15 พฤษภาคม 2567 17:01:23
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
.:::
สถานที่ลึกลับ ในโลกดึกดำบรรพ์
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: สถานที่ลึกลับ ในโลกดึกดำบรรพ์ (อ่าน 2828 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2334
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
สถานที่ลึกลับ ในโลกดึกดำบรรพ์
«
เมื่อ:
10 กุมภาพันธ์ 2558 19:29:42 »
Tweet
.
สถานที่ลึกลับ ในโลกดึกดำบรรพ์
โดย : ณัฐพล เดชขจร
ทีมงานนิตยสาร ต่วย'ตูน
อนุสาวรีย์หินตั้งลีอา ฟอยล์ แห่งไอร์แลนด์.
ในขณะที่โลกเบี้ยวๆ ของเราใบนี้มีอายุยืนยาวมาได้ประมาณ 4,600 ล้านปีแล้ว มนุษย์เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมาได้แค่ไม่กี่ล้านปีเท่านั้นเองครับ แต่ก็ได้รังสรรค์สิ่งต่างๆ เอาไว้บนโลกอย่างมากมาย โดยเฉพาะในช่วงราวๆ หนึ่งหมื่นปีมาแล้วที่มนุษย์เริ่มเปลี่ยนจากยุคหาของป่า-ล่าสัตว์มาเป็นยุคเกษตรกรรม ก่อให้เกิดการตั้งถิ่นฐานซึ่งนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของอารยธรรมต่างๆในที่สุด
ถ้าว่ากันตามทฤษฎีแล้ว มนุษย์แพร่กระจายออกจากทวีปแอฟริกา เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก เกิดความหลากหลายทางวัฒนธรรมดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน แต่จนถึงทุกวันนี้ พวกเราก็ยังไม่สามารถเข้าใจมโนคติ ความเชื่อและเทคโนโลยีของบรรพชนในอารยธรรมโบราณต่างๆ ได้อย่างถ่องแท้ ถ้าไม่เชื่อ ลองมาดูสถานที่ลึกลับชวนพิศวงต่อไปนี้ดีกว่าครับ เพราะมันช่างเข้าใจได้ยากเย็นเสียเหลือเกินว่าบรรพชนของเราจะสร้างมันขึ้นมาเพื่อเหตุผลกลใดและด้วยวิธีใดกันแน่
โครงสร้างคล้ายแท่นยกพื้นทรงขั้นบันไดใต้ทะเลแห่งโยนากุนิ.
แรกเริ่มที่สุดคงต้องขอพาไปใกล้ๆ บ้านเรากันก่อน สถานที่ที่จะพาไปชมนั้นอยู่ “ใต้ท้องทะเล” ของเกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็คือซากโครงสร้างปริศนาใต้น้ำหรือที่เรารู้จักกันในนามว่า “
โยนากุนิ
” นั่นเอง
โยนากุนิ
เปรียบเสมือนแท่นยกพื้นที่มีเหลี่ยมมีมุมและการเล่นระดับชั้นปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนประหนึ่งว่ามันถูกสร้างขึ้นมาอย่างจงใจด้วยเหตุผลที่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีนักวิชาการท่านใดทราบอย่างชัดเจน บ้างก็เสนอว่ามันอาจจะเป็นโครงสร้างที่เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ แต่ก็มีการค้นพบ “หลุมเสา” และเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับใช้สกัดหินปรากฏอยู่ใต้น้ำด้วยเช่นกัน โดยนักโบราณคดีส่วนหนึ่งที่ดำลงไปสำรวจก็ระบุว่าแท่นยกพื้นใต้น้ำนี้น่าจะมีอายุราว 12,000 ปี ซึ่งก็นับว่าเก่าแก่กว่าอารยธรรมอย่างอียิปต์โบราณหรือเมโสโปเตเมียเสียอีกครับ นั่นแปลว่าโยนากุนิคือซากโบราณสถานของชาวญี่ปุ่นโบราณเช่นนั้นหรือ และมันจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเหตุผลใด คงต้องรอคอยการสำรวจเพิ่มเติมกันต่อไปล่ะครับ
อาคารทรงโคนที่มหาซิมบับเวไม่มีแม้กระทั่งหน้าต่างหรือประตู.
ออกจากทวีปเอเชียมุ่งหน้าทางตะวันตกไปยังกาฬทวีปหรือแอฟริกากันบ้างดีกว่า ถึงแม้ว่าทวีปแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของอารยธรรมมากมายโดยเฉพาะอียิปต์ที่ถือได้ว่ารุ่งเรืองมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโบราณ แต่กระนั้นก็ยังมีสถานที่ลึกลับที่นักวิชาการยังคงงงงวยและตามล่าหาคำตอบอยู่เช่นกัน สถานที่แห่งนั้นคือ “มหาซิมบับเว” (
Great Zimbabwe
) ซึ่งมีอายุอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ครับ
ประเทศซิมบับเวตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกาฝั่งตะวันออก เป็นสถานที่ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสิ่งปลูกสร้างสุดอลังการอย่างมหาซิมบับเวตั้งอยู่ ที่นี่มีกำแพงหินขนาดยักษ์สูง 11 เมตรพร้อมด้วยกลุ่มอาคารทรงโคนหน้าตาแปลกประหลาดมากมายตั้งอยู่ตามแนวกำแพง อาคารทรงโคนเหล่านี้ไม่มีทั้งประตูและหน้าต่าง เสมือนว่าไม่ได้ให้ “คน” เข้าไปใช้งาน นั่นจึงสร้างความฉงนฉงายให้นักโบราณคดียิ่งนักล่ะครับ ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดออกมาแต่อย่างใด
สโตนเฮนจ์คืออนุสาวรีย์หินที่เก็บงำความลับเอาไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโบราณ.
ขึ้นเหนือไปยังทวีปยุโรปกันบ้าง ที่นี่มีสถานที่ลึกลับให้ค้นหามากมายเลยทีเดียว สถานที่แรกเชื่อว่าหลายๆ ท่านน่าจะคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือ “สโตนเฮนจ์” จากประเทศอังกฤษ
สโตนเฮนจ์
ถือได้ว่าเป็นอนุสาวรีย์หินตั้งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกโบราณ โครงสร้างหินอายุหลายพันปีนี้สร้างขึ้นมาได้ด้วยวิธีใด และหน้าที่ของมันคืออะไรกันแน่ แนวความคิดเรื่องการสร้างสโตนเฮนจ์น่าสนใจมากครับ ในช่วงประมาณ ค.ศ.1135 มีการเสนอกันว่าเหล่ายักษ์เป็นผู้ขนหินมาจากไอร์แลนด์ และพ่อมดเมอร์ลินก็ได้ใช้เวทมนตร์ช่วยยกก้อนหินข้ามทะเลมาตั้งเอาไว้ในบริเวณนี้ แต่แน่นอนว่ามันคงจะไม่ใช่คำตอบที่ดีพอสำหรับนักโบราณคดี ทำให้ในปัจจุบันได้มีการจำลองวิธีการขนหินโดยใช้คนงานกว่าร้อยชีวิต ซึ่งก็สามารถจำลองการตั้งหินได้คล้ายคลึงกับของเดิมเป็นอย่างมาก ส่วนวัตถุประสงค์การใช้งานของมันก็ยังคงเป็นปริศนาครับ แต่ก็เป็นไปได้ว่ามันอาจจะเป็นหอดูดาว หรือวิหารบางอย่างของเหล่าบรรพชนก็เป็นได้
มหาวิหารหินแห่งมอลตา.
อีกหนึ่งสถานที่ลึกลับในทวีปยุโรปก็คือเนินเขาทารา (
Tara
) ในประเทศไอร์แลนด์ครับ พื้นที่ของเนินเขาทาราเขียวชอุ่มไปด้วยทุ่งหญ้า แต่เมื่อกวาดสายตาดูให้ถ้วนทั่วแล้วก็จะพบว่ามันมีแท่งหินปริศนาตั้งโผล่ขึ้นมาอยู่หนึ่งชิ้น เรารู้จักแท่งหินนั้นกันในนาม “ลีอา ฟอยล์” (
Lia Fáil
) เสาหินนี้คือสถานที่ที่ว่ากันว่ากษัตริย์แห่งไอร์แลนด์จะมาประกอบพิธีราชาภิเษก โดยที่ตำนานกล่าวไว้ว่าถ้าบุคคลที่เข้ามาประกอบพิธีราชาภิเษกมีความเหมาะสมกับตำแหน่งกษัตริย์ ตอนที่ประทับนั่งลงบนหินลีอา ฟอยล์ มันก็จะคำรามหวีดเสียงร้องออกมาสามครั้ง แสดงถึงสิทธิโดยชอบธรรมในการครองราชย์ของบุคคลผู้นั้น ทว่าอะไรที่อยู่เบื้องหลังตำนานนี้ เสียงคำรามของหินจะมีจริงหรือไม่ ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนครับ
สถานที่ลึกลับแห่งสุดท้ายของยุโรปที่จะพาไปเยี่ยมชมกันก็คือ “
วิหารหินแห่งมอลตา
” บนเกาะมอลตาตอนใต้ของประเทศอิตาลี ความน่าสนใจของวิหารหินบนเกาะมอลตาอยู่ที่รูปร่างอันชวนแปลกตาด้วยว่ามันมีลักษณะเหมือนใบโคลเวอร์ 3 แฉก มีการใช้หนังสัตว์ขึงเป็นหลังคา แต่คำถามสำคัญที่ยังคงตามหาคำตอบก็คือใครเป็นคนสร้างวิหารแห่งนี้ และสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร ที่เราเรียกโครงสร้างแห่งนี้ว่าวิหาร เพราะอาจจะมีความเป็นไปได้ว่ามันจะเคยใช้เป็นศาสนสถานสำหรับบูชาเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ ด้วยว่ามีการพบรูปสลักของเทพีดังกล่าวบนเกาะแห่งนี้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังคงมีปริศนาอีกมากมาย เพราะนักโบราณคดียังไม่แน่ใจด้วยซ้ำครับว่าชนเผ่าที่สร้างวิหารรูปใบโคลเวอร์ 3 แฉกนี้คือใคร ดูเหมือนว่าพวกเขาอาจจะอพยพมาจากซิซิลี แต่สุดท้ายก็อันตรธานไปอย่างไร้ร่องรอย
เนินนักบวชขนาดมหึมาแห่งคาโฮเกีย.
สถานที่ลึกลับ 5 แห่งสุดท้ายอยู่ในพื้นที่ของ “โลกใหม่” (
New World
) หรือทวีปอเมริกาทั้งสิ้นครับ เริ่มจากอเมริกาเหนือกันก่อนที่เนินดินดึกดำบรรพ์ที่มีชื่อว่า “คาโฮเกีย” (
Cahokia
) ครับ คาโฮเกียรุ่งเรืองในช่วงปี ค.ศ.1100 ตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐอเมริกา บริเวณนี้มีเนินดินปริศนาผุดขึ้นมานับร้อยเนินราวกับดอกเห็ด แต่ก็ไม่มีเนินไหนยิ่งใหญ่สะดุดตาเท่า “เนินนักบวช” (
Monk Mound
) ด้วยว่าเนินแห่งนี้มีขนาดฐานที่กว้างใหญ่ยิ่งกว่ามหาพีระมิดแห่งกิซ่าที่อียิปต์เสียอีก แต่มีความสูงอยู่ที่เพียงแค่ราวๆ 30 เมตรเท่านั้นเอง ด้านบนของเนินนั้นราบเรียบ ไม่มีอาคารใดๆ ตั้งอยู่ แล้วเนินดินแห่งนี้คืออะไรกันแน่ หนึ่งในความเป็นไปได้ก็คือมันอาจจะเป็นที่พักของนักบวชชั้นสูงแห่งคาโฮเกีย ซึ่งก็ได้สะท้อนออกมาในชื่อของ “เนินนักบวช” นั่นเอง
ถัดลงมาจากคาโฮเกีย ขอลัดเลาะทางตะวันออกของประเทศบาฮามาสไปยัง “หมู่เกาะบิมินี” (
Bimini Islands
) กันบ้าง ที่นี่คล้ายคลึงกับเมืองใต้น้ำโยนากุนิครับ หมู่เกาะบิมินีเต็มไปด้วยกลุ่มโครงสร้างใต้ทะเลชวนพิศวง โดยนักประดาน้ำได้พบเข้ากับแผ่นหินที่ถูกตัดเป็นก้อนอย่างจงใจ วางเรียงรายเป็นแนวยาวจนได้รับการเรียกขานว่า “ถนนบิมินี” ว่าแต่ ถนนอะไรจะมาอยู่ใต้น้ำ ทำให้นักวิชาการบางท่านออกมาเสนอว่ามันก็แค่เป็นผลงานของธรรมชาติเท่านั้นเอง แต่กระนั้นทางกลุ่มที่ศึกษาเรื่องลี้ลับกลับเสนอว่าพื้นที่ตรงนี้คือบริเวณที่เอ็ดการ์ เคย์ซี นักพยากรณ์ชื่อดังเคยประกาศเอาไว้ว่าหลักฐาน ของอาณาจักรแอตแลนติสจะปรากฏออกมาให้เห็น
กลุ่มก้อนหินที่ถูกเรียกว่าถนนบิมินี.
ถนนบิมินีสายนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของแอตแลนติส ด้วยหรือไม่ คงต้องรอคอยการสำรวจกันต่อไปครับ
เดินทางลงใต้ต่อมายังประเทศเปรูกันบ้าง หนึ่งในสถานที่ลึกลับที่สุดของโลกก็คือบริเวณทุ่งกว้างที่เรียกว่า “ปัมปา โคโลราดา” (
Pampa Corolada
) ซึ่งเปรียบเสมือนกระดาษแผ่นใหญ่สำหรับการรังสรรค์ “ลายเส้นนาซกา” ครับ แน่นอนว่าประเด็นเรื่องลายเส้นนาซกานี้คือหนึ่งในปริศนาของโลกโบราณที่ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะกระจ่างขึ้นมามากแล้ว แต่ก็ยังคงมีคำถามอีกมากมายที่ยังไม่ได้รับคำตอบที่น่าพึงใจ ภาพสลักมากมายนับร้อยภาพทั้งภาพของสัตว์ต่างๆ ต้นไม้ ลายเส้นเรขาคณิต ล้วนแล้วแต่ปรากฏอยู่บนทุ่งกว้างแห่งนี้ทั้งสิ้น หนึ่งในภาพที่ชวนพิศวงที่สุดก็คือภาพที่ได้รับการเรียกขานว่า “มนุษย์อวกาศ” ที่เป็นร่างของมนุษย์ตัวยักษ์กำลังชูมือข้างหนึ่งคล้ายคลึงว่ากำลังทักทายใครสักคน แต่อย่าลืมครับว่าลายเส้นนาซกานั้นถ้ามองจากบนพื้นจะไม่เข้าใจเลยว่ามันเป็นรูปอะไร ต้องขึ้นไปมองจากฟากฟ้าลงมาเท่านั้นถึงจะเห็น นั่นแปลว่ามนุษย์อวกาศร่างนั้นกำลังทักทายใครสักคนจากนอกโลกหรือไม่ เป็นอีกหนึ่งความลี้ลับของลายเส้นนาซกาที่ยังไม่มีคำตอบแน่ชัด
ลายเส้นนาซการูปมนุษย์อวกาศกำลังโบกมือทักทาย.
ไปที่โบลิเวียกันบ้าง ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ “พูมาพุงคู” (
Puma Punku
) ความมหัศจรรย์ของสถานที่แห่งนี้อยู่ที่โครงสร้างหินขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นเมื่อราว 1,500 ปีที่แล้วบนภูเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึงร่วม 4 กิโลเมตรครับ ความน่าพิศวงก็คือชนโบราณชักลากก้อนหินขนาดมหึมาเหล่านี้มาเป็นระยะทางไกลแสนไกล ขึ้นภูเขาสูงชะลูดเช่นนี้มาได้อย่างไร นอกจากนั้น อีกหนึ่งปริศนาสำคัญก็คือบรรดาโครงสร้างหินรูปตัว “เอช” (
H
) จำนวนมากที่สกัดได้อย่างเรียบเนียน สามารถนำมาเรียงต่อกันด้วยหมุดยึดรูปตัวไอ (
I
) ได้สบายๆ ไม่ต่างจากการเล่นเลโก้ ด้วยว่าเหลี่ยมมุมต่างๆ ของหินแต่ละก้อน ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากการใช้เพียงแค่เครื่องมือยุคโบราณ นอกจากนั้น หินบางก้อนยังถูกเจาะรูและเซาะร่องอย่างประณีตประหนึ่งใช้สว่านหรือเครื่องมือสมัยใหม่ นั่นจึงทำให้พูมาพุงคูเป็นสถานที่อันชวนพิศวงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว
สถานที่ลึกลับแห่งสุดท้าย ตั้งอยู่โดดเดี่ยวห่างออกไปทางชายฝั่งประเทศชิลีราว 3,600 กิโลเมตร ใช่แล้วครับ “
เกาะอีสเตอร์
” นั่นเอง เกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยคำถาม ตั้งแต่ชนกลุ่มแรกที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่บนเกาะแห่งนี้คือใคร เดินทางมาอย่างไรตั้งหลายพันกิโลเมตรจากแผ่นดินใหญ่ นอกจากนั้นแล้วพวกเขายังสลักรูปปั้นอันน่าตื่นตาตื่นใจอย่าง “โมอาย” (
Moai
) เอาไว้อีกด้วย ซึ่งตัวของโมอายเองก็มีคำถามอีกไม่รู้จบเลยครับว่า ชาวเกาะอีสเตอร์สร้างไว้เพื่ออะไร สกัดหินอย่างไร ขนย้ายอย่างไร เพราะหนึ่งในความเชื่อที่ชาวเกาะอีสเตอร์พูดถึงโมอายเหล่านี้เวลามีคนถามว่าบรรพบุรุษของพวกเขาขนย้ายโมอายมาตั้งไว้ยังพื้นที่ต่างๆ ของเกาะได้อย่างไร คำตอบที่ได้รับนั้นน่าทึ่งมากครับ เพราะชาวเกาะอีสเตอร์ตอบง่ายๆ เพียงแค่ว่า “มันก็เดินมาเองน่ะสิ”!!
แท่งหินรูปตัวเอชที่พูมาพุงคู.
กระนั้นนักโบราณคดีก็กำลังขุดค้นเพิ่มเติมกันอยู่อย่างขะมักเขม้น ซึ่งเมื่อปลายปี ค.ศ.2011 ก็เพิ่งมีการค้นพบครั้งสำคัญว่าโมอายบางร่างที่ปรากฏเพียงแค่ศีรษะออกมาจากพื้นดินนั้น แท้ที่จริงแล้วเมื่อขุดลงไปในดินก็พบเข้ากับ “ลำตัว” ที่ถูกฝังอยู่ด้วย การค้นพบในครั้งนั้นทำให้เห็นว่าถึงแม้เกาะอีสเตอร์จะยังคงมีความลับอีกมากมายซุกซ่อนอยู่ แต่เราก็เริ่มเข้าใจมันมากขึ้นทุกวันเช่นกัน
ลำตัวที่ถูกซ่อนอยู่ใต้พื้นดินของโมอายแห่งเกาะอีสเตอร์.
โดยสรุปแล้ว สถานที่ลึกลับเหล่านี้ยังคงเต็มไปด้วยปริศนานานัปการที่เรายังคงมืดแปดด้าน แต่สิ่งหนึ่งที่เรามั่นใจได้แน่นอนก็คือ ชนโบราณผู้รังสรรค์สถานที่เหล่านั้นขึ้นมาจะต้องมีมันสมองที่ฉลาดปราดเปรื่องไม่แพ้มนุษย์ในยุคโลกาภิวัตน์เลยทีเดียวครับ
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...