เห็นศกุนชาติเหล่านั้นสิ ธก็ดำริห์แต่ในพระไทย ๏ อัส๎ติ ภัก์โษ๎ย มมาท๎ยายํ วสุ เจทัม์ ภวิษ๎ยตี ๏ ว่าเออนกนี่ไซ้รเหมาะหนักหนา จักได้เปนภักษาแห่งกูชัด ทั้งเปนสมบัติอันพึงปราถนา แห่งกูและชายาณวันนี้ แลนา ๏ ตตัส๎ ตาน์ ปริธาเนน วาสสา ส สมาว๎ฤโณต์ ๏ คิดแล้วภูมีคลี่ผ้าทรง แวดวงโอบฝูงวิหค ตระหลบนกเหล่านั้นไว้ หวังได้ดังจินตนา ๏ ตัส๎ยตัท์ วัส๎ต๎รัม์ อาทาย สร๎เว ชัค๎มุร์ วิหายสา ๏ โอ้อนิจจาเปนคราวเคราะห์ เฉภาะเปนนกฝูงสำคัญ มันนั้นกลับพาภูษาทรง บินลอยตรงขึ้นไปยังอัมพร ๏ อุต์ปตัน์ตห์ ขคา ๏ แล้วมันก็ไปร่อนร่าอยู่ ๏ ท๎ฤษ๎ฏ๎วา ทิค๎วาสสัม์ ภูเมา ส๎ถิตํ ทีนัม์ อโธมุขัม์ ๏ แลดูองค์พระภูธร เห็นล่อนจ้อนผ้าบ่มีห่ม ยืนก้มหน้า อยู่แทบพื้นดิน สิ้นสง่าร่าเริงใจ ๏ วาก๎ยัม์ เอตัท์ อาหุส๎ ตโต นลัม์ ๏ นกนั้นไซ้รมันก็เย้ยหยัน จำนรรจาเปนสำเนียงคน แด่พระนลราชา ว่าฉนี้ ๏ วยัม์ อัก์ษาห์ สุทุร๎พุท์เธ ๏ ดูราท่านผู้โฉดเขลา เรานี้แลคือลูกสกา ๏ ตว วาโส ชิหีร๎ษวห์ ๏ เราลงมาโดยความประสงค์ มุ่งตรงความฉิบหายแห่งท่านแล ๏ อาคตำ น หิ นห์ ป๎รีติห์ สวาสสิ คเต ต๎วยิ ๏ แม้ท่านมีผ้าเหลือ เพื่อห่มแม้แต่ผืนหนึ่งไส้ร ความพอใจของเรายังพร่อง จึ่งต้องลวงเอาจนได้ผ้า พระฮา ๏ ตาน์สมีก์ษ๎ย คตาน์ อัก์ษาน์ ๏ ครานั้นพระนลราช เห็นลูกบาตมันบินไป ๏ อาต๎มานํ จ วิวาสสัม์ ๏ ทั้งพระองค์ไซ้รไร้ภูษิต ผ้าจะปรกปิดก็บ่มีฉนั้น ๏ ปุณ๎ยโศ๎ลกัส๎ ตทา ราชัน์ ๏ พระราชันบุญโศลก ธก็เศร้าโศกโทรมนัศา ๏ ทมยัน์ตีม์ อถาพ๎รวีต์ ๏ จึ่งเผยพจนาตรัสประภาษ แด่ทรามสวาททมยันตี ด้วยสุนทรวาที ดั่งนี้ ฯ
๏ เยษาม์ ป๎รโกปาท์ ไอศ๎วร๎ยาต์ ป๎รจ๎ยุโตหัม์ อนิน์ทิเต
๏ ศรีเอยลูกบาตตั้ง | | ชังชิง พี่ฮือ | พี่จึ่งจากไอศวรรย์ | | แน่แท้ | ป๎ราณยาต๎ราง น วิน์เท จ | | ทุห์ขิตห์ กษุธยาน์วิตห์ | แม้แต่จะหาสิ่ง | | ยังชีพ กินนา | ลำบากยากสุดแก้ | | ทุกข์เข็ญ | เยษาง ก๎ฤเต น สัต๎การ | | อุก๎รวัน๎ มยิ ไนษธาห์ | ๏ เห็นชาวนิษัธแม้ | | เมตตา พี่ฤๅ | บ่มิอาจต้อนรับ | | ดั่งกี้ | ต อิเม ศกุนา ภูต๎วา | | วาโสป๎ยปหรัน์ติ เม | บาตแปลงเช่นศกุนา | | มาอีก ซ้ำแฮ | ฉวยโฉบผ้าห่มลี้ | | หลบไป | ไวษัม๎ยัม์ ปรมัม์ ป๎ราป์โต | | ทุห์ขิโต คตเจตนห์ | ๏ โอ้ใจพี่โศกเศร้า | | ทรวงโทรม | ท่วมทุกข์ทวีพูล | | จิตข้อง | ภร๎ตา เตหํ นิโพเธทํ | | วจนํ หิตัม์ อาต๎มนห์ | ฟังผัวพูดเถิดโฉม | | ศรีสวาท | พี่จะเผยพจน์พร้อง | | เพื่อศรี | เอเต คัจ์ฉน์ติ พหวห์ | | ปัน์ถาโน ทัก์ษิณาปถัม์ | ฟังผัวพูดเถิดโฉม | | ศรีสวาท | พี่จะเผยพจน์พร้อง | | เพื่อศรี | เอเต คัจ์ฉน์ติ พหวห์ | | ปัน์ถาโน ทัก์ษิณาปถัม์ | ๏ แต่นี้ทางแยกย้าย | | ไปดี เจ้าเอย | สู่ทักษิณประเทศ | | ใหญ่กว้าง | อวัน์ตึ ฤก์ษวัน์ตํ จ | | สมติก๎รัม๎ย ปร๎วตัม์ | ผ่านแคว้นอวันตี | | ไปสดวก | อีกฤกษวานสล้าง | | บัพพตา | เอษ วิน์โธ๎ย มหาไศลห์ | | ปโยษ๎ณี จ สมุท๎รคา | ๏ ข้างหน้าเขาชื่ออ้าง | | วินธัย แม่เอย | นํ้าปะโยษณีลง | | สมุทร์โน้น | อาศ๎รมาศ๎จ มหร๎ษีณาม์ | | พหุมูลผลาน๎วิตาห์ | อาศรมที่อาไศรย | | ดาบส ท่านนา | มูลผลาหารโพ้น | | สพรั่งมี | เอษ ปัน์ถา วิทร๎ภาณาม์ | | อเสา คัจ์ฉติ โกศลาน์ | ๏ ทางนี้นำสู่ด้าว | | แดนวิทรรภ์ | นี่สู่แคว้นโกศล | | อะคร้าว | อต ปรํ จ เทโศยํ | | ทัก์ษิเณ ทัก์ษิณาปถห์ ฯ | ต่อโพ้นประเทศอัน | | ไกลลิบ แม่เอย | เดินสู่ทักษิณด้าว | | ทักษิณ ฯ | ๏ เอตัท์ วาก๎ยํ นโล ราชา | | ทมยัน์ตึ สมาหิตห์ | ๏ ภูมินทร์นลราช | | ตรัสประภาษเช่นนี้ | เพื่อหวังประโยชน์ชี้ | | เพื่อหวังประโยชน์ชี้ | อุวาจาสก๎ฤท์ อาร๎ต์โต หิ ไภมีม์ อุท์ทิศ๎ย ฯ ๏ ทรงธรรม์เธอชี้ทาง | | แด่นางลูกภีมะแก้ว | ชี้ทางหนหนึ่งแล้ว | | บอกซ้ำอีกหน ฯ | ตตห์ ศา วาศ๎ปกลยา | | วาจา ทุห์เขน กร๎ษิตา | ๏ นฤมลแสนโศกสร้อย | | สุรเสียงละห้อย | สะอื้นหมองศรี | | | อุวาจ ทมยัน์ตี ตํ | | ไนษธํ กรุณํ วจห์ ฯ | ๏ ทมยันตีนอบเกล้า | | ทูลจอมนิษัธเจ้า | ชัดถ้อยแถลงไข ฯ | | | ๏ อุเท๎วชเต เม ห๎ฤทยํ | | สีทัน์ต๎ยังคานิ สร๎วสห์ | ๏ อ้าใจเทวศเพี้ยง | | ภินท์พัง พระเอย | ตัวก็สั่นเทิ้มดัง | | จับไข้ | ตว ปาร๎ถิว สํกัล๎ปํ | | จิน์ตยัน์ต๎ยาห์ ปุนห์ ปุนห์ | อกกรมระบมฟัง | | พระตรัส | ยิ่งตรัสยิ่งหม่นไหม้ | | อกเพี้ยงเพลิงเรือง | ห๎ฤตราช๎ยํ ห๎ฤตท๎รว๎ยํ | | วิวัส๎ต๎รํ ก๎ษุต์ต๎ฤศัน๎วิตัม์ | ๏ เสียเมืองเสียทรัพย์แม้ | | ผ้าทรง หมดแล | ซํ้าอดเจียนพระองค์ | | จักม้วย | กถัม์ อุต์ส๎ฤช๎ย คัจ์เฉยัม์ | | อหํ ต๎วาง นิร๎ชเน วเน | จะทิ้งพระเดินดง | | แดนเถื่อน เดียวฤๅ | ข้าจะมิไปด้วย | | เพื่อนท้าวเธอไฉน | ศ๎ราน์ตัส๎ย เต ก๎ษุธาร๎ต์ตัส๎ย | | จิน์ตยานัส๎ย ตัต์ สุขัม์ | ๏ ยามไร้โภชนะทั้ง | | ทนทุกข์ | หวลคิดเมื่อยามสุข | | เพื่อนท้าว | วเน โฆร มหาราช | | นาศยิษ๎ยาม๎ยหํ ก๎ลมัม์ | ยามพระจะจำบุก | | ไพรท่อง เถื่อนนา | เมียจะตามทุกก้าว | | ปลอบไท้ทูลหัว | น จ ภาร๎ยาสมํ กิญ์จิท์ | | วิท๎ยเต ภิษชาม์ มตัม์ | เอาษธํ สร๎วทุห์เขษุ | | สัต๎ยัม์ เอตัท์ พ๎รวีมิ เต ฯ | ๏ ยามผัวเปนทุกข์เศร้า | | โศกศัลย์ | เภษัชโอสถอัน | | วิเศษแล้ | ไป่สู้มิ่งเมียขวัญ | | กลอยจิต ได้เลย | แพทย์ฉลาดรู้แท้ | | ดั่งนี้สัตยา ฯ | นล อุวาจ ๏ ฟังนารีรัตน์เว้า | | จึ่งพระนลผ่านเผ้า | ตอบถ้อยแจ่มจันทร์ ฯ | | | ๏ เอวัม์ เอตัท์ ยถาต์ถ ต๎วํ | | ทมยัน์ตี สุมัธ๎ยเม | ๏ ทมยันตีแน่งน้อย | | กลอยใจ พี่อา | หล่อนกล่าวพี่เห็นจริง | | แน่แล้ว | นาส๎ติ ภาร๎ยาสมัม์ มิต๎รํ | | นรัส๎ยาร๎ต์ตัส๎ย เภษชัม์ | เภษัชประเสริฐไหน | | ดับทุกข์ ได้ฮือ | หาเทียบเทียมเมียแก้ว | | ไป่มี | น จาหํ ต๎ยัก์ตุกามัส๎ ต๎วาง | | กิมร๎ถัม์ ภีรุ ศังกเส | ๏ อ้าศรีพี่จักทิ้ง | | นฤมล ได้ฤๅ | เจ้าอย่าได้สงกา | | สักเทื้อ | ต๎ยเชยัม์ อหัม์ อาต๎มานํ | | น ไจวํ ต๎วาม์ อนิน์ทิเต ฯ | พี่นี้จะทิ้งตน | | ได้อยู่ นาแม่ | แต่จะทิ้งนิ่มเนื้อ | | ไม่เลย ฯ | ทมยัน์ตี อุวาจ ๏ ทรามเชยจึ่งนอบเกล้า | | เฉลยพจน์พระผ่านเผ้า | พิระผู้ภรรดา ฯ | | | ๏ ยทิ มาง ต๎วัม์ มหาราช | | น วิหาตุม์ อิเหจ์ฉสิ | ๏ แม้มหาราชเจ้า | | เอนดู ข้านา | จะไม่ทิ้งกลางผลู | | เวิกว้าง | ตัต์ กิมร๎ถํ วิทร๎ภาณาม์ | | ปัน์ถาห์ สมุปทิษ๎ยเต | เหตุไฉนจึ่งพระภู | | ธรนาถ | หมั่นบอกวิถีกว้าง | | สู่แคว้นแดนวิทรรภ์ | อไวมิ จาหํ น๎ฤปเต น ตุ | | มาง ต๎ยัก์ตุม์ อร๎หสิ | ๏ อันองค์นฤเบศร์ไซ้ร | | เมตตา ยิ่งแฮ | จะเจตน์ทิ้งภรรยา | | ไป่ได้ | เจตสา ต๎วปก๎ฤษ๎เฏน | | มาง ต๎ยเชถา มหีปเต | หากจิตพระราชา | | คลุ้มคลั่ง นั้นแล | จึ่งจะทอดทิ้งให้ | | ละห้อยกลางผลู | ปันถานํ หิ มมาภีก์ษ๎ณัม์ | | อาข๎ยาสิ จ นโรต์ตม | ๏ ดูสิพระเฝ้าบอก | | ทางสถล | ไฉนพระผู้มิ่งคน | | หมั่นชี้ | อโตนิมิต์ตํ โศกัม์ เม | | วร๎ธยสยมโรปม | โอ้พระปิ่นสากล | | สมมติเทพ | ข้าโศกอยู่เช่นนี้ | | โศกซ้ำฤๅหาย | ยทิ จายัม์ อภิป๎รายส๎ | | ตว ช๎ญาตีน์ ว๎รเชท์ อิติ | ๏ อภิปรายพระผ่านเผ้า | | ภูมินาถ ตรัสนา | ว่าจุ่งไปสู่ญาติ | | แห่งข้า | สหิตาว์ เอว คัจ์ฉาโว | | วิทร๎ภาน์ ยทิ มัน๎ยเส | ข้ายอมจะลีลาศ | | ตามสั่ง พระเอย | ต่อเมื่อพระบ่ายหน้า | | สู่แคว้นแดนวิทรรภ์ | วิทร๎ภราชัส๎ ตัต๎ร ต๎วาง | | ปูชยิษ๎ยติ มานท | ๏ จอมขัณฑ์จักรับท้าว | | ด้วยดี แน่นา | พระก็ตอบแทนที | | ถูกต้อง | เตน ต๎วัม์ ปูชิโต ราชัน์ | | สุขํ วัต์ส๎ยสิ โน ค๎ฤเห ฯ | พระจะเพิ่มสุขี | | สมยศ พระฮา | เนาอยู่คฤหาสน์ห้อง | | แห่งข้าเกษมสานต์ ฯ | ๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๙ ดังนี้ ฯ สรรคที่ ๑๐นล อุวาจ ๏ ภูบาลสดับถ้อย | | จึงตรัสตอบนุชน้อย | นิ่มเนื้อเสนหา ฯ | | | ๏ ยถา ราช๎ยํ ตว ปิตุส๎ | | ตถา มม น สํศยห์ | ๏ พระบิดาทรงราชย์เรื้อง | | มหาศาล | ก่อนนี้พี่มั่งมี | | เท่าไท้ | น ตุ ตัต๎ร คมิษ๎ยามิ | | วิศมัส๎ถห์ กถัญ์จน | ถึงยามพี่กันดาร | | ทรัพย์หมด | พี่จะพึ่งเธอไซ้ร | | ไป่หวัง | กถํ สัม๎ฤท์โธ คัต๎วาหํ | | ตว หร๎ษวิวร๎ธนห์ | ๏ ครั้งก่อนอวดฤทธิ์ล้ำ | | มหิบาล อื่นแม่ | เพื่อเพิ่มพูลหรรษา | | แห่งเจ้า | ปริจ๎ยุโต คมิษ๎ยามิ | | ตว โศกวิวร๎ธนห์ ฯ | ครั้งนี้จะไปปาน | | ยาจก แม่ฮือ | จักเพิ่มพูลโศกเศร้า | | แห่งสู ฯ | ๏ อิติ พ๎รุวัน์ นโล ราชา | | ทมยัน์ตีม์ ปุนห์ ปุนห์ | ๏ ภูธรนลราชเจ้า | | เห็นนางบ่สร่างเศร้า | ตรัสซ้ำหลายหน | | | สาน์ต๎วยามาส กัล๎ยาณึ | | วาสโสร๎ท์เธน สํว๎ฤตาม์ | ๏ ปลอบนฤมลละห้อย | | มีแต่ผ้าห่มน้อย | หนึ่งนั้นคลุมองค์ เจ้าเอย | | | ตาว์ เอกวัส๎ต๎รสํวีตาว์ | | อฏมานาว์ อิตัส๎ ตตห์ | ๏ ผ้าทรงผืนหนึ่งไซ้ร | | ปรกนางกับราชไท้ | สู่ด้าวพนสถาน | | | ก๎ษุต์ปิปาสาปริศ์ราน์เตา | | สภาง กาญ์จิท์ อุเปยตุห์ ฯ | ๏ อดอาหารเหนื่อยล้า | | เคราะห์ดีพอถับหน้า | ทับน้อยในดง นั้นแล ฯ | | | ๏ ตาง สภาม์ อุปสัม์ป๎ราป๎ย ๏ ปางเมื่อองค์สองกษัตรา มาถึงซึ่งกระท่อมไซ้ร จึ่งภูวนัยนฤรัตน์ ผู้ปิ่นนิษัธนคร ชวนบังอรมหิษี ไวทรรภียอดเสนหา มาแม่มาเชิญแม่นั่ง ดินนี้แลเปนตั่งแห่งโฉมฉาย ผ้าจะปรกกายฤๅก็ขาด เครื่องปูลาดบ่มิได้มี อันอินทรีย์แห่งเธอทั้งสอง หม่นหมองด้วยโคลนและฝุ่น สุนทรราชนารี ทมยันตีเธอเมื่อยขบ ซบองค์ลงด้วยความอ่อน นางก็นอนหลับกับธรณี ทมยันตีนารีรัตน์ เหนื่อยถนัดนางจึ่งนิทรา โอ้อนิจจาน่าสงสาร นิ่มนงคราญสุกุมารชาติ ทั้งบ่เคยขาดการกุศล มาต้องทนทุกข์แสนสาหัส ๏ นโล ราชา ๏ ฝ่ายจอมกษัตร์นลบพิตร์ ยามมิ่งมิตร์เสนหา สนิทนิทราอยู่แล้วนั้น ราชันเธอบ่มินอน เหตุด้วยภูธรหวลคำนึง รำพึงด้วยพระทรวงโศก วิโยคยากจากบุเรศร์ จากนิเวศน์วังหลวง จากปวงชนผู้ชอบพระไทย มาเดินไพรทุเรศระอา ว้าเหว่จิตอ้างว้าง อยู่ในกลางป่าสงัด ๏ เปรก๎ษย จิน์ตาม์ อุเปยิวาน์ ๏ จอมนิษัธเปล่าหฤทัย จึ่งตรึกไตรวินิจอยู่ ดังนี้ ฯ กึ นุ เม ส๎ยาท์ อิทํ ก๎ฤต๎วา | | | ๏ แม้กูทำกิจนั้น | | เกิดผล ดังฤๅ | กึ นุ เม ส๎ยาท์ อกุร๎วตห์ | | | ฤๅบ่ทำจักมี | | เหตุข้อง | กึ นุ เม มรณํ เศ๎รยห์ | | | แม้กูนิวายชนม์ | | จะสดวก ดีฤๅ | ปริต๎ยาค ชนัส๎ย วา | | | ฤๅจะควรจากน้อง | | มิ่งขวัญ | มาม์ อิยํ ห๎ยนุรัก์ไตว | | | ๏ แจ่มจันทร์จงรักแท้ | | แด่กู | ทุห์ขัม์ป๎ราป์โนติ มัต์ก๎ฤเต | | | หล่อนจึ่งต้องทนทุกข์ | | เทวศร้าว | มัท์วิหีนา ต๎วิยํ คัจ์เฉต์ | | | กูห่างเผื่อโฉมตรู | | จะกลับ | กทาจิต์ ส๎วชนัม์ ป๎รติ | | | สู่นิเวศน์วังท้าว | | บิตุรงค์ ฯ | มยิ นิห์สํศยํ ทุห์ขํ | | อิยัม์ ป๎ราป์ส๎ยัต๎ยนุวร๎ตา | ๏ แม้อนงค์จะติดต้อย | | ตามไป อีกแฮ | ไหนจะรอดทุกข์ทวี | | รอบข้าง | อุต์สร๎เค สํศยห์ ส๎ยาต์ ตุ | | วิน์เทตาปิ สุขํ ก๎วจิต์ ฯ | ๏ แม้แม่แยกครรไล | | ต่างหาก กูนา | เผื่อจะมีสุขบ้าง | | กระมัง | ๏ ส วินิศ๎จิต๎ย พหุธา วิจาร๎ย ปุนห์ ปุนห์ ๏ พระราชานั่งวินิจ ในดวงจิตเปนนาน ย้อนวิจารย์อีกเล่า เฝ้าไตร่ตรองเปนหลายหน แน่ฮือ ๏ อุต์สร๎คัม์ มัน๎ยเต เศ๎รโย ทมยัน์ต๎ยา นราธิปห์ ๏ พระภูวดลงวยงง จึ่งตกลงเห็นผิด คิดจะทิ้งทมยันตี ดีกว่าคงอยู่ด้วยกัน แน่นอ ฯ ๏ น ไจศา เตชสา ศัก๎ยา ไกศ๎จิท์ ธร๎ษยิตุม์ ปถิ ๏ อันนางประกอบด้วย | | ดียง | ยงดั่งเกราะกันองค์ | | เอกแก้ว | ยศัส๎วินี มหาภาคา | | มัท์ภัก์เตยํ ปติว๎รตา | แก้วเอยอ่ายศทรง | | ศรีรักษ์ | รักษ์ติดดวงจิตแล้ว | | แน่นแฟ้นฤๅจาง ฯ | ๏ เอวํ ตัส๎ย ตทา พุท์ธิร์ ทมยัน์ต๎ยาง น๎วร๎ตต ๏ พระพลางคิดเช่นนี้ ด้วยฤดีเคลิบเคลิ้มหลง ถึงอนงค์ทมยันตี มหิษีผู้ทรามสวาท ๏ กลินา ทุษ๎ฏภาเวน ทมยัน์ต๎ยา วิสร๎ชเน ๏ ด้วยอำนาจท้าวกลี ผู้มีอานุภาพร้าย กลายบันดาลดลใจ ให้เธอจำนงทิ้งเมียขวัญ ๏ โสวัส๎ต๎รตาม์ อาต๎มนัศ๎จ ตัส๎ยัศ๎จาเป๎ยกวัส๎ต๎รตาม์ ๏ อันพระองค์เองไซ้ร ไร้ผ้าทรงปรกกาย ฝ่ายโฉมฉายมหิษี ฤๅก็มีผืนเดียวปิด ๏ จิน์ตยิต๎วาภ๎ยคาท์ ราชา วัส๎ต๎ราท์ธัส๎ยาวกร๎ตนัม์ ๏ คิดเช่นนั้นแล้วไส้ร จึ่งไปใกล้อนงค์น้อง ปองจะปันผ้าห่ม แห่งทรามชมผืนเดียวนั้น ๏ กถํ วาโส วิกร๎เตยํ น จ พุเธ๎ยต เม ป๎ริยา ๏ ราชันนึกในพระไทย ทำฉันใดจะปันผ้า โดยชายายอดรัก บ่มิต้องพักรู้สึกตน ๏ วิจิน์ไต๎ยวํ นโล ราชา สภาม์ ปร๎ยจรัต์ ตทา ๏ องค์พระนลท่านไท้ จินไตยพลางทางเดินด้อม ในทับกระท่อมดูที ผิวะจะมีเครื่องมือใช้ ๏ ปริธาวัน์ อถ นล อิตัศ๎เจตัศ๎จ ภารต ๏ ปางนั้นไซ้รนะภารต พระนลลดเลี้ยวมอง หาสิ่งปองปราถนา เพื่อตัดผ้าแห่งนฤมล ๏ อสสาท สโภท์เทโศ วิโกศํ ขัฑ๎คัม์ อุต์ตมัม์ ๏ เที่ยวค้นในทับนั้น มิช้าพลันพบดาบ อันคมปลาบเหล็กดี แต่จะมีฝักนั้นก็หามิได้ ๏ เตนาร๎ท์ธํ วาสสัศ๎ จิต์ต๎วา นิวัส๎ย จ ปรัน์ตปห์ ๏ ท้าวไทเธอเอาดาบนั้น ฟันผ้าห่มเปนสองท่อน ภูธรห่มภาคหนึ่ง ซึ่งพอปรกปิดพระกาย ๏ สุป์ตาม์ อุต์ส๎ฤช๎ย ไวทร๎ภีม์ ป๎ราท๎รวัท์ คตเจตนห์ ๏ เห็นโฉมฉายไวทรรภี หลับสนิทดีอยู่ไส้ร จึ่งท้าวไทผู้ใจหลง หนีจากองค์อรรคชายา ผู้เปนแก้วแววตา นั้นแล ฯ
๏ ตโต นิว๎ฤต์ตห๎ฤทยห์ ปุนร์ อาคัม๎ย ตาง สภาม์ ๏ ราชาแม้เคลิ้มจิต หวลคิดถึงนิ่มเนื้อ อยากใคร่เห็นอีกเทื้อ กลับเข้าในทับ นั่นนา ทมยันตึ ตทา ท๎ฤษ๎ฏ๎วา | | รุโรท นิษธาธิปห์ ฯ | ๏ พิศงามสรรพสมรศรี ทมยันตีนิ่มน้อง จอมนิษัธรํ่าร้อง โรทไห้หวลครวญ ดังนี้ ฯ ๏ ยาง น วายุร์ น จาทิต๎ยห์ | | ปุรา ปัศ๎ยติ เม ป๎ริยัม์ | ๏ โฉมนวลนาเรศร์แก้ว | | กลอยใจ พี่อา | ลมแดดบ่เคยราญ | | นิ่มน้อง | เสยัม์ อัท๎ย สภามัเธ๎ย | | เศเต ภูมาว์ อนาถวัต์ | จำนอนอยู่กลางไพร | | ดินต่าง เตียงแฮ | โอ้อนาถคลาศห้อง | | ห่างผัว | อิยํ วัส๎ต๎ราวกร๎เตน | | สํวีตา จารุหาสินี | ๏ ตัวมีผ้าห่มหุ้ม | | เพียงกึ่ง เดียวนอ | แม่สิเคยยิ้มหัว | | ห่างเศร้า | อุน์มัต์เตว วราโรหา | | กถัม์ พุท์ธ๎วา ภวิษ๎ยติ | มาทุกข์แทบจะถึง | | เสียสติ เจียวแม่ | ยามตื่นขึ้นแล้วเจ้า | | จักหมอง | กถัม์ เอกา สตี ไภมี | | มยา วิรหิตา ศุภา | ๏ อาน้องแต่บัดนี้ | | จำอยู่ เดียวนา | ผัวสิทอดทิ้งไป | | ดุจแกล้ง | จริษ๎ยติ วเน โฆเร | | ม๎ฤคว๎ยาลนิเษวิเต | เดินทางหว่างไพรผลู | | พาลมฤค มากแฮ | จักตระหนักอกแห้ง | | เหี่ยวใจ | อาทิต๎ยา วสโว รุท๎รา | | อัศ๎วิเนา สมรุท์คเณา | ๏ อ้าไท้อาทิตย์ทั้ง | | วสุยง ยศแฮ | รุทระแลอัศวิน | | แกว่นกล้า | รัก์ษัน์ตุ ต๎วาง มหาภาเค | | ธร๎เมณาสิ สมาว๎ฤตา ฯ | ทวยเทพประเสริฐทรง | | โลกรัก ษาแม่ | ธรรมะอันหล่อนค้า | | ช่วยถนอม ฯ | ๏ เอวัม์ อุก์ต๎วา ป๎ริยาม์ ภาร๎ยาง รูเปณาป๎รติมาม์ ภุวิ ๏ จอมกษัตร์ตรัสเช่นนั้น แด่แจ่มจันทร์ผู้ภรรยา อันหารูปนางใด ไม่เทียมเท่าในแดนดิน ๏ กลินาปห๎ฤตัช๎ญาโน นลห์ปราติษ๎ฐัท์ อุท๎ยตห์ ๏ แต่ภูมินทร์นลราช กลีผีกาจเข้าดลใจ จนคลั่งไคล้เวียนวิง ธจึ่งทอดทิ้งชายา ฯ คัต๎วา คัต๎วา นเล ราชา | | | ๏ ราชาไปพ้นกลบ | | เวียนวน กลับแฮ | ปุนร์ เอติ สภาม์ มุหุห์ | | | วนกลับดูนฤมล | | อีกเทื้อ | อาก๎ฤษ๎ยมาณห์ กลินา | | | เทื้อใดกลีดล | | ใจหาก ไปนา | เสาห๎ฤเทนาวก๎ฤษ๎ยเต | | | หากรักชักดุจเชื้อ | | ท่านไท้ คืนคง ฯ | ๏ ท๎วิเธว ห๎ฤทยํ ตัส๎ย ทุห์ขิตัส๎ยาภวัต์ ตทา ๏ งวยงงเพื่อทุกข์ใหญ่ ปั่นป่วนไปบ่มิหยุดหย่อน อกภูธรราวกับแยก แตกเปนสองภาคแพร่ง ๏ โทเลว มุหุร์ อายาติ ยาติ ไจว สภาม์ ป๎รติ ๏ แกว่งไกวอยู่เช่นชิงช้า พาให้จรจากทับ แล้วหวลกลับคืนไป เปนได้หลายหนฉนี้ ฯ ๏ อวก๎ฤษ๎ฏัส๎ ตุ กลินา | | | ๏ กลีผีร้ายคร่าห์ | | พระนล ท่านนา | มหิตห์ ป๎ราท๎รวัน์ นลห์ | | | นลราชโมหะดล | | จึ่งลี้ | สุป์ตาม์ อุต๎ส๎ฤช๎ย ตาม์ ภาร๎ยาง | | | ลี้จากภริยายล | | ยังหลับ อยู่แม่ | วิลัป๎ย กรุณัม์ พหุ | | | หลับแต่ทุกข์จ่อจี้ | | นาฎน้อยครวญคราง | นัษ๎ฏาต๎มา กลินา ส๎ฤษ๎ฏัส๎ | | | ๏ ปางนั้นกะลิร้าย | | จูงใจ พระเอย | ตัต์ ตัท์ วิคณยัน์ น๎ฤปห์ | | | ใจกลับหวลคนึงใน | | ละห้อย | ชคาไมกาง วเน ศูณ๎เย | | | ละห้อยจู่เข้าไพร | | ไกลจาก ทับแฮ | ภาร๎ยาม์ อุต์ส๎ฤช๎ย ทุห์ขิตห์ ฯ | | | จากอนุชแน่งน้อย | | นึกเศร้าทรวงศัลย์ ฯ | ๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๑๐ ดังนี้ ฯ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 มิถุนายน 2560 16:23:11 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2560 16:07:59 » |
|
สรรคที่ ๑๑๏ อปก์ราน์เต นเล ราชัน์ ทมยัน์ตี คตก๎ลมา ๒๘๏ ปางนั้นมิช้า พอนลราชา ประเวศไพรวัน นางทมยันตี นารีเลอสรร นอนหลับแล้วนั้น พอหนำสำราญ ๏ จึ่งนางเอวอ่อน พลิกฟื้นตื่นนอน ที่ในไพรสาณฑ์ นางอยู่เอกา กลางป่ากันดาร มิ่งเยาวมาลย์ ร้อนราญฤดี ๏ มองทั่วกระท่อม ไม่เห็นพระจอม กษัตร์สามี นางโศกสาหัส ทุกข์รัดฤดี เยาวยอดนารี โรทร้องเรียกหา ฯ
๏ หา นาถ หา มหาราช ๑๖๏ อ้าองค์นิษัธราชา นาถะภรรดา พระองค์เสด็จหนไหน ๏ มหาราชาทรงไชย พระอยู่หนใด พระองค์ผู้อยู่เหนือหัว ๏ อ้าทูลกระท่อมจอมผัว น้องนี้เหลือกลัว ไฉนพระทิ้งกลางดง ๏ โอ้โอ๋ครานี้เหลือพะวง ทิ้งไว้ให้หลง พระองค์มาทอดทิ้งไฉน ๏ อยู่เดียวอนาถหวาดใจ จะเหลียวพึ่งใคร ในป่าระหงดงดอน ๏ อ้าพระองค์เอกอดิศร ทรงธรรมสุนทร ธรรมะบ่มีละเลย ๏ อันสัจวาทีที่เคย เปนนิตย์ชูเชย จะเสียซึ่งสัตย์ฤๅไฉน ๏ คำมั่นสัญญาใด ๆ อันองค์ทรงไชย เธอได้ประทานนานมา ๏ แม้ทิ้งมิ่งมิตร์กนิษฐา ก็เสียสัตยา นุสัตย์ที่ตรัสพาที ๏ อ้าพระปิยราชสามี ทิ้งน้องหมองศรี เช่นนี้ฤๅได้ใจร้าย ๏ เมียฤๅมั่นคงจงหมาย ตราบเท่าวันตาย ไม่ทิ้งพระผู้ภรรดา ๏ ทั้งจิตและกายวาจา มิเคยสักครา จะคิดทำนองปองภัย ๏ ถึงแม้พระองค์ทรงไชย ต้องคับแค้นใจ มิใช่ว่าน้องปองทำ ๏ เสียแรงพระให้ถ้อยคำ มั่นคงยงยำ จะถอนซึ่งถ้อยเธอไฉน ๏ พูดแล้วคืนคำฉันใด เช่นนั้นภูวนัย ก็เสียซึ่งสัตย์ปฏิญญาณ ๏ ต่อหน้าเทวราชโลกบาล สถิตสถาน ท่ามกลางกษัตร์สมาคม ๏ ปางนั้นพระองค์บรมรัตนนโรดม สัญญาแก่ข้ามั่นไว้ ๏ อันชนในแดนโลกัย ถึงกาลเมื่อใด ไม่แคล้วอำนาจมฤตยู ๏ เหตุฉนี้ตูข้าย่อมรู้ ผัวทิ้งแล้วอยู่ เพียงครู่หนึ่งแล้วมรณา ๏ อ้าองค์ปิยราชภรรดา อย่าหลอนภรรยา ผู้สั่นระรัวกลัวภัย ๏ จะแสร้งแฝงองค์อยู่ใย ขอเชิญชื่นใจ เสด็จมาหาเถิดบดี ๏ อ้อข้าเห็นพระสวามี เธอแอบอินทรีย์ ฤๅนึกว่าน้องบ่มิเห็น ๏ เหตุไฉนภูธรซ่อนเร้น หลังพุ่มอันเปน ลับแลกําบังสายตา ๏ ตรัสเถิดตรัสเถิดราชา อย่าเย้าภรรยา จงตรัสให้วายหายกลัว ๏ อ้าพระราเชนทร์เหนือหัว ดูเถิดความกลัว จนน้องนี้สั่นขวัญหาย ๏ เหตุใดไม่มาดังหมาย ปลอบน้องเพื่อวาย วิตกวิโยคโศกศัลย์ ๏ ส่วนตัวแห่งข้าเองนั้น ไม่พักจาบัลย์ เพื่อความเปนห่วงบ่วงใย ๏ ถึงแม้มีเหตุใด ๆ แด่ตัวเองไซ้ร ไม่พักวิตกวกวน ๏ คิดแต่ถึงพระภูวดล อยู่เดียวกมล จะเปลี่ยวจะเปล่าเศร้าหมอง ๏ นึกถึงพระทูลหัวน้อง น้องจักใคร่ร้อง ใคร่โรทพะวงสงสาร ๏ โอ้ว่าพระนลภูบาล โอ้อกโอ้ป่าน ฉนี้จะยากบากไฉน ๏ หิวโหยโรยราระอาใจ อดซํ้าจำไป ในป่าในดอนอ่อนระอา ๏ โอ้พระจะเหลียวแลหา เผื่อเห็นชายา ผู้เคยเปนเพื่อนสุขพูล ๏ ไม่เห็นน้องใต้รุกขมูล โอ้พระนเรนทร์สูร จะครํ่าจะครวญหวลหา ฯ
๏ ตตห์ สา ติว๎รโศการ๎ตา ๒๘๏ ครวญพลางนางแก้ว หฤทัยท่วม แล้ว ด้วยโศกเหลือตรา ประหนึ่งไฟฟอน ร้อนรุมอุรา โอ้อนิจจา ทุกขาทวี ๏ นิ่มนฤมล วิ่งวกเวียนวน หาพระสามี โรทร่ำกำสรวล คร่ำครวญโศกี ทุกข์ท่วมฤดี อึงมี่ไปมา ๏ ผุดลุกขึ้นมอง ทั่วทั้งในห้อง ทั้งนอกชายคา ไม่แลเห็นองค์ ยศยงราชา ก็ซุดกายา โศการํ่าไร ๏ บ้างนั่งนิ่งข่ม บังคับอารมณ์ อมโศกแต่ใน บ้างร้องอูนโอด โรทร้องก้องไพร เรียกพระภูวนัย ร้องไห้อยู่พลาง ๏ ระบมอมโศก ทรวงแสนวิโยค โศกในอกนาง ทอดถอนฤทัย รํ่าไห้ครวญคราง โอ้อกอ้างว้าง อยู่กลางดงดอน ๏ โฉมนางไภมี ผู้มหิษี วิสุทธิสมร คิดถึงพระนล ที่ทนทุกข์ร้อน จึ่งองค์เอกอร เปล่งสุรวาที ฯ
๏ ยัส๎ยาภิษาปาท์ ทุห์ขร๎โต ทุห์ขํ วิน์ทติ ไนษธห์ ๑๖๏ ผู้ใดเปนผู้อัปรี แกล้งกล่าววจี ที่แช่งฉกาจฉกรรจ์ ๏ จนองค์พระนลทรงธรรม์ ต้อง เศร้าทรวงศัลย์ และทุกข์ลำบากยากใจ ๏ ตัส๎ย ภูตัส๎ย โน ทุห์ขาท์ ทุห์ขัม์ อัภ๎ยธิกัม์ ภเวต์ ๏ ขอจงผู้นั้นจัญไร รับทุกข์ฤทัย จงท่วมด้วยความทุกข์มทันต์ ๏ จงทุกข์ยิ่งยวดกวดขัน ทุกข์กว่าทรงธรรม์ ผู้ทุกข์ทุเรศเวทนา ๏ อปาปเจตสัม์ ปาโป ย เอวํ ก๎ฤตวาน์ นลัม์ ๏ อันผู้ประสงค์ชั่วช้า และเจตนา ดลจิตพระนลหม่นหมอง ๏ อันผู้ทุจริตคิดปอง ให้ร้ายก่ายกอง ขอร้ายกระทบกระทั่งตน ๏ ตัส๎มาท์ ทุห์ขตรัม์ ป๎ราช๎ย ชีวต๎วสุขขีวิกาม์ ๏ ผู้คิดระยำทำวน จงแพ้ภัยตน และผลจุ่งมากมวลมี ๏ ตลอดยามยังชีวี ขอสุขอย่ามี ทวีแต่ทุกข์นิรันดร ฯ
๏ เอวํ ตุ วิลปัน์ตี สา ราช๎โญ ภาร๎ยา มหาต๎มนห์ ๒๘๏ ครวญพลางกันยา มิ่งเมียราชา ผู้เอกองค์อร คำนึงถึงองค์ ผู้พงศ์อดิศร ทรวงเศร้าเร่าร้อน บ่หย่อนโหยหา ๏ จึ่งนิ่มนฤมล เที่ยวมองปองค้น ด้นหาภัสดา ที่ในไพรสูง อันฝูงผีป่า มักเที่ยวไปมา เริงร่าสราญ ๏ ภีมะสุดา ราวจักเปนบ้า เที่ยวหาภูบาล คันพลางโรทร้อง กู่ก้องไขขาน ที่ในไพรสาณฑ์ กังวาฬทั่วไป ๏ หา หา ราชัน์ ๑๖๏ โอ้ทูลกระท่อมแก้วไปไหน โอ้ภูวนัย ขอเชิญเสด็จคืนมา ๏ มุหุร์ อิตัศ๎เจตัศ๎จ ธาวติ ๒๘๏ เสียงนางโหยหวล โรทรํ่าคร่ำครวญ ในแนวพนา เสียงนางกู่ดัง กระทั่งภูผา เสียงก้องกลับมา โอ้ ๆ ไปไหน ๏ โอ้อนิจจา สงสารกานดา ครวญครํ่ารํ่าไร เสียงราวนกเหยี่ยว เที่ยวโศกาลัย รํ่าพลางทางไป ในป่าอารัญ นั้นแล ฯ
๏ สหสาภ๎ยาคตาม์ ไภมีม์ ๒๘๏ ปางเมื่อไภมี องค์อรรคนารี ประเวศไพรวัน พะเอินเดินไป ใกล้โพรงหนึ่งอัน นางมิสำคัญ ว่าอันตราย ๏ จึ่งงูตัวใหญ่ โผล่จากโพรงไพร กระหวัดโฉมฉาย งูนั้นกำยำ ลํ่าสันทั่วกาย ทั้งมีโรค ร้าย คืออดอาหาร ๏ ยามงูกระหวัด ไว้ได้ถนัด รัดแน่นเยาวมาลย์ ยามนึกถึงองค์ บ่พะวงสงสาร โศกถึงภูบาล พระผู้ภรรดา ๏ หา นาถ มาม์ อิห วเน ค๎รัส๎มานาม์ อนาถวัต์ ๑๖๏ อ้าองค์พระผู้นาถา ที่พึ่งภรรยา มาเริศมาร้างห่างไป ๏ ยามตูข้ามากลางไพร เพราะเหตุที่ไร้ ที่พึ่งจึ่งถึงอันตราย ๏ ยามงูกำแหงแรงร้าย รึงรัดตวัดกาย ไว้แน่นบ่มีทางหนี ๏ ไฉนเล่าผ่านเกล้าเกศี ผู้เปนสวามี มิช่วยให้เมียพ้นภัย ๏ โอ้จอมนิษัธทรงไชย แม้ว่าเมื่อใด พระองค์คนึงถึงน้อง ๏ ทรงฤทธิ์จิตคงเศร้าหมอง เสียจิตคิดข้อง คิดขัดอึดอัดหฤทัย ๏ เมื่อยามพ้นสาปแล้วไซ้ร พระองค์ทรงไชย จะสิ้นพระเคราะห์เจาะจง ๏ เมื่อนั้นจักได้คืนคง ทุกสิ่งดังประสงค์ ทั้งจิตทั้งทรัพย์มากมี ๏ แต่ว่าในกาลบัดนี้ โอ้ภูบดี ทั้งอดทั้งอยากยากกาย ๏ ยามอดอาหารปานตาย ฤๅยามระหาย ระหวยและร้อนอ่อนใจ ๏ โอ้สมิงมิ่งคนสุรไกร จะได้ผู้ใด เปนเพื่อนในพงดงดอน ๏ โอ้โอสงสารภูธร เมียมาม้วยมรณ จะเดินผู้เดียวเอกา ฯ
๏ ตตห์ กัศ๎จิน์ ม๎ฤคว๎ยาโธ ๒๘๏ ปางนั้นพรานไพร อันหากินได้ โดยไล่มฤคา ถึงกาลกำหนด ก็จรดเที่ยวหา พะเอินเดินมา ทางป่าภาคนี้ ๏ ยินเสียงแจ่มจันทร์ ครวญครํ่ารำพรรณ สำเนียงอึงมี่ พรานนึกฉงน รีบด้นจรลี ด่วนไปยังที่ นารีรัตนา ๏ ครั้นเห็นอนงค์ ผู้เอกอรองค์ นงลักษณ์งามตา ถูกอุรคไพร ตัวใหญ่มหิมา รัดไว้แน่นหนา เกรงว่าจะตาย ๏ ฝ่ายว่านายพราน ผู้เชี่ยวชำนาญ การฆ่าทั้งหลาย จึ่งโลดโดดไป แทงได้ดังหมาย ถูกปากงูร้าย งูตายด้วยพลัน ๏ ครั้นช่วยนฤมล ให้รอดได้พ้น จากงูใหญ่นั้น พรานหานํ้าใส มาให้ขมีขมัน เพื่อนางแจ่มจันทร์ ชำระองค์อร ๏ นายมฤคชีวัน จึ่งเที่ยวเลือกสรร ผลไม้ดงดอน มาถวายนารินทร์ พอกินแก้ร้อน แล้วกล่าวสุนทร ถามอรไทย ๏ กัส๎ย ต๎วัม์ ม๎ฤคสาวาก์สิ ๑๖๏ อ้านางแน่งน้อยคือใคร ทรงโฉมวิไลย งามเนตรดังเนตรมฤคา ๏ เหตุไฉนนางแก้วโสภา จึ่งซัดเซมา ในกลางพนัสแนวดง ๏ ด้วยเหตุดังฤๅเล่าอนงค์ จึ่งทนทุกข์ทรง อนาถลำบากยากเข็ญ ๏ ดังฤๅมีเหตุอันเปน ให้นางลำเคญ ลำบากนักหนาครานี้ ฯ
๏ ทมยัน์ตี ตถา เตน ป๎ฤจ์ฉ๎ยมานา ๒๘๏ ทมยันตีงาม กำลังมีความ ทุกข์ทับทวี ได้ฟังพรานป่า ถามมาโดยดี จึ่งมารศรี ไมตรีต่อพราน ๏ องค์ อรรคเรศร์ แถลงแจ้งเหตุ เภทภัยที่พาล เล่าสิ้นทุกสิ่ง ตามจริงไขขาน ถ้วนทุกประการ แด่พรานด้วยดี ๏ ตาม์ อ๎รท์ธวัส๎ต๎รสํวีตาม์ ๑๖๏ โฉมนาง แน่งน้อยนารี ผ้าทรงอนงค์มี เพียงกึ่งซึ่งปิดวรกาย ๏ ปีนโศร๎ณิปโยธราม์ ๏ โสณีกล่อมกลมคมคาย ทั้งทรวงโฉมฉาย ก็เต็มก็เต่งเร่งชม ๏ สุกุมารานวัท๎ยางคึ ๏ ดูรูปแน่งน้อยกลอยรมย์ ดูน่านิยม ดังรูปนิมิตร์วิจิตร์มา ๏ ปูร๎ณจัน์ท๎รนิภานนาม์ ๏ พิศวงวงพักตร์ลักษณา งามดังจันทรา จำรัสจังหวัดนิภาพร ๏ อราลปัก์ษ๎มนยนาม์ ๏ งามเนตร์ดังดารากร งามขนงก่งงอน ดังศรสมเด็จมัฆวาน ๏ ตถา มธุรภาษินีม์ ๏ แสนเสนาะเพราะเสียงนงคราญ สุนทรอ่อนหวาน ปานมธุรสจดฤทัย ๏ ลัก์ษยิต๎วา ม๎ฤคว๎ยาธห์ กามัส๎ยวศัม์ อียิวาน์ ๒๘๏ นายมฤคพยาธ พิศโฉมวรนาฎ ประหลาทปลาบใจ ยิ่งพิศยิ่งรัก เหลือหักรักได้ ดวงจิตพรานไพร ยิ่งใฝ่วนิดา ๏ พรานค่อยเมียงมอง ยิ่งพิศจิตปอง นวลลอองโสภา จึ่งกล่าวสุนทร โอนอ่อนวาจา หวังให้วนิดา เมตตาแก่ตน ๏ พรานหวังตั้งจิต พูดจาสนิท ชิดนิ่มนฤมล จึงนางโฉมตรู เล็งรู้แยบยล ว่าพรานทุรชน กลจะลวนลาม ฯ
๏ ทมยัน์ต๎ยปิ ตํ ทุษฏัม์ อุปลัภ๎ย ปติว๎รตา ๒๘๏ องค์ทมยันตี จงรักภักดี บ่มีเสื่อมทราม ฟังคำพรานไพร เข้าใจเนื้อความ มันนั้นมักกาม หยาบหยามสามาญ ๏ อรไทยพิโรธ ยิ่งคิดยิ่งโกรธ ติโทษนายพราน ความแค้นแน่นหนัก นงลักษณ์เดือดดาล ประหนึ่งไฟราญ ผลาญเผาวิญญา ๏ ส ตุ ปาปมติห์ ก๎ษุท๎รห์ ๏ ฝ่ายอ้ายคนชั่ว กามะมืดมัว ใจตัวหยาบช้า จึ่งเพ่งเล็งคิด ขืนจิตวนิดา เพื่อสมปราถนา กามาภิรมย์ ๏ มันยืนชะแง้ พิศเพ่งเล็งแล นึกแน่นิยม แต่ดูราวเพลิง เริงร้อนระทม เกรงว่าจะชม ไม่สมจินดา ๏ ทมยัน์ตี ตุ ทุห์ขาร๎ตา ๏ ฝ่ายทมยันตี ทุกข์ท่วมฤดี มืแต่โศกา ซํ้าพรากบดี เปนที่พึ่งพา อีกไร้ปวงรา ไชสูรยะสรรพ์ ๏ นางนึกตรึกตรา ว่าเกินเวลา จะพูดกับมัน จึ่งเปล่งสุรวาท ประกาศไปพลัน สาปพรานไพรอัน สัปปลับอัปรี ๏ ยถาหํ ไนษธาท์ อัน๎ยัม์ มนสาปิ น จิน์ตเย ๑๖๏ ด้วยเดชะข้าภักดี ต่อองค์ภูมี ผู้จอมนิษัธปัถพิน ๏ ซื่อตรงจงรักประจักษ์จินต์ แต่พระภูมินทร์ ทั้งกายและวาจาใจ ๏ ตถายัม์ ปตตาง ก๎ษุท๎ร ปราสุร์ ม๎ฤค ชีวนห์ ๏ ขอมฤคชีวันจัญไร ผู้ทุจริตใจ ประสงค์จะล่วงประเวณี ๏ จงล้มลงแทบปัถพี มอดม้วยชีวี อย่าทันให้สมใจหมาย ๏ อุก์ตมาเต๎ร ตุ วจเน ๒๘๏ พอขาดคำแช่ง ด้วยเดชะแห่ง บารมีโฉมฉาย นายพรานก็ล้ม ระทมทอดกาย ประหนึ่งต้องสาย ฟ้าฟาดขาดใจ นั้นแล ฯ ๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๑๑ ดังนี้ ฯ สรรคที่ ๑๒ ๏ สา นิหัต๎ย ม๎ฤคว๎ยาธัม์ ป๎รตัส๎เถ กมเลก์ษณา ๏ พ้นภัยพาลพาดพ้อง | | อรองค์ แก้วเอย | นางกมลเนตร์ตรง | | ไต่เต้า | วนัม์ ป๎รติภยํ ศูน๎ยํ ณิล์ลิกาคณนาทิตัม์ เข้าสู่ประเทศดง | | แดนเปลี่ยว | เสียงแต่เรไรเร้า | | ยั่วเย้าเย็นใจ ฯ | ๏ พ้นภัยพาลพาดพ้อง หมดสิ่งข้องขัดทางไป โฉมนางสำอางค์นัยน์ รีบครรไลสู่ไพรพง ๏ สงสารเยาวเรศร์ ประเวศเดียวเปลี่ยวในดง เดินในไพรระหง เรไรเร้าเศร้าวิญญา ๏ แลดูเห็นหมู่สัตว์ วิ่งเลาะลัดอยู่ไปมา ส่ำสิงห์วิ่งโผนผา พยัคฆาและเสือดาว ๏ ฝูงกวางค่อยย่างเยื้อง แลชำเลืองขนเหลืองวาว กระทิงวิ่งวู่ฉาว หมีขนยาวสนิทนิล ๏ แลดูหมู่ปักษา มีนานาลงหากิน บ้างโดดโลดบนดิน บ้างบินว่อนแล้วร่อนลง ๏ แนวพงดงดอนเปลี่ยว เปนที่เที่ยวฝูงคนดง ดัสกรก็ว่อนวง คอยข่มเหงบ่เกรงใคร ๏ แลดูหมู่พฤกษา มีนานาชอุ่มใบ ต้นรังบังสูรย์ใส อีกต้นไผ่กอกำยำ ๏ มะขามและมะเดื่อ อีกมะเกลือสนิทดำ อิงคุทสุดงามลํ้า กิงศุกลำต้นพ่วงพี ๏ อรชุนดอกขาวก่อง ดอกคำผ่องเหมือนทองดี งิ้วแดงส่องแสงสี ดีดูเพลินจำเริญตา ๏ ชมพูชมภูดี ราวกับสีสะพัตรา มะม่วงกาญจนา เนื้ออ่อนเหลืองเรืองรองราย ๏ สีเสียดช่างเสียดสี เหมือนนารีสีเสียดชาย เจ็บยามถูกหนามหวาย ไม่เหมือนเจ็บเล็บมือนาง ๏ ประทุมสีแดงจ้า ชื่นนาสาไม่จืดจาง แม้ผัวเปนเพื่อนทาง ช่วยชมพลางหว่างมรรคา ๏ หอมกลิ่นกลัมพัก อกแทบหักเจียวพี่อา คิดยามอยู่ภารา เคยอบผ้าให้เธอทรง ๏ ถึงต้นอุฑุมพร โอ้อกอ่อนระทวยองค์ นึกคราราชาสรง พระเคยนั่งตั่งหรรษา ๏ ไทรย้อยละห้อยจิต คิดคำนึงถึงภรรดา ยามครองป้องราชา เหมือนไทรร่มพระสมภาร ๏ ต้นหมากนึกหมากเมี่ยง เคยเลี้ยงในพระโรงธาร ต้นตาลนึกใบตาล อยู่งานพัดจอมปัถพี ๏ รุกขชาติกลาดเกลื่อนตา พรรณนานามากมวลมี ดูพลางหว่างวิถี พอเพลิน ๆ เดินดูไป ฯ ๏ นานาธาตุศไตร์ นัท์ธาน์ วิวิธาน์ อปิ จาจลาน์ ๏ ส่ำไศลแลวากเวิ้ง | | วงผา | ผากอปธาตุนานา | | หลากล้น | นิกุญ์ชาน์ ปริสํฆุษ๎ฏาน์ ทริศ๎จาท์ภูตทร๎ศนาห์ ล้นหลามเหล่าพฤกษา | | | ดาษประหนึ่งสวนพ้น | | เพริศพริ้งเพลินตา ฯ | ๏ ส่ำไศลแลวากเวิ้ง เปนชั้นเชิงชะเวิกผา ผงาดธาตุนานา แกมประกอบดูชอบกล ๏ พฤกษามีดาดาษ สอาดตาดูน่ายล เย็นรื่นชื่นกมล ราวสวนหลวงลวงหลอกตา ๏ เดินผ่านธารนํ้าใส ไหลลงสระชะเชิงผา วาปีมีบุษบา หมู่มัจฉาว่ายเวียนวน ๏ สัตว์อยู่ดูหลายชาติ ทวิบาทซร้องสับสน โผแผลวสู่แนวพน จัตุบทจรดจร ๏ สัตว์ส่ำดูกำแหง ร่างกายแขงแรงเริงรอน โอ้อนงค์เอกองค์อร หล่อนขยาดเจียนขาดใจ ๏ แลโพ้นโน่นงูหลาม เลื้อยเล่นตามเหลี่ยมไศล รากษสลดเลี้ยวไป ไล่ผีป่าน่าสยอง ๏ รีบไปไม่ยั้งยับ จนนางถับแทบริมหนอง นํ้าใสไม่มีฟอง ราวคันฉ่องส่องฉายา ๏ ยอดผาสง่าแง่ แลตระหง่านลานลายตา สูงเยี่ยมเทียมเวหา พาให้นึกตรึกตรอมใจ ๏ คิดถึงปรางค์ปราสาท ในพระราชนิเวศใน อันองค์อดิศัย เธออยู่เย็นเปนหรรษา ๏ นํ้าพุพุ่งกระเซ็น กระแสเย็นเยือกกายา เหมือนบัวสุวรรณา ท่อธาราที่เคยสรง ๏ กายนางพลางชุ่มนํ้า แต่อกชํ้าแห้งเปนผง คำนึงถึงพระองค์ ปิยราชขาดปรีดี ๏ คิดพลางนางงามสรรพ องค์วิทรรภสุดาศรี ดูสัตว์สารพัตมี ในป่าดงระหงดอน ๏ กระทิงมหิงษา แลหมูป่าฝ่าดงจร หมีใหญ่ใฝ่ภมร อีกงูป่าน่าพิศวง ๏ แม้สัตว์ที่ดุร้าย บ่มิกลายกลํ้าอนงค์ เดชะสัตยายง องค์ประจักษ์ลักขณา ๏ นางซื่อถือความรัก สามิภักดิ์แด่ภรรดา สัตว์ร้ายหมายบีฑา จึ่งแพ้บารมีนาง ๏ รากษสและปิศาจ ต่างขยาดบ่อาจขวาง ต่างไปให้พ้นทาง ที่สุรางค์จะครรไล ๏ เดินเดียวเปลี่ยวอกเศร้า ราวเพลิงเผาเร่าร้อนใน ครวญคร่ำร่ำพิไร ไปเที่ยวหาพระสามี ๏ ธิดาภีมะราช บ่ขยาดภัยยายี พาลภัยใด ๆ มี แด่องค์เองไม่เกรงกลัว ๏ เดินทางหว่างไพรสาณฑ์ เยาวมาลย์ย่อมลืมตัว คำนึงถึงแต่ผัว กลัวแทนองค์พระทรงไชย ๏ ครวญคร่ำกำสรวลโศก เพื่อวิโยคภูวนัย ทุกข์ชํ้าระกำใจ เฝ้าโหยไห้ถึงภรรดา ๏ เกรงพระจะทุกข์ยาก จะลำบากยากกายา หิวโหยจะโรยรา จะอ้างว้างกลางดงดอน ๏ โศกศัลย์สั่นระรัว สั่นไปทั่วทั้งองค์อร ยืนจอดยอดสิงขร บังอรพร่ำร่ำร้องหา ฯ ๏ ว๎ยูโฒรัส๎ก มหาพาโห | | ไนษธานาง ชนาธิป | ๏ อ้าองค์ไนษัธเจ้า | | จอมประชา | แรงอุระพระพาหา | | ผึ่งกว้าง | ก๎ว นุ ราชัน์ คโตสีห์ | | ต๎ยัก์ต๎วา มาง วิชเน วเน | ไฉนทิ้งกนิษฐา | | ไว้เอก องค์นอ | ในพนัสอ้างว้าง | | ห่างบ้านเรือนคน ฯ | ๏ อ้าองค์ไนษัธเจ้า ผู้ผ่านเผ้าประชาชน อกใหญ่ไหล่วิมล สกนธ์อ่าพาหาผาย ๏ เหตุไฉนไปจากน้อง ทิ้งให้หมองอยู่เดียวดาย ในป่าน่าใจหาย ห่างถิ่นฐานบ้านเรือนคน ๏ อันองค์พระทรงเดช อัศวเมธทำกี่หน เส้นสรวงบำบวงบน บ่มิเว้นเส้นสรวงสรรค์ ๏ เหตุไฉนทรงสวัสดิ์ ผู้ทรงสัตย์ธำรงธรรม์ ลืมคำซึ่งสำคัญ สัญญาไว้ให้ภรรยา ๏ อ้าองค์ทรงเทริดหัว ผัวประเสริฐเลิศโลกา อันรสพจนา ว่าแก่น้องตรองจงดี ๏ รำฦกแลตรึกไตร สัญญาไว้สัจจะวาที นานช้ามาหลายปี ก่อนพิธีสยมพร ๏ จงจำคำหงส์ทอง รับคำน้องทูลสุนทร ลืมคำที่รํ่าวอน โอภูธรลืมไฉน ๏ หงส์ทองแถลงคำ พระองค์ซํ้าพูดจริงใจ ต่อหน้าข้าเองไซ้ร จำไม่ได้ฤๅราชา ๏ อันพระจัตุรเวท แสนวิเศษเหลือจะตรา คัมภีร์มีนานา ย่อมกล่าวมาเหมือน ๆ กัน ๏ ยกสัจจะวาที เปนของดีเลิศเลอสรร พระองค์ผู้ทรงธรรม์ ย่อมรู้แจ้งแห่งหฤทัย ๏ ขอองค์พระผู้ผลาญ ศัตรูพาลแหลกประไลย ยกสัตย์จัดเปนใหญ่ ให้เนาแน่นแฟ้นอุรา ๏ อย่าลืมพจนาท อันประกาศให้สัญญา ขอวีระราชา อย่าคืนคำจุ่งจำไว้ ๏ อันข้าผู้เปนเมีย มีที่เสียในข้อใด สิ้นรักฤๅไฉน ตัดอาไลยไม่ไยดี ๏ กลางไพรโอ้ไร้ผัว อันความกลัวมากมวลมี น้องเพรียกเรียกโดยดี เหตุไฉนพระไม่ขาน ฯ ภัก์ษยัต๎เยษ มาง เราโท๎ร | | ว๎ยาต์ตาโส๎ย ทารุณาก๎ฤตห์ | อรัณ๎ยราฏ์ ก๎ษุธาวิษ๎ฏห์ | | กิม์ มาง น ต๎ราตุม์ อร๎หสิ | ๏ เห็นอรัณยราชร้าย | | แรงหาญ | ปากใหญ่รูปลํ่าปาน | | กระสอบเข้า | มันจ้องจะปองผลาญ | | ชีวิตร์ | โอ้พระสถิตเกล้า | | ปล่อยน้องตายไฉน ฯ | ๏ เห็นอรัณยราชร้าย ตัวเหลืองลายแรงเริงไกร ปากอ้ากายาไซ้ร เท่าถุงใหญ่ใส่สาลี ๏ มันจ้องจะปองผลาญ เปนอาหารไม่ช้าที ทูลหัวผัวครั้งนี้ จะปล่อยเมียเสียเฉย ๆ ๏ พระองค์ผู้ทรงศักดิ์ ว่าไม่รักคนอื่นเลย สม่อมฉันนั้นจะเชย เปนคู่ใจไม่จืดจาง ๏ ตรัสไว้ขอให้จริง อย่าทอดทิ้งไว้กลางทาง รักจริงฤๅทิ้งขว้าง ให้ร้างรักหนักอาดูร ๏ โอ้เมียเสียสติ เพราะพระสินเรนทร์สูร นาถาอย่าเพิ่มพูล ประมูลโศกโศกาลัย ๏ เชิญตอบเมียสักคำ เมียถามซ้ำอยู่ร่ำไป เชิญตอบให้ชอบใจ ข้ามิใช่ฤๅเมียรัก ๏ เชิญดูเถิดภูธร เมียอ่อนฟกอกแทบหัก หมดเลือดเผือดผิว พักตร์ เปื้อนโคลนเลอะเปรอะธุลี ๏ แม้ผ้ามีแต่กึ่ง ซึ่งบ่ปิดมิดอินทรีย์ เดินเดียวเหลียวบ่มี ที่พึ่งพาดอนาถครัน ๏ เหมือนกวางสำอางค์องค์ ดำเนินหลงเข้าไพรวัน ห่างเหินเดินไม่ทัน พลันพรากหมู่อยู่เยือกใจ ๏ โอ้พรากจากบดี น้องก็มีแต่รํ่าไร โอ้องค์พระทรงชัย ไม่เห็นน้องหมองอารมณ์ ๏ อยู่เดียวเที่ยวละเหี่ย แต่ไม่เสียสัตย์นิยม ภักดีที่บรม ขัตติยาสวามี ๏ โอ้ทูลกระหม่อมแก้ว น้องเรียกแล้วเปนหลายที ข้าคือทมยันตี นี่พระไยไม่ขานพลัน ๏ อ้าพระประเสริฐกูล บริบูรณศีลสุธรรม์ รูปทรงทั้งองค์สรรพ์ โสภณพรั่งทั้งกายิน ๏ ข้ามองในช่องเขา แลเห็นเงาคล้ายภูมินทร์ คิดถึงคำนึงถวิล เห็นพระปิ่นนโรดม ๏ ในดงพงพนัส สงัดเศร้าเปล่าอารมณ์ เสือสิงห์วิ่งดื่นดม โอ้อกกรมเกือบอาสัญ ๏ พระนอนฤๅพระนั่ง ฤๅยืนยังเหยียบอรัณย์ โอ้ไนษัธราชัน หม่อมฉันใฝ่ใคร่เห็นองค์ ๏ ฤๅพระจะดำเนิน เลียบเขาเขินฤๅเดินดง เมียเศร้าเฝ้าประสงค์ จะพบองค์ปิ่นเกศา ๏ โอ้อกฟกอนาถ ใจจะขาดเพื่อโศกา ตัวน้องเที่ยวมองหา เพื่อไต่ถามความร้ายดี ๏ อยากถามว่าใครพบ ประสบพระผู้สามี ใครยลนลบดี บ้างฤๅไม่ในแนวพน ๏ โอ้ใครจะตอบความ อันข้าถามถึงพระนล อันไปในไพรสณฑ์ ทนทุกข์เข็ญเปนอย่างไร ๏ ข้าคอยจะฟังศัพท์ จับจิตเจาะเหมาะเหมงใจ ๏ คือคำร่ำขานไข ตอบข้อถามตาม อยากยิน ๏ คือตอบด้วยวาที ชี้ทางสู่ภูบดินทร์ ใครตอบดังถวิล จินดาชอบจะขอบใจ ฯ ๏ อรัณ๎ยราฑ์ อยํ ศ๎รีมางศ๎ จตุร๎ทํษ๎โฏ๎ร มหาหนุห์ ๏ แลดูอรัณยราชผู้ | | จอมไพร | เขี้ยวสี่ขาวคางใหญ่ | | กาจกล้า | ศาร๎ทูโลภิมุโข เภ๎ยติ ว๎รชาเม๎ยนัม์ อศังกิตา ศารทูลมิ่งสัตว์ใน | | แถวเถื่อน | นางบ่เกรงขามอ้า | | โอษฐเอื้อนเยื้อนถาม ฯ | ๏ แลดูอรัณยราช ช่างเก่งกาจนี่กระไร เขี้ยวสี่สีขาวใส อีกคางใหญ่ควรสยอง ๏ ศารทูลเปนมิ่งสัตว์ ในแนวชัฏสิ้นทั้งผอง กันยากล้าจะลอง ย่องเข้าไปและไต่ถาม ๏ ดูราพญาเสือ เปนใหญ่เหนือสัตว์เกรงขาม ทั่วพงดงดอนงาม เปนถิ่นฐานท่านเคยหรรษ์ ๏ ข้าคือดไนยา แห่งราชาครองวิทรรภ์ อันนามแห่งข้านั้น ทมยันติเทวี ๏ เปนอรรคชายา นิษธาธิบดี กำแหงแรงฤทธี ปราบอมิตร์ฤทธิ์สยอน ๏ ข้าค้นนลบดี ที่พลัดพรากจากนคร องค์เดียวเที่ยวดงดอน อนาทรเศร้าโศกศัลย์ ๏ ดูรามฤเคนทร์ เอนดูข้าผู้จาบัลย์ เห็นองค์พระทรงธรรม์ บ้างฤๅเปล่า จงเล่ามา ๏ ดูราพญาไพร เอาใจช่วยด้วยสักครา ไม่เห็นพระภรรดา จงบอกมาอย่ารั้งรอ ๏ ขอเชิญมฤคเศรษฐ จงสมเพชฟังข้าขอ กินข้าเสียอย่ารอ ให้หมองหม่นทนทุกข์ไป ๏ ฟังคำคร่ำครวญโศก วิโยคเศร้าเหงาฤทัย มฤคราชกาจเก่งไกร ค่อยเมียงเมินดำเนินหนี ๏ เสือลายดุร้ายเก่ง ย่อมยำเกรงบารมี แห่งทมยันตี ผู้ภักดีต่อภรรดา ๏ สมิงวิ่งมุ่งตรง ลงไปธารละหานผา นํ้าใสไหลซ่า ๆ ไหลเรื่อยตรงลงสาคร ฯอิมํ ศิโลจ์จยัม์ ปุณ๎ยํ | | ศ๎ฤงไคร์ พหุภิร์ อุจ์ฉ๎ริไตห์ | ๏ อ้าจอมคิริราชเจ้า | | สิงขร | หลายยอดระยับยอน | | ยั่วฟ้า | วิราชัท์ภิร์ ทิวิส๎ป๎ฤค์ภิร์ | | ไนกวร๎ไณร์ มโนหไรห์ | แลเลิศมโนหร | | สีสลับ | สูงตระหง่านงํ้าหล้า | | เลิศชี้ถิ่นอมร ฯ | ๏ อ้าจอมคิริราช สูงผงาดแง่สิงขร หลายยอดระยับยอน เยือนยั่วฟ้าน่ายินดี ๏ มโนหรก้อนหินสรรพ สีระยับสลับสี สูงลํ้างํ้าธาตรี ชี้สวรรค์อันพึงหมาย ๏ นานาโลหธาตุ ล้วนปลาดเหลือบรรยาย อีกแก้วแพรวพรรณราย หลายแก้วหลากมากมวลมี ๏ คีรีมหิมา สูงสง่าพนาลี เหมือนธงองค์วัชรี สีสล้างกลางไพรวัน ๏ มีสิงห์ศารทูลหาญ คชสารที่ซับมัน หมูหมีมีมากครัน กวางสุวรรณเที่ยวหรรษา ๏ ฝูงนกผกโผบิน เที่ยวเลือกกินผลนานา เริงร้องก้องกลางป่า น่าชมเล่นเย็น ๆ ใจ ๏ กิงศุกเคียงอโศก วายุโยกพิกุลไกว บุนนาคชอุ่มใบ อีกมิ่งไม้หลากหลายสี ๏ กรรณิกากลิ่นหอมรื่น มะเดื่อดื่นชื่นฤดี บุบผาสง่าสี สลับผลหล่นเกลื่อนทาง ๏ นํ้าใสไหลริน ๆ ตามซอกหินเช่นลำราง วิหคผกผันพลาง บ้าง เล่นนํ้าช่ำสราญ ๏ ดูราคิรีราช สูงผงาดเงื้อมพนานต์ ถามถึงซึ่งภูบาล ท่านรู้บ้างฤๅอย่างไร ดูก่อนสีขเรศ อจลเศรษฐสีอำไพ ยอดยงตรงขึ้นไป ใกล้จะถึงซึ่งสวรรค์ ๏ ท่านนี้เปนที่พึ่ง ซึ่งคนหลงในพงพัน มหิธรสุนทรสรรพ์ ตูข้าพลันขอวันทา ๏ ขออ่อนศีโรราบ บังคมกราบพ่อจอมผา ขอจงทรงเมตตา แด่ตูข้าราชบุตรี ๏ เปนคู่แห่งราชา ราชภรรยาผู้ภักดี อันตูแห่งข้านี้ ทมยันตีนามะไธย ๏ แล้วนางจึ่งแถลง สำแดงความตามจริงใจ แจ้งจริงทุกสิ่งไป ให้ถ่องถ้วนมวลมีมา ฯราชา วิทร๎ภาธิปติห์ | | ปิตา มม มหารถห์ | ๏ พระบิดาข้าบาทไซ้ร | | จอมวิทรรภ์ | เปนมหารถมหันต์ | | กาจกล้า | ภีโม นาม ก๎ษิติปติศ๎ | | จาตุร๎วร๎ณ๎ยัส๎ย รัก์ษิตา | นามภีมะราชอัน | | เปนเกษตร บดีเฮย | ผู้ผดุงไพร่ฟ้า | | สุขทั้งจัตุรวรรณ ฯ | ๏ พระบิดาข้าบาทไซ้ร ภูวนัยจอมวิทรรภ์ มหารถมหันต์ อันพิรกล้าเริงราวี ๏ ภีมราชนามทรงเดช เปนเกษตระบดี รักษาประชาชี สี่พรรณเปรมเกษมสราญ ๏ เคยทำราชสูยะ อัศวเมธวิเศษสาร อีกปวงพลีการ มักอวยทานทักษิณา ๏ หมั่นบวงปวงเทเวศร์ จึ่งเปนเศรษฐะราชา ปรากฎยศสง่า ตาสว่างกระจ่างสี ๏ บำเพญกิจประเสริฐ ประพฤติเลิศล้วนงามดี ทรงสัจจะวาที ไพเราะรสพจมาน ๏ อีกทรงศีลวัตร วิริยจัดกิจการ พร้อมทรัพย์ศฤงคาร ธรรมเที่ยงไว้ไร้มลทิน ๏ ปกป้องประชานันต์ ในวิทรรภะแดนดิน บำราบปราบอริน ฤทธิ์สยอนหย่อนแรงรณ ๏ ข้าคือดไนยา แห่งราชาเจ้าจุมพล มานอบระยอบตน อภิวาทย์ราชคีรี ๏ อนึ่งในนิษัธ รัตนราชธานี มีจอมปัถพี ผู้ชนกพระภรรดา ๏ พระนามปรากฎไป ในประเทศทุกทิศา คือองค์พระราชา วีรเสนภูบดินทร์ ๏ อันองค์วีรบุรุษ ราชบุตร์พระภูมินทร์ กล้าหาญราญอริน ทรงสวัสดิ์สัจจาทรง ๏ พระองค์ผู้ทรงรัช ครองสมบัติพัสดุยง แทนพระบิตุรงค์ ตรงตามพระประเพณี ๏ ทรงนามนลราช อรินขลาดบารมี อีกนามภูบดี บุญโศลกโลกวิชิต ๏ เลื่อมใสในพรหเมศร์ ทั้งพระเวทก็เจนจิต พูดเพราะเหมาะเปนนิตย์ บุญสถิตโสมบาน ๏ ไม่ขาดกิจพลี ใจเธอดีมักอวยทาน โยธินอรินราญ ทุกสิ่งสารอันควรมี ๏ ข้าเปนพระชายา แห่งราชานลบดี ขอจงจอมคีรี ได้เมตตาข้าผู้เข็ญ ๏ ข้าไซ้รมาไร้ศรี ไร้สามีที่ร่มเย็น อนาถา มาลำเค็ญ เปนทุกข์โศกวิโยคภัย ๏ เดินด้นเที่ยวค้นหา พระภรรดาสนิทใจ พระองค์ผู้ทรงชัย แสนประเสริฐเลิศเหล่าชน ๏ จอมเอยจอมภูผา ยอดสง่าแทบเวหน ร้อยยอดจอดตายล คนชมเพลินจำเริญใจ ๏ ดูราอจลเศรษฐ ที่ในเขตมรรคาไพร เห็นนลภูวนัย อยู่แห่งใดจงกล่าวมา ๏ พระเหมือนพญาสาร เชี่ยวชำนาญการนา ๆ กำแหงแรงพาหา ทั้งว่องไวในสิ่งสรรพ์ ๏ เหิมหาญชาญฉกาจ สัตยวาทวีรพันธุ์ พระองค์ทรงยศนั้น คือภรรดาแห่งข้านี้ ๏ อ้าจอมคีรีรัตน์ เห็นนิษัธะภูมี อันชื่อนลบดี ในถิ่นนี้บ้างฤๅไฉน ๏ อ้าจอมเขาตระหง่าน ไม่สงสารบ้างฤๅไร อยู่เดียวข้าเปลี่ยวใจ โหยไห้ร้องก้องกลางพน ๏ ไฉนจึ่งไม่ตอบ ฤๅพูดปลอบให้ชอบกล ข้าเหมือนสุดานนท์ แห่งจอมผามากำสรวล ฯ วีร วิก๎ราน์ต ธร๎มัช๎ญ | | สัต๎ยสัน์ธ มหีปเต | ๏ ครวญพลางนางพร้องเพรียก | | พระนล ท่านนา | กู่กู่ก้องไพรสณฑ์ | | กู่ก้อง | พระพิรแกว่นกลางพล | | ทรงสัตย์ ธรรมแฮ | พระบ่ยินเสียงน้อง | | กล่าวเชื้อฤๅไฉน ฯ | ๏ ครวญพลางนางพร้องเพรียก เรียกพระนลผู้ทรงไชย กู่ก้องท้องแถวไพร เสียงสนั่นลั่นแหล่งผา ๏ พระพิรผู้ประเสริฐ ทรงสัตย์เลิศสุธรรมา โอ้อกฟกระอา พระภรรดาบ่ได้ขาน ๏ แม้อยู่ในแนวพง ไพรระหงเถื่อนกันดาร ขอเชิญพระภูบาล มาบัดใจให้น้องชม ๏ อ้าไฉนจะได้ยิน เสียงภูมินทร์ถูกอารมณ์ เสียงฦกนึกดูสม เสียงฟ้าร้องก้องเวหน ๏ ไฉนจะได้ฟัง คำรับสั่งแห่งพระนล หวานฉ่ำชํ่ากมล ราวนํ้าทิพย์จิบยินดี ๏ ข้าน้อยคอยสำเหนียก ฟังพระเรียกไวทรรภี ฟังเสียงเพียงดนตรี ชัดจังหวะจะหรรษา ๏ จะเพราะเหมาะลม่อม เหมือนเสียงกล่อมจอมเทวา ฟังรสพจนา ส่างโศกาและจาบัลย์ ๏ ขอเชิญปลอบสักหน่อย ความละห้อยจะเหือดพลัน โอ้องค์พระทรงธรรม์ กระหม่อมฉันเหลืออาไลย ฯ ๏ อิติ สา ตาง คิริเศ๎รษ๎ฐัม์ | | อุก์ต๎วา ปาร๎ถิวนัน์ทินี | ๏ บุตรีภีมราชเจ้า | | จอมไผท | ดำรัสแก่จอมไศล | | เสร็จแล้ว | ทมยัน์ตี ตโต ภูโย | | ชคาม ทิศัม์ อุต์ตราม์ | ทมยันติพิสมัย | | สมรมิ่ง | จึ่งรีบเสด็จแหน้ว | | สู่แคว้นแดนอุดร ฯ | ๏ บุตรีภีมราช ภูวนาถนรินทร ตรัสแก่จอมสิงขร พอให้วายหายกลุ้มใจ ๏ จึ่งทมยันตี วรเทพีพิสมัย รีบรัดตัดพงไพร ไปประเทศเขตแดนเหนือ ๏ เดินไปในพนานต์ แสนกันดารเปนล้นเหลือ อนงค์องค์นิ่มเนื้อ รอนแรมมาสามราตรี ๏ ถึงป่าที่ดาบส บำเพ็ญพรตเยี่ยงโยคี ร่มรื่นชื่นฤดี ราวสวนขวัญในชั้นฟ้า ๏ ดาบสล้วนตั้งจิต คล้ายวสิษฐจอมสิทธา ภฤคูผู้จอมบา อีกอัตรีชีโบราณ ๏ บำเพ็ญเปนเรียบร้อย อีกมักน้อยในอาหาร ข่มจิตนิตย์ทรมาน อารมณผ่องบ่หมองมล ๏ นํ้าเย็นเปนของฉัน อีกลมนั้นฉันทุกตน ใบไม้ที่ในพน เธอเอามาเปนอาหาร ๏ ตั้งจิตกำหราบจิต จึ่งเปนนิตย์จิตสำราญ บำเพ็ญบ่เว้นวาร มุ่งมรรคาหาสวรรค์ ๏ คณะพระมุนี สำรวมดีทุกคืนวัน ผ้าครองของเธอนั้น คือเปลือกไม้ใช้ปนหนัง ๏ โฉมตรูดูกุฎี แห่งฤษีทรงพรตขลัง อาศรมร่มไม้บัง น่านั่งเล่นเย็น ๆใจ ๏ แลดูเห็นหมู่สัตว์ สารพัตมาอาไศรย ฝูงลิงวิ่งร่ายไม้ สัตว์น้อยใหญ่ไม่กลัวคน ๏ ยามมาถึงอาศรม ร้าวระบมไปทั่วตน จึ่งนิ่มนฤมล เมื่อได้ยลค่อยยินดี ๏ อันนางงามขนง น่าพิศวงงามเกศี นงรามงามโสณี งามโอษฐแย้มแฉล้มแดง ๏ งามเลิศเชิดสง่า สุประดิษฐาอ่าเอี่ยมแสง เนตร์ดำราวนํ้าแฝง ในหูบเขาเง้าเงื้อมผา ๏ นางทมยันตี ผู้นารีรัตนา สมควรเปนชายา ลูกราชาวีรเสน ๏ ใจบุญสุนทเรศ แสนวิเศษบ่ต้องเกณฑ์ ระกำโอ้กรรมเวร จึ่งระกำจำระบม ๏ เหน็จเหนื่อยและเมื่อยล้า แสนระอาเศร้าอารมณ์ ครั้นถึงซึ่งอาศรม จึ่งเข้ามาขออาไศรย ฯ ๏ สาภิวาท๎ย ตโปว๎ฤท์ธาน์ | | วินยาวนตา ส๎ถิตา | ๏ ทรามไวยอภิวาทย์เจ้า | | ฤษี | ยืนยอบนอบอินทรีย์ | | ต่อหน้า | ส๎วาคตํ ต อิติ โป๎รก๎ตา | | ไตห์ สร๎ไวส๎ ตาปไสศ๎จ สา | ดาบสต่างยินดี | | ต้อนรับ แม่เอย | คณะพร้อมกันอ้า | | โอษฐเอื้อนอวยพร ฯ |
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 สิงหาคม 2560 17:44:42 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2560 16:23:12 » |
|
สรรคที่ ๑๒ (ต่อ)๏ ทรามไวยอภิวาทย์ ปวงมหาตมะสุนทร ยืนก้มประนมกร อยู่ต่อหน้าคณาชี ๏ ดาบสเห็นงามสรรพ ต่างต้อนรับด้วยยินดี คณะพระมุนี ต่างอวยชัยให้พร้อมกัน ๏ เชิญนั่งตั่งสอาด แล้วประภาษแด่แจ่มจันทร์ อันกิจประสงค์นั้น เราจะพลันจัดตามใจ ๏ ได้ฟังศัพท์สุนทร นางเอวอ่อนประนมไหว้ แล้วตอบระบอบไป ข้าแต่องค์พระทรงพรต ๏ ตะบะและอัคคี ทำด้วยดีฤๅดาบส มฤคีปักษีหมด ทุกอย่างดีฤๅมีภัย ๏ กุศลศุภกิจ ย่อมสัมฤทธิ์ฤๅไฉน ธรรมาจรณะไซ้ร เสมออยู่ฤๅมุนี ๏ ดาบสตอบวาจา ว่าดูราเจริญศรี ปวงกิจสัมฤทธิ์ดี สารพัตจัดว่างาม ๏ แต่ว่าดูรานาง ผู้สำอางค์เอี่ยมองค์ราม คือใครเราใคร่ถาม จงเล่าความปราถนา ๏ แลดูรูปแน่งน้อย ดูชดช้อยทั่วกายา เปล่งปลั่งดังเลขา สุดโสภาอ่าเอี่ยมองค์ ๏ พินิศพิสมัย วิไลยเลิศประเสริฐทรง อ้านางสำอางค์องค์ จงวายโศกโศกาลัย ๏ ฤๅนางเปนเทวี สถิตที่ถิ่นแถวไพร ฤๅอยู่ภูผาใด จงขานไขเถิดเทพี ๏ ฤๅเปนผู้พิทักษ์ อารักษ์ห้วงนทีศรี อ้าแก้วกัลยาณี จงแถลงแจ้งกิจจา ๏ ทรามเชยเฉลยชี ว่าข้านี้นะเจ้าขา มิใช่เทวดา ผู้รักษาราวป่านี้ ๏ มิใช่เทวดา ผู้รักษาซึ่งคีรี มิใช่องค์เทวี รักษานํ้าลำละหาน ๏ ข้าเปนเพียงมนุษ ทุกข์ที่สุดพระอาจารย์ จะแจ้งแถลงสาร ขอแต่ท่านฟังด้วยดี ฯ วิทร๎เภษุ มหีปาโล | | ภีโม นาม มหีปติห์ | ๏ ในแดนวิทรรภเจ้า | | ธรณี | ภีมะมหิปมี | | ชื่อใช้ | ตัส๎ย มาง ตนยาง สร๎เว | | ชานีต ท๎วิชสัต์ตมาห์ | ข้าเปนพระบุตรี | | นฤนาถ นั้นแล | ขอทวิชทราบไว้ | | ทุกข้อไขขาน ฯ | ๏ ในแคว้นแดนวิทรรภ์ มีมหันต์มหิบาล ภีมะมหาศาล นามผู้ผ่านแผ่นไผท ๏ ข้าเปนพระบุตรี มหิบดีผู้ทรงชัย ทวิชจงทราบไว้ อย่าสงไสยในวาจา ๏ อีกองค์จอมนิษัธ บุรุษรัตน์เปรื่องปัญญา พระนละราชา มหายศปรากฎนาม ๏ ที่พึ่งแห่งชาวนา กล้าเกรียงไกรในสงคราม วิทยาสง่างาม คือภรรดาแห่งข้านี้ ๏ ทรงศักดิ์มักบูชา เทวดาทุกราศี พระองค์ทรงปราณี ทวิชาติบ่ขาดแคลน ๏ นิษัธเธอรักษา แผ่อาณาทั่วดินแดน ทรงเดชวิเศษแสน ทรงพลังกำลังหาญ ๏ พระทรงสัตยวาท อีกสามารถศาสตราชาญ ฉลาดอีกอาจหาญ ผลาญอรินสิ้นฤทธี ๏ เลื่อมใสในพรหเมศร์ ทวยเทเวศร์หมั่นพลี กระเดื่องรุ่งเรืองศรี ฦๅสนั่นบุรัญชัย ๏ ทรงนามนลนเรศวร์ นรเศรษฐเดชเกรียงไกร องค์เอี่ยมเทียมท้าวไท เทวราชนาถนาถา ๏ อันพระวิศาลักษ์ คือองค์อรรคะภรรดา ผ่องพักตร์ลักขณา ดังจันทราเมื่อคราบูรณ ๏ องค์พระมหิบาล มักอวยทานทรัพย์เพิ่มพูล พระเวทบริบูรณ นเรนทร์สูรสิทธิ์วิชา ๏ ยามรอญกลางณรงค์ ทรงบำราบปราบพาลา ช่วงโชติโรจน์ประภา ดังจันทราและระพี ๏ ครั้งหนึ่งจึ่งคนคิด ทุจริตจิตอัปรี ผู้ใดไม่ว่าดี อีกบ่มีใครนิยม ๏ แต่มันนั้นบังอาจ ท้านฤนาถนโรดม พระองค์ทรงอภิรมย์ ในสัตย์ธรรม์อันผ่องใส ๏ มันโกงเล่นสกา จึ่งราชาเสียสิ้นไป ราชาเสียราชัย ไร้สมบัติพัสถาน ๏ นี้แลอันตูข้า ผู้อยู่หน้าพระอาจารย์ เปนเมียพระภูบาล ผู้ประเสริฐเลิศราชา ๏ ชื่อทมยันตี ตูข้ามีปราถนา ใคร่พบพระภรรดา พอได้เห็นจะเย็นใจ ๏ ซัดเซพเนจร ผ่านดงดอนคีรีไคล เลียบสระระหว่างไพร เลียบริมนํ้าลำนที ๏ เลียบฝั่งทเลสาบ อันรื่นราบลำลาบมี เดินทางหว่างวิถี เถื่อนทุเรศเวทนา ๏ เที่ยวมองปองจะพบ ประสบพระภัสดา พระนละราชา กล้าเถกิงเริงฤทธิรณ ๏ เสียแรงกำแหงหาญ ศาสตราชาญชำนาญกล มาเที่ยวจรดล ทนทุกข์ยากลำบากกาย ๏ ดูรามหาพราหมณ์ จงตอบความตามข้าหมาย ที่นี้ที่สบาย แห่งดาบสพรตอำไพ ๏ อันองค์นลบดี ได้มานี่ฤๅไฉน จอมรัชนิษัธไซ้ร ได้มาบ้างฤๅทางนี้ ๏ โอ้ว่าข้าทนทุกข์ ลำบากบุกคลุกธุลี เดินไพรไร้วิถี เที่ยวแถวป่าทารุณดอน ๏ ดั้นด้นพนไพรชัฏ เงียบสงัดแสนสยอน ถิ่นถึกมฤคจร ส่ำเสือลายมักผายผัน ๏ แม้ข้าไม่ประสบ พบพระนลพิมลธรรม์ ต้องทนกมลศัลย์ อีกหลายวันหลายราตรี ๏ จะเฝ้าเศร้าอารมณ์ บอบระบมกรมฤดี ขอตายวายชีวี ไปสู่ที่ทิพาลัย ๏ ไร้องค์บุรุษรัตน์ สวัสดีมีฉันใด ดนูจะอยู่ไย ให้ทุเรศเวทนา ๏ จะครองซึ่งชีวาตม์ เมื่อยามปราศพระภรรดา จะกินแต่นํ้าตา โศการ่ำกำสรวลศัลย์ ๏ ดูรามหาพราหมณ์ ได้ฟังความที่รำพรรณ จงน้อมจิตพร้อมกัน กรุณาแก่ข้านี้ ๏ จงแจ้งแถลงเหตุ เภทภัยพาลพระสามี เหมือนช่วยอวยพรศรี ขอธชีช่วยเมตตา ฯ ตถา วิลปัน์ตีม์ เอกาม์ | | อรัณ๎เย ภีมนัน์ทินีม์ | ๏ ฟังลูกภีมราชไท้ | | พรรณนา | องค์เดียวเปลี่ยวกลางป่า | | ใหญ่กว้าง | ทมยัน์ตีม์ อโถจุส๎ เต | | ตาปสาห์ สัต๎ยทร๎ศินห์ | จึ่งพระคณะดา | | บสตอบ | เล็งเนตร์วิเศษอ้าง | | โอษฐเอื้อนทำนาย ฯ | ๏ ฟังลูกภีมราช ผู้อนาถขาดสบาย เอกาอ้าโฉมฉาย ในแนวป่าน่าสงสาร ๏ คณพระดาบส จึ่งตอบรสพจมาน เล็งเนตร์วิเศษญาณ แถลงสารทำนายไป ๏ อ้าองค์กัลยาณี สุขจะมีอย่าสงไสย ทุกข์ร้อนจะผ่อนไป ในไม่ช้าอย่าฉงน ๏ ตะบะให้อำนาจ เราสามารถจะยินยล ไม่ช้าอ้านฤมล จะประสบพบภรรดา ๏ คือองค์นลรัตน์ จอมนิษัธสุสีมา กำแหงแรงฤทธา บำราบหมู่ริปูสูญ ๏ ดูราสุตารัตน์ อันกษัตร์ธรรมพิบูลย์ ประเสริฐเลิศประยูร จะส่างโศกวิโยคภัย ๏ ปวงบาปจะคลาศแคล้ว จะผ่องแผ้วพระหฤทัย จะเห็นพระทรงชัย ประดับแก้วแววอาภรณ ๏ จะกลับรับสมบัติ ดำรงรัชนั่งนคร ภิญโญสโมสร อริราบปราบสลาย ๏ ศัตรูผู้กาจเก่ง จะยำเกรงระยอบกาย ส่วนผู้เปนสหาย โศกระงับได้ฉับพลัน ๏ ดูรากัลยาณี ต่อแต่นี้จะได้หรรษ์ ประสบพบทรงธรรม์ ผู้ประเสริฐเลิศเหล่าคน ๏ ครั้นเสร็จสุรวาที แด่เทวีเมียพระนล อวยชัยให้นฤมล ทุกตนโห่ชโยชัย ๏ พูดเสร็จพระดาบส ถ้วนทั้งหมดก็หายไป อาศรมและกองไฟ ก็หายไปในบัดนั้น ฯ ๏ สา ท๎ฤษ๎ฏ๎วา มหัท์ อาศ๎จร๎ยํ | | วิส๎มิตา ห๎ยภวัต์ ตทา | ๏ ครั้นเห็นประจักษ์แจ้ง | | มหัศจรรย์ | นางสถิตตลึงงัน | | อยู่ไซ้ร | ทมยัน์ต๎ยนวัท๎ยางคี | | วีรเสนน๎ฤปส๎นุษา | สนุษาพระทรงธรรม์ | | วีระ เสนแฮ | ครู่หนึ่งนางจึ่งได้ | | สติน้อมคนึงสรรพ์ ฯ | ๏ ครั้นเห็นประจักษ์แจ้ง พราหมณ์สำแดงอัศจรรย์ นางจึ่งตลึงงัน ยืนแน่วเนียงบ่เอียงเอน ๏ อันองค์สนุษา แห่งราชาวีระเสน ถนัดเห็นชัดเจน แล้วจึ่งตริดำริห์ใน ๏ ดู ๆ เห็นอยู่นั่น เออนี่ฝันฤๅไฉน คราวเคราะห์เหมาะฉันใด จึ่งได้เห็นเปนเช่นนี้ ๏ ไหนเล่าเหล่านักบุญ คณะคุณเจ้าฤษี ไหนเล่าเหล่ากุฎี ที่อาศรมภิรมยา ๏ อีกซ้ำลำธารเห็น นํ้าไหลเย็นเห็นชื่นตา อีกนกผกผันถา ชั่วพริบตาก็สูญหาย ๏ อีกไม้ใหญ่ ๆ เล่า เงาร่มกันตวันฉาย ดอกผลหล่นกระจาย หายหมดไปอึดใจนี้ ๏ จึ่งภีมสุดา แสนสงกาในฤดี นางทมยันตี มิรู้ที่นึกฉันใด ๏ หวลคิดจิตก็ โศก วิโยคผัวตัวอยู่ไกล ผิวพรรณอันผ่องใส ก็สลดหมดเลือดลง ๏ มีกรรมเจ้าจำจร จึ่งบังอรจรฝ่าดง โอ้เหนื่อยเมื่อยทั้งองค์ อีกมิหนำชํ้าอุรา ๏ เดินพลางทางครวญครํ่า รํ่าถึงพระภัสดา เดินย่างหว่างมรรคา ถึงฉายาอโศกไพร ๏ อโศกไม้วิเศษ จำเริญเนตร์กิ่งไสว เขียวชุ่มชอุ่มใบ นกน้อยใหญ่เล่นสำราญ ๏ รื่น ๆ ชื่นนาสา กลิ่นผกาที่เบิกบาน อนงค์ยอดสงสาร จึ่งเผยรสพจนา ฯ อโห วตายัม์ อคมห์ | | ศ๎รีมาน์ อัส๎มิน์ วนาน์ตเร | ๏ อ้าดูอโศกนี้ | | ศรีไสว | อยู่ณท่ามกลางไพร | | เพริศแท้ | อาปีไฑร์ พหุภิร์ ภาติ | | ศ๎รีมาน์ ปร๎วตราฑ์ อิว | ชื่นชุ่มชอุ่มใบ | | ลมระบัด | ดูสุขสนุกแม้ | | มาทแม้นจอมผา ฯ | ๏ อ้าดูอโศกนี้ ศรีไสววิไลยตา อยู่หว่างกลางพนา เปนสง่าแห่งแนวไพร ๏ ชุ่มชื่นรื่นอารมณ์ ลมเพยพัดระบัดใบ ดูสุขสนุกใจ เหมือนแลดูจอมภูผา ๏ อโศกดูแสนสุข ช่วยดับทุกข์ด้วยสักครา โศกเศร้าเผาอุรา อ้าอโศกโรคข้าร้าย ๏ อโศกโยกกิ่งไกว จงตอบไปดังใจหมาย ได้เห็นพระฦๅสาย ผ่านมาบ้างฤๅอย่างไร ๏ พระนั้นชื่อพระนล ผู้เรืองรณอริกษัย เปนผัวนางทรามไวย นามนิยมทมยันตี ๏ พระองค์ทรงสวัสดิ์ เปนนิษัธธิบดี ทูลหัวทมยันตี มาทางนี้บ้างฤๅไฉน ๏ พระมีผ้าห่มกึ่ง ปรกกายครึ่งหนึ่งนั้นไว้ อันกายฦๅสายไซ้ร ผิวเธออ่อนสุนทรทรง ๏ เห็นเธอบ้างฤๅไม่ พระทรงชัยฤทธิรงค์ เหนื่อยยากลำบากองค์ ด้นดั้นป่าโอ้อาดูร ๏ อ้าต้นอโศกใหญ่ ตูข้าไซ้รโศกบ่สูญ พฤกษาอย่าช่วยพูล จงตัดโศกวิโยคใจ ๏ อโศกเหมาะสมญา ตัดโศกาดูรพิไร จงตอบให้ชอบใจ ตัดโศกใหญ่ให้สักที ๏ พูดพลางทางครวญคร่ำ อกระกำซํ้าโศกี โศกพลางทางเทวี เวียนอโศกยิ่งโศกศัลย์ ๏ แล้วนางค่อยดำเนิน เดินต่อไปในอรัณย์ ไปสู่ประเทศอัน เพิ่มลำบากยากหนักหนา ๏ ผ่านสรรพ์พรรณมิ่งไม้ ต้นน้อยใหญ่ในพนา ข้ามธารละหานผา ฝ่าน่านนํ้าก็จำไป ๏ เดินทางหว่างบรรพต แง่งามงดจำเริญใจ ชมถึกมฤคไพร อีกปักษีมีนานา ๏ เลียบเขาเงาเงื้อมงํ้า ผ่านน่าถํ้าลํ้าเหลี่ยมผา นทีที่ผ่านมา นางข้ามได้ใจบ่กลัว ๏ นางภีมสุดา ช่างอุส่าห์ค้นหาผัว ถึงยากลำบากตัว บ่คิดยากลำบากตน ฯ ๏ คัต๎วา ป๎รก๎ฤษ๎ฏัม์ อัธ๎วานํ | | ทมยัน์ตี ศุจิส๎มิตา | ๏ ทมยันตีแน่งน้อย | | นฤมล แม่เอย | เลาะลัดตัดไพรสณฑ์ | | เวิกว้าง | ททร๎ศาถ มหาสาร๎ถํ | | หัส๎ต๎ยัศ๎วรถสํกุลัม์ | ยินดีเมื่อยามยล | | พวกพณิช | ส่ำแสะและรถช้าง | | พรั่งพร้อมพเนจร ฯ | ๏ ทมยันติโสภณ นฤมลอ้าองค์อร เลาะลัดตัดดงดอน อ่อนระอาหลายราตรี ๏ ยามเห็นพวกพณิช นางมิ่งมิตร์ก็ยินดี ช้างม้ามามากมี อีกทั้งรถจรดมา ๏ เดินผ่านน่านนที อันเปนที่น่ารมยา นํ้าเย็นเห็นตัวปลา ว่ายแหวกวนชลธาร ๏ ลำกว้างว่างระลอก บ่กระฉอกกระฉ่อนฉาน ไม้อ้อกอใกล้ธาร แลละลานเขียวขจี ๏ โกญจาลงมาเล่น ดูเยือกเย็นเล่นวารี เคียงคู่อยู่ยินดี อ้าสุขีดีกว่าเนียง ๏ จากระวากมันจากคู่ เสียงก้องกู่ ๆ ก้องเสียง จนคู่จู่มาเคียง สำเนียงกลับศัพท์หรรษา ๏ ตนุดำนํ้าว่าย สำส่อนส่ายมวลมัจฉา ต่างปลาต่างชิดปลา อ้าอกนางห่างสามี ๏ นทีมีมากหาด ดาดาษเกาะดูเหมาะดี แม้มากับสามี จะช่วยชี้ให้เธอชม ๏ เดินทางห่างภรรดา โอ้ระอาเศร้าอารมณ์ ใจเหี่ยวเปลี่ยวอกกรม บ่อยากชมนทีศรี ๏ ครั้นเห็นพวกพณิช นางมิ่งมิตร์จิตยินดี องค์พระมหิษี แห่งพระนลเห็นพ้นภัย ๏ จึ่งนางนิ่มอนงค์ ดำเนินตรงจงเข้าไป ไม่ช้ามาถึงใน ที่ท่ามกลางระหว่างชน ๏ รูปร่างนางเหมือนบ้า ดูหน้าตาก็แปลกคน ผ้าปิดบ่มิดตน มีกึ่งผืนยืนจังงัง ๏ หน้าซีดซ้ำฝุ่นเปรอะ ทั้งโคลนเลอะดูเกรอะกรัง ผมเฟอะฝุ่นเตอะตัง ดูรุงรังทั่วทั้งกาย ฯ ตาง ท๎ฤษ๎ฏ๎วา ตัต๎ร มนุชาห์ | | เกจิท์ ภีตาห์ ป๎รทุท๎รุวุห์ | ๏ บ้างเห็นตัวหล่อนแล้ว | | ขวัญหาย เจียวฮา | บ้างลัดกระจัดจาย | | รีบเร้น | เกจิจ์ จิน์ตาปราส๎ ตัส๎ถุห์ | | เกจิต์ ตัต๎ร ป๎รจุก๎รุศุห์ | บ้างยืนพินิจกาย | | นางเน่ง อยู่ฮือ | บ้างก็ส่งเสียงเค้น | | ขู่ด้วยโกรธา ฯ | ๏ บ้างเห็นตัวโฉมฉาย ก็ขวัญหายเจียวแม่ฮา บ้างลัดตัดเข้าป่า รีบไปซ่อนซอนซอกพง ๏ บ้างยืนนิ่งพินิศ พิศกายนางอย่างพะวง ๏ บ้างโกรธนิ่มอนงค์ ส่งเสียงขู่อยู่แหว ๆ ๏ บ้างพูดเชิงเย้ยหยัน ว่าตัวนั่นอะไรแฮ บ้างเคืองชำเลืองแล บ่นพึมพำพร่ำด่านาง ๏ บ้างคิดจิตเมตตา แลเห็นท่าว่าหลงทาง ถามเหตุเภทภัยพลาง อีกถามนางว่าชื่อไร ๏ ตัวนางนี้ใครเล่า เปนลูกเต้าเหล่ากอใคร จำนงประสงค์ใด ในแนวป่าพนารัญ ๏ เราเห็นซึ่งตัวนาง ต่างพิศวงอนงค์ครัน รูปร่างนางเช่นนั้น นั่นคนป่าฤๅว่าไร ๏ ฤๅเทพธิดา ผู้รักษาซึ่งแนวไพร ฤๅสูอยู่ไศล ฤๅทุ่งใหญ่ในกลางทาง ๏ จงบอกแต่โดยจริง อย่าประวิงและอำพราง เผื่อตูรู้จักนาง จะได้พึ่งซึ่งบารมี ๏ จงแจ้งแถลงลักษณ์ เปนนางยักษ์แรงฤทธี ฤๅเปนรากษสี ฤๅเทวีศรีสุรางค์ ๏ อนงค์จงเมตตา คุ้มเกรงข้าผู้เดินทาง ให้ปลอดตลอดหว่าง วิถีดงพงไพรสณฑ์ ๏ บันดาลบรรหารสุข นฤทุกข์ทั่วทุกตน เกษมเปรมกมล อีกพาหนปราศปวงภัย ๏ โปรดช่วยอำนวยพร สุนทรเลิศเถิดอรไทย ศรีสิทธิ์ฤทธิชัย ประสาทให้เถิดเทวี ฯ ดโถก์ตา เตน สาร๎เถน | | ทมยัน์ตี น๎ฤปาต๎มชา | ๏ ได้ฟังนายพ่อค้า | | พาที | จึ่งนาฏทมยันตี | | ลูกเจ้า | ป๎รต๎ยุวาจ ตตห์ สาธ๎วี | | ภร๎ต๎ฤว๎ยสนปีฑิตา | ตอบคำสุวจี | | คำอ่อน หวานนา | พลางพรํ่าซ้ำโศกเศร้า | | โศกไร้ภรรดร ฯ | ๏ ได้ฟังนายพ่อค้า กล่าววาจาอันสุนทร ทมยันติบังอร อันประเสริฐ กำเนิดดี ๏ ตอบคำสํ่าสุรพจน์ มธุรสหวานวาที โศกเศร้าเฝ้าโศกี ที่จำใจไร้ภรรดร ๏ นางดูผู้เปนใหญ่ ในคณพเนจร หัวน่าพานิกร พณิชน้อมพร้อมกันไป ๏ ทั้งหนุ่มอีกทั้งแก่ แลอุเทศนำทางไพร แด่ผู้เปนนายไซ้ร อรไทยตอบวาจา ๏ เราเปนนางมนุษ ทุกข์ที่สุดจะพรรณนา เรานี้ศรีสุดา แห่งนราธิบดินทร์ ๏ เปนราชสนุษา และชายาแห่งภูมินทร์ บัดนี้มีใจจินต์ จำนงหาพระสามี ๏ อันองค์วิทรรภนาถ คือบิตุราชเกิดเกศี อันองค์พระสามี ปิ่นนิษัธปัถวิบาล ๏ ทรงนามนลราช ศรีวิลาศและอาจหาญ ไม่แพ้อริพาล นี้ภูบาลอันข้าหา ๏ ตัวท่านเดินผ่านทาง พบพระบ้างฤๅพ่อค้า อันพระภัสดา เปนสมิงมิ่งขวัญคน ๏ ศัตรูหมู่อมิตร์ สยอนฤทธิ์ทุกแห่งหน จงแจ้งแห่งยุบล บอกแก่ข้ามาด้วยดี ฯ ตาม์ อุวาจานวัท๎ยางคึ | | สาร๎ถัส๎ย มหตห์ ป๎รภุห์ | สาร๎ถวาห ศุจิร์ นาม ศ๎ฤณุ กัล๎ยาณิ มัท์วจห์ ๏ ฟังเพราะเสนาะถ้อย | | มารศรี | นายพณิชนามศุจี | | ออกอ้าง | ตอบนางว่าเทวี | | วรลักษณ์ | ทรงสดับข้าบ้าง | | จักแจ้งแถลงสาร ฯ | ๏ ฟังเพราะเสนาะพจน์ มธุรสเยาวมาลย์ จึ่งนายพณิชการ นามขนานว่าศุจี ๏ เฉลยซึ่งปุจฉา ว่าข้าแต่พระเทวี ขอจงทรงฟังดี ตูข้านี้ทูลกิจจา ๏ ข้านำคณจร ฝ่าดงดอนอรัญมา อันนละราชา บ่ประสบพบกลางไพร ๏ ระหว่างกลางดงดอน เห็นกุญชรฉกาจไกร เสือดาวเลียบราวไพร อีกเสือใหญ่กระหึมหาญ ๏ อีกหมีที่กินผึ้ง ซึ่งเห็นคนด้นดงดาล กระทิงมหิงษาน วิ่งพลุกพล่านผ่านหน้าไป ๏ อีกฝูงมฤคิน เที่ยวหากินริมทางไคล ในพงดงนี้ไซ้ร ไม่เคยพบประสบคน ๏ ในไพรอันใหญ่กว้าง บ่มีทางจรดล นอกจากนฤมล บ่พบคนมาแต่เพรง ๏ ขอองค์ยักษราช จงอย่าขาดความคุ้มเกรง แม้ใครจะข่มเหง ไวศรวัณช่วยกันภัย ๏ อันท้าวมณีภัทร์ ช่วยขจัดซึ่งจัญไร อุบาทว์บำราศไกล จากเหล่าข้าวณิชากร ๏ ได้ฟังคำเฉลย จึ่งทรามเชยมิ่งสมร ถามนายพณิชพร อีกทั้งเหล่าบริพาร ๏ อันท่านจะไปไหน สู่แดนใดจงไขขาน จะไปในพนานต์ จงเมตตาแก่ข้านี้ ๏ พณิชตอบวาจา ข้ามุ่งแคว้นแดนเจที สุพาหุภูมี ธำรงรัชด้วยสัตยธรรม์ ๏ คณาแห่งข้านี้ มิช้าทีถึงเขตขัณฑ์ จิตน้อมมาพร้อมกัน เพื่อลาภาหากำไร ฯ ๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๑๒ ดังนี้ ฯ สรรคที่ ๑๓๏ สา ตัจ์ ฉ๎รุต๎วานวัท๎ยางคี สาร๎ถวาหวจัส๎ ตทา ๏ ฝ่ายอรไทยผู้งามสรรพ ครั้นสดับคำนายพ่อค้า ผู้เปนสาร์ถวาหะ ควบคุมคณพณิชนั้น ๏ ชคาม สห เตไนว สาร๎เถน ปติลาลสา ๏ นางก็พลันหฤทัยน้อม ไปพร้อมด้วยกองพ่อค้า เพื่อเที่ยวค้นหาองค์บดี ในที่อรัญนั้นสืบไป ๏ อถ กาเล พหุติเถ วเนหมติ ทารุเณ ๏ ครานั้นไซ้รเขาก็ดำเนิน เดินทางไปได้หลายวัน ในแนวอรัญประเทศ อันเถื่อนทุเรศทารุณหนักหนา ฯ ตฑาคัม์ สร๎วโต ภท๎รัม์ ๏ เดินมาวันหนึ่งไซ้ร | | จึ่งถับ | บึงใหญ่ใครเห็นจับ | | จิตแท้ | ปัท๎มเสาคัน์ธิกัม์ บัวหลวงแน่นแนวนับ | | ห่อนครบ กอเลย | ส่งสุคนธรสแล้ | | เลิศล้วนยวนใจ ฯ | ๏ เดินไปได้วันหนึ่ง จึ่งถึงบึงในอรัญ แลเลิศประเสริฐสรรพ์ ครั้นได้เห็นดูเย็นตา ๏ บัวหลวงมีดาษดื่น หอมกลิ่นรื่นชื่นนาสา โอ้อกฟกอุรา หอมเหมือนผ้าที่เคยทรง ๏ บึงกว้างสำอางค์ตา พวกพ่อค้าสมจำนง มีหญ้าน่าประสงค์ พอเลี้ยงสัตว์รีบตัดมา ๏ ชอบบึงซึ่งเยี่ยมใหญ่ สดไสวมากมาลา ต่างพรรณเหลือพรรณนา ส่งกลิ่นฟุ้งจรุงใจ ๏ พณิชจิตบ่เศร้า เขาสำรวลกันร่วนไป แต่นางเจ้าห่างไกล พระภรรดรอ่อนอกกรม ๏ หอมกลิ่นผกากรอง คิดถึงห้องสองเคยรมย์ โอ้อกฟกระบม กลิ่นยิ่งหอมยิ่งตรอมทรวง ๏ อยู่วังนั่งในสวน มาลีล้วนลออดวง ชะอุ่มเป็นพุ่มพวง ปวงปลูกไว้ให้เราเชย ๏ กลิ่นแซมแกมกลิ่นรัก จึ่งหอมนักนะอกเอ๋ย ผัวไกลไร้เสบย ได้กลิ่นหอมจึ่งตรอมใจ ๏ นานาผลาผล สุก ๆ หล่นกล่นเกลื่อนไป ลองลิ้มชิมดูไซ้ร หวานกระไรชื่นใจครัน ๏ หวานผลวิมลรส ยิ่งกำสรดกรรแสงศัลย์ คำนึงถึงทรงธรรม์ พลันรสกลืนกลายขื่นขม ๏ หวานใดไม่หวานหนัก เท่ารสรักสมัคสม ไร้รักหนักอารมณ์ หวานเหมือนขมอมโศกา ๏ แลดูหมู่ปักษิน บ้างโบกบินบ้างกินปลา บ้างร้องก้องพนา เพรียกหาคู่ดูเหมือนเนียง ๏ อ้านกวิหคหาญ อยากใคร่วานเจ้าส่งเสียง ช่วยน้อมจิตพร้อมเพรียง ส่งสำเนียงเชิญพระมา ๏ นํ้าบึงซึ่งน่าเพ่ง ดูใสเหน่งเล็งเห็นปลา เลี้ยวไล่กันไปมา บ้างเล่นล่อริมกอบัว ๏ ธาราน่าลงเล่น อาบนํ้าเย็นเย็นแต่ตัว ใจโศกวิโยคผัว เย็นแต่ตัวหัวอกร้อน ฯ ๏ สุปริศ๎ราน์ตวาหาส๎ เต ฝ่ายนิกรพณิคชน เห็นพาหนนั้นเหนื่อยล้า ๏ นิเวษาย มโน ทธุห์ ๏ จึ่งพากันคิดลงนํ้า อาบให้ช่ำชื่นใจ ๏ สัม์มเต สาร๎ถวาหัส๎ย ครั้นได้เห็นสัญญา แห่งนายสาร์ถวาหะนั้น ๏ วิวิศุร์ วนัม์ อุต์ตมัม์ ๏ ทุกคนก็หันเข้าที่ละเมาะ อันเหมาะเปนที่พักสบาย ๏ อุวาส สาร๎ถห์ ส มหาน์ เวลาม์ อาสาท๎ย ปัศ๎จิมาม์ ๏ พอตวันบ่ายก็มาถึง ซึ่งตำบลนั้นอันสำราญ เปนสถานที่ควรสถิต จึ่งคณพณิชก็พร้อมใจ แรมอยู่ที่กลางไพร นั้นแล ฯ
๏ อถาร๎ท์ธราต๎รสมเย ๏ ครั้นได้เวลาเที่ยงคืนถนัด ในป่าชัฏนั้นก็สงัดทั่วไป อันปวงพณิชไซ้รต่างก็หลับนอน ด้วยเหนื่อยอ่อนมากลางทาง ๏ หัส๎ติยูถัม์ อุปาคมัต์ ๏ ปางนั้นพะเอินช้างโขลงหนึ่ง ซึ่งแต่ละตัวล้วนซับมัน พากันลงมายังบึง ซึ่งเปนที่มันกินนํ้าเย็น ๏ อถาปัศ๎ย สาร๎ถํ ตํ ๏ ครั้นมันแลเห็นพณิชคณา พร้อมด้วยคชาพาหนกล่นเกลื่อน จึ่งช้างเถื่อนเมื่อมาผ่าน กลิ่นช้างบ้านก็ขจรไป ช้างไพรกำลังคลั่งมัน ก็พร้อมกันแล่นไปด้วยหาญ อันจะต้านทานกำลังกรี อันมีแรงนั้นเหลือวิไสย รวดเร็วไปประหนึ่งศิลา กลิ้งลงมาจากยอดคีรี ลงสู่ที่หูบละหาน ครืน ๆ ปานเสียงฟ้าคราง ตามทางที่มันมาไซ้ร ต้นไม้หักโค่นกลิ้ง ทั้งกิ่งทั้งต้นกล่นกลาด ดาดาษไปทั่ววิถี คณกรีบ้ามันคลั่ง บ่มิรอรั้งวิ่งตรงไป ยังตำบลไพรที่พณิชตั้ง พักริมฝั่งบึงสบาย อันปทุมรายดาษดา นั้นแล ฯ
๏ เต ตัม์ มมร๎ทุห์ สหสา เจษ๎ฏมานัม์ มหีตเล ๏ ฝ่ายว่าคณพณิช นอนหลับสนิทอยู่กับพื้นดิน ฝูงกรินวิ่งมาเหยียบป่น สุดจะดิ้นรนพ้นไปได้ ต่างก็ตกใจร้องหวลโหย โอย ๆ โว้ยอะไรกัน บ้างก็ผลุนผลันวิ่งหนี วิ่งจี๋ ๆ จู่เข้าไป ในที่รกหมกแมกหนาม บ่มิมีความคิดชีวัง บ้างก็ยืนจังงังปากอ้า เพราะว่ายังบ่มิตื่นดี ฝ่ายคณกรีก็เอางาแทง เอางวงแว้งทุบซํ้า เอาตีนย่ำยับเตะส่ง คนก็ล้มลงบ้างกระเด็น บ้างก็เห็นอูฐของตนล้ม ระทมทอดวอดวายชนม์ ปนกับฝูงคนเลี้ยง อันวิ่งเลี่ยงรีบลี้ไป ทั่วกันไซ้รระส่ำระสาย วิ่งโวยวายรักชีวี บ้างก็ทุบตีซึ่งเพื่อนกัน ซึ่งกีดกั้นกันหนทาง บ้างดูราววิกลจริต สิ้นคิดสิ้นสติตรอง โรทร้องก้องพนาดอน นอนกลิ้งเกลือกกับธรณี บ้างรีบหนีขึ้นต้นไม้ เพราะตกใจเหลือประมาณ บ้างก็ลานปานเสียอารมณ์ ล้มลงแล้วก็เลยไม่ลุก ทุก ๆ ตนย่อมป่นปี้ บ้างม้วยชีวีอยู่ริมทาง เหตุด้วยช้างอันดุร้าย ทำอันตรายเอาฉนั้น อันว่าคณพณิชนี้ ซึ่งมั่งมีมากหลาย บ้างกระจัดกระจายไปในป่า โอ้อนิจจาบ้างก็บรรไลย อยู่ที่กลางหว่างไพร นั้นแล ฯ
๏ ราชัน์ ๏ ดูกรจอมไผททรงธรรม์ ๏ อาราวห์ สุมหางศ๎จาสีต์ ๏ ปางนั้นความเซ็งแซ่ แม้ผู้ใดยินก็พึงตกใจ ๏ ไต๎รโลก๎ยภยการกห์ ประหนึ่งว่าไตรโลกยนี้ มีความเสทือนด้วยภัยพิบัติ ๏ เอวัม์ เอวาภิ ภาษัน์โต วิท๎รวัน์ติ ภยาต์ ตทา ๏ ยามเมื่อกระจัดกระจายกันไป เพื่อกลัวภัยอันใหญ่นั้น เขาต่างกล่าวกันนานา มีอาทิว่าดังนี้ ฯ
๏ เอโษค๎นิร์ อุต์ถิตห์ กัษ๎ฏัส๎ ๏ โอ้โหกรรมเอยกรรมมี มาเกิดอัคคี ขึ้นแล้วในที่อาไศรย ๏ ต๎รายธ๎วํ ธาวตาธุนา ๏ เร็ว ๆ เข้าเถิดเกิดไฟ อย่ามัวร่ำไร จงหนีให้รอดชีวัน ๏ รัต๎นราศิร์ วิศีร๎โณยํ ๏ เฮ้ย ๆ รัตนะเหล่านั้น เปนของใครกัน จึ่งทิ้งกระจัดกระจายไว้ ๏ ค๎ฤห๎ณีธ๎วํ กิม์ ป๎รธาวถ ๏ จงเก็บแก้วก่อนเปนไร จะด่วนไปไหน กระไรไม่รักสิ่งดี ๏ สามาน๎ยัม์ เอตัท์ ท๎รวิณัม์ ๏ อันปวงสมบัติรัตน์มณี ทุก ๆ คนมี หุ้นส่วนจึ่งควรเก็บไป ๏ น มิถ๎ยาวจนัม์ มม ๏ โอ้โหโอกลัวข้าไฉน จะหลอกหลอนไย มิใช่เวลาหลอกหลอน ๏ ปุนร์ เอวาภิธาส๎ยามิ ๏ เฮ้ย ๆ ช้า ๆ มาก่อน เฮ้ย ๆ อย่าร้อน อย่ารีบกันไปให้ฉิบหาย ๏ จิน์ตยธ๎วํ สกาตราห์ ๏ เฮ้ย ๆ แน่เจ้าทั้งหลาย ขี้ขลาดปางตาย อย่าเสียสติตริตรอง ฯ
๏ ตัส๎มิน์ส๎ตทา วร๎ตมาเน ทารุเณ ชนสํก๎ษเย ๏ ปางเมื่อกองพณิชกร อันนอนระเนระนาดดาษดา ด้วยว่ามีเหตุทารุณ ทำให้ชุลมุนกันทั่วไปฉนี้ ๏ ทมยัน์ตี จ พุพุเธ ๏ จึ่งทมยันตีราชกัญญา ตื่นจากนิทราขึ้นด้วยพลัน ๏ ภยสัน์ต๎รัส๎ตมานสา ๏ อันมนัสแห่งนางพญาไซ้ร เต็มไปด้วยความสดุ้งสท้าน ๏ อปัศ๎ยัท์ ไวศสํ ตัต๎ร ๏ เยาวมาลย์เห็นซึ่งเหตุร้าย ผู้คนตายอยู่ดาษดา ๏ สร๎วโลกภยํกรัม์ ๏ อันเปนที่น่าพึงกลัว แม้ทั่วโลกก็อาจสยอน ๏ อท๎ฤษ๎ฏ๎ปูร๎วํ ตัท์ ท๎ฤษ๎ฏ๎วา พาลา ปัท๎ม นิเภก์ษณา ๏ โอ้บังอรเยาวเรศร์ ผู้มีเนตร์แม้นปทุมมาน แต่ก่อนกาลนางฤๅบ่เคยเห็น เหตุอันเปนร้ายแรงฉนี้ ๏ สํสัก์ตวทนาศ๎วาสา อุต์ตัส๎เถา ภยวิห๎วลา ๏ เทวีบัดนั้นก็กลั้นหายใจ เพราะตกพระไทยเหลือจะพรรณนา นางพญา ค่อย ๆ แขงขืน ค่อย ๆ ลุกยืนแทบมิอาจยัน ฯ
๏ เย ตุ ตัต๎ร วินิร๎มุก์ตาห์ สาร๎ถาต์ เกจิท์ อวิก์ษตาห์ ๏ ปางนั้นพวกพ่อค้า ซึ่งรอดชีวาเหลืออยู่ไซ้ร และที่รอดภัยพิบัติมหันต์ อันมีจำนวนประมวลน้อย ๏ เตพ๎รุวัน์ สหิตาห์ สร๎เว ๏ ต่างก็ละห้อยโหยหวล ทั้งมวลร้องพรรณนา ๏ กัส๎เยทํ กรมณห์ ผลัม์ ๏ ว่าอ้านี้เปนผลกรรม ใครหนอทำกรรมไว้ ๏ นูนํ น ปูชิโตส๎มาภิร มณีภัท๎โร มหายศาห์ ๏ อันเทพไทมณีภัทร์ ผู้ทรงสวัสดิ์มหายศา ได้รับบูชาแล้วมิใช่ฤๅ เหตุใดหือจึ่งมีภัย ท้าวไวศรวัณกำแหง แรงฤทธิเรืองศักดา ผู้เปนยักษาธิบดี ร่มเกศีปวงพ่อค้า อีกนานาเนกวัตถุสรรพ์ อันมีอานุภาพใหญ่ เราทั้งหลายไซ้รได้พลี บูชาดีแล้วสิ้นไซ้ร เหตุไฉนนกอันให้โชค จะบอกโศลกลางผิด วิปริตไปหนักหนา ฤๅดาราฤกษ์มิเหมาะ ฤๅดาวเคราะห์ขัดขวาง เราเดินทางมาจึ่งร้าย เปนอันตรายใหญ่หลวง เหตุทั้งปวงจึ่งบังเกิดมี มากฮือ ฯ
๏ อปเร ต๎วพ๎รุวัน์ ทีนา ช๎ญาติท๎รว๎ยวินาก๎ฤตาห์ ๏ ปางนี้จึ่งบางคน ซึ่งเศร้ากมลเพื่อไร้ญาติ อีกลาภขาดทรัพย์สูญ อาดูรพลางทางว่า ๏ ยาสาวัท๎ย มหาสาร๎เถ นารี ห๎ยุน์มัต์ตทร๎ศนา ๏ ดูราสาร์ถะบดี นรีผู้ยืนอยู่นั่น อันท่าทางอย่างบ้าไซ้ร คือผู้ใดเราอยากรู้ ดูอาการนางพิกล ทั่วทั้งตนวิปริต รูปร่างผิดมนุษเรา เอานางมาด้วยไฉน ฤๅว่านางไซ้รเจตนา ทำมายาทารุณใหญ่ ให้พวกเราต้องฉิบหาย ล้มตายกันมากฉนี้ ฤๅรากษสียักษิณีกาจ ฤๅนางปิศาจจัญไร มาบันดาลภัยพิบัติ ดูถนัดเที่ยงแท้ นางนี้แน่เปนตัวบาป สันดานหยาบยิ่งใหญ่ ยิ่งดูไปยิ่งเห็นจริง อันหญิงบาปหยาบช้า เจตนาฆ่าพวกพณิช คิดทำลายสรรพสมบัติ ให้ทุกข์ถนัดแก่เราไซ้ร จะไว้ไยนางกาลี มีแต่จะนำความฉิบหาย และความตายมาสู่เรา จงเอาดินเอาฝุ่นถม จงระดมด้วยไม้ไผ่ จงไล่ตีด้วยพลอง จงถองทุบด้วยกำปั้น เพื่อนางนั้นมันตายไป เพื่อให้สาแก่ใจ บัดนี้เถิด ฯ
๏ ทมยัน์ตี ตุ ตัจ์ ฉ๎รุต๎วา วาก๎ยํ เตษาง สุทารุณัม์ ๏ ครานั้นไซ้รทมยันตี ฟังวจีพวกพ่อค้า อันหยาบช้าทารุณราญ เตรียมจะประหารให้ตาย ๏ ห๎รีตา ภีตา จ สํวิค๎นา ป๎ราท๎รวัท์ ยัต๎ร กานนัม์ ๏ นางนึกอายเปนพ้นไป ทั้งกลัวภัยเปนที่สุด นางจึ่งรีบรุดเร็วร้อน เข้าในดงดอนไปซ่อนตน ๏ อาศังกมานา ตัต์ ปาปัม์ อาต๎มานัม์ ป๎รยเทวยัต์ ๏ นฤมลถูกเขาซัด จัดเอาบาปมาบ้าย โฉมฉายเศร้าสลดพระไทย จึ่งปริเทวนาไป ดั่งนี้ ฯ๏ อโห มโมปริ วิเธห์ | | สํรัม์โภ ทารุโณ มหาน์ | ๑๔๏ โอ้โอ๋กระไรนะภยะทา | | รุณะนิจจะพูลภัย | แม้ว่าดนูจะจระไหน | | พหุโทษก็ตามหา | นานุพัธ๎นาติ กุศลํ กัส๎เยทํ กร๎มณห์ ผลัม์ ๏ อันสิ่งกุศลศิริสวัส | | ดิพิพัฒน์บ่พึงมา | กรรมใดนะพาทุระผะลา | | ผะละร้ายทะลายกู | น ส๎มราม๎ยศุภํ กิญ์จิต์ ก๎ฤตํ กัส๎ยจิท์ อัน๎วปิ ๏ ปวงปาปะกรรมะอะกุศล | | มนะดลคะนึงดู | ทำไว้กะใครฤก็ดนู | | บมิรู้ณหนหลัง | กร๎มณา มนสา วาจา กัส๎เยทํ กร๎มณห์ ผลัม์ ๏ ด้วยกายะกรรมมนสะพลาด | | ฤวะวาจอะสัจจัง | กรรมใดประกอบนะคุรุยัง | | ผะละเกิดผจนผลาญ | นูนํ ชัน์มาน์ตรก๎ฤตัม์ ปาปัม์ อาปติตัม์ มหัต์ ๏ ฤๅกรรมกระทำคุรุขนาด | | ขณชาติก่อนกาล | บาปเก่าจะเผาศะริระราญ | | มนะซ้ำระยำไป | อปัศ๎ จิมาม์ อิมาง กัษ๎ฏาม์ อาปทัม์ ป๎ราป์ตวัต๎ยหํ ๏ กรรมค้างณปางชิวิตะก่อน | | ผิจะรอนระบมใจ | อ้ากรรมประพฤติฤไฉน | | นะจะพ้นพหลกรรม์ | ภร๎ต๎ฤราช๎ยาปหรณํ ส๎วชนาจ์ จ ปราชยห์ ๏ ไร้องค์บดีปิยสวาท | | มละราชย์วิบัติสรรพ์ | ไร้ญาติมิตระสวพัน | | ธุนิราศจิราดูร | ภร๎ต๎รา สห วิโยคัศ๎จ ตนยาภ๎ยาง จ วิจ๎ยุติห์ ๏ พรากจากพระสามิวรเศรษ | | ฐะนเรศร์นเรนทร์สูร | พรากสองดไนยะปิยพูล | | พิศวาสย์จะขาดใจ | นิร๎นาถตา วเน วาโส พหุว๎ยาลนิเษวิเต ๏ อันผู้จะพึ่งฤก็นิราศ | | จะอนาถณถิ่นไพร | โอ้หวาดขยาดณวนะภัย | | พหุพาละมากมี ฯ | ๏ อถาปเรท๎ยุห์ สัม์ป๎ราป์เต ๑๖ ๏ ฝ่ายพวกผู้รอดชีวี ยามรุ่งสุริย์ศรี ก็ต่างวิโยคโศกศัลย์ ๏ จึ่งชวนกันพ้นไพรวัน ทุกตนทั่วกัน ก็รํ่าพิไรไปมา ๏ บ้างเสียภราดรบิดา บ้างเสียบุตรา บ้างเสียซึ่งมิตร์ไมตรี ๏ ต่างตนต่างรีบจรลี เพื่อพ้นจากที่ อันทุกข์ถนัดขัดใจ ฯ ๏ อโศจัต์ ตัต๎ร ไวทร๎ภี | | กึ นุ เม ทุษ๎กฤตํ ก๎ฤตัม์ | ๑๔๏ ฝ่ายโฉมวิทรรภะสุรนา | | ริวิศาละทรามไวย | รำพรรณวะโอ้ทุกิจะใด | | นะประสาทประสิทธิ์เข็ญ | โยปิ เม นิร๎ชเนรัณ๎เย | | สัม์ป๎ราป์โตยํ ชนาร๎ณวห์ | ๏ พอกูประเวศวนะอรัณ | | ยะก็อันตรายเปน | พอพบพะณิชะคณะเห็น | | พหุอันตรายา | ส หโต หัส๎ติยูเถน | | มัน์ทภาค๎ยาท์ มไมว ตัต์ | ๏ แต่เดิมสิปวงพณิชะสุข | | บ่มิทุกข์ณมรรคา | พอคบดะนูนะสิคณา | | คชะร้ายทะลายเขา | ป๎ราป์ต๎วยํ สุจิรํ ทุห์ขํ นูนํ อัท๎ยปิ ไว มยา ๏ โอ้ทุกข์ฤท่วมกะมละมี | | ก็ทวีบ่บางเบา | โอ้โศกวิโยคนฤปะเรา | | ฤจะสุขสถาพร |
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 สิงหาคม 2560 17:57:28 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2560 16:31:12 » |
|
สรรคที่ ๑๓ (ต่อ)นาป๎ราป์ตกาโล ม๎ฤยเต ศ๎รุตํ ว๎ฤท์ธานุศาสนัม์ ๏ แม้ใครบ่ถึงมรณะกาล | | ผิจะผลาญบ่พึงมรณ | อาจารย์พิสุทธิพุฒิพร | | อนุศาสะนาไว้ | ยัท์ นาหัม์ อัท๎ย ม๎ฤทิตา หัส๎ติยูเถน ทุห์ขิตา ๏ ตัวกูชะรอยจะบ่มิถึง | | ขณซึ่งจะบรรไลย | สารเหยียบคณาพณิชะไซ้ร | | บ่มิเหยียบมิย่ำกู | น ห๎ยไทวํ ก๎ฤตํ กิญ์จิน์ นราณาม์ อิห วิท๎ยเต ๏ ปวงกิจจะการมนุษะเรา | | สุระเอาหทัยดู | ปวงกิจประสิทธิศุภะปู | | ชนิย์เทพธบันดาล | น จ เม พาลภาเวปิ กิญ์จิต์ ปาปก๎ฤตํ ก๎ฤตัม์ ๏ ปวงปาปะกิจจะอกุศล | | มนะหม่นกะมลราญ | หวนคิดตลอดณวะยะพาล | | ก็บ่เคยจะปองทำ | กร๎มณา มนสา วาจา ยัท์ อิทํ ทุห์ขัม์ อาคตัม์ ๏ ทั้งกายมะโนและวะจะนาท | | บ่มิคลาศกุศลกรรม | ไยทุกข์ทวีณฤดิซํ้า | | ฤดิท่วมทวีศัลย์ | มัน๎เย ส๎วยํวรก๎ฤเต โลกปาลาห์ สมาคตาห์ ๏ ฤๅเมื่อสยัมพะระพิธี | | สุรสี่พระองค์บรร | ฦๅศักดิรักษะภวะสัน | | ติอุส่าห์เสด็จไป | ป๎รต๎ยาข๎ยาตา มยา ตัต๎ร นลัส๎ยาร๎ถาย เทวตาห์ ๏ จักทรงพระโกรธะนะวิฆาฏ | | ก็เพราะอาจทะนงใจ | เลือกองค์พระนลนรวิไส | | ยะบ่สรรพระจอมสรวง | นูนํ เตษาม์ ป๎รภาเวน วิโยคัม์ ป๎ราป์ตวัต๎ยหัม์ ฯ ๏ เหตุนี้กระมังฤมะนะโศก | | และวิโยควิบัติปวง | ห่างองค์บดีก็กละทรวง | | จะพินาศทลายแลง ฯ | ๏ เอวมาทีนิ ทุห์ขาร๎ตา สา วิลัป๎ย วรางคนา๒๘ ๏ จึ่งเอกองค์อร อรรคเรศสุนทร เธอศัลย์กรรแสง โอ้โอผลกรรม ซ้อนซ้ำสำแดง นางบ่รู้แจ้ง แจ่มแท้กรรมใด ๏ โอ้ทมยันตี นิราศสามี อ้างว้างกลางไพร นางจึ่งกำสรวล คร่ำครวญหาไป สงสารทรามไวย ปิ้มจะอาสัญ ๏ พะเอินพบพราหมณ์ ผู้ปฏิบัติงาม เพศพรหมจรรย์ อันร่วมมรรคา กับพาณิชนั้น แต่โชคดีครัน บ่อันตราย ๏ นางเลิศเลอสรร ผู้งามราวจันทร์ ยามศารทะฉาย จึ่งค่อยยุรยาตร์ นวยนาฎกรกราย จากอรัญร้าย พร้อมด้วยทวยพราหมณ์ ๏ เดินไปได้นาน จึ่งนิ่มนงคราญ มาถึงเมืองงาม แลดูกำแพง แขงสู้สงคราม บ่มิต้องคร้าม ขยาดอรี ๏ นี้คือนคร สถิตสุนทร แห่งท้าวเจที ขึ้นชื่อฦๅชา สุพาหุศรี สุรเกียรตี รู้สัตยวิไสย ฯ๏ อถ ป๎รวิเวศ ปุโรต์ตมัม์ ๑๖ ๏ ยามนางประเวศเวียงไชย โอ้ว่าทรามไวย ใครเห็นก็น่าใจหาย ๏ ผ้าปิดบ่มิดวรกาย เพราะผ้าโฉมฉาย สิมีอยู่เพียงกึ่งเดียว ๏ รุงรังทั้งผอมซีดเซียว เผ้าผมเปนเกลียว ทั้งกายก็หม่นมลทิน ๏ ชาวเมืองวิ่งดูอรพินทุ์ ทุกคนเชื่อสิ้น ว่านางนี้บ้าน่าหยัน ๏ ต่างเรียกพวกพ้องมองกัน ต่างคนเห็นขัน ชวนกันมาเยาะเทวี ๏ ปางนางสู่ราชบุรี แห่งท้าวเจที กษัตร์สุระฦๅฉาว ๏ บรรดาทารกลูกชาว บุรีเกรียวกราว วิ่งตามกระตู้วู้ไป ๏ เด็กล้อมห้อมขุ่นวุ่นใจ นางรีบครรไล กระทั่งที่วังบดีศร ฯ๏ ตาม์ ป๎ราสาทคตาปัศ๎ยัท์ | | ราชมาตา ชไนร์ ว๎ฤตาม์ | ๑๑๏ เมื่อนั้นพะเอินองค์ | | วรราชะมารดร | เยี่ยมที่พระบัญชร | | เฉภาะเห็นก็เอ็นดู | ธาต๎รีม์ อุวาจ คัจ์ ไฉนาม์ | | อานเยห มมาน์ติกัม์ | ๏ ตรัสแก่พระธาตรี | | พิศะโฉมนรีตรู | สมเพชทุเรศสู | | จระเรียกอนงค์มา | ชเนน ก๎ลิศ๎ยเต พาลา ทุห์ขิตา ศรณาร๎ถินี ๏ นางทีจะไร้ญาติ | | และอนาถณอกอา | ดูรซ้ำคณานา | | คะระห้อมและล้อมมอง | ตาท๎ฤค์ รูปํ จ ปัศ๎ยามิ วิโท๎ยตยติ เม ค๎ฤหัม์ ๏ พิศรูปก็น่ารัก | | สุวะพักตระเรืองรอง | ดูแน่ละนางปอง | | จะประเวศณวังหมาย | อุน์มัต์ตเวศา กัล๎ยาณี ศ๎รีร์ อิวายตโลจนา ฯ ๏ โอ้ดูประหนึ่งบ้า | | มละผ้าจะห่อกาย | แต่ดูฤโฉมฉาย | | ศิริแม้นพระนางศรี ฯ | สา ชนํ วารยิต๎วา ตัม์ | | ๑๖๏ นางนมรับราชเสาวนี จึ่งไล่คนที่ มาห้อมมาล้อมนงคราญ | ป๎ราสาทตลัม์ อุต์ตมัม์ | | ๏ แล้วเชิญเยาวยอดสงสาร ขึ้นสู่สถาน มหาปราสาทเอกอุดม |
อาโรป๎ยวิส๎มิตา (ราชัน์) | | ๏ เห็นโฉมกันยาน่าชม ดูรูปดูสม เปนนางผู้เชื้อกษัตรีย์ | ทมยัน์ตีม์ อปฤจ์ฉต ฯ | | ๏ จึ่งองค์สมเด็จชนนี ถามทมยันตี ด้วยมธุรสพจนา ฯ | ๏ เอวัม์ อัป๎ยสุขาวิษ๎ฏา พิภร๎ษิ ปรมํ วปุห์ ๑๑๏ อ้าแม่อนาถใจ | | อระไซ้รอะนาถา | แต่รูปฤโศภา | | สุพิลาศพิไลยนวล | ภาสิ วิท๎ยุท์ อิวาเภ๎รษุ ศํส เม กาสิ กัส๎ย วา ๏ ราววิทยุใสแสง | | กละแฝงณเมฆมวล | แม่จงขยายถ้วน | | วจะเค้าคดีไข | น หิ เต มานุษํ รูปัม์ ภูษไณร์ อปิ วร๎ชิตัม์ ๏ พิศรูปสิเทียมเท | | วะสุดาสุราลัย | พิศภูษะณาไซ้ร | | มละสิ้นสุราภรณ | อสหายา นเรภ๎ยัศ๎จ โนท๎วิชัส๎ยมรป๎รเภ ฯ ๏ ไร้เพื่อนจะช่วยตัว | | ฤบ่กลัวนรากร | งามแม้นอมรพร | | สุประภาประไพศรี ฯ | ๏ ตัจ์ ฉ๎รุต๎วา วจนํ ตัส๎ยา ไภมี วจนัม์ อัพ๎รวีต์ ๑๔๏ ครานั้นพระนางวิมลศักดิ์ | | สุวพักตระไภมี | ฟังสาระองค์พระชนนี | | ธก็นอบเฉลยไข | มานุษีม์ มาง วิชานีหิ ภร๎ตารํ สมนุว๎รตาม์ ๏ ข้าเปนมนุษและนิรสุข | | พหุทุกข์สถิตใจ | เพื่อภักดิจิตตะบ่มิไหว | | บมิเหินสุภรรดา | ไสรัน์ธ๎รึ ชาติสัม์ปัน์นาม์ ภุชิษ๎ยาม์ กามวาสินีม์ ๏ เลี้ยงชีพณสาธุกะระเกื้อ | | เพราะวะเชื้อสุชาตา | รับใช้อะไรบ่มิระอา | | จระอยู่ฤตามถวิล | ผลมูลาศนาม์ เอกาง ยัต๎รสายัม์ป๎รติศ๎รยาม์ ๏ มวลมูลผลาผละณพน | | ฤก็ค้นก็ขุดกิน | เอการะอาขณะจะสิ้น | | ระวิแสงประภาใส | อสํเข๎ยยคุโณ ภาร๎ตา มาง จ นิต๎ยัม์ อนุว๎รตห์ ๏ ผัวข้าประเสริฐสุคุณะสรร | | พะอนันต์อสงไขย | ข้านิจจะย่อมสุมะนะใจ | | อนุพรตสุภรรดา | ภัก์ตาหัม์ อปิ ตัง วีรํ ฉาเยวานุคตา ปถิ ๏ เพ็ญภักดิต่อบุรุษะวี | | ระบดีสิเนหา | สู้ตามประเวศวนะวนา | | ดุจะเงากระชับองค์ | ตัส๎ย ไทวาต์ ป๎รสังโคภูท์ อติมาต๎รํ ส๎ม เทวเน ๏ บังเอินก็เกิดทุเคราะหะกรรม | | จระนำบดีหลง | ให้เล่นพนันมนะพะวง | | วิปริตวิกลการ | ท๎ยูเต ส นิร๎ชิตัศ๎ไจว วนัม์ เอก อุเปยิวาน์ ๏ ทอดดวดสกาบ่มิวิชิต | | ตละนิดสกาผลาญ | สิ้นสรรพะทรัพยะบ่มินาน | | ก็ประเวศพนารัณย์ | ตัม์ เอกวสนํ วีรัม์ อุน์นัต์ตัม์ อิว วิห๎วลัม์ ๏ มีหนึ่งสพัตระละก็ซํ้า | | จะรกำหทัยศัลย์ | ท่องเที่ยวพเนจระจรัล | | กละเสียจริตมา | อาศ๎วาสยัน์ตี ภร๎ตารัม์ อหัม์ อัป๎ยคมํ วนัม์ ๏ ข้านี้ก็จำจระประเวศ | | ณประเทศอรัณยา | เผื่อผัวจะโศกะณพนา | | ก็จะปลอบประโลมใจ | ส กทาจิท์ วเน วีรห์ กัส๎มึศ๎จิต์ การณาน์ตเร ๏ ยามอยู่ณกลางวนะประเทศ | | ฤทุเรศระอาไหน | มาซ้ำกระทบพหลภัย | | สะอุบัทว์ประหัดหาญ | ก๎ษุต์ปรีตัส๎ ตุ วิมนาส๎ ตัท์ อัป๎เยกํ ว๎ยสร๎ชยัต์ ๏ หิวโหยระหายอุระระอา | | กละว่าจะวายปราณ | ผ้าห่มธคลุมศะริระศาน | | ติพะเอินก็สูญหาย | ตัม์ เอกวสนา นัค๎นัม์ อุน์มัต์ตวัท์ อเจตสัม์ ๏ ภรรดาประหนึ่งวิกละจิต | | และบ่คิดสะเทินอาย | ข้ามีสะไบเฉภาะกะกาย | | ฤก็ให้ธแบ่งคลุม | อนุว๎รชัน์ตี พหุลา น ส๎วปามิ นิศาส๎ ตทา ๏ เลี้ยวลัดและตัดวะนะวิถี | | สุริย์ศรีก็ส่องสุม | กลางป่าสิพาละมิคะชุม | | ดนุนอนบ่หลับไหล | ตโต พหุติเถ กาเล สุป์ตาม์ อุต์ส๎ฤช๎ย มาง ก๎วจิต์ ๏ คืนหนึ่งระทวยอุระสะท้อน | | ดนุนอนก็หลับไป | สามีชะรอยวิกละใจ | | มละข้าณอารัณย์ | วาสโสร๎ท์ธัม์ ปริจ์ฉิท๎ย ต๎ยัก์ตวาน์ มาม์ อนาคสัม์ ๏ แบ่งผ้าสะไบวิมละกึ่ง | | บ่มิพึงจะรอกัน | ทิ้งข้าอนาถะรุทะศัล | | ยะวิโยคตะโกนหา | ตัม์ มาร๎คมาณา ภร๎ตารํ ทห๎ยมาณา ทิวานิศัม์ ๏ คํ่าเช้าก็เฝ้าจระพะเน | | จระเร่ณมรรคา | ค้นผัวบ่กลัวภยะพยา | | ธิณส่วนดนูเลย | สาหํ กมลคร๎ภาภัม์ อปัศ๎ยัน์ตี ห๎ฤทิ ป๎ริยัม์ ๏ โอ้ว่าบดีกมละครรภ | | ปิยสัพพะทรามเชย | ห่างรักฤดีบ่มิสเบย | | ดุจะมืดบ่มีไฟ | น วิน์ทาม๎ยมรป๎รข๎ยัม์ ป๎ริยัม์ ป๎ราเณศ๎วรัม์ ป๎รภุม์ ฯ ๏ ดังฤๅจะพบปิยบดี | | วรศรีสถิตใจ | จอมปราณธปานอมรไตร | | ทศะเทพะเทวัน ฯ | ตาม์ อัศ๎รุปริปูร๎ณาก์ษีม์ วิลปัน์ตึ ตถา พหุ ๑๑๏ สิ้นวาจะทรามเสน่ห์ | | ปริเทวะรำพรรณ | อันอัสสุชลนั้น | | ฤก็นองณสองตา | ราชมาตาพ๎รวีต์ อาร๎ตาม์ ไภมีม์ อาร๎ตตรา ส๎วยัม์ ๏ ฟังวาจะนางนาฎ | | วระราชมารดา | เศร้าทรวงและเมตตา | | ธก็ปลอบพระไภมี | วสัส๎ว มยิ กัล๎ยาณิ ป๎รีติร์ เม ปรมา ต๎วยิ ๏ แม่จงสถิตอยู่ | | กะดนูเถอะโดยดี | เพื่อช่วยประมวลปรี | | ดิณดวงมะโนเรา | ม๎ฤคยิษ๎ยัน์ติ เต ภัท๎เร ภร๎ตารัม์ ปุรุษา มม ๏ คนใช้ขยันดี | | ดนุมีจะสั่งเขา | ค้นสามินงเยาว์ | | ณประเทศพนาลัย | อปิ วา ส๎วยัม์ อาคัจ์เฉต์ ปริธาวัน์ อิตัส๎ตตห์ ๏ บางทีจะเลี้ยวลัด | | และจะตัดวิถีไพร | บางทีจะมาใน | | วรราชะธานี | อิไหว วสตี ภัท๎เร ภร๎ตารัม์ อุปลัปส๎ยเส ฯ ๏ อยู่ยังณวังรัตน์ | | เถอะสุภัทระเทวี | ไม่ช้าฤสามี] | | ก็จะเคียงภิรมย์สมร ฯ | ราชมาตุร์ วจห์ ศ๎รุต๎วา ทมยัน์ตี วโจพ๎รวีต์ ๑๔๏ ฟังสาระรสสุพจนาท | | วรราชมารดร | จึ่งทมะยันติศิริธร | | ก็เฉลยพระวาที | สมเยโนต์สเห วัส๎ตุํ ต๎วยิ วีรป๎รชายินี ๏ อ้าองค์พระเทวิวรวี | | ระประชายินีศรี | ข้าขอประทานพระสวนี | | อนุมัติ์มโนมัย | อุจ์ฉิษฏํ ไนว ภุญ์ชียาง น กุร๎ยาม์ ปาทธาวนัม์ ๏ ของเดนดนูบ่มิถวิล | | และจะกินบ่เหลือใคร | ล้างตีนก็เปนถุละวิไส | | ยะจะทำก็เสียศรี | น จาหัม์ ปุรุษาน์ อัน๎ยาน์ ป๎รภาเษยํ กถัญ์จน ๏ อีกปวงบุรุษก็บ่มิจง | | จะประสงค์สนิทดี | [size=11ptแม้ชายจะพูดฤก็บ่มี][/size] | | จะเฉลยณวาจา | ปราร๎ถเยท์ ยทิ มาง กัศ๎จิท์ ทัณ์ฑ๎ยัส๎ เต ส ปุมาน์ ภเวต์ ๏ แม้ใครจะปราถะนะดนู | | กละชู้ฤภรรดา | จงลงสุทัณฑคุรุทา | | รุณะเพื่อบ่เหิมหาญ | พัธ๎ยัศ๎จ เตสก๎ริน์ มัน์ท อิติ เม ว๎รตัม์ อหิตัม์ ๏ แม้ทัณฑะแล้วก็บ่มิเข็ด | | ก็เผด็จชิวีผลาญ | เพื่อรักษะสัจจะวตะการ | | ดนุภักดิภรรดร | ภร๎ตุร์ อัน๎เวษณาร๎ถํ ตุ ปัศ๎เยยัม์ พ๎ราห๎มณาน์ อหัม์ ๏ แต่พราหมณาทวิชะวงศ์ | | ศุภะทรงสุสังวร | ผู้รับจะค้นพระปติศร | | ดนุยอมประภาษิต | ยัท๎เยวัม์ อิห กร๎ตว๎ยํ วัต์ส๎ยาม๎ยหํ อสํศยัม์ ๏ แม้นางพญาจะอนุญาต | | และประสาธะสมจิต | ข้าจึ่งจะปลงมนะสถิต | | ณนิวาศะวังใน | อโตน๎ยถา น เม วาโส วร๎ตเต ห๎ฤทเย ก๎วจิต์ ฯ ๏ แต่แม้มิยอมประดุจะขอ | | จะมิรอฤอาไศรย | ขอลาพระมาตุระคระไล | | และประเวศณไพรสาณฑ์ ฯ | ๏ ตาม์ ป๎รห๎ฤษ๎เฏน มนสา ราชมาเตทัม์ อัพ๎รวีต์ ๒๘๏ ฟังวาทะไพเราะ | | วจะเหมาะมโนมาลย์ | แม่เจ้าธสงสาร | | ก็เฉลยวจีศรี | สร๎วัม์ เอตัต์ กริษ๎ยามิ ทิษ๎ฏ๎ยา เต ว๎รตัม์ อีท๎ฤศัม์ ๏ โฉมยงฤจงรัก | | วรภักดิสามี | เราเห็นประเสริฐดี | | จะประสาธะสมจินต์ | เอวัม อุก์ต๎วา ตโต ไภมึ ราชมาตา วิศาม์ ปเต ๏ เสร็จตอบพระไภมี | | ชนนีพระภูมินทร์ | เมตตาสุนารินทร์ | | เพราะอนาถอนาทร | อุวาเจทํ ทุหิตรํ สุนัน์ทาง นาม ๏ ตรัสสั่งพระบุตรี | | ดรุณีศิรินสมร | ปรากฎพระนามกร | | วรนาฎสุนันทา | ไสรัน์ธ๎รีม์ อภิชานิษ๎ว ๏ นางนี้ฤแม่เชื่อ | | กละเชื้อกษัตรา | เศร้าโทมะนัสอา | | ดุระซูบและเสียศรี | สุนัน์เท เทวรูปิณีม์ ๏ ดูเถิดสุนันทา | | ศิริสาระล้วนดี | แม้เทวะบุตรี | | ก็บ่เทียบบ่เทียมทัน | วยสา ตุล๎ยตาม์ ป๎ราป์ตา สขี ตว ภวัต๎วิยัม์ ๏ ดูวัยก็ยังอ่อน | | ฤกะหล่อนก็คราวกัน | สมมิตระสมพัน | | ธะสมัคสโมสร | เอตยา สห โมทัส๎ว นิรุท๎วิค๎นมนาห์ สทา ฯ ๏ แม้สองสินิทกัน | | ฤจะอันตรายรอน | นางคงจะคอยสอน | | ศุภะเอื้อและเอาใจ ฯ | ๏ ตตห์ ปรมสํห๎ฤษ๎ฏา สุนัน์ทา ค๎ฤหัม์ อาคมัต์ ๑๔๏ นันทาสดับวะจะนะปรี | | ดิฤดีก็ผ่องใส | ทูลลาพระมาตะระคระไล | | ณพระเคหะผ่องศรี | ทมยัน์ตีม์ อุปาทาย สขีภิห์ ปริวาริตา ฯ ๏ พร้อมแสนสุรางค์สขิคณา | | บริวาระนารี | ทั้งทมะยันติศุภะศรี | | ฤก็อยู่วิมลศานต์ | ๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๑๓ ดังนี้ ฯ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 สิงหาคม 2560 18:03:01 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2560 17:48:34 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 สิงหาคม 2560 18:06:07 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2560 18:11:29 » |
|
พระนลคำหลวง สรรคที่ ๑๖๏ ภีมห์ ๏ ฝ่ายจุมพลภีมราช วิทรรภนาถนาถา ๏ ห๎ฤตราช๎เย นเล ๏ ราชาแจ้งอุปัทวเหตุ ว่านลนเรศร์ไร้สมบัติ ๏ สภาร๎เย เป๎รษ๎ยตางคเต ๏ อีกองค์รัตนนารี ผู้มหิษีก็ตกยาก แสนลำบากยากเข็ญ บ่เปนสุขทั้งสองรา ๏ ท๎วิชาน์ ป๎รัส๎ถาปยามาส ๏ จึ่งราชาภีมะ ธตรัสใช้ทิชาจารย์ ผู้ชำนาญเดินดง ให้แสวงองค์นลกษัตร์ ให้สมบัติไปใช้สอย บ่มิน้อยพอแก่การ แล้วภูบาลภีมะราช จึ่งประภาษสั่งพราหมณ์ ดังนี้ ฯ ๏ ม๎ฤคยัธ๎วํ นลํ ยูยํ ทมยัน์ตี จ เม สุตาม์ ๏ สูจงไปเที่ยวค้น | | หานล | วรราชผู้เรือง | | ฤทธิเลิศ | อีกนิ่มนฤมล | | สุดารัตน์ | ทมยันตีเพริศ | | เพรางาม ฯ | อัส๎มิน์ กร๎มณิ สัม์ปัน์เน วิช๎ญาเต นิษธาธิเป ๏ เมื่อยามสฤษดิได้ | | ดังจินต์ | คือประสบไนษัธ | | ยอดภพ | ควาง สหัส๎รํ ทาส๎ยามิ โย วัส๎ ตาวานยิษ๎ยติ ใครนำสู่ธานินทร์ | | ทั้งคู่ | กูจะให้โคครบ | | หนึ่งพัน ฯ | อค๎รหารางศ๎จ ทาส๎ยามิ ค๎รามํ นครสัม์มิตัม์ ๏ ปางนั้นกูจะเอื้อ | | เอาภาร | ให้ทรัพย์หิรัญจา | | รุมาษ | เพื่อยังนิคมสถาน | | ที่อยู่ | ให้เปนสุขแม้นราช | | ธานี ฯ | น เจจ์ฉัก๎ยาวิหาเนตุํ ทมยัน์ตี นโลปิ วา ๏ แม้ชีจะมิได้ | | พบนล นาถแฮ | ฤๅมิ่งทมยันตี | | ศิรินาฎ | ช๎ญาตมาเต๎รปิ ทาส๎ยามิ ควาง ทศ ศตํ ธนัม์ ฯ ขอเพียงแต่รู้หน | | แห่งยับ เธอเทอญ | โคสิบร้อยประสาท | | ไป่หวง ฯ | ๏ อิต๎ยุก์ตาส๎ เต ๏ ปวงพราหมณ์ได้ฟังสาร แห่งภูบาลบพิตร์ ต่างก็มิจิตปรีดา พากันท่องเที่ยวไป ในทิศานุเทศ เข้ายังเขตภารา และมหานคร ค้นภูธรนลราช และรัตนนาฎมหิษี แต่เหล่าชีบ่มิพบ ประสบองค์ท้าวนล ฤๅนฤมลภีมะสุดา นั้นเลย ฯ
๏ สุเทว ๏ ครานั้นสุเทพทิชะ ๏ ตตัศ๎เจทิปุรึ รัม๎ยาง ๏ มาถึงพระเวียงราช แห่งภูวนาถเจที อันเปนที่รมเยศร์ วิเศษแม้นเมืองสวรรค์ ๏ วิจิน๎วาโนถ ไวทร๎ภีม์ ๏ ครานั้นพราหมณ์ได้ยล นิ่มนฤมลนารี ไวทรรภีศรีสอาด อยู่ในราชนิเวศน์ อันวิเศษโสภิต นางสถิตเคียงกายา แห่งสุนันทานารี ราชบุตรีศรีวิลาศ พิศนางนาฎเลอสรร อันเคยมีรูปวิไลย บัดนี้ไซ้รมัวหมอง บ่มิผ่องเพียงเก่า เศร้าเหมือนแสงตวัน อันมีเมฆฝนบัง ยังมีแสงแต่อ่อน ผ่อนเผยออกแต่น้อย พราหมณ์ชะม้อยดูนาง อันสำอางลออเนตร์ เห็นเยาวเรศหมองศรี ทั้งอินทรีย์ซูบผอม ย่อมเปนที่ จับใจ พราหมณ์ตรึกไตรในจิต นี่ฤมิ่งมิตร์ไภมี ดูเปนที่น่าสมเพช เวทนาสาวคำ จึ่งรำพึงในใจ ดังนี้ ฯ
๏ ยเถยัม์ เม ปุรา ท๎ฤษ๎ฏา ตถารูเปยัม์ อังคนา ๏ เราไซ้รเห็นรูปเจ้า | | ธิดา | คล้ายเมื่อนางอยู่เวียง | | บิตุราช | ก๎ฤตาร๎โถส๎ยัท๎ย ท๎ฤษ๎เฏ๎วมาง โลกกาน์ตาม์ อิว ศ๎ริยัม์ นับว่าสิทธิ์ปราถนา | | เปนแน่ | เพราะประสบนางสวาท | | โลกล้วนนิยมดู | ปูร๎ณจันท๎รนิภาง ศ๎ยามาง จารุว๎ฤต์ตปโยธราม์ ๏ แสนตรูงามมาตร์แม้น | | เพ็ญจันทร์ | งามพระถันดังดวง | | สะโรช | กุร๎วัน์ตีม์ ป๎รภยา เทวี สร๎วา วิติมิรา ทิศห์ เทวีสิริฉายฉัน | | ฉายเฉิด | ศรีสว่างทุกทิศโชติ | | ช่วงเพี้ยงเพ็ญแข | จารุปัท๎มวิศาลาก์ษีม์ มัน๎มถัส๎ย รตีม์ อิว ๏ แลดูนัยเนตร์แม้น | | บัวทอง | งามเปรียบนางรตี | | วิจิตร์ | อิษฏาม์ สมัส๎ต โลกัส๎ย ปูร๎ณจัน์ท๎รป๎รภาม์ อิว เปนที่พะวงปอง | | แห่งโลก | เหมือนหนึ่งจันทราทิตย์ | | ส่องหล้ายินดี | วิทร๎ภสรสัส๎ ตัส๎มาท์ ไทวโทษาท์ อิโวท์ธ๎ฤตาม์ ๏ จากที่สะรัสแก้ว | | ในวิทรรภ์ | ทวยเทพธปลิดนาง | | บุษปมาษ | มลปังกานุลิป์ตางคีม์ ม๎ฤณาลีม์ อิว โจท์ธ๎ฤตาม์ เหมือนรึ้งกุสุมพรรณ | | พ้นสระ | เปื้อนแปกดวงบุบผชาติ | | แปกเปื้อนโคลนตม | เปาร๎ณมาสีม์ อิว นิศาง ราหุค๎รัส๎ตนิศากราม์ ๏ ทรามชมมัวหม่นแม้น | | ราตรี | ราหุจับนิศากร | | ขบคาบ | ปติโศกากุลาง ทีนาง ศุษ๎กโส๎รตาง นทีม์ อิว อีกเหมือนอย่างนที | | แห้งผาก | เพื่อโศกศัลยพิลาป | | ห่างห้องมาหึง | วิธ๎วัส๎ตปร๎ณกมลาง วิต๎ราสิตวิหังคมาม์ ๏ เหมือนบึงบัวเหี่ยวแห้ง | | ห่างชม | ฝูงวิหคเหินไกล | | บ่พัก | หัส๎ติหัส๎ตปราม๎ฤษ๎ฏาง ว๎ยากุลาม์ อิว ปัท๎มินีม์ นํ้าแห้งขุ่นเปนตม | | แสนขุ่น | เพราะคชเอางวงควัก | | ดูดน้ำมากิน | สุกุมารีม์ สุชาตางคึ รัต๎นคร๎ภค๎ฤโหจิตาม์ ๏ ยุพินฤแน่งน้อย | | สุกุมาร | ควรแต่อยู่หอคำ | | คฤหรัตน์ | ทัห๎ยมานาม์ อิวาร๎เกณ ม๎ฤณาลีม์ อิว โจท์ธ๎ฤตาม์ โอ้นางดั่งบัวบาน | | ถูกเด็ด | ไหม้แดดที่ร้อนจัด | | จึ่งแห้งเหือดสี | รูเปาทาร๎ยคุโณเปตาม์ มัณ์ฑนาร๎หาม์ อมัณ์ฑิตาม์ ๏ มีรูปงามอีกทั้ง | | งามใจ | ควรประดับไป่มี | | ประดับ | จัน์ท๎รเลขาม์ อิว นวาง โว๎ยม๎นิ นีลาภ๎รสํว๎ฤตาม์ เหมือนจันทร์แรกขึ้นใน | | โพยมเด่น | มืดเพราะดวงลี้ลับ | | เมฆก้อนใหญ่บัง | กามโภไคห์ ป๎ริไยร์ หีนาง หีนาม์ พัน์ธุชเนน จ ๏ ทั้งครอบครัวห่างเจ้า | | แจ่มจันทร์ | ยังมิหนำซ้ำประยูร | | วิโยค | เทหํ ธารยตึ ทีนาม์ ภร๎ต๎ฤทร๎ศนกางก๎ษยา หวังอยู่แต่พบภรร | | ดาเสน่ห์ | นางจึ่งสู้ทนโศก | | อยู่ได้โดยดี | ภร๎ตา นาม ปรํ นาร๎ยา ภูษณาม์ ภูษไณ วินา ๏ นารีแม้ไร้สรรพ | | ภูษณา | ผัวก็เปนอาภรณ | | พิลาศ | เอษา หิ รหิตา เตน โศภมานา น โศภเต แม้ไร้ซึ่งภรรดา | | งามเหือด | ถึงจะแต่งรัตนมาษ | | ไป่พร้อมโสภา | ทุษ๎กรํ กุรุเตต๎ยัน์ตํ หีโน ยัท์ อนยา นลห์ ธารยัต๎ยาต๎มโน เทหํ น โศเกนาวสีทติ ๏ อ้านางจะยากแค้น | | ใดปาน | อีกพระนลผู้ห่าง | | คู่สวาท | จะคงพระชนมาน | | มั่นอยู่ แลฤๅ | ฤๅโศกจวบชีพขาด | | โศกซ้อนฤดี | อิมาม์ อสิตเกศาน์ตาง ศตปัต๎รายเตก์ษณาม์ สุขาร์หาง ทุห์ขิตาง ท๎ฤษ๎ฏ๎วา มาปิ ว๎ยถเต มนห์ ๏ อ้าศรีสุรรัตน์เลิศ | | กัญญา | ขำเกศเนตร์ฤๅปาน | | ศัตบตร์ | สมควรแต่สุขา | | มาทุกข์ แม่เอย | ยิ่งพิศยิ่งกําสรด | | โศกเศร้าแทนนาง ฯ | กทา นุ ขลุ ทุห์ขิตาง ปรํ ยาส๎ยติ ไว ศุภา ๏ ปางใดศุภลักษณ์แก้ว | | กานดา | จึ่งจะข้ามพ้นห้วง | | แห่งทุกข์ | ภร๎ตุห์ สมาคมาต์ สาธ๎วี โรหิณี ศศิโน ยถา เมื่อใดจะพบสา | | มีเสน่ห์ | ดังพระโรหิณีสุข | | เสน่ห์ด้วยศศี | อัส๎ยา นูนัม์ ปุนร๎ลาภาท์ ไนษธห์ ป๎รีติเมษ๎ยติ ๏ ภูมีนลราชได้ | | โฉมยง คืนแฮ | พระจะได้เสวยรมย์ | | ประโมท | ราชา ราช๎ยปริภ๎รัษ๎ฏห์ ปุนร์ ลัพ์ธ๎วา จ เมทินีม์ ถึงแม้พระยังคง | | ไร้ราชย์ อยู่นา | ก็จะเรืองศรีโรจน์ | | รุ่งแม้นงำเวียง | ตุล๎ยศีลวโยยุก์ตาง ตุล๎ยาภิชนสํว๎ฤตาม์ ๏ คู่เคียงสมคู่เผื้อ | | ศีลธรรม์ สม่ำนา | อายุเท่ากันกอปร์ | | อภิชาต | ไนษโธร๎หติ ไวทร๎ภึ ตํ เจยัม์ อสิเตก์ษณา ไนษัธสิควรกัน | | กับหน่อ วิทรรภแฮ | นางก็ควรแก่ราช | | เกียรติก้องเมทนี | ยุก์ตํ ตัส๎ยาป๎รเมยัส๎ย วีร๎ยสัต์ต๎ววโต มยา สมาศ๎วาสยิตุม์ ภาร๎ยาม์ ปติทร๎ศนลาลสาม์ ๏ เห็นทีนางเลิศลํ้า | | ธรณิน | คงจะอยากพบองค์ | | สวามิศร์ | เพื่อปลอบมหาพิร | | ทรงสัตย์ | สมตำแหน่งผู้นิตย์ | | แนบเนื้อเสนหา | อหัม์ อาศ๎วาสยาม๎เยนาม์ ปูร๎ณจัน์ท๎รนิภานนาม์ อท๎ฤษ๎ฏปูร๎วาม์ ทุห์ขัส๎ย ทุห์ขาร๎ตาง ธ๎ยานตัต์ปราม์ ๏ อ้านางผ่องพักตร์เพี้ยง | | เพ็ญจันทร์ | นางบ่เคยทุกข์กรำ | | กรากเทวศ | บัดนี้สิมาศัลย์ | | ทรวงโศก แม่เอย | จำจะทูลอรรคเรศ | | ปลอบด้วยคำดี ฯ | ๏ เอวํ วิม๎ฤษ๎ย ๏ ครั้นธชีไตร่ตรอง มองดูลักษณนาง พลางดูรูปศริระตระการ ทั่วสงสารบ่เทียมถึง ๏ สุเทโว พ๎ราห๎มโณพ๎รวีต์ ๏ จึ่งสุเทพพราหมณ์ดี ทูลบุตรีภีมะราช ด้วยวาทอันสุนทร เพื่อบังอรทราบกิจจา ดังนี้ ฯ ๏ อหํ สุเทโว ไวทร๎ภิ ภ๎ราตุส๎ เต ทยิตห์ สขา ๏ ข้าแต่ไวทรรภราช | | สุดา | ข้าสุเทพเพื่อนพระ | | พี่ไซ้ร | ภีมัส๎ย วจนาท์ ราช๎ญัส๎ ต๎วาง อัน๎เวษ๎ฏุม์ อิหาคตห์ มาแสวงนิ่มนารี | | วรรัตน์ | โดยภีมะใช้ด่วน | | ดลมา | กุศลี เต ปิตา ราช๎ญิ ชนนี ภ๎ราตรัศ๎จ เต ๏ พระบิดาชนนิราช | | อยู่สราญ | อีกพระพี่ยาอยู่ | | สุขพร้อม | อายุษ๎มัน์เตา กุศลิเนา ตัต๎รเส๎ถา ทารเกา จ เตา อีกสองกุมารองค์ | | ลูกแห่ง นางฤๅ | มีเพื่อนเล่นห้อมนิตย์ | | แน่นนันท์ | ต๎วัต์ก๎ฤเต พัน์ธุวร๎คาศ๎จ คตสัต์ต๎วา อิวาสเต ๏ ปวงประพันธุญาติ | | แห่งนาง | ต่างนั่งทุกข์ถึงเธอ | | ละห้อย | อัน๎เวษ๎ฏาโร พ๎ราห๎มณาศ๎จ ภ๎รมัน์ติ ศตโศ มหีม์ ฯ ใช้ทวิชตรวจทางดู | | ทุกแหล่ง | รวมนับได้ร้อยเที่ยว | | หาอร ฯ | ๏ ยุธิษ๎ฐิร ๏ ดูกรยุธิษฐิร ๏ อภิช๎ญาย สุเทวํ ตํ ทมยัน์ตี ๏ ครั้นยุพินทมยันตี รู้จักธชีสุเทพแล้ว นางแก้วก็ดำรัสถาม ถึงความสุขสมบูรณ แห่งประยูรญาติและสหาย จึ่งโฉมฉายวิทรรภสุดา ทอดทัศนาสุเทพ ผู้เพื่อนเสพยสามัคคี กับพระพี่ผู้รัก นงลักษณ์ทรงพระโศกา ๏ สุนัน์ทา ๏ ฝ่ายสุนันทานารี เห็นโฉมศรีโศกาดูร พูลเทวศทวีจัด ยามดำรัสด้วยธชี ๏ ชนิต๎ร๎ยาห์ กถยามาส ๏ พระกุมารีสุนันทา ถามพระมารดาทรงวัย ๏ ไสรัน์ธ๎รี โรทีติ ๏ เหตุฉันใดนางรูปงาม จึ่งมีความโศกสอื้นไห้ เพื่อเหตุไฉนพูดกับพราหมณ์ นงรามจึ่งต้องหมองศรี นางนี้คือ นางใด ทำไฉนจักได้ทราบคดี ๏ อถ เจทิปเตร๎ มาตา ๏ ปางนั้นพระศรีมาตุราช แห่งพระภูมินาถเจทินคร จึ่งเสด็จจรจากห้องใน ไปยังที่พราหมณ์สถิต อยู่ด้วยมิ่งมิตร์นงราม บอกให้พราหมณ์ยืนจำเภาะหน้า แล้วนางพระยาวุฒิวัย จึ่งตรัสถามสุเทพไป ดังนี้ ฯ ๏ ภาร๎ยา กัส๎เยยํ สุตา วา กัส๎ย ภาวินี ๏ อรไทยผู้แน่งน้อย | | งามองค์ เอกแฮ | เปนมหิษีใคร | | อยากรู้ | สุดาเผ่าพงศ์ดี | | ฤๅถ่อย ฉันใด | ไยจึ่งมาสู้กราก | | อยู่เพี้ยงทาสี | กถํ จ ภ๎รัษ๎ฏา ช๎ญาติโภ๎ย ภร๎ตุร๎ วา วามโลจนา ๏ นารีไยพรากญาติ | | วงศา | ไยพรากภรรดาครอง | | คู่เคล้า | ต๎วยา จ วิทิตา วิป๎ร กถัม์ เอวํคตา สตี นางนี้วิปราจารย์ | | รู้จัก อยู่ฤๅ | ไยจึ่งมาเศร้าโศก | | ดั่งนี้เปนไฉน | เอตัท์ อิจ์ฉาม๎ยหํ โศ๎รตุํ ต๎วัต์ตห์ สร๎วัม์ อเศษตห์ ๏ เราไซ้รจงจิตรู้ | | เรื่องราว | แห่งอนงค์นี้จง | | ถี่ถ้วน | ตัต์เต๎วน หิ มมาจัก์ษ๎ว ป๎ฤจ์ฉัน์ต๎ยา เทวรูปินีม์ ฯ เหตุไฉนจึ่งสาวคำ | | รูปเลิศ ฟ้าแฮ | ตกลำบากล้วนแต่ | | โศกเศร้าฤๅวาย ฯ | ๏ เอวัม์ อุก๎ตัส๎ ตยา ราชัน์ สุเทโว ท๎วิชสัต์ตมห์ ๏ ฝ่ายสุเทพทวิช สิทธิปัญญาเยี่ยมเค้า ฟังสารพระแม่เจ้า ตรัสถามสุโขปวิษ๎ฏ อาจัษ๎เฏ ทมยัน์ต๎ยา ยถาตถัม์ ฯ ๏ พราหมณ์นั่งลงโดยควร ทูลทั้งมวลหมดไซ้ร เรื่องนางวิทรรภให้ เสร็จสรรพ์ ฯ ๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๑๖ ดังนี้ ฯ พระนลคำหลวง สรรคที่ ๑๗วิทร๎ภราโช ธร๎มาต๎มา ภีโม นาม มหาท๎ยุติห์ ๏ ในวิทรรภ์ธรรมราชเจ้า | | งำเมือง | ภีมะราชเลื่องฦๅ | | ฤทธิ์สล้าง | สุเตยํ ตัส๎ย กัล๎ยาณี ทมยัน์ตีติ วิศ๎รุตา สุดารุ่งเรืองศรี | | สวยประเสริฐ นี้แล | ทมยันตีอ้างออก | | นามกร | ราชา ตุ ไนษโธ นาม วีรเสนสุโต นลห์ ภาร๎เยยํ ตัส๎ย กัล๎ยาณี ปุณ๎ยโศ๎ลกัส๎ย ธีมตห์ ๏ บังอรเปนวรราช | | ภรรยา | แห่งพระราชานล | | นิษัธราช | วีระเสนสาธิต | | เปนพ่อ พระเอย | บุญโศลกฉลาดลบ | | เลิศชาย | ส ท๎ยูเต นิร๎ชิโต ภ๎ราต๎รา ห๎ฤตราโช๎ย มหีปติห์ ๏ โชคร้ายทอดดวดแพ้ | | ภราดร | เสียราชย์จำจรไกล | | จากด้าว | ทมยัน์ต๎ยา คตห์ สาร๎ท์ธํ น ป๎ราช๎ญายต กร๎หิจิต์ ทมยันติอรตาม | | เสด็จจาก วังนา | ชนบ่ทราบท้าวอยู่ | | หนใด | เต วยํ ทมยันต๎ยร๎เถ จรามห์ ป๎ฤถิวีม์ อิมาม์ ๏ ข้าไซ้รจรจบทั่ว | | ทุกขัณฑ์ | แสวงมิ่งทมยันตี | | ลักษณเลิศ | เสยัม์ อาสาทิตา พาลา ตว ปุต๎รนิเวศเน ถึงวังพระธรรมิก | | บุตร์พระ แม่นา | จึ่งพบนางเพริศพรั่ง | | เลขา | อัส๎ยา รูเปณ สท๎ฤศี มานุษี น หิ วิท๎ยเต ๏ ลักขณาวิเศษลํ้า | | นางรัตน์ | หาเทียบทั่วปัถพี | | ห่อนได้ | อัส๎ยา เห๎ยษ ภ๎รุโวร์ มัธ๎เย สหชห์ ปีป๎ลุร์ อุต์ตมห์ นงคราญธมีไฝ | | ขำเอก | เหมือนเทพวางไว้หว่าง | | ขนง | ศ๎ยามายาห์ ปัท๎มสังกาโศ ลัก์ษิโตน์ตร๎หิโต มยา ๏ พิศวงไฝคล้ามดุจ | | ปัทมา | ไฝซ่อนบ่ปรากฎ | | แก่เนตร์ | มเลน สํว๎ฤโต ห๎ยัส๎ยาศ๎ฉัน์โนเภ๎รเณว จัน์ท๎รมาห์ มลทินแปกหน้านาง | | ไฝแมก | เหมือนเมฆมืดเขตฟ้า | | บังจันทร์ | จิห๎นภูโต วิภูต๎ยร๎ถัม์ อยํ ธาต๎รา วินิร๎มิตห์ ๏ ไฝนั้นพรหเมศไท้ | | รังสฤษดิ์ | สามารถนิรมิตสรรพ์ | | สิ่งพร้อม | ป๎รติปัต์กลุษัส๎เยน์โท๎ร เลขา นาติวิราชเต เหมือนจันทร์ประดิษฐดวง | | กึ่งซีก | งามวิจิตร์น้อมจิต | | จงเชย | น จาส๎ยา นัศ๎ยเต รูปํ วปุร์ มลสมาจิตัม์ ๏ เคยทรงสิริรูปเลิศ | | โสภา | แม้หม่นบ่ซางาม | | สักนิด | อสํส๎ก๎ฤตัม์ อปิ ว๎ยัก์ตัม์ ภาติ กาญ์จนสัน์นิภัม์ ปราศจากวราภรณ | | ภูษณะ | งามดั่งทองพิศเพิ่ม | | ปรีดี | อเนน วปุษา พาลา ปิป๎ลุนาเนน สูจิตา ๏ นารีทรงทรวดลํ้า | | นงพาล | ไฝเปรียบบัวบานเจิม | | แจะหน้า | ลัก๎ษิเตยัม์ มยา เทวี นิภ๎ฤโตค๎นิร์ อิโวษ๎มณา ฯ บอกลักษณ์พิศาลองค์ | | อรชัด แน่แล | ดุจะแสงจ้าบอก | | อัคนี ฯ | ๏ ตัจ์ฉ๎รุต๎วา ๏ เทวีได้ฟังสาร แห่งทิชาจารย์สุเทพกล่าว เปนเรื่องราวถ้วนถี่ ตามคดีดังปุจฉา ๏ สุนัน์ทา โสธยามาส ๏ จึ่งสุนันทามารศรี เอาวารีมาสระสรง ๏ ปิป๎ลุป๎รัจ์ฉาทนัม์ มลัม์ ๏ ชำระผงแปกเปื้อน อันกลบเกลื่อนไฝนาง ๏ ส มเลนาปก๎ฤษ๎เฏน ๏ ปางเมื่อปวงมลทิน หมดไปสิ้นแล้วไซ้ร ๏ ปิป๎ลุส๎ ตัส๎ยา ว๎ยโรจต ๏ อันว่าไฝงามขำ แห่งสาวคำก็ประจักษ์ ๏ ทมยัน์ต๎ยาส๎ ตทา ว๎ยเภ๎ร ๏ แทบพระพักตร์ผ่องขวัญ แห่งทมยันตีสม ๏ นภสีว นิศากรห์ ๏ เหมือนนิศากรโอภาส กลางนภากาศแจ่มจ้า ๏ สุนัน์ทา จ ราชมาตา จ ๏ จึ่งสุนันทากุมารี กับพระชนนีนั้นไซ้ร ๏ ปิป๎ลุํท๎ฤษ๎ฏ๎วา ๏ แลเห็นไฝแน่ชัด ดูถนัดแน่นอน ๏ รุทัน์เต๎ยา ตาม์ ปริษ๎วัช๎ย ๏ สองบังอรสอื้นพลาง ทางสร้วมกอดพระไภมี ๏ มุหูร๎ตัม์ อิว ตัส๎ถตุห์ ๏ ต่างนารีต่างพิศ พินิจนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ๏ อุต์ส๎ฤช๎ย วาษ๎ปํ ศนไก ๏ แล้วจึ่งกลั้นชลนัยน์ เพื่อทรามไวยส่างโศกา ๏ ราชมาเตทัม์ อัพ๎รวีต์ ๏ ราชมาตาทรงยศ จึ่งเผยพจน์วาที ดังนี้ ฯ ๏ ภคิน๎ยา ทุหิตา เมสิ ปิป๎ลุนาเนน สูจิตา ๏ อ้าศรีศุภลักษณ์เลิศ | | นารี | เปนลูกภคินีฉัน | | สุดสวาท | เห็นไฝซึ่งมีงาม | | ขำอยู่ | จึ่งแน่นางนาฎลักษณ์ | | เลิศแท้คือหลาน | อหํ จ ตว มาตา จ ราช๎ญัส๎ ตัส๎ย มหาต๎มนห์ สุเต ทศาร๎ณาธิปเตห์ สุทาม๎นัศ๎ญจารุทร๎ศเน ๏ มารดาแห่งเจ้าอีก | | ตัวฉัน | เปนสุดาธรรมิก | | ราชท้าว | นามสุทามันทรง | | ฤทธิเลิศ | ครองทศารณ์ด้าวเด่น | | เดชเพี้ยงดวงตวัน | ภีมัส๎ย ราช๎ญห์ สา ทัต์ตา วีรพาโหร์ อหัม์ ปุนห์ ๏ พี่นั้นเมียภีมะราช | | ฦๅชา | คือพระมารดานาง | | ยอดรัก | ฉันได้นราธิป | | ครองเขต นี้แล | วีรพาหุศักดิ์เลิศ | | ฤทธิ้ลํ้าธาเนนทร์ | ต๎วํ ตุ ชาตา มยา ท๎ฤษ๎ฏา ทศาร๎เณษุ ปิตุร์ ค๎ฤเห ๏ เคยเห็นหลานเมื่อครั้ง | | เยาว์วัย | ที่ทศารณ์ในวัง | | พ่อเจ้า | ยไถว เต ปิตุ เคหํ ตไถว มม ภาวินี วงศ์วารวิไสยเปน | | ญาติสนิท | หลานรักจงเข้าจิต | | รักน้าอย่าฉงน | ยไถว จ มไมศ๎วร๎ยํ ทมยัน์ติ ตถา ตว ฯ ๏ สกลสมบัติสรรพ | | ไอสวรรย์ | ให้แด่เจ้าขวัญตา | | ประเสริฐ | เจ้าทมะยันตี | | อย่าเดียจ ฉันเลย | ใช้ร่วมกันเถิดเพื่อ | | สุขให้เสมอสมาน ฯ | ๏ ตาม์ ป๎รห๎ฤษ๎เฏน มนสา ทมยัน๎ตี ๏ ฟังสารราชินี ทมยันตีเลิศแก้ว ปิติจิตผ่องแผ้ว สุขรมย์
ป๎รณัม๎ย มาตุร์ ภคินีม์ อิทํ วจนัม์ อัพ๎รวีต์ ฯ ๏ ประณมประณตนอบ ระยอบกราบพระน้า จึ่งแถลงพจนอ้า ออกสาร ฯ
๏ อัช๎ญายมานาปิ สตี สุขัม์ อัส๎ม๎ยุษิตา ต๎วยิ ๏ กาลเมื่อใครบ่รู้ | | จักหลาน | หลานอยู่แสนสำราญ | | สุขสถิต | สร๎วกาไมห์ สุวิหิตา รัก์ษ๎ยมานา สทา ต๎วยา ทุกสิ่งกมลมาน | | ได้ดุจ ใจนา | เพื่อพระคุณท่านนิตย์ | | รักษา | สุขาต์ สุขตโร วาโส ภวิษ๎ยติ น สํศยห์ ๏ ถึงว่าที่นี้อยู่ | | แสนสบาย | แห่งอื่นยังมีหมาย | | มุ่งมาตร์ | จิรวิโป๎รษิตาม์ มาตุร์ มาม์ อนุช๎ญาตุม์ อร๎หสิ พรากถิ่นบ่สุขกาย | | มาเนิ่น แเล้วนอ | ขอพระแม่อนุญาต | | กลับสถาน | ทารเกา จ หิ เม นีเตา วสตัส๎ ตัต๎ร พาลเกา ๏ สงสารทารกน้อย | | คอยหา | จำพรากจากกันมา | | วิโยค | ปิต๎รา วิหีเนา โศการ๎เตา มยา ไจว กถํ นุ เตา สงสารลูกกำพร้า | | พรากพ่อ | ซํ้าแม่ห่างคงโศก | | ศัลย์หา | ยทิ จาปิ ป๎ริยํ กิญ์จิท์ มยิ กร๎ตุม์ อิเหจ์ฉสิ ๏ พระการุญมากแด่ | | หม่อมฉัน | ขอเพียงอีกอย่างพลัน | | ประศาสน์ | วิทร๎ภาน์ ยาตุม์ อิจ์ฉามิ ศีฆ๎รัม์ เม ยานัม์ อาทิศ ฯ ขอลากลับวิทรรภ์ | | นคเรศ | โปรดสั่งสีวิกามาศ | | ประทาน ฯ | ๏ วาฒัม์ อิเต๎ยว ตาม์ อุก์ต๎วา ห๎ฤษ๎ฏา มาต๎ฤษ๎วสา ๏ ฟังหลานผู้ยาใจ ชอบหฤทัยไม่น้อย จึ่งพระน้าสั่งคล้อย อย่าง ถวิล
คุป์ตาม์ พเลน มหตา ปุต๎รัส๎ยานุมเต ตตห์ ๏ จัดพลพฤนท์แน่นนันท์ แวดแจ่มจันทร์แห่ห้อม โดยพระราชบุตรพร้อม จิตตาม
ป๎ราส๎ถาปยัท์ ราชมาตา ศ๎รีมตึ ๏ นงรามไปเปนสุข นิรทุกข์สดวกได้ โดยพระน้าจัดให้ เสร็จสานต์
นรวาหินา ยาเนน ห๎ยัน์นปานปริจ์ฉทาม์ ฯ ๏ ทรงยานคนหามดี มีทุกสิ่งสพัตร์ผ้า เข้านํ้าองค์พระน้า จัดสรรพ์ ฯ
๏ ตตห์ สา นจิราท์ เอว ๏ ดังนั้นพอเวลา ลุล่วงมามิทันนาน ๏ วิทร๎ภาน์ อคมัต์ ปุนห์ ๏ จึ่งนงคราญเสด็จถึง ซึ่งวิทรรภสโมสร ๏ ป๎รห๎ฤษ๎ฏห์ สมปูชยัต์ ๏ จึ่งพระวรพันธุทั้งหลาย เห็นโฉมฉายกลับบุรี ต่างก็ยินดีเต็มใจ รับอรไทยที่รัก นงลักษณ์เห็นพระสัมพันธุ์ พร้อมกันสุขสบายอยู่ อีกทั้งคู่ปิยกุมาร ก็สำราญสโมสร อีกพระบิดรมารดา และคณาสขินารี ที่เคยรักร่วมใจ ต่างผ่องใสสุขเกษม เปรมกมลทั่วกัน จึ่งทมยันติเทวี ประสงค์ศรีศุภสวัสดิ์ จัดพลีเทพมหาศาล บริจาคทานอันควร แก่มวลหมู่พราหมณ์ทั้งหลาย ๏ อตร๎ปยัต์ สุเทวํ ๏ ฝ่ายสุเทพมีความชอบ มหาราชตอบแทนคุณ การุญเพื่อพราหมณ์อุส่าห์ พาพระดไนยาคืนนคร ภูธรให้โคพัน อีกรางวัลให้บ้าน และประทานทรัพย์มากล้น จึ่งสุเทพสุดพ้น ปรีดี ฯ
๏ สา ว๎ยุษ๎ฏา รชนี ตัต๎ร ปิตุร์ เวศ๎มนิ ภาวินี ๏ นางเนาในราชฐาน แห่งภูบาลบิตุรไท้ โดยสงบอยู่ได้ หนึ่งคืน
วิศ๎ราน์ตา มาตรัม์ อิทํ วจนัม์ อัพ๎รวีต์ ฯ ๏ พอตื่นนางเผยพจน์ กําสรดแก่แม่เจ้า ประมวลครวญคร่ำเค้า ทุกขา ฯ
มาง เจท์ อิจ์ฉสิ ชีวัน์ตีม์ มตห์ สัต๎ยัม์ พ๎รวีมิ เต ๏ อ้าพระบังเกิดเกล้า | | เกศี ข้าเอย | ลูกจะคงชีวี | | อยู่ได้ | ก็เพราะพระชนนี | | ทรงโปรด นั่นแล | ลูกจะทูลถ้อยไซ้ร | | แต่ตรง | นรวีรัส๎ย ไจตัส๎ย นลัส๎ยานยเน ยต ๏ ขอจงทรงโอบเอื้อ | | เอาภา ระเอย | โปรดช่วยสมปราถนา | | ลูกด้วย | ให้วีระราชา | | นลกลับ มาเทอญ | หาไม่ลูกจักม้วย | | มอดชนม์ ฯ | ๏ ทมยัน์ต๎ยา ตโถก์ตา ตุ ๏ ฟังยุบลรำพรรณ แห่งทมยันติบังอร พระสุนทรราชมารดา ก็โศกาดูรเทวศ ชลเนตร์พรั่งหลั่งไหล อาบนองไปทั่วพักตร์ แต่นงลักษณ์มิได้เฉลย เผยพจน์ตอบฉันใด ปางนั้นไซ้รเหล่ากำนัล ครั้นได้เห็นมิ่งสมร ทรงสท้อนถอนฤทัย สอื้นไห้อยู่พลาง คณานางต่างก็ร่ำร้อง เสียงกึกก้องโฮ ๆ ว่าโอ้ ๆ ทูลกระหม่อมแก้ว แล้วก็ร่ำโศกาอยู่ในปรางค์รัตนา นั้นแล ฯ
๏ ตโต ภีมัม์ มหาราชัม์ ๏ ครานั้นนางพระยาเจ้า จึ่งไปเฝ้าบังคมบาท ภีมะมหาราชฦๅไชย กราบทูลไขข้อคดี ๏ ทมยัน์ตี ตว สุตา ภร๎ตารัม์ อนุโศจติ ๏ ว่านางทมยันตี ศรีสุดาของฝ่าพระบาท คิดถึงผัวหล่อนมิได้ขาดเฝ้าโศกศัลย์ จนสิ้นอายไปหมดพลันเผยพจนา วอนหม่อมฉันด้วยวาจาน่าจับใจ ขอให้ช่วยกรุณาหาตัวพระบุญโศลก นางจึงจะว่างส่างโศกกำสรวลศัลย์ กระหม่อมฉันก็คิดสงสารเปนพ้นไป ขอพระองค์ผู้ทรงไผทจงได้ทรงพระเมตตา ช่วยให้สมเจตนา นั้นเถิด ฯ
๏ ตยา ป๎รเทศิโต ราชา ๏ ฝ่ายสมเด็จพระราชานรบดี ฟังสารซึ่งพระเทวีมาทูลเล่า พระผ่านเผ้าจึ่งตรัสให้หาทิชาจารย์ ผู้เคยรับพระบริหารใช้ไปในนานากิจ เธอจึ่งให้พราหมณ์ไปทุกทิศทุกจังหวัด ตรัสกำชับให้เที่ยวค้นหานลราช ๏ ตโต วิทร๎ภาธิปเตร์ นิโยคาท์ พ๎ราห๎มณาส์ ตทา ๏ คณพราหมณทวิชาติรับบริหาร แห่งสมเด็จพระภูบาลผู้ผ่านวิทรรภ์ ก็พร้อมกันไปเฝ้าพระทมยันตี กราบทูลเพื่อพระเทวีทรงทราบไว้ ว่าข้าพระองค์นี้จะไปตามพระบัญชา แห่งสมเด็จพระบิดา บัดนี้แล ฯ
๏ อถ ตาน์ อัพ๎รวีต์ ไภมี ๒๘๏ ปางนั้นเทวี สุรไภมี จึ่งสั่งทวิชา จะไปแห่งใด ในแคว้นนานา จงกล่าววาจา รจนาว่าวอน ๏ ทุกแห่งชุมนุม ประชาประชุม สรรพสโมสร จงพร่ำร่ำพจน์ เปนบทสุนทร ขับร้องท่องกลอน ดังนี้รํ่าไป ฯ
๏ ก๎ว นุ ต๎วํ กิตว ๏ โอ้นักสกาของข้าเอ๋ย กระไรเลยดั้นด้นไปหนไหน แบ่งเอาผ้าข้าคลุมแล้วดุ่มไป ช่างกระไรไม่คิดเมตตากัน ช่างทอดทิ้งเมียขวัญอันสวาท ให้อนาถนอนร้างกลางไพรสัณฑ์ เมียซื่อตรงจงรักภักดีครัน นั่งคอยผัวอยู่นั้นเช่นสั่งไว้ แสนฟูมฟกอกผ่าวราวไฟผลาญ ให้ร้อนราญทรวงเริงเหมือนเพลิงไหม้ ห่มแต่ผ้ากึ่งผืนนั้นยืนไว้ พอจะไอ้ต่างหน้าสวามี โอ้วีระบุรุษมกุฎเกศ จงสมเพชภรรยามารศรี ผู้โศกเศร้าทุกทิวาราตรี เชิญบดีมาปลอบประโลมนาง
๏ เอวัม์ อัน๎ยัจ์ จ วัก์ตว๎ยํ ๒๘๏ อีกหนึ่งพึงร่ำ สำออยถ้อยคำ ศัพท์ซ้ำสำอางค์ เผื่อเธอสดับ จะกลับคิดพลาง ถึงข้าผู้ร้าง ห่างพระสามี ๏ อันวายุจัด ในดงพงชัฏ ตวัดธุลี ไม่เท่าความโศก วิโยคสามี เหมือนวายุพี พัดเพลิงเริงร้อน ๏ ดังนี้ข้าเจ้า วิโยคโศกเศร้า โศกเร้าเริงรอน จงช่วยพูดจา ว่ากล่าววิงวอน เพื่อพระภูธร คำนึงถึงพลาง
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 สิงหาคม 2560 18:24:00 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2560 18:18:19 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 สิงหาคม 2560 17:30:56 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2560 17:40:43 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 สิงหาคม 2560 17:43:48 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2560 17:48:20 » |
|
สรรคที่ ๒๔๏ สร๎วํ วิการํ ท๎ฤษ๎ฏวา ตุ ปุณ๎ยโศ๎ลกัส๎ย ธีมตห์ ๏ ครานั้นเกศินีศรีสมร ฟังสุนทรพจนาสารถี สังเกตเห็นกิริยาท่าที แห่งภูมีบุญโศลกฦๅชา จึ่งลากลับเข้ายังในวังราช บังคมบาทแม่อยู่หัวสุดสง่า แล้วจึ่งทูลแถลงแจ้งกิจจา ทุกสิ่งสารพัตสิ้นที่ยินยล ฯ ทมยัน์ตี ตโต ภูยห์ เป๎รษยามาส เกศินีม์ ๏ ครานั้นโฉมทมยันตี ฟังคดีทราบสร้านทุกเส้นขน จึ่งตรัสแด่เกศินีนิรมล เราขอวานอีกหนเถิดเปนไร เราอยากพบพระนลวิมลราช เจ้าและอาจช่วยเราสำเร็จได้ วานไปเฝ้าพระมาตุราชไซ้ร และขานไขทูลความตามสั่งมา ว่าข้าได้เพ่งพิศพินิศนัก สังเกตลักษณ์วาหุกแล้วทุกท่า ข้าแสนพะวงสงกา คิดว่าเขาคือพระนลผู้ทรงชัย แต่ว่ารูปร่างกายนั้นผิดแผก ดูแปลกชวนหลงและสงไสย แต่ข้านี้เหลือที่จะหักใจ อยากจะใคร่แลดูประจักษ์ดี ข้าอยากขอประทานพระมารดร โปรดให้เขาบทจรมาในนี่ หรือจะโปรดอนุญาตให้ข้านี้ ออกไปยังที่เขาหยุดพัก การทั้งนี้สุดแท้แต่พระองค์ จะทูลพระบิตุรงค์ให้ตระหนัก หรือไม่ทูลก็ตามแต่นงลักษณ์ ขอแต่อย่าให้ชักชืดไป ฯ ๏ เอวัม์ อุก์ตา ตุ ไวทร๎ภ๎ยา ๏ จะกล่าวถึงพระแม่อยู่หัวเจ้า ได้ฟังข้าหลวงเล่าคดีไข พระนางไม่รอรั้งชั่งฤทัย รีบไปทูลภีมะราชา เล่าความตามคำรํ่าขยาย อภิปรายแห่งธิดาเสนหา พระจอมเมืองมิได้ขัดอัธยา พระมารดาก็โปรดประนอมตาม ฯ สา ไว ปิต๎ราภ๎ยนุช๎ญาตา มาต๎รา จ ๏ ฝ่ายทมยันตีศรีสง่า ครั้นทราบว่าพระบิดรไม่ย้อนถาม ทั้งสององค์ทรงอนุญาตตาม เจ้านงรามสมถวิลก็ยินดี จึ่งเชิญพระนลวิมลเดช ให้ประเวศวังในวิไลยศรี ให้เชิญถึงพระตำหนักรูจี โดยภูมีจอมวังสั่งให้มา ฯ ๏ ตาง ส๎ม ท๎ฤษ๎ฏ๎ไวว สหสา ทมยัน์ตี นโล น๎ฤปห์ ๏ ครานั้นพระนลวิมลราช เข้าถึงในตำหนักมาศเลขา แลดูทมยันตีศรีโสภา ดูมิได้วางตาด้วยจับใจ ดูพลางทางคนึงรำพึงโศก คิดถึงยามวิโยคอันโศกใหญ่ ความทุกข์รุกเร้าให้เศร้าใจ อัสสุชลล้นไหลลงอาบพักตร์ ฯ ตาง ตุ ท๎ฤษ๎ฏ๎วา ตถายุก์ตํ ทมยัน์ตี นลํ ตทา ๏ ฝ่ายทมยันตีศรีสอาด เห็นพระนลนฤราชผู้ทรงศักดิ์ เสด็จเดินเข้ามาเฉภาะพักตร์ นงลักษณ์วูบวาบปลาบฤทัย พิศพลางนางคำนึงถึงความหลัง อัสสุชลพลั่ง ๆ หลั่งไหล แสนโศกราวโรคสถิตใจ น่าสงสารทรามไวยอนาทร นุ่งผ้ากาษายวัสอยู่ ดูประหนึ่งหญิงหม้ายไร้สมร ทั้งเกศารุงรังไร้อาภรณ อีกแปกปอนหมองหม่นเปนมลทิน นางพิศดูวาหุกสารถี คิดใคร่ลองดูทีเพื่อรู้สิ้น นางจึ่งกล่าวสุนทรกลอนวาทิน เพื่อลองดูภูมินทร์ให้แน่ใจ ดูราวาหุกฉลาดลํ้า จงตอบคำเราเถิดอย่าไถล อันชายใดขึ้นชื่อว่าซื่อไซ้ร และสถิตเที่ยงในคลองธรรม์ ชายเช่นนี้มีฤๅที่ทิ้งขว้าง เหินห่างเมียนอนในไพรสัณฑ์ ฤๅว่ามีที่ทอดทิ้งกัน ให้โศกศัลย์อ้างว้างอยู่กลางดง ก็ใครเล่าทิ้งเมียไปเสียได้ ปล่อยไว้ให้พะว้าพะวงหลง มิเสียแรงเมียรักภักดียง ผัวไม่จงใจถนอมกล่อมเมียเลย ช่างทิ้งได้ในพงดงสงัด โศกถนัดอนาถานิจจาเอ๋ย ใครหนอทิ้งเมียงามผู้ทรามเชย ท่านอย่าเย้ยเราจะบอกด้วยสัจจัง ชายผู้ทิ้งมิ่งเมียเหมือนเสียคน คือพระนลบุญโศลกกำลังขลัง เล่าไปไม่น่าเชื่อเหลือจะฟัง แต่จริงดังเราว่าอย่าติดใจ โอ้พระมหิบดีศรีวิโรจน์ ไฉนเธอกริ้วโกรธหารู้ไม่ ข้าประพฤติผิดพาลประการใด ฤๅชั่วช้าอย่างไรจึ่งโกรธา เหตุไฉนพระลี้หนีข้าเจ้า ให้โศกเศร้าอ้างว้างอยู่กลางป่า ยามข้าสนิทนิทรา พระราชาหนีไปเหมือนไม่รัก โอ้เสียแรงไม่ยอมพร้อมใจ ไปเปนเมียเทวัญบรรฦๅศักดิ์ อุส่าห์เลือกภูวนัยตามใจรัก เพราะสมัครักแท้แน่จริง เสียแรงจงรักและภักดี ทั้งได้มีราชบุตรชายหญิง ช่างกระไรหฤทัยเธอดำจริง จึ่งทอดทิ้งเมียได้ไม่เมตตา ต่อหน้าพระอัคนีศรีสวัสดิ์ เธอจับหัดถ์ข้าน้อยไว้แน่นหนา แล้วแถลงซึ่งสัจจวัจนา ต่อหน้าเทวดาทิพาลัย เธอตรัสว่าจะถนอมกล่อมเกลี้ยง บำรุงเลี้ยงมิให้อนาถได้ อันพระวาจาสัตย์ซึ่งตรัสไว้ ไฉนมาหายไปไม่คงทน ตรัสพลางนางทมยันตี สอื้นโศกีหมองหม่น ยิ่งคิดยิ่งซํ้าชํ้ากมล อัสสุชลไหลหลั่งพะพลั่งพรู ฯ ๏ นโล ท๎ฤษ๎ฏ๎วา ๏ ครานั้นพระนลวิมลรัตน์ เห็นนางกษัตร์โศกศัลย์รำพรรณอยู่ พิศดูโฉมวนิดาผู้ตาตรู โอ้พรํ่าพรูชลเนตร์เวทนา เจ้างามขำตาดำนิลสนิท ยิ่งพินิศจิตสงสารเปนหนักหนา พระแลดูงามสรรพผู้จับตา แล้วจึ่งเผยพจนาประภาษไป อันตัวพี่เพลี่ยงพลํ้าซํ้าเสียราชย์ เพราะอำนาจการพนันบันดาลให้ มิใช่เพราะผิดลงด้วยจงใจ มิใช่ทำชั่วช้าสามาญ เหตุด้วยกลีผีร้าย มุ่งหมายอาฆาฏแสนอาจหาญ ดลใจให้พี่นี้เดือดดาล จึ่งทิ้งเจ้าเยาวมาลย์คู่ชีวา เหตุฉนั้นยามน้องต้องพลัดพราก ไปจากสามีเสนหา ต้องทุกข์ร้อนจรดลด้นพนา ทุกทิวาราตรีมีแต่ครวญ ครั้งนั้นเจ้าได้สาปผู้คิดร้าย มุ่งหมายกระทำให้กำสรวล อันคำแช่งแรงเหลือแม่เนื้อนวล ล้วนถมเทลงตรงกลี แต่นั้นมากลีก็เข้าสิง แนบนิ่งอยูในกายพี่ ร้อนรนเปนพ้นพันทวี ด้วยเหตุที่คำแช่งกำแหงราญ ร้อนขึ้นทุกทีทวีหนัก บ่ได้มีผ่อนพักทวีผลาญ เหมือนก่อเพลิงเติมเพลิงเถกิงกานต์ เพลิงผลาญราญรุมสุมฤดี แต่บัดนี้กลีผีร้าย แพ้พ่ายอำนาจตะบะพี่ ทั้งพี่บำเพ็ญด้วยดี จึ่งอาจปราบกลีนั้นแพ้ไป ดูราเทวีศรีศุภา สารพัตสิ่งทุกข์ขุกไข้ สิ้นแล้วนะแก้วตาผู้ยาใจ อย่าสงไสยในคำแห่งพี่ยา อันตัวพี่ผีออกพ้นตัวแล้ว ทั้งคลาศแคล้วปวงบาปอันแน่นหนา พี่จึ่งรีบทำใจไม่รอรา รีบมาหาเจ้าเยาวมาลย์ มุ่งมาหาน้องผู้ต้องจิต หวังนิยมชมชิดยอดสงสาร ไม่มีอะไรนอกนั้นมาบันดาล ไม่ต้องการประโยชน์อื่นไกล อันนารีผู้มีผัวสมัค บำรุงรักจ่อจิตพิสมัย ได้ให้ถ้อยให้คำจำมั่นไว้ เหตุไฉนจะเสียซึ่งวาที เหตุไฉนจึ่งจำนงจงใจ หาผัวใหม่คลอเคลียให้เสียศรี ไฉนคิดผิดไปได้ดังนี้ เจ้าภีรุจงแถลงให้แจ้งใจ พระนฤบดีภีมกษัตร์ แต่งทูตไปสู่รัฐทั้งน้อยใหญ่ เที่ยวร้องป่าวฉาวความทั่วไป ใจความทุกแห่งต้องกัน ว่าโฉมนางไภมีศรีสวัสดิ์ จะเลือกทวยกษัตร์แขงขัน เปนภรรดาที่สองครอบครองกัน เกษมสันต์เชยชมภิรมย์ใจ นางพระยาธิดานรบดี จะมีที่กีดขวางก็หาไม่ นางจะหาภรรดายาใจ เลือกใหม่ตามแต่จิตจำนง ท้าวภางคาสุรีบรมนาถ ทราบประกาศตั้งใจใฝ่ประสงค์ จึ่งเสด็จด่วนมาโดยตรง เพราะหวังได้อนงค์เปนชายา ฯ ๏ ทมยัน์ตี ตุ ตัจ์ฉ๎รุต๎วา ๏ ครานั้นโฉมทมยันตี เทวีฟังพลางทางก้มหน้า ครั้นเมื่อพระนลราชา ปริเทวะว่าทุกสิ่งอัน จึ่งประนมก้มเกล้าเกศา ทั่วทั้งกายานั้นเทิ้มสั่น แล้วเฉลยเผยพจน์ไปพลัน ทูลพระนลทรงธรรม์ด้วยจริงใจ ว่าพระทูลกระหม่อมจอมผัว อย่านึกว่าน้องชั่วเช่นนั้นได้ น้องมิได้คิดคดขบถใจ ตราบบรรไลยซื่อตรงจงรัก เสียแรงเลือกนิษธาธิบดี เปนสามีปรากฎยศศักดิ์ สู้ละเลยเทวาสุรารักษ์ หวังพำนักพึ่งพระนลจนวันตาย อันพวกพราหมณ์ส่งไปในสิบทิศ ด้วยจำนงจงจิตมุ่งหมาย ให้ค้นหาราชาผู้ยอดชาย พราหมณ์ทั้งหลายรับสั่งไปเหมือนกัน ถึงแห่งใดให้หมั่นขับร้อง พร้องคำเปนกลอนสุนทรสรร พรรณนาครวญครํ่ารำพรรณ ตามที่กระหม่อมฉันได้สอนไป ณวันหนึ่งจึ่งพราหมณ์นามปรรณาท ผู้ฉลาดรู้วิชาน้อยใหญ่ ไปถึงโกศลเกรียงไกร เข้าในนิเวศน์ฤตุบรรณ พราหมณ์พบพระองค์ทรงยศ เปนนายขับรถอยู่ที่นั่น พราหมณ์กล่าวถ้อยคำรำพรรณ ทรงธรรม์ก็ตอบคำมา พราหมณ์กลับมาเล่าแล้วไซ้ร จึ่งสงไสยสมเหมาะเฉภาะท่า หม่อมฉันคิดอุบายได้ขึ้นมา เพื่อลวงพระราชามาที่นี้ อันผู้จะขับมิ่งม้า ดั้นมาร้อยโยชน์เต็มที่ ภายในวันเดียวนั้นไม่มี ในโลกนี้นอกจากพระจอมคน เพื่อเปนพยานสัจจะวาท ขอกราบแทบเบื้องบาทพระสักหน แม้ไม่จริงดังแถลงแจ้งยุบล ขอให้ป่นปี้ไปในพริบตา ถึงในดวงใจไม่เคยคิด ทุจริตต่อพระองค์ทรงเกศา ไม่เคยคิดติฉินท์นินทา หรือว่าเคี้ยวคดขบถใจ ขอท้าวเจ้าลมอุดมศักดิ์ ผู้มักเที่ยวทั่วโลกรอบได้ เปนพยานเห็นทั่วภพไตร จงได้เปนพยานข้านี้ ถ้าแม้ข้าคิดคดขบถไซ้ร ขอให้พระภูตะสักขี ทำลายปราณประหารชีวี ให้เปนที่ปรากฎด้วยพลัน อนึ่งขอให้พระผู้กระจ่าง ส่องสว่างเวหนบนสวรรค์ ผู้เสด็จเยี่ยมภพจบทุกวัน พระองค์นั้นเปนพยานวาจา ถ้าแม้ข้าคิดคดขบถไซ้ร ขอพระไฟบนสวรรค์อันแสงกล้า ทำลายปราณประหารชีวา เพื่อให้ปรากฎชัดถนัดยล อีกขอพระจันทิมามหายศ ผู้อยู่หมดทั่วไปทุกแห่งหน ทั้งทราบสิ้นสรรพกิจในจิตคน เปนพยานบันดาลผลจงมากครัน ถ้าแม้ข้าคิดคดขบถไซ้ร ขอจงไท้เทเวศร์วิเศษสรรพ์ ทำลายปราณประหารชีวัน ด้วยฉับพลันปรากฎทุกประการ สามเทพมหิทธิ์ฤทธิ์เดช แสนวิเศษกำแหงแรงหาญ บำรุงแคว้นแดนไตรให้สราญ ขอจงเปนพยานวาจา ขอทรงสำแดงให้ถนัด เปนพยานความสัตย์แห่งข้า ฤๅแม้ไม่ทรงพระเมตตา จงทิ้งข้าเสียพลันในวันนี้ ฯ เอวัม์ อุก์ตัส๎ ตยา วายุร์ อัน์ตรีก์ษาท์ อภาษต ๏ จะกล่าวถึงเทวดาวายุราช ได้ยินคำประกาศแห่งโฉมศรี จึ่งเปล่งเสียงตรัสมามิช้าที เปนพยานเทวีวิไลยวรรณ ว่าดูราพระนลวิมลรัตน์ เรานี้กล่าวแต่สัตย์ทุกสิ่งสรรพ์ อันนิ่มนางโฉมแชล่มแจ่มจันทร์ บาปนั้นบ่มีติดกาย ราชันพิรพงศ์ผู้ทรงฤทธิ์ ศีละนิธิ์ในองค์แม่โฉมฉาย หล่อนรักษามั่นไว้ไม่กระจาย มิได้มีบุบสลายเปนมลทิน ภายในสามปีมานี้ไซ้ร เราได้หมั่นมองดูรอบรู้สิ้น ทั้งคุ้มเกรงรักษายอดนารินทร์ บ่มิให้ภัยภินอนงค์นาง อันอุบายคิดมาในครานี้ นางหวังดีต่อเธอผู้อยู่ห่าง อันร้อยโยชน์วันเดียวจะเดินทาง ได้เหมือนอย่างเธอนี้จะมีใคร อันเธอควรเกษมสันต์ณวันนี้ เพราะประสบไภมีศรีใส อีกพระนางไภมีก็ดีใจ เพราะเหตุได้พบปะพระภรรดา ท่านจงเลิกสงกาสารพัต สองกษัตร์จงได้หรรษา เชิญประโลมรับขวัญภรรยา ผู้เยี่ยมยอดเสนหายาใจ ฯ ตถา พ๎รุวติ วาเยา ตุ ปุษ๎ปว๎ฤษ๎ฏิห์ ปปาต ห ๏ สิ้นกระแสวาจาวายุราช อันประกาศคุณนางสอางค์ใส ก็ถนัดอัศจรรย์ทันใด เทพไทโปรยบุบผาสุมามาลย์ ยินเสียงบรรเลงเพลงสวรรค์ เสนาะนันท์สำเนียงเสียงหวาน ลมรับศัพท์มาพาสราญ เพลงประสานส่งใจให้เปรมปรีย์ ฯ ๏ ตัท์ อัท์ภูตตมํ ท๎ฤษ๎ฏ๎วา นโล ราชาถ ๏ ครานั้นพระนลวิมลกษัตร์ เห็นถนัดบุบผชาติสอาดสี อีกได้ฟังวังเวงเพลงดนตรี เสนาะที่ตำหนักจันทน์ชั้นใน ดูทมยันตีศรีสวาท ภูวนาถจับจิตพิสมัย สิ้นความกินแหนงแคลงฤทัย เชื่อแน่ในความสัตย์แห่งชายา จึ่งทรงห่มผ้าทิพย์สีสอาด ปราศจากลอองผ่องสง่า แล้วรำพึงถึงนาคราชา ในพริบตารูปเดิมก็คืนคง ฯ ไภมีม์ อปิ นโล ราชา ภ๎ราชมาโน ยถา ปุรา ๏ ครานั้นพระนลวิมลราช งามพิลาศเหมือนเดิมไม่มีผิด ทอดพระเนตร์ยอดหญิงผู้มิ่งมิตร์ พระจุมพิตไภมีศรีศุภา กอดนางพลางกอดสองลูกแก้ว ทั้งสามองค์ล้วนแล้วเสนหา ได้เริดร้างห่างสมานนานมา กลับมาพบสามราแสนเปรมปรีย์ นางพระยาศุภลักษณ์ลำนักเนตร์ แลดูองค์ทรงเดชวิเศษศรี ปลื้มเปรมเกษมสันต์พันทวี ซบพักตร์ลงตรงที่พระทรวงเธอ นึกถึงความเก่าก็เศร้าโศก ยามวิโยคทูลเกล้าเศร้าเสมอ นึกยามได้ประสบพบเธอ สุขก็เลอลบทุกข์สนุกใจ ฝ่ายพระสมิงคนนลราช พิศโฉมงามทรามสวาทแทบร้องไห้ อนิจจาซูบผอมเพราะตรอมใจ ทั้งฉวีเคยใสมาหมองมล แต่ยินดีที่ได้กลับมารับขวัญ ได้สร้วมสอดกอดกันแล้วอีกหน พิศดูมิ่งนารีศรีวิมล จึ่งพระนลแย้มยิ้มพริ้มพราย ฯ ๏ ไวทร๎ภีชนนี ๏ จะกล่าวถึงสมเด็จพระชนนี แห่งนางไวทรรภีโฉมฉาย เสด็จสู่ปราสาทขวัญพรรณราย แล้วถวายอภิวันท์พระภรรดา แล้วกราบทูลภีมะราชชาติกษัตร์ เรื่องบุตรีนารีรัตน์ศรีสง่า กับพระนลวิมลรัตน์ผู้ภัสดา ล้วนกิจจาตามจริงทุกสิ่งอัน มหาราชก็ประศาสน์ตอบเทวี ว่าพระนลภูมีผู้แขงขัน เมื่อชำระสระสนานแล้วนั้น จะได้ปรองดองกันกับลูกรัก ตัวเรายินดีเปนที่สุด ยอดบุรุษสิ้นเคราะห์เห็นเหมาะหนัก วันพรุ่งนี้เราจะพบประสบพักตร์ แห่งพระองค์ทรงศักดิ์ด้วยยินดี ฯ ๏ ตัส๎ย เตา สหิเตา ราต๎รึ กถยัน์เตา ปุราตนัม์ ๏ จะกลับกล่าวถึงพระองค์ทรงนิษัธ กับพระนารีรัตน์มหิษี ชื่นชมภิรมยาในราตรี ทั้งสองศรีต่างสนทนากัน ต่างเล่าเรื่องยากแค้นในแดนดอน เล่าถึงยามพเนจรในไพรสัณฑ์ เล่าถึงเหตุเภทภัยในไพรวัน ต่างก็เล่าสู่กันทุกสิ่งไป ต่างยินดีบัดนี้เกษมสานต์ เนาสถานภีมราชเปนใหญ่ ต่างองค์บำเรอหฤทัย เพื่อให้สุขพร้อมประนอมรัก ทั้งพระไวทรรภีศรีสวัสดิ์ ทั้งพระนลไนษัธบรรฦๅศักดิ์ แสนสนุกสุขชมภิรมย์รัก ต่างชักชวนกันให้ยินดี ถึงสี่ปีที่ร้างห่างเมียขวัญ มาพบกันปลื้มเปรมเกษมศรี สมประสงค์จงจินต์จึ่งยินดี เปรมปรีย์เหลือล้นคณนา ฝ่ายทมยันตีศรีสมร ได้พบพระภรรดรเสนหา เหมือนฝนโปรยโรยพื้นพสุนธรา ก็เกิดผลนา ๆ ทั่วไป ฯ ๏ ไสวํ สเมต๎ย ว๎ยปนีย ตัน์ท๎ราง ๏ สิ้นเหนื่อยเมื่อยล้าเพราะผาศุก ส่างทุกข์สุขล้นกมลใส ทุก ๆ สิ่งสมถวิลจินตัย ผ่องประไพเพียงจันทร์เมื่อวันเพ็ญ ฯ ๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๒๔ ดังนี้ ฯ สรรคที่ ๒๕๏ อถ ตาง ว๎ยุษิโต ราต๎ริ นโล ราชา ส๎วลังกฤตห์ ๑๑๏ ปางนั้นพระนลรัตน์ | | ผู้นิษัธราเชนทร์ | เปนสุขสนุกเห็น | | กลนอนวิมานอินทร์ | ๏ ชมโฉมประโลมสวาท | | วรราชนารินทร์ | รื่นรมยะสมจิน | | ตนะพร้อมพระไภมี | ๏ เนาแนบสุดาดวง | | จนล่วงลับซึ่งราตรี | ใสแสงพระสุรศรี | | พยับเยี่ยมยุคันธร | ๏ ตรัสชวนเจ้านวลนง | | ไปโสดสรงซึ่งสาคร | ทรงรัตนาภรณ | | วรภูษณาภา | ๏ ชวนกันจากตำหนัก | | วรลักษณามา | ขึ้นเฝ้าพระราชา | | บิตุรงค์ผู้ทรงธรรม์ | ๏ พระนลพระเกศก้ม | | และประนมบังคมคัล | อีกนางสุดาสวรรค์ | | ก็ประณตประนมงาม | ๏ ครานั้นนฤบดี | | ภีมะราชแรงราม | ฟังคำพระนลประณาม | | ประนอมอ่อนสุนทรหวาน | ๏ แสนเปรมประโมทย์ใจ | | บมีใดจะเปรียบปาน | ตอบรสพจมาน | | มิตรจิตสนิทฉันท์ | ๏ เธอคือพระปิยะบุตร์ | | อันรักสุดเสมอกัน | กับแม่ทมะยัน | | ติวิเศษสุดาภา | ๏ ยินดีด้วยลูกแก้ว | | อันคลาศแคล้วพระภรรดา | บัดนี้บดีมา | | อภิรักษ์ภิรมย์ชม | ๏ ควรที่จะปีติ | | ปิยสามิงามสม | ปลื้มเปรมเกษมรม | | ยะรักร่วมคฤหาทอง | ๏ จงอยู่ด้วยกันยืด | | บ่มิจืดเสน่ห์สอง | สิ่งใดฤทัยปอง | | ประสิทธิ์สิ้นดังจินดา | ๏ พระนลวิมลราช | | อภิวาทน์พระราชา | รับพรณเกศา | | ศุภะเลิศประเสริฐสรรค์ ฯ | ๏ ตโต พภูว นคเร สุมหาน์ หร๎ษชห์ ส๎วนห์ ๏ ปางนั้นอันข่าวดี | | ก็อึงมี่นครพลัน | ชาวเมืองกระเดื่องหรร | | ษะเลื่องฦๅอยู่อื้อไป | ๏ ทราบว่าพระนลถึง | | ซึ่งนครสุขาลัย | ทุกท้องถนนใน | | นคเรศก็ยินดี | ๏ ตกแต่งนครรัตน์ | | ด้วยธวัชสลับสี | ผูกช่อสุมาลี | | และปะดากประดับวาม | ๏ อันท้องถนนหลวง | | ทั้งปวงปราบเรียบราบราม | บุบผาสง่างาม | | ก็โรยรื่นฤดื่นไป | ๏ ฟ่องเฟื่องบุบผาบาน | | ประสานสีประโลมใจ | โยงจากทวารไป | | อีกทวารประสานกัน | ๏ ทุกศาลเทพารักษ์ | | อันเปนหลักนครนันท์ | พร้อมเครื่องพลีสรร | | วิจิตจำเริญตา ฯ | ฤตุปร๎โณปิ ศุศ๎ราว ๏ ฝ่ายฤตุบรรณองค์ | | สุรพงศ์ทิวาภา | ทราบเหตุว่านายวา | | หุกะนั้นคือองค์นล | ๏ ได้คืนประคองขวัญ | | ทมยันตินฤมล | จอมรัฎฐะโกศล | | ธก็พลอยช่วยยินดี ฯ | ๏ ตัม์ อานาย์ย นโล ราชา ๏ ปางนั้นพระนลเจ้า | | ไปเฝ้าองค์พระภูมี | ทูลฤตุบรรณศรี | | สุรพันธุราชา | ๏ ขอโทษจงโปรดเทอญ | | ที่ล่วงเกินเปนหนักหนา | ข้าง้อขอขะมา | | เพราะบ่คิดจะดูแคลน | ๏ ฝ่ายจอมอยุธยา | | ธปรีดาเปนสุดแสน | ในจิตจะคิดแค้น | | แต่สักนิดบ่พึงมี | ๏ ยิ้มพลางพระทางตรัส | | แต่ไนษัธทรงศรี | ขอเธออย่าได้มี | | วิตกจิตอีกต่อไป | ๏ ที่เธอได้คืนคง | | มาครองนงพงาไว | ทรรภีครานี้ไซ้ร | | จงอยู่สุขสราญสันติ์ | ๏ ยามเธอสถิตเนา | | นิเวศน์เราเปนหลายวัน | แม้ว่าเวลานั้น | | เราล่วงเกินพระราชา | ๏ แม้เราได้ทำผิด | | โดยตั้งจิตเพราะโกรธา | ฤๅเผลอไม่เจตนา | | จะได้ล่วงได้เกินไป | ๏ เราขอขะมาท่าน | | ที่ทำการละเมิดไว้ | ขอเธอจงอภัย | | อย่าถือโทษและโกรธกัน | ๏ น เมปราธํ ก๎ฤตวาน์ส๎ ต๎วํ ส๎วัล๎ปัม์ อปิ ๏ พระนลได้ฟังองค์ | | ระวิวงศ์ธรำพรรณ | ตอบว่าพระทรงธรรม์ | | มิได้ผิดสักนิดเลย | ๏ อันว่าจะดุด่า | | พระราชาบ่ได้เคย | แต่แม้จะล่วงเลย | | ก็ยินดีอภัยถวาย | ๏ ราชาข้าเคยเห็น | | เปนประเสริฐเลิศสหาย | ทั้งนับณจิตหมาย | | ว่าเปนยอดแห่งสัมพันธ์ | ๏ ต่อไปณเบื้องหน้า | | ขอราชาคุณานันต์ | จงโปรดกระหม่อมฉัน | | เหมือนพระองค์ได้เคยมา | ๏ ยามพึ่งพระสมภาร | | สราญสุขทุกเวลา | สิ่งใดจะปราถนา | | บ่มิเคยจะขัดใจ | ๏ แม้ยามเกษมสานต์ | | อยู่ณบ้านข้าเองไซ้ร | บ่เหมือนเมื่ออยู่ใน | | นิเวศน์ท้าวราวเมืองสรรค์ | ๏ อันความข้ารอบรู้ | | อยู่เรื่องม้าทุกสิ่งอัน | ขอถวายพระทรงธรรม์ | | บ่มิมีจะแหนหวง | ๏ แม้ท้าวธจำนง | | ประสงค์หัยการปวง | ข้าไซ้รบ่ได้หวง | | ถวายท้าวด้วยยินดี ฯ | ๏ เอวัม์ อุก์ต๎วา ทเทา วิท๎ยาม์ ฤตุปร๎ณาย ไนษธห์ ๏ ดังนั้นพระนลราช | | ประศาสน์วิทยาศรี | ท้าวฤตุบรรณมี | | จิตะน้อมนิยมรับ | ๏ ได้อัศวหฤทัย | | พระเข้าใจสัมฤทธิ์สรรพ | ท่วงทีจะขี่ขับ | | อัศดรก็เจนใจ | ๏ ยินดีจึ่งคิดตอบ | | ให้ชอบจิตพระภูวนัย | ให้อักษะหฤทัย | | แด่พระนลนเรนทร์สูร | ๏ บอกเสร็จซึ่งวิทยา | | สกาจบคำรบบูรณ์ | ใครเหิมประมูลสูญ | | ญะพินาศะฉิบหาย | ๏ พระนลนฤบดินทร์ | | ได้สมจินตนาหมาย | รู้เหมาะว่าเคราะห้ร้าย | | จะบำราศนิราไกล | ๏ ต่างองค์กษัตร์เกษม | | สุขะเปรมประโมทย์ใจ | ต่างผูกพระหฤทัย | | มิตรจิตสิเนหา | ๏ ถึงกาละอันควร | | จะกลับคืนอยุธยา | จึงฤตุบรรณลา | | พระนลไนษเธศร | ๏ นายวาร์ษไณยขอ | | จะมิตามเสด็จจร | เพื่ออยู่กับภูธร | | ผู้เจ้าเดิมเกษมสันต์ | ๏ พระหาสารถีใหม่ | | ขับรถไชยะผ่องพรรณ | กลับคืนนครนัน | | ทะอโยธยาสถาน | ๏ ฝ่ายองค์พระนลนรินทร์ | | อยู่กุณฑินนครสราญ | เปนสุขสนุกปาน | | บุรเทพะหรรษา ฯ | ๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๒๕ ดังนี้ ฯ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 สิงหาคม 2560 17:54:12 โดย Kimleng »
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2560 18:00:59 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
|
|
|
|
กำลังโหลด...