[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 15 เมษายน 2564 13:21:00



หัวข้อ: หลวงพ่อเที่ยง ปัณฑิโต วัดธรรมนิมิต ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 15 เมษายน 2564 13:21:00

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/98614918523364_6_Copy_.jpg)

พระพรหมวชิรโสภณ (ศรีจันทร์ ปุญญรโต)
วัดบึงพระลานชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด

“พระพรหมวชิรโสภณ (ศรีจันทร์ ปุญญรโต)” ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 (ธ) และเจ้าอาวาสวัดบึงพระลานชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด

 สิริอายุ 84 ปี พรรษา 64

มีนามเดิมว่า ศรีจันทร์ ลาวะลี เกิดเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2480 ที่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 5 บ้านหนองหน่อง ต.อีง่อง อ.จตุรพักตร์พิมาน จ.ร้อยเอ็ด บิดา-มารดาชื่อ นายสุวรรณและนางไกร ลาวะลี

เป็นผู้ที่มีจิตใจอ่อนโยนและฝักใฝ่ในหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาตั้งแต่วัยเยาว์ ด้วยมักจะติดตามโยมมารดาไปทำบุญที่วัดเป็นประจำ

อายุครบ 15 ปี เข้าพิธีบรรพชา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มี.ค.2495 ที่วัดสว่างอารมณ์ ต.อีง่อง

มุ่งศึกษาหาความรู้ในพระปริยัติธรรมอย่างจริงจัง สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ

 อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2500 ที่วัดบึงพระลานชัย จ.ร้อยเอ็ด มี พระครูคุณสารพินิจ (แก้ว อุปติสโส) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดผาด อุตตโม (พระครูวิจิตรคุณาธาร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาชารี อาภรโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เมื่อครองผ้ากาสาวพัสตร์ สำเร็จการศึกษาในด้านต่างๆ อาทิ พ.ศ.2505 สำเร็จวุฒิบัตร โรงเรียนพระสังฆาธิการ คณะธรรมยุตชั้นเจ้าคณะอำเภอ พ.ศ.2509 สำเร็จครูพิเศษ สภาการศึกษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

นอกจากนี้ ยังสำเร็จการศึกษาพิเศษหลากหลายด้าน เช่น ภาษาต่างประเทศ หลักการบริหาร วาทศิลป์ และมนุษยสัมพันธ์ เป็นต้น

มีความชำนาญการพิเศษมากมาย ทั้งในด้านปกครอง การศึกษา การเผยแผ่พระพุทธศาสนา, สาธารณูปการ, ธรรมกถึก, การก่อสร้าง ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ให้ดำรงตำแหน่งทางปกครอง

อีกทั้งเป็นนักเทศน์ที่มีความสามารถ เป็นพระธรรม กถึกที่ได้รับการยอมรับ

พ.ศ.2513 เป็นเจ้าอาวาสวัดเหนือ พ.ศ.2545 เป็นเจ้าคณะภาค 10 (ธ) พ.ศ.2561 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 (ธ) และเจ้าอาวาสวัดบึงพระลานชัย

ด้านการส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศ พ.ศ.2534 ได้รับเกียรติบัตรจากสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ในด้านการเผยแผ่ธรรมดีมาก

ได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด ในด้านช่วยเหลือการศึกษา ได้รับคัดเลือกประกาศเกียรติคุณบัตร เป็นผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือการศึกษาดีเด่นจังหวัดร้อยเอ็ด จากสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด จัดการศึกษาแผนกบาลี ผลการสอบ ได้อันดับที่ 1 ของ จ.ร้อยเอ็ด (ธรรมยุต-มหานิกาย) จัดการศึกษาแผนกบาลี ผลการสอบ ได้อันดับที่ 1 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธรรมยุต) และอันดับที่ 3 ของประเทศ

ระหว่างปี พ.ศ.2545 ได้รับเกียรติบัตร สนับสนุนส่งเสริมวัฒนธรรมวันอนุรักษ์มรดกไทย จากจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ.2545 ได้รับปริญญาศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพุทธศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

 ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2511 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่พระครูสิริธรรมโสภิต

พ.ศ.2526 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศีลวิสุทธาจารย์

พ.ศ.2533 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสารสุธี

พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพบัณฑิต

พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม ในราชทินนามที่ พระธรรมฐิติญาณ

ล่าสุด พ.ศ.2564 ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ที่พระพรหมวชิรโสภณ

 คติธรรมที่ใช้สอนญาติโยมเป็นประจำคือ “อยู่อย่างมีปัญญา ยอมอย่างมีเหตุผล อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ใหญ่อย่างมีประโยชน์อย่าหยิ่ง ยิ้มแย้ม เยือกเย็น ยืดหยุ่น เยี่ยมเยียน หยิบยื่น ยกย่อง ใครทำได้ย่อมยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่”
  ข่าวสดออนไลน์        

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/81838982510897_p16110464p1_1_Copy_.jpg)

หลวงพ่อเที่ยง ปัณฑิโต
วัดธรรมนิมิต ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม

“หลวงพ่อเที่ยง ปัณฑิโต” อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 2 ของวัดธรรมนิมิต ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังลุ่มน้ำแม่กลอง วิทยาคมเข้มขลัง แต่ไม่มีประวัติที่ชัดเจนว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เกิดที่ไหน

 
กล่าวสำหรับประวัติ ทราบแค่เพียงว่า เกิดในปี พ.ศ.2370

เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2392 ขณะที่มีอายุได้ 22 ปี ที่วัดธรรมนิมิต โดยมีพระอุปัชฌาย์บุญ เจ้าอาวาสวัดธรรมนิมิต เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์มา วัดธรรมนิมิต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ แต่ไม่ปรากฏนามพระอนุสาวนาจารย์ว่าเป็นท่านใด ได้รับฉายาว่า ปัณฑิโต

จากนั้น กราบลาพระอุปัชฌาย์บุญไปจำพรรษาอยู่ที่วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมเป็นเวลาถึง 4 พรรษา และในพรรรษาที่ 4 นั้นเอง ท่านอาจารย์มา วัดธรรมนิมิต มรณภาพ ซึ่งตรงกับปี พ.ศ.2396 จึงได้ลาเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กลับมาอยู่กับพระอุปัชฌาย์บุญที่วัดธรรมนิมิตตามเดิม

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2402 พระอุปัชฌาย์บุญมรณภาพ หลวงพ่อเที่ยงช่วยรักษาการเจ้าอาวาสวัดธรรมนิมิต จนเมื่อท่านและศิษยานุศิษย์จัดการฌาปนกิจพระอุปัชฌาย์บุญและพระอาจารย์มาพร้อมกัน เมื่อปี พ.ศ.2403 เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้รับนิมนต์ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมนิมิต โดยมีพระอาจารย์สร้าง เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส เมื่อปี พ.ศ.2403

หลังจากเป็นเจ้าอาวาส ยึดถือปฏิปทาดำเนินตามพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด มีคุณธรรม คือ หิริและโอตตัปปะ ช่วยแนะนำพร่ำสอนให้พระภิกษุ-สามเณร ศึกษาพระธรรมวินัยและให้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด และหมั่นแนะนำพร่ำสอนชาวบ้านให้ตั้งอยู่ในศีลธรรม

ด้วยความที่ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดและมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทำให้ชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนเลื่อมใส จึงได้พากันไปมาหาสู่และมีใจศรัทธาเสียสละทรัพย์ส่วนตัวบ้าง รวมกันบ้าง เพื่อก่อสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ ไว้ในวัดธรรมนิมิต

มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ก.พ.2458 สิริอายุ 83 ปี พรรษา 61

ในการนี้ พระเขมาภิมุขธรรม วัดพิชัยญาติการาม กรุงเทพฯ นำข่าวมรณภาพไปทูลสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงทราบ

แต่ด้วยเหตุที่สมเด็จฯ ทรงมีงานที่ต้องตรวจสังฆมณฑลให้เสร็จสิ้นเสียก่อน งานจึงล่าช้าออกไป และงานฌาปนกิจของหลวงพ่อเที่ยงมาสำเร็จไปได้ด้วยความเรียบร้อยหลังจากนั้น ซึ่งงานมาแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2461
  ข่าวสดออนไลน์    

11/4/64