[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
08 พฤษภาคม 2567 01:38:35 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  [1] 2 3 ... 10
 1 
 เมื่อ: 1 นาทีที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
น้องมาร์ติน เด็กวัย 9 เดือน ปลอดภัยแล้ว รวบกะเทยแสบลักพาตัว พาไปไกลถึงระยอง
         


น้องมาร์ติน เด็กวัย 9 เดือน ปลอดภัยแล้ว รวบกะเทยแสบลักพาตัว พาไปไกลถึงระยอง" width="100" height="100  กะเทยแสบขออุ้มหลาน สบโอกาสลักพาตัว "น้องมาร์ติน" เด็กวัย 9 เดือน หายไป โล่งอก! เจอตัวน้องแล้ว ถูกพาไปไกลถึงระยอง
         

https://www.sanook.com/news/9370842/
         

 2 
 เมื่อ: 58 นาทีที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
ประวัติ “ดร.เศรษฐพุฒิ” ผู้ว่าการแบงก์ชาติ หลังอุ๊งอิ๊ง ซัดเป็นปัญหาต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ
         


ประวัติ “ดร.เศรษฐพุฒิ” ผู้ว่าการแบงก์ชาติ หลังอุ๊งอิ๊ง ซัดเป็นปัญหาต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ" width="100" height="100  เปิดประวัติ “ดร.เศรษฐพุฒิ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคือใคร?
         

https://www.sanook.com/news/9370638/
         

 3 
 เมื่อ: 2 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
เคล็ดลับ 2 ข้อ ที่ผู้ผลิตบอกมา เปิดแอร์ 26 องศา ไม่ปิดเลย 2 เดือน ค่าไฟกลับไม่แพง
         


เคล็ดลับ 2 ข้อ ที่ผู้ผลิตบอกมา เปิดแอร์ 26 องศา ไม่ปิดเลย 2 เดือน ค่าไฟกลับไม่แพง" width="100" height="100  ผู้ผลิตแอร์ เผย 2 เคล็ดลับ ที่ทำให้เปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืนได้โดยไม่เปลืองไฟ เปิดไปเลย 24 ชั่วโมง นาน 2 เดือน ไม่ต้องปิด ค่าไฟไม่แพงอย่างที่คิดเลย
         

https://www.sanook.com/news/9370826/
         

 4 
 เมื่อ: 5 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
“แบงค์ ศรราม” เปิดใจครั้งแรก ตอบทุกข้อสงสัยหลัง "ดำดง" ลาออก
         


“แบงค์ ศรราม” เปิดใจครั้งแรก ตอบทุกข้อสงสัยหลัง "ดำดง" ลาออก" width="100" height="100  แบงค์ ศรราม" เปิดใจครั้งแรก ตอบทุกข้อสงสัยหลัง "นุ่น เนตรชนก" หรือ "ดำดง" ลาออก
         

https://www.sanook.com/news/9370802/
         

 5 
 เมื่อ: 7 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
"ราเมศ" ท้า "ภูมิธรรม" หุงข้าว 10 ปี ให้ ครม. กินทุกวันอังคาร ห้ามซาวน้ำเกิน 3 ครั้ง
         


"ราเมศ" ท้า "ภูมิธรรม" หุงข้าว 10 ปี ให้ ครม. กินทุกวันอังคาร ห้ามซาวน้ำเกิน 3 ครั้ง" width="100" height="100  “ราเมศ” ขอ “ภูมิธรรม” ข้าว 10 ปี หุงให้ ครม. กินทุกวันอังคาร ห้ามซาวน้ำเกิน 3 ครั้ง ชี้ภาพมันฟ้องรองนายกก็เน้นกับไม่เน้นข้าว
         

https://www.sanook.com/news/9370642/
         

 6 
 เมื่อ: 7 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
ศาลตัดสิน คดีบุกรุกบ้านอากู๋ แก๊งเพื่อนบ้านอ่วม โทษจำคุก-ปรับ-ชดใช้ค่าเสียหายหลักล้าน
         


ศาลตัดสิน คดีบุกรุกบ้านอากู๋ แก๊งเพื่อนบ้านอ่วม โทษจำคุก-ปรับ-ชดใช้ค่าเสียหายหลักล้าน" width="100" height="100  หลานอากู๋ชนะคดี ศาลสั่งแก๊งเพื่อนบ้านชดใช้ 1 ล้าน มีโทษจำคุก-ปรับ ปมปัญหาครอบครองปรปักษ์
         

https://www.sanook.com/news/9370750/
         

 7 
 เมื่อ: 10 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
หุงข้าว ต้องซาวน้ำกี่ครั้งกันแน่? ซาวข้าว 15 รอบได้ไหม ผู้เชี่ยวชาญมาเฉลยแล้ว
         


หุงข้าว ต้องซาวน้ำกี่ครั้งกันแน่? ซาวข้าว 15 รอบได้ไหม ผู้เชี่ยวชาญมาเฉลยแล้ว" width="100" height="100  หุงข้าว ต้องซาวน้ำกี่ครั้งกันแน่? แล้วถ้าซาวข้าว 15 รอบ ได้ไหม ผลจะเป็นอย่างไร ผู้เชี่ยวชาญมีคำตอบให้แล้ว
         

https://www.sanook.com/news/9370678/
         

 8 
 เมื่อ: 10 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย Kimleng - กระทู้ล่าสุด โดย Kimleng



พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๑๘๒ มหิสชาดก
ลิงกับควาย

         ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เกิดเป็นกระบืออยู่ในป่าหิมพานต์ พอเจริญวัยก็สมบูรณ์ด้วยกำลังแรง มีร่างกายใหญ่ท่องเที่ยวไปตามป่าทึบ เห็นโคนไม้อันผาสุกสำราญแห่งหนึ่ง เที่ยวหากินอิ่มแล้ว ในตอนกลางวันได้มายืนพักอยู่ที่ในโคนไม้นั้น ครั้งนั้นมีลิงโสนตัวหนึ่งลงจากต้นไม้ แล้วขึ้นไปบนหลังของกระบือนั้น ถ่ายอุจจาระปัสสาวะรด จับเขาทั้งสองโหนจับหางแกว่งไปแกว่งมา กระบือมิได้ใส่ในอนาจารของลิงนั้น เพราะประกอบด้วยบขันติ เมตตา และความเอ็นดู
          ครั้นวันหนึ่ง เทวดาผู้สิงอยู่ที่ต้นไม้นั้นยืนอยู่ที่ลำต้นของต้นไม้นั้น กล่าวกะกระบือนั้นว่า “พระยากระบือ เพราะเหตุไรท่านจึงอดกลั้นการดูหมิ่นของลิงชั่วตัวนี้ ท่านจงทำโทษมันเสีย” แล้วกล่าวต่ออีกว่า “เพราะเหตุใดท่านจึงอดกลั้นทุกข์ต่อลิงผู้มีจิตกลับกลอก มักประทุษร้ายมิตรประหนึ่งเจ้าของผู้ให้ความใคร่ทั้งปวง ท่านจงขวิดมันด้วยเขา จงเหยียบเสียด้วยเท้า ถ้าไม่ห้ามปรามมันเสีย สัตว์ทั้งหลายที่โง่เขลาก็จะเบียดเบียนร่ำไป”
          กระบือได้ฟังดังนั้นจึงกล่าวว่า “ท่านรุกขเทวดา ถ้าเราเป็นผู้ยิ่งกว่าลิงตัวนี้ โดยชาติ โคตร และวัสสายุกาล เป็นต้น จักไม่อดกลั้นโทษของลิงตัวนี้ไซร้ มโนรถความปรารถนาของเราจักถึงความสำเร็จได้อย่างไร ก็ลิงตัวนี้เมื่อสำคัญแม้ผู้อื่นว่าเหมือนตัวเราจักกระทำอนาจารอย่างนี้ แต่นั้นมันจักกระทำอย่างนี้แก่กระบือดุร้ายเหล่าใด กระบือร้ายเหล่านั้นแหละจักฆ่ามันเสีย การที่กระบือตัวอื่นฆ่าลิงตัวนี้นั้น เราจักพ้นจากทุกข์และปาณาติบาต”
          ก็ต่อเมื่อล่วงไป ๒-๓ วัน กระบือได้ไปอยู่ในที่อื่น กระบือดุตัวหนึ่งได้มายืนอยู่ที่โคนต้นนั้น ลิงชั่วจึงขึ้นหลังกระบือดุตัวนั้น สำคัญว่ากระบือตัวนี้ก็คือกระบือตัวนั้นแหละ แล้วกระทำอนาจารอย่างนั้นนั่นแหละ ทันใดกระบือตัวนั้นสลัดลิงนั้นให้ตกลงบนพื้นดิน เอาเขาขวิดหัวใจ เอาเท้าทั้ง ๔ เหยียบให้ละเอียดเป็นจุณ
 

นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งไม่พอใจ ทำให้ไม่ต้องสร้างเวรภัยให้เกิด”

พุทธศาสนสุภาษิตประจำเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ขนฺติ  หิตสุขาวหา
ความอดทนนำมาซึ่งประโยชน์สุข (ส.ม.)

ที่มา : นิทานชาดกจากพระไตรปิฎก : พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ ฉบับสมบูรณ์ จัดพิมพ์เผยแพร่ธรรมโดย ธรรมสภา สถาบันบันลือธรรม

 9 
 เมื่อ: 10 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย Kimleng - กระทู้ล่าสุด โดย Kimleng



พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๑๘๑ สุวรรณมิคชาดก
เนื้อติดบ่วงนายพราน

          ในสมัยพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ที่เมืองพาราณสี มีพญาเนื้อตัวหนึ่งรูปร่างสวยงามนัก มีนางเนื้อสาวเป็นภรรยารูปร่างงามเช่นกัน ทั้ง ๒ มีบริวารที่อยู่ในปกครองนับ ๑๐,๐๐๐ ตัว
          อยู่มาวันหนึ่งพญาเนื้อเดินไปติดบ่วงของนายพราน พยายามดิ้นรนเท่าไหร่ก็ไม่หลุด ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเข้าลึกจนถึงเอ็น ในที่สุดก็เข้าไปถึงกระดูก จนส่งเสียงให้บริวารรู้ว่าตนติดบ่วง หมู่เนื้อได้ยินเสียงร้องก็พากันหนีไป นางเนื้อไม่เห็นพญาเนื้อตามมาด้วย ก็คิดว่าผู้ที่ส่งเสียงร้องน่าจะเป็นพญาเนื้อ จึงรีบวิ่งไปหาน้ำตานองหน้า และกล่าวปลอบโยนว่าจะให้ความช่วยเหลือจะขอร้องให้นายพรานปล่อยตัวไปให้ได้
          ดังนั้น เมื่อนางมาถึง ก็อ้อนวอนขอให้นายพรานปล่อยตัวพญาเนื้อไป เพราะมีหน้าที่ดูแลบริวารนับ ๑๐,๐๐๐ ตัว ให้จับตนเองไปฆ่าแทน นายพรานฟังคำอ้อนวอนของเนื้อสาวก็รู้สึกสลดใจ สำนึกว่าแม้แต่สัตว์เดรัจฉาน ยังกล้าเสียสละชีวิตให้แก่กันได้ เราเป็นมนุษย์แท้ๆ กลับไร้จิตสำนึก จึงยอมปล่อยตัวพญาเนื้อให้กลับไปโดยสวัสดิภาพ พร้อมอวยพรให้มีความสุขในชีวิตคู่ ก่อนจะจากไปพญาเนื้อได้ตอบแทนนายพรานด้วยแก้วมณี ๑ ดวง ให้นายพรานนำแก้วมณีดวงนี้ไปสร้างเนื้อสร้างตัว และเลิกการเป็นนายพรานต่อไป
   

นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“คู่รักที่จะเสียสละชึวิตให้แก่กันได้ หายาก”

พุทธศาสนสุภาษิตประจำเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
สุทุลฺลภิตฺถี ปุริสสฺ ยา หิตา
ภตฺติตฺถิยา  ทุลฺลโภ  โย  หิโต  จ ฯ

ภรรยาที่คอยช่วยเหลือสามี หาได้ยาก
สามีคอยช่วยเหลือภรรยา ก็หาได้ยาก (๒๗/๒๙๓๔)

ที่มา : นิทานชาดกจากพระไตรปิฎก : พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ ฉบับสมบูรณ์ จัดพิมพ์เผยแพร่ธรรมโดย ธรรมสภา สถาบันบันลือธรรม

 10 
 เมื่อ: 10 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย Kimleng - กระทู้ล่าสุด โดย Kimleng


พระราชกำหนดเก่า ครั้งกรุงศรีอยุธยา

คำนำ

หนังสือที่พิมพ์ไว้ในสมุดเล่มนี้เป็นพระราชกำหนดเก่าครั้งกรุงศรีอยุธยา ในรัชชกาลสมเด็จพระเจ้าท้ายสระบ้าง ในรัชชกาลสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐ์บ้าง ในรัชชกาลสมเด็จพระที่นั่งสุริยามรินทรบ้าง ต้นฉะบับเป็นสมุดไทยเขียนตัวรง มีอยู่ในหอพระสมุดวชิรญาณ ราชบัณฑิตยสภาได้นำพระราชกำหนดเช่นนี้ออกพิมพ์ฉะบับ ๑ ใน พ.ศ.๒๔๖๙ แต่ก็ไม่ปรากฏว่าได้มีผู้อ่านและใส่ใจมากนัก จนเมื่อสองสามเดือนนี้มีฝรั่งนาย ๑ สืบความรู้ในเรื่องตำนานการปกครองเมืองไทย เพื่อจะเอาไปเรียบเรียงพิมพ์เป็นสมุดในภาษาอังกฤษ พบสมุดที่ราชบัณฑิตยสภาพิมพ์นั้น อ่านไม่เข้าใจเพราะเป็นภาษาครั้งกรุงเก่า จึงนำไปขออ่านกับข้าพเจ้าที่บ้าน ข้าพเจ้าช่วยอ่านและแปลบางตอนที่เข้าใจยาก เห็นว่าหนังสือนั้นทำให้เกิดความใคร่รู้ถ้อยคำที่ใช้ในสมัยก่อนแปลกไปจากที่ใช้ในสมัยนี้ นอกจากที่เป็นประโยชน์ส่อให้เห็นทางการปกครองในสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว ยังมีประโยชน์แก่ผู้ศึกษาภาษาไทยด้วย เหตุดังนี้จึงได้ให้ค้นต้นฉะบับพระราชกำหนดเช่นเดียวกันที่มีอยู่ในหอพระสมุดวชิรญาณ และยังมิได้เคยนำออกพิมพ์ รวมได้ใหม่ในคราวนี้ ๑๐ ฉะบับ และรวมฉะบับที่เคยพิมพ์แล้วเข้าอีก ๑ จึงเป็น ๑๑ ฉะบับด้วยกัน การพิมพ์คราวนี้ พิมพ์ถ้อยคำตามต้นฉะบับทั้งนั้น แต่มิได้คงตัวสะกดไว้ตามเดิมทั้งหมด เพราะฉะบับเดิมเป็นลายมือเสมียนฝีมือดีก็จริงอยู่ แต่ไม่ใช่คนรู้หนังสือ คำคำเดียวเขียนไว้แปลกๆกันมีเป็นอันมาก ที่กล่าวนี้เป็นแต่เพียงถ้อยคำที่อ่านเข้าใจในเวลานี้ แต่มีคำเป็นหลายคำซึ่งอ่านไม่เข้าใจ เป็นต้นว่าในหน้า ๑๒ บันทัด ๓ มีคำว่า “อย่าให้ลงลออยู่ได้” และในหน้า ๒๔ บันทัดที่ ๖ มีคำว่า “ให้ทำแต่ในรัจสำหรับเมืองนั้นก่อน” ฉะนี้ ยังไม่เข้าใจว่า ลงลอ และ รัจ นั้นหมายความว่ากะไร จึงคงตัวสะกดไว้ตามฉะบับเดิม สำหรับจะได้สอบคนหรือสันนิษฐานกันต่อไป

เมื่อได้คัดต้นฉะบับเตรียมตามที่กล่าวมานี้แล้ว พระยาโทณวณิกมนตรี มาแจ้งความว่า ในงาน พระราชทานเพลิงศพ พระศิลปานุจิตรการ (ฉัตร อินทรเสน) ในเดือนมิถุนายนนี้ เจ้าภาพมอบให้พระยาโทณวณิกมนตรี มาขอหนังสือไปพิมพ์แจก ได้ให้พระยาโทณวณิกมนตรีดูต้นฉะบับที่เตรียมไว้ ก็เห็นว่าเป็นหนังสือควรพิมพ์ไว้โดยเหตุที่กล่าวมาข้างต้น จึงรับพิมพ์หนังสือนี้ในงานศพครั้งนี้

กรรมการราชบัณฑิตยสภาขออนุโมทนาในกุศลจิตต์ ซึ่งเจ้าภาพงานศพพระศิลปานุจิตรการได้บำเพ็ญเป็นปฏิการฉลองคุณผู้เป็นบุรพการี ขอวิบากสุขจงสำเร็จแก่ผู้ถึงมรณะตามสมควรแก่คติอุปบัตินั้น ๆ เทอญ


                             
                              นายกราชบัณฑิตยสภา
                              วันที่ ๑๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๖

กฎ เรื่องร้องฟ้องความซับซ้อนกันหลายศาล

​กฏให้แก่พระสุรัศวดีซ้าย ขวา ใน นอก ให้กฎหมายบอกแก่ตุลาการและกรมมหาดไทย กลาโหม และกรมเมือง วัง คลัง และตำรวจ ทหารใน และสนมซ้าย ขวา มหาดเล็กชาวที่ นครบาล ขุนโรง ขุนศาล ผู้บรรดาเปนตุลาการได้พิจารณาความทุกหมู่ทุกกรม ด้วยทรงพระกรุณาตรัสเหนือเกล้า ฯ สั่งว่าราษฎรทั้งปวงมีอรรถคดี ทำหนังสือร้องฟ้องหาความแก่กันณะโรงศาล สมภักนักการกรมใด ๆ เนื้อความเปนอาชญานครบาล ครั้นขุนโรงขุนศาลสมภักนักการผู้นั้นรับเอาหนังสือฟ้องแล้ว เอาว่ากล่าวบัตรหมายไปให้มูลนายอาณาประชาบาลข้างหนึ่งให้ส่งข้างจำเลยมาพิจารณาตามกระทรวง ​และครั้นตุลาการได้ตัวมาไถ่ถามสืบไป และเนื้อความพิรุธข้างหนึ่งเห็นจะแพ้ในสำนวนไซร้ คู่ความข้างหนึ่งด้วยมีเงินทอง ข้างหนึ่งยากแค้นหาเงินจะเสียค่าฤชาตุลาการมิได้ ก็ให้ตุลาการพิจารณาแต่ศาลเดียวตามเนื้อความกว่าจะสำเร็จ และข้างหนึ่งด้วยมีเงินทองเห็นเนื้อความตัวเพลี่ยงพล้ำพิรุธจะแพ้แก่ข้างหนึ่ง แล้วคิดอ่านเอาเท็จเปนจริงไปร้องฟ้องณะโรงศาลอื่น กล่าวโทษหาอุทธรณ์อาชญาแก่ตุลาการว่ากลบเกลื่อนเนื้อความเสียบ้าง และเขียนเอาแต่ชอบใจบ้าง และดัดสำนวนหัวข้อความเสียบ้าง พาโลว่าตุลาการโบยตีทำข่มเหงบ้าง และว่าเนื้อความตุลาการถามผู้นั้นมีผู้มาเสี้ยมสอนฝ่ายโจทก์ จำเลย เขียนเอาบ้าง คดีจะให้สำนวนยืดยาวค้างเกินไป และขุนโรง ขุนศาล สมภักนักการกรมอื่น นอกตุลาการเก่า ผู้จะรับหนังสือร้องฟ้องนั้น คิดว่าเปนกระทรวงของตัว กรมนั้นได้พิจารณา​ตามพระธรรมนูญ และกฎหมายแต่ก่อนแล้ว จึ่งรับเอาหนังสือร้องฟ้องผู้นั้นว่ากล่าวบัตรหมายเอาเอง ให้ส่งตุลาการเก่า และให้เบิกเอาสำนวนคู่ความมาพิจารณาตามเนื้อความข้างหนึ่ง คิดว่ามีเงินทองพอจะเสียหายได้แก่สมภักนักการ แล้วไปทำฎีกาทูลเกล้า ฯ ถวายกล่าวโทษตุลาการเก่า และเบิกเอาแต่คู่ความไปให้ตุลาการใหม่ผู้ได้รับสั่งพิจารณาให้ถาม ครั้นตุลาการใหม่ถามลูกความเสียค่าฤชาตุลาการซ้ำทวีขึ้นไปมากกว่าค่าฤชาณะโรงศาล คู่ความซึ่งเปนคนยากนั้นยอมเสียค่าฤชาซ้ำสองต่อสามต่อแก่ตุลาการใหม่ เสียซ้ำทวีขึ้นไปกว่าตุลาการเก่าอีกเล่า กว่าตุลาการใหม่จะพิจารณาให้เห็นเท็จจริง คู่ความได้ความยากแค้นเดือดร้อนหนักหนา และแต่นี้สืบไปเมื่อหน้า ถ้าราษฎรผู้มีอรรถคดีร้องฟ้องว่ากล่าวแก่กันณะโรงศาล และสมภักนักการกรมใดๆและตุลาการณะโรงศาลสมภัก​นักการจะรับหนังสือร้องฟ้องราษฎรผู้นั้นว่ากล่าวตามกระทรวง ตามกฎหมายแต่ก่อนไซร้ ให้ตุลาการณะโรงศาลสมภักนักการได้พิจารณาเรียกทัณฑ์บล ฝ่ายโจทก์ จำเลย ไว้จงมั่นคงแล้วจึ่งให้ถามตามหนังสือร้องฟ้องแต่โดยยศ โดยธรรม แต่ตามสัจ ตามจริง อย่าให้กลับเอาจริงเปนเท็จ เอาความข้อแพ้กลับขึ้นเปนชนะ เอาความแพ้กลับขึ้นเปนเสมอบ้าง แต่ข้อหนึ่งกระทงหนึ่งได้ ถ้าและตุลาการณะโรงศาล สมภักนักการกรมนั้นได้พิจารณาไต่ถามตามหนังสือร้องฟ้องข้อใดกระทงใด โจทก์ จำเลย มิรับกัน และเนื้อความถึงพะยานข้อใดกระทงใด จำเลยรับแล้วให้การเปนประการใด แต่ตามข้อรับไซร้ ก็ให้ตุลาการผู้ไต่ถามเขียนเอาแต่ถ้อยคำโจทก์ จำเลย ให้มั่นคง แต่ตามสัจตามจริงอย่าให้เห็นแก่ฝ่ายโจทก์ จำเลยข้อหนึ่งกระทงหนึ่งได้ เมื่อคัดเนื้อความในสำนวนอ่านให้โจทก์​จำเลย ฟัง ถ้าโจทก์ จำเลย ว่าชอบด้วยถ้อยคำแล้ว ให้บันทึกศุภมาศวันคืนผู้มาลุกนั่งว่าอ่านให้ฟังรู้ได้ยินนั้นไว้ในถ้อยคำสำนวนให้มั่นคง และให้ผูกสำนวนถ้าหาตรามิได้ให้หยิกเล็บไว้เปนสำคัญคู่มือฉบับหนึ่ง ถ้าและโจทก์ จำเลยติดใจแก่ตุลาการ ไปร้องฟ้องณโรงศาลอื่นหาอุทธรณ์อาชญา กล่าวโทษตุลาการว่าเห็นแก่สินจ้างสินบล เห็นแก่ข้างหนึ่งและกลบเกลื่อนเนื้อความเสียบ้าง และเขียนเอาแต่ชอบใจบ้าง และลบสำนวนเสีย คัดสำนวนมิสิ้นของเนื้อความบ้าง และเมื่อถามมีผู้มาเสี้ยมสอนบ้าง เขียนเอาไซร้ อย่าเพ่อให้ตุลาการใหม่เบิกเอาสำนวนคู่ความมา ให้บัตรหมายโฉนดฎีกาไปให้สั่งแต่ตุลาการ และสมภักนักการผู้ได้ไต่ถามเก่า มาให้ตุลาการใหม่ถามตามอาชญาอุทธรณ์แก่ตุลาการเก่านั้นก่อน เมื่อตุลาการจะถามนั้นให้เรียกเอาทัณฑ์บลแก่คู่ความผู้โจทก์ และตุลาการ​เก่า ซึ่งต้องอาชญาอุทธรณ์เปนจำเลยนั้นให้มั่นคงก่อนจึ่งให้ถาม ครั้นตุลาการใหม่ถามตุลาการเก่าตามข้อหาอุทธรณ์ ซึ่งคู่ความติดใจตุลาการแต่ข้อหนึ่งสองข้อสามข้อจนถึงเก้าข้อสิบข้อนั้นตามเรื่องราว ถ้าพิจารณาเปนสัจว่าตุลาการเก่าทำล้ำเหลือเข้าด้วยฝ่ายโจทก์ฝ่ายจำเลย พิจารณามิเปนยศเปนธรรม และตุลาการเก่าแพ้แต่ข้อหนึ่งไซร้ และ เนื้อความซึ่งหาอุทธรณ์แก่ตุลาการเก่าสี่ข้อห้าข้อนั้น มิได้ติดพันธ์พระราชทรัพย์ช้าง ม้า โค กระบือ ของหลวงหามิได้ไซร้ ก็ให้ตุลาการใหม่เอาเนื้อความเจรจาด้วยลูกขุนณะศาลหลวง ให้ลูกขุนณะศาลหลวงเอาเนื้อความเปนแพ้ด้วยให้สิ้นจงทุกข้อ แล้วให้เอาบรรดาศักดิตุลาการผู้สูงมาผู้เดียว ตั้งปรับไหมเอาตุลาการเก่าตามอัยการพระธรรมนูญ และให้ใช้ทุนค่าฤชาผู้ชนะให้สิ้นเชิง และคู่ความเดิมซึ่งหาแก่กันอยู่ตุลาการเท่านั้น ถ้าเปนกระทรวง​แพ่ง และฝ่ายจำเลยนั้นเปนกรมฝ่ายนอก ให้ส่งไปแพ่งเขษมพิจารณา ถ้าและตุลาการแพ่งเขษมแพ่งวัง เปนตุลาการเก่าต้องในอุทธรณ์อาชญาแล้ว ให้ส่งไปให้แพ่งคลังพิจารณาเอาพินัยจ่ายหญ้าช้างหลวงตามพระธรรมนูญ ถ้าและศาลราษฎร์ได้พิจารณา เปนความอุทธรณ์อาชญาเปนตุลาการเก่า ให้ส่งไปศาลอาชญาประชาเสพพิจารณา ถ้าศาลประชาเสพเปนตุลาการเก่าให้ส่งไปศาลราษฎร์พิจารณา ถ้าและเนื้อความเดิมหาความศาลขุนบุรินทร ก็ให้ส่งให้ศาลนครบาล วังเปนตุลาการเบิกเอาสำนวนและคู่ความไปพิจารณาไถ่ถามตามสัจตามจริง เอาพินัยจ่ายราชการ และซึ่งตุลาการใหม่เอาตุลาการเก่ามาพิจารณาไถ่ถามตามข้อเนื้อความซึ่งโจทก์หาอุทธรณ์นั้น ถ้าและโจทก์หาตุลาการเก่า แพ้ตุลาการเก่าไซร้ ให้ตุลาการใหม่ซักไซ้ไต่ถามคู่ความผู้เปนโจทก์นั้นให้แจ้งเนื้อความออกว่า ​ผู้นั้นเอาเท็จสับปลับมาหาตุลาการเก่ามั่นคงจริง ๆ ไซร้ ให้คู่ความซึ่งตุลาการใหม่ยังมิได้เบิกมานั้น คงอยู่แก่ตุลาการเก่าณศาลกรมนั้น จึงให้ตุลาการเก่าเอาเนื้อความซึ่งหาแก่กันมิได้เปนข้อพระราชทรัพย์ของหลวง ช้าง ม้า โค กระบือ ของหลวงนั้นเปนแพ้ด้วยให้สิ้น แล้วให้ใช้ทุนโจทก์ผู้ชนะ แล้วให้ปรับไหมเอาผู้แพ้ตามรูปความซึ่งหาแก่กันณตุลาการเก่าตามอัยการ ถ้าเนื้อความผู้หาผู้แพ้ติดพันธ์พระราชทรัพย์ ช้าง ม้า โค กระบือ ของหลวงให้ตุลาการผู้ได้พิจารณาเนื้อความนั้น คัดเอาเนื้อความจำเภาะข้อพระราชทรัพย์ ช้าง ม้า โค กระบือ ของหลวงนั้น ว่าแก่ลูกขุนณศาลหลวง ลูกขุนณศาลหลวงพิพากษาประการใดจึ่งให้กระทำตาม ถ้าและลูกความติดใจตุลาการณโรงศาล สมภักนักการมิร้องฟ้องตามกระทรวง ตามพระธรรมนูญ และไปทำฎีกาทูลเกล้า ฯ ถวายกล่าวโทษตุลาการ ​ณ โรงศาล สมภักนักการซึ่งได้พิจารณาเนื้อความข้อหนึ่งสองข้อสามข้อจนถึงเก้าข้อสิบข้อ ดุจหนึ่งกล่าวโทษตุลาการเก่าว่ามาแต่ภายหลังนั้น ครั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เอาตุลาการเก่ามาพิจารณาไถ่ถามไซร้ ถ้าตุลาการเปนขุนโรงขุนศาล หรือเจ้าพระยา พระ หลวง ขุน หมื่นผู้บรรดาขอเฝ้าฝ่าลออง ฯ ก็ให้คัดเอาข้อสำนวนเก่านั้นออกให้แจ้งแล้วให้กราบทูลพระกรุณา ฯ ให้แจ้งฝ่าลออง ฯ ถ้าและทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ประการใด จึงให้กระทำตาม ถ้าทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตุลาการใหม่เอาตุลาการเก่าไปพิจารณาไถ่ถามตามข้อเนื้อความ ซึ่งคู่ความทำฎีกาทูลเกล้าฯ ถวายไซร้ จึ่งให้ตุลาการใหม่ทำตาม ถ้าและตุลาการใหม่ผู้ถามนั้น พิจารณาไถ่ถามเปนสัจว่าตุลาการเก่าพิจารณาไถ่ถามมิเปนสัจ มิเปนยศเปนธรรม และเข้าด้วยฝ่ายโจทก์ จำเลย จริงแท้ไซร้ ก็ให้​ตุลาการใหม่เอาสำนวนกราบทูลพระกรุณา ฯ ถ้าทรงโปรดเกล้าประการใดไซร้ จึ่งให้ตุลาการใหม่ทำตาม ถ้าเนื้อความเปนแพ่ง อาชญา อุทธรณ์ นครบาล จะได้ว่าณโรงศาล สมภักนักการตามพระธรรมนูญ แต่ความหากล่าวโทษตุลาการเอาเนื้อความไปทำฎีกาทดเกล้า ฯ ถวาย และตุลาการไถ่ถามเปนสัจว่าตุลาการเก่าแพ้ไซร้ ให้เอาบรรดาศักดิผู้สูงนา ทั้งปรับไหมเอาตุลาการตามอัยการ และให้ใช้ทุนค่าฤชาผู้ชนะให้สิ้น และความนั้นให้ส่งไปศาลอื่นตามกระทรวงพระธรรมนูญได้พิจารณาให้แล้วจงฉับพลัน ตามพระราชกำหนดกฎหมาย ถ้าและตุลาการใหม่ถามตุลาการเก่าตามเรื่องราวเนื้อความอุทธรณ์อาชญาและโจทก์ทำฎีกาทูลเกล้า ฯ ถวายแพ้แก่ตุลาการไซร้ ให้ลงพระราชอาชญาโจทก์ผู้แพ้ตามโทษานุโทษ ให้เอาเนื้อความเดิมหาที่ตุลาการเก่า และมิได้มีเนื้อความติดพันธ์พระราชทรัพย์ ​ช้าง ม้า โค กระบือ ของหลวงเปนแพ้ด้วยให้สิ้นจงทุกข้อ ถ้าและเนื้อความในฟ้องซึ่งตุลาการเก่าพิจารณานั้นติดพันธ์พระราชทรัพย์ ช้าง ม้า โค กระบือ ของหลวงไซร้ ให้ตุลาการใหม่คัดข้อเนื้อความกราบทูลพระกรุณาแล้วแต่จะโปรด ถ้าและตุลาการใหม่พิจารณาเห็นแก่สินจ้างสินบลพิจารณามิเปนยศเปนธรรม เข้าด้วยฝ่ายโจทก์ฝ่ายจำเลย มีผู้ร้องฟ้องว่ากล่าวเปนประการใด จะเอาตุลาการใหม่เปนโทษโดยโทษานุโทษ และตุลาการณโรงศาล และสมภักนักการกรมใด ๆ พิจารณาสืบไปก็ให้เอากฎอ่านประกาศให้ผู้บรรดาพิจารณาความฟังจงทั่ว และเรียกเอาทัณฑ์บลไว้ทั้งฝ่ายโจทก์ฝ่ายจำเลยไว้จงมั่นคงจึ่งพิจารณาไต่ถามสืบไปตามเรื่องราวโจทก์หาแก่กัน และให้พระสุรัศวดีซ้าย ขวา ใน นอก ให้กฎหมายบอกแก่ตุลาการผู้ได้พิจารณาเนื้อความทุกกรมจงทั่วพระราชวังหลวง พระราชวังหน้า และหมาย​บอกแก่พระ หลวง เจ้าราชนิกูล ขุนหมื่น พัน ทนาย ให้บอกแก่บ่าวไพร่สมัครพรรคพวก สมกำลังให้ลอกเอากฎนี้ไว้จงทุกหมู่ ทุกกรม อย่าให้ลงลออยู่ได้ ถ้าและบอกมิทั่วจะเอาตัวผู้บอกนั้นเปนโทษจงหนัก ถ้าบอกทั่วแล้วและผู้ใดมิได้กระทำตามกฎ จะเอาผู้นั้นเปนโทษจงหนัก

กฏให้ไว้ณะวันอังคาร เดือน ๘ ทุติยาสาฒแรม ๘ ค่ำ จุลศักราช ๑๐๘๒ ปีชวดโทศก. (พ.ศ.๒๒๖๓ รัชกาลสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ)


----------------------------

หน้า:  [1] 2 3 ... 10
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.116 วินาที กับ 24 คำสั่ง

Google visited last this page 04 เมษายน 2567 20:52:25