11 พฤษภาคม 2567 15:37:21
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ห้องสมุด
.:::
“ดวงไม่ถึงฆาต” ที่มาของสำนวนไทย ติดปากจากวัฒนธรรมอินเดีย?
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: “ดวงไม่ถึงฆาต” ที่มาของสำนวนไทย ติดปากจากวัฒนธรรมอินเดีย? (อ่าน 511 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2332
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 99.0.4844.82
“ดวงไม่ถึงฆาต” ที่มาของสำนวนไทย ติดปากจากวัฒนธรรมอินเดีย?
«
เมื่อ:
28 มีนาคม 2565 12:48:06 »
Tweet
ภาพศพถูกห่อด้วยผ้าขาวนำมายังฆาตเพื่อประกอบพิธีเผาศพ
ณ ฌาปนสถานมณิกรรณิการ์ ฆาต เมืองพาราณาสี รัฐอุตรประเทศ อินเดีย
“ดวงไม่ถึงฆาต” ที่มาของสำนวนไทย ติดปากจากวัฒนธรรมอินเดีย?
ผู้เขียน - ผศ. ดร.อาชว์ภูริชญ์ น้อมเนียน
เผยแพร่ - ศิลปวัฒนธรรม - วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2565
ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอินเดียหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ภาษา, วรรณกรรม, ศาสนา เป็นต้น วัฒนธรรมอินเดียเรื่อง “
การปลงศพ
” เป็นจุดหมายปองหนึ่งของคนทั่วโลกว่า “ต้องมาชมให้ได้สักคราครั้งหนึ่ง” โดยเฉพาะการปลงศพที่เมืองพาราณาสี (
Varanasi
) เมืองที่ได้ชื่อว่าแสงไฟไม่เคยดับเพราะการเกิด-ดับเป็นของคู่โลก ไฟที่ลุกโพลงและควันไฟที่ครุกรุ่นอยู่เสมอไม่เคยดับกว่า 5,000 ปี บริเวณริมฝั่งแม่น้ำคงคา รัฐอุตรประเทศ (
Uttar Pradesh
)
ท่าเผาศพอันมีนามว่า มณิกรรณิการ์ ฆาต (
Manikarnika Ghat
) และหริศจันทร์ ฆาต (
Harishchandra Ghat
) ชื่อของฆาตทั้งสองคือที่มาของสำนวนไทย ซึ่งเป็นคำติดปากและหลายคนอยากได้ยินสำนวนนี้บ่อยๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุว่า โชคดีมาก “ดวงยังไม่ถึงฆาต” นั่นเอง
วันนี้จึงขอเสนอเรื่องราวของ “ฆาต” (
Ghat
) ว่าอยู่ดีๆ ไปปรากฏในสำนวนไทยที่ติดปากคนไทยได้อย่างไร?
คำว่า “
ฆาต
” เป็นคำเรียกที่ชาวอินเดียใช้เรียกสถานที่ที่ทำลักษณะเป็นบันไดเพื่อไว้ใช้ลงแม่น้ำคงคา โดยเฉพาะที่เมืองพาราณาสีมีฆาตมากถึง 88 ฆาต ฆาตเหล่านั้นล้วนมีชื่อเรียกแตกต่างกันเช่น มาลาวิยะ ฆาต (
Malaviya Gha
t) อัสสี ฆาต (
Assi Ghat
) ตุลสี ฆาต (
Tulsi Ghat
) เชน ฆาต (
Jain Ghat
) ลักษมี ฆาต (
Laxmi Ghat
) เป็นต้น
แต่ฆาตอันเป็นที่มาของสำนวนไทยคือ ฆาตที่ไว้ใช้เผาศพ หรือฌาปนสถาน (
Cermation or Burning Ghat
) ริมฝั่งแม่น้ำคงคา คือ
มณิกรรณิการ์ ฆาต
(
Manikarnika Gha
t) และหริศจันทร์ ฆาต (
Harishchandra Ghat
) อันเป็นจุดจบสิ้นของร่างกายที่จะถูกล้างบาปก่อนการกลับคืนสู่อ้อมกอดแห่งพระเป็นเจ้า แต่สำหรับชาวฮินดูแล้วความปรารถนาที่แรงกล้าเมื่อเริ่มรู้ว่าร่างกายนี้ไม่อาจต้านทานพญามัจจุราชได้แล้ว คำสั่งเสียที่มีต่อลูหลานคือการได้มานอนทิ้งร่างวางขันธ์เพื่อให้ได้เห็นสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อว่า “คงคา” จนลมหายใจสุดท้ายผละออกจากร่างกายนี้ไป
ภาพกองไฟที่เผาร่างอันเป็นวัฒนธรรมของชาวฮินดูที่กล่าวถึงเมืองพาราณาสีว่า “เมืองแห่งแสงไฟที่ไม่เคยดับเป็นเวลากว่า 5,000 ปี”
ทำไมจึงจำเพาะ 2 ฆาตนี้เท่านั้น? เพื่อให้เรื่องราวบริบูรณ์มากยิ่งขึ้นจึงขอเล่าขานความเชื่ออันเป็นที่มาของฆาตทั้งสองคือ มณิกรรณิการ์ ฆาต (
Manikarnika Ghat
) และหริศจันทร์ ฆาต (
Harishchandra Ghat
) ดังนี้ ท่ามณิกรรณิการ์ (
Manikarnika
) นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้แก่ มณิกรรณิการ์ คูนด์ (
Manikarnika Kund
)และมณิกรรณิการ์ ฆาต (
Manikarnika Ghat
)
สำหรับ มณิกรรณิการ์ คูนด์ (
Manikarnika Kund
) นั้นเป็นบ่อน้ำ หรือสระน้ำสี่เหลี่ยม โดยกว้างและยาวประมาณ ข้างละสิบเมตร บางคัมภีร์เรียกว่า จักรปุชการิณี ซึ่งเป็นรอยเท้าของพระวิษณุ (
Vishnu
) ที่สามารถเห็นได้ในปัจจุบัน สำหรับบางคัมภีร์แสดงทรรศนะไว้ว่า
“วันหนึ่งทั้งพระศิวะและพระปารวตีได้อาบน้ำในบ่อน้ำในขณะนั้น หงอนเพชร (ชื่อ มณิ)ของพระศิวะ และต่างหู (ชื่อกรรณิการ์) ของพระนางปารวตีได้ตกลงในบ่อน้ำแห่งนั้น ขณะที่ทั้งสองพระองค์กำลังอาบน้ำอยู่ ดังนั้น บ่อน้ำนั้นจึงได้ชื่อว่า มณิกรรณิการ์ คูนด์ (
Manikarnika Kund
) (คูนด์ แปลว่า บ่อน้ำ)”
ส่วนอีกคัมภีร์หนึ่งกล่าวว่า “วันหนึ่งพระศิวะและพระศักติผ่ามาทางนั้นได้ทรงเห็นเปลวไฟลุกขึ้นโชติช่วงบนกองหิน จึงรู้ว่าพระวิษณุได้นั่งบำเพ็ญตบะอย่างแรงกล้าในวันนั้น ดังนั้นพระศิวะจึงบอกให้พระวิษณุเลือกทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ด้วยความปรารถนาดีของพระองค์ที่มีต่อพระวิษณุที่จะอยู่ไปในกาลปัจจุบันโลก ในขณะที่ตรัสอยู่นั้นต่างหูเพชรชื่อ มณิกรรณิการ์ของพระองค์ ได้ตกหล่นจากพระกรรณของพระองค์ ตกลงไปในบ่อน้ำนั้น ด้วยเหตุนี้เองพระศิวะและพระวิษณุต่างตกลงปลงใจว่าที่ตรงนี้จะเป็นสถานที่มงคลและศักดิ์สิทธิ์ต่อไป อีกทั้งเป็นที่ปลดปล่อยวิญญาณจากบาปไปสู่สวรรค์ได้” นั่นเอง
ส่วน
หริศจันทร์ ฆาต
(
Harishchandra Ghat
) มีกล่าวไว้ “หริศจันทร์” เป็นชื่อของพระราชาแห่งสูรยวงศ์แห่งนครอโยธยา พระองค์ถูกกฤาษีแปลงกายเป็นพระศิวามิตรพรหมฤาษีมาทดสอบคุณธรรมความดีของพระองค์ กล่าวหาโทษเล็กๆ น้อยๆ จนพระองค์กลายเป็นทาสในที่สุด พร้อมทั้งขายพระมเหสีและพระโอรสโรหิตาศวะสุดที่รักของพระองค์ให้คนอื่น พร้อมประกาศขายพระองค์เองอีกด้วย
ในที่สุดพระองค์กลายเป็นทาสของคนวรรณะล่างคนหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นคนเผาศพ สุดท้ายทั้งพระราชาหริจันทร์และพระมเหสีไศพยา มาเจอกันแล้วตัดสินพระทัยจะเผาตนเองตายตามพระโอรสซึ่งถูกงูกัดตายไปก่อนหน้านั้น เพราะที่ผ่านมาทั้งสองพระองค์ได้อดทนมาหนักแล้ว เพราะรักษาความสัตย์ยิ่งชีวิต ก่อนจะเผาจึงตรัสว่า “ณ ที่ตรงนี้ขอให้ได้เป็นที่ชำระจิตวิญญาณของเราให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ดังที่ได้ชำระทองคำให้สุกปลั่งในเบ้าแล”
ด้วยเหตุนี้ริมฝั่งแม่น้ำคงคาจึงมี มรณัง โฮเต็ล หรือโรงแรมรอความตายที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ทินหิน สัทกติ นิวาส (
Dinahin Sadgati Niwas
), กาศี มุกติ ภาวัน (
Kashi Mukti Bhawan
), กาศี ลาภ ภาวัน (
Kasi Labha Bhavan
) เป็นต้น
จากนั้นเมื่อร่างกายที่ปราศจากลมหายใจแล้วจะถูกห่อด้วยผ้าสีขาวและประดับด้วยดอกดาวเรืองสดก่อนวางลงบนไม้ไผ่ 7 ซี่แล้วถูกหามไปยัง มณิกรรณิการ์ ฆาต(
Manikarnika Ghat
) และหริจันทร์ ฆาต (
Harishchandra Ghat
) ตลอดทางที่ผ่านผู้คนหรือบางศพถูกขนย้ายมาบนรถบัสบ้าง รถเข็นบ้างจะได้ยินเสียงสวดมนต์ภาวนามาตลอดทางว่า “รามะ นามะ สัจจะ แฮ” แปลว่า “ชื่อพระรามเท่านั้นเป็นจริง ชื่ออื่นนอกจากชื่อนี้ ตายหมด!”
สำนวนไทยที่ว่า “ดวงยังไม่ถึงฆาต” จึงมีความหมายว่า บุคคลผู้นั้นยังไม่ถึงท่าเผาศพนั่นเอง สร้างดวงให้ดีด้วยการคิดดี ทำดี พูดดี แม้ว่าจะถึงฆาตก็ไม่สร้างความกังวลใจ
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ
เริ่มโดย
ตอบ
อ่าน
กระทู้ล่าสุด
ที่มาของสำนวนไทย "ควันหลง"
สุขใจ จิบกาแฟ
ฉงน ฉงาย
0
999
22 มิถุนายน 2563 01:02:02
โดย
ฉงน ฉงาย
กำลังโหลด...