บุรุษผู้หายเข้าไปในพระบรมสาทิสลักษณ์ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อการก่อสร้างพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทแล้วเสร็จ พระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศ์ก็เสด็จฯย้ายเข้ามาประทับภายในพระที่นั่งองค์นี้
พระที่นั่งองค์นี้ถูกออกแบบให้มีช่องตามฝาผนังเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสาทิสลักษณ์ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลต่าง ๆ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทนี้
ยังเป็นชัยภูมิอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอยู่ข้างพระมหามณเทียรอันเป็นสถานที่ประทับและเป็นที่สวรรคตของพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกรัชกาล
ภาพ: สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์
....เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งขณะที่ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ (องค์ต้นราชสกุลจักรพงษ์) ยังทรงพระเยาว์นั้น พระองค์ได้ประทับเล่นภายในพระที่นั่ง
อยู่ ๆ พระองค์ก็ทรงเห็นบุรุษร่างท้วมสวมเสื้อผ้าอาภรณ์โบราณแปลกตาเดินผ่านมาทางด้านหน้าพระองค์แล้วเดินเลยหายเข้าไป
ในพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3
ด้วยความที่เจ้าฟ้าจักรพงษ์พระชนม์ยังน้อย พระองค์จึงตะโกนเรียกออกไปตามประสาเด็กว่า
"นั่นใครกัน ออกมาเดี๋ยวนี้..ออกมาสิ !"แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีใครออกมา
เหล่าข้าหลวงพระพี่เลี้ยงในบริเวณนั้นเมื่อเห็นเหตุการจึงซักไซ้ทูลถามสมเด็จเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ว่าพระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นอะไร
ไม่นานนักความจึงทราบถึงฝ่าละอองพระบาทของ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา (พระอัครมเหสีในขณะนั้น) ท่านจึงรับสั่ง
ถามเจ้าฟ้าจักรพงษ์อีกครั้งหนึ่งว่าบุรุษนั่นมีรูปลักษณะอย่างไรหน้าตาผิวพรรณเป็นอย่างไร
สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์จึงตอบไปตามที่พระเนตรเห็น สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯก็ทรงทราบได้ทันทีว่า
บุรุษที่เดินหายเข้าไปในภาพนั้น
แท้จริงคือพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมาปรากฏพระองค์ให้เจ้าฟ้าจักรพงษ์ได้ทอดพระเนตรเห็นภาพ: สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ดังนั้นสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯจึงทรงรีบเป็นธุระจัดหาดอกไม้ธุปเทียนแพพาสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ ไปถวายและขอขมาลาโทษ
ที่ไปล่วงเกินดวงพระวิญญาณ หลังจากนั้นเจ้านายและผู้คนในวังทั้งหลายจึงได้รู้ว่าดวงพระวิญญานสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์
ทุกรัชกาลจะยังคอยปกปักรักษาพระบรมหาราชวังและพสกนิกรของพระองค์อยู่เสมอ