หัวข้อ: พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๑๒๑ สัมพพทาฐิชาดก : สุนัขจิ้งจอกเจ้าป่า เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 สิงหาคม 2566 16:15:31 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/13576513404647__500_320x200_.jpg) พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๑๒๑ สัมพพทาฐิชาดก สุนัขจิ้งจอกเจ้าป่า ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เกิดเป็นปุโรหิตผู้ปราดเปรื่องเชี่ยวชาญวิชาการต่างๆ เป็นที่ปรึกษาของพระเจ้าพรหมทัตแห่งกรุงพาราณสี ความสามารถพิเศษของปุโรหิตไม่ได้มีเพียงเท่านั้น ยังเป็นผู้รอบรู้เชี่ยวชาญในวิชาปฐวีวิชัยมนต์ แปลว่า คาถาศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเสกให้มีชัยชนะได้ทั่วทั้งเมือง ซึ่งเป็นมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นชื่อลือชาในสมัยนั้น จากการที่ไม่ค่อยได้ใช้บ่อยนัก พระโพธิสัตว์จึงเดินเข้าป่าไปเพื่อเลือกสถานที่ท่องทบทวน เพราะถ้าท่องในที่ที่มีผู้คน ใครได้ยินคาถานี้เข้า แล้วเอาไปเสกตีเมืองก็จะยุ่งกันใหญ่ เดินไปได้สักพักหนึ่งก็ไปพบโขดหินใหญ่กลางป่าเป็นที่เงียบสงัดยิ่งนัก ปุโรหิตจึงเลือกสถานที่ตรงนั้นเพื่อท่องคาถา ปุโรหิตท่องคาถาทวนไปทวนมา เมื่อมองไปรอบๆ แล้วก็มั่นใจว่าคงไม่มีใครได้ยิน แต่ทันใดนั้นสุนัขจิ้งจอกโผล่พรวดขึ้นมา พร้อมกับกล่าวว่า “ท่านพราหมณ์ ท่านอย่าคิดนะว่าท่านจะจำได้คนเดียว มนต์คาถาที่ท่านท่องนั้นข้าก็จำได้เหมือนกัน” ชาติก่อนสุนัขจิ้งจอกเป็นคนเคยท่องบทปฐวีวิชัยมนต์ได้ พอมาได้ยินปุโรหิตท่อง จึงทำให้จำอดีตชาติได้ เมื่อกล่าววาจาโอ้อวดเสร็จแล้วก็วิ่งหนีเข้าไปในป่า ปุโรหิตได้ยินสุนัขจิ้งจอกโอ้อวดเช่นนั้นก็รู้ว่าต่อไปนี้จะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายแน่ สุนัขจิ้งจอกรีบวิ่งเข้าไปในป่าแล้วก็ร่ายมนต์ให้สัตว์น้อยใหญ่เป็นพรรคพวกมันจนหมดป่า แม้กระทั่งเจ้าป่าอย่างราชสีห์ก็ตกเป็นพวกของมัน แล้วก็ตั้งชื่อใหม่ให้มันว่า สัมพทาฐิ แปลว่าผู้มีเขี้ยวงา แล้วมันก็คิดกำเริบเสิบสานหวังจะยึดครองเมืองมนุษย์ มันสั่งเหล่าบริวารสัตว์เตรียมพร้อม แล้วก็มุ่งหน้าไปยังเมืองพาราณสี ชาวเมืองพาราณสีเห็นฝูงสัตว์มุ่งหน้ามาทางประตู ชาวเมืองต่างก็วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง บางคนมีสติก็ปิดประตูเมืองไว้ แล้วให้ทหารไปกราบทูลพระราชาให้ทรงทราบ ซึ่งในขณะนั้นท่านปุโรหิตกำลังเข้าเฝ้าอยู่ “ขอเดชะ ตอนนี้มีฝูงสุนัขจิ้งจอกนำขบวนมุ่งหน้ามาทางประตูเมืองของเรา เวลานี้คงจะถึงแล้ว พระเจ้าข้า” ปุโรหิตได้ฟังเช่นนั้นก็กราบทูลว่า “เหตุร้ายที่เกิดเช่นนั้นเกิดจากที่สุนัขจิ้งจอกท่องจำคาถาข้าพระองค์ได้ในขณะที่ข้าพระองค์ท่องอยู่ในป่านอกเมือง แต่พระองค์ไม่ต้องทรงกังวลพระทัย เพราะข้าพระองค์เตรียมรับมือกับมันไว้แล้ว” ปุโรหิตกราบทูลก็เดินขึ้นไปที่สูงเพื่อจะมองดูฝูงสัตว์ ทันใดที่เห็นสัพพทาฐิ จึงร้องถามว่า “สัพพทาฐิ! เจ้าได้คาถาข้าไป คิดกำเริบเสิบสานหวังจะยึดครองเมืองมนุษย์ ไหนเจ้าลองบอกมาซิว่า เจ้าจะเอาชนะพวกข้าได้ด้วยวิธีใด” ด้วยความที่มีนิสัยโอ้อวด สุนัขจิ้งจอกจึงตอบว่า “ถ้าข้าจะเอาชนะพวกท่านไม่เห็นจะยากอะไรเลย เพียงแค่ข้าสั่งให้ราชสีห์ทุกตัวส่งเสียงคำรามพร้อมกัน ถ้าท่านไม่อยากให้ชาวเมืองของท่านแก้วหูแตกตาย จงยกสมบัติทั้งหมดมาให้ข้า” ปุโรหิตรู้แผนการของสุนัขจิ้งจอก แล้วสั่งให้ทุกคนหาสำลีอุดหูไว้แล้วก็เตรียมอุปกรณ์ จากนั้นก็ท้าสุนัขจิ้งจอกให้สั่งราชสีห์ทำตามแผนของมันด้วยคำเย้ยหยันว่า “สุนัขจิ้งจอกที่โง่เง่าอย่างเจ้านะหรือ ที่จะคู่ควรกับทรัพย์สมบัติของเมืองพาราณสี” สุนัขจิ้งจอกได้ยินปุโรหิตพูดดูถูกเหยียดหยามแล้วก็ใช้เท้ากระทืบลงไปบนหลังราชสีห์ เป็นการสั่งให้ราชสีห์ทำตามแผน ราชสีห์รับคำสั่งแล้วก็ส่งเสียงคำรามดังลั่นไปทั่วเมือง ฝูงสัตว์ที่มาด้วยกันต่างก็ตกใจวิ่งหนีอลหม่านจนเหยียบกันและกัน ส่วนสุนัขจิ้งจอกไม่ได้ระวังตัวจึงแก้วหูแตก แล้วราชสีห์ก็สลัดสุนัขจิ้งจอกตกจากหลังไป ถูกสัตว์ตัวอื่นเหยียบตายจนบี้แบน เมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้วปุโรหิตก็บอกให้ชาวบ้านไปเก็บเนื้อสัตว์ที่ตายมาทำอาหารกินกัน เนื่องจากเนื้อสัตว์มีมากมายนัก พวกชาวบ้านจึงทำเป็นเนื้อตากแห้ง เนื้อตากแห้งจึงมีมาทุกวันนี้ นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “การมัวเมาในอำนาจ พาไปสู่หายนะ” “คนโง่ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำ” พุทธศาสนสุภาษิตประจำเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อธุรายํ นิยุญฺชติ คนโง่ย่อมประกอบในทางไม่ใช่ธุระ (๒๗/๓๕๕) พาโล อปริณายโก คนพาลเป็นผู้นำไม่ได้ (๒๗/๓๑๓)[/size] ที่มา : นิทานชาดกจากพระไตรปิฎก : พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ ฉบับสมบูรณ์ จัดพิมพ์เผยแพร่ธรรมโดย ธรรมสภา สถาบันบันลือธรรม |