หัวข้อ: ว่าด้วยการทำที่เหลือวิสัย เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 มิถุนายน 2553 11:30:49 (http://lh3.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TAot-BLUbdI/AAAAAAAABBQ/1fUG9nAOYqo/PF1200111.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma (:LOVE:)๖.การันทิยชาดก (:LOVE:) [๗๒๗]ท่านผู้เดียวรีบร้อน ยกเอาก้อนหินใหญ่ กลิ้งลงไปในซอกเขาในป่า ดูก่อนการันทิยะ จะเป็นประโยชน์อะไรแก่ท่านด้วยการทิ้ง ก้อนหินลงในซอกเขานี้เล่าหนอ. [๗๒๘]ข้าพเจ้าเกลี่ยหินก้อนเล็ก ก้อนใหญ่ลง จักกระทำแผ่นดินใหญ่นี้ซึ่งมีมหาสมุทรสี่เป็น ขอบเขตให้ราบเรียบเพียงดังฝ่ามือเพราะ ฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงได้ทิ้งหินลงในซอกเขา. [๗๒๙]ดูก่อนการันทิยะ เราสำคัญว่า มนุษย์ คนเดียวย่อมไม่สามารถจะทำแผ่นดินให้ราบ เรียบดังฝ่ามือได้ ท่านพยายามจะทำซอกเขา นี้ให้เต็มขึ้นท่านก็จักละชีวโลกนี้ไปเสีย เปล่าเป็นแน่ [๗๓๐]ข้าแต่ท่านพราหมณ์ หากว่ามนุษย์คนเดียวไม่สามารถจะทำแผ่นดินใหญ่นี้ให้ ราบเรียบได้ฉันใด ท่านก็จักนำมนุษย์เหล่านี้ ผู้มีทิฏฐิต่าง ๆ กันมาไม่ได้ ฉันนั้นเหมือนกัน. [๗๓๑]ดูก่อนการันทิยะ ท่านได้บอกความจริง โดยย่อแก่เรา ข้อนี้เป็นอย่างนั้นแผ่นดินนี้ มนุษย์ไม่สามารถจะทำให้ราบเรียบได้ฉันใด เราก็ไม่อาจจะทำให้มนุษย์ทั้งหลาย มาอยู่ใน อำนาจของเราได้ฉันนั้น............................................................. ............................จบการันทิยชาดกที่ ๖......................... หัวข้อ: Re: ว่าด้วยการทำที่เหลือวิสัย เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 มิถุนายน 2553 11:43:18 (http://lh3.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TAot-BLUbdI/AAAAAAAABBQ/1fUG9nAOYqo/PF1200111.jpg) ......................อรรถกถาการันทิยชาดกที่ ๖............................. พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ. พระวิหารเชตวันทรงปรารภ พระธรรมเสนาบดีจึงตรัสพระธรรมเทศนานี้มีคำเริ่มต้นว่า เอโก อรญฺเ ดังนี้............................... ได้ยินว่าพระเถระให้ศีลแก่คนทุศีลทั้งหลายมีพรานเนื้อและ คนจับปลาเป็นต้นที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งท่านได้พบได้เห็นเท่านั้นว่าท่าน ทั้งหลายจงถือศีลท่านทั้งหลายจงถือศีลชนเหล่านั้นมีความเคารพ ในพระเถระไม่อาจขัดขืนถ้อยคำของพระเถระนั้นจึงพากันรับศีล ก็แหละครั้นรับแล้วก็ไม่รักษาคงกระทำการงานของตน ๆ อยู่อย่างเดิม พระเถระเรียกสัทธิวิหาริกทั้งหลายของตนมาแล้วกล่าวว่าอาวุโสทั้ง หลายคนเหล่านี้รับศีลในสำนักของเราก็แหละครั้นรับแล้วก็ไม่รักษา สัทธิวิหาริกทั้งหลายกล่าวว่าท่านขอรับ ท่านให้ศีลโดยความไม่พอใจ หัวข้อ: Re: ว่าด้วยการทำที่เหลือวิสัย เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 มิถุนายน 2553 11:50:46 (http://lh3.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TAot-BLUbdI/AAAAAAAABBQ/1fUG9nAOYqo/PF1200111.jpg) พระสุตตันตปิฎกขุททกนิกายชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้าที่ 752 ของชนเหล่านั้นพวกเขาไม่อาจขัดขืนถ้อยคำของท่านจึงรับเอาตั้งแต่ นี้ไปขอท่านอย่าได้ให้ศีลแก่ชนทั้งหลายเห็นปานนี้พระเถระไม่ พอใจต่อถ้อยคำของสัทธิวิหาริกภิกษุทั้งหลายได้สดับเรื่องราว นั้นแล้วก็สนทนากันขึ้นในโรงธรรมสภาว่าอาวุโสทั้งหลายได้ยินว่า พระสารีบุตรให้ศีลแก่คนที่ท่านได้ประสบพบเห็นเท่านั้นพระศาสดา เสด็จมาแล้วตรัสถามว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลายบัดนี้พวกเธอนั่งสนทนา กันเรื่องอะไรหนอเมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบว่าเรื่อง ชื่อนี้พระเจ้าข้าจึงตรัสว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลายมิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อนพระสารีบุตรนี้ก็ให้ศีลแก่คนที่ตนได้ประสบพบเห็น ซึ่งไม่ขอศีลเลยแล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธกดังต่อไปนี้. ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนคร พาราณสีพระโพธิสัตว์บังเกิดในสกุลพราหมณ์เจริญวัยแล้วได้เป็น อันเตวาสิกผู้ใหญ่ของอาจารย์ทิศาปาโมกข์ในเมืองตักกศิลาชื่อว่า การันทิยะครั้งนั้นอาจารย์นั้นให้ศีลแก่คนที่ได้ประสบพบเห็นมีชาว ประมงเป็นต้นผู้ไม่ขอศีลเลยว่า ท่านทั้งหลายจงรับศีลท่านทั้งหลาย จงรับศีลดังนี้ชนเหล่านั้นแม้รับเอาแล้วก็ไม่รักษาอาจารย์จึงบอก ความนั้นแก่อันเตวาสิกทั้งหลายอันเตวาสิกทั้งหลายจึงพากันกล่าวว่า ท่านผู้เจริญท่านให้ศีลโดยความไม่ชอบใจของชนเหล่านั้นเพราะ ฉะนั้นพวกเขาจึงพากันทำลายเสียจำเดิมแต่บัดนี้ไปท่านพึงให้ เฉพาะแก่คนที่ขอเท่านั้นอย่าให้แก่คนที่ไม่ขออาจารย์นั้นได้เป็น ผู้วิปฏิสารเดือดร้อนใจแม้เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ยังคงให้ศีลแก่พวกคน ที่ตนได้ประสบพบเห็นอยู่นั่นแหละอยู่มาวันหนึ่งมนุษย์ทั้งหลาย มาจากบ้านแห่งหนึ่งเชิญอาจารย์ไปเพื่อการสวดของพราหมณ์. อาจารย์ นั้นเรียกการันทิยมาณพมาแล้วกล่าวว่าดูก่อนพ่อฉันจะไม่ ไปเธอจงพามาณพ ๕๐๐ นี้ไปในที่สวดนั้นรับการสวดแล้วจง นำเอาส่วนที่เขาให้เรามาดังนี้แล้วจึงส่งไปการันทิยมาณพนั้นไป หัวข้อ: Re: ว่าด้วยการทำที่เหลือวิสัย เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 มิถุนายน 2553 11:55:57 (http://lh3.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TAot-BLUbdI/AAAAAAAABBQ/1fUG9nAOYqo/PF1200111.jpg) แล้วกลับมาในระหว่างทางเห็นซอกเขาแห่งหนึ่งจึงคิดว่าอาจารย์ ของพวกเราให้ศีลแก่คนที่ได้ประสบพบเห็นซึ่งไม่ขอศีลเลยจำเดิม แต่บัดนี้ไปเราจะทำอาจารย์นั้นได้ให้ศีลเฉพาะแก่พวกคนที่ขอเท่านั้น เมื่อพวกมาณพนั้นกำลังนั่งสบายอยู่เขาจึงลุกขึ้นไปยกศิลาก้อนใหญ่ โยนลงไปในซอกเขาโยนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่นั่นแหละลำดับนั้น มาณพเหล่านั้นจึงลุกขึ้นพูดกะการันทิยมาณพนั้นว่าอาจารย์ท่านทำ อะไรการันทิยมาณพนั้นไม่กล่าวคำอะไร ๆ มาณพเหล่านั้นจึงรีบไป บอกอาจารย์ อาจารย์มาแล้วเมื่อจะเจรจากับการันทิยมาณพนั้น จึงกล่าวคาถาที่ ๑ ว่า....................................................... ท่านผู้เดียวรีบร้อนยกก้อนหินใหญ่ กลิ้งลงไปในซอกเขาในป่าดูก่อนการันทิยะ จะประโยชน์อะไรแก่ท่านด้วยการทิ้งก้อน หินลงในซอกเขาเล่านี้หนอ. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โกนุ ตวยิธตฺโถ ความว่า ประโยชน์อะไรหนอด้วยการที่ท่านทิ้งศิลาลงในซอกเขานี้. การันทิยมาณพนั้นได้ฟังคำของอาจารย์นั้นแล้วประสงค์จะ ท้วงอาจารย์จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า ข้าพเจ้าเกลี่ยหินก้อนเล็กก้อนใหญ่ลง จักกระทำแผ่นดินใหญ่นี้ซึ่งมีมหาสมุทรสี่ เป็นขอบเขตให้ราบเรียบเพียงดังฝ่ามือ เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงได้ทิ้งหินลงในซอกเขา หัวข้อ: Re: ว่าด้วยการทำที่เหลือวิสัย เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 มิถุนายน 2553 12:05:43 (http://lh3.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TAot-BLUbdI/AAAAAAAABBQ/1fUG9nAOYqo/PF1200111.jpg) บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อห หิมํ ความว่า ก็ข้าพเจ้า เกลี่ยหินก้อนเล็กก้อนใหญ่ลงจักกระทำแผ่นดินใหญ่นี้ให้ราบ เรียบบทว่าสาครเสวิตนฺตได้แก่ อันสาครทะเลใหญ่บรรจบแล้ว มีมหาสมุทรทั้งสี่เป็นที่สุดบทว่ายถาปิ ปาณิ ความว่า เราจัก กระทำให้ราบเสมอดังฝ่ามือบทว่า วิกีริย แปลว่า เกลี่ยแล้ว บทว่า สานู นิ จ ปพฺพตานิ ได้แก่ ภูเขาดินและภูเขาหิน. พราหมณ์ได้ฟังดังนั้นจึงกล่าวคาถาที่ ๓ ว่า...................................................... ดูก่อนการันทิยะเราสำคัญว่า มนุษย์ คนเดียวย่อมไม่สามารถจะทำแผ่นดินให้ราบ เรียบดังฝ่ามือได้ท่านพยายามจะทำซอกเขา นี้ให้เต็มขึ้นท่านก็จักละชีวโลกนี้ไปเสียเปล่าเป็นแน่ บรรดาบทเหล่านั้นด้วยบทว่า(กรณายเมยเมโก)นี้ท่านแสดง ว่าคนผู้เดียวไม่อาจกระทำได้ คือไม่สามารถจะกระทำได้บทว่า มญฺามิมญฺเว ทรึ ชิคึส ความว่าเราย่อมสำคัญว่าแผ่นดิน จงยกไว้ก่อนเถิดซอกเขานี้เท่านั้น ท่านพยายามเพื่อต้องการจะทำให้ เต็มขึ้นเที่ยวแสวงหาหินทั้งหลายมาคิดค้นหาอุบายอยู่นั่นแลจะ ละคือจักละชีวโลกนี้ไปอธิบายว่าจักตายเสียเปล่า. มาณพได้ฟังดังนั้นจึงกล่าวคาถาที่ ๔ ว่า............................................ ข้าแต่ท่านพราหมณ์หากว่ามนุษย์คน เดียวไม่สามารถจะทำแผ่นดินใหญ่นี้ให้ราบ เรียบได้ ฉันใดท่านก็จักนำมนุษย์เหล่านี้ผู้มี ทิฏฐิต่าง ๆ กันมาไม่ได้ฉันนั้นเหมือนกัน. คำที่เป็นคาถานั้นมีความว่าถ้ามนุษย์คนเดียวนี้ไม่อาจ คือ....................................... ไม่สามารถทำแผ่นดิน คือ ปฐพีใหญ่นี้ให้ราบเรียบ ฉันใดท่านก็จัก นำมนุษย์ทุศีลผู้มีทิฏฐิต่างกันมาไม่ได้ฉันนั้นเหมือนกัน คือท่านกล่าว กะมนุษย์เหล่านั้นว่าพวกท่านจงรับศีลจักนำมาสู่อำนาจของตนไม่ได้ ฉันนั้นด้วยว่าคนที่เป็นบัณฑิตเท่านั้นย่อมติเตียนปาณาติบาตว่า เป็นอกุศลส่วนคนพาลไม่เชื่อสังสาระเป็นผู้มีความสำคัญในข้อ นั้นว่าเป็นกุศลท่านจักนำคนเหล่านั้นมาได้อย่างไรเพราะฉะนั้น ท่านอย่าให้ศีลแก่คนที่ได้ประสบพบเห็นจงให้แก่คนที่ขอเท่านั้น หัวข้อ: Re: ว่าด้วยการทำที่เหลือวิสัย เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 มิถุนายน 2553 12:12:54 (http://lh3.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TAot-BLUbdI/AAAAAAAABBQ/1fUG9nAOYqo/PF1200111.jpg) อาจารย์ได้ฟังดังนั้นคิดว่าการันทิยะพูดถูกต้องบัดนี้เรา จักไม่กระทำอย่างนั้นครั้นรู้ว่าตนผิดแล้วจึงกล่าวคาถาที่ ๕ ว่า.................................................. ดูก่อนการันทิยะท่านได้บอกความ จริงโดยย่อแก่เราข้อนี้เป็นอย่างนั้นจริง แผ่นดินนั้นมนุษย์ไม่สามารถจะทำให้ราบ เรียบได้ฉันใดเราก็ไม่อาจทำมนุษย์ทั้งหลาย ให้มาอยู่ในอำนาจของเราได้ฉันนั้น บรรดาบทเหล่านั้นบทว่า สมาย ตัดเป็น สม อย อาจารย์ได้ทำความชมเชยมาณพอย่างนี้ฝ่ายมาณพนั้นท้วง อาจารย์นั้นแล้วตนเองก็นำท่านไปยังเรือน พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้วจึงทรง ประชุมชาดกว่าพราหมณ์ในครั้งนั้นได้เป็น พระสารีบุตร ส่วน การันทิยบัณฑิตในครั้งนั้นได้เป็นเราตถาคตฉะนี้แล ...............................จบอรรถกถาการันทิยชาดกที่ ๖............................ http://forums.212cafe.com/boxser/ (http://forums.212cafe.com/boxser/) |